ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

หัวใจทองคำกับรอยหยักของสมอง

โพสต์แนะนำ

People Magazine

"บทเรียนชีวิตที่ดีที่สุด

ล้วนได้มาจากความผิดพลาดล้มเหลวของตนเอง

ความโง่เขลาเบาปัญญาและความผิดพลาดในอดีต

จะกลายเป็นสติปัญญา และความสำเร็จในอนาคต

1458511_700399116646826_1113224489_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

Thanong Fanclub

3 hours ago

 

1. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องของชาวบ้านได้แล้ว

 

ผลของการทำวิจัยของCouncil on Foreign Relations ซึ่งเป็นองค์กรที่ควบคุมนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ และแม้แต่Hillary Clintonยังต้องซูฮก ได้พบว่าคนอเมริกันกว่าครึ่งไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯในการแซกแซงในกิจการภายในของประเทศอื่นๆ 53%ของคนอเมริกันเห็นว่า รัฐบาลสหรัฐฯควรให้ความสนใจในการแก้ไขปัญหาในประเทศมากกว่าที่จะไปยุ่งกับกิจการประเทศอื่นๆ และ 70%ของคนอเมริกันเชื่อว่าสหรัฐฯสูญเสียความน่าเชื่อถือในเวทีการต่างประเทศ

 

เป็นที่น่าสนใจว่าแม้ว่าจะเห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯควรใส่ใจในปัญหาในประเทศ แต่คนอเมริกันส่วนมากเชื่อว่าการที่สหรัฐฯเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโลกมีผลดีมากกว่าความเสี่ยง

 

thanong

11/12/13

 

 

http://www.people-press.org/2013/12/03/public-sees-u-s-power-declining-as-support-for-global-engagement-slips/

 

 

 

 

Thanong Fanclub shared a link.

2 hours ago

2. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องของชาวบ้านได้แล้ว

 

สหรัฐฯประกาศนโยบายหลักว่าจะต่อต้านต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายทุกรูปแบบ แต่กลับไปสนับสนุนผู้ก่อนการร้ายในซีเรีย ระยะ20ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯต้องการล้มรัฐบาลซีเรีย และให้เงินและอาวุธสนับสนุนพวกกบฎล้มรัฐบาลซีเรียตั้งแต่ปี2007 สื่อและหนังสือพิมพ์ อย่างNew York Times, (and here and here) , Wall Street Journal, USA Today, CNN, McClatchy (and here), AP, Time, Reuters, BBC, the Independent, the Telegraph, Agence France-Presse, Asia Times, and the Star ได้รายงานแล้วว่าให้เงินสนับสนุนพวกกบฎในการล้มรัฐบาลซีเรีย คือสนับสนุนพวกอัลกอร์ อิเดาะห์ มันตลกมากที่สหรัฐฯกล่าวหาว่าอังกอร์ อิเดาะห์เป็นผู้ก่อการร้าย ที่อยู่เบื้องหลังถล่มตึกWorld Trade Centreที่ New Yorkปี 2001 แต่ตอนนี้สหรัฐฯกลับทำงานร่วมมืออย่างใกล้ชิดกลุ่มผู้ก่อการร้ายอังกอร์ อิเดาะห์ และกลุ่มนี้มีอาวุธเคมีด้วย

 

เป็นงง!!!

 

Mike Rogers ประธานHouse Intelligence Committee โหวตให้ส่งเงินช่วยเหลือพวกกบฎในซีเรีย ส่วน Diane Feinstein ประธาน Senate Intelligence Committe สนับบสนุนให้ส่งอาวุธให้ผู้ก่อการร้ายในซีเรีย

 

แล้วรัฐบาลสหรัฐฯอ้างว่าที่National Security Council ต้องสอดส่อง สอดแนมคนอเมริกัน ก็เพื่อป้องกันพวกก่อการร้ายไม่ให้มาทำร้ายคำอเมริกัน

 

อะไรกันนี่ ยิ่งงงหนักไปอีก!!!

 

 

11/12/13

 

 

 

http://www.zerohedge.com/contributed/2013-12-03/congress-backs-terrorists-syria-…-then-says-we-need-nsa-spying-because-there-

 

See More

 

 

 

 

Congress Backs Terrorists In Syria … Then Says We Need NSA Spying Because There are Terrorists...

www.zerohedge.com

Also: Mass Die-Off of West Coast Sealife: Fukushima Radiation … Or Something Else?

 

 

Thanong Fanclub

2 hours ago

 

3. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องของชาวบ้านได้แล้ว

 

คล้อยหลังวันที่5ธันวาฯ หรือเฉลิมพระชนม์พรรษา 1วัน และในขณะที่การเมืองไทยกำลังร้อนสุดๆ ในการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายกำนันเทพเทือก & มวลมหาประชาชนและรัฐบาลปู ทางผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯในมหาสมุทรแปซิฟิค Admiral Samuel J Locklear กลับเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลไทยเพื่อแสดงการสนับสนุนรัฐบาลปูอย่างออกหน้า พูดง่ายๆว่า เลือกข้างหรือ take side ฝืนเจตน์จำนงของคนไทยที่เตรียมตัวออกมาประท้วงรัฐบาลปูที่หมดความชอบธรรมแล้วในอีก3วันต่อมา คือในวันที่9 ธันวาฯ ประชาชนที่ออกมานับล้านคนในวันนั้นมีผลทำให้รัฐบาลปูต้องยุบสภา

 

สหรัฐฯบอกว่าการเมืองไทยต้องแก้ตามกลไกของกฎหมายรัฐธรรมนูญ เหมือนกับจะปรามทหารไทยไม่ให้เลือกข้าง แต่สหรัฐฯกลับส่งทหารมาเล่นเอง ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯระดับเกือบจะสูงสุดเข้ามาแซกแซงในกิจการการเมืองไทยอย่างเปิดเผย ด้วยการเลือกข้างรัฐบาล ในขณะที่คนไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศ เล่นเกมนี้เหมือนกับว่ามหารสหรัฐฯจะขู่ทหารไทยแบบกลายๆ

 

11/12/2013

 

http://www.mcot.net/site/content?id=52a16ff0150ba0dc4e0000aa

 

 

 

4. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องของชาวบ้านได้แล้ว

 

หลังจากรัฐบาลปูประกาศยุบสภา ทางกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯรีบออกแถลงการสนับสนุนให้เมืองไทยกลับไปเลือกตั้งเพื่อแก้ปัญหาการเมือง ทั้งๆที่คนไทยที่ออกมาประท้วงรัฐบาลเป็นล้านๆคนมองเห็นชัดว่าการเลือกตั้งไม่ใช่การแก้ปัญหา และไม่ใช่เป็นการปฏิรูปประเทศที่จะขจัดทรราชและแก้ไขปัญหาคอรัปชั่น และเผด็จการรัฐสภา รวมทั้งธนาธิปไตยที่แท้จริง ทางฝ่ายกำนันสุเทพและผู้สนับสนุนต้องการให้รัฐบาลปูลาออกไม่รักษาการเพื่อนำไปสู่การตั้งรัฐบาลใหม่และสภาประชาชนเพื่อทำการปฏิรูปประเทศไทย เพื่อว่าเราจะได้ไม่อยู่ในmoney politicsอีกต่อไป แต่สหรัฐฯไม่ได้สนใจความต้องการของประชาชนไทยที่แท้จริง ต้องการแต่ให้รัฐบาลปูอยู่ในอำนาจต่อไปเพราะคงต้องมีผลประโยชน์ร่วมกัน

 

11/12/2013

 

&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

 

U.S. DEPARTMENT OF STATE

Office of the Spokesperson

December 9, 2013

 

STATEMENT BY JEN PSAKI, SPOKESPERSON

 

Political Tensions in Thailand

 

