ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

คุณเสมก็คงได้รับอานิสงฆ์ จากการที่ได้ให้ความรู้ทุกท่านทั้งก่อนการสัมมนา วันสัมมนา จนมาถึงวันนี้และในอนาคตนะครับ

ขออนุโมทนาบุญ กับสิ่งที่คุณเสมทำอยู่และจะทำต่อไปในอนาคตนะครับ :D :D :D :D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะคุณส้มโอมือ "ตู่"ขออนุญาติแนะนำตัวนะคะ รู้จักคุณฯที่งานคุณเสมค่ะ(หลังจากที่แอบอ่านข่าวหลากหลายที่คุณฯ ขยันโพสต์ให้เพื่อนสมาชิกได้รับข่าวสาร) พอดีตู่สนใจลงทุนในพวกน้ำมันแล้วก็พวกกองทุนLTF/RMFแต่ไม่ค่อยมีความรู้ความชำนาญ จึงใคร่ขอคำแนะนำจากคุณส้มโอมือหากไม่รบกวนเกืนไปและยินดีแบ่งปันรบกวนติดต่อกลับทางe-mailนะคะ ที่ xxxxxx จะได้ไม่รบกวนพื้นที่ในกระทู้ ตู่จะรอคำตอบนะคะ /ขอบคุณค่ะ

มีเพื่อนส่งPMมาถาม ผมมองว่าคำถามนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนหลายๆคน เลยขอตอบในกระทู้น้องเสมนะครับ การตอบคำถามแนวนี้หลายคนได้ประโยชน์ครับ อีกอย่างจะมีท่านอื่นมาเสริมมุมมองหรือเสริมเนื้อหาต่างๆให้สมบูรณ์มากขึ้นครับ

อดีตผมเคยลงทุนทั้งกองทุนทองและกองทุนน้ำมัน สุดท้ายเลิกเล่นกองทุนน้ำมันถาวรแล้วครับ การคิดหน่วยลงทุนน้ำมันสุดท้ายคนลงทุนระยะยาวมีโอกาสขาดทุนสูงมากครับ(กองทุนทองคำไม่เป็นแบบนั้น กองทุนทองคำผลตอบแทนไม่ต่างจากการซื้อทองแท่ง แต่จะดีกว่าเพราะไม่มีราคากั๊ก บางกองยังมีประกันอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินด้วย) เช่นกองทุนน้ำมันของทิสโก้ตอนนี้ราคาNAV10.5858 เทียบกับราคาเปิดกองทุน+ค่าธรรมเนียมตอนซื้อ 10.10 ซื้อแต่เริ่มก่อตั้งแล้วขายที่ราคานี้กำไรยังไม่ถึง5%เลย ถ้าจำไม่ผิดช่วงที่ขายกองนี้ครั้งแรกราคาน้ำมันยังไม่ถึง60บาทเลยครับ ตอนนี้น้ำมันประมาณ99เหรียญกำไรไม่ถึง5% ถ้าน้ำมันราคาลงเหลือ85ขาดทุนแล้วครับ

กองทุนน้ำมันเล่นแบบเข้าออกเร็วและต้องดูราคากองหลักที่เขาไปซื้อด้วย ไม่แม่นข้อมูลและไม่ได้เล่นสั้นอย่าลงกองน้ำมันเลยครับ

กองทองคำแต่ก่อนชอบมากครับ แต่ช่วงหลังเปลี่ยนมาถือของจริงหมดแล้ว(ช่วงนี้หันมาถือโลหะเงินแทนทอง) ส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกใกล้เกิดภาวะวิกฤตครั้งใหญ่มากกกกกก การลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุน ถ้าสถานบันที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในต่างประเทศล้มกันมากมาย กังวลว่ามีโอกาสไม่ได้เงินลงทุนคืนครับ ส่วนตัวผมกองที่ไปลงทุนในต่างประเทศเหลือRMFทองคำเท่านั้น แต่ตามดูสถานการณ์ด้วยความระวังและกังวล ได้กลิ่นไม่ดีจะรีบหนีมาRMFที่ลงทุนในเมืองไทยครับ(ห่วงเหมือนกันว่าจะหนีทันมั้ย) โยกมาแล้วไม่ลงRMFหุ้นก็RMFพันธบัตรก็ยังห่วงอยู่ดี

