ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

หัวใจทองคำกับรอยหยักของสมอง

โพสต์แนะนำ

นสพ.แนวหน้า

http://www.naewna.com/politic/81210

 

'กนก'ชู'คนอุดรรักชาติ'ใจเด็ด อันธพาลใช้ปืนล้อมไม่ยอมแพ้

 

 

936562_657453967638732_756227863_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Kimheng 9999

Gold Brife News วันที่ 10/12/56 (รอบเช้า)

 

โฟกัสที่น่าสนใจวันที่ 10/12/56

 

เริ่มกันเบาเบาอีกด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นเวลา 12.00น. ต่อด้วยตัวเลข Industrial production และ Retail sales ของจีนเวลา 12.30น. ต่อที่ตลาดยุโรปด้วยการประกาศตัวเลข Industrial และ Manuf production ของอังกฤษพร้อมด้วยยอดดุลการค้า ในเวลาเดียวกันคือ 16.30น. ในตลาดอเมริกายังคงไม่มีการประกาศตัวเลขสำคัญอะไรครับ

 

อย่างไรก็ตาม Major focus ของตลาดน่าจะมุ่งไปที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในสัปดาห์หน้ามากกว่า (17/18.12.13) ซึ่งโอกาสล่าสุดที่เฟดอาจจะมีการตัดสินใจปรับลดขนาดของ QE ยังคงประมาณ 50:50 ครับ ถึงแม้ผลของตัวเลขต่างๆของสหรัฐฯในช่วงหลังๆนี้ล้วนออกมาแข็งแกร่งค่อนข้างมากถึงมากเลยทีเดียว และตามความเป็นจริงโดยปรกติ Fed ควรจะมีการปรับลดขนาดของ QE ลงตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้ว แต่ที่ยังดื้อ(ด้าน)อยู่

 

แนวโน้มราคาทองวันที่ 10/12/56 (รอบเช้า)

 

ประเดน Fundamental

 

ค่าเงิน USD ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) แต่ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงิน JPY เนื่องจากนักลงทุนต้องการสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง (เหตุผลที่ดูง่ายๆ)

 

โดยในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัว และนักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะเริ่มชะลอการซื้อพันธบัตรภายในเดือนมี.ค.2557 โดย Fed มีกำหนดประชุมกำหนดนโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 17-18 ธ.ค.

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการลดขนาดการซื้อพันธบัตรของ Fed

เริ่มตั้งแต่ นายเจฟฟรีย์ แล็คเกอร์ ประธาน Fed สาขาริชมอนด์ กล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของ Fed จะหารือประเด็นการปรับลดขนาดการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

 

ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ก็กล่าวว่า การดำเนินการที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการ"ลดสัดส่วนการซื้อพันธบัตรลงในเดือนธ.ค."

 

*ข่าวเกี่ยวกับการ"ลด"ขนาดการซื้อพันธบัตรยังคงเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองอยู่เสมอ แต่ราคาทองกลับปรับตัวย่อลงเพียงเล็กน้อยมากๆ (ย่อลงมาประมาณ $3 +/-) และส่วนมากจะปรับตัวขึ้นมากกว่า แน่นอนเหตุผลหลักๆส่วนหนึ่งก็คือ การที่ทองได้ร่วงแตะระดับต่ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ควรเป็นสัญาณเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนที่เห็นว่าราคาทองเริ่มลงมาบริเวณใกล้จุดที่อ้างว่าเป็นต้นทุนในการทำเหมืองทอง และที่เคยได้เคยเขียนหรือบอกไปหลายครั้งแล้วว่านี่มันเป็นเกมส์ของ Fed ทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาทองขยับขึ้นมากกว่า

 

ประเดนทางเทคนิค

 

เมื่อคืนราคาทองปรับขึ้นผ่านแนวต้านแรกเมื่อวานนี้ที่ 1234 ได้ (หากจะว่ากันด้านเทคนิค จุดนี้เป็นการผ่านแนวต้านสำคัญของทองจุดแรกเท่านั้น) โดยทำราคาสูงสุดเมื่อวานแถวบริเวณ 1243

 

แต่หากสังเกตุภาพรวมด้านเทคนิคของราคาทองทั้งหมด ว่าได้ดังนี้

1. ราคาสูงสุดยัง"ต่ำกว่า"ราคาสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา

2. ราคาต่ำสุดของราคาทองคำ ยังคง"สูงกว่า"ราคาต่ำสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา

หากยังเป็นแบบนี้อีกต่อไป หมายถึงกรอบของราคาทองคำเริ่มค่อย แคบลงๆเรื่อยๆ แบบนี้จะเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าราคาทองกำลังรอข่าสำคัญใน Week หน้า วันที่ 17-18 ธค. นั่นแหละครับ (แต่ไม่ใช่ไม่สามารถซื้อขายได้นะ เดี๋ยวว่ากันถึงกลยุทธอีกทีครับ)

 

ขณะที่กำลังร่ายข้อความในบทความ (10:30 น.) ราคาทองก็ดูคล้ายๆจะปรับตัวขึ้นผ่าน 1243 แล้ว จึงอาจทำให้ทฤษฎีที่กล่าวมาอาจใช้ไม่ได้ (บอกก่อนนะว่าให้ "สังเกตุ")

 

การอาศัยบรรดา indicator ทั้งหลาย โดยเฉพาะ Stoch อาจเป็นตัวช่วยบอกจังหวะซื้อขายที่ดีอีกสัญญาณ ซึ่งขณะนี้ พี่เขาบอกว่าเป็นสัญญาณ Over Bough หมายถึงเริ่มจะมีสัญญาณ ขายออกมาบ้างแล้ว พร้อมๆกับ Pattern ราคาทองจากภาพกราฟรายชั่วโมง ดูเลาๆเป็นภาพ Double Top เล็กๆ (ส่งสัญญาณย่อลงอีกแล้ว) แต่ขัดแย้งกับภาพกราฟค่าเงิน USDCHF หรือ ค่าเงิน USD Index ซึ่งกลับอ่อนค่าลงต่อเนื่อง

 

ประเดนทางเทคนิคสำคัญจึงอยู่ที่

1. หากราคาทองผ่าน แนวต้านที่ 1243/1245 ขึ้นไปได้ โอ้เย้ ! อาจมีเป้าหมายไม่เกิน 1247/1250+/- ครับ

2. แต่หากย่อลงมาทดสอบที่ราคา 1236/1237 แล้วหลุดลงไปได้เป้าหมายคงยังไม่ผ่าน 1232/1230 ลงไปได้ง่ายๆครับ

 

****การซื้อ และขาย ตามจังหวะทางเทคนิคด้วยกลยุทธ "ตีหัวเข้าบ้าน" ในช่วงสัปดาห์นี้ดูเหมาะกว่าครับ แล้วดูจากอะไร ข้อนี้หากใครไม่ทราบ ทางห้างทองกิมเฮง9999 เราก็มีจัดอบรมด้านเทคนิคแบบง่ายๆ โทรมาสอบถามวันอบรมที่ 02-168-3259 ต่อ 106, 109, 110 ได้เลยครับ

 

แนวรับ-แนวต้าน วันที่ 10/12/56 (รอบเช้า 10:45 น.)

R3=1247

R2=1245

R1=1243

S1=1237

S2=1235

S3=1231/1230

 

................

หมายเหตุ: บทความนี้ถูกจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่เชื่อว่าหรือควรเชื่อว่ามี ความน่าเชื่อถือ และ/หรือมีความถูกต้อง อย่างไรก็ตามผู้จัดทำไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลดังกล่าวข้อมูลและความ เห็นที่ปรากฎข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ผู้จัดทำไม่มีความประสงค์ที่จะชักจูงหรือชี้ชวนให้ผู้ลงทุนลงทุนซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผู้จัดทำจึงไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลหรือความเห็นของบทความนี้ไปใช้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว่าด้วยเรื่อง คลิปเสียงลึกลับ!

::--> ว่าด้วยเรื่อง คลิปเสียงลึกลับ! <--::

 

โปรดใช้วิจารณญาณ~

********************

ขอบคุณคลิปแนะนำจาก @Renajung Tani

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

PostToday

 

วิกฤต"ทักษิณ"49หลอน"ยิ่งลักษณ์"56?

