ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ขอสอบถามท่านผู้หน่อยนะครับ มันเป็นเพราะอะไรครับเวลาทองขึ้นแรงหรือลงแรงๆระบบมันถึงชอบล่มทุกครั้งไป เขาไม่มีวิธีแก้ไขหรือไงหรือปล่อยให้เป็นแบบนี้ตลอดไป(ระบบออนไลน์บ้านเรามันแฟร์ไหมครับ)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อย่าบอกนะสิ่งที่ผมกลัวกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง 23,xxx บาท โอ้ววววววม่ายนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้น่าจะรู้กันครับว่าทองจะไปทิศทางไหน ส่วนตัวคิดว่าน่าจะค่อยๆขึ้นทีละนิดเพราะขาใหญ่คงปล่อยทำกำไรกันไปเยอะแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ย้อนข่าวอ่านสักนิดนะครับ พอดีว่างๆ รอเวลางาน 4 โมงเย็นที่วัดฯ

 

 

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุตลาดผิดหวังถ้อยแถลง"เบอร์นันเก้" (01/03/2555)

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (29 ก.พ.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ในระหว่างการแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 (SXXP) ทรงตัวที่ 264.32 จุด

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3452.45 จุด ลบ 1.54 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6856.08 จุด ลบ 31.55 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5871.51 ลบ 56.40 จุด

 

ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าของการซื้อขายวานนี้ หลังจากอีซีบีประกาศอัดฉีดเงินกู้ 529,530.81 ล้านยูโร (7.133 แสนล้านดอลลาร์) ให้กับภาคธนาคารของยูโรโซน ผ่านมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (LTRO) ระยะเวลา 3 ปีเมื่อวานนี้ เพื่อหนุนสภาพคล่องในภาคธนาคาร

 

แต่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่เบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ในระหว่างที่แถลงนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เบอร์นันเก้จะส่งสัญญาการใช้มาตรการ Q3 ในการแถลงครั้งนี้

 

หุ้นบริติช สกาย บรอดคาสติง กรุ๊ป (BSkyB) ดิ่งลง 2.3% หลังจากเจมส์ เมอร์ดอค บุตรชายของนายรูเพิร์ท เมอร์ดอค ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานบริหารของบริษัทนิวส์ อินเตอร์เนชันแนล

 

หุ้นเอสเต้ กรุ๊ป แบงก์ พุ่งขึ้น 4.3% หลังากจริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 4 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นสวิส ไลฟ์ พุ่งขึ้น 2.2% และหุ้นไอทีวี พุ่งขึ้น 6.8%

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 1 มีนาคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐสภาเนเธอร์แลนด์มีมติให้การสนับสนุนมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซ โดยระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการสร้าง เสถียรภาพในยูโรโซน    ทั้งนี้ พรรคคริสเตียน เดโมแครต และพรรคลิเบอรัล ซึ่งต่างเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้ร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งได้แก่พรรคแรงงานและพรรคลิเบอรัล เดโมแครต ประกาศสนับสนุนมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซ ซึ่งมีวงเงิน 1.30  แสนล้านยูโร (1.75 แสนล้านดอลลาร์) โดยมาตรการดังกล่าวได้รับอนุมัติจากผู้นำยุโรปในสัปดาห์ที่แล้ว     

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พี่เด็กขายของค่ะ ราคาน่าซื้อไว้อีกไหมค่ะตอนนี้อ่ะค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อนุมัติเงินกู้เบิกจ่ายให้กับไอร์แลนด์มูลค่า 4.33 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศสำหรับไอร์แลนด์ซึ่งกำลังประสบปัญหาหนี้สิน  ทั้งนี้  คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟได้เสร็จสิ้นการทบทวนผลการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจครั้งที่ 5 ของไอร์แลนด์ ภายใต้มาตรการให้ความช่วยเหลือระยะหลายปี ซึ่งการทบทวนที่แล้วเสร็จในครั้งนี้จะช่วยให้ไอร์แลนด์สามารถได้รับเงินเบิกจ่ายมูลค่า 4.33 พันล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับสกุลเงิน SDR ของไอเอ็มเอฟมูลค่า 2.786 พันล้านดอลลาร์

 

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 1 มีนาคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พี่เด็กขายของค่ะ ราคาน่าซื้อไว้อีกไหมค่ะตอนนี้อ่ะค่ะ

