ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
Gcap GuRu

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold

โพสต์แนะนำ

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 23/12/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,186 1,177 1,170

แนวต้าน (Resistance) 1,206 1,212 1,218

 

ดอลลาร์อ่อนตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกัน อันเป็นผลมาจากการตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (20 ธ.ค.) หลังจากที่ร่วงลงอย่างรุนแรงถึง 3.4% เมื่อวันก่อน สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,203.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อสัญญาทองคำหลังจากที่ราคาร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอัญมณีและอุตสาหกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทางเทคนิคต่อราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดคาดว่า จะมีการปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณลงอีกในอนาคต

บริษัทโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ระบุว่า ราคาทองคามีแนวโน้มที่จะทาสถิติปรับตัวลดลงต่อปีสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2524 และคาดว่าราคาจะปรับตัวลงแตะ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในสิ้นปีหน้า

 

แนะแนวทางการลงทุน

หากราคายังไม่สามารถผ่าน $ 1,216 Us/Oz ยังเสี่ยงโดนแรงเทขาย ให้รอจังหวะ ราคาทดสอบแนวต้านแนะเปิด Shot

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

ค่าเงินบาทเมื่อคืนวันศุกร์ (20 ธ.ค.) ที่ผ่านมา เปิดตลาดที่ระดับ 32.47/49 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.46/47 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ หลังจากที่เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาไปทดสอบระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังไม่ผ่าน ซึ่งหากผ่านไปได้ในวันนี้ก็จะเป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 53 หากค่าเงินบาทอ่อนค่าหลุดระดับ 32.50 ก็จะเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี เพราะช่วงนั้น(3 ปีก่อน)อยู่ที่ 32.48/49 แต่เมื่อคืนไป test ที่ 32.50 แต่ยังไม่ผ่าน วันนี้มีโอกาสจะไป test อีกครั้ง ถ้าผ่านไปได้บาทคงขยับขึ้นไปอีกเยอะพอสมควร เพราะทะลุ 3 ปีขึ้นไป และเห็นเป็นขาขึ้น(อ่อนค่า)ได้ชัดเจน

 

ค่าของเงินบาทเป็นไปในในทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ตัดสินใจจะทยอยปรับลดมาตรการ QE ลง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ต้นปีหน้า ในขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศเริ่มอ่อนลงแล้ว ตราบใดที่ยังไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง ตามความกังวลของตลาดก่อนการประชุมของเฟดในสัปดาห์หน้า ซึ่งผู้เล่นในตลาดน่าจะยังไม่เพิ่มการลงทุนในสกุลเงินเอเชียก่อนที่จะมีการประกาศของ FOMC ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางในภูมิภาควานนี้(เกาหลีใต้ อินโดนีเซียและ ฟิลิปปินส์) เป็นไปตามคาดและไม่ได้ส่งผลต่อค่าเงินมาก อย่างไรก็ดี เงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 12,040 เทียบกับเงินดอลลาร์ ตามความต้องการดอลลาร์จากภาคธุรกิจที่ต่อเนื่อง ส่วนเงินเปโซอาจจะได้เห็น แนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้นในระยะกลาง หลังจากที่ธนาคารกลางได้เน้นย้าถึงความเชื่อมั่นของการเติบโตที่แข็งแกร่งในปีหน้า และคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าประเทศจะได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น

 

http://www.youtube.com/watch?v=qP9qTjj6Bko

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 24/12/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,186 1,177 1,170

แนวต้าน (Resistance) 1,212 1,218 1,225

 

ดอลลาร์อ่อนตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกัน อันเป็นผลมาจากการตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (20 ธ.ค.) หลังจากที่ร่วงลงอย่างรุนแรงถึง 3.4% เมื่อวันก่อน สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,203.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อสัญญาทองคำหลังจากที่ราคาร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอัญมณีและอุตสาหกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทางเทคนิคต่อราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดคาดว่า จะมีการปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณลงอีกในอนาคต

บริษัทโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะทำสถิติปรับตัวลดลงต่อปีสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2524 และคาดว่าราคาจะปรับตัวลงแตะ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในสิ้นปีหน้า

 

แนะแนวทางการลงทุน

เช้านี้ราคาอาจจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Down วอลลุ่มการซื้อขายเริ่มเบาบางเนื่องจากใกล้เข้าเทศกาลวันหยุดคริสมาส

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

ค่าเงินดอลลาร์ได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ประกาศลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (Quantitative Easing : QE) จากจำนวน 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ลงเป็น 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน นอกจากนี้ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐ (Burean of Economic Analysis) ได้ประกาศตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศประจำไตรมาสที่ 3 ที่ระดับขยายตัว 4.1% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.6% ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดปริมาณมาตรการผ่อนคลายทางการเงินลงในอนาคต

 

ในส่วนของค่าเงินบาท ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอกเหนือนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงเทขายเงินบาทของนักลงทุน เนื่องจากในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ โดยในระหว่างวันค่าเงินเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.65-32.77 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ 32.66/68 บาท/ดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตามองตัวเลขเศรษฐกิจที่สาคัญของไทยได้แก่ ยอดส่งออก นาเข้า ดุลบัญชีการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดประจำเดือนพฤศจิกายน

 

http://www.youtube.com/watch?v=iqrlhLsiYcs

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 25/12/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,186 1,177 1,170

แนวต้าน (Resistance) 1,212 1,218 1,226

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่ที่พุ่งขึ้นเกินคาด

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% บ่งชี้ว่าการลงทุนและความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจกาลังฟื้นตัวขึ้นจากช่วงไตรมาสสาม

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืน (23 ธ.ค.) หลังจากที่ร่วงลง เมื่อวันก่อน สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,203.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อสัญญาทองคำหลังจากที่ราคาร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอัญมณีและอุตสาหกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทางเทคนิคต่อราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดคาดว่า จะมีการปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณลงอีกในอนาคต

บริษัทโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะทำสถิติปรับตัวลดลงต่อปีสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2524 และคาดว่าราคาจะปรับตัวลงแตะ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในสิ้นปีหน้า

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาอาจจะเป็น Sideway Up อีกสักระยะหนึ่ง วอลลุ่มการซื้อ ขาย อาจจะเบาบาง เนื่องจากเป็นเทศกาลคริสต์มาส (บางหน่วยงานเริ่มปิดทำการแล้ว)

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

ค่าเงินดอลลาร์ได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ประกาศลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (Quantitative Easing : QE) จากจำนวน 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ลงเป็น 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน นอกจากนี้ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐ (Burean of Economic Analysis) ได้ประกาศตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศประจาไตรมาสที่ 3 ที่ระดับขยายตัว 4.1% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.6% ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดปริมาณมาตรการผ่อนคลายทางการเงินลงในอนาคต

 

ในส่วนของค่าเงินบาท ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอกเหนือนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงเทขายเงินบาทของนักลงทุน เนื่องจากในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ โดยในระหว่างวันค่าเงินเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.65-32.77 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ 32.66/68 บาท/ดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตามองตัวเลขเศรษฐกิจที่สาคัญของไทยได้แก่ ยอดส่งออก นำเข้า ดุลบัญชีการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดประจำเดือนพฤศจิกายน

 

http://www.youtube.com/watch?v=3iLSKUufWQU

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 26/12/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,186 1,177 1,170

แนวต้าน (Resistance) 1,212 1,218 1,226

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่ที่พุ่งขึ้นเกินคาด

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% บ่งชี้ว่าการลงทุนและความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจกาลังฟื้นตัวขึ้นจากช่วงไตรมาสสาม

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืน (23 ธ.ค.) หลังจากที่ร่วงลง เมื่อวันก่อน สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,203.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อสัญญาทองคำหลังจากที่ราคาร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอัญมณีและอุตสาหกรรมผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทางเทคนิคต่อราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากตลาดคาดว่า จะมีการปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณลงอีกในอนาคต

บริษัทโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะทำสถิติปรับตัวลดลงต่อปีสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2524 และคาดว่าราคาจะปรับตัวลงแตะ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในสิ้นปีหน้า

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในวงจากัด วอลลุ่มซื้อขายเบาบาง อาจจะต้องรอการประกาศตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานในคืนนี้เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนราคาทองคา ทิศทางยังคงเป็น Sideway

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

ค่าเงินดอลลาร์ได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ประกาศลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (Quantitative Easing : QE) จากจานวน 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ลงเป็น 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน นอกจากนี้ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สานักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐ (Burean of Economic Analysis) ได้ประกาศตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศประจาไตรมาสที่ 3 ที่ระดับขยายตัว 4.1% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.6% ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดปริมาณมาตรการผ่อนคลายทางการเงินลงในอนาคต

ในส่วนของค่าเงินบาท ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอกเหนือนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงเทขายเงินบาทของนักลงทุน เนื่องจากในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ โดยในระหว่างวันค่าเงินเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.65-32.77 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ 32.66/68 บาท/ดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตามองตัวเลขเศรษฐกิจที่สาคัญของไทยได้แก่ ยอดส่งออก นาเข้า ดุลบัญชีการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดประจาเดือนพฤศจิกายน

 

http://www.youtube.com/watch?v=WPZP4jBkRAI

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 3/1/2557

 

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

 

แนวรับ 1,212 1,209 1,200

แนวต้าน 1,242 1,250 1,256

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% บ่งชี้ว่าการลงทุนและความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจกำลังฟื้นตัวขึ้นจากช่วงไตรมาสสาม

 

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์หลังจากทำสถิติปรับตัวลงต่อปี สูงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ในขณะที่ราคาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนได้ดึงดูดแรงซื้อทั้งทองรูปพรรณและสัญญาทองคำจากนักลงทุน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% แตะที่ 1,216.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลาประมาณ 20.02 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

 

เริ่มมีสัญญาณซื้อเข้ามาในตลาดมีมุมมองที่เป็นบวก หากราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับอาจจะพิจารณาเข้าซื้อ

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% บ่งชี้ว่าการลงทุนและความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจกำลังฟื้นตัวขึ้นจากช่วงไตรมาสสาม ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์หลังจากทำสถิติปรับตัวลงต่อปี สูงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ในขณะที่ราคาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนได้ดึงดูดแรงซื้อทั้งทองรูปพรรณและสัญญาทองคำจากนักลงทุน สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% แตะที่ 1,216.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลาประมาณ 20.02 น.ตามเวลาประเทศไทย

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 6/1/2557

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,218 1,210 1,200

แนวต้าน (Resistance) 1,244 1,253 1,258

 

ค่าเงินบาทปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ 3มกราคม 2557 อ่อนค่าทะลุระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดทางการเมืองในประเทศ และกระแสการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ จากแนวโน้มการชะลอมาตรการ QE ของ ธนาคารกลางสหรัฐฯเฟด

 

ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยอาจจะยังไม่ได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่จากเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงจากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของปัจจัยทางการเมืองที่กดดันบรรยากาศการใช้จ่ายภายในประเทศ ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาทที่ยังเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ก็ทาให้ภาคการส่งออกไทยก็ยังไม่มีแต้มต่อที่เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) โดยราคายังคงดีดตัวกลับอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ร่วงลงอย่างรุนแรงในปี 2556 และปรับตัวขึ้นทั้งหมด 2% ในสัปดาห์นี้ แรงซื้อเก็งกำไรและแรงช้อนซื้อหนุนราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณของการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในทองคำแท่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเอเชีย ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ข้อมูลสถิติของสภาทองคำโลกในลอนดอนบ่งชี้ว่า อุปสงค์ในอัญมณี ทองคาแท่ง และ เหรียญกสาปน์ของจีนปรับตัวขึ้น 30% สู่ระดับ 996.3 ตันในช่วง 12 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. ในขณะที่อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ซื้อรายใหญ่อันดับที่ 2 เพิ่มขึ้น 24% แตะที่ 977.6 ตัน