 

โดย...ทีมข่าวการเมือง

 

แม้ว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกตั้งใหม่ แต่กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ในทางกลับกัน มีการมองว่าจะเป็นการสร้างวิกฤตรอบใหม่ด้วยซ้ำ เหมือนกับที่เคยเกิดในปี 2549 เมื่อครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้การยุบสภาแก้ปัญหาการเมือง

 

อ่านต่อได้ที่...http://bit.ly/1hJyX6x

 

‪#‎Posttoday‬ ‪#‎โพสต์ทูเดย์‬

 

 

1501810_10152088964644835_287445811_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ : Buddhadasa Indapanno Archives

ความสุขที่แท้จริงเป็นสิ่งที่ต้องได้มาเปล่า ๆ

โดยไม่ต้องเสียสตางค์เหมือนดั่งที่ตรัสว่า

ถอนความรู้สึกว่าตัวตนเสียได้แล้ว ก็ได้นิพพานมาเปล่า ๆ ไม่ต้องเสียมูลค่าอะไร.

ส่วนความสุขเทียม หรือความเพลิดเพลินที่หลอกลวงนั้น

ใช้เงินซื้อมาเท่าไรก็ไม่รู้จักพอ, จนตัวตาย ก็ไม่พบกับความสุขที่แท้จริง

 

พุทธทาสภิกขุ

มรดกที่ขอฝากไว้ ช้อ ๑๑๔

 

 

 

1467214_10152076599295535_953184069_n.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราชบัลลังค์ และจักรีวงค์.

"ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป

แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร"

 

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

 

1240024_635640006498071_485720397_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จอมบงการ คิดต่างได้แต่อย่าคิดชั่ว

เก็บตกเสียงนกหวีด ทหารเวรเป่านกหวีดรายงานตัวรักษาการนายกและรมว.กลาโหมขณะเดินทางไปประชุมครม.

ที่สโมสรทหารบก.จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อนายทหารเวรเป่าปี๊ดใส่นายกฯไปดูกัน

ออกอาการสะดุ้งรึป่าว..!

 

‪#‎Thaiuprising

=====

1461129_458036650973129_680662612_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

L0_news_img_548761_1.jpg

 

นายกฯยิ้มเริงร่า

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงสโมสรทบ.เป็นประธานการประชุมครม.นัดพิเศษ ใบหน้าสดใส ยิ้มเริงร่า ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธุรกิจ : CEO Blogs

 

วันที่ 10 ธันวาคม 2556 05:00 news_img_ceo_122.jpg

พิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญรัฐสวัสดิการเพื่อความเป็นธรรมและยั่งยืน

 

โดย : กมล กมลตระกูล

 

CEO Blogs ล่าสุด

คอลัมน์อื่นๆ

ระบอบทุนสามานย์ คือ ระบอบที่มีหลักคิด ว่าผลประโยชน์ส่วนตัวและผลกำไรของบริษัทมีความสำคัญมากกว่าผลประโยชน์

 

 

และความอยู่ดีมีสุขของสังคมและสิ่งแวดล้อม จากหลักคิดนี้จึงนำไปสู่นโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แปรรูประบบการศึกษาโดย การนำมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลออกนอกระบบ การแปรรูประบบคมนาคม สนามบินและการพลังงานแห่งชาติ ซึ่งเป็นต้นตอของต้นทุนของสายโซ่การผลิตต้นน้ำให้มีราคาสูง รัฐขาดรายได้ที่จะนำมาจัดระบบสวัสดิการและลดค่าครองชีพให้ประชาชน ประชาชนรากหญ้าและชนชั้นกลางจึงเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าในทุกประเทศ เกิดการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจ เกิดการถือครองที่ดินและทรัพย์สินกระจุกตัวในหมู่คนกลุ่มน้อยร้อยละ 1 ของประเทศ สังคมมีลักษณะ รวยกระจุก จนกระจาย ฯลฯ หลักคิดนี้ได้ครอบโลกมากว่า 3 ทศวรรษโดยมีองค์กรครอบโลกอันได้แก่ องค์การค้าโลก (WTO) องค์การเงินโลก (IMF) และ ฉันทามติวอชิงตัน (Washington Consensus) เป็นพลังบีบและขับเคลื่อนให้ทุกประเทศยอมรับกติกาและนโยบายของระบอบนี้

 

