ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอส่งกำลังใจให้คนใต้ด้วยนะคะ

อ่านแล้วน่ากลัวจริงค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผลการแข่งขันฟุตบอล

 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2555

 

21.00 น. แมนฯ ซิตี้ - ซันเดอร์แลนด์ ทรูสปอร์ต 1 =>> 3 : 3

21.00 น. เอฟเวอร์ตัน - เวสต์บรอมวิช ทรูสปอร์ต 2 =>> 2 : 0

21.00 น. แอสตัน วิลล่า - เชลซี ทรูสปอร์ต 3 =>> 2 : 4

21.00 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน - โบลตัน ทรูสปอร์ต 4 =>> 2 : 3

 

21.00 น. ควีนส์ปาร์ค - อาร์เซน่อล ทรูสปอร์ต 5 =>> 2 : 1

 

21.00 น. วีแกน - สโต๊ค ทรูปสอร์ต 6 =>> 2 : 0

21.00 น. ฟูแล่ม - นอริช ทรูสเปเชียลสปอร์ต (161) =>> 2 : 1

 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2555

 

19.30 น. นิวคาสเซิ่ล - ลิเวอร์พูล ทรูสปอร์ต 1 =>> 2 : 0

22.00 น. สเปอร์ส - สวอนซี ทรูสปอร์ต 1 =>> 3 : 1

 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2555

 

02.00 น. แบล็คเบิร์น - แมนฯ ยูไนเต็ด ทรูสปอร์ต 1 =>> 0 : 2

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล

 

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

 

01.45 น. บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) - โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) ช่อง 3

01.45 น. บาร์เซโลน่า (สเปน) - เอซี มิลาน (อิตาลี) ช่อง 7

 

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

 

01.45 น. เชลซี (อังกฤษ) - เบนฟิก้า (โปรตุเกส) ช่อง 3

01.45 น. เรอัล มาดริด (สเปน) - อาโปเอล นิโกเซีย (ไซปรัส) ช่อง 7

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

Money Management

By Seam Arsenal in การลงทุนด้วยระบบ · Edit Doc

 

 

         ว่ากันไปเเล้วการลงทุนนั้นมีองค์ประกอบหลายๆอย่างด้วยกันถึงจะเป็นการลงทุน ไม่งั้นก็จะเป็นการพนันทันที อะไรที่เเยกระหว่าง 2 คำนี้ นั้นคือ "ระบบ" ฟังดูเเล้วเท่ห์ดีเนอะ คำว่า "ระบบ" เเต่การมี "ระบบ" เเล้ว ยังไม่สามารถที่จะเอาตัวรอดในตลาดระยะยาวได้เเน่นอนครับ เพราะอะไร อย่างที่เคยกล่าวไว้เเล้วว่า ระบบ นั้นสำคัญเเค่ 10% ครับ การซื้อการขายเมื่อมีสัญญาณเมื่อทำได้ทุกไม้นั้นคือ การตามระบบได้ 100% เเต่บางท่านยังขาดทุนหรือเจ๊งกันอยู่เพราะอะไร ก็ในเมื่อเราทำตามระบบที่ออกเบบไว้เเล้วว่าปีหนึ่งจะมีกำไรพอเพียง 10%-15% อยู่เเล้ว ถ้าหลายท่านคิดเเบบนี้กำลังคิดผิดเเล้วครับ คุณมองเเค่ 10% ของการลงทุนด้วยระบบเท่านั้น เเต่ยังมีอีก 90% หายไปไหน มาดูอีก 30% คืออะไร นั้นก็คือ 

 

        Money Management (MM) สำคัญมากๆเลยนะครับ การจัดสรร Portfolio ในเหมาะกับนักลงทุนเเต่ละท่าน การทน Drawdown ของเเต่ละท่านที่เเตกต่างกัน ส่วนนี้สำคัญมากๆ ถ้าเราจัดการในส่วนนี้ไม่ดี จะส่งผลให้เราไม่สามารถทำตามระบบได้ตลอดครับ เพราะ ใจของเเต่

ละคนต่างกัน มากมาย พูดง่ายๆ "ความอึด" มันต่างกัน เเต่ตรงนี้มือใหม่ ชอบทนที่จะขาดทุนไม่ยอมขาย (Stop loss) ขาดทุนเท่าไรถึงไหนถึงกันเลย สำหรับเม่าทั้งหลาย จริงๆเเล้ว ขาดทุนเเล้วต้องทำการ Stop loss ทันทีนะครับ ห้ามต่อรองเด็ดขาด เเต่เวลาได้กำไรหน่อยรีบขายเลย ก็เเปลกดีนะ มักน้อยจริงๆ จริงเเล้วต้อง Let's profit run ครับ เช่นง่ายๆ ตอนนี้ SET ไทยใครเล่นหุ้นตอนนี้เเล้วยังขาดทุน ก็นะ ... ไม่อยากจะด่า 55555 เด่โดนตืบ กร๊ากกกกกกก

