ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

บริษัทประกันเตรียมควักเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3.5 หมื่นล้านเหรียญ จ่ายพิบัติภัยในญี่ปุ่น

 

Posted on Tuesday, March 15, 2011

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อ. 15 มี.ค. 2554)

• ราคานำเข้า (ก.พ.) โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

• ราคาส่งออก (ก.พ.) โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

• ดัชนีราคาบ้าน (มี.ค.) โดย สมาคมผู้รับสร้างบ้านแห่งชาติสหรัฐฯ

• มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

 

ประกันเตรียมควัก 3.5 หมื่นล้านเหรียญจากพิบัติภัยในญี่ปุ่น

 

ผู้ให้คำปรึกษาและจัดทำโมเดลความเสี่ยง บริษัท AIR Worldwide เผยว่า เหตุแผ่นดินไหวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในญี่ปุ่นอาจทำให้ค่าสินไหมทดแทนจากการรับประกันภัย มีมูลค่าสูงถึง 35,000 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้จะยังไม่ได้นับรวมค่าความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มเติม

 

ตัวเลขดังกล่าวสูงเกือบเท่ากับค่าสินไหมทดแทนจากภัยพิบัติสำหรับอุตสาหกรรมประกันภัยทั่วโลกของทั้งปี 2553 และอาจเป็นเหตุการณ์ที่จะกดดันให้ค่าเบี้ยประกันภัยในตลาดสูงขึ้น หลังจากที่ซบเซามาหลายปี

 

แม้จะยังคงไม่แน่ชัดว่าใครเสียหายมากที่สุดจากเหตุการณ์นี้ในแง่เม็ดเงินประกัน แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า บริษัทประกันภัย อย่าง Chaucer และ AIG ไปจนถึงบริษัทผู้รับประกันภัยต่อ อย่าง Munich Re และ Swiss Re ล้วนตกเป็นเป้าหมายที่ต้องควักเงินจ่าย

 

AIR กล่าวว่า เงินที่บริษัทต้องจ่าย น่าจะอยู่ในช่วง 1.45 – 3.46 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งคิดจากมูลค่าประกันระหว่าง 1.2 – 2.8 ล้านล้านเยน ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ 81.85 เยนต่อหนึ่งดอลลาร์

 

อย่างไรก็ดี ทาง AIR เตือนว่า การประเมินดังกล่าวเป็นเพียงขั้นต้นเท่านั้น และโมเดลต่างๆของบริษัทก็ยังไม่ได้พิจารณาถึงผลกระทบจากสึนามิ ซึ่งเกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหว และที่สำคัญคือยังไม่รวมความเสียหายใดๆที่อาจเกิดขึ้นจากความเสียหายในเรื่องของนิวเคลียร์

 

การที่อาคารต่างๆ ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน 9 ริกเตอร์ครั้งนี้ ไปจนถึงการถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำจากคลื่นยักษ์ ทำให้ยากที่จะคำนวนตัวเลขที่แน่นอนได้

 

หากนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม อุตสาหกรรมประกันภัยโลกได้จ่ายค่าชดเชยความเสียหายไปแล้ว 10,000 ล้านเหรียญ จากเหตุแผ่นดินไหวในเมืองไครซ์เชิร์ช นิวซีแลนด์ แต่ก็ยังไม่ได้รวมตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมในออสเตรเลีย และค่าประกันความเสียหายจากเหตุจราจลในตะวันออกกลาง ที่มีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 8,000 - 10,000 ล้านเหรียญ

 

 

สรุปผลกระทบแผ่นดินไหว-สึนามิต่อเศรษฐกิจ

 

นักวิเคราะห์จำนวนมากมีมุมมองที่ตรงกันว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบในขณะนี้ เนื่องจากยังเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิตามมาอย่างต่อเนื่อง

 

แต่เบื้องต้นแล้ว จิม โอนีล ประธานโกลด์แมน แซคส์ แอสเซท เมเนจเมนท์ ได้ประเมินความเสียหายหลักๆในญี่ปุ่นไว้ 2 ด้านด้วยกัน

 

1) ความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีผลผลิตในสัดส่วน 8% ของ GDP ญี่ปุ่น เนื่องจากบริษัทผลิตรถยนต์หลายรายได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

 

2) ผลกระทบที่มีต่อซัพพลายเชนในตลาดโลก เมื่อระบบการขนส่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว กลุ่มผู้ผลิตในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆก็จะได้รับผลกระทบจากภาวะอุปทานขาดแคลนในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้

 

