ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

กษัตริย์ซาอุอัดฉีด 3.6 หมื่นล้านเหรียญสกัดการเมืองระอุ

 

Posted on Monday, March 14, 2011

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (ศุกร์ 11 มี.ค. 2554)

• ยอดค้าปลีก (ก.พ.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% จากเดือนก่อนหน้า

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 68.2

• สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ (ม.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า

 

 

กษัตริย์ซาอุอัดฉีด 3.6 หมื่นล้านเหรียญสกัดการเมืองระอุ

 

เหตุความวุ่นวายที่ลุกลามไปทั่วภาคพื้นตะวันออกกลาง ถูกตอกย้ำวิกฤติรอบใหม่ด้วยผู้ประท้วงในประเทศเศรษฐีน้ำมัน อย่าง ซาอุฯ ที่ประชาชนส่วนหนึ่งต้องการมีสิทธิมีเสียงทางการเมืองมากขึ้น โดยล่าสุดฝ่ายต่อต้านรัฐก็กล่าวหาว่า แทนที่ผู้คนจะได้รับคำมั่นที่จะให้มีการปกครองแบบประชาธิปไตย แต่พวกเขากลับได้รับเป็นเงินสงเคราะห์ มูลค่า 36,000 ล้านเหรียญแทน

 

บรรดานักวิชาการซาอุฯ นักเขียน ไปจนถึงผู้แทนประชาชนมุสลิมนิกายชีอะห์ ต่างออกมาเรียกร้องให้กษัตริย์อับดุลลาห์กษัตริย์องค์ที่หกของราชวงศ์ ให้เดินหน้าพาประเทศไปสู่การปกครองโดยระบบรัฐธรรมนูญที่มีกษัตริย์เป็นประมุข

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองในภูมิภาคมองว่า ความต้องการปฏิรูปการเมืองยิ่งนำไปสู่ประเด็นเรื่องการเรียกร้องประชาธิปไตยแบบหยั่งรากลึกขึ้น ซึ่งถ้าหากว่าข้อเรียกร้องเรื่องระบบปกครองใหม่ไม่ได้เป็นไปดังหวัง ก็จะยิ่งทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างฝั่งที่เป็นพวกอนุรักษ์นิยมและกลุ่มพวกหัวก้าวหน้า

 

สำหรับความพยายามลดความกังวลการขาดแคลนน้ำมันนายอาลี อิบราฮิม อัลนาอิมี (Ali Ibrahim Al-Naimi) รัฐมนตรีน้ำมัน บอกว่า ซาอุฯยังสามารถรองรับกับดีมานด์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นได้ พร้อมกันนั้นยังให้ความมั่นใจว่า ซาอุฯ ได้ปรับเพิ่มสต็อกเก็บน้ำมันในประเทศอียิปต์ เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น ไว้แล้ว นอกจากจะบอกว่า ในตอนนี้ประเทศยังมีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลืออีกกว่า 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

 

ญี่ปุ่นปรับเพิ่มความรุนแรงแผ่นดินไหวเป็น 9 ริกเตอร์

 

กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ปรับประมาณการณ์ความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งเมืองเซนไดเมื่อวันศุกร์ จาก 8.8 ริกเตอร์เป็น 9.0 ริกเตอร์แล้ว โดยแผ่นดินไหวระดับ 9 คือระดับ "ทำลายล้าง" ทำให้บ้านพัง ตามแถบรอยแยกของแผ่นดิน ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ขาดเป็นตอนๆ และทำให้แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดอันดับ 4 ของโลก โดยรุนแรงเท่ากับที่คาบสมุทรคัมชัทกา ประเทศรัสเซีย เมื่อปี 2495

 

