ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[ariya 1,481]

วันนี้ขอให้มีคนซื้อเยอะๆเถอะจะได้ขึ้นเสียที

[Pete 15,187]

U.S. stocks Thursday recouped some of the prior session’s steep losses after the government reported jobless claims fell to a seven-month low and worries about Europe’s ability to handle its debt crisis abated.

 

“We woke up and found the world didn’t come to an end,” said Art Hogan, head of product strategy, equity research at Lazard Capital Markets, referring to Wall Street’s dive on Wednesday.

 

On Thursday, equities gained steam after Standard & Poor’s said it had not trimmed France’s debt rating, Italian bond yields fell from levels perceived as unsustainable, and Greece named a new leader.

 

ตลาดหุ้นสหรัฐสลับมาดีขึ้นหลังจากหล่นไปเมื่อวาน หลังจากรายงานยอดคนขอรับสวัสดิการคนว่างงานที่ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 7 เดือน และ หนทางแก้ไขวิกฤติหนี้ลดน้อยลง

นักลงทุนคนหนึ่งยังกล่าวว่า " เราตื่นขึ้นมา และพบว่า โลกยังไม่พบจุดสิ้นสุด "

แหงข่าวใน S&P มีการกล่าวว่า เราจะไม่ตัดความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส, จะไม่ตัดความน่าเชื่อถืออิตาลี ในเรื่องผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงกว่า 7% และ ผู้นำกรีซคนใหม่

 

[Pete 15,187]

Japanese stocks rose in early Friday trading, helped by an overnight equity advance on Wall Street, with a rise in crude-oil futures giving energy names a particular boost. After taking heavy losses in the previous session, the Nikkei Stock Average JP:NIK +0.59% added 0.6% to 8,552.62

 

Australian shares rose in early trading Friday, tracking U.S. stocks higher and rebounding from sharp losses in the previous session. The benchmark S&P/ASX 200 AU:XJO +0.32% rose 0.3% to 4,258.70.

 

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยว่า อัตราว่างงานของออสเตรเลียลดลงสู่ระดับ 5.2% ในเดือนตุลาคม จาก 5.3% ในเดือนกันยายน ส่วนจำนวนผู้ที่มีงานทำเพิ่มขึ้น 10,100 คน รวมเป็น 11.46 ล้านคนในเดือนตุลาคม

 

ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นนั้นได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานแบบเต็มเวลาที่ปรับตัวขึ้น 20,000 คน มาอยู่ที่ 8.07 ล้านคน ซึ่งช่วยชดเชยการจ้างงานพาร์ทไทม์ที่ลดลง 9,900 คน แตะ 3.39 ล้านคน

 

อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงานยังทรงตัวอยู่ที่ 65.6% ในเดือนตุลาคม

 

ด้านผลการสำรวจความคิดเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ 15 รายของออสเตรเลียน แอสโซซิเอท เพรส คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 10,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม ในขณะที่อัตราว่างงานจะอยู่ที่ 5.3%

 

ขณะเดียวกัน นายพอล บล็อกซ์แฮม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารเอชเอสบีซี กล่าวว่า อัตราว่างงานเดือนตุลาคมถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และคาดว่าเศรษฐกิจของออสเตรเลียจะสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ดี นายบล็อกซ์แฮมกล่าวว่า ความไม่แน่นอนในยุโรปอาจทำให้เศรษฐกิจออสเตรเลียต้องสะดุดลงและอาจมีผลกระทบต่อตลาดแรงงาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

ระดับน้ำ ถ.เสรีไทย ท่วมสูงต่อเนื่อง ทุกโรงงาน ป้องเต็มที่ ขณะที่ ถนนเทศบาล สาย 2 ไปจนถึง ซ.อิสรภาพ 24 น้ำผุดท่อ สูง 15-20 ซ.ม. น้ำไหลท่วมบ้านประชาชนแล้ว

 

สถานการณ์น้ำท่วมที่ นิคมคมอุตสาหกรรมบางชัน ล่าสุด พบว่า ถ.เสรีไทย ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ ได้นำบิ๊กแบ็ก เสริมริมฟุตปาธ ป้องกันไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วม รวมถึง ใช้เครื่องสูบน้ำ เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมด โดยข้อมูลในส่วนของโรงงานนั้น แบ่งเป็น 6 โซน 93 โรงงาน งบลงทุน 2 หมื่นล้าน ปิดไปแล้ว จำนวน 16 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตสินค้า อุปโภคและบริโภค โรงงานแต่ละแห่งตรึงเครื่องสูบน้ำเต็มที่ ป้องไม่ให้ท่วมตัวโรงงาน เพื่อปล่อยน้ำให้ไหลลง คลองบางชัน

