ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เกาหลีใต้ซ้อมรบครั้งใหม่อีกวันนี้ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ

เขียนโดย ถิรัต คุณานิธิพงศ์

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2010 เวลา 05:06 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้ (22 ธ.ค.)ว่ารัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศจะจัดการซ้อมรบครั้งใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยการซ้อมรบทั้งภาคพื้นดินและการซ้อมทางอากาศ โดยมีทหาร 800 นาย กองทหารปืนใหญ่และเครื่องบินรบเข้าร่วมการซ้อมในวันพฤหัสบดี(23 ธ.ค.) พร้อมๆกับที่มีการซ้อมรบกองทัพเรือที่จะเริ่มซ้อมกันตั้งแต่วันพุธ ( 22 ธ.ค.)นี้

 

โฆษกของกองทัพเกาหลีใต้กล่าวว่าการซ้อมในวันพฤหัสบดีจะมีขึ้นที่โปชอน ห่างจากเส้นเขตแดนของทั้งสองฝั่ง 20 กิโลเมตรและห่างจากกรุงโซลไป 50 กิโลเมตร โดยโฆษกของกองทัพกล่าวด้วยว่าเคยมีการซ้อมรบที่โปชอนหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้จะเป็นการซ้อมครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา

 

“เราจะมีเครื่อง F-15 และเครื่องช็อปเปอร์เข้าร่วมการซ้อมด้วย และสามารถกล่าวได้ว่าอาวุธที่ใช้ในการซ้อมครั้งนี้ส่วนใหญ่จะใช้กระสุนจริงยิงครับ”โฆษกจากกองทัพเกาหลีใต้กล่าว

 

“เราจะโต้กลับแบบเต็มรูปแบบถ้าเกาหลีเหนือมีพฤติกรรมยั่วยุเหมือนที่ยิงปืนใหญ่ใส่เกาะยอนเปียงอีกครั้ง”นายชู ยุน ซิค ผู้บัญชาการกองพันยานเกราะที่หนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวในเกาหลีใต้

 

ส่วนความคืบหน้าในด้านการเจรจาเพื่อหาทางทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดลดลง หลังจากที่นายบิล ริชาร์ดสันผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโกจากสหรัฐเดินทางกลับจากเกาหลีเหนือ และกล่าวว่าเกาหลีเหนือตกลงที่จะยินยอมให้สหประชาชาติส่งตัวแทนเข้าไปตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ต่างๆในประเทศนั้น จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการรายงานหรือออกมาให้ความเห็นใดๆอย่างเป็นทางการจากเกาหลีเหนือทั้งสิ้น

 

โดยประเทศจีนก็ได้ออกมากล่าวเตือนให้เกาหลีเหนือเชิญเจ้าหน้าที่จากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เข้าสู่ประเทศ ขณะที่นายโรเบิร์ต กิบส์โฆษกจากทำเนียบข่าวได้ให้สัมภาษณ์ต่อท่าทีดังกล่าวว่า

 

“การเจรจาหกฝ่ายจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ก็ต่อเมื่อเกาหลีเหนือแสดงความจริงใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขา”

 

ทั้งนี้การเจรจาหกฝ่ายต้องล้มเลิกไปในเดือนเมษายนปี 2009 หลังจากที่เกาหลีเหนือล้มเลิกการเจรจาและไล่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากสหประชาชาติออกจากประเทศ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Good Morning ka!

 

วันนี้ได้อ่านข่าวแต่เช้าคะ

ดีใจจัง :D

+1ให้นะคะ

จะแวะเข้ามาupdateข่าว บทวิเคราะห์นะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์เช่นกันครับ รู้สึกว่าตลาดจะชินกะข่าวสองเกาหลีแล้วหรือยังครับอาจารย์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

good morning เช่นกันคร้า เดี๋ยวไปทำงาน แล้วคร้า :P

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 26.33 จุด หลังสหรัฐเพิ่มประมาณการ GDP Q3/53

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2553 06:38:37 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) ขานรับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และยอดขายบ้านมือสองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 26.33 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 11,559.49 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.24 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 1,258.84 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 3.87 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 2,671.48 จุด

 

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.6 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 1 ต่อ 3

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยการประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งสุดท้าย โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 2.6% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.5% ต่อปี หลังจากภาคเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้ามูลค่า 1.214 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งการเพิ่มสต็อกสินค้าในภาคเอกชนมีส่วนช่วยหนุนจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวราว 1.61%

 

แม้จีดีพีไตรมาส 3 อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.8% แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่า จีดีพีสหรัฐจะขยายตัวรวดเร็วขึ้นในไตรมาส 4 และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2554 หลังจากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ประชาชนที่ว่างงานหลายล้านคนออกไปอีก 13 เดือน โดยมาตรการลดหย่อนภาษีมีมูลค่ารวม 8.58 แสนล้านดอลลาร์

