ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
durahan

วิเคราะห์ราคาทองคำ - เเนวโน้ม ทางเทคนิค

โพสต์แนะนำ

ช่วงนี้ผมมีเรื่อง ที่ทำให้ไม่สบายใจ

จำเป็นต้องลดการวิเคราะห์ไปชั่วคราวครับ

 

 

ช่วงนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการปรึกษาเรื่องคดีฟ้องร้อง

สืบเนื่องจากมีเพื่อนๆ เเวะมาถามผมในเวบบอร์ด ว่าควรจะลงสัมนาที่นั่น ที่นี่ดีมั้ย

ตั้งกระทู้ถามผมขึ้นมา >>> ผมก็เลยเข้าไปตอบ

เเล้วผมก็ให้ความเห็นไป + เหตุผล

 

ปรากฏว่า บริษัทที่จัดอบรมสัมนาไม่ค่อยพอใจกับความเห็นของผมเท่าไหร่

ส่งเมลล์มาให้ ให้ผมลบกระทู้

ผมจึงจำกัดการเข้าใช้ไว้เเล้ว

 

เเต่เจ้าของเวบดังกล่าวก็ยังไปเเจ้งความดำเนินคดีผมข้อหาหมิ่นประมาท ....

 

ทำให้ผมค่อนข้าง งง ว่า

1.ผมให้ความเห็น ในฐานะที่ผมเคยจ่ายค่าอบรมราคาเเพง เพื่อสัมนาไปเเล้ว

>>> ผมอยู่ในฐานะของผู้บริโภค ผมน่าจะมีสิทธิที่จะให้ความเห็นได้ว่า ควรจะลงสัมนาหรือไม่

หรือการสัมนานั้นๆ คุ้มค่าเพียงไร

 

2.ผมได้นำเสนอวิธีการที่เทียบเท่ากับการสัมนา ซึ่งช่วยให้ผู้ที่อ่าน สามารถประหยัดเงินไปได้พอสมควร

ผมเป็นคนที่ช่วยประหยัดให้คนส่วนใหญ่ไม่ต้องไปจ่ายเงินในส่วนที่จำเป็นไม่ใช่หรือ ????

 

3.เจ้าของเวบสัมนา เตือนผมว่า เค้าจะเอาชื่อ + นามสกุล ผมไปประกาศตามเวบต่างๆ

ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ เจตนา

คือ ผมพยามใช้นามเเฝง เพื่ออยู่อย่างสงบสุข ไม่ต้องการให้ใครรู้จัก

เเละอยากจะใช้ชีวิตส่วนตัว

 

-ตอนนี้ ผมพยามหาหนทางที่จะจัดการปัญหานี้อยู่ครับ ^^

 

คนเราทำอะไร ย่อมรู้อยู่แก่ใจครับ ... ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คนจัดสัมนาแย่มากครับ เราควรมีสิทธิ์แสดงความเห็นอย่างอิสระไม่ใช่ใช้วิธีแบบนักเลงมาข่มขู่แบบนี้ :angry: เมื่อเช้านี้ยังอ่านหนังสือของน้องอยู่เลย สู้ๆครับ คุณทำถูกแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าเรานำเสนอความจริง โดยสุจริตใจ เพื่อประโยชน์คนส่วนรวม สู้ไปเถอะครับ ไม่แพ้หรอก

 

เป็นกำลังใจให้ครับ happy.gif

 