The United States strongly supports democratic institutions and the democratic process in Thailand, a longtime friend and ally. Prime Minister Yingluck has called for elections as a way forward amid ongoing political tensions and demonstrations. We encourage all involved to resolve political differences peacefully and democratically in a way that reflects the will of the Thai people and strengthens the rule of law.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:17

ถูกแก้ไข โดย Charlie 1

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สงสัยจังเลยค่ะ ทำไม CNN และ BBC ลงข่าวว่า วันที่ 9 มีคนเดินตามถนนเพียง 150,000 คน ทั้งที่ รอบที่แล้วเมื่อวันที่ 24 สื่อดังกล่าวบอกว่า มีคนไปชุมนุมกันถึง 1,000,000.......??????......เกิดความเข้าใจผิด นักข่าวทำข่าวเฉพาะช่วงที่ขบวนแรกไปถึง ????.....หรือว่ามีความนัยอย่างอืน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

8 hours ago near Bangkok

 

 

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

 

12 ธันวาคม 2556

 

General News

----------------

 

• ส.สถิติเยอรมนีรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย.ว่าเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าเดือนก่อนที่เป็น 1.2% โดยสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำมาจากราคาพลังงานลดลง

 

• ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% เทียบกับเดือนก่อนหน้า เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน เพราะมีการลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตมากขึ้น หลังจากผู้ประกอบการมั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

• ก.คลังจีน ระบุว่า รายได้การคลังขยายตัวถึง 15.9% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี เป็น 9.125 แสนล้านหยวน เนื่องจากเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ รายได้การคลังขยายตัวเป็นเลขสองหลักมา 3 เดือนติดต่อกันแล้ว

 

• ยอดขายรถยนต์ของจีนในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 14.1% ทำยอด New High ที่ 2.04 ล้านคัน จากความต้องการรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่แข็งแกร่ง

 

• ธ.เอดีบี ลดประมาณการการขยายตัวของ GDP ภายในประเทศของภูมิภาคอาเซียนในปีนี้เป็น 4.8% จากเดิม 4.9% โดยอ้างถึงผลกระทบทางการเมืองในไทยต่อภาคการบริโภคและท่องเที่ยว รวมถึงความเสียหายจากภัยพิบัติไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์

 

• Paul Gruenwald กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิคของ S&P กับ Ritesh Maheshwari กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าทีมวิเคราะห์ของ S&P ให้มุมมองในปีหน้ากับ Bloomberg ผ่าน Teleconference วานนี้ว่า มาเลเซียกับไทยกำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น โดยระดับหนี้ภาคครัวเรือนของมาเลเซียจะมีปัญหาถ้าเศรษฐกิจเติบโตช้า ส่วนวิกฤติหนี้ภาครัฐของยุโรปนั้นถ้าเกิดขึ้นอีกก็เชื่อว่าเอเชียจะบริหารจัดการได้

 

• คณะกรรมการ กปปส. ขอพบหน่วยงานของรัฐที่ดูแลความมั่นคง คือ ผบ.สูงสุด ผบ.3 เหล่าทัพ และ ผบ.สตช. ก่อน 20.00 น.ของวันที่ 12 ธ.ค. เพื่อชี้แจงในจุดยืนกับแนวทางการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศเพื่อให้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ และจะนัดพบองค์กรภาคเอกชน เช่น องค์กรวิชาชีพและองค์กรทางสังคมอื่นๆ ที่สนับสนุนแนวทางนี้ด้วย

 

• วันนี้ ปปช จะเริ่มกระบวนการไต่สวน สส. สว. 312 คน ซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน โดย ปปช.จะแจ้งให้ทั้ง 312 คนทราบก่อน แต่จะเชิญมาให้ถ้อยคำเฉพาะเจ้าของเรื่องหลัก และ ปปช.จะดูว่าในกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีผู้ถูกกล่าวหาคนใดปฏิเสธไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลฯ และใครแจ้งความจับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

 

• ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของ ส.ส.ปชป. เพื่อวินิจิฉัยว่าร่าง พรบ.ที่ให้อำนาจ ก.คลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาทนั้น จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

• ปลัดคลัง กล่าวว่า โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะนำโครงการมาพิจารณาหรือไม่ ส่วนเกษตรกรที่ได้รับใบประทวนตามโครงการรับจำนำข้าวไปแล้วก็จะจ่ายเงินให้ตามแผน แต่จะกู้เงินเพื่อนำมาใช้ในโครงการดังกล่าวหรือไม่ ยังต้องศึกษารายละเอียด

 

• สมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รายงานว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสที่จะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3 แม้ว่าจะมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามากดดัน

 

• ก.คลัง ระบุว่า พรก.ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากำลังอยู่ในขั้นตอนการรอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อ 19 พ.ย. 56 ที่ผ่านมา แต่ถ้าไม่สามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ทัน ก็จะต้องใช้อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในโครงสร้างปัจจุบันไปก่อนสำหรับปีภาษี 2556

 

Equity Market

---------------

 

• SET Index ปิดที่ 1,369.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.93 จุด (+0.14%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 26,001.97 ล้านบาท โดยดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลปัจจัยทางการเมืองว่าจะมีข้อยุติออกมาในลักษณะใด รวมถึงการติดตามผลการประชุมของเฟดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการประกาศลดมาตรการทางการเงินเชิงปริมาณ (QE) ลง

 

• Mark Mobius ประธานกรรมการ Templeton Emerging Markets Group ที่บริหารกองทุนรวมขนาด 53,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ให้สัมภาษณ์ Bloomberg ว่า แม้จะเกิดความขัดแย้งทางการเมืองไทยที่ยังหาทางออกไม่ได้ เขาก็จะยังคงการลงทุนในหุ้นไทยต่อไป และจะลงทุนในหุ้นที่มีอยู่แล้วเพิ่มขึ้นถ้าราคาในกระดานตกลงมามากๆ โดยให้เหตุผลว่าปัญหาทางการเมืองเกิดกับไทยมาเรื่อยๆ และเขาเข้าใจที่มาที่ไป ใครทำอะไร โอกาสจะออกมาเป็นอย่างไร ดังนั้น เขาจึงไม่กังวล และเชื่อว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะชนะเลือกตั้งได้

 

ทั้งนี้ Mobius ชื่นชอบหุ้นในกลุ่ม Banking และ Consumer

 

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม (ล้านบาท)

-----------------------------------------------------

นักลงทุนสถาบัน +2,530.82

บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -72.29

นักลงทุนต่างชาติ -3,517.23

นักลงทุนทั่วไป +1,058.70

 

Fixed Income Market

------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.04% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูล

 

Guru Corner

-------------

 

Jeff Gundlach ซีอีโอของดับเบิลไลน์แคปปิทอล ให้ความเห็นถึงภาพรวมเศรษฐกิจและตลาด รวมถึงมุมมองสำหรับกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนพันธบัตรของเขา โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

 

o นักลงทุนต้องคอยจับตาดูระดับการเติบโตของหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งได้เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา

 

o อัตราการว่างงานควรจะอยู่ที่ระดับ 9.3% หากมีการนับรวมคนที่ออกจากกำลังแรงงาน (Labor force) ไปแล้ว

 

o มีความกังวลเกี่ยวกับการกู้เงินที่มีข้อสัญญาไม่เข้มงวด (covenant-lite loans) และมาตรฐานการกู้ยืมที่ผ่อนปรนเกินไปในตลาดหุ้นกู้มากขึ้น โดยปัญหาเหล่านี้จะยังไม่เกิด ตราบใดที่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูง

 

o การอัดฉีดเงินของเฟดจะยังคงอยู่นานกว่าที่คาดเนื่องจากการไม่มีเงินเฟ้อ

 

o พันธบัตรที่มีอัตราผลตอบแทนสูง (high-yield bonds) ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีกว่าพันธบัตรของตลาดเกิดใหม่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์