ดูคืนนี้อีกสักคืน ก่อนลุยพรุ่งนี้เช้าครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการรายงานนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสว่า เฟดจะยึดแผนตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปจนกว่าจะถึงปลายปี 2557 เป็นอย่างน้อย แม้ว่าอัตราว่างงานจะลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม

 

นายเบอร์นันเก้กล่าวว่า อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ จนอยู่ที่ระดับ 8.3% ในตอนนี้ อย่างไรก็ดี เฟดไม่คิดว่าอัตราว่างงานจะลดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้ แต่หากอัตราว่างงานยังลดลงอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง เฟดก็จะทบทวนมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจอีกครั้ง

 

นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่าเฟดจะทบทวนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยหากอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังไม่มีการส่งสัญญานกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มด้วย

 

ที่มา : money channel (วันที่ 1 มีนาคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.43/45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.26/28 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 30.44/46 บาท/ดอลลาร์

 

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทในเช้าวันนี้เป็นผลมาจากการที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ในระหว่างการแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก และทุกสกุลในภูมิภาคต่างก็อ่อนค่ากันลงมาหมด

 

โดยล่าสุดค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 81.11/13 เยน/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3337/3342 ดอลลาร์/ยูโร

 

สำหรับทิศทางค่าเงินบาทในวันนี้ นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อ มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 30.40-30.50 บาท/ดอลลาร์ โดยยังให้จับตามประเด็นเดิมๆ เช่น มาตรการช่วยเหลือกรีซ เงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้น

 

"คงให้กลับไปตามเรื่องเดิมๆ เช่น ยุโรป In Flow"นักบริหารเงิน กล่าว

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 1 มีนาคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.พ.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารในยูโรโซน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3)

 

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 1.12% แตะที่ 1.3318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3469 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ขยับขึ้น 0.03% แตะที่ 1.5906 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5901 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.270 เยน จากระดับ 80.430 เยน และทะยานขึ้น 1.17% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9048 ฟรังค์ จากระดับ 0.8943 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.57% แตะที่ 1.0716 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0777 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.60% แตะที่ 0.8329 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8379 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนัก หลังจากอีซีบีประกาศอัดฉีดเงินจัดสรรเงิน 529,530.81 ล้านยูโร (7.133 แสนล้านดอลลาร์) ให้กับภาคธนาคารของยูโรโซน ผ่านมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (LTRO) ระยะเวลา 3 ปีเมื่อวานนี้  ซึ่งยอดการปล่อยกู้ในครั้งนี้มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 470,000 ล้านยูโร และมีธนาคารพาณิชย์ทั้งสิ้น 800 แห่งที่ขอเงินกู้ดังกล่าว

 

การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารของอีซีบีครั้งล่าสุดนี้ แม้ว่ามีเป้าหมายที่จะกระตุ้นสภาพคล่องให้ไหลเวียนดีขึ้น แต่ก็สร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับสกุลเงินยูโร เพราะหากสภาพคล่องในระบบสูงขึ้น ก็จะทำให้มูลค่าของสกุลเงินยูโรลดน้อยลงด้วย

 

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากเบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 ในระหว่างการแถลงนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยเบอร์นันเก้กล่าวเพียงว่า เฟดจะยึดแผนตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปจนกว่าจะถึงปลายปี 2557 เป็นอย่างน้อย และกล่าวอัตราว่างงานปรับตัวลดลงเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ จนอยู่ที่ระดับ 8.3%

 

นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐปรับเพิ่มการประมาณการจีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2554 ขึ้นเป็น 3.0% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ 2.8% ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัว 2.1% ในช่วงเวลาดังกล่าว หลังจากยอดการใช้จ่ายซื้อรถยนต์และสินค้าคงทนประเภทอื่นๆปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจปีนี้อาจเติบโตแข็งแกร่งขึ้น

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะอยู่ที่ 351,000  ราย ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า

 

จากนั้นในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี ISM ภาค การผลิตจะอยู่ที่ 54.5 จุดในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.1 จุดในเดือนม.ค.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 1 มีนาคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พี่เด็กขายของค่ะ ราคาน่าซื้อไว้อีกไหมค่ะตอนนี้อ่ะค่ะ

