ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
Gcap GuRu

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 28/10/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,343 1,336 1,323

แนวต้าน (Resistance) 1,358 1,362 1,368

 

ดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากที่ขยับขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ โดยดัชนีดอลลาร์ของ IEC ซื้อขายที่ระดับ 79.19 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการซื้อขายระหว่างวัน

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันนานเกือบ 3 สัปดาห์ สาหรับภาพรวมการซื้อขายตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 2.9% ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเดือนต.ค.ร่วงลงแตะระดับ 73.2 จากระดับ 77.5 ในเดือนก.ย. และยังต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

สัญญาณทางเทคนิค ในเช้าวันนี้ ราคายังคงมีแรงซื้อ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ลักษณะเป็นการย่อเพื่อขึ้นต่อดังนั้น หากราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับอาจจะพิจารณาเข้าซื้อ

 

แนะแนวทางการลงทุน

หากราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับอาจจะพิจารณาเข้าซื้อ เทรนด์ระยะสั้นและระยะกลางยังมองขึ้น

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.90-31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 29-30 ต.ค. รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ นอกจากนี้ ตลาดการเงินในประเทศอาจจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ย. และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทยด้วยเช่นกัน

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับแข็งค่าขึ้นตามมุมมองของตลาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคมีการฟื้นตัวขึ้น และการเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นวานนี้ช่วยหนุนมุมมองที่เป็นบวกของค่าเงินด้วย ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเห็นเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ส่วนดัชนีหุ้นของมาเลเซียปรับตัวขึ้นตามความหวังว่ารัฐบาลจะประสบความสำเร็จในการลดการขาดดุลการคลังได้ และเศรษฐกิจจะอยู่ในทิศทางที่สมดุลมากขึ้น อย่างไรก็ดี ADB เตือนประเทศอาเซียนวานนี้ว่าการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2015 อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากหลายประเทศยังคงต้องสะสางหลายปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจและยังเผชิญความไม่แน่นอนของตลาดการเงินโลกด้วย

 

http://www.youtube.com/watch?v=I2g_RHM7Bm8

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 29/10/2556

 

แนวรับ (Support) 1,343 1,333 1,326

แนวต้าน (Resistance) 1,362 1,368 1,375

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก เมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเฟดจะประกาศเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิง ปริมาณ (QE) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงผลผลิตภาคโรงงานของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนปรับฐานการลงทุน หลังจากสัญญาทองคำปิดพุ่งขึ้นติดต่อ กันในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,352.2 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาณทางเทคนิค แนวโน้มระยะสั้นและแนวโน้มระยะกลางได้ปรับตัวเป็นขาขึ้น แต่เนื่องจากว่าราคาได้ปรับตัวสูงมากแล้วและต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว อาจจะมีการย่อเพื่อพักฐานเป็นการสร้างแนวรับใหม่ โดยให้พิจารณาเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับของวัน

 

แนะแนวทางการลงทุน

 

เช้านี้ ราคาอาจจะ Sideway Down เทรนด์ขาขึ้นยังแข็งแกร่ง หากราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับอาจจะพิจารณาเข้าซื้อที่แนวรับ และต้องคอยติดตามผลการพิจารณามาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก เมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเฟดจะประกาศเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิง ปริมาณ (QE)

 

USD/THB ปิดที่ 31.14 เงินบาทยังคงทรงตัวอยู่ในกรอบช่วงสัปดาห์นี้ และอยู่ในแนวโน้มที่น่าจะได้แรงหนุนจาก ความเชื่อมั่นในเชิงบวกของตลาดสำหรับสกุลเงินเอเชีย แต่อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังถูกกดดันจากความกังวลด้านการเมืองในประเทศ

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับแข็งค่าขึ้นตามมุมมองของตลาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคมีการฟื้นตัว ขึ้น และการเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นวานนี้ช่วยหนุนมุมมองที่เป็นบวกของค่าเงิน ด้วย ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเห็นเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ส่วนดัชนีหุ้นของมาเลเซียปรับตัวขึ้นตามความหวังว่ารัฐบาลจะประสบความสาเร็จ ในการลดการขาดดุลการคลังได้ และเศรษฐกิจจะอยู่ในทิศทางที่สมดุลมากขึ้น อย่างไรก็ดี ADB เตือนประเทศอาเซียนวานนี้ว่าการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2015 อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากหลายประเทศยังคงต้องสะสางหลายปัยหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจและยัง เผชิญความไม่แน่นอนของตลาดการเงินโลกด้วย