 

o ตะกร้าค่าเงินในเอเชียสามารถใช้เป็นดัชนีชี้นำระยะสั้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐได้ โดยเมื่อค่าเงินในเอเชียอ่อนลง อัตราดอกเบี้ยมักจะปรับตัวขึ้น

 

o ในมุมมองระยะยาว หุ้นตลาดเกิดใหม่ไม่น่าสนใจไปกว่าตลาดหุ้นสหรัฐ

เท่าไรนัก

 

o ปัจจุบัน Gundlach กำลังชื่นชอบตลาด non-agency mortgage เป็นอย่างมาก

 

o Gundlach มองว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นนั้นมีผลกระทบมาจากราคาทองคำที่ปรับลดลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

8 hours ago near Bangkok

 

 

มุมมองต่ออุตสาหกรรมกองทุนปี 2557

----------------------------------------

วรวรรณ ธาราภูมิ CEO กองทุนบัวหลวง

12 ธันวาคม 2556

 

1. อุตสาหกรรมกองทุน ปี 2557 มีแนวโน้มอย่างไร

----------------------------------------------------

มีกองทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา บางกองก็เกิดแล้วรุ่ง บางกองทุนเกิดแล้วแช่ไว้บนหิ้ง จะถอดออกก็ไม่ได้ แต่จากนี้ไปลูกค้าจะคัดเลือกกองทุนมากขึ้น ข้อมูลก็มีให้สืบค้นมากขึ้น ดังนั้น การนำเสนอกองทุนใหม่ๆ จึงต้องตอบโจทย์ให้ผู้ลงทุนให้ได้ และ บลจ.ต้องมั่นใจว่าดีจริง เหมาะสมกับลูกค้าและความชำนาญของ บลจ เองด้วย ไม่จำเป็นว่าต้องมีกองทุนทุกอย่าง ทุกประเภท แบบที่เคยคิดกันว่าต้องมี Product ให้ครบ ให้ลูกค้าเลือกได้ ไม่จำเป็นเลย

 

2. อุตสาหกรรมควรนำเสนอกองทุนต่อลูกค้าอย่างไร

------------------------------------------------------

อุตสาหกรรมน่าจะขยายตลาดด้วยการนำกองทุนมาให้ผู้ลงทุนเลือก ถ้าลูกค้าชอบ ถูกใจ เห็นว่าเหมาะกับแผนการลงทุนของตนเอง ลูกค้าก็จะซื้อ คือเป็นการเปลี่ยนจาก Product Oriented มาสู่ Clients Oriented

 

หมายถึงว่าแต่ก่อนนี้ บลจ.จะผลิตกองทุนแล้วก็ไปอธิบายผู้ขายเพื่อให้นำออกสู่ตลาด คือไปเน้นที่ของๆ เราว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ต่อไปนี้อุตสาหกรรมน่าจะพัฒนาไปยังการสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เพราะตลาดทุนเน้นเรื่องทำให้ลูกค้ารู้จักวางแผนการเงินตนเอง ซึ่งเมื่อลูกค้ารู้จักตนเอง มีแผนการเงินตนเฉพาะเองและครอบครัวแล้ว เราก็สามารถเสนอกองทุนที่เรามีอยู่ให้เขาเลือกให้เหมาะกับตัวเขาได้

 

นี่ถึงจะเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นต่อลูกค้าและอุตสาหกรรม ดังนั้น การจัดกลุ่มกองทุน การนำเสนอ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการแข่งขัน จึงน่าจะเน้นไปในรูปแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

 

3. บลจ.เล็กๆ ที่ไม่มีเครือข่าย ควรนำเสนอกองทุนต่อลูกค้าอย่างไร

---------------------------------------------------------------------

จริงอยู่ที่ขนาดที่ใหญ่ เครือข่ายที่กว้างขวาง เป็นข้อได้เปรียบในการ Penetrate ตลาด แต่ไม่ได้เป็นข้อจำกัดจนทำให้ บลจ เล็กๆ จะเสียเปรียบไปทุกเรื่อง เพราะการทำให้สาธารณชนเชื่อถือใน บลจ. แต่ละแห่งในหลายๆ มิติเป็นคำตอบสำหรับธุรกิจจัดการกองทุน

 

บลจ.ขนาดเล็กก็จะสามารถทำธุรกิจได้ดีหากจะขยับไปสู่การสร้าง Niche Market ที่เหมาะกับความสามารถพิเศษของตนเองให้มากขึ้น ดังนั้น ทุกคนไม่จำเป็นต้องวิ่งแข่งในลู่เดียวกัน หากเสีย เปรียบด้านหนึ่งแต่มีจุดเด่นด้านหนึ่งก็สามารถชูจุดที่เหมาะสมของตนเป็นกลยุทธ์ธุรกิจได้ ตลาดยังกว้างมาก

 

4. ทำให้สาธารณชนเชื่อถือ บลจ. ในหลายๆ มิติ หมายถึงอะไร

----------------------------------------------------------------

การทำให้สาธารณชนเชื่อถือ บลจ. ในหลายๆ มิติ หมายถึงเชื่อมั่นทั้งในผลการดำเนินงานระยะยาวของกองทุน เพราะธุรกิจของเราเป็นการวิ่งมาราธอนไม่ใช่วิ่ง 100 เมตร รวมไปถึงทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวตนของ บลจ ด้วย นั่นก็เป็นอีกมิติที่สำคัญ

 

อุตสาหกรรมจึงน่าจะชูนโยบายกับแนวทางบริหารกองทุนและตัวตนหรือสไตล์ที่ บลจ เป็นจริงๆ ให้มากขึ้น นี่จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ให้คุณประโยชน์แก่ธุรกิจ และนี่คือสิ่งที่ลูกค้าน่าจะคาดหวังมากขึ้น

 

5. หลังๆ มานี้ มีคนวิจารณ์กันมากขึ้นเรื่องการขายประกัน ขายกองทุน ว่าคนขายโดนตั้งเป้า ตั้ง KPI ตั้งยอดขาย หากทำไม่ได้ก็หมดอนาคตในการงาน ทำให้เสนอสิ่งที่ไม่เหมาะสมให้ลูกค้า ตรงนี้จะแก้ไขได้ไหม

----------------------------------------------------------------------------------

 

จริงอยู่ที่ว่าทำธุรกิจหากไม่ได้กำไร จะทำไปทำไม

 

แต่อุตสาหกรรมควรจะตั้งโจทย์ใหม่ในการทำธุรกิจให้เป็นการตั้งคำถามว่า ...

 

“ทำอย่างไรถึงจะให้ผู้คนบริหารเงินของตนและครอบครัวให้เป็น ทำอย่างไรถึงจะช่วยให้พวกเขาประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายการเงินที่เขาต้องการ”

 

หากตั้งโจทย์ในการกำหนด Business Model แบบนี้ ก็เชื่อมั่นว่าจะดีต่อผู้ลงทุนและดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระยะยาว ทั้งยังมีความยั่งยืนทางธุรกิจ ดีกว่าจะไปตั้งโจทย์ว่า “ปีนี้เราต้องขายกองทุนเพิ่มอีก 30% หรือต้องเพิ่มส่วนแบ่ง ตลาดอีกเท่าตัว” ทำให้คนขายต้องขายในสิ่งที่ได้เป้า ได้คะแนน มากกว่าจะไปดูว่ามันเหมาะกับลูกค้าหรือไม่

 

เราควรมองไปที่ประโยชน์ต่อลูกค้ามากกว่ามองมาที่กระเป๋าเงินเรา เพราะโดยธรรมชาติของธุรกิจนี้ คนที่จะยืนอยู่ได้ตลอดเส้นทางระยะยาว จะต้องคิดถึงประโยชน์ของลูกค้ามาก่อนประโยชน์ของเรา

 

