ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

หัวใจทองคำกับรอยหยักของสมอง

โพสต์แนะนำ

“ทนายนกเขา” นำอาสา คปท.ปีนทำเนียบรื้อลวดหนามสำเร็จ ท่ามกลางโต้ตอบคารมจาก ตร.-ผู้ชุมนุม แต่ไร้เหตุปะทะ

 

วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.30 น. กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. ได้มีการส่งอาสาสมัครเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล โดยการปีนรั้วเข้าไปเพื่อปฏิบัติภารกิจรื้อรั้วลวดหนามในทำเนียบ ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังบริเวณอาคารทำเนียบ พร้อมเปิดเครื่องเสียงรบกวนการสั่งการของแกนนำ คปท. โดยระหว่างการปฏิบัติภารกิจได้มีการปะทะคารมไปมาระหว่างตำรวจที่สั่งการ กับแกนนำ คปท. และเมื่อทางอาสาสมัครจัดการรื้อลวดหนามเรียบร้อย ทางแกนนำจึงได้สั่งให้อาสาสมัครถอนกำลังออกมา

 

ต่อมายังมีการตอบโต้กันระหว่างตำรวจกับแกนนำ คปท.ไปมา เนื่องจากทางตำรวจไม่ยอมปิดเครื่องเสียงที่เปิดรบกวนมวลชน ทำให้ทางได้ คปท.มีการเปิดเครื่องเสียงโต้ตอบกันไปมา พร้อมระบุถึงเจ้าหน้าที่ว่าไม่ต้องมาร้องขอ เพราะตำรวจเคยระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนก่อน และถึงขณะนี้ตำรวจไม่มีหน้าที่ปฏิบัติภารกิจดูแลทำเนียบต่อต้านประชาชนอีกต่อไป

manager

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1489261_680478988649996_2033574167_n.jpg

 

 

1472020_555458751201650_1989304867_n.jpg

 

1486570_555610364519822_1910365759_n.jpg

 

1471091_555604927853699_774618799_n.jpg

 

1465282_555557081191817_718739321_n.jpg

คนไซเบอร์แฉภาพรุนแรงหน้าราม พลพรรคเสื้อแดงอาวุธครบมือ

http://www.naewna.com/politic/81463

 

 

1482877_658364894214306_1001901291_n.jpg

fb รวมมิตร thanks

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

Thanong Fanclub

3 hours ago

 

1. หรือจะมีศุกร์ 13 สยองขวัญ (Friday the 13th)

 

คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ หัวหน้าม๊อบประชาชน ประกาศเมื่อวานนี้ว่า 2ทุ่มคืนนี้ต้องรู้เรื่องว่าทางฝ่ายผู้บังคับบัญชาการเหล่าทัพจะเอาอย่างไร หรือจะเลือกข้างใหน สถานการณ์การเมืองไทยตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นกลาง มีแต่จะแตกหัก ไปได้แค่2ทางคือ

 

1. เข้าข้างประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ วางรากฐานให้ประเทศใหม่ หรือ

 

2. สนับสนุนรัฐบาลปูต่อไป ซึ่งแนวทางนี้ไม่ต้องการปฏิรูปประเทศ ต้องการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพราะรู้ว่าเลือกตั้งแล้วชนะ ได้กลับมากินรวบประเทศอีกครั้ง

 

จุดยืนของทางกองทัพจึงจะชี้เป็นชี้ตายสถานการณ์ที่ล่อแหลมตอนนี้ มันเป็นความจริงทางการเมืองที่เวลาถึงวิกฤตสุดๆ ทหารจะมีบทบาทสูงสุดว่าจะเลือกทางใหนในการแก้ปัญหา เพราะถ้าทหารเลือกข้างประชาชน หรือว่าเป็นทหารของพระราชา ทหารก็จะรวมตัวกันเดินไปหานายกปูแล้วบอกว่าให้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกฯ และให้คณะครม ลาออกด้วย อันจะนำไปสู่การตั้งนายกคนใหม่เพื่อรักษาการและการตั้งสภาประชาชน เพื่อวางแนวทางการปฏิรูปประเทศชาติให้มั่นคงต่อไป ปลอดจากการคอรัปชั่น สะท้อนความต้องการและผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง หลังจากประเทศตั้งลำใหม่มีความมั่นคงค่อยมาเลือกตั้งกันอีกที ตามกติกาที่ทุกคนยอมรับ โดยไม่เปิดโอกาศให้นักการเมืองขี้โกงมาทำร้ายประเทศได้อีก

 

ทางตำรวจไม่ต้องพูดถึงอยู่ฝ่ายและเป็นเครื่องมือของรัฐบาลปูอยู่แล้ว ส่วนข้าราชการยังเสียงแตก แต่โดยทั่วไปยังไม่สามารถจะเป้นปัจจัยชีขาดเหมือนทางทหาร

 

แล้วทหารมีจุดยืนอย่างไร ในยามที่บ้านเมืองวิกฤตสุดๆตอนนี้ และมีประชาชนนับหลายล้านคนออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงประเทศ

 

12/12/13

 

 

 

 

Thanong Fanclub

3 hours ago

 

2. หรือจะมีศุกร์ 13 สยองขวัญ (Friday the 13th)

 

