ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดี คุณเด็กขายของ อยากถามว่าคุณกับ GB2514 ในรูปที่ให้ใครแก่กว่ากัน จากชุดต้องเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องสำนักเดียวกันแน่ (ตอนนี้ยังใช้ Ipad อยู่ใช่ไหมคะเลยไม่เห็นลูกเล่นมันส์ๆเลย ) !38

 

เค้าเด็กกว่าน๊ะตัวเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เป็นข่าวดีกับทองรึเปล่าครับ

ช่วงนี้ รายงานต่างๆ ที่ออกมา นักลงทุนขาใหญ่ แทบไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะเอาแต่หันมาถือเงินตราสกุลดอลล์สหรัฐกันหมด จึงทำให้แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ นักลงทุนมองอยู่

สหรัฐ การประชุมเพื่อตัดลดยอดขาดดุล

ยูโร การแก้ไขปัญหาของ อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร ที่สูงขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทหารปะทะม็อบอียิปต์ตาย20ศพ

 

 

 

 

การปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ประท้วงต้านรัฐบาลทหารที่กรุงไคโร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 20 แล้วในวันจันทร์ ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่มูบารักถูกโค่นล้ม

ผู้ประท้วงยังรวมตัวชุมนุมต่อเนื่องในคืนวันจันทร์เป็นคืนที่ 3 ณ จัตุรัสตอห์รีร์ กรุงไคโร ซึ่งเคยเป็นเวทีหลักของการชุมนุมโค่นล้มการปกครองของฮอสนี มูบารัก

แม้อียิปต์จะมีกำหนดการเลือกตั้งรัฐสภาในวันที่ 28 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ แต่อำนาจฝ่ายบริหารยังคงเป็นของคณะทหาร ซึ่งรับหน้าที่บริหารบ้านเมืองจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในราวต้นปีหน้า ซึ่งผู้ประท้วงต้องการให้มีการถ่ายโอนอำนาจเร็วกว่าที่กำหนดเอาไว้

เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา และใช้กระบองเข้าปะทะกับฝูงชนเพื่อยุติการชุมนุม ด้านผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยการขว้างปาปลอกกระสุนปืนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ในวันเสาร์ แต่ทางตำรวจยืนยันว่าไม่มีการใช้กระสุนจริงแต่อย่างใด

กระทรวงสาธารณสุขอียิปต์เผยในวันจันทร์ว่า ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากการปะทะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ศพ โดยไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ ด้านสำนักข่าวอัลจาซีเราะห์รายงานโดยอ้างยอดผู้เสียชีวิตของกระทรวงสาธารณสุขเช่นกัน แต่ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ยอดดังกล่าวเป็นผู้เสียชีวิตในวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์เท่านั้น

การประท้วงในวันศุกร์เริ่มต้นโดยกลุ่มอิสลามิสต์ที่โกรธแค้นรัฐบาล หลังดำเนินการวางกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพอยู่ภายใต้การควบคุมโดยรัฐบาลพลเรือนในอนาคต

แต่หลังจากนั้น กลุ่มนักเคลื่อนไหวเยาวชนที่เป็นแรงผลักดันการโค่นล้มรัฐบาลมูบารัก เข้ามาเป็นแกนนำหลักในการประท้วง และชูประเด็นระดับชาติเป็นหลักแทนที่ประเด็นทางศาสนา

ด้านกลุ่ม "ยุวชน 6 เมษา" ให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์รัฐบาลอียิปต์ว่า ผู้ประท้วงจะปักหลักในจัตุรัสตอห์รีร์ต่อไป จนกว่าข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมจะถูกนำไปปฏิบัติ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีไม่ช้าไปกว่าเดือนเมษายนปีหน้า

ข้อเรียกร้องอื่นๆ ได้แก่ การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมาใหม่แทนที่รัฐบาลคณะทหารชุดปัจจุบัน รวมถึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม และหาตัวผู้ออกคำสั่งมาลงโทษ

ทางกองทัพอียิปต์ยืนยันว่า กองทัพไม่มีเจตนาที่จะยึดครองอำนาจทางการเมือง และรับรองว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อวันเลือกตั้งสมาชิกสภาฯ รวมทั้งจะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยระหว่างการเลือกตั้งให้ผ่านไปด้วยดี

เอ็มอีเอ็นเอ-สำนักข่าวของอียิปต์ รายงานว่า ตัวเก็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี คือ โมฮัมเม็ด เอลบาราเดย์ และอับดุลเลาะห์ อัลอาชาล ประณามการใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วง และเรียกร้องให้มีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติเช่นกัน.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พรรครัฐบาลสเปนแพ้เลือกตั้งยับ

 

 

สเปนนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปเสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อวันจันทร์ พรรคสังคมนิยมแกนนำรัฐบาลแพ้เลือกตั้งราบคาบตามความคาดหมาย เหตุประชาชนเอือมระอาความไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและวิกฤติหนี้ พรรคฝ่ายขวาชนะถล่มทลายกวาด 186 ที่นั่ง เป็นชัยชนะยิ่งใหญ่สุดในรอบ 30 ปี คาดสเปนเตรียมรับมาตรการรัดเข็มขัดเข้มงวดขึ้น

ผู้สนับสนุนพรรคประชาชน (พีพี) แนวทางนิยมขวาของสเปน พากันออกมาเฉลิมฉลองตามท้องถนนในกรุงมาดริด เมื่อมาเรียโน ราฮอย ผู้นำพรรควัย 56 ปี ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสเปนเมื่อค่ำวันอาทิตย์