6. การคัดเลือกกองทุนให้ชนะตลาด มีเทคนิคอย่างไร

-------------------------------------------------------

การคัดเลือกกองทุนโดยเทียบผลการดำเนินงานนั้นมักจะใช้กับกองทุนหุ้น กองทุนผสมที่เน้นหุ้น กองไหนมีผลงานดีที่สุดก็จะได้เป็นพระเอกนางเอก ซึ่งขอเน้นว่าให้ดูผลงานระยะยาว 3 ปีขึ้นไป

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่การทุ่มเทเงินไปในกองทุนที่เก่งที่สุด แต่ต้องเป็นส่วนผสมการลงทุนที่เหมาะที่สุดกับตัวเราซึ่งเป็นผู้ลงทุน คือไม่จำเป็นต้องไปเลือกกองทุนที่ได้ที่หนึ่งเลยหากมันไม่เหมาะกับเรา ซึ่งหมายถึงผู้ลงทุนควรเริ่มต้นด้วยการจัดสัดส่วนการลงทุนของตนเองก่อน

 

กองทุนรวมที่มีเป้าหมายเพื่อผลตอบแทนระยะยาวนั้นเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว การเลือกกองทุนแบบนี้ที่ดีจึงควรเลือกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว มากกว่ากองทุนประเภทเดียวกันที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงสั้น

 

7. จะคัดเลือกกองทุนตราสารหนี้อย่างไร

-----------------------------------------

ในการเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ หรือเลือกลงทุนในตราสารหนี้ (หุ้นกู้ ตั๋วบีอี ตั๋วแลกเงิน พันธบัตร ฯลฯ) เองโดยตรงโดยไม่ผ่านกองทุน รวมไปถึงการฝากเงินนั้น ผู้ลงทุนควรเน้นไปที่เรื่องความปลอดภัยของเงินต้นมากกว่าจะมองเพียงอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นที่ตั้ง

 

ตัวอย่างเช่น ฝากเงิน 3 ปี กับธนาคารที่มีอันดับเครดิต A ได้อัตราดอกเบี้ย 3.75% ไม่ได้แปลว่าจะไม่ดีเท่าการซื้อหุ้นกู้เอกชนอันดับเครดิต B อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.75% เพราะระดับความสามารถในการคืนเงินต้นและชำระดอกเบี้ยของธนาคารในตัวอย่างนี้ดีกว่าหุ้นกู้ที่ว่า หากเกิดอะไรขึ้น หุ้นกู้ที่ว่าก็จะชำระคืนเงินผู้ลงทุนไม่ได้ (Default) และมีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นไปเลย เนื่องจากถ้าลูกค้ายอมขายตัดขาดทุนก็มักหาคนซื้อไม่ได้

 

การเลือกลงทุนกองทุนตราสารหนี้ก็เช่นกัน ผู้ลงทุนต้องดูใส้ในด้วยว่ากองทุนเขาลงทุนในอะไร อย่าดูแค่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเพียงอย่างเดียว แล้วค่อยตัดสินใจโดยเทียบระหว่างผลตอบแทนกับระดับความเสี่ยงของโอกาสที่จะได้รับเงินต้นคืน

 

8. จะหาข้อมูลผลการดำเนินงานกองทุนเปรียบเทียบกันทุกบริษัท ทุกกองทุนได้ที่ไหน

--------------------------------------------------------------------------------

ปัจจุบันมีหน่วยงานกลางจัดอันดับให้ Rating กองทุนมากขึ้น ผู้ลงทุนจึงเลือกดู เลือกกองทุนที่เหมาะกับแผนการเงินได้ดีขึ้น แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าผู้จัดอันดับหรือรางวัลนั้นๆ น่าเชื่อถือเพียงใด ใช้เกณฑ์แบบไหนในการวัด

 

หากดูแล้วยังไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจเพราะความรู้ในด้านนี้ของเรายังไม่มากนัก ก็ให้ถามไปยังสมาคมบริษัทจัดการกองทุน (AIMC) หรือ สำนักงาน ก.ล.ต. ว่าบุคคลหรือสถาบัน องค์กร จัดอันดับให้กองทุนนั้นๆ เชื่อถือได้หรือไม่ ทำตามเกณฑ์มาตรฐานในการจัดอันดับตามที่กำหนดหรือไม่

 

แต่ที่แน่ๆ ก็มี 2 แห่งที่ให้ข้อมูลได้ตามมาตรฐานกลางที่กำหนดคือ ที่สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กับ Morningstar (Thailand)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สงสัยจังเลยค่ะ ทำไม CNN และ BBC ลงข่าวว่า วันที่ 9 มีคนเดินตามถนนเพียง 150,000 คน ทั้งที่ รอบที่แล้วเมื่อวันที่ 24 สื่อดังกล่าวบอกว่า มีคนไปชุมนุมกันถึง 1,000,000.......??????......เกิดความเข้าใจผิด นักข่าวทำข่าวเฉพาะช่วงที่ขบวนแรกไปถึง ????.....หรือว่ามีความนัยอย่างอืน

สวัสดีข้าวกล้อง เป็นเรื่องปกติขของการปิดข่าว บิดเบือน ทำขาวให้เป็นดำของระบบชิน ล๊อบบี้สื่อ เจรจาต่อรอง ซื้อสื่อ ให้ผลประโยชน์

สารพัดวิธี

==== อย่างไรก็ตามวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ มีมวลชนทุกระดับชั้น ทุกภาคส่วน ทั้งคนต่างจังหวัดและคนกรุงออกมา

มากกว่าวันที่ ๒๔ แน่นอน มากกว่าหลายล้าน===

091213 BBC Bird's eye view of Thailand rally

 

http://youtu.be/1Rhz_mF-GUE

 

1086334_100002471392724_1356133403_q.jpg

 

Vote Thailand

 

BBC แจ้งมาว่า ได้คำนวนโดยดาวเทียมแล้ว มีผู้มาร่วมชุมนุมทั้งสิ้น

5,700,000 คน คร้าบ !!!

==================

 

CNN ออกข่าว คนไทยออกมาชุมนุมวันนี้เกือบ 5,000,000 คน!!!

เป็นประวัติศาสตร์ของโลกไปแล้ว

===================

 

รัฐบาลนับอย่างเป็นทางการแล้ว ได้ 96,000 คน!

 

.. แม่เจ้า .. — with บัว นามธรรม, Narintorn Madoo, ไทย แท้แท้ บ้านแม่จันทร์, Sompong In-kuanchum and Thawerat Thai

==================

541516_556248587800849_190185130_n.jpg

Vote Thailand

 

 

สงคราม 9 ทัพ 9 เส้นทาง มวลมหาประชาชน

ขยับเท้า 9 ธันวาคม 2556 เคลื่อนขบวน 9.39 น.

 

ถนนทุกสาย.... มุ่งสู่ทำเนียบรัฐบาล !

ปฏิบัติการ "ลุกฮือทั้งประเทศ ยึดประเทศคืนจากระบอบทักษิณ"
— with
and
.

 

1450196_555659674526407_424678853_n.jpg

 

 

 

1461404_556181604474214_772461850_n.jpg

 

1461583_556181627807545_944491618_n.jpg

 

1460246_556181621140879_1443434074_n.jpg

 

 

1455077_556181617807546_1821037072_n.jpg

 

ภาพประวัติศาสตร์ - วันประวัติศาสตร์

9 ธันวาคม 2556

 

ปฏิบัติการ มวลมหาประชาชน

"ลุกฮือทั้งประเทศ ยึดประเทศคืนจากระบอบทักษิณ"

 

https://www.facebook...&type=1 — with โอฮานิ โอฮานิ, Boo Bie NiTi, Sompong In-kuanchum,Pinn Jit, ไฮโซตัวพ่อ หน่วยจู่โจมพิเศษ คนรักชาติ คนรักชาติ,Nipon Saiow, ไทย แท้แท้ บ้านแม่จันทร์, Stemtech-afa Natchana, Lamai Thailand, Chuvong Seangkong, บัว นามธรรม, Sriwika Rittibunlue and Zubaidah Md Salleh.