ที่ผ่านมาเคยลงLTF/RMF(LTFปีพ.ศ.ที่ขาย-ปีที่ซื้อ+1ถ้ามากกว่าหรือเท่ากับ5ถึงขายได้) ช่วงหลังเหลือRMF ปีนี้ตัดสินใจไม่ลงทุนทั้ง2ตัวครับ ห่วงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่วนตัวมองว่าDJใกล้จะตกหนักแล้วอาจลงไปต่ำสุดถึง3500จุด ปีนี้เลยไม่กล้าลงLTF ตอนนี้หุ้นไทยยังน่าสนใจมากแต่ลงทุนครบ5ปีพ.ศ.กลัวเกิดการปรับฐานใหญ่ก่อนครบครับ

RMFต้องถือถึงอายุ55 RMFที่ลงทุนในไทยไม่ถือกองหุ้นก็ต้องถือRMFกองพันธบัตรเท่านั้นไม่มีทางเลือกอื่น เมื่อวิกฤตระบบเงินตรากระดาษระเบิดขึ้นใครถือพันธบัตรก็ด้อยค่าตามอย่างมาก ระบบเงินกระดาษล่มใครถือสินทรัพย์จริงเท่านั้นที่จะรอด(เช่นทองคำ โลหะเงิน ที่ดินเป็นต้น)

ส่วนตัวมองว่าช่วงนี้เอาเงินที่จะไปซื้อLTF/RMF ไปลงทุนกับโลหะเงินหรือทองคำดีกว่ารอสถานการณ์ระเบิดมีความชัดเจนแล้วแล้วค่อยดูใหม่ว่าอะไรน่าสนใจ

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ใครที่เคยซื้อLTFมาแล้ว ปีต่อๆไปหยุดซื้อไปเลยได้ แต่RMFเมื่อซื้อแล้วต้องซื้อไปเรื่อยๆครับหยุดไม่ได้(เว้นได้1ปีแต่ปีต่อไปก็ต้องซื้อเว้นติดกันเกิน1ปีไม่ได้) แต่ซื้อจำนวนน้อยได้คือ5000บาทครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีเพื่อนส่งPMมาถาม ผมมองว่าคำถามนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนหลายๆคน เลยขอตอบในกระทู้น้องเสมนะครับ การตอบคำถามแนวนี้หลายคนได้ประโยชน์ครับ อีกอย่างจะมีท่านอื่นมาเสริมมุมมองหรือเสริมเนื้อหาต่างๆให้สมบูรณ์มากขึ้นครับ

อดีตผมเคยลงทุนทั้งกองทุนทองและกองทุนน้ำมัน สุดท้ายเลิกเล่นกองทุนน้ำมันถาวรแล้วครับ การคิดหน่วยลงทุนน้ำมันสุดท้ายคนลงทุนระยะยาวมีโอกาสขาดทุนสูงมากครับ(กองทุนทองคำไม่เป็นแบบนั้น กองทุนทองคำผลตอบแทนไม่ต่างจากการซื้อทองแท่ง แต่จะดีกว่าเพราะไม่มีราคากั๊ก บางกองยังมีประกันอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินด้วย) เช่นกองทุนน้ำมันของทิสโก้ตอนนี้ราคาNAV10.5858 เทียบกับราคาเปิดกองทุน+ค่าธรรมเนียมตอนซื้อ 10.10 ซื้อแต่เริ่มก่อตั้งแล้วขายที่ราคานี้กำไรยังไม่ถึง5%เลย ถ้าจำไม่ผิดช่วงที่ขายกองนี้ครั้งแรกราคาน้ำมันยังไม่ถึง60บาทเลยครับ ตอนนี้น้ำมันประมาณ99เหรียญกำไรไม่ถึง5% ถ้าน้ำมันราคาลงเหลือ85ขาดทุนแล้วครับ

กองทุนน้ำมันเล่นแบบเข้าออกเร็วและต้องดูราคากองหลักที่เขาไปซื้อด้วย ไม่แม่นข้อมูลและไม่ได้เล่นสั้นอย่าลงกองน้ำมันเลยครับ