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาขึ้นทอสอบแนวต้านแล้ว อาจจะมีการพักตัวระหว่างวัน แนะให้ซื้อขายตามกรอบ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

ค่าเงินบาทปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2557 อ่อนค่าทะลุระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดทางการเมืองในประเทศ และกระแสการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ จากแนวโน้มการชะลอมาตรการ QE ของ ธนาคารกลางสหรัฐฯเฟด

 

ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยอาจจะยังไม่ได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่จากเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงจากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของปัจจัยทางการเมืองที่กดดันบรรยากาศการใช้จ่ายภายในประเทศ ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาทที่ยังเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ก็ทาให้ภาคการส่งออกไทยก็ยังไม่มีแต้มต่อที่เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

 

ในส่วนของค่าเงินบาท ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอกเหนือนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงเทขายเงินบาทของนักลงทุน เนื่องจากในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ โดยในระหว่างวันค่าเงินเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.00-33.24 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ 33.294/ บาท/ดอลลาร์

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวโน้มช่วงเช้า 7/1/2557

 

แนวรับ 1,222 1,216 1,200

แนวต้าน 1,244 1,253 1,258

 

สรุปสภาวะตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

ค่าเงินบาท อ่อนค่าทะลุระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดทางการเมืองในประเทศ และกระแสการชะลอมาตรการ QE ของ ธนาคารกลางสหรัฐฯเฟด ขณะที่ กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยอาจจะยังไม่ได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่จากเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงจากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของปัจจัยทางการเมืองที่กดดันบรรยากาศการใช้จ่ายภายในประเทศ ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาทที่ยังเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ก็ทำให้ภาคการส่งออกไทยก็ยังไม่มีแต้มต่อที่เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของภาคบริการในสหรัฐ นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคบริการในสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐในเดือนธ.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 จาก 53.9 ในเดือนพ.ย. และดัชนีปรับตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 54.5 เพราะได้รับแรงกดดันจากดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ของ ISM ที่หดตัวลงแตะ 49.4 ในเดือนธ.ค. จาก 56.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับแต่กลางปี 2552 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานเดือนธ.ค. และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินว่าเฟดวางแผนนโยบายการเงินในอนาคตอย่างไร

 

แนะแนวการลงทุน

แนะเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับ มองว่าอาจจะมีการย่อระหว่างวัน

 

http://www.youtube.com/watch?v=kfXz3BunqRU

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 8/1/2557

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,220 1,214 1,203

แนวต้าน (Resistance) 1,244 1,253 1,256

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 12.9% สู่ระดับ 3.425 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.933 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากยอดส่งออกของสหรัฐขยายตัว 0.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 1.9486 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ ยอดขาดดุลที่ลดลงอย่างมากในเดือนพ.ย.อาจหมายความว่า เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 อาจขยายตัวเร็วกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ โดยยอดขาดดุลที่ลดลงหมายความว่าสหรัฐขายสินค้าไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น และซื้อสินค้าจากต่างประเทศน้อยลง ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับข่าวที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 56 ต่อ 26 รับรองนางเจเน็ต เยลเลน ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แทนนายเบน เบอร์นันเก้ ที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในสิ้นเดือนม.ค.นี้ โดยนางเยลเลนจะเป็นสุภาพสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ 100 ปีของเฟดที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดของเฟด

 

ราคาทองคำวานนี้ (7 ม.ค.) ปิดลบพอสมควร หลังข้อมูลการค้าของสหรัฐฯส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,229.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 12.9% สู่ระดับ 3.425 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.933 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวขึ้นทำสถิติสูงสุด

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคายังอยู่ในช่วงของการปรับฐานย่อย อาจจะพิจารณาเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