และรองจากที่ชิลีปี 2503 ระดับ 9.5 // ที่อลาสก้า สหรัฐ ปี 2507 ระดับ 9.2 // และที่สุมาตราปี 2547 ระดับ 9.1 ขณะที่มีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวและสึนามิอาจทะลุหลัก 2,000 คน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันขณะนี้มี 800 คน นอกจากนี้ยังพบศพอีก 200 รายนอกชายฝั่งเพิ่มอีกหนึ่งจุดในเมืองฮิกาชิมัตสึชิม่า นอกจากเหนือจากที่พบนอกฝั่งเมืองเซนไดราว 200 - 300 และยังมีผู้สูญหาย 1,167 คนในจังหวัดฟุกุชิมะ

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมิยากิเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นทางภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีแนวโน้มว่าจะพุ่งสูงกว่า 10,000 ราย ในขณะที่ความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ลุกลามเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

 

อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นรายงานยอดผู้เสียชีวิตในจังหวัดมิยากิและพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับการยืนยันอยู่ที่ 983 ราย ขณะที่เหยื่อสึนามิอีกกว่า 2,000 คนยังไม่ทราบชะตากรรม ส่วนอาคารบ้านเรือนอย่างน้อย 20,820 หลังได้รับความเสียหาย

 

ญี่ปุ่นตั้งเป้าวางแผนงบประมาณสำหรับการฟื้นฟูบ้านเมืองในพื้นที่ประสบภัย และอาจทำให้ภาระหนี้สาธารณะของประเทศเลวร้ายลงอีก ขณะที่บริษัทประกันภัย ประเมินว่า ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจากแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งนี้ อาจทำให้บริษัทประกันภัยทั้งหลายต้องชดเชยความเสียหายรวมประมาณ 10,000-50,000 ล้านดอลลาร์

 

 

ทีมกู้ภัยทยอยเดินทางถึงญี่ปุ่นเร่งระดมความช่วยเหลือ

 

ทีมงานค้นหาและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากประเทศต่างๆ เริ่มทยอยเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น โดยมีเจ้าหน้าที่กว่า 70 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งเร่งให้ความช่วยเหลือญี่ปุ่นที่เผชิญกับแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่

 

นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปสำรวจพื้นที่ประสบภัย และได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมเพิ่มกำลังทหารอีกเท่าตัวเป็น 1 แสนนายเข้าไปให้การช่วยเหลือกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ประสบภัย ขณะนี้มีความช่วยเหลือจากนานาชาติหลั่งไหลไปยังญี่ปุ่น โดยมีราว 69 ชาติและดินแดน และอีก 5 องค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศ

 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยและสุนัขดมกลิ่นจากเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ได้เดินทางมายังสนามบินนาริตะของญี่ปุ่นในเช้าวานนี้ (13 มี.ค. 54) ขณะที่ทีมช่วยเหลือจากจีนชุดแรกเดินทางถึงญี่ปุ่นในบ่ายวานนี้

 

กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ทีมกู้ภัยจากเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์จะมุ่งหน้าลงพื้นที่ประสบภัยในเมืองมินามิซานริคุ ในจังหวัดมิยากิทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ที่ซึ่งมีผู้สูญหายกว่า 10,000 คน

 

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้รับการเสนอตัวให้ความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ ราว 70 แห่ง ซึ่งรวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ 5 แห่ง เช่นกลุ่มสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโครงการอาหารโลก

 

 

ปริมาณรังสีที่โรงงานฟุกุชิมะพุ่งสูงเกินกว่ากำหนด

 

บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ โค (TEPCO) ได้แจ้งต่อสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นว่า ปริมาณรังสีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะหมายเลข 1 พุ่งสูงเกินกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยขณะนี้ปริมาณรังสีต่อชั่วโมงวัดได้ที่ 882 ไมโครไมโครซีเวิร์ต ซึ่งสูงเกินกว่าที่กำหนดไว้ในระดับ 500 ไมโครซีเวิร์ต

 