กติกาและนโยบายของระบอบทุนสามานย์เบิกทางให้กลุ่มทุนข้ามชาติและบริษัทข้ามชาติร่วมกับทุนผูกขาดในแต่ละชาติดูดซับเอาความมั่งคั่งจากทรัพยากรและแรงงานของแต่ละชาติไปรวมศูนย์กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มคนร้อยละ 1 ของสังคม และสร้างความยากจนกระจายไปทั่วทั้งสังคม ก่อให้เกิดปัญหาช่องว่างทางสังคม ความขัดแย้ง อาชญากรรม ยาเสพติด การขูดรีดคนงาน และค่าครองชีพแพงทั้งแผ่นดิน ค่าบริการสาธารณูปโภคแพงทั้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง และค่าทางด่วนล้วนแพงลิบลิ่วเกินกว่ารายได้พื้นฐานของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่จะอยู่รอดได้ ในขณะเดียวกันราคาของผลผลิตภาคเกษตรกลับตกต่ำลงทุกวันเป็นการสวนทางกัน แม้แต่ระบบนิเวศน์ก็เสียความสมดุลโดยกลุ่มทุนผูกขาดที่เป็นอภิสิทธิ์ชนร่วมกับทุนต่างชาติรับสัมปทานตั้งโรงงาน หรือขุดเจาะสำรวจแหล่งแร่ แหล่งแก๊ส แหล่งน้ำมันทั้งบนบกและในทะเลมหาสมุทรโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนและอาชีพของชุมชนโดยประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการลงประชามติเห็นชอบด้วย ประชาชนร้อยละ 99 ล้วนมีหนี้สินทั้งในและนอกระบบเฉลี่ยครัวเรือนละ 2 แสน 4 หมื่นบาท (สำนักงานสถิติแห่งชาติ 2554)

 

ระบอบทุนสามานย์ในประเทศไทยเป็นบริวารของระบอบทุนสามานย์โลกโดยมีระบบการเมืองที่นักการเมือง ข้าราชการและนักวิชาการ นำหลักคิดของระบอบทุนสามานย์นี้มาเป็นธงในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการเมืองแบบเสรีชนิดมือใครยาวสาวได้สาวเอาที่สร้างปัญหา สร้างความขัดแย้ง สร้างความแร้นแค้นยากจนให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนของสังคม เปิดโอกาสให้มีการละเมิดสิทธิชุมชน และการรุกล้ำทำลายฐานทรัพยากรธรรมชาติและทำลายความสมดุลของระบบนิเวศน์ ปัญหาทั้งหมดข้างต้นนำไปสู่ทางตันทางการเมือง การเผชิญหน้าและสงครามกลางเมืองอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ไทย

 

ปัญหาอันหลากหลายมากประเด็นในสังคมไทยล้วนเป็นปัญหาที่มีต้นตอมาจากการเมืองที่ไปยึดถือรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดโดยการกำหนดโครงสร้างอำนาจและ รูปแบบทางการเมือง ในการบริหารการปกครองประเทศโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม และการใช้ระบบการตรวจสอบผ่านทางสภานิติบัญญัติ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่เป็นผู้ตั้งรัฐบาล ระบบการถ่วงดุลจึงไม่เกิดขึ้นในสภาพความเป็นจริง เพราะเป็นพวกเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตาม ต่อกระบวนการและวิธีการเลือกตั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ได้เป็นบทเรียนที่พิสูจน์ให้ประชาชนที่มีความรู้ความเข้าใจเท่าทันบรรดานักการเมือง ได้เห็นผลแห่งการปฏิบัติ ที่เป็นจริงแล้วว่ากฎระเบียบ ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญทุกฉบับดังกล่าว ที่ไม่ว่าจะมีการยกร่างกันมากี่ครั้งกี่หน ก็ไม่สามารถที่จะใช้เป็นหลักการและข้อกำหนดในการแก้ปมปัญหาการผูกขาดทางการเมืองและการผูกขาดทางเศรษฐกิจที่อยู่ในมือของคนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจจำนวนเพียงร้อยละ 1 ของประเทศเท่านั้น

 

