ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

อรุณสวัสดิ และโชคดีด้วย คะ อาจารย์ !thk !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บาทเปิดตลาดที่ระดับ32.42-32.45บาทต่อดอลลาร์

วันพุธที่ 07 กรกฏาคม 2010 เวลา 09:18 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยรายงานเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เปิดตลาดวันนี้ (7 ก.ค.) ที่ระดับ 32.42-32.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดวานนี้ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคขยับตัวแข็งค่าตามเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ส่วนบาทต่อยุโรอยู่ที่ 40.82-40.97 บาทต่อยูโร

ซีไอเอ็มบีไทย สรุปสถานการณ์ตลาดเงิน เมื่อ 6 ก.ค. บาท/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้(6 ก.ค.) เงินบาทแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบแคบ โดยอ่อนค่าลงเล็กน้อยสวนทางกับทิศทางของสกุลเงินภูมิภาค และยูโรที่ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้น ขณะที่ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆ มาชี้นำทิศทางในระยะต่อไป ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า ขณะนี้มีความจำเป็นน้อยลงที่จะรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ให้อยู่ในระดับต่ำ พร้อมระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ภายในปีนี้

 

เยน/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้(6 ก.ค.) เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง โดยเงินเยนได้รับแรงหนุนจากรายงานของหนังสือพิมพ์ นิกเกอิ ที่ว่า จีนได้เพิ่มการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น(เจจีบี) ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ โดยซื้อเจจีบีระยะสั้นสุทธิ 5.41 แสนล้านเยน นอกจากนี้ เงินเยน ซึ่งเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัย ก็ได้ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุลหลังจากนายเคนเน็ธ โรกอฟฟ์ นักเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด กล่าวต่อบลูมเบิร์ก เทเลวิชันว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังเริ่มทรุดตัวลงแล้วซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อภาคธนาคาร

 

ยูโร/ดอลลาร์ เมื่อวานนี้(6 ก.ค.) เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยดอลลาร์ถูกกดดันจากรายงานกิจกรรมทางธุรกิจที่ซบเซาในภาคบริการของสหรัฐ ส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เปิดเผยว่า ภาคบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.เป็นเดือนที่ 6 ติด ต่อกัน แต่อัตราการขยายตัวชะลอลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.อย่างไรก็ตามนักลงทุนบางส่วนยังรอดูการแก้ปัญหาทางการเงินของยุโรปอย่างต่อเนื่อง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Morning คะ อาจารย์ทองใหม่ ทองร่วงฮ่าๆๆ โซดาออกมะทัน ดอย สูงเฉียดฟ้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนะนำตัวคะ honfour เพิ่งเป็นสมาชิก และ เพิ่งเข้าไปตลาดทอง ไปที่ราคา 18650 มาวันนี้ ร่วงให้ชื่นใจ ตั้งแต่แรกเลยคะ เล่นไม่เยอะคะ ลองดู ไม่เสียหายอะไรนะ เท่าที่ศึกษาดู พอมีแนวโน้ม จะขึ้นให้ตัดออกเมื่อไหร่ึคะเนี่ย ท่านผู้รู้

ยีนดีต้อนรับจ้า

post-237-005411700 1278469581.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณน่ะค่ะ สำหรับข้อมูลที่แนะปึ๊ก และขอบคุณ คุณทองใหม่ผู้มีจิตใจที่ดีงาม ได้เข้ามาหาความรู้ที่่กระทู้นี้นานแล้ว แต่ยังไม่เคยขอบคุณ คุณเลย(เพราะไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องคอมพิวเตอ์รแต่ได้พยายามหัดและศึกษา โดยการให้หลานหลานๆสอน ขอขอบคุณจากใจจริง) :P :P :P !01 !01 !01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองร่วง200บาท ทองแท่งขายที่บาทละ18,450บ./รูปพรรณเหลือบาทละ18,850บ.

