ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2554 เวลา 15:58:16 น.

ผู้เข้าชม : 210 คน

 

 

ผู้เสื่อข่าวรายงานตลาดหุ้นฮ่องกงดัชนีฮั่งเส็งปิดร่วงลง 261.03 จุด หรือ 1.48% สู่ระดับ 17,407.80 จุด ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี โดยปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ขณะที่ถูกถ่วงลงจากหุ้นกลุ่ม การเงินของจีน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง ท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขาย ที่อยู่สูงกว่าระดับเฉลี่ยเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

โดยหุ้นสไวร์ แปซิฟิก รูดลง 4.8 %

 

ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นสไวร์ลงจาก buy สู่ neutral ในวันนี้ โดยเชื่อว่าความพยายามของสไวร์ในการแตกธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ออกไปจะส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของสไวร์ลดลงไปอีก

 

ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ปรับลดแนวโน้มภาคอสังหา ริมทรัพย์ของฮ่องกงลงจาก neutral สู่ underperform ขณะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และมีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดการเช่าสำนักงานผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิกฤติหนี้ยูโรโซน ฉุดหุ้นโตเกียว ปิดตลาดต่ำสุดในรอบ 30 เดือน

 

 

ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดตัววันนี้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 เดือน ที่ระดับ 8,374.13 จุด ทรุดลงไป 189.13 จุด หรือคิดเป็นร้อยละ 2.17 เนื่องจากนักลงทุนหวั่นวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับวิกฤติหนี้สินยูโรโซนและการชะลอตัวรอบใหม่ของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เงินยูโร ก็อ่อนค่าลงแตะระดับนิวโลรอบ 10 ปีอีกครั้งเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ท่ามกลางความกังวลของตลาดที่เกรงว่าเงินเยนอาจแข็งค่าขึ้นไม่หยุดและฉุดการส่งออกให้ยิ่งซบเซาลง.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผอ.สบน. ระบุ มูลค่าการซื้อขายพันธบัตรที่ขายออกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากนักลงทุนไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโลก จึงดึงเงินทุนกลับประเทศ

 

 

อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ระบุ มูลค่าการซื้อขายพันธบัตรที่ขายออกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากนักลงทุนไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโลก จึงดึงเงินทุนกลับประเทศ เปิดเผย ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ควรฝืนตลาด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินให้อยู่ในประเทศ ควรปล่อยให้เงินต่างชาติไหลออกเพื่อให้เงินบาทอ่อนค่าลง และเป็นผลดีต่อการส่งออก

 

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า จากกรณีเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้น จนกดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงอย่างมากในวันนี้ (26 ก.ย. 54) โดยปกติเงินทุนต่างชาติเวลาไหลออกจากตลาดหุ้นจะมาพักที่ตลาดตราสารหนี้ แต่สถานการณ์ในรอบนี้กลับไหลออกไปต่างประเทศโดยตรง เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและยุโรป จึงดึงเงินกลับประเทศ ทำให้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามูลค่าการซื้อขายพันธบัตรเพิ่มจาก 5 แสนล้านบาท เป็น 7 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขายออก และต่างชาตินิยมซื้อพันธบัตรระยะสั้นร้อยละ 80 ของการซื้อพันธบัตรทั้งหมด เพราะดอกเบี้ยระยะสั้นอายุ 1-5 ปี อยู่ที่ร้อยละ 3.5 ขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 3.7 พันธบัตรระยะสั้นบริหารจัดการได้ง่ายกว่า ต่างชาติจึงนิยมพันธบัตรระยะสั้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวรัฐบาลพยายามดูแลไม่ให้ผัวผวน

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เงินทุนไหลออกขณะนี้ ไม่ควรใช้นโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นตัวดึงเงินให้อยู่ในประเทศ เพราะที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีสภาพคล่องส่วนเกินสูงมาก จึงควรปล่อยให้เงินต่างชาติไหลออกไปบ้าง ส่วนหนึ่งจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออก และต่อไปอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงจะเริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลงในที่สุด ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกในระยะนี้กำลังถดถอย ไทยจะฝืนตลาดอยู่ประเทศเดียวคงไม่ได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผอ.สบน. ระบุ มูลค่าการซื้อขายพันธบัตรที่ขายออกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากนักลงทุนไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโลก จึงดึงเงินทุนกลับประเทศ