ลองคิดดูถ้า SET เป็นขาลงจะ ขาดทุนขนาดไหน มันมีวิธีเเก้ไขว่าจะต้องทำอย่างไร เมื่อ SET ขึ้น Portfolio เราเป็นสีเขียวได้

 

MM สำคัญมากกว่าการซื้อขายมากมายครับ การซื้อขายเห็นสีเขียวเเรกมาเราก็เข้าซื้อ เห็นสีเเดงมาเราก็ขายทิ้งไป ง่ายๆไม่ซับซ้อน เเต่ การเข้าซื้อนี้ ต้องเอา MM มาเกี่ยวข้องครับ เช่น วันนี้เราจะซื้อ หุ้น DTAC 50,000 บาท ถามว่าการจัด port อย่างไรถึงจะดี ผมบอกเลยว่า ให้กระจายความเสียงครับ คือ ซื้อหลายตัว อย่าไปลงตัวเดียว มันเสียงจนเกินไป ส่วนนี้ต้องเอา MM มาช่วยคุมครับ ถ้ามีเงิน 1 ล้าน ก็ลงไปเลย หาหุ้นใน SET50 นั้นเเระเลือกมา 20 ตัว เด่จะมีคำถามอีกว่าเลือกไงอะ คุงเสม ก็จะตอบว่า เลือกๆไปเหอะ ให้มันครอบคลุม ทุกอุตสากรรม ทุกองค์กร เช่น กลุ่ม Bank ก็เลือกไป BBL , SCB , KBANK , BAY , TCAP อื่นๆ พลังงานก็ว่ากันไป เลือกให้ครอบคลุมอะงับ ได้ 20 ตัวเเล้วก็ซื้อ ตัวละ 50,000 บาท ง่ายๆนะครับ นี้คือการนำ MM มาคุมการลงทุนด้วยระบบอีกทีหนึ่ง จะช่วยให้เราไม่เจ๊งครับ เป็นการลงทุนด้วยระบบจริงๆ มือใหม่เเนะนำให้ลงทุนใน หุ้นรายตัว หรือ กองทุนก่อนนะครับ สัก 2 ปีถ้าได้กำไรเเล้วค่อยไปลงทุน อนุพันธ์กันต่อ อีกตัวหนึ่งที่น่ากลัวคือ การ "Overtrade" คือเมื่อเห็นตลาดขึ้นได้กำไรมากมายเเล้ว เกิดความโลภเเละก็คึก โดยจะ trade เกินตัวหรือระบบที่ตัวเองวางไว้ สุดท้ายเเล้วเจ๊งครับ เจ๊งเเน่นอน ในระยะยาว เช่นการเทรด GF เเนะนำวาง margin ต่อสัญญาละ 3 เเสนบาท คุมเงินเล่นเเค่  1 lot ใหญ่เท่านั้น อย่า overtrade นะครับ

 

 

 

 

ว่างๆเลยเขียนมาเล่าให้ความรู้กันครับ

ลงทุนด้วยสตินะครับ

ถูกแก้ไข โดย Auditor M

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

InvestmentTalk – MACD เครื่องมือชี้จุดซื้อบอกจุดขาย พร้อมผลทดสอบความแม่นยำ 20 ปี

 

20 July 20108,415 views7 Comments

Written by: Keng

 

 

 

 

คำ ถามสำคัญอันดับต้นๆ ของนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพก็คือ ดัชนีจะปรับขึ้นและลงเมื่อไร หรือไม่ก็ ควรซื้อและขายหุ้นตัวนี้ที่ราคาเท่าไร โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถพิจารณาจาก 2 แนวทาง คือ 1) ประเมินมูลค่าพื้นฐาน และเปรียบเทียบกับราคาตลาด เพื่อตัดสินใจซื้อ หากราคาตลาด < มูลค่าพื้นฐาน และตัดสินใจขาย หากราคาตลาด > มูลค่าพื้นฐาน และ 2) ดูจากเครื่องมือทางเทคนิก (Technical Tool) ซึ่งสามารถบอกจุดซื้อและขายได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ดี จากประสบการณ์ลงทุนหลายปีที่ผ่านมา พบว่าหลายครั้งการลงทุนโดยเน้นการประเมินมูลค่าพื้นฐานก็ไม่แม่นยำเสมอไป และเมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าพื้นฐานที่เราใช้ตัดสินใจในวันแรกก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เป็นผลให้ซื้อหุ้นแล้วราคาไม่วิ่ง หรือพลิกกลับลงมา และในบางครั้งก็พบว่าขายไปแล้วราคากลับวิ่งต่อไปอีกไกล

