ทิศทางทอง--ตอน thaigold2

[ohani 139]

http://www.ylgbullion.com/imgUpload/articleThumbnail2055_18-4-11.pdf

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

[ohani 139]

[ginger 11,058]

[นัย 232]

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะคุณ ohani และเพื่อนๆทุกคน และขอขอบคุณ ที่นำเสนอข่าวสารดีๆค่ะ :wub:

[ohani 139]

http://www.gtwm.co.th/images/stories/download/analysis/Daily%20Traders%2018%20Apr%2011.pdf

 

 

 

 

[gold8 37]

ทิศทางตามเทคนิค: ทิศทางในระยะสั้นคาดว่าเป็นการแกว่งตัวพักฐานในกรอบ 775-747 จุด

พักฐานหลังจากที่ขึ้นมาแรง โดยการพักฐานเป็นลักษณะของการแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ

จนกว่าจะเกิดสัญญาณการเบรคขึ้นหรือลงพ้นกรอบข้างต้น ในเบื้องต้นทิศทางระยะกลางยังคงดี

หากยังไม่อ่อนตัวลงต่ำกว่าแนวรับที่ 747 และ 730 จุด ทิศทางระยะกลางยังเป็นบวกและเป็นการ

แกว่งตัวขึ้น ทำให้แนวต้านที่บริเวณ 775 จุดยังมีโอกาสทดสอบอีกครั้งหากไม่หลุดแนวรับ ผ่านได้

จะมีแนวต้านถัดไปที่รอทดสอบบริเวณ 785 จุด ส่วนการซื้อขายตามระบบ TTS (มาจากการ

คำนวณเชิงปริมาณและอาจจะแตกต่างจากกลยุทธ์การลงทุนได้เนื่องจากจะซื้อขายตาม

สัญญาณที่ได้จำลองมา) ระบบไม่มีสัญญาณใดๆ หลังปิดฐานะ Short ไปที่ 757.50 จุด

คำแนะนำ: แนะนำให้ ซื้อขายในกรอบการแกว่งตัว ในลักษณะลง Long และปิดช่วงปรับตัวขึ้น

โดยมีจุด Stop ตาม

จุดตัดขาดทุน: ตัดขาดทุนขา Long ที่ 747 จุด จุดรับรู้ผลกำไร: ที่แนวต้าน

ปัจจัยที่อาจจะมีผลกระทบต่อราคาฟิวเจอร์:

ปัจจัยภายใน ปัจจัยที่ยังมีผลต่อตลาดมากที่สุด ยังคงเป็นเรื่องยอดซื้อสุทธิของนักลงทุน

ต่างชาติที่มีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในอังคารที่ผ่านมาจะขายสุทธิ 2.6 พันล้านบาท แต่เชื่อว่าเกิดจาก

เรื่องแผ่นดินไหวของญี่ปุ่น ซึ่งโดยปกติแล้วหากมีความเสี่ยงในโลกเกิดขึ้นนักลงทุนต่างชาติจะ

ขายสุทธิออกมาก่อน และหากปัญหาไม่ลุกลามจะหยุดขาย ซึ่งหากปัญหาไม่ลุกลามเชื่อว่าใน

ปลายสัปดาห์นี้น่าจะเห็นยอดซื้อสุทธิเข้ามาอีก โดยปัจจัยพื้นฐานยังเป็นตัวหนุนตลาด ผล

ประกอบการของหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตค่อนข้างสูง ในกลุ่มธนาคารเติบโตในระดับ 15-20%

ในปีนี้ กลุ่มพลังงานเติบโตประมาณ 13% (กำไรปกติโต 35% เนื่องจากปีก่อนมีกำไรจาก FX และ

ตอนนี้ตลาดกำลังปรับราคาเฉลี่ยน้ำมันจาก 85 เป็น 95 เหรียญ) ในขณะที่ SCC คาดว่าจะเติบโต