ข่าวจากผู้จัดการเช้านี้:

 

"ผบ.ทบ. ระบุยังไม่ตอบรับพบ "สุเทพ" พร้อมแกนนำ กปปส. อ้างต้องคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ และรายงานให้นายกฯทราบก่อน ที่สำคัญกองทัพต้องเป็นกลาง เรียกร้องอย่านำไปอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ขณะที่มวลชน กปปส.ยังปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง

 

การเคลื่อนไหวของผู้บัญชาการเหล่าทัพ (ผบ.เหล่าทัพ.) หลังจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จะนำคณะกรรมการ กปปส.เข้าพบเพื่อชี้แจงถึงแนวทางการปฎิรูปประเทศของ กปปส. และขอความคิดเห็นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อ ผบ.เหล่าทัพในวันนี้ (12 ธ.ค.)

 

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ผบ.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่า ยังไม่มีการตอบรับเข้าร่วมหารื กับนายสุเทพ และคณะ เพราะเรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันทุกเหล่าทัพก่อน และยังไม่ได้มีการรายงานเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบ เนื่องจากตนเองไม่มีอำนาจมากพอในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งกองทัพ ต้องแสดงความเป็นกลาง จึงขออย่านำกองทัพไปอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง และเห็นว่าความยุติธรรมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหาที่ดีสุด"

 

ถ้าให้ตีความกันแล้ว ทางกองทัพขณะนี้เข้าข้างฝ่ายรัฐบาลปู และไม่ต้องการ

ให้ประเทศเข้าสู่ขบวนการปฏิรูป ทางฝ่ายคุณสุเทพไม่ได้เรียกร้องให้ทหารปฏิวัติ และประชาชนผู้ชุมนุมไม่ได้ต้องการปฏิวัติ แต่ต้องการให้ทุกภาคส่วนของประเทศรวมทั้งสถาบันหลักๆของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันทหารเห็นวิกฤตและเห็นความสำคัญของการปฏิรูปประเทศ

 

ที่จริงสัญญานก็ออกมาชัดเจนแล้วว่าประชาชนหมู่มากต้องการอะไรจากการเดินชุมนุมอย่างสันติมีจำนวนทั้งหมดเกิน1ล้านคนวันที่ 24 พฤศจิกายน และประมาณ4-5ล้านคนในวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ทางทหารโดยเฉพาะผบทบยังแสดงจุดยืนที่กำกวม ไม่กล้าตัดสินใจ โดยบอกว่าอย่าดึงเอาสถาบันทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งๆที่ตอนนี้เป็นช่วงวิกฤตจริงๆ

 

ถ้าทหารไม่เข้าข้างประชาชน ก็หมายความว่าทหารเข้าข้างรัฐบาลปูที่ไม่ต้องการสูญเสียอำนาจ หรือต้องการปฏิรูปประเทศอะไร เมื่อเป็นเช่นนี้ และหลัง2ทุ่มคืนนี้ผ่านไป โดยฝ่ายประชาชนไม่ได้การสนับสนุนจากทางผบทบหรือทหาร ฝ่ายคุณสุเทพอาจจะต้องปรับกลยุทธใหม่ และเราอาจจะเข้าไปสู่ฝันร้ายของศุกร์ 13

 

 

12/12/13

 

 

1468732_179876752208707_476480924_n.jpg

 

 

Thanong Fanclub

3 hours ago

 

3. หรือจะมีศุกร์ 13 สยองขวัญ (Friday the 13th)

 

นาทีระทึกกำลังเข้มข้นว่าทหารจะลงเอยกับฝ่ายใด 2ทุ่มนี้เราคงจะรู้ เพราะคุณสุเทพจะต้องประกาศจุดยืนว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ทหารจะเป็นผู้พลิกสถานการณ์ ถ้าทหารเข้าข้างประชาชน ทุกอย่างก็จบ ทางรัฐบาลปูจะถูกบีบหรือกดดันให้ลาออกไปไม่ต้องรักษาการ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการตั้งรัฐบาลชั่วคราวมาบริหารราชการแผ่นดินและวางแนวทางปฏิรูป ถ้าทหารยังนั่งนิ่งเดียวดายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก็คือสนับสนุนรัฐบาลปูนั้นเอง ทางคุณสุเทพจะตกเป็นเบี้ยล่างทันที เพราะว่ารัฐบาล ซึ่งได้ยุบสภาไปแล้วจะลากเรื่องเข้าสู่ขบวนการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม

 

ดูแล้วทั้งสองฝ่ายสูสีมาก ทางคุณสุเทพมีม๊อบ4-5ล้านคนที่พร้อมออกมาชุมนุม มวลพลังประชาชนที่ยิ่งใหญ่ แต่ไม่มีอาวุธอะไร มีแต่มือเปล่า ตีนเปล่า ส่วนทางรัฐบาลปูคุมอำนาจรัฐ มีข้าราชการ มีตำรวจและทหารหนุนอยู่ ไม่มีทางจะยอมสูญเสียอำนาจ และจะให้ออกจากอำนาจโดยวิธีการธรรมดาไม่ได้ แต่ต้องออกด้วยวิธีการพิเศษ วิธีการพิเศษมี2วิธีคือแบบที่ทำกันในปัจจุบันโดยไม่ฉีกรัฐบาลธรรมนูญ และแบบที่ต้องฉีกรัฐธรรมนูญคือปฏิวัติ