จึงเป็นเหตุให้ผม ศึกษาการลงทุนโดยใช้เครื่องมือทางเทคนิก ซึ่งเป็นการคำนวณการเคลื่อนไหวของระดับราคาหลักทรัพย์ (ใช้ได้กับทั้งดัชนี หุ้น ทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ และอนุพันธ์) โดยจะให้ผลออกมาเป็นสัญญาณซื้อ/ขาย/อยู่นิ่งๆ ได้อย่างชัดเจน (แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะแม่นยำทุก ครั้งและจะได้กำไรเสมอไป)

.

 

ที่่ผ่านมาผมได้ลองศึกษา Technical Tool ตัวหนึ่งซึ่งให้สัญญาณค่อนข้างแม่นยำ (ในความรู้สึกของผม) นั่นก็คือ Moving Average Convergence/Divergence หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า MACD ซึ่งพัฒนาโดย Mr.Gerald Appel ในช่วงปลายยุค ’70 ที่สหรัฐอเมริกา

MACD จะประกอบด้วยกราฟสองเส้น คือเส้น MACD และเส้น Signal ตามภาพ ซึ่งจะแสดงแรงเหวี่ยง (Momentum) ของราคาีที่เปลี่ยนไปตามระยะเวลา

1) เส้น MACD (เส้นสีชมพูอ่อน) จะเกิดจากค่า 12-day Exponential Moving Average (หรือเรียกว่า EMA) ลบด้วย 26-day EMA โดย EMA จะมีหลักการเหมือนกับการหา Weighted Moving Average ทั่วไป แต่จะคำนวณด้วยฟังก์ชั่นยกกำลัง (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง EMA ได้ที่นี่ http://en.wikipedia...._moving_average)

2) เส้น Signal (เส้นสีฟ้า) คือค่า 9-day EMA ของเส้น MACD อีกต่อหนึ่ง

เมื่อนำทั้งสองเส้นมาวิ่งทับกัน โดยให้เส้น Signal (สีฟ้า) เป็นเส้นยืน เมื่อใดที่เส้น MACD (สีชมพูอ่อน) ตัดทะลุเส้น Signal (สีฟ้า) ลงมา ถือว่า MACD ส่งสัญญาณให้ขาย และหากเส้น MACD ตัดทะลุเส้น Signal ขึ้นไป ถือเป็นสัญญาณให้ซื้อ

 

 

MACD-Sample.jpg

.

และ เมื่อเทียบกับระดับดัชนีจริง ก็พบว่าเมื่อ MACD ส่งสัญญาณขาย ดัชนีก็ “มักจะ” ปรับลดลง ในทางกลับกัน เมื่อส่งสัญญาณซื้อ ดัชนีก็ “มักจะ” ปรับเพิ่มขึ้น จนเป็นเหตุให้นักลงทุนใช้เป็นเครื่องช่วยตัดสินใจลงทุนได้อย่างสะดวก (ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน MACD อย่างละเอียดได้ที่นี่ http://stockcharts.c...g_average_conve)

.

 

อย่าง ไรก็ดี พบว่า MACD ไม่ได้ส่งสัญญาณที่มีคุณภาพ (ทำตามแล้วได้กำไร) เสมอไป ทำให้เกิดความสงสัยว่า หากเราลองทำตาม MACD ในระยะยาวแล้วจะให้ผลเป็นอย่างไร จึงเป็นที่มาของการทดสอบย้อนหลัง (Back Testing) กับข้อมูลในอดีตเพื่อดูความน่า้เชื่อถือของมัน

.

 

ผมได้ ดึงข้อมูล MACD ของ SET Index ย้อนหลังไป 20 ปี และของ SET50 Index ย้อนหลังไป 14 ปี (SET50 Index เริ่มมีในปี 1996) เพื่อทดสอบว่า สัญญาณ MACD ที่ส่งออกมาตลอดระยะเวลานั้น ให้สัญญาณถูก (ทำตามแล้วได้กำไร) มากน้อยแค่ไหน

.

MACD-Captured.jpg

.

