ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่ สำหรับข้อมูลข่าวสารและความรู้ต่างที่นำมาฝาก5fc0f220.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

25 มิ.ย. 2553

 

 

บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าอ่อนค่าเล็กน้อย, มองวันนี้ทรงตัวหลังแรงซื้อขายใกล้เคียงกัน

 

 

*บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากเมื่อวาน ขณะที่ดีลเลอร์

มองว่า เงินบาทในวันนี้ไม่น่าจะเคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากแรงซื้อขาย

ในตลาดมีเข้ามาค่อนข้างใกล้เคียงกัน

*ดอลลาร์อ่อนค่าในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียเช้าวันนี้ จากความไม่แน่ใจ

ต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่คำสั่งซื้อคืนและความระมัดระวัง

ต่อสินทรัพย์เสี่ยง ช่วยหนุนเยน

*เยนยังได้ปัจจัยหนุนจากแถลงการณ์สายพิราบ ของธนาคารกลางสหรัฐ

(เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีส่วนทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ต่ำ

อยู่แล้วนั้น ลดลงไปอีก

*ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน

ในเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ออกมาค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังไม่สามารถ

ลดความมืดมนในตลาดได้

*ดอลลาร์ในตลาดนิวยอร์ควานนี้ ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยน โดย

ยังคงได้รับผลกระทบจากมุมมองของเฟด ที่มองภาวะเศรษฐกิจสหรัฐแย่ลง

ซึ่งการลดมุมมองเชิงบวกของเฟดต่อเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนมีข้ออ้าง

ในการซื้อคืนยูโรบางส่วน

*08.59 น. บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 32.42/47 จาก 32.39/44 เมื่อวาน

ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 32.41/45 จาก 32.41/44 เมื่อวาน

*เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 89.60/62 จาก 89.45 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน

*ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.2327/30 จาก 1.2324 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน

 

"ไม่ได้เปลี่ยนจากเมื่อวานมากนัก ตัว month-end demand(แรงซื้อดอลลาร์

ช่วงปลายเดือน) ก็พอมีบ้างแต่ก็ไม่มาก ของเรายังดูนิ่งๆมากกว่า" ดีลเลอร์ กล่าว

เขา กล่าวว่า เงินบาทช่วงเช้ายังแกว่งตัวใกล้เคียงกับระดับปิดเมื่อวานนี้

ขณะที่มองว่าวันนี้บาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.38/50 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก

เนื่องจากแรงซื้อแรงขาย ที่เข้ามาในช่วงนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โอทส์ ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากมมายของอ.ทองใหม่คับ ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณในความมีน้ำใจของอาจารย์ทองใหม่ค่ะ

 

ขอให้กุศลธาร ช่วยให้อาจารย์แข็งแรง มีความสุขนะค่ะ :rolleyes: :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gifคะ อาจารย์ทองใหม่ นู๋ล่ะดีจัยจิ๊ดนึงทองมานขึ้น ตอนนี้เต็มมือเลยคะ แต่ไม่กังวลเท่าไหร่ ถ้าขึ้นกลางคืนก็สามารถขายได้ เพราะตอนนี้หันมาเล่นกับจีแคป ที่เคยถามข้อมูลกะอาจารยื สามารถเทรดกลางคืนได้ด้วยคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แรงงานฝรั่งเศสประท้วงวุ่น หลังรัฐจ่อปฏิรูประบบบำนาญ

 

Posted on Friday, June 25, 2010

แรงงานฝรั่งเศสประท้วงหลังรัฐจ่อปฏิรูประบบบำนาญ

 

แรงงานจากหลายภาคส่วนของฝรั่งเศส อาทิ ภาคขนส่ง การศึกษา ไปรษณีย์ เตรียมผละงานประท้วงแผนปฏิรูประบบบำนาญของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงการเพิ่มอายุเกษียณจาก 60 เป็น 62 ปี

 

องค์กรบริหารระบบเดินรถไฟแห่งฝรั่งเศส (SNCF) ได้แจ้งเตือนล่วงหน้าตั้งแต่ว่า รถไฟความเร็วสูง TVG อาจให้บริการเพียงครึ่งหนึ่งของปกติ ขณะที่ระบบเดินรถเมล์และรถรางก็ลดการให้บริการแม้ในชั่วโมงเร่งด่วน

 

ด้านพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ พิพิธภัณฑ์ออร์เซ พิพิธภัณฑ์ปอมปิดัวร์ และพิพิธภัณฑ์กุยเมต์ ก็ปิดทำการเพราะพนักงานผละงานประท้วงเช่นกัน ขณะเดียวกันสหภาพครูแห่งฝรั่งเศสก็คาดการณ์ว่า 50% ของครูโรงเรียนประถมหลายแห่งจะร่วมการประท้วงครั้งนี้ นอกจากนั้น แรงงานจากภาคเอกชนอย่าง ธนาคาร โชว์รูมขายรถ และซูเปอร์มาร์เก็ต ก็ร่วมผละงานด้วย