 

ตอนนี้เป็นเอกฉันท์ว่าตอ้งการเปลี่ยนแปลงประเทศแนวสันติ พูดจากันดีๆ ให้เสียสละ ไม่ฉีกรัฐธรรมนูญแต่หนทางนี้จะไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพูดคุยในวันนี้

 

ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง และทางทหารลอยแพผู้ชุมนุมต่อไป เราคงจะเห็นคุณสุเทพเรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงพลังอีกครั้งในวันพรุ่งนีั้ หรือศุกร์ 13 ให้ยิ่งใหญ่กว่าวันที่ 9 อีกครั้งเพื่อกดดันกันอีกครั้ง และเมื่อรัฐบาลมั่นใจว่าเอาทหารและตำรวจอยู่ โหมดของการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่ายจะเข้าไปสู่การปราบปราม และความรุนแรงมากขึ้น จนอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมืองได้

 

แล้วประเทศไทยจะเลี่ยงอาถรรพ์ศุกร์ 13ได้หรือไม่ Jasonเท่านั้นที่รู้คำตอบ

 

12/12/13

 

 

1474613_179879052208477_326961707_n.jpg

 

Thanong Fanclub

 

1. สหรัฐฯถอดปลั๊กมาร์กอส

 

ต้นปี 1986 ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอสของฟิลิปปินส์กำลังประสบภาวะวิกฤตทางการเมืองอย่างหนัก ประชาชนกำลังประท้วงไล่ลงจากอำนาจ และทหารก็กำลังพยายามปฏิวัติยึดอำนาจ หลังจากมาร์กอสครองอำนาจนาน 20ปี เวลากำลังจะสิ้นสุดลง มาร์กอสพยายามติดต่อกับPhilip Habib ทูตพิเศษของประธานาธิบดี Ronald Reagan และStephen Bosworth ทางทูตสหรัฐฯเพื่อต่อรองขออยู่ในอำนาจต่อไป สหรัฐฯคุมฟิลิปปินส์ทั้งข้างนอกข้างในอย่างเบ็ดเสร็จ มาร์กอสก็เหมือนผู้นำโลกที่สามทั้งหลายที่ได้รับการสหนับสนุนจากมหาอำนาจให้ปกครองอย่างกดขี่ประเทศตัวเองเพื่อรับใช้ผลประโยชน์มหาอำนาจ พอหมดประโยชน์ก็โดนเขี่ยทิ้ง ถนอม/ประภาสบ้านเราก็เข้าในรูปแบบนี้

 

ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1986 มีการพูดคุยกันที่ทำเนียบระหว่างมาร์กอส และPhilip Habib และStephen Bosworth เพื่อต่อรองเงื่อนไงการคงไว้ซึ่งอำนาจของมาร์กอสในประเทศ ในวันนั้นวิกฤตสุดๆ เพราะว่านายพล Fabian Ver หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงเพิ่งจะสกัดการปฏิวัติของรมวกลาโหม Juan Ponce Enrileที่พยายามล้มมาร์กอสเป็นผลสำเร็จ Enrileต้องเผ่นหนีออกนอกประเทศ พลตรี Fidel Ramos อยู่ในก๊วนปฏิวัติด้วย ต้องหนีเอาตัวรอด

 

Habig และBosworth เสนอเงื่อนไข 5ประการให้มาร์กอส เพื่อแลกกับการที่สหรัฐฯจะสนับสนุนให้อยู่ในอำนาจต่อไป 3ใน 5เงื่อนไขนี้ต่อรองไม่ได้ คนที่เอาเรื่องนี้มาเผยคือRoberto Onpinรมวการค้า และเป็นคนสนิทของมาร์กอส เพราะว่าเขาเป็นคนร่างเงื่อนไขและช่วยเจรจากับฝ่ายสหรัฐฯ

 

เงื่อนไขเป็นดังนี้

 

1. เอาFabian Ver ออกไป ปลดจากทุกตำแหน่ง เอา Ramosกลับมาคุมทัพ เพราะว่าสหรัฐฯไว้ใจRamosมาก

 

2. ให้Imelda Marco ภรรยาของมาร์กอส ออกจากตำแหน่งรัฐบาลทั้งหมด รวมทั้งตำแหน่งผู้ว่ากรุงมนิลา

 

3. ตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

 

4. ให้สวArturo Tolentino ที่เป็นรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งเขียนรัฐธรรมนูญใหม่

 

5. ตั้งคณะกรรมาธิการนำโดย Emmanuel Pelaez เพื่อสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชน.

