ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เซ็งเหมือนกันค่ะ เมื่อกี้จะกดขายตรง 1393 ก็กลัวว่ายังขึ้นต่อ นี่ล่ะน๊าความโลภ อดเลย

!034 !034 !034

 

เหมียนกานเลย ทำไงดีคะยังมีโอกาสไม้เนี่ย...เซ็งเป็ดจัง....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฮาฮา ได้เวลาราตรีสวัสดิ์แล้วจ้า ราตรีสวัสดิ์จ้า

 

ราตรีสวัสดิ์ ครับ อ.ทองใหม่ พบกัน พรุ่งนี้ กับราคา ดีๆ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหมียนกานเลย ทำไงดีคะยังมีโอกาสไม้เนี่ย...เซ็งเป็ดจัง....

 

ดูรูปไปก่อน แล้วกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เซ็งเหมือนกันค่ะ เมื่อกี้จะกดขายตรง 1393 ก็กลัวว่ายังขึ้นต่อ นี่ล่ะน๊าความโลภ อดเลย

1b38f9e2.gif 1b38f9e2.gif 1b38f9e2.gif

 

โอกาสขาย ริบหรี่ แต่ โอกาสซื้อ สว่างไสว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฮาฮา ได้เวลาราตรีสวัสดิ์แล้วจ้า ราตรีสวัสดิ์จ้า

ราตรีสวัสดิ์คะ...

post-1438-066240900 1294931337.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ คุณน้อง tiny สิ่งที่น้องบ่นเรื่องค่าเงินบาท ถือว่า Rate นิ่งมากๆ แล้วนะครับ สำหรับวันนี้ พรุ่งนี้ เด็กขายของ

ยังมีเสียวเลยว่า จะยืนเหนือ 30.37 ได้หรือเปล่า ทำไมเหรอ ดูสิ ค่าเงินดอลล์ มาอยู่ที่ 79.40 หายไปตั้งเกือบ 0.65 point

แล้วนะครับ ซื้อทองช่วงนี้ มัวแต่ดูราคา Spot อย่างเดียว ไม่ดูค่าเงินบาท เสียว อย่างเดียวครับ

 

แหม ! มาให้ว่า เราเป็นคนทำให้ อ.ทองใหม่ คึกคัก เราไม่ได้เป็นกระทิงแดง หรือ ลิโพ นะครับ แต่เราเป็น Viagra ฮิ ฮิ

 

โอกาสขาย ริบหรี่ แต่ โอกาสซื้อ สว่างไสว

 

น้องเล็กก็กลัวว่าโอกาสซื้อจาไม่ไสวแบบพี่เด็กขายของว่านะคะ (ลงไม่มาก . สมากั๊กใช้เรทค่าเงินเดิม)

 

เลขที่ออกพรุ่งนี้อย่างมาก 19800/19900 (จาก้าเก็บเหรอกะ 55555) !17 !17 !17

 

ส่วน Viagra หนูไม่ค่อยมีความรู้ (ต้องอัญเชิญคุณหมอมาอธิบายสรรพคุณคะ อิอิ) !38 !32 !38

ถูกแก้ไข โดย tiny

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันตลาดโลกทำลายสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

 

ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

เขียนโดย ณัฐญา เนตรหิน

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2011 เวลา 20:13 น.

นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัญหาอุปทานจากแหล่งผลิตในทะเลเหนือและท่อส่งน้ำมันของสหรัฐฯรั่วในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่อุปสงค์การใช้น้ำมันในฤดูหนาวยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์ล่าสุดยังคงลดต่ำลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปิดที่ตลาดสิงคโปร์ล่าสุด (12 ม.ค. 54) น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 93.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 อยู่ที่ 107.17 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันสำเร็จรูปดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ 105.27 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ซึ่งระดับราคาดังกล่าวเป็นระดับราคาที่สูงที่สุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 51 ดังจะเห็นได้ว่า ผู้ค้าหลายราย ได้ทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกผลิตภัณฑ์ไปแล้วก่อนหน้านี้

 