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศว่าจะเพิ่มอายุผู้เกษียณจากเดิม 60 ปี เป็น 62 ปี ในปีพ.ศ.2561 ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักจากสหภาพแรงงานต่างๆ

 

สหภาพแรงงาน CGT ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในฝรั่งเศส คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนร่วมล้านคนมาร่วมชุมนุมคัดค้านแผนปฏิรูประบบบำนาญของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เอริค เวิร์ธ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานฝรั่งเศส กล่าวว่า รัฐบาลจะผลักดันการปฏิรูปต่อไปไม่ว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมมากแค่ไหนก็ตาม

 

ผลสำรวจซึ่งตีพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์ Le Figaro เมื่อวานนี้ระบุว่า ชาวฝรั่งเศส 58% เห็นว่าการปฏิรูประบบบำนาญเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ธุรกิจตีพิมพ์ผลสำรวจซึ่งระบุว่าชาวฝรั่งเศส 56% ไม่เห็นด้วยกับแผนปฏิรูปดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส แสดงความเต็มใจที่จะเจรจากับสหภาพแรงงานต่อไป

 

 

นักเศรษฐศาสตร์มองต่างมุมแนวโน้มตลาดบ้านสหรัฐฯ

 

ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันสำหรับนักเศรษฐศาสตร์ที่มองแนวโน้มตลาดบ้านในสหรัฐฯ เมื่อฝ่ายหนึ่งที่รวมถึงนาย Dean Maki หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Barclays Capital ที่มองว่าจุดเลวร้ายที่สุดของตลาดบ้านได้ผ่านพ้นไปแล้ว ขณะที่อีกฟากหนึ่งก็มีสมาชิกอย่าง นาย Dean Baker ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและนโยบาย หรือ Center for Economic and Policy Research ที่คาดว่า ตลาดบ้านสหรัฐฯ จะต้องเจอกับความตกต่ำอีกรอบ

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดบ้านมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเดินไปในทางไหน ซึ่งรวมถึงทิศทางของตลาดการเงินโลกอีกด้วย

 

และถ้าจำกันได้ถึงวิกฤติตลาดบ้าน ที่เคยแผลงฤทธิ์ด้วยการเป็นตัวจุดชนวนจนทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่สภาวะถดถอยเป็นเวลาถึง 2 ปี และทำให้ชาวอเมริกันกว่า 8 ล้านคนต้องตกงาน ในขณะเดียวกัน ก็ฉุดให้มูลค่าตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกหดหายลงไปถึง 37 ล้านล้านเหรียญ

 

นักวิเคราะห์รายหนึ่งมองว่าการคาดการณ์แนวโน้มตลาดบ้านสหรัฐฯ ก็เหมือนกับเป็นการเสี่ยงทายดีๆ นี่เอง ท่ามกลางปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ที่ยังแวดล้อมอยู่ และจริงๆ แล้วสภาวะแบบนี้ก็เป็นเรื่องหลักที่กดดันตลาดอยู่ในขณะนี้

 

เงื่อนไขที่สำคัญอย่างหนึ่งที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าคือสิ่งชี้ชะตาตลาดบ้านว่าจะอยู่หรือจะไปอีกรอบ ก็คือ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะรวดเร็วเพียงพอจนทำให้ผู้คนกลับมามีงานทำกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งประเด็นนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องมีการถกเถียงกันต่อไป

 

 

G20 มุ่งหารือปัญหาการคลัง-แนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาว

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 - 27 มิ.ย.นี้ที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดานั้น

 

ที่ประชุมจะหารือกันเรื่องปัญหาด้านการคลังที่กำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว

 

เกียวโดระบุโดยอ้างร่างเอกสารการประชุมว่า ที่ประชุม G20 เตรียมออกแถลงการณ์เตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่มีความต่อเนื่องและเปราะบาง ขณะที่อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สามารถยอมรับได้

 

นอกจากนี้ การใช้จ่ายด้านการคลังจำนวนมากหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ทำให้สถานะการคลังของหลายประเทศร่อยหรอลง

 

ทั้งนี้ กลุ่ม G20 ตระหนักว่า ยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและการที่รัฐบาลเข้าแทรกแซงภาคเอกชนมาเป็นเวลานานนั้น จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว

 

อีกทั้งตระหนักว่า ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงของหนี้สาธารณะนั้น หลายประเทศในยุโรปมุ่งมั่นใช้มาตรการรัดเข็มขัด ในขณะที่สหรัฐและญี่ปุ่นระมัดระวังเกี่ยวกับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เร็วเกินไป

 