อีกหนึ่งกำลังใจค่ะ สู้ สู้ค่ะ แปลกใจอยู่นานว่าทำไมคุณ ดูราฮาน หายหน้าไปไหน ขอบคุณนะคะ เราจะได้รู้กันว่าเขาเป็นใครน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เป็นกำลังใจให้นะคะ มีอะไรหนักหนา อย่าลืมมาโพสท์เล่าให้ัฟังกันด้วยนะคะ :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีอย่างนี้ด้วยหรือ มาให้กำลังใจคุณDurahanค่ะ จริงๆเราทำด้วยความบริสุทธ์ใจไม่น่ามีผลหากรุนแรงปรึกษาทนายได้นะคะจะมีสภาทนายรับปรึกษาของรัฐที่อยู่แถวราชดำเนิน เอาใจช่วยค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คิดว่าคุณดูราฮานหายไปเพราะกำลังเขียนหนังสือเล่มใหม่ ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้กับคนดีๆค่ะเป็นกำลังใจให้สู้นะคะเพราะสิ่งที่คุณดูราฮานทำก็เพื่อปกป้องนักลงทุนและทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ถ้าเราคิดดี ทำดีแล้วไม่ต้องไปกลัวและอย่าท้อนะคะ สู้ สู้ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอเป็นกำลังใจให้คุณดูราฮานนะคะ สู้ ๆ ค่ะ :mad:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อีกหนึ่งกำลังใจค่ะ สู้ สู้ค่ะ แปลกใจอยู่นานว่าทำไมคุณ ดูราฮาน หายหน้าไปไหน ขอบคุณนะคะ เราจะได้รู้กันว่าเขาเป็นใครน้า

 

เพิ่มอีกหนึ่งกำลังใจด้วยค่ะ สิ่งที่ทำไปทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ขอให้คุณดูราฮานชนะนะคะ :wub: :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอเป็นกำลังใจให้คุณดูราฮานนะครับ ผมติดตามทั้งในเวปและหนังสือของคุณอยู่ด้วยครับ ยังไงเสียเราทำเพื่อคนส่วนใหญ่ก็ต้องชนะคนเห็นแก่ประโยชน์ตัวเองครับ สู้ๆ ครับ :angry:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลองดูเป็นแนว ข้อเท็จจริงของท่านอาจแตกต่างหรือใก้ลเคียงแค่ไหนผมไม่ได้เห็นได้อ่านที่ท่านวิจารณ์ไว้ฉนั้นคงพอช่วยได้เท่านี้ก่อน แต่ที่ต้องระวังคืออย่าโพสต์ ส่วนของการวิจารณ์ที่เป็นปัญหานั้นในที่สาธารณะ หรือส่งให้คนที่ไม่น่าไว้ใจเพราะจะเป็นหลักฐานในการฟ้องคดี

 

ตัวอย่างฎีกาเกี่ยวกับการฟ้องหมิ่นประมาทที่ศาลท่านสั่งยกฟ้อง

 

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ , ๓๒๘ , ๘๓ , ๙๐ , ๙๑ และพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔ , ๕ , ๔๘

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า? พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยชั้นนี้ว่า คดีโจทก์มีมูลความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามจนทำให้ผู้นั้นต้องเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังอันจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๓๒๘ นั้น จะต้องได้ความว่าการใส่ความดังกล่าวได้ระบุถึงตัวบุคคลผู้ถูกใส่ความเป็นการยืนยันแน่นอน หรือหากไม่ระบุถึงผู้ที่ถูกใส่ความโดยตรง การใส่ความนั้นก็ต้องได้ความว่าหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ ส่วนการใส่ความที่เป็นถ้อยคำหรือข้อความอันจะทำให้ผู้ที่ถูกใส่ความต้องเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังก็มิใช่จะพิจารณาหรือวัดจากความรู้สึกของผู้ถูกใส่ความเป็นสำคัญแต่อย่างใด เพราะอารมณ์และความรู้สึกของบุคคลจะมีที่มาจากความเห็นแก่ตนเองของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ดังนั้น การพิจารณาว่าถ้อยคำหรือข้อความใดจะเป็นการใส่ความผู้อื่นจนทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังหรือไม่ จึงต้องพิจารณาจากการรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกและความเข้าใจในถ้อยคำหรือข้อความนั้นของวิญญูชนทั่ว ๆ ไป เป็นเกณฑ์ที่จะให้รับฟังว่าเป็นหมิ่นประมาทตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ และมาตรา ๓๒๘ หรือไม่ ข้อความที่จำเลยทั้งสามตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับลงวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๔๒ ตามเอกสารหมาย จ.๑ ที่โจทก์บรรยายฟ้องเป็นข้อความทั่ว ๆ ไป ที่วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติต่อประชาชนที่มาร่วมชุมนุมตามสิทธิที่จะทำได้ในระบอบประชาธิปไตยว่าไม่เหมาะสมไม่ควรเท่านั้น ดังเช่นศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมาชอบแล้ว ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่มีตอนใดที่จะให้รับฟังว่าเป็นการกล่าวร้ายใส่ความ แม้จะมีคำว่า คนโรคจิตหรือบ้าอำนาจอยู่ด้วย ก็เป็นถ้อยคำที่จำเลยที่ ๓ กล่าวออกมาด้วยความรู้สึกที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ควรกระทำการใด ๆ รุนแรงต่อประชาชนผู้มาชุมนุมเท่านั้น มิได้กล่าวหาถึงขั้นว่าประพฤติชั่ว กระทำการขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดีหรือฉ้อราษฎร์บังหลวงแต่อย่างใด นอกจากนี้ถ้อยคำดังกล่าวคงกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยทั่ว ๆ ไปที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการที่ประชาชนมาชุมนุมกันเท่านั้น มิได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นผู้ใด ถึงแม้จะมีระบุถึงกองปราบปรามอยู่ด้วย ก็เป็นการกล่าวโดยรวม มิได้ระบุตัวเจ้าพนักงานตำรวจในกองปราบปรามคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ หรือตำรวจหน่วยใดในกองปราบปรามที่ระบุตัวได้แน่นอน ดังนั้น เจ้าพนักงานตำรวจที่สังกัดกองปราบปรามคนใดคนหนึ่งจึงไม่อาจกล่าวอ้างว่าเป็นผู้เสียหายได้ โจทก์ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ถึงแม้จะทำหน้าที่กำกับดูแลกองปราบปรามก็ไม่เป็นผู้เสียหายที่จะนำคดีมาฟ้องจำเลยทั้งสามได้ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลความผิดแล้วพิพากษายกฟ้องมานั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน.