กองทองคำแต่ก่อนชอบมากครับ แต่ช่วงหลังเปลี่ยนมาถือของจริงหมดแล้ว(ช่วงนี้หันมาถือโลหะเงินแทนทอง) ส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกใกล้เกิดภาวะวิกฤตครั้งใหญ่มากกกกกก การลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุน ถ้าสถานบันที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในต่างประเทศล้มกันมากมาย กังวลว่ามีโอกาสไม่ได้เงินลงทุนคืนครับ ส่วนตัวผมกองที่ไปลงทุนในต่างประเทศเหลือRMFทองคำเท่านั้น แต่ตามดูสถานการณ์ด้วยความระวังและกังวล ได้กลิ่นไม่ดีจะรีบหนีมาRMFที่ลงทุนในเมืองไทยครับ(ห่วงเหมือนกันว่าจะหนีทันมั้ย) โยกมาแล้วไม่ลงRMFหุ้นก็RMFพันธบัตรก็ยังห่วงอยู่ดี

ที่ผ่านมาเคยลงLTF/RMF(LTFปีพ.ศ.ที่ขาย-ปีที่ซื้อ+1ถ้ามากกว่าหรือเท่ากับ5ถึงขายได้) ช่วงหลังเหลือRMF ปีนี้ตัดสินใจไม่ลงทุนทั้ง2ตัวครับ ห่วงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่วนตัวมองว่าDJใกล้จะตกหนักแล้วอาจลงไปต่ำสุดถึง3500จุด ปีนี้เลยไม่กล้าลงLTF ตอนนี้หุ้นไทยยังน่าสนใจมากแต่ลงทุนครบ5ปีพ.ศ.กลัวเกิดการปรับฐานใหญ่ก่อนครบครับ

RMFต้องถือถึงอายุ55 RMFที่ลงทุนในไทยไม่ถือกองหุ้นก็ต้องถือRMFกองพันธบัตรเท่านั้นไม่มีทางเลือกอื่น เมื่อวิกฤตระบบเงินตรากระดาษระเบิดขึ้นใครถือพันธบัตรก็ด้อยค่าตามอย่างมาก ระบบเงินกระดาษล่มใครถือสินทรัพย์จริงเท่านั้นที่จะรอด(เช่นทองคำ โลหะเงิน ที่ดินเป็นต้น)

ส่วนตัวมองว่าช่วงนี้เอาเงินที่จะไปซื้อLTF/RMF ไปลงทุนกับโลหะเงินหรือทองคำดีกว่ารอสถานการณ์ระเบิดมีความชัดเจนแล้วแล้วค่อยดูใหม่ว่าอะไรน่าสนใจ

การลงทุนใน RMF เสี่ยงน้อยกว่า LTF

เพราะ RMF จะมีตั้งแต่ กองตราสารหนี้ในประเทศและนอกประเทศ (แยกกองกัน) ทองคำ หุ้น หรืออื่นๆ

เราสามารถประยุกต์การลงทุนได้ แม้ว่าจะยังไม่สามารถเอาเงินออกมาจากกองทุนได้

เช่นเรารู้ว่าหุ้นกำลังขึ้น (ใช้ระบบคุณเสม เขียวแรกซื้อ แดงแรกขาย) เราก็เข้าซื้อ พอหุ้นตกก็โยกจากกองหุ้นไปกองตราสารหนี้ หรือทองคำ

แตในกรณี LTF มีแต่กองหุ้น จะหุ้นประเภทไหนก็แล้วแต่ ก็ค่อนข้างเสี่ยง ต้องถือ 5 ปี ถึงตอนนั้นถ้าหุ้นตกมากๆ ก็ต้องทำใจ

จริงๆอยากลุ้นให้ LTF สามารถเปิดกองทุนประเภทกองทองคำได้ ก็จะดีไม่น้อย อย่างน้อยถ้าเกิดอะไรยังโยกไปหากองทองคำได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การลงทุนใน RMF เสี่ยงน้อยกว่า LTF

เพราะ RMF จะมีตั้งแต่ กองตราสารหนี้ในประเทศและนอกประเทศ (แยกกองกัน) ทองคำ หุ้น หรืออื่นๆ

เราสามารถประยุกต์การลงทุนได้ แม้ว่าจะยังไม่สามารถเอาเงินออกมาจากกองทุนได้

เช่นเรารู้ว่าหุ้นกำลังขึ้น (ใช้ระบบคุณเสม เขียวแรกซื้อ แดงแรกขาย) เราก็เข้าซื้อ พอหุ้นตกก็โยกจากกองหุ้นไปกองตราสารหนี้ หรือทองคำ

แตในกรณี LTF มีแต่กองหุ้น จะหุ้นประเภทไหนก็แล้วแต่ ก็ค่อนข้างเสี่ยง ต้องถือ 5 ปี ถึงตอนนั้นถ้าหุ้นตกมากๆ ก็ต้องทำใจ

