ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

มาเติมพลังให้แล้วนะคะ อรุณสวัสดิ์คะ อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

post-237-002582000 1280800899.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เจ่าฃันฮ่าว เหล่าฃือทองใหม่ เล่นคอมพ์เพลินๆดีแล้วมีอะไรทำเดี๋ยวก็หมดวัน กำลังใจสำคัญไม่ว่าป่วยหรือไม่ป่วยทุกคนมองในแง่บวก ยิ้ม หัวเราะให้โลกสดใส รักษาสุขภาพนะคะ ขอบคุณทุกตัวอักษรที่เหล่าฃือมอบให้ทุกวัน เสี้ยๆหนี่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ครับ อ. ทองใหม่ และเพื่อนๆ ทุกท่าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ

 

สบายดีนะคะ แวะมาดูข้อมูลค่ะ 1165 - 1198 ขอบคุณค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วายแอลจี แนะนักลงทุนวางแผนสะสมซื้อทองคำเพื่อลงทุนระยะยาวในช่วงนี้

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 3 สิงหาคม 2553 09:06:57 น.

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--PRdd

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่สามแล้วที่ราคาทองคำได้ลดกรอบการเคลื่อนไหวลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำได้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,156 - 1,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากก่อนหน้านี้ที่เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,175 -1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าราคาทองคำยังคงทำ NEW LOW อยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่เหมาะสมกับการเข้าสะสมทองคำ แต่สำหรับการลดกรอบการเคลื่อนไหวลงมาในครั้งนี้ จะแตกต่างกับครั้งก่อนๆตรงที่ได้เกิดสัญญาณ OVERSOLD ของ STOCHASTIC รายสัปดาห์ ซึ่งบ่อยครั้งที่เกิดสัญาณดังกล่าวแล้วราคาทองคำจะมีการดีดตัวกลับ หรือหากไม่ดีดตัวกลับก็จะทำให้กรอบการลงของราคาทองคำมีอย่างจำกัด ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อหรือเริ่มวางแผนสะสมซื้อทองคำเพื่อการลงทุนในระยาว เนื่องจากทางวายแอลจีเชื่อว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ราคาทองคำได้สะท้อนถึงความกังวลต่อความเสี่ยงระยะสั้นของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแล้ว ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้และจะเป็นการปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยปัจจัยหนุนจากความเสี่ยงในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นปัญหาการขาดดุลงบประมาณในประเทศต่างๆที่มีอยู่ในระดับสูง ปัญหาการคาดกาณ์สภาวะเงินเฟ้อในอนาคตจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐอเมริกาที่ขยายตัวในอัตรา 2.4% โดยชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรก และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ซึ่งถือว่าเป็นอีกปัจจัยเศรษฐกิจหนึ่งที่ยืนยันถึงสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐว่ายังคงถูกปกคลุมไปด้วยความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวในระยะยาวแม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะติดลบเป็นเดือนที่ 3 แล้วก็ตาม แต่คาดว่าในที่สุดประเด็นด้านเงินเฟ้อจะกลับมาเป็นประเด็นหลักที่จะผลักดันให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เนื่องจากการอัดฉีดปริมาณเงินจำนวนมหาศาลเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากปัญหาวิกฤติซับไพร์ม ดังนั้นนักลงทุนระยะยาวควรวางแผนเพื่อเข้าสะสมทองคำในช่วงนี้ สำหรับกองทุน SPDR ในปีนี้ ได้ขายทองคำออกไปแล้วจำนวน 38.157 ตัน คิดเป็นสัดส่วนเพียง 19.91 % จากปริมาณซื้อสะสมในปีนี้ทั้งสิ้นที่ 191.691 ตัน ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องติดตามการถือครองทองคำของ SPDR หากกองทุนชะลอการลดการถือครองลงก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่สะท้อนถึงดุลยภาพระยะสั้นของราคาทองคำนั่นเอง

 

สำหรับสัปดาห์นี้ทางวายแอลจีให้กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไว้ที่ 1,138 — 1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งแนะนำให้นักลงทุนหาโอกาสสะสมซื้อทองคำเมื่อราคาย่อตัว โดยทางวายแอลจีให้กรอบแนวรับแนวต้านของการเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้ดังตารางที่ 1

 

ตาราง 1: สรุปแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญในสัปดาห์นี้

แนวรับ2 แนวรับ1 แนวต้าน1 แนวต้าน2

1,138 1,156 1,203 1,218

ที่มา : YLG Bullion & Futures

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำปิดบวก 1.50 เหรียญ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อน

 

Posted on Tuesday, August 03, 2010

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักช่วยพยุงสัญญาทองคำให้สามารถปิดในแดนบวกได้ อย่างไรก็ตาม ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงลดน้อยลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัวในเดือนก.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 200 จุด

 

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.ของสหรัฐ ขยายตัวที่ระดับ 55.5 จุด ซึ่งแม้ว่าน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 56.2 จุด และทำสถิติขยายตัวน้อยลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แต่ยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

 

นักวิเคราะห์บางกลุ่มกังวลว่า ภาคการผลิตอาจขยายตัวช้าลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังคงซบเซา และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/53 ของสหรัฐฯ ขยายตัวในอัตรา 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาส 1/53 ที่ผ่านการทบครั้งใหม่ว่าขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี

 

- ทองคำ ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดที่ 1,185.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+1.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

- เงิน ส่งมอบเดือนกันยายน ปิดที่ 18.419 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.41 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ ช่วงนี้ฝนตกบ่อยรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

morning ค่ะ อจ.ทองใหม่ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเดี๋ยวจะไม่สบายค่ะ

ขอบคุณสำหรับข่าวภาคเช้าค่าาาาาาาา :D :D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 3 ส.ค.53

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 3 สิงหาคม 2553 10:09:22 น.