 

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมฝั่งธนบุรี ล่าสุด น้ำได้ผุดขึ้นทางท่อระบายน้ำ ไหลท่วมพื้นผิวการจราจรตั้งแต่ถนนเทศบาลสาย 2 ไปจนถึง ซ.อิสรภาพ 24 ระดับน้ำสูง ประมาณ 10-15 ซ.ม. กินพื้นผิวการจราจร ฝั่งที่จะมุ่งหน้าไป 4 แยกบ้านแขก

ทั้งนี้มีบ้านประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ น้ำได้ไหลเข้าท่วมขังแล้ว พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการนำกรวยยางและแผงเหล็กติดป้ายเตือนว่า น้ำท่วมขังโปรดระมัดระวัง ไว้ในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย รถที่จะสัญจรผ่านต้องชลอความ

เร็วและใช้ความระมัดระวัง

 

Link : http://www.innnews.co.th/ถ-เสรีไทยบางชันน้ำสูง4แยกบ้านแขกท่วมแล้ว--320479_03.html

 

ที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบ รับร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย ปี 55 ด้วยคะแนนเสียง 273 ไม่เห็นชอบ 2 งดออกเสียง 177 ขณะตั้ง กมธ. วิสามัญ 63 คน แปรญัตติ 30 วัน

 

ในการอภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2555 นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ท้วงติงรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการอภิปรายเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณ โดยไม่เข้าฟังการประชุม จึงทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่นั่งอยู่ในห้องประชุม ลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนให้ความสำคัญกับสภา ก็มาประชุมตลอดทั้ง 2 วัน แต่มีภารกิจอื่น ๆ ที่ต้องทำอย่างเต็มที่ วันนี้ปล่อยรถ 18 จังหวัด มาช่วย 18 เขต ในกรุงเทพฯ เพื่อดูแล 1 จังหวัด กับ 1 เขต ทั้งนี้ แม้จะไม่ได้เข้าประชุม แต่ก็ได้ทำงานอยู่ข้างนอก

 

โดยเมื่อเสร็จสิ้นการอภิปราย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา ขอตรวจสแบองค์ประชุม ซึ่งมีเสียง 469 เสียง ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุม จากนั้น ที่ประชุมลงมติเห็นชอบ รับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ.2555 ด้วยคะแนนเสียง 273 คะแนน ไม่เห็นชอบ 2 เสียง งดออกเสียง 177 เสียง และตั้งกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 63 คน แบ่งออกเป็นสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี 15 คน พรรคเพื่อไทย 25 คน พรรคประชาธิปัตย์ 15 คน พรรคภูมิใจไทย 3 พรรคชาติไทยพัฒนา 2 คน พรรคพลังชล 1 คน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 1 คน และพรรครักประเทศไทย พรรครักษ์สันติ พรรคมาตุภูมิ พรรคมหาชน พรรคประชาธิปไตยใหม่ รวมกัน 1 คน

 

จากนั้น นายสมศักดิ์ ในฐานะประธาน แจ้งกำหนดการนัดประชุมกรรมาธิการวิสามัญ ในวันศุกร์ที่ 11 พ.ย. เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 3 อาคาร 3 สำหรับการประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ในสภาผู้แทนฯ ใช้เวลาการประชุม 2 วัน รวมเวลา 29 ชั่วโมง โดยกำหนดให้แปรญัตติภายใน 30 วัน

 

Link : http://www.innnews.co.th/สภามีมติ273-2รับหลักการร่างพ-ร-บ-งบปี55--320477_01.html

 

 

สภาพอากาศหนาวเย็นเริ่มแผ่ปกคุลม จ.เชียงใหม่ เพิ่มมากขึ้น โดยอุณหภูมิ

ยอดดอยอินทนนท์เหลือ 6.6 องศา ต่ำสุดในรอบปี

 

นางเพ็ญศิริ ตรีสัตย์ นักพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า สภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน

และ จ.เชียงใหม่ ได้หนาวเย็นลงอีก โดยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ วัดได้ที่ 6.6 องศาเซลเซียส ถือว่าลดต่ำสุดในรอบปีและอยู่ในเกณฑ์อากาศหนาวจัด ส่วนพื้นราบมีอุณหภูมิเฉลี่ย 16-18 องศาเซลเซียส จากเดิมที่ลดต่ำลงยังไม่ถึง 20 องศา คาดว่า อากาศจะขยับหนาวลงไปอีกและต่อไปฝนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนจะหมด จะมีตกบ้างเล็กน้อยที่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง มวลอากาศเย็นจากความกดอากาศสูงจะแผ่เข้ามาปกคลุมทั่วพื้นที่ถือว่าเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวแล้ว

โดยชาวบ้านบนยอดดอยอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ต้องก่อไฟผิงคลายความหนาวเย็น และที่จุดกางเต็นท์พักแรมบริเวณสวนสน มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่หนีน้ำท่วมไปพักค้างคืน ทำให้นักท่องเที่ยวต้องเช่าเตาอั้งโล่ รวมทั้งผ้าห่มนวมไปให้ความอบอุ่นร่างกาย ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนนักท่องเที่ยว

ห้ามนำเตาอั้งโล่เข้าไปในเต็นท์เด็ดขาด เพราะอาจทำให้ขาดอากาศหายใจและสำลักควันเสียชีวิตได้

Link : http://www.innnews.co.th/ยอดดอยอินทนนท์เหลือ6-6องศาต่ำสุดรอบปี--320468_06.html

[mateenee 9]

ขอบคุณคับ คุณเด็กขายของ

[namchiang 468]

11/11/11 สวัสดีวันเลขสวยครับ

 

 

ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ผลกระทบน้ำท่วมไทยต่อศก.โลก

เว็บไซท์ข่าวเดอะสตาร์ ดอท คอม รายงานว่า มหาอุทกภัยในประเทศไทย จะส่งผลกระทบไปถึงผู้บริโภคทั่วโลก ตั้งแต่เรื่องการขาดแคลนอาหารไปจนถึงราคาฮาร์ดไดร์ฟที่แพงขึ้นกว่าเดิมการเกิดฝนตกหนักในฤดูมรสุม ที่เริ่มเมื่อเดือนกรกฎาคม ได้ทำให้เกิดวิกฤตน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 70 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คน สร้างความเสียหายให้โรงงาน 1 พันแห่ง ทำลายพื้นที่เพาะปลูก 10 ล้านไร่

 

ทั้งนี้ สหประชาชาติ (ยูเอ็น)เตือนว่า การเกิดน้ำท่วมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งกัมพูชาและเวียดนาม อาจจะทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารและราคาพุ่งสูงขึ้น ซึ่งประเทศไทย ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก พบว่า นาข้าวเสียหายไป 12.5 %

 

ผลผลิตของบรรดาบริษัทข้ามชาติ ที่ย้ายการลงทุนมายังประเทศไทย หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในเอเชีย ช่วงระหว่างปี 2540-2541 โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากญี่ปุ่น ที่ได้รับประโยชน์จากเงินเยนแข็งค่า ต่างได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน เริ่มจาก โซนี่ ที่ต้องเลื่อนการวางจำหน่ายสินค้าใหม่ คือ กล้องถ่ายรูปอัลฟ่า มิร์เรอเรอร์เลสส์ เอ็นอีเอ็กซ์-7 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะโรงงานได้รับความเสียหาย

 

ขณะเดียวกัน คาดว่าจะเกิดการขาดแคลนชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งนายทิม คุก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)ของแอ๊ปเปิล ทราบดีว่า ส่วนประกอบของแม็ค คอมพิวเตอร์ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติครั้งนี้ แต่ผลกระทบโดยรวมต่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแอ๊ปเปิล ยังไม่สามารถประเมินได้ในขณะนี้

 

โตโยต้า ต้องขาดรายได้และสูญเสียการแข่งขันเพราะวิกฤติห่วงโซ่อุปทานถูกรบกวน และขอเวลาในการประเมินผลกระทบ ส่วนเวสต์เทิร์น ดิจิตอล ผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟ รายใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของโลก เตือนว่า อาจจะไม่อาจผลิตสินค้าได้เพียงพอต่อความต้องการภายในเดือนธันวาคม

 

จากรายงานของนิวยอร์ค ไทม์ส คนงานของโรงงานแห่งหนึ่ของเวสเทิร์น ดิจิตอล ที่บางปะอิน พยายามจะกอบกู้ " สไลเดอร์ " ซึ่งเป็นส่วนประกอบของฮาร์ดดิสค์ ไดร์ฟ ในขณะที่พื้นชั้นลางของโรงงานมีสภาพไม่ต่างอะไรกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

