ทิศทางทอง--ตอน thaigold2

ทองใหม่ · ธันวาคม 21, 2010

คาดธนาคารกลางอังกฤษขึ้นดอกเบี้ยใน 6 เดือน เหตุวิตกเงินเฟ้อ

Posted on Tuesday, December 21, 2010

คาดการณ์ BOE ขึ้นดอกเบี้ยใน 6 เดือน เหตุวิตกเงินเฟ้อ

สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะเริ่มประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 6 เดือนนี้ เนื่องจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษกังวลว่า อัตราเงินเฟ้อจะไม่ลดลงรวดเร็วตามที่ธนาคารกลางคาดหวังไว้

นอกจากนี้ CBI คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษจะชะลอตัวลงอย่างมากในช่วงต้นปี 2554

CBI คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ จะพุ่งสูงเกินกว่าเป้าหมาย 2% ที่ธนาคารกลางอังกฤษกำหนดไว้ในปีหน้า

และคาดว่าดัชนีจะปรับตัวลงต่ำกว่าเป้าหมายดังกล่าวเพียงเล็กน้อยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 และคาดว่าในช่วงปลายปี 2555 ดัชนีราคาผู้บริโภคจะยืนอยู่ที่ 2.4%

นอกจากนี้ CBI คาดว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัวในอัตรา 0.6% ในไตรมาส 4 ปีนี้ ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 0.2% ในไตรมาสแรกของปี 2554

ส่วนอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยของเศรษฐกิจอังกฤษในปี 2554 จะอยู่ที่ 2% และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างรวดเร็วที่ 2.4% ในปี 2555

ขณะเดียวกันคาดว่า ราคาบ้านในอังกฤษจะจะร่วงลง 4% ในปีหน้า และจะทรงตัวในปี 2555

เล็งหุ้นสายการบินยังไม่เน้นจ่ายปันผลปีหน้า หลังต้องมุ่งลดหนี้

ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังยิ้มรับข่าวการทยอยประกาศจ่ายเงินปันผลของบริษัทต่างๆ ที่คึกคักขึ้นมากในปีนี้ แต่สำหรับผู้ที่ถือหุ้นของสายการบินกลับอาจจะต้องทำใจ เมื่อมีนักวิเคราะห์ออกมาเตือนกันแล้วว่า แม้สถานการณ์ของอุตสาหกรรมจะดีขึ้น แต่หลายๆ สายการบินอาจจะต้องทำการเตรียมเงินสดสำรองเอาไว้เพื่อการลดหนี้ รวมถึงการรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า สายการบินยักษ์ใหญ่จำนวน 6 แห่ง ที่รวมถึง United Continental, Delta และ American Airlines ใช้แผนกันเงินสดรวมกันถึงกว่า 23,000 ล้านเหรียญในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ด้วยจุดประสงค์นำไปใช้ปรับลดระดับหนี้และใช้บรรเทาผลกระทบจากวิกฤติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นอีก โดยที่ตัวเลขนี้ยังถือเป็นระดับสูงสุด หากเทียบกับตัวเลขทั้งปีย้อนหลังไปจนถึงปี 1999 เป็นอย่างน้อย

ทั้งนักวิเคราะห์จาก Fitch Ratings และ Standard & Poor’s บอกว่า การที่สายการบินต่างๆ สามารถหลุดรอดออกมาได้จากสถานการณ์ที่เคยขาดทุนสองปีติดต่อกัน มาถึงในตอนนี้ผู้ถือหุ้นก็ควรจะต้องพอใจ เมื่อผู้ประกอบการสามารถปกป้องตัวเองได้ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องของราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและสภาพเศรษฐกิจถดถอย

และในเมื่อความสำคัญของการใช้เงินสดลำดับแรกๆ ในปีหน้าของสายการบินทั้งหลาย คือ การนำไปใช้เพื่อลดระดับหนี้ ก็เลยทำให้มาตรการที่ผู้ถือหุ้นชื่นชอบ อย่างเช่น การซื้อหุ้นคืนและการจ่ายเงินปันผล ถูกลดลำดับความสำคัญลงไป เนื่องจากต้องหันไปมุ่งปรับปรุงและฟื้นฟูงบดุลของตนให้ดีขึ้นได้จริงก่อน

ประธานาธิบดีเม็กซิโกประกาศช่วยเหยื่อจากเหตุท่อส่งน้ำมันระเบิด

เกิดเหตุท่อส่งน้ำมันระเบิดรุนแรงทางตอนกลางของเม็กซิโก คร่าชีวิตชาวบ้านร่วม 30 ราย และยังทำให้บ้านเรือนหลายสิบหลังไฟลุกท่วม ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าท้องถนนในบริเวณดังกล่าวมีสภาพเป็นทะเลเพลิงทีเดียว

อุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากหัวขโมยพยายามลักลอบดูดเชื้อเพลิงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติปิโตรลิออส เม็กซิกานอส หรือพีเม็กซ์ ในเมืองเท็กเมลูกัน

บาเลนติน เมเนเซส เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐปวยบลากล่าวว่า แก๊งอาชญากรเจาะท่อส่งน้ำมันของบริษัทพีเม็กซ์ ซึ่งทำให้เชื้อเพลิงไหลออกมาโดยควบคุมไม่ได้เนื่องจากแรงดันสูง ท้องถนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำมัน จากนั้นจึงเกิดประกายไฟ และไฟลุกท่วมเป็นทะเลเพลิงในพริบตา

ส่วน ฟรังซิสโก เบลก รัฐมนตรีมหาดไทยของเม็กซิโก เตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่เขาเดินสำรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างระมัดระวังผ่านซากเพลิงไหม้ไปพร้อมกับหน่วยกู้ภัย

ประชาชนหลายร้อยคนถูกอพยพยไปยังสถานที่พักชั่วคราว ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินผจญเพลิงไหม้ต่อไป ด้วยความกังวลว่าอาจมีเชื้อเพลิงรั่วไหลลงสู่แม่น้ำอาโตยัก ซึ่งอยู่ใกล้เคียงด้วย

ประธานาธิบดีเฟลิเป คัลเดรอน ของเม็กซิโก สั่งการให้เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลแก่ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันระเบิดในเมืองซานมาร์ติน เท็กซ์เมลูกัน ในรัฐพูเอบลาของเม็กซิโก นอกจากนี้ ประธานาธิบดีคัลเดรอนยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันระเบิด และลงโทษผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้

ปิโตรเลออส เม็กซิคานอส (Pemex) บริษัทน้ำมันของรัฐบาลเม็กซิโกซึ่งเป็นเจ้าของท่อส่งน้ำมันดังกล่าวระบุว่า บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดมีอยู่ทั้งสิ้น 115 หลังคาเรือน โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐพูบลาได้อพยพประชาชน 5,000 คนไปอาศัยอยู่ในเมืองแองเจเลส บลังคอส เป็นการชั่วคราว ขณะที่ปฏิบัติการทำความสะอาดพื้นที่ยังคงดำเนินไปจนถึงขณะนี้

ฮวน โฮเซ่ ซัวเรซ ประธาน Pemex กล่าวว่า สาเหตุของการระเบิดครั้งนี้เกิดจากประกายไฟในขณะที่คนร้ายกำลังเจาะท่อเพื่อขโมยน้ำมัน โดย Pemex ได้รับผลกระทบจากการขโมยน้ำมัน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับบริษัทเกือบ 10% ของผลิตภัณฑ์

BOJ เปิดฉากการประชุมวานนี้

ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้เริ่มการประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงช่วงขาลงที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตขนาดใหญ่ที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2552

ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงใช้นโยบายการเงินเดิมต่อไป ซึ่งครอบคลุมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.1%

นอกจากนี้ คาดว่าที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นจะพิจารณาถึงผลพวงที่เกิดขึ้นจากโครงการซื้อสินทรัพย์มูลค่า 5 ล้านล้านเยน ซึ่งมีการซื้อสินทรัพย์ต่างๆ ตั้งแต่พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชน ไปจนถึงกองทุนเพื่อการลงทุนและทรัสต์เพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า โครงการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่ธนาคารกลางได้ตัดสินใจนำมาใช้เมื่อเดือนต.ค. ซึ่งมีเป้าหมายที่การส่งเสริมการลงทุนในภาคเอกชน และการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเมื่อเดือนต.ค.นั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้คาดการณ์ว่า จังหวะของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2553 แต่จากนั้นจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นปานกลาง ด้วยปัจจัยหนุนจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น

จับตาตลาดข้าวเอเชียคึกคัก

ข้อมูลสถิติจากกระทรวงเกษตรจีนระบุว่า พื้นที่ปลูกข้าวให้ผลผลิตสูงหรือ "ซูเปอร์ไรซ์" ในประเทศมีมากถึง 6.73 ล้านเฮคตาร์ในปีนี้ หรือมีสัดส่วนเกือบ 25% ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมดในประเทศ

กระทรวงเกษตรเปิดเผยว่า ข้าวซูเปอร์ไรซ์จำนวน 80 สายพันธุ์ ช่วยให้ผลผลิตข้าวทั้งปีในประเทศปรับตัวสูงขึ้น

ปัจจุบันผลผลิตข้าวซูเปอร์ไรซ์โดยเฉลี่ยอยู่ที่สูงสุด 800 กิโลกรัม/mu (1 เฮคตาร์ = 15 mu) หรือมากกว่าข้าวสายพันธุ์ทั่วไปราว 15%

ผลผลิตข้าวในจีนมีสัดส่วนราว 40% ของผลผลิตธัญพืชทั้งหมดในประเทศ และเป็นอาหารหลักของประชากรกว่า 60% จากทั้งหมด 1.3 พันล้านคนในประเทศ ทั้งนี้ จีนเริ่มพัฒนาข้าวซูเปอร์ไรซ์ตั้งแต่ปี 2539 และเริ่มปลูกในปี 2548

มารี เอลกา ปันเกสตู รัฐมนตรีพาณิชย์อินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวเพิ่มเป็น 1 ล้านตันในปีนี้ จากการรายงานของเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ detikcom

ปันเกสตูกล่าวว่าอินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวอีก 200 ตันจากเวียดนาม หลังจากที่นำเข้ามาแล้ว 850,000 ตัน นอกจากนั้นจะนำเข้าข้าวเพิ่มจากไทยด้วย นอกจากนั้นเธอยังเผยว่ารัฐบาลได้ตัดสินใจยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าข้าวตามคำร้องขอจากสำนักงานลอจิสติกแห่งชาติ

การนำเข้าข้าวเพิ่มในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาสต็อกข้าวของรัฐบาลให้มีอยู่อย่างน้อย 1.5 ล้านตันภายในสิ้นปีนี้

หนังสือพิมพ์วีคลี อีเลฟเวน นิวส์ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของกระทรวงพาณิชย์ของพม่าว่า ยอดส่งออกข้าวของพม่าร่วงลง 65% ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีภาษี 2553 - 2554 เหลือเพียง 221,600 ตัน เมื่อเทียบกับ 650,000 ตันในปี 2552 - 2553

ทั้งนี้ การส่งออกข้าวของพม่ามีทั้งการค้าปกติและการค้าระหว่างชายแดน โดยปริมาณการส่งออกที่ลดลงมีสาเหตุมาการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกมีรายได้ลดลง

สำนักงานสถิติแห่งชาติของพม่า รายงานว่า พม่าส่งออกข้าวจำนวน 818,100 ตัน ในปี 2552 - 2553 คิดเป็นมูลค่า 252.9 ล้านดอลลาร์

อินโดฯอาจพลาดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในปีนี้

หนังสือพิมพ์จาการ์ต้า โพสต์ ของอินโดนีเซียรายงานโดยอ้างคำพูดของนายฮัตตา ราจาสา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานเศรษฐกิจของอินโดนีเซียว่า เป็นเรื่องยากที่รัฐบาลอินโดนีเซียจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 5.3% ในปีนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปวนอย่างหนักทำให้ราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น

นายราจาสา กล่าวยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 5 บวกลบ 1% เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปวนเป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อราคาอาหาร

ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียมีแนวโน้มที่จะทะลุ 6.5% ในปีนี้ แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง 4-6% ในปีหน้า เพราะยังเป็นช่วงไม่เกิน 5 บวกลบ 1%

ทั้งนี้ ธนาคารกลางคาดว่า อินโดนีเซียจะยังคงได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากภาวะเงินเฟ้อในปี 2554 แต่ระดับอัตราเงินเฟ้ออาจลดลงจากระดับของปีนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้ปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเป็น 5.3% ในปีนี้ ในขณะที่ธนาคารกลางคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 4-6%

ญี่ปุ่นเผยยอดขายห้างสรรพสินค้าลดลง 0.5%

สมาคมห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายของห้างสรรพสินค้าในเดือนพฤศจิกายน ลดลง 0.5% จากปีก่อน ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบเป็นรายปี

รายงานของสมาคมฯ ระบุว่า ยอดขายรวมในทุกห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่นมีมูลค่าทั้งสิ้น 5.556 แสนล้านเยน (6.62 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมกับชี้ว่าเดือนดังกล่าวมีวันอาทิตย์เพียง 4 วัน ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้วอยู่หนึ่งวัน และถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยอดขายลดลง นอกจากนี้ ทางสมาคมกล่าวเสริมว่า สภาพอากาศที่เย็นลงช่วยให้เสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวขายดีขึ้น