ดังนั้น การใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเข้ายึดอำนาจรัฐผ่านพรรคการเมืองที่กลายเป็นบริษัทส่วนตัวของหัวหน้าพรรค ประชาชนจึงไม่ได้มีส่วนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยตามบรรทัดฐานสากล พรรคการเมืองที่รัฐธรรมนูญเก่าส่งเสริมให้เข้มแข็งจึงกลายเป็นต้นตอของปัญหาการเมืองที่ภาคประชาชนพบแต่ทางตันหรือจุดอับอย่างที่เราเห็นและเป็นอยู่ และยากที่จะแก้ไข ในกรอบคิดแบบเดิมๆ ได้

 

แนวทางการแก้ไขและปฏิรูปการเมืองของประเทศจึงต้องเริ่มต้นที่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองด้วยการเปลี่ยนระบบการเข้าสู่อำนาจปกครองให้กับประชาชนอย่างเท่าเทียมกันโดยมีระบบป้องกันการผูกขาดอำนาจทางการเมืองตั้งแต่ต้นธารด้วยการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่และวางระเบียบการตรวจสอบที่เข้มข้น และการใช้เสียงประชามติ ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นอาวุธที่สำคัญ

 

การสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ เป็นรัฐธรรมนูญ “ฉบับอภิวัฒน์ เพื่อความเป็นธรรมและยั่งยืน” จึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะต้องสถาปนาขึ้น โดยประชาชนทุกหมู่เหล่าโดยใช้การลงประชามติที่โปร่งใส เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ปราศจากการแทรกแซงของอำนาจอิทธิพลใดๆ ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่แท้จริง กระบวนการนี้จึงมีความชอบธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย และถูกต้องตามหลักสากลที่ใครก็มิอาจปฏิเสธได้และปัญหาด้านอื่นๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจและสังคม การคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นผลพวงของปัญหาทางการเมืองก็จะได้รับการแก้ไขให้ตกไปด้วยโดยไม่เกิดความรุนแรงตามครรลองและแนวทาง ที่รัฐธรรมนูญ ฉบับอภิวัฒน์ใหม่ได้บัญญัติไว้อย่างเป็นธรรม

 

รัฐธรรมนูญฉบับอภิวัฒน์เพื่อความเป็นธรรมและยั่งยืน ได้กำหนดให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีรายกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัดตลอดจนผู้กำกับการตำรวจผู้บัญชาการตำรวจต้องมาจากการเลือกตั้งทางตรงจากประชาชนตามภูมิลำเนาของท้องถิ่นต่างๆ ด้วยกระบวนการเลือกตั้งที่เข้มข้นและตามกฎหมายที่เคร่งครัด อันเป็นหลักการกระจายอำนาจ การตัดสินใจให้เป็นของประชาชนในการเลือก และปลดผู้บริหารประเทศทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติที่เป็นจริง นั่นคือ สิทธิและเสรีภาพ ในการเลือกผู้บริหารสูงสุดของประเทศคือนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีผู้ร่วมในการบริหารประเทศรวมทั้งสิทธิในการเลือกผู้นำในการบริหารในระดับท้องถิ่นของตนด้วยตนเอง อันเป็นการสร้างระบบถ่วงดุลอำนาจให้มีประสิทธิภาพใหม่ ด้วยการเลือกคนดีมีผลงานมาเป็นผู้บริหารสูงสุดในทุกระดับโดยระบบการเลือกตั้งใหม่นี้เป็นการทำลายระบบพรรคพวกบริวาร (Cronyism) ที่ฉ้อฉลและซ่อนตัวอยู่ในร่างของพรรคการเมืองที่กัดกินบ่อนทำลายสังคมไทยมาเป็นเวลายาวนานจนเกินพอแล้ว

 

ขณะเดียวกัน หลักการกระจายอำนาจและการถ่วงดุลอำนาจดังกล่าวอันจะบันดาลให้เกิดขึ้นเป็นจริงได้สิ่งสำคัญก็คือ การรณรงค์ให้การศึกษาและนำเสนอให้ประชาชนทั้งประเทศมีความรู้ความเข้าใจในผลดีของระบบใหม่และพร้อมใจที่จะร่วมกันลงประชามติให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริงตามแนวทางที่นำเสนอนี้เพื่อก้าวข้ามให้พ้นไปจากสภาวะทางตันทางการเมืองในขณะนี้

 