 

มาร์กอสยอมทุกเงื่อนไข แต่มีความยากลำบากใจว่าจะจัดการกับ Fabin Verอย่างไร

 

12/12/2013

 

http://newsinfo.inquirer.net/364429/us-set-5-conditions-to-save-marcos

 

 

1002030_179900025539713_1106716549_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

Thanong Fanclub

15 hours ago

 

ฟิลิปปินส์มีทองคำเยอะมาก แต่สมัยมาร์กอส ทองค่อยๆโดนผ่องถ่ายออกนอกประเทศไปเก็บที่อเมริกา พอมาร์กอสหมดอำนาจ ทองคำฟิลิปปินส์ก็หายเข้ากลีบเมฆไปหมด ทุกวิกฤตของการเมืองโลกที่สาม จะมีการปล้นทองเกิดขึ้น

 

12/12/2013

 

15 hours ago

 

2. สหรัฐฯถอดปลั๊กมาร์กอส

 

ช่วงนั้นฟิลิปปินส์มีปัญหาเงินเฟ้อ ข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน Corazon Aquino ท้าทายมาร์กอสในการชิงชัยนำแหน่งประธานาธิบดี มาร์กอสให้สัมภาษณ์สื่อTVสหรัฐฯ เพื่อสร้างภาพว่าเขายังคงเป็นที่นิยมของประชาชนอยู่ แต่อาคีโนก็มาแรง Ongpinมีอารมณ์โมโหที่เงินเฟ้อกำลังพุ่งกระจุยกระจาย ดอกเบี้ยพุ่งอยู่ที่50% และมีโอกาสที่ฟิลิปปินส์อาจจะพังเหมือนอาร์เจนติน่าได้ แต่มาร์กอสทำเป็นทองไม่รู้ร้อน Onpinไปรายงานเศรษฐกิจให้มาร์กอสฟังว่าประชาชนกำลังจะตาย เขากระโกนใส่มาร์กอส แต่มาร์กอสตอกกลับมาว่า เขาเป็นประธานาธิบดีนะ จะมาตะโกนใส่เขาไม่ได้

 

เลือกตั้งเสร็จมาร์กอสชนะ อาคีโนบอกว่ามันเป็นการปล้นชัยชนะของประชาชน เลยจัดการชุมนุมประท้วงไล่มาร์กอสแบบอาระขัดขืน วอชิงตันเริ่มเป็นกังวลกับวิกฤตฟิลิปปินส์ และต้องการให้มาร์กอสลงจากอำนาจ เพราะว่าหมดประโยชน์แล้ว

 

แต่มาร์กอสได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีเรแกนเป็นดีเป็นการส่วนตัว เพราะตอนที่เรแกนเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เดินทางมาฟิลิปปินส์และได้รับการต้อนรับแบบเลี้ยงดูปูเสื่อจากมาร์กอสเป็นเวลาสองสัปดาห์ ที่ต้องการให้มาร์กอสไป คือกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพนตากอน และซีไอเอ

 

แต่มาร์กอสเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯสามารถกำหนดชะตากรรมของฟิลิปปินส์ได้ และหวังว่าจะรักษาอำนาจได้จากข้อตกลง 5ข้อที่เซ้นกับทางอเมริกัน ถึงแม้ว่ากำลังจะโดนทหารโค่นและประชาชนกำลังประท้วงหนัก นายพลFabian Ver ที่ดูแลความมั่นคง ต้องการให้มาร์กอสใช้ดำลังจัดการกับผู้ประท้วง แต่มาร์กอสบอกว่าไม่ต้องการให้ประเทศนองเลือด เชื่อว่ายังไงก็เอาอยู่ เพราะสหรัฐฯค้ำตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาอยู่

 

ขณะที่ประชาชนฟิลิปินส์เรือนแสนออกมาชุมนุมสนับสนุนฝ่ายต้านรัฐบาล และประเทศกำลังจะเข้าสู่สงครามประชาชน มาร์กอส โทรศัพท์หาวุฒิสมาชิก Paul Laxalt เพื่อซาวเสียงว่าประธานาธิบดีเรแกนยังสนับสนุนเขาดีอยู่หรือเปล่า Laxalt ตอบมาร์กอสว่า: "คุณควรจะออกไป ออกไปเลย เวลามาถึงแล้ว"

 

หลังจากนั้นเฮลิคอปเตอร์มารับมาร์กอสและครอบครัวเพื่อหนีอพยพไปอยู่ที่ฮาวาย ในขณะที่ฝูงประชาชนที่โกรธแค้นมาร์กอสบุกยึดทำเนียบ Malacanang และได้พบรองเท้า3,000คู่ของImelda Marcos

 

นั้นเป็นการสิ้นสุดอำนาจ20ปีในฐานะประธานาธิบดีของมาร์กอส

 

 

12/12/2013

 

 

1465390_179915185538197_1432052462_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

 

11 hours ago

 

 

2. สหรัฐฯถอดปลั๊คถนอม/ประภาส

 

ปากอ้างประชาธิปไตยมาตลอด แต่ที่จริงสหรัฐฯหนุนระบบเผด็จการของไทยมาตลอดนับตั้งแต่จอมพลป. จอมพลสฤษดิ์ จนถึงจอมพลถนอม เพราะว่าคุยกับทหารง่ายกว่ารู้เรื่องดี และรัฐทหารคล่องตัวกว่าในการเป็นพันธมิตรสหรัฐฯในสงครามเย็น สงครามต่อต้านคอมมิวนิสต์ และสงครามอินโดจีน

 