ทั้งนี้ ปตท. ได้ชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าการตลาดเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 54 อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.10 บาท/ลิตร โดยเฉพาะค่าการตลาดในกลุ่มดีเซลได้ลดลงเหลือเพียง 0.89 บาท/ลิตร ล่าสุด ในวันนี้ ค่าการตลาดรายวันเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 0.71 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลอยู่ที่ 0.48 บาท/ลิตร เท่านั้น

 

 

 

ดังนั้น ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินในอัตรา 0.50 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลนั้น ถึงแม้ว่าคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะได้มีมติให้ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและน้ำมันไบโอดีเซล บี 5 เพิ่มอีกในอัตรา 0.80 บาท/ลิตร และ 1.00 บาท/ลิตร ตามลำดับแล้วก็ตาม ค่าการตลาดภายหลังการปรับลดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น คือ อยู่ที่ 1.20 บาท/ลิตร เท่านั้น ดังนั้น ราคาขายปลีกน้ำมันในกลุ่มดีเซลจึงยังจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยราคาขายปลีกน้ำมัน ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (14 ม.ค.54) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้

 

หน่วย: บาท/ลิตร

น้ำมันแก๊สโซฮอล (บลู แก๊สโซฮอล E85) 20.62

น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 (บลู แก๊สโซฮอล E20) 31.44

น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 (บลู แก๊สโซฮอล 95) 34.84

น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 (บลู แก๊สโซฮอล 91) 32.34

น้ำมันเบนซิน 91 (บลู แก๊สโซลีน 91) 39.14

น้ำมันไบโอดีเซล (บลู ดีเซล บี5) 29.39

น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (บลู ดีเซล) 29.99

 

 

 

นายสรัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงผันผวน โดยในระยะสั้นยังคงมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก จึงขอรณรงค์ให้ผู้บริโภควางแผนการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าที่สุด รวมทั้ง หันมาใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น และขอให้เชื่อมั่นว่า ปตท. ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้อยู่ระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

สวัสดีครับ

ขอบวกคะแนนให้อาจารย์ทองใหม่ด้วยครับ

อาจารย์ใจดีจริงๆ เอื้อเฟื้อให้ข้อมูลดีๆแก่ใครๆทุกๆวันเลย

ขอขอบพระคุณอาจารย์มากสุดๆเลยครับ

ถูกแก้ไข โดย Keaw

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 23.54 จุดหลังจำนวนคนว่างงานสหรัฐพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 06:33:31 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะซบเซาในตลาดแรงงานอาจส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างเชื่องช้า อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจส่งออกดีดตัวขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนและอิตาลีประสบความสำเร็จในการออกพันธบัตร

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 23.54 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 11,731.90 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.20 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 1,283.76 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 2.04 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 2,735.29 จุด

 

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 931 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 3

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ม.ค. พุ่งขึ้น 35,000 ราย แตะระดับ 445,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 405,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 5,500 ราย แตะระดับ 416,500 ราย สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอ่อนแอ แม้เศรษฐกิจส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวแล้วก็ตาม

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซามากขึ้น เมื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในที่ประชุมธุรกิจที่วอชิงตันว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในอัตรา 3-4% ในปีนี้ แต่ยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้อัตราว่างงานลดลงได้ โดยปัจจุบันอัตราว่างงานของสหรัฐยืนอยู่ที่ระดับ 9.4% ซึ่งนับว่าสูงมาก

 

จำนวนคนว่างงานที่พุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้วส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มผู้ผลิตโลหะร่วงลง โดยหุ้นอัลโคปิดร่วง 3% หุ้นนิวมอนท์ไมนิ่ง ปิดลบ 1.7% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ปิดลบ 3.1%

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจส่งออกทะยานขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า รัฐบาลสเปนสามารถขายพันธบัตรอายุ 5 ปีมูลค่า 3 พันล้านยูโร (3.9 พันล้านดอลลาร์) ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาดรอง ในขณะที่รัฐบาลอิตาลีก็ประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตรเช่นกัน ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนส่วนใหญ่คลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.83 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.05 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี เพราะได้แรงหนุนจากยอดการส่งออกที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดบวก $1.2 หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐอ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 07:05:03 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) โดยสัญญาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ เนื่องจากข้อมูลด้านแรงงานที่น่าผิดหวังของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจยังไร้ทิศทาง นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องแม้มีรายงานว่าการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลสเปนและอิตาลีผ่านไปอย่างราบรื่นก็ตาม