วันพุธที่ 07 กรกฏาคม 2010 เวลา 09:40 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำแท่งและรูปพรรณวันนี้ (7 ก.ค.) ทองคำแท่งซื้อคืนที่บาทละ 18,350 บาท และขายออกที่บาทละ 18,450 บาท ทองรูปพรรณ ซื้อคืนที่บาทละ18,085.88 บาท และขายออกที่บาทละ18,850 บาท

 

ราคาทองวันนี้ลดลง 200 บาท เมื่อเทียบกับราคาเมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ขายออกทองแท่งที่บาทละ 18,650 บาท และราคาทองรูปพรรณขายออกที่ 19,050 บาท

 

ขณะที่ราคาทองในตลาดต่างประเทศปิดตลาดเมื่อคืนนี้ปรับลดลง 12.60 ดอลลาร์สหรัฐ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณน่ะค่ะ สำหรับข้อมูลที่แนะปึ๊ก และขอบคุณ คุณทองใหม่ผู้มีจิตใจที่ดีงาม ได้เข้ามาหาความรู้ที่่กระทู้นี้นานแล้ว แต่ยังไม่เคยขอบคุณ คุณเลย(เพราะไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องคอมพิวเตอ์รแต่ได้พยายามหัดและศึกษา โดยการให้หลานหลานๆสอน ขอขอบคุณจากใจจริง) :P :P :P !01 !01 !01

ยีนดีครับ ไม่เป็นไรครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากๆค่ะ !01 !01 !01 รักษาสุขภาพด้วยค่ะ !10

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำร่วง 12 เหรียญ สวนทางตลาดหุ้น-ค่าเงินยูโร

 

Posted on Wednesday, July 07, 2010

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเพื่อเข้าเทรดในตลาดหุ้นและตลาดปริวรรตเงินตรา หลังจากตลาดหุ้นและสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่ให้ความสนใจต่อข้อมูลภาคบริการที่อ่อนแอของสหรัฐฯ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีภาคบริการและกิจกรรมทางธุรกิจเดือนมิ.ย.ขยายตัวที่ระดับ 53.8 จุด ซึ่งแม้ว่าดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดจะบ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงมีการขยายตัว แต่ดัชนีเดือนมิ.ย.ขยายตัวในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 55.4 จุด และต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 67.7 จุดของเมื่อปี 2547

 

- ทองคำ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 1,195.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-12.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

- เงิน ส่งมอบเดือนกันยายน ปิดที่ 17.857 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.13 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หยิบเงินหยิบทอง : บล.กิมเอ็ง

วันพุธที่ 07 กรกฏาคม 2010 เวลา 09:52 น. บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

กลยุทธ์วันนี้ Time for Big Cap, Finally!

ประเด็นสำคัญวันนี้ SET Index วานนี้ทะลุแนวต้าน 808-810 จุด ปิดที่ 815.52 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท นำมาด้วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และท้ายที่สุดกลุ่มธนาคารกลับมาเป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจอีกครั้ง อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการเช่นกัน

 

มุมมองต่อ SET INDEX วันนี้เชื่อว่าจะไต่ระดับขึ้นสู่บริเวณ 820 จุด ด้วยบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกในเช้าวันนี้ หลังตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดบวกกว่า 3% และ DJIA +0.6% หลังจากปรับฐานลงตลอดสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมา การเกิด Technical Rebound และตัวเลขเศรษฐกิจที่ทยอยประกาศออกมานั้นเป็นกลาง ทำให้แรงกดดันต่อการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มจำกัดมากขึ้น ขณะที่เกิดแรงเก็งกำไรต่องบการเงิน 2Q53 ของบริษัทใน DJIA ซึ่งจะเริ่มรายงานตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.

 

 

 

ทั้งนี้ KimEng เชื่อว่าเม็ดเงินทุนต่างชาติจะยังคงอยู่ในตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยต่อไปอีกระยะหนึ่ง หลังจากการขายหุ้น Agriculture Bank เสร็จสิ้นลงวานนี้ บวกกับสัปดาห์หน้าธนาคารไทยจะเริ่มประกาศงบ 2Q53 และการประชุมกนง.วันที่ 14 ก.ค. ต่างเอื้อต่อการลงทุนในกลุ่มธนาคารแทบทั้งสิ้น ตามที่ KimEng ประเมินไว้ก่อนหน้านี้

 

ขณะที่กลุ่มพลังงานเชื่อว่าจะไต่ระดับขึ้นตามทิศทาง SET INDEX นักลงทุนที่มีหุ้นในกลุ่มพลังงาน KimEng เสนอให้ถือหุ้น เพื่อรอจังหวะขายทำกำไรจากการขยับขึ้นของ SET INDEX ในรอบนี้