ดังนั้น รัฐธรรมนูญ ฉบับอภิวัฒน์ใหม่นี้ จึงต่างไปจากรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ได้ยกร่างกันขึ้นมาด้วยหลักคิดความเชื่อ ในระบอบประชาธิปไตยในแบบที่เน้นแต่การเลือกตั้งตามแบบอย่างประเทศตะวันตก อันถูกนำมาเผยแพร่และยกร่างขึ้นโดยองค์กรหรือคณะบุคคลที่ไปรับอิทธิพลความคิดดังกล่าวโดยอ้างความทันสมัยมาเพียงแค่รูปแบบที่ลอกเลียน ศึกษาและเอาอย่างมาแต่เพียงรูปแบบเท่านั้น และที่สำคัญ มันได้รับการพิสูจน์มาเป็นเวลากว่า 80 ปีแล้วว่า วิธีการเลือกและการจัดตั้งรัฐบาลโดยทางอ้อมเป็นต้นตอที่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยกลายเป็นระบอบธุรกิจการเมือง (Private interest led politics อันตรงกันข้ามกับ Public interest led politics) อย่างสิ้นเชิงและยากที่ประชาชนทั่วไปจะมีสิทธิตรวจสอบได้

 

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญที่ส่งเสริมพรรคการเมืองให้เข้มแข็งตามแนวคิดของนักวิชาการที่รับใช้นักธุรกิจการเมือง จึงได้กลายพันธุ์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยสามานย์ที่ใช้เงินเป็นตัวตั้ง ระบบการเมืองกลายเป็นระบบพวกพ้องบริวาร (Cronyism) และกลายเป็นกระบวนการ บุฟเฟ่แคบิเนท ที่นักธุรกิจการเมืองจะเข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินและจากการแจกจ่ายสัมปทานให้บริษัทในเครือของครอบครัว พวกพ้องบริวาร หรือเพื่อรับเงินสินบนใต้โต๊ะ (Kick back) ได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อกฎหมายใดๆ อันทำให้งบประมาณและทรัพยากรของแผ่นดินกลายเป็นชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ที่นักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นและพวกพ้องบริวารรวมหัวกันเข้ามาแบ่งสรรกันกินรวบ รับช่วง เหมาทำ รับสัมปทานไปเพื่อเข้ากระเป๋า ตนเองกันอย่าง ปรีดิ์เปรม แต่ประชาชนกลับทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส ตลอดระยะเวลาที่อ้างความเป็นระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านมา

 

รัฐธรรมนูญฉบับอภิวัฒน์เพื่อความเป็นธรรมและยั่งยืนได้นำเสนอหลักการและวิธีการป้องกันการคอร์รัปชันของนักการเมืองและข้าราชการตามหลักการ ที่ว่า ทรัพย์สินทุกประเภทของผู้ใดก็ตามที่ได้มาจะต้องรายงานและพิสูจน์การได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีหลักฐานว่าได้จ่ายภาษีตามระเบียบอย่างถูกต้อง หากพิสูจน์ไม่ได้ หรือปกปิด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชัน (ป.ป.ช.) หรือกรมสรรพากรมีอำนาจออกคำสั่งยึดเข้าเป็นสมบัติของรัฐโดยกระทรวงการคลังได้ทุกกรณี โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาลที่ชักช้า คือการใช้วิธีการของระบบอเมริกันที่ให้อำนาจกับกรมสรรพากรที่ขึ้นตรงกับกระทรวงยุติธรรม มิใช่ขึ้นกับฝ่ายบริหาร

 

ซึ่งภายใต้หลักการนี้ กฎหมายดังกล่าวมุ่งที่จะให้ความคุ้มครองป้องกันข้าราชการ นักการเมืองและ สุจริตชนให้ประกอบสัมมาชีพโดยถูกต้อง และพร้อมถูกตรวจสอบได้ทุกขณะเหมือนในประเทศอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรป และมีระบบภาษีที่ก้าวหน้า และเป็นธรรม กับประชาชน ทุกหมู่เหล่าอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน แต่จะเคร่งครัดเอาจริงกับมิจฉาชีพ หรือการประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมายทุกประเภท เช่น ผู้ค้ายาเสพติด นายบ่อนการพนัน เจ้ามือหวยใต้ดิน ที่ร่ำรวยอย่างผิดปกติ จะต้องแจ้งที่มาของรายได้ทุกปีในใบแจ้งภาษีประจำปี (ภ.ง.ด.) ว่าได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากพิสูจน์ไม่ได้ กรมสรรพากรก็มีอำนาจสั่งยึดเข้ากระทรวงการคลัง อย่างไม่มีการละเว้นโดยไม่ว่าผู้นั้นจะดำรงสถานะตำแหน่งสูงหรือ เป็นผู้ ทรงอิทธิพล ในด้านใดๆ ก็ตาม ทุกคนมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเดียวกัน เฉกเช่นเดียวกันโดยไม่มีข้อยกเว้น ผู้กระทำความผิดซึ่งนอกจากจะถูกกระบวนการศาลยุติธรรมพิพากษาแล้ว ยังจะถูก สังคมและสาธารณชนประณามให้มัวหมองไปชั่วชีวิตอีกด้วย