สาเหตุที่สหรัฐฯถอดปลั๊คจอมพลถนอมก็เพราะว่าสหรัฐฯรู้ตัวแล้วว่ากำลังจะแพ้ในสงครามเวียดนาม ไปต่อไม่ได้ ภายในสหรัฐฯมีประท้วงไม่ต้องการให้สหรัฐฯทำสงครามเวียดนามต่อ ภาวะการคลังสหรัฐฯเข้าขั้นวิกฤต จุดหันเหคือสนธิสัญญาสันติภาพปารีส (Paris Peace Accord) ปี1973 หรือพศ 2516 ตรงกับปี14 ตุลาฯวิปโยคพอดี เนื้อหาหลักของสนธิสัญญาปารีสนี้ก็เพื่อที่จะสร้างสันติภาพในสงครามเวียดนาม หยุดการแทรกแซงโดยตรงทางทหารของสหรัฐฯในสงครามเวียดนาม หยุดการรบพุ่งกันระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ เพราะฉะนั้นมันไม่คุ้มที่สหรัฐฯจะดูแลลงทุนในฐานทัพสหรัฐฯในไทย หรือเลี้ยงดูปูเสื่อทหารไทยเหมือนในอดีต

 

ทหารไทยตอนนั้นสนใจอย่างเดียวเรื่องเงินดอลล่าร์ช่วยเหลือทางทหารและอาวุธ ไม่ได้สนใจอธิปไตยของชาติ ปกติเครื่องบินรบสหรัฐฯที่บินขึ้นบินลงอู่ตะเภาทุกครั้งจำต้องได้รับการอนุมัติจากฝ่ายไทยก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยต้องเซ็ฯคู่กับทูตสหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯใช้แผ่นดินไทย แต่ฝ่ายทหารไทยบอกเสียเวลาขี้เกียจเซ็นให้ทูตสหรัฐฯเซ็นคนเดียวไปเลย เรื่องการขายประเทศเขาทำมานานแล้ว

 

เมื่อสหรัฐฯต้องถอนตัวจากสงครามเวียดนาม ก็ต้องหยุดให้การสนับสนุนรัฐบาลถนอมโดยปริยาย ต้องถึงเวลาถอดปลั๊กว่างั้นเถอะ เพราะว่าค่าใช้จ่ายมันไม่คุ้มอีกต่อไป รัฐบาลถนอมก็ต้องดิ้นเพื่ออยู่ในอำนาจต่อ ในขณะเดียวกันในกองทัพก็ระส่ำ พลเอกกฤษณ์ ศรีวะรากำลังเป็นดาวรุ่งขึ้นมาแข่งก๊วนทหารเก่าที่ไม่เอาสหรัฐฯ บุคคลที่มีคุณต่อประเทศไทยช่วงนั้นคือคุณถนัด คอมันต์ เพราะว่าตั้งแง่ไม่เอาฐานทัพสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯเป็นกังวล ที่จริงสหรัฐฯอยากจะลดบทบาททางทหารแต่ไม่ใช้ให้ถูกถอนรากถอนโคน แต่อย่างไรเสียสหรัฐฯก็ต้องถอนทหารออกไปจากไทย และอินโดจีน ก่อนจะไปกลัวคอมมิวนิสต์จะตีกลับ สั่งให้วิฑูรย์ ยะสวัสดิ์และทวี จุลทรัพย์ช่วยเอาระเบิดไปถล่มลาวและเขมร

 

ถ้าสหรัฐฯจะหนีกลับบ้านไปเฉยๆก็น่าเกลียด ไม่มีฟอร์มเพราะว่าก่อนหน้านี้สร้างภาพไว้เยอะว่าเข้ามาไทยเพื่อปกป้องประเทศไทยจากภัยคุกคามของคอมมูนิสต์ แต่พอเกิดมีการเปลี่ยนนโยบายกระทันหัน จำต้องทิ้งขว้างประเทศไทยไป อันนำไปสู่เหตุการณ์14 ตุลาฯ ก็ต้องสร้างสถานการณ์เพื่อออกไปอย่างเนียนๆ ไม่น่าเกลียด ที่แสบที่สุดคือตอนที่สหรัฐฯทิ้งเวียดนามใต้เมื่อปี1975อย่างสิ้นท่า ขนคนขึ้นเฮลิคอปเตอร์หนีตายบนดาดฟ้าสถานทูตสหรัฐฯที่กรุงไซ่ง่อนอย่างหมดรูป ขณะที่ทหารเวียดกงกำลังบุกเข้าไซ่ง่อน เป็นภาพที่ติดตาผู้คนว่า สหรัฐฯเอาเข้าจริงพร้อมทั้งทุกคนเพื่อตัดช่องน้อยแต่พอตัว

 

ลองถามตัวเองขบวนการนิสิตนักศึกษาตอนนั้นมีอะไร เด็กๆกันทั้งนั้นอายุ20ต้นๆ จะไปรู้เรื่องการบ้านการเมืองอะไร แต่ถูกชูให้เป็นฮีโร่ในการล้มระบอบถนอม/ประภาส ประชาชนที่มาประท้วงเรือนแสนได้รับการสนับสนุนจากแกนนำจัดตั้งที่มีหัวเอียงซ้ายด้วย ไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างที่ผมเขียนมาตลอดcentral plannersมีคนอยู่ในเผด็จการ ประชาธิปไตย สังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ เล่นไพ่ทุกใบ จึงไม่ยากนักที่จะช่วยปั่นกระแส14ตุลาฯ อันนำไปสู่การล้มระบอบถนอมได้ เพื่อหาทางลงให้สหรัฐฯ พลเอกกฤษณ์ให้การสนับสนุนฝ่ายนักศึกษาด้วย แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน ต่อมาก็โดนเก็บเพราะอะไรก็รู้ๆกันอยู่