ถ้ามองต่อในระยะกลาง โอนีลมองว่าการฟื้นตัวส่วนใหญ่ของเศรษฐกิจญี่ปุ่นถูกขับเคลื่อนด้วยการส่งออก แต่ทันทีที่เงินเยนพุ่งขึ้น 1.4% หลังจากเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ ก็ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า เงินเยนที่แข็งค่าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมส่งออกของญี่ปุ่น

 

ส่วนภาพในระยะยาวขึ้นมาหน่อยนั้น นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามินั้น อาจสร้างความเสียหายให้กับสถาบันการเงินในญี่ปุ่นซึ่งแบกรับภาระหนี้สินหนักอยู่ก่อนแล้ว และจะส่งผลให้ญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นและอาจทำให้ต้นทุนการระดมทุนของรัฐบาลสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์จากมูดีส์ อนาไลติคส์ เชื่อว่า การบูรณะฟื้นฟูในญี่ปุ่นจะช่วยกระตุ้นการค้าทั่วโลกให้ฟื้นตัวขึ้น

 

 

BOJ อัดฉีดเงินฉุกเฉิน ขณะรัฐเร่งป้องเตานิวเคลียร์

 

ทางด้านความช่วยเหลือภาคการเงิน ธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจอัดฉีดเม็ดเงินในจำนวนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ถึง 15 ล้านล้านเยน หรือ 183,000 ล้านเหรียญ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน พร้อมกันนั้น ยังได้ขยายโครงการซื้อสินทรัพย์จากพันธบัตรรัฐบาล ให้รวมถึงกองทุนประเภท ETF อีก 5 ล้านล้านเยนด้วย

 

ขณะที่ นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า ระบบการเงินของญี่ปุ่นไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ระบบการชำระบัญชีที่สถาบันการเงินหลักๆ สามารถทำงานได้เป็นปกติ ซึ่งเป็นการปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าเกิดความผิดปกติขึ้นกับระบบการเงินของประเทศ

 

 

สหรัฐฯส่งผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ช่วยเหลือญี่ปุ่น

 

ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้ส่งคณะเจ้าหน้าที่ตอบสนองความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ หรือ DART ไปยังกรุงโตเกียว หลังจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่งของญี่ปุ่นได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

 

ทีมงานดังกล่าวประกอบไปด้วย 1) ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์จากกระทรวงพลังงาน 2) ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานบริการด้านสุขภาพและมนุษยชน และ 3) คณะกรรมการกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ หรือ NRC โดยสมาชิกของ NRC เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบ boiling water

 

ทั้งนี้ ข้อมูลของ NRC ระบุว่า รัฐฮาวาย, อะแลสก้า, เขตแดนต่างๆในสหรัฐ และชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ อาจจะไม่ได้รับความเสียหายจากกัมมันตภาพรังสี นอกจากนี้ สหรัฐและญี่ปุ่นยังมีศักยภาพสูงมากในการติดตามสถานการณ์และการคาดการณ์เส้นทางกัมมันตภาพรังสีที่ไหลออกจากเตาปฏิกรณ์

 

 

“สิงคโปร์-ไต้หวัน” ตรวจเข้มอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่น

 

สิงคโปร์ และไต้หวัน สั่งตรวจสอบอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสี หลังเตาปฏิกรณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเกิดระเบิดขึ้น องค์การอาหารเกษตรและสัตวศาสตร์สิงคโปร์ (AVA) เปิดเผยว่า อาหารจากญี่ปุ่นส่วนมากถูกนำเข้าทางเรือ แต่ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นบางแห่งจะใช้วัตถุดิบที่ขนส่งทางอากาศเพื่อความสดใหม่ เช่น ปลาดิบ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของ ซูชิ และ ซาชิมิ

ปีที่แล้วสิงคโปร์นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่าราว 33,300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (7.9 แสนล้านบาท)

 

ล่าสุด องค์การอาหารและยาของไต้หวันก็เตรียมตรวจสอบอาหารที่นำเข้าจากญี่ปุ่นแล้วเช่นกัน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการออกข้อบังคับดังกล่าว

 

 

บริษัทไฟฟ้าญี่ปุ่นปรับแผนจ่ายไฟใหม่

 

บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ (TEPCO) เปิดเผยว่า บริษัทงดจ่ายไฟฟ้าในบางพื้นที่บริการตั้งแต่เวลา 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียววานนี้ (15.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เป็นเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ หลังจากที่กรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงได้ช่วยกันประหยัดไฟ จนท้ายที่สุดก็ทำให้บริษัทสามารถเลื่อนเวลาในการหยุดจ่ายไฟได้จากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะมีการระงับการจ่ายไฟในช่วงเช้าวานนี้ (14 มี.ค. 54)