กลุ่ม G20 ยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาความสมดุลระหว่างสถานะทางการคลังและการขยายตัวของเศรษฐกิจ

 

ส่วนในเรื่องการลดจำนวนคนยากจนและลดช่องว่างระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและประเทศที่ยากจนนั้น กลุ่มผู้นำ G20 จะตกลงกันเรื่องการจัดตั้งกลุ่มเฉพาะกิจกลุ่มใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องนี้

 

 

สหภาพแรงงานออสเตรเลียหนุนนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ

 

สภาสหภาพแรงงานออสเตรเลีย (ACTU) ประกาศสนับสนุนนางจูเลีย กิลลาร์ด จากพรรคแรงงาน ทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของออสเตรเลีย ระบุชัดไม่ต้องการให้พรรครัฐบาลผสมกลับมาบริหารประเทศอีก รวมถึงคัดค้านการกลับไปใช้นโยบายปรับปรุงกฎหมายแรงงาน (Work Choices)

 

เจฟฟ์ ลอว์เรนซ์ เลขาธิการของ ACTU กล่าวว่า "จะยังคงมุ่งเน้นที่การป้องกันมิให้รัฐบาลผสมนำนโยบายปรับปรุงกฎหมายแรงงานกลับมาบังคับใช้อีก เพื่อป้องกันการริดรอนสิทธิของแรงงานชาวออสเตรเลีย โดยทางสหภาพแรงงานจะให้ความร่วมมือกับนางกิลลาร์ดและรัฐบาลพรรคแรงงานในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในตลาดแรงงาน รวมถึงการรักษาผลประโยชน์ให้กับชาวออสเตรเลียทุกคน"

 

นอกจากนี้ ทางสหภาพฯประกาศให้การสนับสนุนนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ ภาษี และสังคม ซึ่งรวมถึงข้อเสนอการขึ้นภาษีกำไรในภาคอุตสาหกรรมเหมือง

 

พอล ฮาวส์ เลขาธิการสหภาพแรงงานออสเตรเลียกล่าวว่า นางกิลลาร์ดต้องเร่งกอบกู้ความน่าเชื่อถือของพรรคแรงงานในกลุ่มคนทำงานกลับคืนมา ขณะที่สมาพันธ์ด้านการพยาบาลของออสเตรเลียชี้ว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกที่นางกิลลาร์ดจำเป็นต้องทำคือ การปฏิรูประบบสาธารณสุข และการปรับปรุงความสัมพันธ์ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ทั้งนี้ กิลลาร์ดกล่าวว่า ชาวออสเตรเลียจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้งภายในไม่กี่เดือนนี้ หลังจากที่สมาชิกระดับสูงของพรรคแรงงานเรียกร้องให้เธอฉวยโอกาสในขณะที่คะแนนนิยมยังสูง จัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพรรคแรงงาน

 

 

ธนาคารกลางไต้หวันประกาศขึ้นดอกเบี้ย

 

ธนาคารกลางไต้หวันประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเป็น 1.375% จากเดิมที่ระดับ 1.25% หลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนดีขึ้นมาก ขณะที่อัตราว่างงานก็ปรับตัวลดลง

 

การตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติไต้หวันในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ธนาคารคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์มาตั้งแต่เมื่อเดือนมี.ค. 2552 และยังเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่มองว่าธนาคารจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไป

 

เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติของไต้หวันเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 13.27% จากปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2521 เนื่องจากการส่งออกที่ทะยานขึ้น พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีปี 2553 เป็น 6.14% จากเดิมที่ 4.72%

 

ขณะที่ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลไต้หวันเปิดเผยอัตราว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน

 

ความเคลื่อนไหวของแบงก์ชาติไต้หวันในวันนี้มีขึ้นตามหลังธนาคารกลางหลายประเทศในเอเชียแปซิฟิกที่เริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการขึ้นดอกเบี้ย อาทิ มาเลเซียที่ขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในเดือนที่แล้ว และนิวซีแลนด์ ซึ่งเมื่อสองสัปดาห์ก่อนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี

 

 

โรงงานผลิตชิ้นส่วนโตโยต้าในจีนก่อเหตุประท้วงวันที่ 3

 

การผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในจีนต้องสะดุดต่อเป็นวันที่ 3 ในเมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้ระงับการผลิตมาตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. เนื่องจากการประท้วงของพนักงานที่บริษัท เดนโซ

 

การผลิตของนิสสันในประเทศจีนก็ได้รับผลกระทบเป็นครั้งแรกจากการผละงานประท้วง ซึ่งได้ลุกลามบานปลายไปสู่โรงงานผลิตชิ้นส่วนในจีนอย่างน้อย 8 แห่งแล้ว

 

ทั้งนี้ พนักงานของบริษัท เอ็นเอชเค สปริง ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับค่ายรถหลายค่าย ได้เริ่มผละงานเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. และสิ้นสุดลงเมื่อเย็นวันพุธ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ในประเทศจีนของทั้งนิสสันและฮอนด้า