ประมาณ 25% ทำให้โดยรวมหุ้นขนาดใหญ่เหล่านี้จะเป็นตัวที่พยุงตลาดไว้ ถึงแม้ว่าสภาพคล่อง

จะมีแนวโน้มลดลงจากดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นทั้งของไทยและยุโรป ส่วนสหรัฐจะเกิดในปลายปี

ปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นคาดว่าจะเป็นตลาดหนึ่งที่สามารถปกป้องเงินเฟ้อได้ในช่วงที่มีความ

กังวลเรื่องเงินเฟ้อ และหุ้นเอเชียอาจจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มน้ำหนัก หลังจากที่มีการโยกเงิน

ออกจากประเทศใน MENA เข้ามาโดยหุ้นในเอเชียแถบบ้านเรา เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีอัตราการ

เติบโตกำไรในระดับที่สูงกว่าตะวันตก ทำให้มีความสามารถในการปกป้องเงินเฟ้อได้มากกว่าฝั่งตะวันตก

[gold8 37]

ทิศทางตามเทคนิค: ทิศทางในระยะสั้นทองคำโลกกลับมาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านหลักที่

บริเวณ 1,490 เหรียญซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสชะลอตัวลงช่วงสั้น โดยหากการพักฐานยังไม่อ่อน

ตัวลงต่ำกว่าแนวรับที่บริเวณ 1,465 และ 1,450 เหรียญตามลำดับทิศทางระยะสั้นยังเป็นการ

แกว่งตัวขึ้นการอ่อนตัวลงมายังเป็นโอกาส ส่วนทองคำฟิวเจอร์มีแนวต้านที่บริเวณ 21,300 บาทที่

ทำให้ชะลอการปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับแนวต้านทองคำโลกที่บริเวณ 1,490 เหรียญ

คำแนะนำ: ให้ปิดฐานะ Long ช่วงปรับตัวขึ้นเล่นรอบที่แนวต้าน ค่อยรอซื้อช่วงปรับตัวลงสำหรับ

นักเก็งกำไรระยะสั้น ในขณะที่นักลงทุนยังคงถือ Long ได้โดยมีจุด stop ที่แนวรับของทองคำโลก

ที่ 1,450 เหรียญ

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ:

เรื่องค่าเงินบาท ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกด้านข้าง หลังจากที่แข็งค่ามาต่อเนื่อง คาดว่าทิศทาง

ในสัปดาห์นี้จะมีการชะลอการแข็งค่าหรืออ่อนค่าบ้างหลังจากที่แข็งค่าต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งการแข็ง

ค่าของบาทเกิดจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า จากประเด็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ ECB แต่หลังจากนี้

เชื่อว่า ในระยะสั้นการแข็งค่าของยูโรจะเริ่มลดลงและดอลลาร์จะมีช่วงรีบาว์หรือแข็งค่าในช่วงสั้น

บ้าง (ทิศทางหลักของดอลลาร์คืออ่อนค่าเมื่อเทียบยูโรเนื่องจากสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่า แต่ช่วง

สั้นๆดอลลาร์จะมีช่วงรีบาวด์บ้าง เห็นได้ว่าแม้ว่าเงินเฟ้อพื้นฐานออกมาต่ำกว่าคาด แต่ดอลลาร์

กลับแข็งค่าขึ้น) ส่งผลให้ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะมีช่วงอ่อนค่าและหนุนราคาทองคำในช่วงสั้นๆ

ปัจจัยที่มีผลต่อทองคำโลก

ความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยให้มีแรงซื้อเข้ามาในทองคำ เนื่องจากสามารถรักษา

มูลค่าไว้ได้มากกว่าสินทรัพย์การเงินประเภทอื่น โดยเงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมีนาคม

จากราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น ในขณะที่ CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน

เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ส่วนจีนเปิดเผยว่าเงินเฟ้อของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็น

ระดับสูงสุดในรอบ 32 เดือน และสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ระดับ 4% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต

(PPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อในระดับค้าส่งเพิ่มขึ้น 7.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 เดือน

[Blues Man 0]

สวัสดีปีใหม่พร้อมกับราคาน้องทองใหม่ๆครับ ^^

[ohani 139]

YLG on เด็ดเศรษฐกิจ 18/04/54

18/เม.ย./54

 

รายการเด็ด เศรษฐกิจ ออกอากาศ ทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.15 ทางช่อง 7 สี ช่วงทิศทางทองคำกับคุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร...