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ได้มีการแบ่งพื้นที่กรุงโตเกียวและจังหวัดอื่น ๆ อีก 8 จังหวัดออกเป็น 5 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เป็นเวลา 3-6 ชั่วโมง หมุนเวียนกันไป แต่บางพื้นที่ก็ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่ได้มีการคาดการณ์เพราะประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงาน

 

 

โตโยต้าญี่ปุ่นหยุดการผลิตในทุกโรงงานจนถึงวันพุธ

 

โตโยต้า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่นจะระงับการผลิตที่โรงงานในประเทศทุกแห่งตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพุธ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและครอบครัวของพนักงานในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว รวมทั้งโรงงานบางแห่งยังประสบปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ และความไม่แน่นอนต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ยอดการผลิตรถของโตโยต้าลดลง 40,000 คัน

 

ขณะที่ ฮีโน่ มอเตอร์ส และไดฮัทสุ มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถในเครือของโตโยต้าจะระงับการผลิตด้วยเช่นกัน ขณะที่บริษัทอีซูซุ มอเตอร์ส จะระงับการผลิตที่โรงงานในประเทศตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันศุกร์

 

 

จีนย้ำเป้าหมายเศรษฐกิจโต 7% ต่อปี ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือรัฐสภาจีนได้อนุมัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ระยะเวลา 5 ปีแล้วในการประชุมวานนี้ (14 มี.ค.54)

 

นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน กล่าวภายหลังการประชุมสิ้นสุดลงว่า จะไม่มีการนำ “แผนพัฒนาดังกล่าว” มาใช้แทนที่ “แผนพัฒนาของฮ่องกง”

 

นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวต่อไปว่า เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการจีนเดียว 2 ระบบต่อไป ชาวฮ่องกงจะเป็นผู้บริหารฮ่องกงเอง และยังมีอิสระในการปกครองตนเองอยู่ในระดับสูง ส่วนจีนจะดำเนินการอย่างสอดคล้องกับกฎหมายพื้นฐานอย่างเข้มงวด

 

นายเหวินกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จีนจะบรรลุเป้าหมายอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 7% ต่อปี ในช่วงปี 2554-2558 เนื่องด้วย 1) เศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ของจีนได้มีการรวมตัวกันมากขึ้น ประกอบกับ 2) มีความจำเป็นต้องเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของการเติบโต ดังนั้น อัตราการเติบโตที่ 7% จึงไม่ใช่เป้าหมายที่ต่ำ

 

ทั้งนี้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีฉบับใหม่ของจีน ได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตเหลือ 7% ต่อปี ในช่วงปี 2554 - 2558 จากเป้าหมาย 7.5% ในช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้

 

นายเหวินกล่าวเสริมว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นแต่ก็นำไปสู่แรงกดดันจากเงินเฟ้อมากขึ้น ขณะที่การเติบโตที่ช้าลงหมายถึงการจ้างงานที่ลดลงและความเสี่ยงต่อภาวะถดถอย ดังนั้น จีนต้องสร้างสมดุลระหว่างอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ การสร้างงาน และการควบคุมเงินเฟ้อ

จีนจะปล่อยเงินหยวนยืดหยุ่นมากขึ้น

 

นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนจะค่อยๆเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน แต่การแข็งค่าของเงินหยวนนั้น จะต้องเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและเพิ่มแรงกดดันให้กับบริษัทและการจ้างงานมากขึ้น ในขณะที่จีนต้องรักษาเสถียรภาพทางสังคมโดยรวม

 

ทั้งนี้ เงินหยวนแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 57.9% จากระดับปี 2547 และนับตั้งแต่ปีดังกล่าว จีนก็ได้ปฏิรูปกลไกจัดตั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนครั้งสำคัญถึง 3 ครั้ง

 

 

เงินเฟ้ออินเดียเดือนก.พ.พุ่งเกินคาดแตะ 8.3%

 

กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดียเผยอัตราเงินเฟ้อปรับตัวเร็วขึ้นสู่ระดับ 8.3% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับเดือนม.ค.ที่ 8.23% อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินคาดและบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางอินเดียอาจเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายสัปดาห์นี้

 

การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อแสดงให้เห็นว่า เงินเฟ้อด้านราคาอาหารได้คลี่คลายลง โดยราคาอาหารในเดือนก.พ.นั้น มีอัตราการขยายตัว 10.65% จากระดับ 15.65% ในเดือนม.ค. แต่อัตราเงินเฟ้อด้านการผลิตถีบตัวขึ้น 1.3% จากเดือนม.ค. เนื่องมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ดีดตัวสูงขึ้น

 

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...