1394345_556239767801731_799419045_n.jpg

 

Thanong Fanclub · 29,079 like this

December 10 at 9:55am ·

 

 

เช้านี้นักข่าวสิงคโปร์ถามผมว่ามีคนออกมาประท้วงกี่คนบนท้องถนนที่เมืองไทย ผมบอกว่า5ล้านคน เขาตกใจมากบอกว่าคนจำนวนนี้ มากกว่าประชากรของสิงคโปร์เสียอีก


  • 10/12/2013
     
    Saravut Ksbท่านจะเถียงกันเรื่องตัวเลขไปทำไม มีใครไปเดินไปชุมนุมกันบ้างหรือเปล่า ขอเชิญไปดูด้วยตาตัวเอง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ ผมไปเองด้วยขาตัวเอง ผมว่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน มากกว่าวันที่ 24/11/2556 แน่นอน ถ้าถามว่านับได้ยังไง บอกได้เลยว่า นับเองไม่ได้หรอกครับ ต้องประเมิณและคำนวณจาก พื้นที่ของถนนและจับเวลาที่คนออกมาเดินสิครับ เมื่อวานนี้บ่ายสามโมงหางแถวของขบวนจากฝั่งพหลโยธินยังอยู่แถวหน้าตึกไอบีเอ็มแถวสะพานควาย คนมาออกันอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพราะเข้าไปทางทำเนียบไม่ได้แล้ว คนหนีกลับกันมากแล้วนะเนี่ย
     
    Joe Pojthaveekiatโจนาธาน เฮด ยืนยัน "ไม่ได้ระบุว่า 5 ล้าน"
     
     
    1469813_744828935545585_289323485_n.jpg
    THANKS===

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub shared Siriwanna Jill's photo.

19 hours ago

5. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องชาวบ้านได้แล้ว

 

แล้วมาถึงบางอ้อว่าทำไมสหรัฐฯถึงสนับสนุนรัฐบาลปูอย่างออกหน้า เพราะรัฐบาลปูยอมสหรัฐฯเรื่องการทหารและความมั่นคงนี่เอง

 

 

 

 

พระเจ้าช่วย หัวเหม่งบัวแก้ว เตรียมชักศึกเข้าบ้าน จ้างล็อบบี้ยิสต์ บริษัท Davenport McKesson Corporation ในนามรัฐบาลไทย เพื่อทำหน้าที่โน้มน้าวสมาชิกรัฐสภา และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในเรื่องอัปรีย์ 1. การตั้งสำนักงานตัวแทนการค้าต่างประเทศไทย ในสหรัฐฯ โดยใช้เจ้าหน้าที่ เป็นชาวอเมริกัน และ 2 การเข้ามาตั้งฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในเอเซียใต้ ..... ส่วนภารกิจปกป้องน่านฟ้า การจัดตั้ง safe habor zone ในทะเลจีนใต้ หรือเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ถือว่า OK

 

ทั้ง 2 เรื่องล้วนแล้วแต่ เป็นภัยต่อความมั่นคงของไทย เกิดมาเพิ่งเคยเห็น แทนที่ สหรัฐฯ จะต้องพยายามล็อบบี้รัฐบาล และประชาชนคนไทย เพื่อสามารถสร้างฐานทัพเรือ กลายเป็นรัฐบาลไทย ที่ออกเงินจ้าง lobbyist ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรกันหรือ กับทักษิณ ให้ช่วยค้ำจุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือ ช่วยให้ทักษิณได้กลับมาเป็นผู้นำประเทศ ??? มิน่าถึงได้พยายามแก้ไข รัฐธรรมนูญ มาตรา 190

 

 

1425541_396458080488433_1667999836_n.jpg

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub shared a link.

15 hours ago

6. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องชาวบ้านได้แล้ว

 

จีนมีเรื่องกับญี่ปุ่นที่บริเวณทะเลจีนตะวันออก (East China Sea) ซึ่งครอบคลุมเกาะเซ็นกากุ หรือเตียวหยูที่ทั้งสองประเทศมีข้อพิพาทกันอยู่ จีนเปิดฉากด้วยการประกาศว่าบริเวณน่านฟ้านั้นเป็น Air Defence Identification Zone หรือเขตประกาศตัวตนป้องกันทางอากาศ หมายความว่าเครื่องบินชาติใดที่บินผ่านน่านฟ้านี้ จำต้องได้รับอนุญาติจากจีนก่อน แต่ปรากฎว่าสหรัฐฯมาจากใหนไม่ทราบเอาเครื่องบินทิ้งระเบิดB-52บินเหนือน่านฟ้านั้นแบบเย้ยฟ้าท้าดิน ทั้งๆที่เป็นความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ Joe Bidenรองประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศชัดเจนว่าไม่ยอมรับคำประกาศAir Defence Identification Zoneของจีน และมีข่าวว่าถ้ามีความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นและจีน สหรัฐฯจะเข้าข้างญี่ปุ่น และสหรัฐฯบอกว่าเครื่องบินของสหรัฐฯบินเหนือเขตAir Defence Identification Zoneที่จีนประกาศอยู่ตามสะดวก สหรัฐฯกำลังมายุ่มย่ามในเอเซียมากยิ่งขึ้นเพื่อสะกัดจีนไม่ให้ผงาดนั้นเอง

 

11/12/2013

 

http://rt.com/usa/biden-seoul-air-dispute-849/

 

 

US refuses to recognize new Chinese air defense zone

rt.com

Nearing the tail end of his Asian tour on Friday, Vice President Joe Biden set in stone the United States’ stance on a budding conflict there regarding ownership of airspace in the East China Sea.

 

 

Thanong Fanclub shared ผู้กองปูเค็ม's photo.

15 hours ago

7. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องชาวบ้านได้แล้ว

นอกจากเรื่องฐานทัพ เรื่องความมั่นคง ยังมีเรื่องน้ำมันในอ่าวไทยอีกด้วย ที่ทำให้สหรัฐฯหนุนรัฐบาลปูสุดๆไม่รู้ตกลงแบ่งเค๊กกันไปถึงใหนแล้ว

 

 

พี่น้องประชาชนที่รักทั้งหลาย..

 

วันนี้มีข่าว..สหรัฐมหาอำนาจหัวหน้าแก็งค์ระดับโลก..เข้ามายุ่มย่ามกิจการภายใน กดดันกองทัพไทย..

 

บ้านเมืองของเรามีแหล่งพลังงานติดอันดับโลก และกลุ่มผลประโยชน์ระดับโลกกำลังสูบทรัพยากรของเรา..อย่างเมามัน..

 

พวกมันเกรงว่า..หากฝ่ายเราประสบความสำเร็จ..จะกระทบกระเทือนผลประโยชน์ของพวกมัน..ด้วยเหตุที่ว่า..มีแนวร่วมของเราหลายคน..มีแนวความคิดในการบริหารจัดการแหล่งพลังงานของประเทศกันใหม่ทั้งหมด..

 

ซึ่งจะคล้ายกับประเทศเวเนซุเอลา ที่มีการยึดกิจการน้ำมันคืนจากต่างชาติ..กลับมาเป็นของรัฐ..แล้วนำรายได้มาแบ่งปันให้กับคนทั้งประเทศ..ที่นายฮูโก้ ชาเวซ อดีตผู้นำเวเนซูเอลา เรียกมันว่า "การปฏิวัติโบลิวาร์"

 

พี่น้องประชาชนจงเตรียมพร้อมรับกับแรงเสียดทาน อุปสรรค ขวากหนามที่กลุ่มผลประโยชน์ระดับโลกนี้จะได้ปฏิบัติการตอบโต้ฝ่ายเรา..โดยการสนับสนุนรัฐบาลเถื่อนและการบ่อนทำลายฝ่ายเราทุกรูปแบบ..