ค่าเงินบาท อ่อนค่าทะลุระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดทางการเมืองในประเทศ และกระแสการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ จากแนวโน้มการชะลอมาตรการ QE ของ ธนาคารกลางสหรัฐฯเฟด ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยอาจจะยังไม่ได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่จากเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงจากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบของปัจจัยทางการเมืองที่กดดันบรรยากาศการใช้จ่ายภายในประเทศ ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาทที่ยังเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ก็ทำให้ภาคการส่งออกไทยก็ยังไม่มีแต้มต่อที่เพิ่มขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

 

ในส่วนของค่าเงินบาท ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอกเหนือนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงเทขายเงินบาทของนักลงทุน เนื่องจากในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ โดยในระหว่างวันค่าเงินเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.00-33.24 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ 33.294/ บาท/ดอลลาร์

 

 

ถูกแก้ไข โดย Gcap GuRu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 9/1/2557

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,214 1,203 1,180

แนวต้าน (Resistance) 1,244 1,253 1,256

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ของเฟดให้การสนับสนุนการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และส่งสัญญาณว่าอาจจะลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของ ADP ที่ระบุว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 238,000 ตาแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตาแหน่ง

ราคาทองคาวานนี้ (7 ม.ค.) ปิดลบพอสมควร หลังข้อมูลการค้าของสหรัฐฯส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น สัญญาทองคาตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 4.1 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,225.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1231.8 - 1217.7 ดอลลาร์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เนื่องจากข้อมูลด้านการจ้างงานที่แข็งแกร่งของภาคเอกชนสหรัฐ ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

แนะแนวทางการลงทุน

 

ราคาผ่านแนวต้านแรกไม่ได้แนะเปิด Shot

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินในเอเชีย หลังจากที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินสำคัญทั่วทั้งโลก เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ของเฟด

 

อย่างไรก็ตาม แรงหนุนจากเงินต่างประเทศที่เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งผลให้ต่างชาติซื้อเป็นยอดสุทธิ 3 วันติดต่อกัน ทาให้เกิดการชะลอการขายเงินบาทของนักลงทุน แม้ว่าเงินบาทจะยังคงรับข่าวร้ายจากสถนการณ์การเมืองในประเทศก็ตาม ในส่วนของค่าเงินบาท ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอกเหนือนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงเทขายเงินบาทของนักลงทุน เนื่องจากในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ โดยในระหว่างวันค่าเงินเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.00-33.24 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ 33.294/ บาท/ดอลลาร์

 

ถูกแก้ไข โดย Gcap GuRu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 10/1/2557

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,215 1,203 1,177

แนวต้าน (Resistance) 1,236 1,250 1,259

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแม้ว่ามีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานภายในประเทศก็ตาม โดยเมื่อช่วงค่่าวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค. ปรับตัวลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 330,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 335,000 ราย นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นปัจจัยชี้นำว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกหรือไม่ หลังจากที่การประชุมเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เฟดมีมติปรับลดขนาด QE ด้วยการลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิม 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

 

สัญญาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อเก็งก่าไร หลังจากราคาดิ่งลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังดีดตัวขึ้นหลังจากรายงานการประชุมการเงินประจำเดือนธ.ค.ของเฟดไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเฟดจะปรับลดขนาดมาตรการ QE อีกเมื่อใด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนวิตกกังวลว่าข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจจะทำให้เฟดเริ่มพิจารณาการปรับลดขนาด QE ลงอีก โดยเมื่อช่วงค่่าวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค. ปรับตัวลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 330,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 335,000 ราย นอกจากนี้ ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำ โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองค่าในปี 2557 ลง 11% สู่ระดับ 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ธนาคารบาร์เคลย์คาดว่าราคาทองคำโดยเฉลี่ยในปี 2557 จะอยู่ที่ 1,205 ดอลลาร์/ออนซ์

 