 

จอมพลถนอม กิตติขจร พลเอกประภาส จารุเสถียร พันเอกณรงค์กิตติขจรจำต้องหลบหนีออกนอกประเทศหลังเหตุการณืวิปโยค14ตุลา ฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯออกมาทรงแก้วิกฤตของชาติ ปรากฎว่าประชาชนเชื่อมั่นในพระองค์ ตอนนั้นเกิดสุญญากาศทางการเมือง รองประธานสภาสมัยนั้นทูลเกล้าให้นายสัญญา ธรรมศักดิ์เป็นนายกฯ มีการตั้งสภานิติบัญญัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าลงมา ประเทศไทยก็ผ่านวิกฤตไปได้ยกหนึ่ง

 

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้สหรัฐฯมองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราใหม่ว่าเป็นศูนย์จิตใจของคนไทย ต้องมีการบริหารจัดการประเทศไทยใหม่ เพราะประเทศไทยมีดี คือมีในหลวง

 

เรื่องย่อๆก็มีแค่นี้เองครับ

 

 

thanong

12/12/13

 

http://en.wikipedia.org/wiki/Paris_Peace_Accords

 

 

1461056_179953525534363_1595928036_n.jpg

 

Thanong Fanclub

 

13 hours ago

 

 

1. สหรัฐฯถอดปลั๊คถนอม/ประภาส

 

คนไทยเขียนประวัติศาสตร์ เรียนประวัติศาสตร์ส่วนมากจะไม่มองปัจจัยภายนอกกัน มักจะมองปัจจัยภายในเป็นหลัก และไม่สามารถเชื่อมโยงปัจจัยภายนอกกับปัจจัยภายในได้ เนื่องจากฝรั่งเขียนตำรา เขาก็ต้องสร้างภาพให้เราเห็นอีกแบบที่ทำให้เขาดูดี บิดเบือนความจริง

 

เหตุการณ์14 ตุลา 2516ก็เช่นกัน โดยรวมมองกันว่าเป็นการลุกฮือของขบวนการนิสิตนักศึกษาเพื่อต่อต้านอำนาจเผด็จการทรราชของถนอม/ประภาส เพราะจอมพลถนอมเป็นเผด็จการทหาร ลุแก่อำนาจ สังคมไม่เป็นธรรม ไม่มีประชาธิปไตย จอมพลถนอมมีการปฏิวัติตัวเองเพื่อรวบอำนาจเพิ่ม และมีการใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่ต่อต้าน ปรากฎว่าเหตุการณ์ 14 ตุลาฯเป็นวันมหาวิปโยค มีคนออกมาประท้วงมากมาย500,000คน มีคนตาย มีความเสียหาย แต่นิสิตนักศึกษาและประชาชนสามารถเอาชนะทรราชได้ ถนอม ประภาส ณรงค์ต้องหนีออกนอกประเทศเพื่อลี้ภัย อันเป็นการปิดฉากยุคทรราชและเปิดประตูสู่ยุคเริ่มต้นของประชาธิปไตยเบ่งบาน ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ

 

แต่เอาเข้าจริงแล้ว การสิ้นสุดของอำนาจของถนอม/ประภาสมาจากการถอดปลั๊คของทางสหรัฐฯมากกว่า ที่เห็นว่าการให้เงินและอาวุธสนับสนุนทหารไทยในช่วงจอมพลสฤษดิ์และต่อมาในช่วงถนอม/ประภาสในสงครามเวียดนามมันเกินพอแล้ว เกิด cost overrun คือไม่คุ้มทุน รัฐทหารไทยเกิดจากการล่อเลี้ยงดูจากสหรัฐฯ ที่ใช้ไทยเป็นฐานในการทำสงครามต่อต้านการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์มานานตั้งแต่สมัยจอมพลป. แล้ว ลองย้อนกลับไปดูโพสท์ก่อนหน้านี้เรื่อง Harry Truman

 

ช่วงนั้นจอมพลป. และนายปรีดี พนมยงค์แข่งกันชิงอำนาจ สหรัฐฯหนุนทั้งคู่ ดูเหมือนว่าOSS หรือหน่วยงานที่ต่อมาพัฒนาเป็นCIAคอยหนุนนายปรีดี แต่รัฐบาลสหรัฐฯสนับสนุนจอมพลป. สหรัฐฯเล่นไพ่สองหน้าอยู่แล้ว ให้แข่งกันแล้วคอยสนับสนุนคนที่ให้ประโยชน์มากที่สุด ที่สหรัฐฯสนับสนุนจอมพลป. เพราะว่ามันเป็นยุคสงครามเย็น รัฐทหารคุมได้ง่ายกว่า มีประโยชน์กว่าในการใช้ประโยชน์ทางการสงครามและการทหาร ส่วนพลเรือนที่ทำอะไรไม่เป็นอย่างนายปรีดีเขาไม่เอาหรอก เพราะพูดเป็นแต่ลมปากประชาธิปไตย สหรัฐฯไม่เคยสนใจในประชาธิปไตยหรอกท่านทั้งหลาย ในอเมริกาพรรคเดโมแครท พรรครีพับรีกันก็แค่ปาหี่ ใครมาใครไป ก็โดนcentral planners กินเรียบ