 

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ฮาวาย เนื่องจากติดแก้ปัญหาน้ำท่วม ขณะที่ทางการระบุว่า อาจต้องล่วงเลยไปถึงกลางเดือนธันวาคม กว่าระดับน้ำที่ลึกถึง 3 เมตรในบางพื้นที่จะเริ่มลดลง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะรบกวนภาคการผลิตไปจนถึงปีใหม่

 

นายโจเซฟ ดี ครูซ อาจารย์ด้านธุรกิจของร็อทแมน สคูล ออฟ เมเนจเมนท์ ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการทำธุรกิจ เพราะแรงงานราคาถูก ไว้ใจได้ การศึกดี อ่านออกเขียนได้และมีจริยธรรมในการทำงาน และเขาเชื่อว่า น้ำท่วมจะก่อให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อไทยในระยะเวลาอันสั้น แต่ด้วยเพราะคนไทยมีความคิดริเริ่มและแก้ปัญหาได้ดี พวกเขาจะฟื้นตัวได้และประเทศไทยจะพลิกฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง

 

เมื่อเดือนตุลาคม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท)ได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) สำหรับปีนี้ เหลือไม่เกิน 2.6%จาก 4.1% พร้อมเตือนว่า อาจจะมีการแก้ไขอีกในเดือนนี้

 

การเกิดมหาอุทกภัยในไทย เป็นตัวอย่างล่าสุด แสดงให้เห็นว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกได้อย่างรวดเร็ว การเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม และตามด้วยสึนามิ ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างร้ายแรง และลามไปถึงการผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือด้วย

 

การที่บรรดาบริษัทข้ามชาติ แห่ไปลงทุนสร้างโรงงานในประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงแห่งเดียวทำให้พวกเขาได้เปรียบมหาศาลในเชิงเศรษฐกิจ ด้วยเพราะได้เปรียบเรื่องค่าแรง แต่ขณะเดียวกัน ก็เสี่ยงในกรณีที่เกิดภัยพิบัติในประเทศนั้น ๆ ซึ่งนักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า บรรดาบริษัทเหล่านี้ มีความจำสั้น ความเจ็บปวดจากแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่น ถูกลืมไปแล้ว ในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ ยากที่จะทิ้งรูปแบบธุรกิจที่เคยประสบความสำเร็จและสร้างผล กำไรมหาศาล

 

 

BangkokBizNews

Last update : 11/9/2011 2:19:02 PM

[namchiang 468]

หุ้นสหรัฐปิดในแดนบวก

11 พฤศจิกายน 2554 เวลา 05:55 น

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 11,909.60 จุด เพิ่มขึ้น 128.66 จุด ด้านนสแดค ปิดที่ 2,628.52 จุด เพิ่มขึ้น 6.87 จุด

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯดีดตัวกลับเมื่อวันพฤหัสบดี หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีผ่อนคลายลงเล็กน้อยและตัวเลขผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานอเมริกาลดลงอย่างมาก

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 128.66 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,909.60 แนสแดค เพิ่มขึ้น 6.87 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,628.52 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.72 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,239.82

 

ด้านราคาน้ำมันวานนี้ปิดบวกแง แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังได้ปัจจัยเสริมจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ เพิ่มเติมจากสัญญาณแห่งความคืบหน้าในการคลี่คลายวิกฤตหนี้ของยุโรป

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 113.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

http://www.posttoday.com

[namchiang 468]

ปาปาเดมอสขึ้นแท่นนายกฯกรีซคนใหม่

10 พฤศจิกายน 2554 เวลา 21:36 น.

อดีตรองประธานธนาคารกลางยุโรปได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซ

 

ลูคัส ปาปาเดมอส อดีตรองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้รับการเลือกจากที่ประชุมของตัวแทนของตัวแทนพรรคการเมืองให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซ ซึ่งจะเข้ามารับตำแหน่งแทนที่ จอร์จ ปาปันเดอูร ที่ได้ประกาศลาออกไปก่อนหน้านี้

 

การเข้ามารับตำแหน่งของ ปาปาเดมอสเกิดขึ้น ภายหลังจากที่การเจรจาอย่างตึงเครียดเป็นระยะเวลา 4 วัน ระหว่างพรรคสังคมนิยมซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล กับ พรรคฝ่ายค้านสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในที่สุด