แนะแนวทางการลงทุน

หากราคายังไม่ผ่าน $ 1,236 Us/Oz อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกครั้ง ถ้าจะเข้าซื้อรอราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินในเอเชีย หลังจากที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินสำคัญทั่วทั้งโลก เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ของเฟด

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่่าสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม แรงหนุนจากเงินต่างประเทศที่เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งผลให้ต่างชาติซื้อเป็นยอดสุทธิ 3 วันติดต่อกัน ทำให้เกิดการชะลอการขายเงินบาทของนักลงทุน แม้ว่าเงินบาทจะยังคงรับข่าวร้ายจากสถานการณ์การเมืองในประเทศก็ตาม ในส่วนของค่าเงินบาท ได้ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอกเหนือจากปัจจัยภายนอกประเทศ ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงเทขายเงินบาทของนักลงทุน เนื่องจากในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ โดยในระหว่างวันค่าเงินเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.00-33.24 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ 33.294/ บาท/ดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 13/1/2557

 

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

 

แนวรับ 1,230 1,218 1,210

แนวต้าน 1,256 1,267 1,287

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแม้ว่ามีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานภายในประเทศก็ตาม โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 330,000 ราย นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดู ข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นปัจจัยชี้น่าว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกหรือไม่ แนวโน้มสัปดาห์หน้า (13-17ม.ค. 2557) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนพ.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภค (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สัญญาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาดิ่งลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังดีดตัวขึ้นหลังจากรายงานการประชุมการเงินประจ่าเดือนธ.ค.ของเฟดไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเฟดจะปรับลดขนาดมาตรการ QE อีกเมื่อใด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนวิตกกังวลว่าข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจจะทำให้เฟดเริ่มพิจารณาการปรับลดขนาด QE ลงอีก โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคายังไม่ผ่าน $ 1,256 Us/Oz มีโอกาสย่อพักตัวมาที่แนวรับหาจังหวะเปิด Shot ที่แนวต้าน เน้นทำกำไรรอบสั้น ๆ

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินในเอเชีย หลังจากที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินส่าคัญทั่วทั้งโลก เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ของเฟด

 

แนวโน้มสัปดาห์หน้า (13-17 ม.ค. 2557) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนพ.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้เช่นกัน

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 14/1/2557

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,230 1,220 1,211

แนวต้าน (Resistance) 1,256 1,267 1,275

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะนักลงทุนประเมินว่าข้อมูลการจ้างงานสหรัฐเมื่อเร็วๆนี้ที่ออกมาต่ำเกินคาดอาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐนักลงทุนดูประเมินข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจ่าเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 74,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลที่อ่อนแรงดังกล่าวอาจเป็นดาบสองคมสำหรับราคาทองแดง เนื่องจากอาจได้รับประโยชน์จากการคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ แต่ก็อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการลดลงไปด้วย

 

แนวโน้มสัปดาห์หน้า (13-17 ม.ค. 2557) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

ราคาทองคำวานนี้ (13 ม.ค.) ปิดบวกในกรอบแคบๆ นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อรอดูทิศทางเศรษฐกิจ หลังจากอเมริกาเผยแพร่ข้อมูลภาคแรงงานที่น่าผิดหวังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ธนาคารบาร์เคลย์ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำโดยเฉลี่ยในปี 2557 ลงสู่ระดับ 1,205 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาทองคำอาจจะดิ่งลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ ขณะที่โกลด์แมนแซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำลงอีกในปี 2557 โดยคาดว่า ณ สิ้นปีนี้ ราคาทองคำจะดิ่งลงไปแตะระดับ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคายังไม่ผ่าน $ 1,256 Us/Oz มีโอกาสย่อพักตัวมาที่แนวรับ หาจังหวะเปิด Shot ที่แนวต้าน เน้นทำกำไรรอบสั้น ๆ

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินในเอเชีย หลังจากที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินสำคัญทั่วทั้งโลก เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ของเฟด

 

แนวโน้มสัปดาห์หน้า (13-17 ม.ค. 2557) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนพ.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้เช่นกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวโน้มช่วงเช้า Gcap Gold 15/1/2557