 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: KimEng เสนอให้ “ถือพอร์ตการลงทุน” และเสนอให้ “เริ่มขายทำกำไรหุ้นขนาดกลาง” AP / KCE/ RCL และ “ซื้อเก็งกำไร” MINT / THAI

การลงทุนทางเลือก: แนะนำให้นักลงทุน “พิจารณาเปิดสถานะ Long ใน S50U10 บริเวณ 555 จุด” Stop Loss: S50U10 < 550 จุด ปิด Long และ เปิด Short

 

Portfolio HOLD: CPF/ TASCO / MCOT/ TTCL/ TMB/ BBL/ KTB/ PTTAR/ PTT/PTTEP/ TPC

Buy: MINT / THAI

Profit-Taking: AP/ KCE/ RCL

Technical View แนวรับ 790-792 จุด, 782-784 จุด, 773-777 จุด และ 767 จุด ส่วนแนวต้าน 805-810 จุด, 820-822 จุด และ 845 จุด แนะนำหาจังหวะขายทำกำไร เมื่อ SET INDEX ดีดตัว

 

 

 

-Strategy Today

 

เมื่อตลาดหุ้นในเอเชีย และยุโรปฟื้นตัวลักษณะ Technical Rebound บวกกับ DJIA Futures ที่กลับมาเป็นบวกได้เช่นกัน ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวานนี้เป็นบวก อีกทั้งเม็ดเงินลงทุนไหลกลับเข้ากลุ่มธนาคาร หลังการขายหุ้น IPO ของ Agriculture bank เสร็จสิ้นลงวานนี้ บวกกับประเด็นการเก็งกำไรงบ 2Q53 และการประชุมกนง.วันที่ 14 ก.ค. น่าจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ส่งผลให้ SET INDEX วานนี้ปิดบวกถึง 11.49 จุด หรือ 1.43% มาอยู่ที่ 815.52 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขาย 28,452 ล้านบาท

 

 

 

กลุ่มที่สร้างผลตอบแทนดีที่สุดวานนี้ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ +3.05%, กลุ่มธนาคาร +2.21% และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง +2.02% ขณะที่กลุ่มพลังงาน +1.75% ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเพียงเล็กน้อย

 

 

 

ทิศทาง SET INDEX วันนี้คาดว่าจะไต่ระดับขึ้นสู่บริเวณ 815-820 จุด แต่เชื่อว่าจะยังไม่ผ่านได้ภายในวันนี้ ทั้งนี้ประเด็นการลงทุนที่กลับมาเป็นบวกโดดเด่นอีกครั้งได้แก่

1. การเก็งกำไรต่องบการเงิน 2Q53 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์: หลังจากที่การขายหุ้น IPO ของ Agriculture bank เสร็จสิ้นลงวานนี้ ทำให้เกิดเม็ดเงินไหลกลับเข้ากลุ่มธนาคารในตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้ประเด็นบวกดังกล่าวด้วยเช่นกัน และเชื่อว่าจะเกิด Momentum ของการไหลเข้าเพื่อเก็งกำไรประเด็นนี้ต่อเนื่อง บวกกับวันที่ 14 ก.ค.จะมีการประชุมกนง. เชื่อว่าจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bps เป็น 1.50% หลังอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงติดลบมาหลายเดือนติดต่อกัน

 

 

2. กลุ่มพลังงานน่าจะได้อานิสงค์จากตลาดหุ้นที่เป็นบวก: แม้ว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ไม่น่าจะฟื้นตัวกลับได้ไกล บวกกับผลการดำเนินงาน 2Q53 จะเติบโตได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นที่ได้รับแรงกดดันทั้งค่าค่าการกลั่นเฉลี่ยที่ลดลง qoq และการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันกว่า US$1/barrel แต่ด้วยภาพตลาดที่เป็นบวก ย่อมส่งผลให้หุ้นในกลุ่มพลังงานไต่ระดับขึ้นตามภาพรวมของ SET INDEX ได้เช่นกัน

 

 