 

http://www.youtube.com/watch?v=iojyFH1X11c

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

 

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 30/10/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,333 1,322 1,317

แนวต้าน (Resistance) 1,346 1,353 1,360

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ขณะที่ตลาดจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หรือไม่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาบ้าน ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ด้านกระทรวงแรงงานรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. นอกจากนี้ สหรัฐยังเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller เดือนส.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยร่วงลงอย่างหนักสู่ระดับ 71.2 ในเดือนต.ค. จากระดับ 80.2 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ดัชนีเดือนต.ค.จะลดลงแตะ 75.0

 

แนะแนวทางการลงทุน

ทยอยเข้าซื้อเพียงบางส่วน ทากาไรจังหวะปรับตัวเด้งรีบาวน์ หรือราคาอ่อนตัวลงมาแนวรับแนะเข้าซื้อเพิ่มเติม

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 31.06 (รอยเตอร์= 31.01) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาขับเคลื่อนตลาด ในขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ สานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนกันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นการหดตัว 2.90%YoY ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สศอ. ยังคาดว่า กิจกรรมการผลิตในปี 2013 จะหดตัว เมื่อเทียบกับ 2012

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ซื้อขายอยู่กรอบ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกเว้นเงินริงกิตของมาเลเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สูงสุดในรอบ 4 เดือน เงินริงกิตเพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่นักลงทุนมีปฏิกิริยาตอบสนองในทางบวกกับมาตรการ ของรัฐบาลมาเลเซีย ในการจัดการกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล (ซึ่งรวมเอามาตรการการปรับขึ้นภาษีการบริโภคให้มาอยู่ที่ระดับ 6% (โดยมีผลเดือนเมษายน 2015) การยกเลิกเงินอุดหนุนสินค่าน้าตาล และเพิ่ม ภาษีอสังหาริมทรัพย์) ทั้งนี้ เงินริงกิตปรับย่อลงเล็กน้อยก่อนปิดตลาด ทำให้ทั้งแข็งค่าขึ้นเพียง 0.67% ขณะที่เงินดอลลาร์ไต้หวันเพิ่มขึ้นตามกระแสเงินทุนไหลเข้าของเงินต่างประเทศมาในตลาดหุ้น ทาให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น 0.13% เงินสกุลอื่น ๆ ซี้อขายในกรอบแคบขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นคืนนี้ (29-30 ตุลาคม) เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.31 % เทียบกับดอลลาร์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ 16 สกุล หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางชี้ให้เห็นว่าระดับค่าเงินในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

 

http://www.youtube.com/watch?v=RMTvOXVOHH8

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 30/10/2556

 

แนวโน้มช่วงบ่าย

 

แนวรับ (Support) 1,338 1,333 1,320

แนวต้าน (Resistance) 1,356 1,365 1,375

 

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.07/08 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.04/06 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาทำให้เงินบาทไปทำไฮที่ระดับ 31.11 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะกลับลงมาอยู่ที่ 31.05/07 บาท/ดอลลาร์ "วันนี้เงินบาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอผลประชุม FOMC คืนนี้ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดบ้านเราพรุ่งนี้เช้า

 

สัญญาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,350 ดอลลาร์/ออนซ์ ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้

 

สัญญาณทางเทคนิค ราคาทองคำมีการเด้งกลับขึ้นไปได้เล็กน้อย เป็นการทดสอบแนวต้านแรกของวัน หากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกรอบ หากมีการปรับตัวลงมาอีกครั้งแนะเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ โดยมีมุมมองในระยะนี้เป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้น ๆ เท่านั้น

 

แนะแนวทางการลงทุน

หากราคามีการปรับตัวลงมาอีกครั้ง แนะเข้าซื้อที่แนวรับ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ในระหว่างการปรับฐาน

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 31.06 (รอยเตอร์ = 31.01) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาขับเคลื่อนตลาด ในขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนกันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นการหดตัว 2.90% YoY ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สศอ. ยังคาดว่า กิจกรรมการผลิตในปี 2013 จะหดตัว เมื่อเทียบกับ 2012

 