 

นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5.6% แตะที่ระดับ 4.68 ล้านหลัง จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 4.43 ล้านหลัง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของแฟคเซ็ทคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.75 ล้านหลัง

 

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง เพราะได้แรงหนุนจากข่าวควบรวมกิจการในภาคธนาคาร นำโดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 3.1% ส่วนดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาคพุ่งขึ้น 3.7%

 

หุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด ปิดลบ 1% หุ้นวอลกรีนซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจร้านจำหน่ายยารายใหญ่ของสหรัฐ ปิดบวก 5.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 18.8% ในเดือนที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นไนกี้ อิงค์ ปิดลบ 5.3% แม้บริษัทเปิดเผยรายได้ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก็ตาม

 

นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทกล่าวว่า เดือนธ.ค.ถือเป็นหนึ่งในเดือนที่นักลงทุนเข้าเทรดกันมากที่สุด โดยดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นไปแล้ว 6.6% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นโดยรวม 5%

 

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขยายการทำข้อตกลงสว็อปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับธนาครกลางแคนาดา ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางสวิส ออกไปจนถึงเดือนส.ค.2554 โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับภาวะตึงตัวในตลาดการเงินในยุโรป อันเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้สาธารณะ และเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านการเงินทั่วโลก

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เฟดได้กลับมาจัดตั้งกองทุนสว็อปค่าเงินอีกครั้งหลังจากที่เคยดำเนินการในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินโลกปี 2551-2552 ซึ่งข้อตกลงที่เฟดทำร่วมกับธนาคารกลางทั้ง 5 กำหนดว่า เฟดจะต้องอัดฉีดเงินกู้เข้าสู่ตลาดการเงินของประเทศเหล่านี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งเหมือนกับที่เคยดำเนินการเมื่อปี 2551-2552

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันพฤหัสบดี โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

*ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 24 ธ.ค.นี้เนื่องในวันคริสต์มาส

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไร ฉุดทองคำปิดลบ 1.40 ดอลลาร์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2553 07:15:41 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน โดยในปีนี้สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 27%

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,387.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,385.30 - 1,391.70 ดอลลาร์

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 29.385 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.1 เซนต์ ปิดที่ 4.275 ดอลลาร์/ปอนด์

 

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 9.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,730.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 755.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า ปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำปิดลบเมื่อคืนนี้มาจากการที่ตลาดเข้าสู่ระยะพักฐานในช่วงปลายปี และจากการที่นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน โดยในปีนี้สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 27% และทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายที่คึกคักในตลาดหุ้นยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำและย้ายฐานเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์ที่ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 เป็นขยายตัว 2.6% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.5% ต่อปี

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปิดลบเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า วิกฤตหนี้สาธารณะจะลุกลามในยุโรป หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ พร้อมกับเตือนว่าฟิทช์อาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของกรีซลงสู่ "สถานะขยะ" หรือ "สถานะที่ไม่น่าลงทุน" จากปัจจุบันที่ระดับ BBB- ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของ "สถานะที่น่าลงทุน"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก 66 เซนต์ ขานรับสต็อกน้ำมันดิบร่วงเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2553 06:55:35 น.

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ร่วงลงเกินคาด ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐจะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังขานรับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3

 

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 66 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 90.48 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 89.85-90.80 ดอลลาร์

 

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.21 เซนต์ ปิดที่ 2.5285 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 2.60 เซนต์ ปิดที่ 2.4245 ดอลลาร์/แกลลอน

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ ปิดที่ 93.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 17 ธ.ค.ร่วงลง 5.33 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 340.69 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล

 

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 589,000 บาร์เรล แตะที่ 160.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แตะที่ 217.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.3% แตะที่ 87.7% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

 

นักวิเคราะห์มองว่า สต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้วเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในหลายภูมิภาคของสหรัฐ ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะปรับเพิ่มการผลิตในปีหน้า เนื่องจากความต้องการน้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย IEA คาดว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2554 จะอยู่ที่ 88.8 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 260,000 บาร์เรลจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

 

นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับกระทรวงพาณิชย์ที่ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 เป็นขยายตัว 2.6% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.5% ต่อปี หลังจากภาคเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้ามูลค่า 1.214 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งการเพิ่มสต็อกสินค้าในภาคเอกชนมีส่วนช่วยหนุนจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวราว 1.61%

 

ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5.6% แตะที่ระดับ 4.68 ล้านหลัง จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 4.43 ล้านหลัง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของแฟคเซ็ทคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.75 ล้านหลัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อีทีเอฟขายทอง9.41ตัน

 

อีทีเอฟ ขายตอนกลางวันหรือกลางคืนคะ ทำไมกราฟไม่เห็นเขยิบมากมายอะไรเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...