3. จับตาหุ้นขนาดใหญ่ที่จะเตรียมไป Roadshow กับตลาดหลักทรัพย์ฯ และ TISCO ในวันที่ 13-14 ก.ค. ได้แก่ BBL / BAY / TISCO/ PTT/ RATCH / TOP / CPALL /CPN / CPF/ MINT ซึ่งในจำนวนหุ้นดังกล่าว KimEng ประเมินว่า PTT / RATCH / MINT ดูน่าสนใจต่อการเก็งกำไรเม็ดเงินทุนต่างชาติในช่วงสั้นนี้

 

 

4. ตลาดหุ้นทั่วโลกน่าจะกลับมามี Momentum เชิงบวกช่วงสั้นๆ: หลังจากที่ปรับฐานลงนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยความกังวลต่อการชะลอตัวด้านเศรษฐกิจโลก และปัญหาวิกฤตหนี้ในกลุ่มยุโรป น่าจะสะท้อนประเด็นลบเหล่านี้ไปมากแล้ว การฟื้นตัวกลับลักษณะ Technical Rebound ในช่วงสั้นๆ ย่อมมีความเป็นไปได้เช่นกัน

 

 

ดังนั้น KimEng ยังคงยืนยันให้นักลงทุนที่มีหุ้นในกลุ่มพลังงาน “ถือเพื่อรอขายจากภาพตลาดหุ้นทั่วโลกที่ฟื้นตัวลักษณะ Technical Rebound” และไม่เสนอให้ “ซื้อเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอีกเช่นกัน” เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q53 โดยรวมขาดความโดดเด่นในแง่ของการเติบโต และเมื่อเม็ดเงินต่างชาติจะไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง KimEng จำเป็นต้องเสนอให้นักลงทุนต้องมีการปรับพอร์ตการลงทุนช่วงสั้นระยะ 1-2 สัปดาห์ เพื่อรองรับกับทิศทางดังกล่าว ด้วยการ “ทยอยขายทำกำไร” หุ้นขนาดกลาง และ “ปรับน้ำหนักเข้าเก็งกำไร” หุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นมาไม่มากในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา

 

กลยุทธ์การลงทุน

 

วันนี้ แนะนำให้นักลงทุน “เก็งกำไรระยะ 1-2 สัปดาห์” หุ้นดังต่อไปนี้

1.MINT : ราคาปิด 10.70 บาท ราคาเหมาะสมใน Bloomberg Consensus ที่ 12.50 บาท มีผู้ศึกษาทั้งสิ้น 17 ราย เป็นแนะนำ “ซื้อ” 13 ราย และ “ถือ” 4 ราย (หมายเหตุ: KELIVE ไม่ได้ทำการศึกษาหุ้นดังกล่าว จึงโปรดใช้วิจารณญาณต่อการตัดสินใจลงทุนมากขึ้น)

a.MINT เป็น 1 ใน 10 หุ้นที่จะไป Roadshow ร่วมกับ SET และ TISCO ในลอนดอนวันที่ 12-13 ก.ค.

b.ประเด็นแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจการท่องเที่ยวในช่วงปลาย 3Q53 ต่อเนื่องถึง 4Q53 น่าจะเป็นจุดสำคัญต่อการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

c.ราคาหุ้นได้พักฐานมาระยะหนึ่งแล้วบริเวณ 10-10.50 บาท

 

 

2.THAI: ราคาปิด 28.50 บาท

a.มุมมองต่อธุรกิจการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากกรณีการเมืองในเดือนพ.ค.ก็ตาม ซึ่งรมว.การท่องเที่ยวยืนยันตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ 15 ล้านคน ยังมีความเป็นไปได้ ยอดนักท่องเที่ยว 6M53 สูงถึง 7.4 ล้านคน และล่าสุดยอดนักท่องเที่ยวผ่านสนามบินสุวรรณภูมิสูงถึง 30,000 คน

b.แม้ว่าผลการดำเนินงานใน 2Q53 ของ THAI อาจถูกกดดันจากกรณีการเมือง และเริ่มเข้าสู่ช่วง Low Season ของการท่องเที่ยว แต่คาดว่าจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเป็นตัวเสริมกำไรสุทธิใน 2Q53

c.ราคาหุ้น THAI เพิ่งเริ่มฟื้นตัวขึ้น 1-2 วันที่ผ่านมา เชื่อว่ากระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้าหุ้นขนาดใหญ่ THAI น่าจะอยู่ในรายชื่อหุ้นของการเข้าสะสมด้วยเช่นกัน จะสังเกตได้ว่า NVDR วานนี้ซื้อสุทธิ THAI ทั้งสิ้น 110 ล้านบาท