 

ที่มา่ ศาลฎีกา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เป็นกำลังใจให้อ.ดูราฮานคับ

ทำดีได้ดี ไม่ต้องกลัวใคร !gd !gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจ ช่วยให้คุณดูราฮาน ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อีกหนึ่งตัวอย่าง

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2777/2545

 

วันนัดสืบพยานโจทก์ ระหว่างผู้พิพากษารออ่านรายงานกระบวนพิจารณา จำเลยได้พูดต่อหน้าผู้พิพากษา ทนายจำเลยและพยานว่า "ทนายความคนนี้ใช้ไม่ได้ ทั้งประเทศไทยมีทนายความแบบนี้อยู่คนเดียว ชอบหาเรื่องกลั่นแกล้งจำเลย ประเทศชาติอยู่ไม่ได้แน่ ถ้ายังมีทนายความประเภทนี้ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล" และเมื่อผู้พิพากษาตักเตือน จำเลยยังพูดต่ออีกว่า "ท่านครับอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล" เป็นการระบายความรู้สึกของจำเลยที่มีต่อโจทก์และเป็นการวิจารณ์การทำงานในหน้าที่ทนายความของโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจำเลยในความรู้สึกว่าจำเลยถูกกลั่นแกล้งมิใช่เป็นการใส่ความให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ไม่เป็นหมิ่นประมาท

ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแม้ศาลจะพิจารณาเพียงว่าคดีโจทก์พอมีมูลที่จะประทับฟ้องไว้หรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดศาลก็ชอบที่จะวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องประทับฟ้องไว้แล้วพิจารณายกฟ้องในภายหลัง

 

 

แถมอีกอัน

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2315/2524

พนักงานอัยการจังหวัดสุรินทร์

โจทก์

นายประยูร มูลศาสตร์

จำเลย

 

ป.อ. มาตรา 326, 329

 

จำเลยกล่าวถ้อยคำว่า หลวงพ่อวัดบึงและหลวงพ่อวัดธาตุใช้ประชาชนบังหน้าต่อต้านพระที่สุสาน เนื่องจากจำเลยไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้เสียหายที่ต้องการขับไล่พระภิกษุ ย. ออกไปจากป่าช้าแห่งหนึ่ง จึงได้พูดวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นตามความรู้สึกนึกคิดของตน ถ้อยคำที่พูดก็มิได้รุนแรงนักทั้งเป็นเรื่องของส่วนรวมซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไปอันประชาชนย่อมมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

________________________________

 