 

อย่างตอนนี้สหรัฐฯสนับสนุนทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ให้แข่งกันระหว่างชวน & ทักษิณ; อภิสิทธิ์ vsยิ่งลักษณ์ แล้วแต่ใครมามีอำนาจก็ตีกินหมด ในทางเดิมพันเขาเรียกว่า ออกหัวลื้อแพ้ ออกก้อยอั๊วกิน ส่วนคนไทยก็แตกแยกกันไป เพราะมองไม่เห็นองค์รวม เพราะว่าโดนล้างสมองแล้ว ให้ลืมคำว่าชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไป ถ้าถือมั่นในชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ก็ไม่มีใครมาตบตาหลอกลวงทางการเมืองให้ไขว้เขวเข้าใจไปเป็นอย่างอื่นไปได้

 

thanong

12/12/13

 

1461252_179936442202738_1042140785_n.jpg

 

 

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

 

14 hours ago

 

 

Yamashita Goldทองคำยามาซิตะ

 

คุณNorimaki Araleเขียนมาว่า: Yamashita's gold มีความเป็นไปได้รึเปล่าครับ.

 

 

สมัยสงครามโลก2 ทองโดนขน โดนปล้นจากไทย พม่า อินเดีย มาเลย์ สิงคโปร์ อินโดเนเซีย ไปมนิลา ฟิลิปปินส์ หลังจากนั้นญี่ปุ่นก็ขนทองต่อจากมนิลาไปเก็บที่ญี่ปุ่นเพื่อใช้ทองหนุนในการออกบอนด์เพื่อการทำสงคราม เรียกว่าทองYamashita เพราะนายทหารชื่อว่าTomoyuki Yamashitaเป็นคนดูแลการลำเลียง ปล้นทองจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

ตามแผนที่ดูเส้นทางของทอง

 

หลังสงคราม ญี่ปุ่นแพ้ สหรัฐฯเข้าไปยึดญี่ปุ่น (ที่จริงยึดทอง???) แล้วทองทั้งหมดของบ้านเราหรือทองของเอเซีย ไปอยู่ที่ใหนกันจ๊ะ

 

เรื่องนี้ยาวสนุก แต่ต้องมีเวลาค้นคว้า เขียนเพิ่มเติม ทีนี้เข้าใจยังว่าทำไมผมถึงเขียนเรื่องวิหารเฟดมามากมาย

 

12/12/2013

 

http://en.wikipedia.org/wiki/Yamashita's_gold

 

 

 

1476009_179923555537360_2013271704_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

63711_634988243207183_701371340_n.jpg

สวัสดีวันศุกร์ พี่น้องเพื่อนๆ

 

มองดาวพราว ลมหนาวพัดเอื่อย

หัวใจอบอุ่บ ด้วยศัทธา

คุณธรรม นำหน้า

รู้รักหน้าที่ รับผิดชอบ

 

หัวใจแกร่ง สบายใจ

ขิง

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเช้ามาแล้วคะ มีสุขในวันศุกร์นะคร้าาา

 

- ทองคำร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเฟดจะปรับลด QE ในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯบ่งชึ้ให้เห็นถึงภาวะที่แข็งแกร่งจากตัวเลขยอดค้าปลีกอีกทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นกระตุ้นให้เกิดแรงเทขาย

 

- นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่า ยอดค้าปลีกที่ปรับตัวอย่างแข็งแกร่งถึงแม้ว่าตัวเลขการขออ้างสิทธิ์การว่างงานจะเพิ่มขึ้นก็ตามแต่โดยรวมแล้วยังคงดีอยู่ เป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดพิจารณาปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้าเข้ากดดันราคาทองคำ

 

- รายงานคิทโก้ระบุว่าทองคำเกิดแรงเทขายจากการที่มีการที่พรรคเดโมแครตและรีพับลีกันได้บรรลุข้อตกลงในเรื่องงบประมาณสำหรับสัปดาห์นี้ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้เฟดนั้นลดQE ได้เร็วขึ้นเพราะเนื่องจากปัญหาครั้งก่อนเฟดนั้นได้เลื่อนการลดเม็ดเงินจากสาเหตุนี้เช่นกัน

 

- จิม เวคคอฟ นักวิเคราะห์จากคิทโก้ให้แนวรับสำคัญที่ระดับ 1,210 เหรียญ และแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,250 เหรียญ

 

- เมื่อวานนี้ SPDR ยังคงเทขายทองคำต่อเนื่องอีก 6 ตัน ทำให้ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำเพียง 827.6 ตัน หากนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. จนถึงปัจจุบัน SPDR ทำการเทขายไปแล้วทั้งสิ้น 15.61 ตัน

 

- นักลงทุนเจ้าของบริษัทเหมืองได้กลับมาทำการ hedge ในตลาด ฟิวเจอร์สอีกครั้งจากที่ราคาทองคำนั้นปรับตัวลงเพื่อสร้างโอกาสทำกำไรและลดความเสี่ยงในธุรกิจ

 

- สำหรับวันนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนพ.ย. เวลา 20.30น. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าผลที่ออกมาน่าจะทรงตัว ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่นัก

 

สามารถติดตามอ่านข่าวเพิ่มเติม(ฉบับเต็ม) กับ MTS Gold Morning News 2013.12.13 ได้ที: http://www.mtsgold.co.th

 

**********************************************

Research Department

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เผดิมภพ สงเคราะห์

 

หุ้นส่งออกยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุนในขณะนี้จากปัจจัยดังนี้

1. ภาคการผลิตของ 4 ประเทศหลัก สหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน ปรับตัวสูงขึ่้น

2. ภาคการบริโภคของ USA เริ่มดีขึ้นจากตัวเลขการจ้างงาน และการบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณทำให้ความมั่นใจของผู่้บริโภคกลับมา

3. การสั่งซื้อสินค้ามีตัวเลขที่ดีขึ้นของ USA ทำให้คาดว่าการนำเข้าของ USA จะปรับตัวขึ้นต่อไป

 

ความเสี่ยง

1. USA อาจจะมีแผนชลอ QE เร็วๆ นี้จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี ประชุมFED 17-18 ธ.ค. 28-29 ม.ค. แต่ตลาดยังคาดว่าจะเห็นเริ่มปรับลด มี.ค. มากกว่า เพราะรอประธาน Fed ท่านใหม่ (อาจจะเน้นเก็งกำไรถ้า 17-18 ธ.ค. Fed ยังไม่ชลอ QE)

2. การเมืองในไทย อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจไม่โตอย่างที่คาดหวังในปี 57

โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการบริโภค และ การลงทุน

 

ดังนั้นยังเหลือหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อยสุดก็คือหุ้นส่งออก หรือ หุ้นที่อิงกับการส่งออกและเศรษฐกิจต่างประเทศ

 

SET แนวรับ 1350 ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ถ้าหลุดจะลงไปถึง 1320 หรือ 1290

 

หุ้นแนะนำยังเหมือนเดิม

1. ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ - HANA KCE SVI DELTA

2. การขนส่งสินค้า - TTA PSL

3. สินค้าโภคภัณฑ์ต้นน้ำ - BANPU PTTGC PTTEP

4. การส่งออกสินค้าอาหาร - CPT TUF

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

9 hours ago near Bangkok

 

 

ข่าวจาก ASP ค่ะ

-----------------

 

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า การขาดรัฐบาลเข้ามาบริหารกลไกทางเศรษฐกิจในภาพรวม เป็นเวลานาน จะเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่าความล่าช้าในการลงทุนโครงการภาครัฐ

 

ขณะที่การใช้นโยบายการเงินของ ธปท.ทำได้เพียงช่วยดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจเป็นการชั่วคราว แต่ไม่สามารถทดแทนการดำเนินนโยบายของภาครัฐได้

 

การดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.นั้น ไม่สามารถทดแทนได้ เพราะ ธปท.อยู่ด้านหลัง ก็อาจจะคัดท้าย คอยดูได้ชั่วคราว แต่การทำงานของรัฐบาล เป็นกลไกสำคัญในระบบเศรษฐกิจ ถ้ากลไกนี้ไม่ทำงาน ก็เป็นจุดเสี่ยงของเศรษฐกิจ

 

รัฐบาลเป็นกลไกสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจ ซึ่งการมีรัฐบาลที่สามารถทำงานได้ กับการไม่มีรัฐบาล จะมีผลต่อเศรษฐกิจแตกต่างกัน เพราะการมีรัฐบาลจะมีผู้ที่ตัดสินใจในการดำเนินนโยบายต่างๆ ได้ หากกลไกนี้ไม่เดิน ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

 

ส่วนความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทนั้น เป็นเพียงแค่ปัญหาความล่าช้าในการดำเนินการ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่า คือ การที่ไม่มีรัฐบาลมาเดินหน้ากลไกทางด้านเศรษฐกิจ

 

"เป็นห่วงอันนั้น (การมีรัฐบาล) มากกว่าเรื่องเบิกจ่ายเงิน เพราะการเบิกจ่ายจะช้าจะเร็ว โอเค มันมีผลอย่างที่พวกเราพอเข้าใจอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือว่ามีรัฐบาลที่ทำงานได้ มีหรือไม่มี อันนั้นจะสำคัญกว่า" ผู้ว่า ธปท. กล่าว

 

ส่วนเงินบาทในช่วงนี้ ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยเป็นผลจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ แต่ยังไม่มีสัญญาณการตื่นตระหนกของตลาดซึ่งธปท.ติดตามดูอยู่ และยังไม่พบว่ามีปัญหาอะไร

 

ขณะที่แนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมสัปดาห์หน้านั้น นายประสาร มองว่าประเด็นเรื่อง QE เป็นเรื่องที่ตลาดค่อนข้างรับรู้แล้ว เพียงแต่จะดำเนินการเมื่อไร ซึ่งคงคาดการณ์ไม่ได้ แต่ ธปท.มีทุนสำรองที่พร้อมจะดูแลอัตราแลกเปลี่ยน และการเคลื่อนย้ายเงินทุนอยู่แล้ว

 

1510693_10202393674350424_880640906_n.jpg

THANKS

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...