และ KimEng เสนอให้ “เริ่มทยอยขายทำกำไร” สำหรับหุ้นขนาดกลางที่แนะนำมาก่อนหน้านี้ แม้ว่ามุมมองต่อปัจจัยพื้นฐานและเป็นระยะยาวยังคงเป็นบวกต่อหุ้นเหล่านี้ แต่คำแนะนำดังกล่าว เป็นเพียงการปรับพอร์ตช่วงสั้นเท่านั้น ได้แก่

 

 

 

1.AP: ราคาปิดวานนี้ 6.15 บาท เพิ่มขึ้นจากบริเวณที่แนะนำ 5.20 บาทนั้น สร้างผลกำไรในช่วงสั้น 18% เชื่อว่าราคาหุ้น AP น่าจะเข้าสู่ช่วงของการพักฐานช่วงสั้น และกระแสเงินทุนช่วงสั้นอาจเริ่มชะลอตัวในกลุ่มอสังหาฯ ด้วยเช่นกัน

 

 

2.KCE: ราคาปิดวานนี้ 7.75 บาท เทียบกับราคาที่เริ่มแนะนำให้ทยอยสะสม 7.00 บาท สร้างผลกำไร 11% บวกกับกระแสเงินทุนที่เริ่มชะลอการลงทุนในหุ้นขนาดกลาง และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ราคาหุ้น KCE อาจเข้าสู่ช่วงของการพักฐานช่วงสั้นเช่นกัน

3.RCL: ราคาปิดวานนี้ 15.40 บาท เทียบกับราคาที่เริ่มแนะนำให้ทยอยสะสม 12 บาท

 

สร้างผลกำไร 28% และแม้ว่ามุมมองต่อผลการดำเนินงานใน 2Q53 และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3Q53 ที่น่าจะสร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตโดดเด่น จากผลของฤดูกาล แต่ราคาหุ้นที่ไต่ระดับขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว น่าจะสะท้อนถึงประเด็นบวกของการ Turnaround ได้เป็นอย่างดีแล้วเช่นกัน จึงเสนอให้ขายทำกำไรออกไปก่อนในรอบนี้ เพื่อรอสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวลง

 

What will DJIA move tonight? คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณท่านเหล่าซือ วันนี้ดูท่านอารมณ์ดีนะขอรับ

ตอนนี้ราคาทองแท่งปรับลง ใช้ช้อนทองได้หรือไม่

ครับ หรือรอต่อไปครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมันดิบทรงตัว จากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ

 

Posted on Wednesday, July 07, 2010

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับลดลง 0.16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 71.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

- นักลงทุนยังคงกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐฯและการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน หลังจากทางการสหรัฐฯและจีนเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว อาทิ ตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ ฯและดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน

 

- ดัชนีภาคการบริการของสหรัฐฯในเดือน มิ.ย.ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยูที่ 53.8 ซึ่งต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ที่ 55

 

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

+ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 57 จุด โดยเป็นการปิดในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 วัน จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินและเทคโนโลยี แม้จะมีแรงขายออกมาต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มค้าปลีกและพลังงาน

 

+ นักวิเคราะห์คาดการณ์น้ำมันดิบคงคลังปรับลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล เนื่องจากมีการนำเข้าน้ำมันดิบน้อยลงในช่วงสัปดาห์ก่อน ในขณะที่น้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับลดลง 0.02 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาปิดที่ 71.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 0.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 69.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากจีนมีแนวดน้มที่จะส่งออก อย่างไรก็ดีความต้องการน้ำมันเบนซินในอินเดียยังคงอยู่ในระดับสูง

 

ราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากเวียดนาม และฟิลิปปินส์ ยังคงมีการนำเข้าน้ำมันดีเซล อย่างต่อเนื่อง

 

- สนับสนุนข้อมูลโดยบมจ. ไทยออยล์ -

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...