ขณะนี้มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหมด 6 แห่งที่โรงงานฟุกุชิมะหมายเลข 1 และหมายเลข 2 เกิดเหตุขัดข้องที่ระบบทำความเย็นนับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันศุกร์ จนเป็นเหตุให้เกิดการระเบิดขึ้นที่โรงงานหมายเลข 1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ทางการได้ประกาศขยายเขตอพยพประชาชนรอบโรงงานฟุกุชิมะหมายเลข 1 และ 2 จากเดิมภายในรัศมี 10 กิโลเมตร เป็น 20 กิโลเมตร

 

นายยูกิยะ อามาโนะ ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) กล่าวว่า ทางการญี่ปุ่นได้ส่งรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว

 

นายอามาโนะกล่าวว่า IAEA พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคหากรัฐบาลญี่ปุ่นร้องขอมา ขณะเดียวกันก็แสดงความเห็นใจต่อสถานการณ์ที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

 

 

BOJ ตั้งคณะทำงานรับมือภัยพิบัติ

 

สถาบันการเงินและบริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่นได้เริ่มดำเนินการเพื่อสกัดกั้นผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากแผ่นดินไหว สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้จัดตั้งคณะทำงานซึ่งนำโดยนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ประธานธนาคารกลาง และระบุว่า ระบบเครือข่ายออนไลน์ที่ดำเนินการธุรกรรมระหว่างธนาคารกลางและสถาบันการเงินอื่นๆ สามารถดำเนินการได้ตามปกติในเวลานี้

 

นอกจากนี้ BOJ เตรียมจัดสรรเงินสดจำนวน 5.5 หมื่นล้านเยนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ 13 แห่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวทางภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น

 

ทั้งนี้ BOJ เปิดเผยว่า ระบบการชำระเงินสำหรับสถาบันการเงินรายใหญ่นั้นส่วนใหญ่ยังคงใช้การได้เป็นปกติ และไม่มีรายงานเรื่องระบบขัดข้องแต่อย่างใด

 

 

รัฐบาลญี่ปุ่น เตรียมผลักดันงบฯฉุกเฉิน

 

สำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังเตรียมผลักดันงบประมาณฉุกเฉิน เพื่อรับมือกับความเสียหายทางเศรษฐกิจ จากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มครั้งล่าสุด แต่ยังไม่มีการระบุวงเงินที่ชัดเจนออกมา ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ให้คำมั่นจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อรับประกันเสถียรภาพของตลาดการเงิน

 

นายยาสุโอะ ยามาโมโตะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากสถาบันวิจัยมิซึโฮะ ระบุว่า รัฐบาลต้องขายพันธบัตรเพิ่มเติม เพื่อระดมทุน ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น ก็อาจต้องชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป หันกันไปเน้นที่การอัดฉีดสภาพคล่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแทน

 

ลอสแอนเจลิส ไทมส์ รายงานว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่น่าจะเกิดขึ้นต่อทั้งโลกมากที่สุด คือ ราคาน้ำมัน ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีก เนื่องจาก โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในญี่ปุ่น ต่างได้รับผลกระทบจนไม่สามารถดำเนินการได้

 

 

บริษัทผลิตรถยนต์เล็งระงับการผลิตในญี่ปุ่นชั่วคราว

 

บริษัทฮีโน่ มอเตอร์ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ของญี่ปุ่นเตรียมระงับการผลิตที่โรงงานภายในประเทศเป็นการชั่วคราว เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัดซื้อชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทั้งสองบริษัทจะระงับการผลิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เช่นเดียวกับบริษัทรถยนต์รายอื่นๆ อย่างโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และฮอนด้า มอเตอร์ โคที่ตัดสินใจปิดโรงงานในวันจันทร์ โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส ประกาศว่าจะต้องระงับการผลิตรถยนต์ที่โรงงาน 4 แห่งในจังหวัดมิยากิ อิวาเตะ และที่ฮอกไกโด เช่นเดียวกับนิสสัน มอเตอร์ส ที่ระงับการผลิตในโรงงาน 4 แห่ง ในฟูกุชิมา และคาวาจิ ขณะที่โซนี่คอร์ป ต้องระงับการผลิตที่โรงงาน 6 แห่งในจังหวัดมิยากิ