แต่ เนื่องจากข้อมูลมีจำนวนมาก จะนั่งนับด้วยมือจากกราฟคงไม่สำเร็จ จึงต้องอาศัยคุณสมบัติที่ดีของ eFin Smart Portal ในการดึงข้อมูลตัวเลขดิบออกมาผูกสูตรคำนวณใน Excel โดยขั้นแรกจะเป็นการหาจุดซื้อขายตามสัญญาณ MACD

.

MACD-Cal-Captured1.jpg

.

ต่อมาจึงตรวจสอบว่าจุดซื้อขายนั้น ให้ผลกำไรหรือขาดทุนเป็นจำนวนเท่าไร

.

MACD-Cal-Captured-2.jpg

(ผม เลือกการคำนวณในตารางมาเฉพาะบางส่วนเพื่อใช้ในการแสดงเท่านั้น ความจริงมีอีกหลายขั้นครับ หากดูเฉพาะส่วนเหล่านี้อาจสับสนได้ ทั้งนี้ ข้อมูลที่ใช้คำนวณมีถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2553)

.

แล้วจึงได้ผลการคำนวณออกมาดังนี้

.

MACD-Summary.jpg

.

ซึ่งพอจะสรุปผลได้ว่า

.

 

1) MACD จะให้สัญญาณถูกต้องประมาณ 45% (ผิดประมาณ 55%)

2) การทำตาม MACD จะให้กำไรสูงกว่าการซื้อแล้วถือ (Buy-and-Hold) อย่างมาก

3) หากเชื่อตาม MACD ตลอด 20 ปี ทั้งขาซื้อ และขา Short (สมมติว่าใช้ Futures เข้าช่วยด้วย) จะได้กำไีรมากกว่าการเล่นฝั่งซื้ออย่างเดียว (ขายแล้วไม่ Short Futures ตามลงมา) ถึงประมา๊ณ 2 เท่า (เำพราะได้ทั้งขาขึ้นและขาลง)

4) การที่ MACD มีโอกาสผิดถึง 55% แต่ัยังเอาชนะการ Buy-and-Hold ได้อย่างถล่มทลาย เนื่องจากครั้งที่มันส่งสัญญาณผิด จะทำให้เราขาดทุนเฉลี่ยเพียง 21.35 จุด (กรณี SET Index) และคราวที่มันส่งสัญญาณถูก จะให้กำไรถึง 49.95 จุด เมื่อคำนวณหาค่าที่คาดหวัง (กำไร x โอกาส) พบว่า การเชื่อตาม MACD แต่ละครั้งจะให้กำไรโดยเฉลี่ย 10.53 จุด

5) การที่ MACD ส่งสัญญาณผิดแต่ยังขาดทุนไม่มาก ก็เพราะว่า MACD มักจะส่งสัญญาณผิดเวลาที่ตลาด Sideway ขึ้นลงไม่มาก

 

ใน ขั้นต่อไป ผมอยากจะลองทำ Back Testing กับหุ้นรายตัว ทั้งหุ้นใหญ่ กลาง เล็ก และหุ้นเก็งกำไร เพื่อให้เห็นเอกลักษณ์ของหุ้นแต่ละแบบ และในขั้นก้าวหน้ากว่านั้นผมก็จะลองทำ Back Testing กับ Technical Tool อื่นๆ เช่น DMI และ Stochastic เพื่อดูว่าเครื่องมือไหนจะสร้างผลกำไรได้มากที่สุดครับ (อาจจะดีกกว่า MACD ก็ได้)

 

บทความนี้ค่อนข้างยาวและมีเทคนิกหลายขั้นตอน ผมจึงพยายามอธิบายละเอียดสักหน่อย หวังว่าจะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นและสามารถนำ MACD ไปใช้การลงทุนจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ ทั้งนี้ ส่วนการกล่าวถึงการใช้ Futures เข้ามาประกอบในฝั่งขาย ก็เพื่อช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของข้อมูลในกรณีดัชนีปรับลดลง ซึ่งตามปกติสำหรับนักลงทุนที่ไม่ได้ใช้ Futures ก็จะเล่นขาขึ้นเ่ท่านั้น และจะถือเงินสดรอหลังจากขายไปแล้ว (หรือไม่ก็นำเงินไปลงทุนอย่างอื่นไปพลางๆ)

 

แต่เหนืออื่นใด… วัตถุประสงค์ของบทความนี้ ไม่ได้อยู่ที่การนำเสนอผลการคำนวณอย่างเข้มข้น แต่อยู่การชี้ให้เห็นความน่าสนใจของ MACD ในฐานะที่เป็น Technical Tool ทีใช้ได้ดี “ตัวหนึ่ง” ในอีกหลายๆ ตัว ส่วนการทำ Back Testing ก็เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ MACD ครับ icon_smile.gif