 

 

อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ระบุ มูลค่าการซื้อขายพันธบัตรที่ขายออกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากนักลงทุนไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจโลก จึงดึงเงินทุนกลับประเทศ เปิดเผย ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ควรฝืนตลาด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินให้อยู่ในประเทศ ควรปล่อยให้เงินต่างชาติไหลออกเพื่อให้เงินบาทอ่อนค่าลง และเป็นผลดีต่อการส่งออก

 

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า จากกรณีเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้น จนกดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงอย่างมากในวันนี้ (26 ก.ย. 54) โดยปกติเงินทุนต่างชาติเวลาไหลออกจากตลาดหุ้นจะมาพักที่ตลาดตราสารหนี้ แต่สถานการณ์ในรอบนี้กลับไหลออกไปต่างประเทศโดยตรง เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและยุโรป จึงดึงเงินกลับประเทศ ทำให้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามูลค่าการซื้อขายพันธบัตรเพิ่มจาก 5 แสนล้านบาท เป็น 7 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขายออก และต่างชาตินิยมซื้อพันธบัตรระยะสั้นร้อยละ 80 ของการซื้อพันธบัตรทั้งหมด เพราะดอกเบี้ยระยะสั้นอายุ 1-5 ปี อยู่ที่ร้อยละ 3.5 ขณะที่พันธบัตรอายุ 10 ปีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 3.7 พันธบัตรระยะสั้นบริหารจัดการได้ง่ายกว่า ต่างชาติจึงนิยมพันธบัตรระยะสั้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวรัฐบาลพยายามดูแลไม่ให้ผัวผวน

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เงินทุนไหลออกขณะนี้ ไม่ควรใช้นโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นตัวดึงเงินให้อยู่ในประเทศ เพราะที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีสภาพคล่องส่วนเกินสูงมาก จึงควรปล่อยให้เงินต่างชาติไหลออกไปบ้าง ส่วนหนึ่งจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออก และต่อไปอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงจะเริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลงในที่สุด ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกในระยะนี้กำลังถดถอย ไทยจะฝืนตลาดอยู่ประเทศเดียวคงไม่ได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รองนายกฯ ขอให้นักลงทุนไทยอย่าตื่นตระหนก หลังตลาดหุ้นไทยตกแรงในวันนี้

 

 

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขอให้นักลงทุนไทยอย่าตื่นตระหนก หลังตลาดหุ้นไทยตกแรงในวันนี้ มั่นใจ ตลาดหุ้นไทย ยังมีเสถียรภาพอยู่

 

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงานสัมมนาเศรษฐกิจและการลงทุนเรื่อง "อนาคต กำหนดได้" ว่า มีความเป็นห่วงความผันผวนของตลาดหุ้นไทยที่มีการซื้อขายลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ แต่เท่าที่มีการติดตามและประเมินสถานการณ์ น่าจะมาจากความวิตกกังวลของนักลงทุนต่างประเทศ ที่มองว่า มาตรการการดูแลเสถียรภาพของสหรัฐฯ รวมถึงปัญหาหนี้สาธารณะของสหภาพยุโรป ไม่มีผลตอบสนองต่อการลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เทขายหุ้นเพื่อไปลงทุนในกลุ่มภูมิภาคอื่นๆ ค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ขอให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนกมากนัก และขอให้ติดตามภาพรวมการซื้อขายไปอีกระยะหนึ่ง เพราะปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยมีความแข็งแกร่ง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และหากย้อนดูเมื่อ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่หากตลาดหุ้นไทย มีแนวโน้มลดลงไปบ้าง ก็ไม่ทำให้หุ้นไทยขาดเสถียรภาพ และยังเชื่อว่าช่วงนี้เหมาะที่จะเข้าไปลงทุน