 

แถลงการณ์จากทำเนียบของประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิออส ระบุว่ารัฐบาลชุดใหม่ของปาปาเดมอสจะอยู่ในรูปแบบของรัฐบาลเฉพาะกาลซึ่งจะทำหน้าที่ในการอนุมัติและรับรองเงินกู้จากทางผู้นำยุโรปที่ตกลงกันเมื่อ ปลายเดือน ต.ค.ที่แล้วที่ บรัสเซลล์ มูลค่า 1.3 แสนล้านยูโร ซึ่งเงินกู้รอบใหม่ที่กรีซจะได้รับนั้นมีความสำคัญมาก เพราะเงินกู้ที่กรีซได้มารอบแรกจำนวน 1.1 แสนล้านนั้นไม่เพียงพอ

 

สำหรับรัฐบาลชุดใหม่นี้จะเข้าทำการให้สัตย์ปฏิญาณตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 11 พ.ย.

 

http://www.posttoday.com/

[Pete 15,187]

LOS ANGELES (MarketWatch) -- The Bank of Korea held its policy interest rate at 3.25% for a fifth meeting Friday, as widely expected. While Korea's last rate action was a quarter-point cut, made in June to address inflationary pressures, reports from the region cited some economists as saying the central bank may act to cut rates next year if the global economy remains unsettled.

 

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 3.25%

 

เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติกล่าวว่า ยุโรปมีทรัพยากรที่เพียงพอที่จะเอาชนะวิกฤตหนี้ในภูมิภาค โดยไม่จำเป็นต้องสร้างภาระทางการเงินให้กับประเทศตลาดเกิดใหม่

 

อลิเชีย บาร์เซนา เลขาธิการคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจในละตินอเมริกาและแคริบเบียน (ECLAC) กล่าวในระหว่างเข้าร่วมการประชุมกล่มประเทศ ALADI ว่า การที่ยุโรปขาดความเป็นผู้นำและความสามารถในการดำเนินการตามหลักเหตุผลเพื่อที่จะแก้วิกฤต จึงทำให้ยุโรปไม่สามารถร้องขอจีน บราซิล หรือรัสเซีย ให้ช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อแก้ปัญหาหนี้ในภูมิภาค ทั้งที่ยุโรปเองนั้นก็มีทรัพยากรที่จะแก้ปัญหา

 

นอกจากนี้ ละตินอเมริกาจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยที่ 4.4% ในปีนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บาร์เซนา ได้พบกับนายคาร์ลอส อัลวาเรซ เลขาธิการกลุ่มประเทศ ALADI และเห็นชอบเรื่องการสรุปวาระการขยายขอบเขตการค้าระดับภูมิภาคในละตินอเมริกา

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

 

ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 6.00% ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวลดลง

 

นายดีฟี เอ โจฮานซีอาห์ โฆษกของธนาคารกลางอินโดนีเซียกล่าวว่า "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ มีความสอดคล้องกับตัวเลขเงินเฟ้อที่กำลังปรับตัวลดลง และโครงสร้างของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวดีขึ้น"

 

นอกจากนี้ นายโจฮานซีอาห์กล่าวว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดหวังว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดผลกระทบของวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลก และจะช่วยชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

SYDNEY (MarketWatch) — Asia markets notched mild gains on Friday after some positive signals out of debt-stricken Europe helped improve sentiment.

 

Japan’s Nikkei Stock Average JP:NIK -0.01% added 0.3%

Australia’s S&P/ASX 200 index AU:XJO +0.03%  rose 0.2%

South Korea’s Kospi KR:0100 +1.19%  gained 0.9%.

 

The performance in Asia follows recovery for U.S. stocks, with the Dow Jones Industrial Average DJIA +0.96%  rising almost 1%, buoyed by a fall in domestic jobless claims and the possibility of a new national unity government in Italy, along with a new Greek prime minister.