(อ่านต่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2556)

Tags : กมล กมลตระกูล

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อัพเดทแนวบริหารความเสี่ยงการลงทุน (2)

โดย : ผศ.ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ

news_img_548677_1.jpg

รูปที่ 1 ไส้ในของโปรแกรมทางด้านบริหารความเสี่ยง Aladdin

news_img_548677_2.jpg

สัปดาห์ที่แล้ว ได้อัพเดทแนวทางการบริหารความเสี่ยงไปบางส่วน พอดีได้มีโอกาสทดลองใช้โปรแกรมทางด้านบริหารความเสี่ยงที่ถือว่าได้รับความนิยม

เป็นอันดับต้นๆ ในตอนนี้ ที่ชื่อว่า Aladdin ของบริษัททางการเงินที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดของโลกที่ชื่อว่า Blackrock จึงขอนำมาคุยให้ฟังแบบคร่าวๆ ครับ

ก่อนอื่น ต้องบอกว่าการวิเคราะห์ ลูกเล่น และ หน้าจอแสดงผลของโปรแกรมดังกล่าว แสดงการทำงานไว้ดังรูปที่ 1 ไม่ต่างจากการเล่น App ของไอโฟน ผมคิดว่าจุดเด่นของโปรแกรม ดังกล่าว มีอยู่ 2 ประการ ได้แก่ หนึ่ง ความสะดวกในการคีย์ข้อมูลเข้าไป หากต้องการเปลี่ยนสมมติฐานต่างๆ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็น สมมติฐานทางเศรษฐกิจ และ ทางบริหารความเสี่ยง และ สอง การแสดงผลการวิเคราะห์ที่ทั้งลงลึกและเห็นภาพได้ชัดถึง 3 มิติแบบเห็นถึงแก่นของพอร์ตโฟลิโออย่างชัดเจน อีกทั้ง Aladdin ยังทำหน้าที่บริหารความเสี่ยง ให้กับบริษัททางการเงินอื่นๆ โดยขนาดดังกล่าวคิดเป็นเกือบหนึ่งในสิบของสินทรัพย์ทางการเงินทั้งหมดของโลก

ที่น่าสนใจไม่แพ้โปรแกรมดังกล่าว คือ ตัวบริษัท Blackrock เอง ซึ่งในขณะนี้มีขนาดสินทรัพย์มากกว่า 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ เกือบครึ่งหนึ่งของจีดีพีประเทศสหรัฐอเมริกา โดยครึ่งหนึ่งเป็นตราสารหุ้น และ อีกราวหนึ่งในสามเป็นตราสารพันธบัตร ที่สำคัญ ในขณะนี้ Blackrock เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของครึ่งหนึ่งของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลกทั้งหมด ดังรูปที่ 2

เพื่อให้เห็นเบื้องหลังของการที่ Blackrock ขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญให้กับรัฐบาลสหรัฐในการประมาณราคาสินทรัพย์ที่เป็นหนี้เสียในช่วงวิกฤติซับไพร์มที่ผ่านมา ผมขอย้อนกลับเพื่อพลิกดูปูมหลังก่อนมาเป็น Blackrock ในวันนี้