สกุล เงินเอเชีย ส่วนใหญ่ซื้อขายอยู่กรอบ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกเว้นเงินริงกิตของมาเลเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สูงสุดในรอบ 4 เดือน เงินริงกิตเพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่นักลงทุนมีปฏิกิริยาตอบสนองในทางบวกกับมาตรการ ของรัฐบาลมาเลเซีย ในการจัดการกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล (ซึ่งรวมเอามาตรการการปรับขึ้นภาษีการบริโภคให้มาอยู่ที่ระดับ 6% (โดยมีผลเดือนเมษายน 2015) การยกเลิกเงินอุดหนุนสินค่าน้ำตาล และเพิ่ม ภาษีอสังหาริมทรัพย์) ทั้งนี้ เงินริงกิตปรับย่อลงเล็กน้อยก่อนปิดตลาดทำให้ทั้งแข็งค่าขึ้นเพียง 0.67% ขณะที่เงินดอลลาร์ ไต้หวันเพิ่มขึ้นตามกระแสเงินทุนไหลเข้าของเงินต่างประเทศมาในตลาดหุ้นทำให้ ค่าเงินแข็งค่าขึ้น 0.13% เงินสกุลอื่น ๆ ซื้อขายในกรอบแคบขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นคืนนี้ ( 29 – 30 ตุลาคม) เงินดอลลาร์ ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.31 % เทียบกับดอลลาร์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ 16 สกุล หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางชี้ให้เห็นว่าระดับค่าเงินในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 31/10/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,333 1,328 1,318

แนวต้าน (Resistance) 1,347 1,358 1,368

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ขณะที่ตลาดจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หรือไม่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาบ้าน นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว โดยผลการประชุมระบุว่า เฟดยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน

 

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจาก ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน ADP ยังได้ปรับลดตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย. โดยระบุว่าเพิ่มขึ้นเพียง 145,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 166,000 ตำแหน่ง

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคายังอยู่ในช่วงของการปรับฐานสร้างแนวรับใหม่ ราคาอาจจะเป็น Sideway Down ให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 31.06 (รอยเตอร์= 31.01) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาขับเคลื่อนตลาด ในขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนกันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นการหดตัว 2.90%YoY ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สศอ. ยังคาดว่า กิจกรรมการผลิตในปี 2013 จะหดตัว เมื่อเทียบกับ 2012

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่ซื้อขายอยู่กรอบ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ยกเว้นเงินริงกิตของมาเลเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สูงสุดในรอบ 4 เดือน เงินริงกิตเพิ่มขึ้นกว่า 1% ขณะที่นักลงทุนมีปฏิกิริยาตอบสนองในทางบวกกับมาตรการ ของรัฐบาลมาเลเซีย ในการจัดการกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล (ซึ่งรวมเอามาตรการการปรับขึ้นภาษีการบริโภคให้มาอยู่ที่ระดับ 6% (โดยมีผลเดือนเมษายน 2015) การยกเลิกเงินอุดหนุนสินค่าน้าตาล และเพิ่ม ภาษีอสังหาริมทรัพย์) ทั้งนี้ เงินริงกิตปรับย่อลงเล็กน้อยก่อนปิดตลาด ทำให้ทั้งแข็งค่าขึ้นเพียง 0.67% ขณะที่เงินดอลลาร์ไต้หวันเพิ่มขึ้นตามกระแสเงินทุนไหลเข้าของเงินต่างประเทศมาในตลาดหุ้น ทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น 0.13% เงินสกุลอื่น ๆ ซี้อขายในกรอบแคบขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นคืนนี้ (29-30 ตุลาคม) เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.31 % เทียบกับดอลลาร์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ 16 สกุล หลังจากที่ผู้ว่าการธนาคารกลางชี้ให้เห็นว่าระดับค่าเงินในปัจจุบัน ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

 

http://www.youtube.com/watch?v=EdR86R3q_GQ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 1/11/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,315 1,300 1,290

แนวต้าน (Resistance) 1,330 1,334 1,338

 

สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าภายหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไว้ในการประชุมเมื่อคืนนี้ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในเอเชีย ภายหลังจากที่เฟดได้คงมาตรการ QE ไว้ และระบุว่าสภาวะแวดล้อมยังคงอ่อนแอเกินกว่าที่จะถอนโครงการ ซื้อพันธบัตรได้ ธนาคารกลางสหรัฐลงคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 เสียงให้คงโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไว้ โดยให้เหตุผลว่าอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง และยังจำเป็นต้องใช้ดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ

 

สัญญาทองคำร่วงในวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 12.04 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ร่วงลง 10.7 ดอลลาร์ แตะที่ 1,338.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากปรับตัวขึ้น 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,349.30 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวานนี้ โดยมีสัญญาณขายทางเทคนิคลงมาทำให้ระดับราคาได้หลุด แนวรับ $ 1,345 Us/Oz เป็นการหลุดเทรนด์ระยะสั้นลงมา ทำให้มีมุมมองว่าการปรับตัวครั้งนี้น่าจะเป็นการปรับฐานมากกว่าจะเปลี่ยนเป็นขาลง

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคายังคงเป็น Sideway Down อาจจะชะลอการลงทุนออกไปก่อนรอการปรับฐานให้จบก่อน

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 31.06 (Reuters = 31.03) ในขณะที่ผู้เล่นในตลาดรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามา ราคาเปิดในวันอังคารปรับสูงขึ้น แต่แรงขายดอลลาร์ระหว่างวันได้ลดแรงกดดันต่อเงินบาท อย่างไรก็ดี ตลาดดูค่อนข้างเงียบและคาดว่าการซื้อขายยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ส่วนความตึงเครียดในด้านการเมืองภายในประเทศยังคงเป็นอีกปัจจัยกดดันค่าเงินบาทในช่วงนี้

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในขณะที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯเริ่มการประชุม 2 วัน อย่างไรก็ดี ความเห็นของตลาดในช่วงนี้ดูเป็นเอกฉันท์ว่าเฟดจะไม่ปรับลด QE ส่วนเงินรูปีแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางอินเดียได้ตัดสินใจที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 25bps ในการประชุมวานนี้ สอดคล้องกับความคาดหมายของตลาด เงินรูเปียห์อ่อนค่าลงหลังจากที่ธนาคารต่างประเทศขายพันธบัตรรัฐบาล ของอินโดนีเซียออกมา ในขณะที่ เงินริงกิตอ่อนค่าเล็กน้อยขณะที่นักลงทุนขายทำกำไร หลังจากที่ริงกิตปรับขึ้นมาพร้อมการประกาศของรัฐบาลที่จะลดการขาดดุลงบประมาณ

 

http://www.youtube.com/watch?v=8n4MF-tLNTA

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 4/11/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,302 1,298 1,291

แนวต้าน (Resistance) 1,320 1,327 1,332

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) ภายหลังมีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาดในเดือนต.ค. ขณะสกุลเงินยูโรยังคงร่วงลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ภายหลังตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.76 เยน จากระดับ 98.32 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9126 ฟรังค์ จากระดับ 0.9055 ฟรังค์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) หลังจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ โดยเฉพาะยูโร จากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจลดดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อเดือนต.ค.ในยูโรโซนลดลงสู่ระดับต่าสุดในรอบเกือบ 4 ปี

 

แนะแนวทางการลงทุน

เช้านี้ราคาอาจจะเป็นการรีบาวน์ ขึ้นทดสอบ แนวต้าน ยังคงมีความเสี่ยงกับแรงเทขายออกมาอีกครั้ง อาจจะรอความชัดเจนของตลาดออกไปก่อน

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดตลาดสูงขึ้น 0.23% อยู่ที่ 31.12 เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินอื่นในภูมิภาค หลังจากที่การประชุม FOMC เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอจากการรายงานของ ธปท. และความไม่แน่นอนเรื่องการเมือง ภายในเป็นแรงกดดันเงินบาทอยู่

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทำให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้าค่าเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

 

http://www.youtube.com/watch?v=Ay5JvhWhxRM

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 5/11/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,306 1,300 1,291

แนวต้าน (Resistance) 1,325 1,330 1,338

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) ภายหลังมีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาดในเดือนต.ค. ขณะสกุลเงินยูโรยังคงร่วงลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ภายหลังตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.76 เยน จากระดับ 98.32 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9126 ฟรังค์ จากระดับ 0.9055 ฟรังค์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อ สัญญาทองคำอย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร

 