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้บังอาจพูดใส่ความพระครูไพโรจน์พัฒนกิจเจ้าอาวาสวัดบึงและพระครูบุญศิริโสภณ เจ้าอาวาสวัดธาตุ ต่อหน้าบุคคลหลายคนว่า "หลวงพ่อวัดบึงและวัดธาตุใช้ประชาชนบังหน้าต่อต้านพระที่สุสานป่าช้า" ซึ่งหมายความว่า พระครูทั้งสองรูปดังกล่าวยุยงส่งเสริมสนับสนุนใช้ให้ประชาชน ขับไล่พระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งได้ธุดงค์มาพักอยู่ที่สุสานป่าช้าบ้านสนม ให้ออกไปจากเขตหมู่บ้านดังกล่าว ความจริงแล้วพระครูทั้งสองมิได้กระทำเช่นนั้น การกระทำของจำเลยน่าจะทำให้พระครูทั้งสองเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 7

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยได้กล่าวถ้อยคำตามฟ้องต่อหน้าบุคคลหลายคน แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมซึ่งบุคคล อันเป็นวิสัยของประชาชนพึงกระทำ ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นฟังมาว่า มูลเหตุที่จะได้เกิดคดีนี้ขึ้นเนื่องจากได้มีพระภิกษุเยื้อนธุดงค์มาพักอยู่ที่ป่าช้าบ้านสนม พระครูไพโรจน์ฯ ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบึงและเจ้าคณะตำบลสนมไม่พอใจ เพราะพระภิกษุเยื้อนเป็นพระธรรมยุติเกรงว่าพระต่างนิกายเข้ามาอยู่พุทธบริษัทจะแตกความสามัคคีกัน จึงมีหนังสือแจ้งให้พระภิกษุเยื้อนออกไป พระภิกษุเยื้อนไม่ยอมออก ผู้เสียหายจึงมีหนังสือรายงานเจ้าคณะอำเภอขอให้ขับไล่พระภิกษุเยื้อนออกไปจากเขตอำเภอสนม การกระทำของผู้เสียหายจึงเกิดความไม่พอใจแก่ราษฎรชาวอำเภอสนมเป็นบางส่วนราษฎรจึงแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนผู้เสียหายให้ขับไล่พระภิกษุเยื้อน แต่อีกฝ่ายหนึ่งคัดค้าน จนทางราชการต้องหาทางประนีประนอมเพื่อขจัดข้อขัดแย้งดังกล่าว โดยเรียกราษฎรมาประชุม ที่ประชุมตกลงให้รื้อเพิงออกจากป่าช้า ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยเข้าไปนั่งในร้านกาแฟและขอหนังสือบันทึกเรื่องการย้ายเพิงออกจากป่าช้าซึ่งมีคนนำมาให้นายคีมเอาไปอ่าน แล้วจำเลยพูดต่อหน้าบุคคลอื่นว่า หลวงพ่อวัดบึงและหลวงพ่อวัดธาตุใช้ประชาชนบังหน้าต่อต้านพระที่สุสาน แล้ววินิจฉัยว่า เหตุที่จำเลยกล่าวถ้อยคำที่มีใจความเช่นนั้น ก็เนื่องจากจำเลยไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้เสียหายและบุคคลฝ่ายที่ต้องการให้ขับไล่พระภิกษุเยื้อนออกไปจากป่าช้าบ้านสนม เมื่ออ่านบันทึกที่ให้รื้อเพิงที่ป่าช้าออกจึงได้พูดวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นตามความรู้สึกนึกคิดของตน และถ้อยคำที่พูดก็ไม่ได้รุนแรงอะไรนักไม่น่าจะถึงกับทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นประชาชนชาวตำบลสนมก็รู้กันอยู่ทั่วไป ทั้งกรณีไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของผู้เสียหายเอง หากแต่เป็นเรื่องของส่วนรวมซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไป ประชาชนจึงย่อมมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ การที่จำเลยพูดวิจารณ์ไปเช่นนั้นจึงเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

พิพากษายืน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจค่ะ สู้ ๆ ค่ะ ทุกปัญหามีทางออกค่ะ คนดีย่อมได้ดีค่ะ !v@

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...