 

ด้าน นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการลงทุน บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีจำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้า ถือเป็นการลดลงที่ผิดปกติและไม่น่าจะมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก เพราะเป็นเรื่องที่นักลงทุนรับรู้อยู่แล้ว โดยมองว่า ตลาดหุ้นไทย ที่ปรับลดลงต่อเนื่อง อาจมาจากการที่หุ้นไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวน้อยกว่าปกติเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค โดยตลาดหุ้นไทยลดลงร้อยละ 10 ขณะที่ ตลาดหุ้นในภูมิภาคลดลงร้อยละ 15 - 25 แต่ปัจจุบัน ดัชนีหุ้นไทย เริ่มปรับลงมาใกล้เคียงกับภูมิภาคแล้ว โดยในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยลดลงไป 150 จุด หรือประมาณร้อยละ 15 แต่เชื่อว่าระยะสั้นน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้หากนักลงทุนหายตื่นตระหนก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นครสวรรค์ เตือนภัย พายุ “ไห่ถาง” ขึ้นฝั่ง 27 นี้

 

นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ประกาศเตือนภัย เรื่อง เฝ้าระวังพายุหมุนเขตร้อน พายุโซนร้อน “ไห่ถาง” ปัจจุบันมีศูนย์กลาง อยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน อยู่ห่างจากจังหวัดนครพนมไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 800 กิโลเมตร อาจจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประมาณวันที่ 27 กันยายน 2554 และจะส่งผลต่อประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับลมกระโชกแรงในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี และหนองบัวลำภู

 

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “เนสาด” ในมหาสมุทรแปซิฟิกฯ มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู๋ทะเลจีนใต้ อาจจะเคลื่อนตัวมาถึงประเทศไทยในอีก 3 - 4 วันข้างหน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประกาศศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เรื่องเฝ้าระวังพายุหมุนเขตร้อน

 

 

ประกาศศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

 

เรื่อง เฝ้าระวังพายุหมุนเขตร้อน

 

พายุโซนร้อน “ไห่ถาง” ปัจจุบันมีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน อยู่ห่างจากจังหวัดนครพนมไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 800 กิโลเมตร อาจจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประมาณวันที่ 27 กันยายน 2554 และจะส่งผลต่อประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับลมกระโชกแรงในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี และหนองบัวลำภู

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “เนสาด” ในมหาสมุทรแปซิฟิกฯ มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู๋ทะเลจีนใต้ อาจจะเคลื่อนตัวมาถึงประเทศไทยในอีก 3-4 วันข้างหน้า

จึงขอให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมระมัดระวังและติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

U.S. stock futures rose Monday after last week’s steep losses, as investors attempted to assess whether euro-zone officials will be able to bring the region’s debt crisis under control.

 

Futures on the Dow Jones Industrial Average DJ1Z +0.45% gained 64 points to 10,761

the Standard and Poor’s 500 stock index SP1Z +0.79% rose 9.90 points to 1,139.70.

 

Nasdaq 100 futures ND1Z +0.41% advanced 11.25 points to 2,213.20.

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ..ทุกๆท่าน...

 

วันนี้เป็นอีกวัน ที่ลุ้นทองจนเสียวท้องน้อย :wacko:

 

กลางวันกะใจอ่อน จะยอมตัดขาดทุน

 

เกือบไป..คืนนี้ลุ้นต่อครับ

 

ใครถืออยู่ผ่านวันนี้ไปได้..ต่อไปรวยแน่นอนครับบบ B)

 

ตัวผมยังอยู่ ยอดดอยที่สูงที่สุดดดด

 

รอพี่ใหญ่มารับครับ

 

ขอบคุณ คุณ เด็กขายของ และทุกๆท่าน สำหรับข้อมูล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

UCLA คาดว่างงาน แคลิฟอร์เนีย 12 % ไปจนถึงสิ้นปี2012

September 23, 2011 | Filed under: ข่าวสั้นในฉบับ | Posted by: admin [แปล]