แต่อุตสาหกรรมยังไม่ได้รับอานิสงส์จากช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาส เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนิยมซื้อสินค้าก็ต่อเมื่อวันเฉลิมฉลองคริสต์มาสใกล้เข้ามา

ขณะเดียวกัน การที่โครงการ eco-point ของรัฐบาลหมดอายุลงในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขายของห้างสรรพสินค้าลดลงด้วยเช่นกัน โดยมาตรการดังกล่าวเป็นการให้เงินอุดหนุนสินค้าราคาประหยัดเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อเครื่องใช้ในครัวเรือน ยานพาหนะ และบ้านที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่า ยอดขายในห้างสรรพสินค้าในเดือนพ.ย.ยังมีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนทำให้อัตราแลกเปลี่ยนถูกลง ผู้ซื้อจึงหันไปซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตจากร้านค้าในต่างประเทศ

ชาวจีนภาคกลาง-เหนือเผชิญปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า

พื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือของจีนกำลังได้รับผลกระทบจากการตัดกระแสไฟฟ้าและการปันส่วนจ่ายไฟฟ้า เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนถ่านหิน ขณะที่ความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้น จากสภาพอากาศอันหนาวจัดและการขนส่งหยุดชะงัก

การไฟฟ้าของจีนระบุในรายงานที่ปรากฏบนเว็บไซต์วันนี้ว่า พายุฤดูหนาวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น และขณะเดียวกันยังเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งถ่านหิน นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าผู้จัดส่งถ่านหินบางรายได้ระงับการขนส่งถ่านหินไปโรงไฟฟ้า เพราะราคาถ่านหินตามข้อตกลงต่ำกว่าราคาท้องตลาด ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังในระบบเศรษฐกิจที่รัฐผูกขาด

จีนคุมราคาที่ดินเข้ม – กวาดล้างการซื้อที่ดินอย่างผิดกฎหมาย

กระทรวงที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติของจีน (MOLAR) ออกมาผลักดันให้เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินท้องถิ่นใช้มาตการที่เป็นรูปธรรมเพื่อควบคุมราคาที่ดินที่พุ่งขึ้นในหลายเมืองของจีน

รวมทั้งปราบปรามพฤติกรรมที่ผิดกฏหมาย เช่น การกว้านซื้อที่ดิน อย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้มาตรการเกี่ยวกับตลาดสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล

แถลงการณ์บนเว็บไซต์ของ MOLAR ระบุว่า ราคาขายที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นในหลายเมือง ได้ทำให้เกิดความวิตกกังวลต่อสังคม ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องติดตามรายละเอียดอย่างใกล้ชิด รวมทั้งดำเนินการควบคุมราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ แถลงการณ์ของ MOLAR ยังระบุว่า เมืองและเขตปกครองที่มีการจัดสรรค์ที่ดินไม่ถึง 70% ของที่ดินเพื่อการปฏิรูปเขตชุมชนยากจนในปีนี้ ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง ไม่ควรใช้ที่ดินสำหรับก่อสร้างบ้านระดับหรูหราในช่วงที่เหลือของปี

ทั้งนี้ รัฐบาลท้องถิ่นจะต้องรายงานราคาขายที่ดินที่สูงกว่า 50% จากอัตราพรีเมียมหรือราคาที่ทำสิติสูงสุดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินของมณฑลและ MOLAR ภายใน 2 วันทำการหลังปิดสัญญาขาย พร้อมกับสั่งการว่า กระบวนการส่งมอบที่ดินจะต้องทำตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด และต้องไม่มีการเปลี่ยนจุดประสงค์การใช้ที่ดินที่จัดสรรค์เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ

ทองใหม่ · ธันวาคม 21, 2010

ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนชี้จีนระมัดระวังการขึ้นดบ.เหตุภาวะศก.โลกไม่แน่นอนข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 ธันวาคม 2553 10:13:35 น.

โจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า จีนพิจารณาเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรอบคอบ เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี่ รายงานถ้อยแถลงของนายโจว ซึ่งระบุด้วยว่า จีนจะเดินหน้าผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามกลไกตลาดภายในระยะเวลา 5 ปีจากนี้

ฉาง เจียน จากบาร์เคลย์ แคปิตอล กล่าวว่า การชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของจีนอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่สินทรัพย์และกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อให้พุ่งสูงขึ้นได้ พร้อมกับคาดการณ์ว่า จีนอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงต้นปี 2554