แนะแนวทางการลงทุน

หาจังหวะเข้าซื้อที่บริเวณแนวรับเมื่อราคาอ่อนตัวลงมา

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและการขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาด ตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USDTHB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทาให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นาเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

 

http://www.youtube.com/watch?v=wGvWvBl1rZQ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

ทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 6/11/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,303 1,298 1,291

แนวต้าน (Resistance) 1,317 1,325 1,338

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาด หลังข้อมูลภาคบริการของสหรัฐดีเกินคาด ทั้งนี้ สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดำเนินงานเป็นระยะเวลา 16 วัน

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาด QE หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดำเนินงาน

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคาอาจจะ Sideway Up เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้าน สถานะมีกำไรให้ตัดสถานะที่แนวต้าน หากจะเข้าซื้อเพิ่มเติมพิจารณาที่แนวรับ

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและการขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาด ตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USD/THB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทำให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

 

http://www.youtube.com/watch?v=uLR0GObHC_Y

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 7/11/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,313 1,305 1,300

แนวต้าน (Resistance) 1,325 1,338 1,350

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาด หลังข้อมูลภาคบริการของสหรัฐดีเกินคาด ทั้งนี้ สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดำเนินงานเป็นระยะเวลา 16 วัน

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาด QE หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดาเนินงาน

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง

 

แนะแนวทางการลงทุน

เริ่มมีแรงซื้อเข้ามา ระยะสั้นเริ่มมีสัญญาณ Bullish ราคามีโอกาสที่จะขึ้นทดสอบแนวต้านใหม่ได้อีกครั้ง

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและ การขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USD/THB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USD/THB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทาให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

 

http://www.youtube.com/watch?v=CVpv8Przvfc

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 8/11/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,300 1,295 1,290

แนวต้าน (Resistance) 1,318 1,326 1,335

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 ขยายตัว 2.8% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.0% และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2555 หลังจากที่ขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 2

 

สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากอีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% จากระดับ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ภายหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ยูโรสแตทเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นเดือนต.ค.ของยูโรโซนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.7% จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 1.1% ซึ่งดัชนี CPI เดือนต.ค.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554

 

แนะแนวทางการลงทุน

อาจจะชะลอการเข้าซื้อ เนื่องจากราคายังอยู่โซน Bearish ยังมีความเสี่ยงโดนแรงเทขาย

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและ การขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USDTHB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทาให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 11/11/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,270 1,263 1,255

แนวต้าน (Resistance) 1,289 1,296 1,304

 

สกุล เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กจากกระแสนักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟด

อาจจะลดขนาด QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หลังจากตัวเลขจ้างงานของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง

 

กระทรวง แรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่ง จากระดับที่เพิ่มขึ้น 163,000 ต าแหน่ง และสูง

กว่าที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 125,000 ตำแหน่ง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งสูงเกินคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่านายจ้างมีมุมมองในแง่บวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาด QE หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น แตะที่ระดับ 55.4 เพราะได้แรงหนุนจากตลาดแรงงาน ถึงแม้ว่าจะเกิดการเผชิญหน้าทางการเมืองในเดือนดังกล่าว จนส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดดำเนินงาน

 

สัญญาทองคำตลาด นิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่ง

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

ราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ ยังเสี่ยงโดนแรงเทขายอาจจะชลอการเข้าซื้อออกไปก่อน

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค และการขายสินทรัพย์ โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USDTHB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการ เมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

 

สกุลเงินเอเชียส่วน ใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทำให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

 

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=gsFF_Lq0kBU.

ถูกแก้ไข โดย Gcap GuRu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 11/11/2556

 

แนวรับ (Support) 1,270 1,263 1,253

แนวต้าน (Resistance) 1,290 1,296 1,305

 

ดอลลาร์ เคลื่อนไหวแข็งค่าในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเช้านี้ หลังทะยานขึ้นอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ตลาดนิวยอร์ก ขานรับข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งสูงเกินคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่านายจ้างมีมุมมองในแง่บวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ

 

ตัว เลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 125,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตรา

ว่างงานปรับตัวขึ้นแตะ 7.3% จากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี

 

สัญญา ทองคำปรับตัวขึ้นในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ราคาทองได้รับผลกระทบจากข้อมูลจ้างงานสหรัฐที่ดีเกินคาด ซึ่งจุดปะทุกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เร็วกว่าที่คาด