--------------------------------------------------------------------------------

 

UCLA คาดว่างงาน แคลิฟอร์เนีย 12 % ไปจนถึงสิ้นปี2012

 

นายเจอร์รี่ นิคเคลสเบิร์ก นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ UCLAAndersonForecast เปิดเผยว่าอัตราการว่างงานในรัฐแคลิฟอร์เนียจะอยู่ที่ 12 % ไปอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยอัตรการสร้างงานจะค่อยคืบขึ้นเรื่อยๆจากนี้ไปอีก 5 ควอเตอร์ ( 15 เดือน)

 

..

อัตราการการเพิ่มงานปี 2012 จะเพิ่ม 0.7 % และเพิ่ม 2.1 % ในปี 2013 หรืออัตราการว่างงานจะลดเหลือ 11 %

 

การว่างงานในเขตรอบในของแคลิฟอร์เนียจะยังคงสูงถึงปี 2017 ส่วนชุมชนรอบชายฝั่งของรัฐจะฟื้นตัวเร็วกว่าเหตุเพราะมีตลาดแรงงานทักษะและโรงงานอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้ากว่า จึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างแรงงานในเขตชุมชนอินแลนด์(อาทิเช่นริวอร์ไซด์,ซานเบิร์นนาดิโน)กับชุมชนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สังคมต้องมีผู้จุดประกายและเสียสละ

September 23, 2011 | Filed under: บทบรรณาธิการ | Posted by: admin [แปล]

--------------------------------------------------------------------------------

 

เมื่อไม่นานมานี้นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ได้เสนอให้จัดเก็บภาษีคนมั่งคั่งในอัตราเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะบุคคลที่ถูกเรียกว่า”โคตรรวย”อย่างตัวเขาเองมีประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันเขาเสียภาษีรายได้ประมาณ 17 % เหตุผลก็เพื่อที่จะนำเงินมาช่วยประเทศชาติและสังคมอเมริกันในภาวะเกิดวิกฤติงบประมาณรายจ่ายและหนี้สาธารณะที่สหรัฐมีอยู่ประมาณ 14.4 ล้านล้านดอลลาร์ ไม่นับรวมหนี้ในประเทศทั้งด้านเงินประกันสังคม,เงินรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยและอื่นๆ

 

แนวคิดของเขาถือเป็นการจุดประกายให้สังคมได้ร่วมกันเสียสละ โดยเฉพาะคนมั่งคั่งที่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการดำรงชีพ ความคิดนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เห็นด้วยจึงเสนอแผนการเพิ่มอัตราภาษีแก่ครอบครัวที่มีรายได้ปีละ 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน คาดว่าจะจัดเก็บได้ประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ หากเก็บได้จำนวนนี้จะช่วยลดช่องว่างงบประมาณรายจ่ายของประเทศลงได้ประมาณ 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ในรอบ 10 ปีข้างหน้า แนวคิดนี้เรียกตามวอร์เรน บัฟเฟตต์ ว่า Buffett Tax และยังเสนอแผนการลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลลง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์

 

นักการเมืองซีกพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่าการเพิ่มอัตราภาษีจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างเชื่องช้าและเป็นการลงโทษธุรกิจขนาดเล็ก บางรายออกมาโจมตีว่าเป็นสงครามระหว่างชนชั้น (Class warfare)เรื่องนี้ประธานาธิบดีโอบามาตอบโต้ว่าไม่ใช่สงครามระหว่างชนชั้นแต่เป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์ “ชนชั้นกลางอเมริกันจะต้องไม่จ่ายภาษีมากกว่าเศรษฐีและมหาเศรษฐี “ โอบามาให้ความเห็น

 