 

 

หากคืนนี้มีเทอีกดอกล่ะก็ บรื๋อออออออออไม่อยากจะพูดเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักลงทุนกำลังจับตามองถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ที่กำลังจะมีขึ้นกลางสัปดาห์นี้ (29 ก.พ.) เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่จากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้มีความคาดหวังว่าเฟดอาจขยับดอกเบี้ยสูงขึ้นเร็วกว่าเป้าหมายเดิมที่เคยระบุไว้ 

 เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัลรายงานว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เฟดได้วางกรอบของเวลากรอบใหม่สำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป ทั้งยังมีการเปิดเผยตัวเลขอัตราดอกเบี้ยในความคาดหมายของบรรดาสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดแต่ละคนเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นไปตามมาตรการเพิ่มความโปร่งใสของเฟดที่เริ่มมีการนำมาใช้ แต่หลังจากนั้นมา ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯก็เริ่มมีการเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนพากันคาดเดาว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เฟดนำมาพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้อง ขณะเดียวกันหลายฝ่ายก็เห็นว่าเป็นเรื่องยากจะคาดเดาทิศทางดอกเบี้ยเนื่องจากความเห็นของสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดแต่ละคนที่ได้รับการเปิดเผยออกมานั้น มีความหลากหลาย ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ว่าเฟดกำลังจะทำอะไรเป็นลำดับถัดไปเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ 

 จากรายงานชิ้นล่าสุดที่เผยแพร่ออกมาในเดือนมกราคมนั้น เสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการตลาดเสรีแห่งรัฐบาลกลาง (Federal Open Market Committee) ซึ่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายสำคัญของเฟดที่ประกอบด้วยสมาชิก 17 คนนั้น ชี้ว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปจนกระทั่งถึงปี 2557 เป็นอย่างเร็วที่สุด นั่นหมายถึงจะยังไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยซึ่งปัจจุบันต่ำเกือบติด 0% ในระยะสองปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม มี 6 เสียงจากทั้งหมด 17 เสียงที่เห็นว่า ควรจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หรือปีหน้า

 จอห์น ปราวีน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของบริษัท พรูเด็นเชียล ไฟแนนเชียลฯ ให้ความเห็นว่า ข่าวที่ออกมายังสับสนปนเปกันอยู่ และจากการที่ทั้งนักวิเคราะห์และนักลงทุนยังมีความคาดเดาไปในทิศทางที่หลากหลาย จุดสนใจทั้งหมดทั้งมวลจึงพุ่งไปที่การกล่าวแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสของนายเบน เบอร์นานคี ประธานเฟดที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์นี้ (29 ก.พ. และ 1 มี.ค.)โดยความสนใจอยู่ที่การจับสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายในอนาคตของเฟดและมาตรการใหม่ๆเกี่ยวกับการสร้างความโปร่งใสที่เฟดจะนำมาใช้  นอกจากนั้น ภายในสัปดาห์นี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจต่อการแถลงของเจ้าหน้าที่ 7 คนของเฟดที่ 4 คนในนั้นเป็นสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงในบอร์ดกำหนดนโยบาย พร้อมกันนั้นในวันพุธ (29 ก.พ.) เฟดจะเผยแพร่รายงานสรุปสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯในปัจจุบัน ที่เรียกว่ารายงานสมุดปกสีเบจ (สีน้ำตาล) อีกด้วย

 นักวิเคราะห์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯที่กระเตื้องขึ้นและเศรษฐกิจยุโรปที่ยังคงเปราะบางจากวิกฤติหนี้สาธารณะทำให้นักลงทุนพากันเพิ่มความต้องการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และนั่นก็ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงสู่ระดับต่ำมากเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา เมื่อสองปัจจัยดังกล่าวเริ่มทรงตัว นักวิเคราะห์จึงมองว่า เหลือเพียงเฟดแล้วที่เป็นปัจจัยสำคัญหลักๆในการที่จะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับต่ำ ปัจจุบัน ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะชำระคืน 2 ปีอยู่ที่ 0.313% ส่วนพันธบัตรอายุ 10 ปี ผลตอบแทนอยู่ที่อัตรา 1.981%

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 1 มีนาคม 2555)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...