 

ตลาดหุ้นเอเชีย เด้งขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากสาเหตุที่เล่าไปแล้ว

 

 

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเดือนต.ค.ปีนี้ ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9.847 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนต.ค.ปีที่แล้วที่ระดับ 1.4043 แสนล้านดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตาม หากเทียบเป็นรายเดือนพบว่า ยอดขายดุลงบประมาณเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ที่ระดับ 6.457 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังคงสร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐยังคงเดินหน้าอภิปรายเรื่องการลดการใช้จ่ายและการขึ้นภาษี

 

รายงานของกระทรวงการคลังระบุว่า รายได้ด้านการคลังของรัฐบาลกลางสหรัฐประจำเดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 1.6307 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐในปัจจุบันอยู่ที่ 14.9 ล้านล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

 

 

นายดีเค มิตตาล ผู้อำนวยการสำนักงานบริการด้านการเงินของรัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า การที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของระบบการธนาคารของอินเดียเมื่อวานนี้ ไม่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะธนาคารของอินเดียมีความแข็งแกร่งมากกว่าธนาคารของประเทศอื่นๆทั่วโลก

 

"เราไม่กังวลในเรื่องนี้ และเราไม่ได้ถูกกระทบจากการถูกปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ด้วย คุณลองมองดูธนาคารอื่นๆทั่วโลกก็จะเห็นว่าธนาคารของเรามีความแข็งแกร่งมากกว่า ดังนั้นอันดับความน่าเชื่อถือจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ นอกจากนี้ เรามองว่าการลดความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล เพราะธนาคารของเรามีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งมาก และรัฐบาลก็เพิ่มทุนให้กับธนาคารอย่างต่อเนื่อง" นายมิตตาลกล่าว

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของนายมิตตาลมีขึ้นหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของระบบการธนาคารของอินเดียลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" สำหรับช่วงเวลา 18 เดือนข้างหน้า ซึ่งการให้แนวโน้มเชิงลบสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะที่ผันผวนและไม่แน่นอนในระบบการธนาคาร

 

มูดีส์ระบุว่า การชะลอตัวของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ กำลังส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์ การเพิ่มทุน และศักยภาพในการทำกำไรของธนาคารอินเดีย

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

นายจุน อาซูมิ รัฐมนตีกระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นหวังว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะอธิบายถึงวิธีการที่จะแก้วิกฤตหนี้ในยุโรป ในการประชุมร่วมกับนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ IMF วันเสาร์ที่จะถึงนี้

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายอาซูมิกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนการเจรจากับนางลาการ์ดที่กรุงโตเกียวว่า ญี่ปุ่นแปลกใจกับแนวทางที่ IMF กำลังพิจารณาที่จะดำเนินการ เขาหวังว่า ทาง IMF จะได้อธิบายถึงสิ่งที่ยุโรปวางแผนที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตในกรีซลุกลามไปยังภาคธนาคารและเศรษฐกิจของประเทศที่สำคัญๆในภูมิภาค โดยเฉพาะอิตาลี

 

ลาการ์ด ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรมว.คลังฝรั่งเศสนั้น จะพบกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะรวมถึงนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) – (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากที่นายลูคัส ปาปาเดมอส ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลของกรีซ แทนนายจอร์จ ปาปันเดรอู โดยนายปาปาเดมอสเคยเป็นอดีตรองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับอย่างมากในตลาดทุนและตลาดเงินของยุโรป

 

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากความคืบหน้าในด้านบวกของยุโรป ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินที่ปลอดภัยอย่างสกุลเงินดอลลาร์ และหันไปลงทุนในสกุลเงินที่มีความเสี่ยงมากกว่า

 

ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 พ.ย. ลดลง 10,000 ราย แตะ 390,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ของสหรัฐลดลง 4% มาอยู่ที่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

 

รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะอยู่ที่ 61.5 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 60.9 จุดของช่วงท้ายเดือนต.ค.

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 พ.ย.54) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาบวกเพิ่มขึ้น หลังตลาดได้แรงหนุนหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7% ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปลง  นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรหนุนหลังกรีซเลือกนายลูคัส ปาหาเดมอส เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ รวมถึง การผลักดันให้นายมาริโอ มอนติ อดีตกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู) ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในอิตาลีด้วย  หลังปิดตลาดดาวโจนส์บวก 112.85 จุด หรือ 0.96% ปิดตลาดที่ระดับ 11,893.79 จุด ดัชนี เอส แอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 10.60 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ระดับ 1,239.70 จุด และแนสแดคเพิ่มขึ้น 3.50 จุด หรือ 0.13% ปิดตลาดที่ระดับ 2,625.15 จุด

 

ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(NYMEX)ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2.13% ปิดตลาดที่ระดับ  97.78 ดอลลาร์/บาร์เรล  ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดนิวยอร์ก(COMEX)ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 32 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดตลาดที่ระดับ 1,759.6 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากราคาทองไม่สามารถฝ่าแนวต้านที่1,800ดอลลาร์/ออนซ์ไปแล้วยังปรับลดลงด้วย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์ (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