จริงๆอยากลุ้นให้ LTF สามารถเปิดกองทุนประเภทกองทองคำได้ ก็จะดีไม่น้อย อย่างน้อยถ้าเกิดอะไรยังโยกไปหากองทองคำได้

จริงๆLTFที่ลงทุนแบบป้องกันความเสี่ยงโดยใช้ตลาดฟิวเจอร์ ประครองให้ผลตอบแทนใกล้เคียงพันธบัตรก็มีครับแต่เวลาหุ้นขึ้นก็กำไรใกล้เคีบงพันธบัตรเหมือนกัน

กองแรกที่เป็นแนวนี้น่าจะออกโดยบลจ.วรรณ ช่วงปี2008ที่หุ้นตกหนักกองนี้ไม่ขาดทุนครับกำไรใกล้เคียงพันธบัตร แต่ที่ผมห่วงคือถ้าระบบเงินตรากระดาษล่มสินทรัพพย์ที่อ้างอิงเงินกระดาษซึ่งรวมทั้งพันธบัตรหรือตราสารหนี้จะด้อยค่ามากมาย การลงทุนในกองต่างประเทศเช่นทองคำRMF ถ้าสถาบันหลักที่เราไปเกี่ยวข้องกับเขามีปัญหาอาจจะไม่ได้คืนก็ได้ ใช้คำว่าอาจจะเพราะอาจไม่มีปัญหาอะไรเลยก็ได้ แต่ส่วนตัวผมมองว่ามีปัญหาแน่

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทความเก่าครับ แต่เนื้อหาหลักยังใช้ได้ครับ

 

 

เงินนอกทะลักเข้าไทย เก็งกำไร 3 เด้ง

25 เมษายน 2554 เวลา 08:32 น. | เปิดอ่าน 669 | ความคิดเห็น 3

หลังเศรษฐกิจกลับทิศกลับทาง ยุโรปและสหรัฐประสบปัญหาเศรษฐกิจและอยู่ในช่วงการฟื้นตัว

 

โดย...ทีมข่าวการเงิน

 

หลังเศรษฐกิจกลับทิศกลับทาง ยุโรปและสหรัฐประสบปัญหาเศรษฐกิจและอยู่ในช่วงการฟื้นตัว

 

แต่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียกลับโตวันโตคืน และมีแนวโน้มการขยายตัวในระดับที่ดีต่อเนื่อง

 

สะท้อนได้จากค่าเงินเกือบทุกสกุล ยกเว้นเงินเยนของญี่ปุ่น มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ จากการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยขาขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่สูงขึ้นตามศักยภาพการเติบโตและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ไวกว่า

ส่งผลให้ภูมิภาคเอเชียกลายมาเป็นหัวหอกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกแทน

 

ภาวะดังกล่าวกลายเป็นจุดดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติตัดสินใจขนสภาพคล่องเข้ามาหาผลตอบแทนที่ดีในภูมิภาคนี้ รวมทั้งไทยมากขึ้นๆ และคาดว่าจะเป็นแนวโน้มเช่นนี้ไปอีกระยะ เพราะปัจจัยต่างๆ เอื้อให้เงินทุนที่มีอยู่ล้นตลาด สามารถหาผลตอบแทนที่ดีได้นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพ มองว่า แนวโน้มเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคนี้และไทยมีมากขึ้น เพราะถ้าดูจากเศรษฐกิจโลกจะเห็นว่าสภาพคล่องสูงมาก ปีละประมาณ 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหนึ่งในเงินจำนวนนี้เลือกมาลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ประมาณ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

 

แต่ปัญหาคือเศรษฐกิจของประเทศหลักๆ อย่างสหรัฐและยุโรป รวมถึงญี่ปุ่นกลับมีปัญหา ทำให้โอกาสในการหากำไรหาผลตอบแทนที่ดีทำได้ลำบากขึ้นภาวะดังกล่าวรัฐบาลของประเทศที่มีปัญหาก็มีความจำเป็นต้องอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้สภาพคล่องที่สูงอยู่แล้วสูงขึ้นอีก และถ้าดูดอกเบี้ยของประเทศเหล่านี้ก็ต่ำมากเมื่อเทียบกับภูมิภาค เช่น ยุโรปอยู่ที่ระดับ 1% กว่าๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่เงินเหล่านี้จะมองหาโอกาสลงทุนที่อื่นยิ่งประเทศจีน อินเดีย ในภูมิภาคนี้เริ่มกลายเป็นศูนย์กลางในการเติบโตของโลก ทำให้มีโอกาสใหม่ในการลงทุน มีการผลิตที่แท้จริง สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นอีก และทำให้เงินเหล่านี้เข้ามาหาประโยชน์ในการลงทุนในตลาดการผลิตได้