 

เราจะร่วมกันต่อสู้..เพื่อชัยชนะนั้นจะได้เป็นของคนไทยทุกคน มิใช่เป็นของบางกลุ่มหรือบางคน..เพื่อวางรากฐานอนาคตให้กับลูกหลานของเราสืบต่อไป..

 

อ้างอิง http://goo.gl/RHS3VZ — with Sasi Vimol and 5 others.

 

 

1471180_389841877812733_1070904153_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหมือน BBC จะเลือกถ่าย ภาพมวลชน เฉพาะสายสั้นๆ สายเดียวเลยค่ะ คงลืมสายที่เหลือ หรือว่า จงใจ ?????

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันพุธ ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556, 16.32 น.

tags : พระวัดเบญจฯ, เทศน์, บิ๊กแจ๊ด

พระวัดเบญจฯเทศน์ด่า'บิ๊กแจ๊ด'อย่าได้เหยียบเข้าวัดไม่ว่าเป็นหรือตาย!

http://www.naewna.com/politic/81357

 

 

 

81357.jpg

วันนี้ 11 ธ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท วัดเบญจมบพิตร โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว"พระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท วัดเบญจมบพิตร"ได้เทศน์ถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ที่ได้สั่่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำแท่งปูนและลวดหนามมาปิดกั้นทางเข้าออกวัด ทำให้พระและสามเณร วัดเบญจมบพิตร ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จนพระเณรในวัดไม่มีอาหาฉันเพราะออกไปบิณฑบาตไม่ได้ ญาติโยมก็เข้ามาทำบุญไม่ได้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษย์ธรรม สำหรับข้อความที่ พระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท เขียนทั้งหมดมีดังนี้

เจริญพร โยม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.

ตามที่ท่านได้สั่งการให้เจ้าที่ตำรวจเอาแท่งแบริเออร์และลวดหนามมาปิดกันทางเข้าออกของวัดเบญจมบพิตร ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความเดือดร้อนให้พระภิกษุสามเณรวัดเบญจมบพิตรเป็นอย่างมาก พระเณรในวัดไม่มีอาหารขบฉันเพราะออกไปบิณฑบาตไม่ได้ ญาติโยมก็เข้ามาทำบุญไม่ได้ พระเณรต้องประทังชีพด้วยอาหารแห้ง(มาม่า)และอาหารที่พอจะหาได้ตามมีตามเกิด

ทางวัดก็ได้เรียกร้องให้ท่านช่วยเปิดทางเข้า-ออกวัดอยู่นานมาก ท่านก็ไม่เคยสนใจและเหลียวแลทางวัดเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งเอาแท่งแบริเออร์กั้นให้หนาแน่นขึ้นไปอีก การกระทำของท่านนั้นมันไร้มนุษย์ธรรม เกินที่คนธรรมดาเขาทำกัน มันสร้างความลำบากและสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับพระเณรในวัดยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนลูกน้องของท่านที่มากินนอนอยู่ในวัดเป็นแรมเดือนก็สร้างแต่ปัญหาให้กับทางวัด ไม่ว่าเรื่องทิ้งขยะ การตากผ้า กินเหล้า สูบบุหรี่ หนักสุดถึงขนาดข่มขู่และคุกคามพระเณรในวัด ซึ่งเป็นการกระทำที่เนรคุณวัดที่ให้ที่พักที่นอนเป็นอย่างมาก

ดังนั้นเมื่อท่านเป็นผู้สั่งการให้ปิดทางเข้าวัด ขังพระเณรอยู่ 2 เดือนเต็ม จนสร้างปัญหาให้พระเณรในวัดอย่างหนัก ตำรวจที่มาคุกคามพระก็เป็นลูกน้องของท่าน ตั้งแต่นี้ไปท่านอย่าได้เข้ามาเหยียบหรือเข้ามาภายในพื้นที่ของวัดเบญจมบพิตรอีกเลยไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เพราะสิ่งที่ท่านทำไว้กับวัดนั้นมันเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของวัดเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะมีการปฏิวัติหรือชุมนุมประท้วง ก็ยังไม่ปรากฏว่าใครกระทำความเลวร้ายให้วัดเบญจมบพิตรหนักเท่ากับท่านเลย หวังว่าท่านคงเข้าใจภาษาไทยและรู้เรื่อง.

005(20).jpg

ติดตามเฟซบุ๊กร่วมเป็นแฟนเพจแนวหน้าออนไลน์ได้ที่

www.facebook.com/naewnaonline

- See more at: http://www.naewna.com/politic/81357#sthash.BTjkzQ86.dpuf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหมือน BBC จะเลือกถ่าย ภาพมวลชน เฉพาะสายสั้นๆ สายเดียวเลยค่ะ คงลืมสายที่เหลือ หรือว่า จงใจ ?????

ประเทศใหญ่เค้าสมคบกันหาผลประโยชน์ เรื่องสร้างข่าว บิดแบือนเพื่อบรรลุเป้าหลายที่ต้องการเป็นธรรมดาแว้ววว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Peaceful Death

 

ความสลดสังเวชต่างกับความสลดหดหู่

------------------------

 

ความสลดสังเวชกับความสลดหดหู่นี้ต่างกัน ความสลดสังเวช คือ

การเห็นความจริงของความเสื่อมทั้งหลาย

แล้วเราก็ตั้งจิตเตรียมใจมีสติขึ้นมา หมั่นเพียรทำความดีให้ถูกเหตุถูกปัจจัย

 

แต่ความสลดหดหู่นั้นเป็นเพราะขาดสติ เราเห็นความตาย

เราก็ตื่นกลัวหรือเกิดความท้อแท้ หมดหวัง เกิดความห่อเหี่ยว เป็นความสลดหดหู่

อันนี้ขาดปัญญา ขาดสติ หมดความอุตสาหะ ไม่เป็นประโยชน์ แต่กลับเป็นโทษ

 

โดย พระดุษฎี เมธงฺกุโร

จากหนังสือ "คู่มือการพัฒนามรณัสสติ"

 

 

 

1479082_707054362639646_1584856078_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

about an hour ago

 

8. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องชาวบ้านได้แล้ว

 

คนทั่วไปเข้าใจว่าประเทศสหรัฐอเมริกามีจุดยืนที่เข้มแข็งในการปกป้องวิถีประชาธิปไตย (Democracy) ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ (Liberty) และดูแลการค้าเสรี (Free Trade) ในระเบียบโลกใหม่ที่สหรัฐฯสร้างขึ้นมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อนำพาประเทศทั่วโลกออกจากความยากจน ไปสู่ความร่ำรวยและความเจริญรุ่งเรือง โดยที่สหรัฐฯในฐานะที่เป็นมหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียวจะทำหน้าที่ปกป้องความสงบสุขในทุกภูมิภาคของโลกจากภัยสงครามและการก่อการร้าย ผ่านแสนยานุภาพทางทหารที่ไม่มีประเทศอื่นใดเทียบเคียงได้

 

แต่ความจริงสหรัฐฯดำเนินวิถีของจักรวรรดินิยมของการก่อสงครามไม่มีวันจบสิ้น

 

ดูเผินๆแล้วสหรัฐฯอยู่ในความสงบเพราะไม่มีสงครามในบ้านตัวเอง แต่แท้ที่จริงแล้ว สหรัฐฯวางแผนทำสงครามนอกบ้านอยู่ตลอดเวลา เป็นตัวการใหญ่ที่สร้างสงครามและความไร้เสถียรภาพในโลกนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ทำให้ประชาชนในประเทศอื่นที่ไม่ยอมเดินตามสหรัฐฯ รู้สึกว่าเสรีภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนถูกคุกคาม

 

คนส่วนมากที่ไม่เห็นด้านมืดของสหรัฐฯเพราะถูกอิทธิพลโฆษณาชวนเชื่อวันแล้ววันเล่ามาเป็นเวลาช้านาน ผ่านสื่อ การอบรมค่านิยม การศึกษา เครือข่ายและกลไกต่างๆที่สหรัฐฯควบคุมอย่างแยบยล จนยอมรับวิถีอเมริกันโดยไม่ตั้งข้อสงสัย