เริ่มจาก ซีอีโอของ Blackrock ที่ชื่อ ลาร์รี ฟลิงก์ ภายหลังจากขาดทุนจากการลงทุนที่ CS First Boston ก็ออกมาตั้งบริษัทเองชื่อว่า Blackrock ในปี 1994 โดยที่จับตลาด Niche อย่างตลาดพันธบัตรในบางรายอุตสาหกรรม แล้วค่อยๆ พัฒนาเครื่องมือต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริหารความเสี่ยง โดยที่ Blackrock เติบโตคล้ายกับเต่าที่เดินมาเรื่อยๆ ไม่หวือหวาอย่าง Goldman Sachs เรียกว่า Low Profile, High Profit อย่างแท้จริง จนกลายเป็นเบอร์ 1 ในขณะนี้ ตัว ลาร์รี ฟลิงก์ เองก็เนื้อหอมจนมีคนเชิญไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐ เสียด้วยซ้ำไป ผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าฮือฮาในช่วงนี้ได้แก่ Aladdin ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น จนล่าสุดถึงขนาดขึ้นหน้าปกนิตยสาร the Economist เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี แม้ Aladdin จะมีความสามารถในการวิเคราะห์ความเสี่ยงดีมาก สักเพียงใด ผมมีความเห็นคล้ายกับนิตยสาร the Economist ว่าก็มีข้อเสียต่อผู้ใช้และระบบการเงิน ดังนี้

ประการแรก หน่วยงานที่ซื้อเครื่องมือการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากภายนอก กำลังยักย้ายถ่ายเททรัพยากรออกจากการพัฒนาความชำนาญหรือองค์ความรู้ทางด้านการบริหารความเสี่ยงภายในบริษัทของตนเอง ทั้งนี้ อันตรายจากการขาดความชำนาญดังกล่าว คือการเชื่อตามรายงานความเสี่ยง ซึ่งมีความละเอียดและหลากหลายมิติที่โปรแกรมคอมพิวเตอร์คำนวณออกมาโดยปราศจากความเข้าใจที่ถ่องแท้ ทำให้เกิดความเสี่ยงจากความไม่เข้าใจ ถึงต้นตอความเสี่ยงที่แท้จริงของบริษัทตนเองเพิ่มขึ้นอีกต่อหนึ่ง

ประการที่สอง หากบริษัทด้านการลงทุนหลายๆ แห่งมีความไม่เข้าใจดังกล่าว ก็จะก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบ ซึ่งโดยปกติแล้ว การกำหนดราคาตลาดของสินทรัพย์ใดๆ ก็ตาม ในทางทฤษฎีนั้น ควรจะมาจากมุมมองของนักวิเคราะห์และผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อ และสมมติฐานที่แตกต่างกัน ทว่าจากการที่โปรแกรม Aladdin เริ่มเป็นที่นิยมในบริษัททางการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงบริษัท Blackrock เองก็เข้าไปถือหุ้นใหญ่ในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลกอยู่หลายแห่ง จึงทำให้ นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อถือการวิเคราะห์ความเสี่ยงดังกล่าวด้วย หากเป็นเช่นนี้ หากเกิดวิกฤติการเงินขึ้นอีก ความรุนแรงย่อมมากขึ้นเป็นทวีคูณ

ประการที่สุดท้าย การพึ่งพาแต่โปรแกรมด้านความเสี่ยงดังกล่าว ในฐานะนักลงทุน ก็อาจทำให้บริษัท Blackrock มีความได้เปรียบในฐานะผู้ซื้อขาย ตราสารทางการเงินในตลาด เหมือนกับที่นักลงทุนก่อนปี 2008 พึ่งพาการจัดอันดับเครดิตของบริษัท Moody’s และ Standard & Poor’s จนเกิดวิกฤติซับไพร์มมาแล้ว

หมายเหตุ : หนังสือด้านการลงทุนด้วยข้อมูลเชิงมหภาค (Macro Investing) เล่มล่าสุดของผู้เขียน “เล่นหุ้นต้องใช้ใจ... รวยได้ไม่รู้จบ” วางจำหน่ายทั่วประเทศแล้ว และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประเด็นการลงทุน ได้ที่ www.facebook.com/MacroView และ LINE ID : MacroView ครับ

Tags : ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้น 10 เด้ง

 

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร -2

 

บทความสัปดาห์ที่แล้วนั้น ผมพูดถึงหุ้นผู้บริโภคขนาดใหญ่เกือบ 30 ตัว

 

สัปดาห์นี้จะมองย้อนหลัง 10 ปี และดูว่ามีหุ้นตัวไหนบ้างที่เติบโตขึ้นมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...