 

หรือถ้าดูตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ก็ดี มีโอกาสเติบโตอยู่แล้ว สะท้อนได้จากดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับดีขึ้นตลอด มีสภาพคล่องเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น เงินจึงไหลเข้ามาในภูมิภาคและไทยเพิ่มขึ้น

 

ถือว่าดีกว่าจะเลือกลงทุนในยุโรปและสหรัฐที่ยังไม่ชัดเจน แถมดอกเบี้ยยังต่ำกว่าด้วย ซึ่งนอกจากลงทุนในภาคการผลิตจริงแล้วยังเข้าลงทุนระยะสั้น ในตลาดทุนและตลาดเงินได้ด้วย” นายกอบศักดิ์ ระบุ

 

 

การปรับขึ้นดอกเบี้ยของยุโรป ที่ขึ้นไปแล้ว 0.25% เป็น 1.25% สร้างแรงกดดันให้เงินเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น ซ้ำเติมที่เศรษฐกิจสหรัฐไม่ดีอยู่แล้ว ทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 2 ปี และมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอีก สะท้อนว่าแรงกดดันต่อการแข็งค่าขึ้นของเงินในสกุลภูมิภาคเอเชียและไทยมีมากขึ้น เห็นได้จากค่าเงินริงกิต มาเลเซีย วอน เกาหลี ดอลลาร์สิงคโปร์ รวมทั้งเงินบาทไทย กำลังทำสถิติแข็งค่าสูงสุด (นิวไฮ) ใหม่ และทำให้ทางการต้องมีการเข้าดูแลค่าเงินอย่างเต็มที่มากขึ้น

 

เงินบาทเองก็ปรับแข็งค่าขึ้นเช่นกัน เชื่อว่าแนวโน้มจะเป็นเช่นนี้อีกระยะหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจ[/color]“ภาวะเหล่านี้มีโอกาสให้เงินทุนต่างชาติที่เข้ามากำไรแน่ๆ มีส่วนต่างดอกเบี้ย กำไรจากราคาหุ้นที่ปรับขึ้น แถมด้วยกำไรส่วนต่างค่าเงิน ถ้าดูวันหนึ่งๆ ค่าเงินแข็งค่าขึ้นเฉลี่ย 6-7 สตางค์ ขึ้นแบบวันเวย์ต่อเนื่อง ผลตอบแทนต่อปีแทบจะเรียกว่า 100% เป็นแรงจูงใจให้เงินเข้ามา เพราะคุ้มค่าธรรมเนียมการเข้ามาก็ไม่สูง หรือต่อให้มีค่าธรรมเนียม ห้ามเงินเข้าก็น่าจะห้ามยาก เพราะตอนนี้ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงเรื่อยๆ เงินบาทจึงมีโอกาสแข็งค่าขึ้นอีก เดิมเงินทุนยังไม่อยากเข้ามาเพราะค่าเงินผันผวน แต่ตอนนี้เริ่มมีแนวโน้มแข็งค่าทางเดียวแล้ว” นายกอบศักดิ์ กล่าว

 

ด้านนายจงรัก บุญชยานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการเงินและควบคุม ธนาคารกสิกรไทย คาดว่า ทิศทางเงินทุนยังไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งไทยต่อเนื่อง แต่จะเข้ามาในปริมาณมากหรือน้อยต้องดูปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย อาทิ การเมือง ซึ่งขณะนี้บรรยากาศดีขึ้น ทิศทางค่าเงินเหรียญสหรัฐ ภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจเอเชีย

 

ขณะนี้นักลงทุนเลือกถือเงินบาทและเงินปอนด์มากขึ้น เพราะยังสามารถทำกำไรได้ทั้งจากตลาดหุ้น และค่าเงิน โดยตลาดหุ้นยิ่งสวิงยิ่งทำกำไรได้มาก

 