 

“ถ้าไม่เอาอเมริกา แล้วจะเอาใคร?” เป็นคำถาม ที่ให้คำตอบล็อคตัวเองอย่างยอมความโดยดุษฎี ที่คนโดยมากหรือแม้แต่ในหมู่ผู้ปกครอง นักการเมือง ข้าราชการ นักวิชาการ นักธุรกิจ พูดออกมาโดยไม่ยั้งคิด

 

อธิบายง่ายๆได้ว่า สหรัฐฯเป็นจักรวรรดิที่ดำรงอยู่เพื่อการสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น คล้ายๆกับอาณาจักรโรมันในสมัยโบราณที่ต้องทำสงครามตลอดเวลาเพื่อกำหราบศัตรูปล้นสดมภ์เงินทองและทรัพยากรของประเทศอื่นเพื่อสร้างความร่ำรวยให้ตนเองและพรรคพวก สร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศอื่นเพื่อง่ายต่อการแบ่งแยกเพื่อปกครอง

 

ขณะนี้คนอเมริกันเริ่มรู้สึกแล้วว่าสิทธิเสรีภาพของตนเองเริ่มถูกริดรอน เพราะรัฐบาลออกกฎเกณฑ์มากขึ้น เพราะมีข้ออ้างเพื่อ”ความมั่นคงของชาติ” คนอเมริกันถูกขู่ตลอดเวลาเรื่องภัยการก่อการร้ายทั้งๆที่ประเทศสงบ แต่ก็มีเหตุผลที่ต้องกลัวว่าจะถูกล้างแค้น เพราะตลอดระยะเวลา65 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯได้ทำสงครามก่อกรรมลำเค็ญให้นานาประเทศทั่วโลก

นโยบายจักรวรรดินิยมที่ต้องใช้จ่ายงบประมาณทางทหารอย่างมหาศาลทำให้สหรัฐฯกำลังจะล้มละลายทางการคลัง งบทางทหารปีหนึ่งอยู่ที่ประมาณ $600,000 ถึง $700,000 ล้าน ถ้ารวมงบประมาณทางอ้อมอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกิจการทางทหาร งบทั้งหมดสูงถึง $1 ล้านล้านต่อปี หรือประมาณหนึ่งในสามของงบประมาณประจำปี เนื่องจากสหรัฐฯขณะนี้มีงบขาดดุลย์อยู่ปีละ $1.2 ล้านล้าน แสดงว่างบทางทหารที่จะรักษาความเป็นจักรวรรดินิยมของสหรัฐฯมาจากการก่อหนี้100%

 

แต่การก่อหนี้ข้างหน้าไม่งายเพราะหนี้สาธารณะของสหรัฐฯสูงถึง $17ล้านล้าน หรือเทียบเท่าเกิน100% ต่อจีดีพี ไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าหนี้นอกงบประมาณก็อยู่ระหว่าง$80-$85ล้านล้าน ฐานะการคลังที่ง่อนแง่นอยู่ได้ด้วยการพิมพ์เงินของFederal Reserveทำให้สหรัฐฯจะรักษษฐานะผู้นำโลกได้อีกไม่นาน

 

อะไรที่ทำให้สหรัฐฯอเมริกา ซึ่งสร้างชาติบนหลักอุดมการณ์ที่สูงส่งคือ ประชาธิปไตย (Democracy) เสรีภาพ (Liberty) และการแสวงหาความสุขตามกำลังความสามารถ (Pursuit of Happiness) กลับกลายเป็นรัฐะที่กระหายสงครามอยู่ตลอดเวลา?

 

บุคคลที่มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงสหรัฐฯจากประเทศที่รักสงบ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายนอก ไม่มีพันธมิตรที่ผูกมัดทางทหาร คือประธานาธิบดี แฮรี่ ทรูแมน (President Harry Truman) ทรูแมนเป็นประธานาธิบดีช่วง 1945 ถึง1952-53 ได้นำพาสหรัฐฯออกจากลัทธิโดเดี่ยวตัวเอง (Isolationism) หลังสงครามโลกครั้งที่สองและรับเอานโยบายจักรวรรดินิยมทางทหารอย่างมีนัยะสำคัญ หน่วยงานความมั่นคงเช่น สภาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Council) และซีไอเอ(Central Intelligence Agency) เกิดขึ้นในสมัยนี้

 

ในปี 1950 สภาความมั่นคงแห่งชาติ เขียนเอกสารลับสุดNSC-68 เสนอให้อเมริกาเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารอย่างมีนัยะสำคัญแม้ว่าสหรัฐฯเพิ่งจะชนะสงครามมาหมาดๆโดยไม่เสียหายอะไรมาก ส่วนประเทศอื่นๆทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซีย เยอรมันนี บอบช้ำและบาดเจ็บและประชาชนล้มตายจากสงครามหลายสิบล้านคน ทรูแมนเป็นคนสั่งบอมบ์ระเบิดนิวเคลียร์ญี่ปุ่นสองลูก ทั้งๆที่ลูกเดียวญี่ปุ่นก็แพ้ราบคาบแล้ว ส่วนจีนเป็นคอมมูนิสต์ใหม่ๆยังยากจนมาก ไม่สามารถเป็นภัยคุกคามสหรัฐฯได้

 

จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯที่นำชัยเหนือกองทัพอังกฤษในสงครามปลดแอกจากลัทธิอาณานิคมได้กล่าวไว้ในถ้อยแถลงวันลงจากตำแหน่งว่า:

 

“กฏเกณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ของการดำเนินการของเราในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ก็คือว่าในการทำการค้าต้องมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้.”

 

ประธานาธิบดีวอชิงตันไม่ต้องการให้อเมริกาเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับประเทศใด เพราะเขาตระหนักดีว่าไม่ช้าประเทศต่างๆจะทะเลาะวิวาทกัน อันนำไปสู่สงคราม วอชิงตันต้องการให้ประเทศทั่วโลกอยู่กันอย่างสันติ เคารพในอธิปไตยซึ่งกันและกัน

 

ปี 1821 รมว ต่างประเทศ จอห์น ควินซี่ อาดัมส์(John Quincy Adams) บอกว่า อเมริกาจะไม่ไปต่างประเทศเพื่อหาตัวร้ายเพื่อทำลาย แต่อเมริกาเป็นผู้ประสงค์ดีให้ทุกประเทศมีเสรีภาพและเอกราช..

 

 

thanong

12/12/2013

 

 

1459174_179839168879132_1966876650_n.jpg

 

 

 

 

Thanong Fanclub

about an hour ago

 

9. จิ๊กโก๋อเมริกันเลิกวุ่นวายเรื่องชาวบ้านได้แล้ว

 

ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐฯ อังกฤษ และคอมมูนิสต์โซเวียตจับมือกันถล่มเยอรมันนี มีผลทำให้ฮิตเลอร์พ่ายแพ้สงครามอย่างย่อยยับ หลังเสร็จสิ้นสงคราม ประชาชนทั่วโลกโดยมากคิดว่าโลกเราจะกลับคืนสู่สันติ เพื่อสร้างประเทศกันใหม่ ไม่มีเหตุผลจะก่อสงคราม ประทุษร้ายกันอีก คนอเมริกันก็มีความเชื่ออย่างนั้นว่าอเมริกาเป็นผู้ชนะสงครามและนำมาสันติคืนสู่ประชาชาติทั้งหลายได้ เป็นช่วงเวลาก่อร่างสร้างตัวสร้างครอบครัวใหม่ หลังจากทนทุกข์ลำบากกับวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงระหว่าง ปี1929 ถึง 1939 ตามมาด้วยสงครามโลกครั้งที่สองอีกระหว่างปี 1939 ถึงปี1945 รวมเวลาทั้งหมด 16ปีเต็มของความแร้นแค้น