จากนั้นก็ได้มีกลุ่มเศรษฐีรักชาติ (the Patriotic Millionaires เว็บไซท์ที่ http://patrioticmillionaires.org ) ถือเป็นกลุ่มเสรีนิยมรวมตัวลงชื่อออกมาโจมตีนักการเมืองพรรครีพับลิกันว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวและออกมาปกป้องผลประโยชน์ตัวเองมากกว่าของประเทศชาติ ทั้งที่ข้อเท็จจริงคนอเมริกันที่มีรายได้เกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีมีเพียง 375,000 คน เฉพาะที่สภาครองเกรสมี 44 % จากจำนวนทั้งหมด 553 คนที่รายได้ปีละเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับยกตัวอย่างว่าปัจจุบันเศรษฐีเสียภาษีในอัตรา 35 % ขณะที่ปี 1976 เศรษฐีเสียภาษี 70 % และภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้เก็บตลอดไป เป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ประเทศต้องการความช่วยเหลือ

 

เราสนับสนุนกลุ่มเศรษฐีรักชาติที่แสดงตนออกมาเพื่อช่วยเหลือประเทศในยามวิกฤติ แม้ว่ากฎหมายตามที่รัฐบาลเสนออาจจะผ่านสภาได้ยากเพราะปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้นพรรครีพับลิกันกุมเสียงข้างมาก แต่หากมีพลังภายนอกช่วยเสริมเราเชื่อว่าแข็งอย่างไรก็อาจอ่อนปวกเปียกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส.ส.สหรัฐมีอายุเพียงเทอมละ 2 ปี ประชาชนอาจช่วยกันลงโทษไม่เลือกเขาเข้าไปในสภาอีกต่อไป และเราจะได้เห็นกันในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนพฤศจิกายน 2012

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 31.11/18 แนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบพรุ่งนี้ 31.10-31.28

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 26 กันยายน 2554 17:25:21 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.11/18 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.97/99 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากช่วงเช้า เป็นเพราะนักลงทุนมีความกังวลต่อปัญหาศก.โลกที่อาจจะมีแนวโน้มชะลอตัวได้อีก จึงเทขายสินทรัพย์เสี่ยง และสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ ประกอบกับตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวลดลง จึงทำให้บาทอ่อนค่าต่อ

 

"ตลาดค่อนข้างกังวลสภาพเศรษฐกิจ จึงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและที่มีสภาพคล่องต่ำ เช่น ทองคำ ทำให้วันนี้ราคาทองลงไปเยอะ พวกร้านทองจึงเข้าไปซื้อทองคำกันมากขึ้น ยิ่งส่งผลให้บาทอ่อนค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 76.35 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3460 ดอลลาร์/ยูโร

 

คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขาชิคาโก เปิดเผยดัชนีการผลิตทั่วประเทศเดือนส.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.

 

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงได้อีก พรุ่งนี้มองกรอบไว้ที่ 31.10-31.28 บาท/ดอลลาร์

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ..ทุกๆท่าน...

 

วันนี้เป็นอีกวัน ที่ลุ้นทองจนเสียวท้องน้อย :wacko:

 

กลางวันกะใจอ่อน จะยอมตัดขาดทุน

 

เกือบไป..คืนนี้ลุ้นต่อครับ

 

ใครถืออยู่ผ่านวันนี้ไปได้..ต่อไปรวยแน่นอนครับบบ B)

 

ตัวผมยังอยู่ ยอดดอยที่สูงที่สุดดดด

 

รอพี่ใหญ่มารับครับ

 

ขอบคุณ คุณ เด็กขายของ และทุกๆท่าน สำหรับข้อมูล

แบบเดียวกันเลยเกือบไปละ เห็นหลุดไป 157Xแล้ว/ไปถึง 153X ดันเด้งไป 158X++แปปเดียว1600++ละ เลยดูก่อนว่ายังไง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 31.11/18 แนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบพรุ่งนี้ 31.10-31.28

คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขาชิคาโก เปิดเผยดัชนีการผลิตทั่วประเทศเดือนส.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.

 

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงได้อีก พรุ่งนี้มองกรอบไว้ที่ 31.10-31.28 บาท/ดอลลาร์

 

 

เฟด อีกแล้วหรือครับคุณขายของ 55555 เค้ามาคราวนี้จะทำให้ทุกคน !30 หรือจะทำให้ทุกคน !ghost

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...