ส่วนค่าเงินก็มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐที่มีทิศทางอ่อนค่าลง ฉะนั้นในระยะนี้เงินทุนต่างชาติน่าจะไหลเข้าไทยมากขึ้น เพราะต้องรีบเข้ามาก่อนที่ค่าเงินบาทจะแข็งไปมากกว่านี้ เวลาออกจะได้ทั้งกำไร จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น ส่วนต่างดอกเบี้ย และค่าเงินด้วย

ทั้งนี้ เมื่อเทียบค่าเงินสกุลต่างๆ กับเงินเหรียญสหรัฐ จากต้นปีมาถึงปัจจุบันนี้ต่างแข็งค่าขึ้น ยกเว้นเงินเยน ญี่ปุ่น และด่องของเวียดนามที่อ่อนค่าลง

โดยเงินยุโรปแข็งค่าขึ้น 8.9% ญี่ปุ่นอ่อนค่าลง 1.0% เงินบาทไทยแข็งค่าขึ้น 0.8% เกาหลีแข็งค่าขึ้น 3.7% ไต้หวันแข็งค่าขึ้น 1.0% สิงคโปร์แข็งค่าขึ้น 4.0% ฟิลิปปินส์แข็งค่าขึ้น 1.1% อินโดนีเซียแข็งค่าขึ้น 4.3% อินเดียแข็งค่าขึ้น 1.2% จีนแข็งค่าขึ้น 1.3% ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 5.2% นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 2.9% และเวียดนามอ่อนค่าลง 6.5%

 

และหากดูเฉพาะค่าเงินในช่วง 18–22 เม.ย.ที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดเจนว่าทุกเงินในภูมิภาคทุกสกุลแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ โดยยุโรปแข็งค่า 1% ญี่ปุ่นแข็งค่า 1.4% ไทยแข็งค่า 0.7% เกาหลีแข็งค่า 0.6% ไต้หวันแข็งค่า 0.3% สิงคโปร์แข็งค่า 0.8% ฟิลิปปินส์แข็งค่า 0.1% อินโดนีเซียแข็งค่า 0.3% อินเดียแข็งค่า 0.2% จีนแข็งค่า 0.4% ออสเตรเลียแข็งค่า 1.7% นิวซีแลนด์แข็งค่า 0.3% ยกเว้นเวียดนามแข็งค่า 0%

 

หากดูจากระดับทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงาน ณ วันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ระดับ 1.858 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐจากสัปดาห์ก่อนหน้า จะเห็นว่า ธปท.เองก็เริ่มเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาแล้ว

 

และถ้าดูตัวเลขฐานะสุทธิการซื้อขายเงินตราต่างประเทศแลกกับเงินบาทล่วงหน้า (ฟอร์เวิร์ด) ที่ระดับ 2.11 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงเล็กน้อย 200 ล้านเหรียญสหรัฐจากสัปดาห์ก่อน ก็พอจะคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์ในขณะนี้ ธปท.เริ่มส่งสัญญาณถอยในการสู้ค่าเงินบาทบ้างแล้ว

 

ขณะที่ ธปท.เองก็เริ่มออกมายอมรับแล้วว่าเงินทุนไหลเข้ามีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า ค่าเงินบาทในช่วงนี้ค่อนข้างผันผวนเร็ว แต่เป็นการผันผวนที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค และค่าเงินสกุลหลัก

 

ในส่วนไทย ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้ามาแล้วประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ (บอนด์) ประมาณ 1 แสนล้านบาท เข้าในตลาดหุ้นไทยอีกประมาณ 1.9-2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าเงินทุนไหลเข้าจะมีทิศทางนี้ต่อไป เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังไปได้ดี และดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในขาขึ้น

 

เทียบกับปีที่แล้ว ไตรมาสต่อไตรมาส ปีนี้ถือว่ามีเงินไหลเข้ามากกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก เพราะปีนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการชุมนุมประท้วง แต่ยังมีสงครามไทยกัมพูชาเป็นระยะๆ

 

จากปัจจัยที่ดีต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาของเศรษฐกิจไทย สะสมความมั่นใจจากนักลงทุนได้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ฉะนั้น นับจากนี้ไปน่าจะเห็นเงินทุนจากต่างประเทศไหลทะลักเข้ามาในภูมิภาคและประเทศไทยมากขึ้นเป็นเท่าทวี จากปัจจุบันที่เป็นแค่ช่วงของการเริ่มต้นเท่านั้น

 

เพราะกำไร 3 เด้งมันเย้ายวนคุ้มค่าแบบสุดๆ!!!

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...