 

สายการผลิตที่โรงงานแห่งหนึ่งของนิสสันต้องหยุดชะงักไปเป็นเวลา 2 ชั่วโมงวานนี้ ก่อนที่จะกลับมาดำเนินการต่อตามปกติ ส่วนฮอนด้าต้องปิดโรงงานผลิต 2 แห่งที่เมืองกวางโจว ก่อนที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งวันนี้

 

ความขัดแย้งเรื่องค่าแรงได้กระจายวงกว้างนับตั้งแต่ที่ฮอนด้าได้ตกลงขึ้นค่าแรงให้กับพนักงานที่บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอีก 24% เพื่อยุติการประท้วง ซึ่งการประท้วงที่โรงงานผลิตต่างๆสะท้อนให้เห็นถึงอุปทานแรงงานค่าแรงต่ำที่หดตัวลง

 

นอกจากนี้ นายอาคิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ออกมากล่าวขอโทษที่ทำให้ผู้ถือหุ้นบริษัทต้องอับอายจากการเรียกคืนรถหลายล้านคันทั่วโลกเมื่อช่วงต้นปี

 

"เราจะพัฒนาและผลิตยานยนต์ที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ" นายโตโยดะ กล่าวในการประชุมทั่วไปประจำปีของผู้ถือหุ้น ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น "พร้อมกันนั้นเราจะเน้นเรื่องบริการหลังการขายให้มากกว่านี้"

 

ในการแถลงข่าว โตโยต้าเผยว่าได้มีการแต่งตั้งชาวอเมริกันให้มารับตำแหน่งประธานโรงงาน 2 แห่งในสหรัฐ แทนประธานคนเดิมที่เป็นชาวญี่ปุ่น ด้วยหวังให้กระบวนการผลิตในอเมริกาเหนือมีความเป็นอิสระมากขึ้น

 

โตโยต้าแต่งตั้ง นอร์ม บาฟันโน เป็นประธานโรงงานในอินดิแอนาซึ่งทำหน้าที่ผลิตรถ SUV และแต่งตั้ง คริส นีลเซน เป็นประธานโรงงานในเท็กซัสซึ่งทำหน้าที่ผลิตรถกระบะ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

 

 

อดีตเลขาธิการ DPJ ตำหนิรัฐบาลญี่ปุ่นขึ้นภาษี

 

นายอิจิโร่ โอซาว่า อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (DPJ) ซึ่งลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ยังถูกมองว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในแวดวงการเมืองญี่ปุ่น ได้ออกมาตำหนิรัฐบาลที่มุ่งเน้นเรื่องการปรับขึ้นภาษีเพื่อการบริโภค

 

ในระหว่างพักอยู่ที่เมืองมิโนบุ เขตยามานาชิ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ค. นายโอซาว่ากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ผมคิดว่าในช่วงที่มีการเลือกตั้งสภาสูงและสภาล่างครั้งก่อนหน้านี้ เรามีความเห็นว่าจะไม่ปรับขึ้นภาษีการบริโภค และผมก็ยังคงไม่เปลี่ยนมุมมองนี้"

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะเปิดอภิปรายเต็มรูปแบบเพื่อพิจารณาเรื่องการขึ้นอัตราภาษีเพื่อการบริโภค โดยมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะปรับขึ้นภาษีการบริโภค 5% ในขณะที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่ง ได้เสนอให้จัดเก็บภาษีดังกล่าวเพิ่ม 10%

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นายโอซาว่าได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารหมายเลข 2 ของพรรค DPJ หลังจากที่นายยูคิโอะ ฮาโตยาะ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อรับผิดชอบกับความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการโยกย้ายฐานทัพสหรัฐออกจากเกาะโอกินาว่าตามที่ตนเองเคยได้ให้สัญญาไว้ รวมทั้งเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับกองทุนด้านการเมืองที่เกี่ยวพันกับเขาและสมาชิกพรรค DPJ

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 24 มิ.ย. 2553)

• ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ค.) ลดลง 1.1% จากเดือนก่อนหน้า

• ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ 457,000 ราย

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศวันนี้ (ศุกร์ที่ 25 มิ.ย. 2553)

• จีดีพี ขั้นสุดท้าย (Q1/2010) โดยกระทรวงพาณิชย์

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.) โดย มหาวิทยาลัยมิชิแกน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"]ขอบคุณครับสำหรับน้ำใจที่แบ่งปัน ตาแป๊ะ ข้อมูล ข่าวสาร บทวิเคราะห์ ต่างต่างมากมาย ขอให้มีความสุข และสุขภาพแข็งแรงนะครับ[/color] :rolleyes: :rolleyes: :rolleyes: :rolleyes: :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...