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

GOLD Market Recap : 02/08/2010คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFM10 ซื้อในช่วงราคา 18110 — 18140 ขายในช่วงราคา 18200 - 18230

GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18210 - 18240 ขายในช่วงราคา 18310 — 18340

SWING TRADER

ทิศทางราคาทองคำกลับมาเป็นแนวโน้มSIDEWAY UPโดยมีแนวรับและแนวต้านที่ 1175เหรียญและ1190เหรียญ คำแนะนำนักลงทุนรายวันให้เก็งกำไรในภาวะSIDEWAY UPคำแนะนำนักลงทุนรายสัปดาห์แนะนำขายทำกำไรบางส่วนเพื่อรอจังหวะเช้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

 

GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18150รอขายที่ระดับ 18300

ปัจจัยสำคัญ

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ขยายตัวที่ระดับ 56.7 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 55.6 จุด ดัชนีที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตในยุโรปยังคงมีการขยายตัว และสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออกของยุโรปยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาค

 

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.ของสหรัฐ ขยายตัวที่ระดับ 55.5 จุด น้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 56.2 จุด และทำสถิติขยายตัวน้อยลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว

 

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำ 1,282.279 ตัน ในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2ส.ค. เท่าเดิมจากระดับของวันที่ 28 ก.ค.

 

GOLD Market Recap : 02/08/2010

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,182 $ ส่วน Gold Future Q10 เปิดที่ 18,140 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 18,100 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำอยู่ในทิศทางขาลง ในช่วงเช้าราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,180 - 1,183 $ สำหรับช่วงบ่าย ราคาทองคำแกว่งตัว Side way Down หลุดแนว 1,180 $ ลงมา ปิดตลาด Gold Future Q10 ปิดตลาดที่ 18,120 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่ง ปรับลง 50 บาท ปิดตลาดอยู่ที่ 18,050 นักลงทุนซื้อขายทำกำไรอย่างหนาแน่น เนื่องจาก Gold Spot รีบาวน์กลับหลังจากร่วงลงมาจากอาทิตย์ที่แล้ว

 

NIGHT RECAP : ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1183 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1177 - 1184 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1178 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1190 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1181 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

03 ส.ค. 2553

 

 

บาท/ดอลลาร์เช้านี้แข็งค่า ตามสกุลเงินเอเชีย แต่คาด ธปท.เข้าดูแล

 

 

*บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าแข็งค่าจากช่วงท้ายตลาดเมื่อวันจันทร์ ตามทิศทาง

สกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ขณะที่นักลงทุนกล้าที่จะลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

ตามข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกที่แข็งแกร่ง

*แต่ดีลเลอร์คาดว่า เงินบาทจะแข็งค่าไม่รวดเร็วนัก ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย

(ธปท.) อาจเข้าชะลอการแข็งค่าของเงินบาท หากปรับตัวเร็วเกินไป

*ดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน

ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ จากมุมมองที่ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจ

สหรัฐกำลังถดถอยลง และจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต้องตรึง

อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ

*ยูโรปรับตัวแข็งแกร่งใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากพุ่งทะลุระดับ

สำคัญในการฟื้นตัวทางเทคนิค และได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

เพิ่มขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งทั่วโลก

*ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทยุโรป ยังดันปอนด์ขึ้นสู่ระดับสูงสุด

ในรอบ 6 เดือน เมื่อเทียบกับดอลลาร์

*การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากเอชเอสบีซีและบีเอ็นพี พาริบาส์

ช่วยเพิ่มความต้องการเสี่ยง และหนุนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้

*ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนและข้อมูลที่แข็งแกร่งจากยุโรป ทำให้นักลงทุนมีความหวัง

ว่า เศรษฐกิจโลกจะสามารถขยายตัว แม้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอลง ซึ่ง

หนุนความต้องการสกุลเงินที่มีความเสี่ยง

*09.25 น. บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 32.16/21 จาก 32.20/25 เมื่อวันจันทร์

ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 32.171/201 จาก 32.20/25 เมื่อวันจันทร์

*เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 86.34/38 จาก 86.45 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อคืน

*ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.3162/65 จาก 1.3169 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อคืน

 

 

"เงินบาทช่วงนี้มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มแข็งค่าตามทิศทางสกุลเงิน

อื่นๆ ในเอเชีย เนื่องจากทั่วโลกมั่นใจในเรื่อง risk taking มากขึ้น เงินบาทก็เลย

กลับมาถึงรอบที่จะแข็งค่าอีกครั้ง" ดีลเลอร์กล่าว

แต่ดีลเลอร์ กล่าวว่า เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะ

มีธนาคารกลางเข้ามาแทรกแซงตลาด เพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป

ดีลเลอร์มอง เงินบาทในวันนี้น่าจะเคลื่อนไหวในช่วง 32.15-32.20

 

แหล่งที่มา(โดย กิติพงศ์ ไทยเจริญ รายงาน; บุญฤทธิ์ รัตนวราภรณ์ เรียบเรียง--ฉก--)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...