 

ขอขอบคุณ คุณ potgarn มากๆครับ ผลวิเคราะห์มีประโยชน์มากๆ เลยครับ มีประโยชน์จริงๆ ถ้านิสิตนักศึกษาเอาประเด็นนี้ไปทำ thesis จะเป็นประโยชน์มากๆ ครับ

 

สำหรับผม ที่มีความรู้ด้านการวิจัยบ้าง สถิติบ้าง มีข้อสงสัยนิดหน่อยครับ

 

ข้อมูล ที่ใช้ในการวิเคราะห์แต่ละ row ของโปรแกรม excel เราสามารถจำแนกได้ไหมครับว่า ข้อมูลนั้นๆ เกิดขึ้นในช่วงตลาดปกติ สถานการณ์ปกติ หรือ ผิดปกติ สถานการณ์บางอย่างผิดปกติ ผมว่าถ้าแยกได้ แล้ววิเคราะห์คงได้ข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น เพราะว่ามี factor มากมายที่ส่งผลต่อตลาด เราอาจจะได้ข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นมั้งครับ

 

แต่ยังก็ตาม แค่นี้ผมก็ save เก็บไว้อ่านส่วนตัวแล้วครับ มีประโยชน์มากๆ ครับ

 

แต่ ละวันปัจจัยต่างๆมากมาย มีทั้งปัจจัยที่เปิดเผยแล้ว ปัจจัยที่ยังเป็นความลับเฉพาะกลุ่ม ข่าวลวง ข่าวปล่อย การเมือง ตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาน้ำมัน TAวันนั้นควรซื้อหรือขายแล้ว และอื่นๆอีกมากมาย เราไม่สามารถสรุปปัจจัยรอบด้านได้ครบ

 

----TAชั้นเซียนถึงบอกว่า ไม่สนใจข่าวสารทั้งหมด

----ถ้า เราทดสอบระบบย้อนหลังถึง20ปี ทำกับหลายๆตัวแล้วได้ผลเป็นที่น่าพอ ใจ อนาคตถ้าเราทำเหมือนที่ทดสอบในอดีต คือไม่สนใจข่าวสารทั้งหมด ทำตัวเหมือนระบบคอมพิวเตอร์ ทำตามในระยะยาว เราก็น่าจะได้ผลกำไรไม่ต่างจากอดีต ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมเสมอ

----ถ้าต้องการความปลอดภัย กระจายการลงทุนไปหลายๆอย่าง เช่นน้ำมัน ทองคำ หุ้น ค่าเงิน

----ระบบ ที่ทดสอบข้างบน เขาซื้อทุกครั้งและขายทุกครั้ง เมื่อถึงสัญญาณที่กำหนด แต่ในภาวะปัจจุบันเราจะทำตามระบบได้ทุกครั้งมั้ย

----ทดสอบย้อนหลัง แบบทดสอบใช้วงเงินเท่ากันในการซื้อและขายเพื่อเทียบกำไรขาดทุน เวลาลงทุนจริงถึงเราทำตามระบบทุกครั้งแต่ถ้าเราลงทุนแต่ละครั้งจำนวนเงิน เปลี่ยนแปลงมากมาย หรือบริหารเงินไม่ดี เราก็ขาดทุนมากมายได้

 

----กูรูหลายท่านบอกว่า ระบบมีความสำคัญแค่10% ความสำคัญอีก90%อยู่ที่จิตวิทยากับMoney Management

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:01ขอบคุณทุกๆท่าน ที่มาให้ข้อมูล ความรู้ และคำแนะนำค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Seam Arsenal

GCM2012 ระบบเเดงมา 2 บ้องเเล้วนะครับ ถอยก่อน

 

383521_357258844320702_100001097679177_1075887_477603963_n.jpg

 

ก่อนบันทึกได้รูปใหญ่แล้วนะ แต่พอโพสรูปหายเลย ดูรูปเล็กไปก่อนก็แล้วกันนะ

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Seam Arsenal

SET 20120405 ระบบเเดงเเล้วนะครับ ระวังกันหน่อยช่วงนี้ ต่างชาติเริ่ม take profit เเลว้ รอดูต่อไปครับ

 

535997_357263924320194_100001097679177_1075903_1409755997_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Seam Arsenal

SI Silver คนซื้อเม็ดเงินคงนั่งรอต่อไปครับ รอดู ปลายปีนี้ครับ ยังอยู่ในDown trend นะครับรอ ราคา break เป็น Uptrend เเล้วจะไปทดสอบ High เก่าที่ $50

 

548902_357265394320047_100001097679177_1075910_1461919412_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...