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,387 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,377.20 - 1,392.90 ดอลลาร์

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.82 เซนต์ ปิดที่ 29.263 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.45 เซนต์ ปิดที่ 4.377 ดอลลาร์/ปอนด์

 

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 20.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,821.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 6.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 813.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เทรดเดอร์ในตลาดทองคำนิวยอร์กตั้งข้อสังเกตุว่า แม้สัญญาทองคำถูกกดดันเล็กน้อยจากการที่ความวิตกกังวลเรื่องปัญหาหนี้ยุโรปลดน้อยลง หลังจากรัฐบาลสเปนและอิตาลีประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตร แต่นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเพราะมองว่าการขายพันธบัตรในครั้งนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะให้หมดไปได้

 

นอกจากนี้ จำนวนคนว่างงานที่พุ่งขึ้นของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงไร้ทิศทาง

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ม.ค. พุ่งขึ้น 35,000 ราย แตะระดับ 445,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 405,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 5,500 ราย แตะระดับ 416,500 ราย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ ขานรับสเปน-อิตาลีขายพันธบัตรราบรื่น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 07:32:03 น.

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนและอิตาลีประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตร นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสกุลเงินยูโรหลังจากประธานธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในยุโรป ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากกระทรวงแรงงานระบุว่า จำนวนคนว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน

 

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.67% แตะที่ 1.3355 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3135 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.39% แตะที่ 1.5830 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5769 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.20% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.770 เยน จากระดับของวันพุธที่ 82.940 เยน และอ่อนตัวลง 0.23% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9638 ฟรังค์ จากระดับ 0.9660 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.06% แตะที่ 0.9965 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.9959 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.86% แตะที่ 0.7697 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7631 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินยูโรได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า รัฐบาลสเปนสามารถขายพันธบัตรอายุ 5 ปีมูลค่า 3 พันล้านยูโร (3.9 พันล้านดอลลาร์) ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาดรอง ในขณะที่รัฐบาลอิตาลีก็ประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตรเช่นกัน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนส่วนใหญ่คลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป

 

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปผ่อนคลายลงนับตั้งแต่รัฐบาลโปรตุเกสสามารถขายพันธบัตรมูลค่า 1.25 พันล้านยูโร หรือ 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งสัดส่วนของการจองซื้อพันธบัตรอายุ 4 ปีนั้น สูงกว่าปริมาณพันธบัตรถึง 2.6 เท่า และสัดส่วนของการจองซื้อพันธบัตรอายุ 10 ปีมีจำนวนสูงกว่าปริมาณพันธบัตรถึง 3.2 เท่า โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดคลายความวิตกกังวลมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรโปรตุเกสที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2563 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.716% จากการประมูลครั้งหลังสุดในเดือนพ.ย.ที่ 6.806%

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสกุลเงินยูโรเพื่อป้องกันความเสี่ยง หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางเมื่อวานนี้ว่า "มีหลักฐานบ่งชี้ว่ายุโรปกำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น" ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของทริเชต์ทำให้เกิดการคาดการณ์ในตลาดว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยหนุนสกุลเงินยูโรให้แข็งค่าขึ้นด้วย

 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ แม้อัตราเงินเฟ้อรายปีในกลุ่มยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.3% ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของอีซีบีและเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีก็ตาม

 

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ม.ค. พุ่งขึ้น 35,000 ราย แตะระดับ 445,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 405,000 ราย

 

ค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันมากขึ้นเมื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในที่ประชุมธุรกิจที่วอชิงตันว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในอัตรา 3-4% ในปีนี้ แต่ยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้อัตราว่างงานลดลงได้ โดยปัจจุบันอัตราว่างงานของสหรัฐยืนอยู่ที่ระดับ 9.4% ซึ่งนับว่าสูงมาก

 

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์นี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...