 

แนวรับ 1,227 1,219 1,210

แนวต้าน 1,250 1,256 1,267

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ม.ค.) เนื่องจากข้อมูลค้าปลีกที่ แข็งแกร่งของสหรัฐได้เพิ่มน้ำหนักให้กับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก นักลงทุนขานรับข้อมูลค้าปลีกที่ขยายตัวเกินคาด เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของยอดค้าปลีกยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาสนับสนุนการปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร ตราบใดที่เศรษฐกิจมีการขยายตัว 2.5-3.0% ด้านธนาคารบาร์เคลย์ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองค้าโดยเฉลี่ยในปี 2557 ลงสู่ระดับ 1,205 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาทองค้าอาจจะดิ่งลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ ขณะที่โกลด์แมนแซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำลงอีกในปี 2557 โดยคาดว่า ณ สิ้นปีนี้ ราคาทองค้าจะดิ่งลงไปแตะระดับ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้น 0.1%

 

กลยุทธ์การลงทุน

หากราคาดีดตัวขึ้นไม่สามารถผ่านแนว $ 1,248 Us/Oz ไปได้อาจพิจารณาเปิด Shot อีกครั้งเน้นทำกำไรระยะสั้น ๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 16/1/2557

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,228 1,218 1,208

แนวต้าน (Resistance) 1,256 1,267 1,274

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ม.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับลดขนาดมาตรการ QE ต่อไป

 

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฟดสาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ขยายตัวสู่ระดับ 12.51 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2555 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 3.0 เท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมของภาคการผลิตในนิวยอร์กมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนนี้

 

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังร่วงลงหลังจากนายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ได้เน้นย้ำท่าทีในการสนับสนุนให้เฟดชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE โดยระบุว่าเขาจะโหวตให้เฟดปรับลดนโยบายดังกล่าวต่อไป หากแนวโน้มเศรษฐกิจไม่เกิดการพลิกผันอย่างรุนแรง

 

ขณะที่นายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เฟดควรยุติโครงการซื้อพันธบัตรก่อนสิ้นปี 2557 โดยระบุว่าข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่อ่อนแรงในเดือนธ.ค.จะไม่ส่งผลให้เฟดยุติการดำเนินการตามแผนในการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

หากราคายังไม่สามรถผ่านด่าน $ 1,247 Us/Oz ขึ้นไปได้ ยังเสี่ยงโดนแรงเทขาย ลงมาอีกครั้ง รอเข้าซื้อที่แนวรับ

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ม.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับลดขนาดมาตรการ QE ต่อไป

 

แนวโน้มสัปดาห์หน้า (13-17 ม.ค. 2557) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนพ.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้เช่นกัน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 17/1/2557

 

แนวโน้มราคาทองคำช่วงเช้า

 

แนวรับ 1,230 1,218 1,210

แนวต้าน 1,247 1,256 1,267

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ปรับตัวลดลง 2,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับ 328,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ส่วนดัชนีราคา

ผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าการที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำนั้น จะช่วยเปิดทางให้เฟดยังคงเดินหน้าตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ในรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค.ระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดมองว่าจำเป็นต้องจับตาความคืบหน้าด้านเงินเฟ้ออย่างระมัดระวังเพื่อประเมินความชัดเจนว่า เงินเฟ้อ ซึ่งได้ปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% อย่างต่อเนื่องนั้น จะกลับมาเคลื่อนไหวสู่เป้าหมายระยะยาวของเฟดเมื่อใด สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำให้ดีดตัวขึ้นปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคามีลักษณะเป็น Sideway Up อาจจะขึ้นทดสอบที่บริเวณแนวต้านให้ปิดสถานะที่มีกำไรที่บริเวณต้านดังกล่าว

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 326,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับ 328,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

 

แนวโน้มสัปดาห์หน้า (13-17 ม.ค. 2557) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนพ.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ตัวเลขเบื้องต้น) เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้เช่นกัน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...