 

หลังสิ้นสุดสงครามทุกอย่างเริ่มจะดีขึ้นเป็นยุค “baby boom” หรือการแผ่ขยายจำนวนประชากรเพราะทหารอเมริกันกลับมาบ้านสร้างครอบครัวใหม่ สหรัฐฯไม่บอบช้ำจากสงครามเลยเริ่มมีการลงทุน เศรษฐกิจฟื้นตัวเป็นลำดับ อเมริกากำลังผงาดเป็นดินแดนแห่งโอกาสและความร่ำรวยที่แท้จริง ในขณะที่ยุโรปยังคงลำบากในการฟื้นฟูประเทศ ระบบการเมืองถูกแบ่งเป็นยุโรปตะวันออกที่ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์และยุโรปตะวันตกที่อยู่ข้างโลกเสรี ส่วนประเทศในโลกที่สามต้องต่อสู้เพื่อปลดแอกความเป็นอาณานิคมต่อไป

 

แต่น้อยคนทราบว่านโยบายของทำเนียบขาวไม่ได้ไปในทิศทางสร้างชาติใหม่ หรือการถอนตัวจากการเกี่ยวข้องกับกิจการภายนอกเหมือนช่วงก่อนสงครามโลก เพื่อสันติภาพที่แท้จริง ประธานาธิบดีแฮรี่ รูแมน เริ่มมีความรู้สึกว่าสหรัฐฯหรือผู้นำโลกเสรี ไม่อาจจะอยู่ร่วมโลกกับคอมมูนิสต์โซเวียตได้ นี้เป็นที่มาของTruman Doctrine เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงนโยบายสหรัฐฯจากการสนใจแต่เพียงกิจการภายในมาสวมบทบาทเป็นตำรวจโลก ด้วยการเพิ่มงบประมาณกลาโหมและเสริมแสนยานุภาพทางทหารเพื่อปิดล้อมโซเวียตที่ยุโรป โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ลัทธิคอมมิวนิสต์แผ่ขยายอย่างเป็นตัวโดมิโนและเป็นภัยต่อโลกเสรี

 

อาจกล่าวได้ว่านาย จอร์จ เคนนาน (George Kennan) ซึ่งเป็นนักการทูตทำงานที่มอสโคว เป็นคนริเริ่มนโยบายปิดล้อมโซเวียต เพราะเขาเฝ้ามองดูการเมืองภายในระบบสตาลินอย่างใกล้ชิด สตาลินประกาศกึกก้องแต่ใหนแต่ไรแล้วว่าระบบทุนนิยมและระบบคอมมิวนิสต์เป็นปรปักษ์ต่อกัน ไม่สามารถจะประณีประนอมกันได้

 

ช่วงปี 1946 เคนนาน เขียนบทความและส่งรายงานกลับมายังกรุงวอชิงตันเพื่อเตือนภัยของโซเวียต บทความของเขาก็ได้รับการตีพิมพ์ใน Foreign Affairs ซึ่งเป็นวารสารที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของ Council on Foreign Relations (CFR) เป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า CFRเป็นองค์กรที่วางแผนนโยบายการต่างประเทศให้กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯอเมริกาอีกที

 

สาระสำคัญของข้อเขียนของเคนนานคืออเมริกาสามารถจะต้านแรงกดดันของโซเวียตต่อสถาบันอิสระของโลกตะวันตก ด้วยการใช้แรงต้านที่ได้ชาญฉลาดและเข้มแข็ง ตามจุดภูมิศาสตร์และการเมืองต่างๆที่สำคัญและที่หันเหไปมาตลอดเวลา เพื่อที่จะต่อกรกับการเปลี่ยนแปลงและการดำเนินนโยบายของโซเวียตภายใต้การนำของสตาลิน

 

“It will be clearly seen,” Kennan wrote in 1946,” that the Soviet pressure against free institutions of the Western World is something that can be contained by the adroit and vigilant application of counter-force at a series of constantly shifting geographical and political points, corresponding to the shifts and maneuvers of Soviet policy.”

 

ความคิดของเคนนานมีอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกาต่อๆมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อ ประธานาธิบดี Harry Truman ปัญหาก็คือว่าเขาจะขายความคิดนี้ให้คนอเมริกันอย่างไร ว่าสหรัฐฯไม่สามารถดำเนินนโยบายโดดเดี่ยวหรือสนใจเฉพาะกิจการภายในของตัวเองอีกต่อไป เพราะมีความจำเป็นต้องออกไปแลกหมัดกับโวเวียตหมัดต่อหมัดในการเผชิญหน้าทางภูมิศาสตร์การเมือง?

 

สมาชิกวุฒิสภา นาย อาร์เธอร์ แวนเดนเบอร์ค (Senator Arthur Vandenberg) บอกกับประธานาธิบดี ทรูแมนว่า มันเป็นเรื่องค่อนข้างลำบากที่จะขายความคิดถึงความจำเป็นที่สหรัฐฯจะต้องเปลี่ยนนโยบายไปมีบทบาทในเวทีโลกให้กับสภาคอนเกรส สื่อมวลชน รวมทั้งประชาชนอเมริกันที่รู้สึกหน่ายต่อสงครามและความขัดแย้ง เขาบอกว่ามีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะขายความคิดกับคนอเมริกันได้คือต้องสร้างความกลัว ให้กลัวแดง (Red Scare) โดยไม่ต้องเอ่ยชื่อว่าแดงนั้นคือโซเวียต

 

 

“Mr President,” Vandenberg told Truman, ”the only way you are ever going to get this is to make a speech and scare the hell out of the country.”

 

ทรูแมนเดินหน้าทำตามคำแนะนำอย่างไม่ลังเล ในการสร้างผีคอมมิวนิสต์ทั้งๆที่โซเวียตบอบช้ำจากสงครามมาก ประชากรล้มตาย20ล้านคน เทคโนโลยี่และแสนยานุภาพทางทหารยังด้อย ไม่อาจจะเป็นภัยให้กับสหรัฐฯอเมริกาได้

 

ในปี 1947ประธานาธิบดีทรูแมนประสบความสำเร็จในการสร้างความกลัวแก่ชาวอเมริกันผ่านสุนทรพจน์ต่อสภาคอนเกรสว่าด้วยสหภาพโซเวียต เขาประกาศว่าสหภาพโซเวียตและประเทศคอมมิวนิสต์บริวารกำลังเดินหน้าเพื่อครอบครองโลก และเป็นภัยต่อโลกเสรี

 

สภาคอนเกรสออกกฎหมาย National Security Act of 1947 อันนำไปสู่การก่อตั้ง National Security Council (NSC) Central Intelligence Agency (CIA) สองหน่วยงานความมั่นคงที่จะสร้างบทบาทตำรวจโลกให้สหรัฐฯ

 

ช่วงเวลาเดียวกันนี้ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงหมาดๆ อังกฤษ สหรัฐฯอเมริกา มีบทบาทสูงในการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อรวมชาติต่างๆภายใต้หลังคาเดียวกัน ธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund) ก็ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นแขนขาทางด้านการเงินและควบคุมระบบการเงินโลก

 

ในปี 1950 สภาความมั่นคงแห่งชาติ เขียนเอกสารลับสุดNSC-68 เสนอให้อเมริกาเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารอย่างมีนัยะสำคัญเพื่อที่จะปิดล้อมรัสเซีย และป้องกันการแผ่ขยายของลัทธิคอมมิวนิสต์ อเมริกาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ North Alantic Treaty Organisation (NATO) เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวรรดินิยมอเมริกาที่จะมีอิทธิพลเหนือโลกผ่านสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด อุตสาหกรรมทางทหาร (Military Industrial Complex) เริ่มฝังรากและเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเพราะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเต็มที่

 

12/12/13

 

 

63709_179840438879005_1312293340_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...