 

ทั้งนี้ ฮีโน่ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกและรถโดยสารของค่ายรถโตโยต้าจะระงับการผลิตที่โรงงานทั้ง 3 แห่งในกรุงโตเกียวและเขตกันมะ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะสามารถเปิดดำเนินการผลิตอีกครั้งได้เมื่อไหร่ ขณะที่มิตซูบิชิ มอเตอร์สเผยว่า บริษัทจะระงับการผลิตที่โรงงานทั้งสามแห่งในวันจันทร์-อังคารนี้เช่นกัน

 

 

จีนเผยอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ในปี 2553 เพิ่มขึ้น 9.78%

 

จีนตรวจพบการละเมิดลิขสิทธิ์ 56,000 กรณีในปี 2553 เพิ่มขึ้น 9.78% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ฝู ฉวนเจียน รองผู้อำนวยการสำนักงานการค้าและพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ในระหว่างปี 2549 - 2553 ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ทางการจีนได้ตรวจพบการละเมิดลิขสิทธิ์รวมทั้งสิ้น 265,000 กรณี คิดเป็นตัวเลขโดยเฉลี่ยที่ 53,00 กรณีต่อปี

 

นายฝูกล่าวนอกรอบการประชุมรัฐสภาว่า การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินยุทธศาสตร์ด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการกระตุ้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ

 

นายฝูกล่าวว่า จีนจะกวาดล้างการละเมิดลิขสิทธิ์และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการชอปปิ้งออนไลน์ โดยพุ่งเป้าไปที่การจำหน่ายสินค้าลอกเลียนแบบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้องใหม่รายงานตัว และขอขอบคุณ คุณทองใหม่ และทุกๆท่าน สำหรับข้อมูล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.ryt9.com/s/iq03/1107850

 

เงินบาทปิด 30.30/32 พรุ่งนี้มีโอกาสแข็งค่าต่อ มองกรอบ 30.20-30.35

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 14 มีนาคม 2554 17:23:25 น.

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.30/32 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอีกจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.36/38 บาท/ดอลลาร์

 

เงินบาทวันนี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากปัจจัยของหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปิดบวก โดยยังคงมีเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทย

 

ส่วนความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่นนั้น ยังคงต้องติดตามความเสียหายที่อาจจะมีเพิ่มมากขึ้นจากการระเบิดของของเตาปฏิกรณ์ปรมาณูในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพราะหลายฝ่ายต่างมีความกังวลในจุดนี้มาก

 

"คงต้องรอดูว่าเตาปฏิกรณ์ปรมาณูจะระเบิดอีกไหม ซึ่งใครๆ ก็คงขายดอลลาร์เข้าไปซื้อเงินเยนเพื่อให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 81.90 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรก็แข็งค่าขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ระดับ 1.3955 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน คาดว่าวันพรุ่งนี้เงินบาทยัง sideway และมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้อีก มองกรอบไว้ที่ 30.20-30.35 บาท/ดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.ryt9.com/s/prg/1107821

 

วายแอลจี ชี้เหตุแผ่นดินไหว-สึนามิญี่ปุ่นเพิ่มปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลก หนุนราคาทอง

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 14 มีนาคม 2554 17:00:12 น.