 

ไออีเอ เตือนราคาน้ำมันอาจพุ่งแตะบาร์เรลละ 150 ดอลลาร์ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า (11/11/2554)

ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ เตือนว่าราคาน้ำมันตลาดโลกอาจพุ่งแตะบาร์เรลละ 150 ดอลลาร์ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า หากการลงทุนด้านพลังงานในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ยังมีไม่มากพอที่จะรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ไออีเอ เตือนด้วยว่าราคาน้ำมันจะค่อย ๆ ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนแตะระดับบาร์เรลละ 212 ดอลลาร์ ภายในปี 2578 นี้ ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันในปีนี้ คาดว่าจะยังทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากการผลิตในลิเบียยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ

 

ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

มาดริด (เอเอฟพี) - สถาบันสถิติแห่งชาติของสเปนเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยืดเยื้อและอัตราว่างงานสูงถึงร้อยละ 21.52 ทำให้ชาวสเปนหลายล้านคนกลายเป็นคนยากจน โดยข้อมูลระบุว่า สัดส่วนชาวสเปนที่มีชีวิตต่ำกว่าเส้นความยากจน คือมีรายได้ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของรายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ อยู่ที่ร้อยละ 21.8 ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.7 ในปี 2550 ซึ่งเป็นปีก่อนเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะตกต่ำ ส่วนจำนวนครัวเรือนที่คนในบ้านว่างงานทุกคนมี 1,425,200 ครัวเรือนในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ ทั้งที่ไตรมาสสามของปี 2550 มีเพียง 379,300 ครัวเรือน นักวิชาการสเปนเตือนว่า การมีครัวเรือนว่างงานทั้งครัวเรือนเป็นจำนวนมากเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะจะส่งผลรุนแรงต่อเสถียรภาพทางสังคม

 

อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นยังทำให้มีคนถูกยึดบ้านเพิ่มขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีการยึดบ้านแล้ว 31,955 ราย เกือบเท่าปีที่แล้วทั้งปีที่มีการยึดบ้านมากเป็นประวัติการณ์ถึง 47,809 ราย นักวิชาการระบุว่า เศรษฐกิจตกต่ำครั้งนี้ยืดเยื้อกว่าที่ผ่านมาและกระทบผู้เป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวรุนแรงกว่าที่ผ่านมา ปัจจุบันครัวเรือนชาวสเปนมีหัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ว่างงานมากถึง 1 ใน 10 ต่างจากครั้งก่อน ๆ ที่ผู้ว่างงานส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่อาศัยอยู่กับบิดามารดาหรือคู่สมรสของหัวหน้าครอบครัว

 

การิตาส องค์กรการกุศลคาทอลิกสากลในสเปนเผยว่า ปีที่แล้วมีผู้มาขอความช่วยเหลือ 950,001 คน เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2550 ที่มีผู้ขอความช่วยเหลือ 400,000 คน และ 1 ใน 3 ของผู้ขอความช่วยเหลือเมื่อปีก่อนเป็นผู้ขอความช่วยเหลือเป็นครั้งแรก

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

 

ตลาดได้แรงหนุนขาขึ้น หลังกรีซเลือกนายลูคัส ปาหาเดมอส เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ รวมถึง การผลักดันให้นายมาริโอ มอนติ อดีตกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู) ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในอิตาลี ท่ามกลางรายงานข่าว ที่ระบุว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เข้าซื้อพันธบัตรอิตาลี และสเปน

 

ทั้งนายมอนติ และนายปาปาเดมอส ล้วนแต่สำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากสหรัฐ ซึ่งคาดว่า ทั้ง 2 คน จะนำมาตรการปฏิรูปที่จำเป็นเข้ามาใช้ เพื่อทำให้สถานะทางการเงิน ของทั้งอิตาลี และกรีซ กระเตื้องขึ้น

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

หลังจากที่นางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเสี่ยงที่จะดำดิ่งเข้าสู่ทศวรรษที่หายไปทางเศรษฐกิจ หรือ "Lost Decade" อันเนื่องมาจากผลพวงของวิกฤตหนี้ยุโรปที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