 

ด้าน เทคนิคราคาทองคำในเช้าวันนี้ ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ทิศทางยังมีโอกาสลงทดสอบแนวรับล่างได้อีกครั้ง ราคายังไม่สามารถผ่านด่านแนวต้านขึ้นไปได้ ดังนั้น จึงควรชลอการลงทุนในระยะนี้

 

 

แนะแนวทางการลงทุน

 

ราคาอาจจะรีบาวน์ได้อีกเล็กน้อย หาจังหวะทำกำไรออกไปก่อนที่บริเวณแนวต้าน และควรรอจังหวะราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับเพื่อเข้าซื้อ

 

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB เสร็จสิ้นเซสชั่นการซื้อขายวันศุกร์สูงขึ้นอยู่ที่ 31.47 เงินบาทค่อนข้างทรงตัวในช่วงเช้า แต่ปรับอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว หลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ โดยปรับอ่อนค่าลงไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 4 สัปดาห์ ที่ 31.52 ในช่วงระหว่างวัน แต่ปรับแข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อยก่อนปิดตลาด หลังจากนักลงทุนมองว่าเงินบาทอ่อนค่ารวดเร็วจนเกินไป เราคาดว่าเงินบาทจะอยู่ในแนวโมที่อ่อนค่าจากแรงกดดันเรื่อง QE และความไม่แน่นอนของการเมืองไทย เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่ามากขึ้นที่ 31.64

 

สกุลเงินเอเชียค่อนข้างทรงตัวในเซสชั่นการซื้อขายของเอเชีย แต่หลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้ืนมากกว่าที่คาดไว้ ทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว เงินรูปีนำการอ่อนค่า หลังจากที่ลงทุนต่างชาติลดการถือครองหุ้น ในอินเดีย ในขณะเดียวกันเงินรูเปียห์ปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองหลังจากการประกาศ GDP ของอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวในระดับที่ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

head.jpg

 

 

บทวิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำ By Gcap Gold ประจำวันที่ 12/11/2556

 

แนวโน้มช่วงเช้า

 

แนวรับ (Support) 1,270 1,263 1,255

แนวต้าน (Resistance) 1,285 1,291 1,301

 

ดอลลาร์เคลื่อนไหวแข็งค่าในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเช้านี้ หลังทะยานขึ้นอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ตลาดนิวยอร์ก ขานรับข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งสูงเกินคาดในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่านายจ้างมีมุมมองในแง่บวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ

 

ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 125,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวขึ้นแตะ 7.3% จากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี

 

สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ราคาทองได้รับผลกระทบจากข้อมูลจ้างงานสหรัฐที่ดีเกินคาด ซึ่งจุดปะทุกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เร็วกว่าที่คาด

 

ด้านเทคนิคราคาทองคำ ในเช้าวันนี้ ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ทิศทางยังมีโอกาสลงทดสอบแนวรับล่างได้อีกครั้ง ราคายังไม่สามารถผ่านด่านแนวต้านขึ้นไปได้ ดังนั้น จึงควรชลอการลงทุนในระยะนี้

 

แนะแนวทางการลงทุน

ให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาที่แนวรับ

 

สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา

 

USD/THB ปิดสูงขึ้น 0.26% ที่ 31.20 เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคและ การขายสินทรัพย์โดยนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ เราคาดว่าจะเห็นการซื้อขาย USDTHB ในกรอบแคบและการอ่อนตัวของเงินบาทในระยะใกล้ไม่น่าจะเกิน 31.30 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงที่ USDTHB จะปรับตัวสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางสถานการณ์การเมือง เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศ กรณีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

 

สกุลเงินเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินรูเปียห์ หลังจากแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่า เฟดพูดถึงประเด็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่น้อยลง (less dovish) กว่าที่ตลาดคาด ทาให้เห็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่ในช่วงก่อหน้าค่าเงินเอเชีย แข็งค่าขึ้นบ้าง เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 0.65% ในขณะที่ริงกิตปรับลดลง 0.26% ทั้งนี้ ค่าเงินวอนเกือบไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อลดแรงกดดันต่อวอน หลังจากที่ผู้นำเข้ายังต้องการแลกเงินช่วงปลายเดือน ขณะที่ยังเห็นเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

ถูกแก้ไข โดย Gcap GuRu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...