 

http://www.youtube.com/watch?v=nL23I3CQZWY&feature=player_embedded

[ohani 139]

http://www.ylgbullion.com/imgUpload/articleThumbnail2058_AfternoonUpdate-18-4-11.pdf

 

 

 

 

 

 

[itsara 0]

ขอบคุณคุณ ohaniคุณ gold8 มากครับ ข้อมูลอ่านง่ายดี

[ohani 139]

http://www.gtwm.co.th/images/stories/download/analysis/Afternoon%20session%2018%20Apr%2011.pdf

 

 

[ohani 139]

YLG on ปรับกลยุทธ์ : Gold Outlook by YLG 18/04/54

18/เม.ย./54

 

รายการ ปรับกลยุทธ์ สถานีโทรทัศน์ Money Channel (ทรูวิชั่นส์ 178) ช่วง..Gold Outlook by YLG วันที่ 18 เมษายน

 

http://www.youtube.com/watch?v=w_LApzb1jiE&feature=player_embedded

[ohani 139]

http://www.ryt9.com/s/prg/1131195

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 18 เมษายน 2554 โดย YLG

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 18 เมษายน 2554 17:35:35 น.

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--PRdd

 

 

สภาวะตลาดวันที่ 18เมษายน 2554

 

ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ $1,483.75 — $1,488.19 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ11 อยู่ที่ 21,230 บาท โดยราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 250 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,980 บาท

 

(หมายเหตุ:ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.26น.ของวันที่18/04/11)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 19 เมษายน 2554

 

ราคาทองคำได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจาก ภาวะเงินเฟ้อที่กำลังเป็นที่กระแสในขณะนี้เมื่อสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 32 เดือนส่งผลทำให้ทางการจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50%ในเวลาต่อมา ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของอินเดียพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.98%และยูโรสแตทได้มีการปรับทบทวนอัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 17 ประเทศ เป็น 2.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้ที่ 2.6% ทางวายแอลจีคาดการณ์ว่ากระแสสภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นอีกทั้งปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซนที่กำลังเป็นกระแสจะสร้างความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยทำให้เชื่อว่าราคาทองคำจะทำลายจุดสูงสุดเดิมได้เรื่อยๆ โดยราคาทองคำน่าจะไปถึงจุดที่ทางวายแอลจีประเมินไว้ก่อนหน้าที่ระดับ 1,500-1,510 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนทางวายแอลจีแนะนำให้รอขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ1,500-1,510ดอลลาร์/ออนซ์หรือ21,360-21,500บาทต่อบาททอง แล้วรอการย่อตัวเพื่อเข้าซื้อคืนโดยจุดซื้อแนะนำให้อดทนรอในบริเวณ1,440 ดอลลาร์/ออนซ์หรือ20,500ดอลาร์/ออนซ์

 

แต่ถ้านักลงทุนต้องการเข้าลงทุนในระยะสั้นๆแนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับและให้ขายทำกำไรเมื่อราคาขยับขึ้นนชนแนวต้าน

 

เบื่องต้นประเมินแนวรับและแนวต้านไว้ดังนี้

 

แนวรับ 1,482 (21,100บาท) 1,478 (21,050บาท) 1,472(20,960บาท)

แนวต้าน 1,490(21,220บาท) 1,498(21,330บาท) 1,506(21,450บาท)

[ohani 139]

ylg รอบเย็น