ล่าสุดก็ได้ออกมาเรียกร้อง “ความชัดเจนทางการเมือง” ในประเทศกรีซและอิตาลี สองประเทศซึ่งกำลังถูกรุมเร้าอย่างหนักหน่วงจากปัญหาหนี้สาธารณะ รวมทั้งยังมีแนวโน้มจะเป็นพาหะแพร่เชื้อวิกฤตไปสู่ประเทศอื่นๆ

 

โดย ลาการ์ด ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่งว่า “ความชัดเจนทางการเมืองจะสามารถช่วยให้เกิดเสถียรภาพขึ้นได้ และเป้าหมายของดิฉันก็คือ ความมีเสถียรภาพมากขึ้น และดียิ่งขึ้นกว่านี้” บิ๊กบอสหญิงแห่งไอเอ็มเอฟ กล่าวถึงการเมืองที่แสนวุ่นวายภายในรัฐบาลกรีซและอิตาลี พร้อมเสริมด้วยว่า “ความสับสนคลุมเครือเกี่ยวกับอนาคตผู้นำของทั้งสองประเทศกำลังทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้น”

 

บิ๊กบอสไอเอ็มเอฟ แสดงความคิดเห็นดังกล่าว หลังจากที่การเจรจาเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนที่นายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซประสบความล้มเหลว ขณะที่นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ของอิตาลีก็เพิ่งให้คำมั่นว่าจะลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่แผนปฏิรูปเศรษฐกิจผ่านการรับรองจากรัฐสภาแล้ว

 

ที่มา : money channel (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

 

นายออลลี เรห์น ประธานฝ่ายเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของยุโรปในช่วง 2 ปีข้างหน้า ระบุว่าปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งปัญหาหนี้สาธารณะ ความอ่อนแอของภาคธนาคาร และการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลง จะส่งผลให้ปีหน้าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซน ซึ่งใช้เงินสกุลยูโรร่วมกัน ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 0.5% จากเดิมที่ประเมินไว้ 1.8% ส่วนอัตราว่างงานของอียู นั้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 9.5%

 

ขณะที่เศรษฐกิจของกรีซ ประเทศต้นตอของวิกฤตหนี้ อียูคาดว่าปีหน้าจะยังถดถอยต่อเนื่อง เช่นเดียวกับเศรษฐกิจอิตาลี ที่กำลังส่อเค้าถูกพิษวิกฤตหนี้เล่นงานเป็นชาติต่อไป โดยอียู มองว่าน่าจะซบเซาลงเหลือเพียง 0.1% ในปีหน้าสำหรับเศรษฐกิจอิตาลี

 

ส่วนอังกฤษ ซึ่งอยู่นอกยูโรโซน อียู ประเมินว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะเติบโตในระดับต่ำสุด ๆ เพียง 0.6% ท่ามกลางภาระหนี้ก้อนโตที่ต้องแบกรับ

 

นอกจากนี้ผลสำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนในยุโรป ซึ่งจัดทำโดยฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า ประมาณ 70% ของนักลงทุนชาวยุโรปเชื่อว่า มีความเสี่ยงสูงมากที่เศรษฐกิจยุโรปจะถดถอยรุนแรง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าระดับ 40% และ 21% จากการสำรวจในช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้านี้ตามลำดับ

 

ที่มา : money channel (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

[Pete 15,187]

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศดอลลาร์สหรัฐฯ รับซื้อที่ 29.62 บาท ขายออก 31.01 บาท ยูโร อยู่ที่ระดับ 42.22 บาทต่อยูโร

 

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย ประจำวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2554 เวลา 08.23 น. มีดังนี้

 

ดอลลาร์สหรัฐฯ รับซื้อที่ 29.62 บาท ขายออก 31.01 บาท ยูโร อยู่ที่ระดับ 42.22 บาทต่อยูโร ปอนด์ อยู่ที่ 49.66 บาทต่อปอนด์ เงินหยวนของจีน อยู่ที่ 5.01 และเงินเยนของญี่ปุ่น อยู่ที่ 0.40305

 

ที่มา : สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.82/84 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.76/81 บาท/ดอลลาร์

          แนวโน้มเงินบาทวันนี้คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะกรณีปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ

          ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 77.59/67 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3589/3591 บาท/ดอลลาร์

          ด้านสหรัฐฯ วันนี้ หน่วยงานรัฐบาลและตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันทหารผ่านศึก แต่ตลาดหุ้นยังเปิดทำการตามปกติ

          นักบริหารเงินคาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.70-30.90 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น (วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554)

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย เด็กขายของ