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--PRdd

 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึมานิถล่มญี่ปุ่นครั้งร้ายแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปัจจัยบวกอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาทองคำต่อไป เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอาจเข้าสู่สภาวะถดถอยในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเช่นกัน เพราะญี่ปุ่นถือว่าเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 3 ของโลกซึ่งมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ที่ 5.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ในขณะที่หลายฝ่ายยังมีความกังวลกับผลพวงของแผ่นดินไหวไม่ว่าจะเป็น การเกิดอาฟเตอร์ช็อคที่อาจสร้างความเสียหายเพิ่มเติมขึ้นได้อีกหรือไม่ ปัญหาของการเกิดระเบิดขึ้นที่เตาปฏิกรณ์ ที่โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ยังไม่มีการยืนยันถึงความปลอดภัยอย่างเป็นทางการ โดยหากสถานการณ์เลวร้ายถึงขนาดมีการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีในระดับร้ายแรงขึ้นแล้ว จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็นทวีคูณทันที ดังนั้นหากมองผลกระทบของการเกิดแผ่นดินไหวของญี่ปุ่นในแง่มุมต่อเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเป็นไปด้วยความอ่อนแอและยังปกคลุมไปด้วยความเสี่ยงนานัปการ การเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ก็คือการเพิ่มอีกปัจจัยเสี่ยงหนึ่งเข้ากดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแออยู่แล้วให้อ่อนแอไปอีก

 

นางพวรรณ์ กล่าวว่า สำหรับในระยะสั้นนักลงทุนอาจต้องจับตาดูราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์ดังกล่าวค่อนข้างส่งผลลบต่อราคาน้ำมันที่มีความสัมพันธ์กับราคาทองคำในทิศทางเดียวกัน หากราคาน้ำมันมีการอ่อนตัวลงจะส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามทางวายแอลจีเชื่อว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งราคาทองคำจะสามารถดีดตัวแยกออกจากราคาน้ำมันได้ในที่สุดจากคุณสมบัติการเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยนั่นเอง

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ทางวายแอลจียังแนะนำให้นักลงทุนระยะกลางและระยะยาวรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ประมาณ 20,100-20,200 บาทต่อบาททอง เพื่อทำกำไรบริเวณเป้าหมายที่ 1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 20,750 บาท/บาททองคำ และ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 20,150 บาท/บาททองคำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ คุณ ohani มากๆคะ ท ี่นําข่าวดีๆมาฝากนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดบวก $3.1 จากแรงซื้อเพื่อปกป้องความเสี่ยง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 15 มีนาคม 2554 06:56:20 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของสถานการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในญี่ปุ่นได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง แต่ราคาพลาตินัมและพัลลาเดียมร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ส่งผลให้บริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งต้องปิดโรงงาน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลบ 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,424.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,418.20-1,433.50 ดอลลาร์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 0.95 เซนต์ ปิดที่ 35.840 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 2.15 เซนต์ ปิดที่ 4.1735 ดอลลาร์/ปอนด์

 

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 29.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,752.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 17.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 748.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์ว่า นักลงทุนยังคงแห่ซื้อทองคำเพื่อปกป้องผลกระทบที่เกิดจากแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่น โดยในขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้อย่างแน่ชัดว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นและเศรษฐกิจโลกมากเพียงใด

 

นักวิเคราะห์บางกลุ่มมองว่า เนื่องจากโครงสร้างด้านสาธารณูปโภคในญี่ปุ่นได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหว จึงอาจทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นทุ่มงบประมาณมหาศาลในโครงการก่อสร้างและฟื้นฟูประเทศ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากความต้องการวัตถุดิบที่สูงขึ้นในญี่ปุ่นจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นและทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้นด้วย

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศอัดฉีดเงิน 7 ล้านล้านเยน (8.58 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดการเงินภายในประเทศเมื่อวานนี้ เพื่อบรรเทาความวิตกกังวลที่ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงอาจจะส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เม็ดเงินในระบบของญี่ปุ่นสูงขึ้น และอาจทำให้ญี่ปุ่นต้องตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบในวันข้างหน้า

 

สัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียมร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ส่งผลให้บริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งต้องปิดโรงงาน โดยพลาตินัมและพัลลาเดียมเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิต catalytic converter ในรถยนต์

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...