"ชาวสเปน 46 ล้านคนจะต้องทำศึกต่อสู้กับวิกฤติ" ราฮอยกล่าวต่อฝูงชนจากระเบียงด้านนอกที่ทำการพรรคในกรุงมาดริด "งานที่รอพวกเราอยู่เบื้องหน้าไม่ใช่งานง่ายๆ แต่ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า ผมมั่นใจว่าด้วยความช่วยเหลือของทุกคน เราจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าและสเปนจะทวงสถานะที่เราทั้งผองล้วนอยากให้เป็น นั่นคือการเป็นผู้นำของยุโรป"

ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อวันจันทร์ พีพีได้ ส.ส. 186 ที่นั่งจากสภา 350 ที่นั่ง จากคะแนนเสียงถึงร้อยละ 44.60 ส่วนสังคมนิยมได้แค่ 28.73% ทำให้ได้ ส.ส.เพียง 111 ที่นั่ง จากที่เคยมี ส.ส. 169 ที่นั่ง นับเป็นความปราชัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษของพรรค

อัลเฟรโด เปเรซ รูบัลคาบา ผู้นำพรรคสังคมนิยมวัย 60 ได้ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ แต่ขณะเดียวกันก็บอกว่า พรรคของเขาจะต่อสู้เพื่อปกป้องความเป็นรัฐสวัสดิการไว้ให้ได้ จากการตัดลดค่าใช้จ่ายทางสังคม ที่มีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลของราฮอยจะต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขลดการขาดดุลงบประมาณตามความต้องการของสหภาพยุโรป ตามที่เขาได้หาเสียงไว้

นายกรัฐมนตรีโฮเซ ลูอิซ โรดริเกซ ซาปาเตโร เคยนำพรรคสังคมนิยมครองอำนาจมานาน 7 ปี ตั้งแต่สมัยที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของกลุ่มยูโรโซนแห่งนี้ยังรุ่งเรือง จนมาถึงยุคตกต่ำในปัจจุบันซึ่งมีคนว่างงานถึง 5 ล้านคน หรือ 21.5% สูงสุดในกลุ่มอียู เขาไม่ได้ลงสมัครในสมัยที่ 3 หลังจากประกาศยุบสภาให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด 4 เดือน เพื่อที่รัฐบาลชุดใหม่จะได้มีเวลาแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ

รัฐบาลของซาปาเตโรถูกตำหนิว่า ดำเนินการเชื่องช้าเกินไปในช่วงที่เกิดปัญหาฟองสบู่ภาคอสังหาริมทรัพย์แตกเมื่อปี 2551 ซึ่งเกิดควบคู่กับวิกฤติการเงินโลกที่ทำให้คนหลายล้านตกงาน ความนิยมต่อตัวเขาและรัฐบาลดำดิ่งอย่างรวดเร็ว เมื่อสเปนยิ่งถลำลึกสู่วิกฤติที่ทำให้เขาต้องออกมาตรการรัดเข็มขัด ที่กระทบต่อประชาชนและผู้สนับสนุนพรรค

สเปนกลายเป็นชาติที่ 5 ของกลุ่มยูโรโซน ที่ผู้นำต้องสังเวยต่อวิกฤติการเงินและหนี้สินในปีนี้ ต่อจากไอร์แลนด์, โปรตุเกส, กรีซ และอิตาลี

"สเปนต้องการการเปลี่ยนแปลง เราอยู่กับรัฐบาลที่ล้มเหลวมานาน 8 ปี" ฮอร์เก อาลีเซส นักเรียนมัธยมปลายวัย 16 กล่าว พร้อมกับถือธงของพรรคพีพีและธงชาติเหลือง-แดงของสเปน

ราฮอยได้ให้คำมั่นระหว่างหาเสียงว่า เขาจะตัดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ยกเว้นบำเหน็จบำนาญ เพื่อทำให้บรรลุเป้าลดการขาดดุลจาก 9.3% ในปีก่อน ให้เหลือ 4.4% ของจีดีพีให้ได้ภายในปีหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่า ราฮอยซึ่งจะรับตำแหน่งวันที่ 20 ธันวาคม จะต้องเสนอแผนปฏิรูปโดยเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนทั่วโลก.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ม็อบชุมนุมร้องเงินชดเชยน้ำท่วม ยอมยุติ ข่าวสังคม วันจันทร์ที่ 21 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 21:01 น.share 322694[0].jpg ฟังคลิปเสียงข่าวผอ.เขตบางบอน เผย กลุ่มผู้ชุมนุมยอมสลายการชุมนุม หลังรับเรื่องร้องเรียนให้จ่ายเงินชดเชยน้ำท่วม

 

นางรัสยาภรณ์ นครสุต ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางบอน เปิดเผยถึง กรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุม ประมาณ 40 คน เรียกร้องพบ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางบอน เพื่อเรียกร้อง เรื่องเงินชดเชยน้ำท่วม 5,000 บาท ว่า ขณะนี้ชาวบ้านได้สลายการชุมนุมแล้ว บื้องต้นทางสำนักงานเขตได้มีการเจรจาและรับเรื่องร้องเรียนเอาไว้เพื่อส่งต่อไปยัง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เนื่องจากการเรียกร้อง เพื่อขอให้มีการจ่ายเงินชดเชยน้ำท่วมของชาวบ้านนั้น ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์และวิธีการของกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากบ้านพักอาศัยหรือบ้านเช่าของชาวบ้านนั้นอยู่บริเวณชั้น 2 ซึ่งยังไม่ถูน้ำท่วม ดังนั้นจึงจะต้องมีการนำเรื่องเพื่อหารือว่า จะสามารถจ่ายเงินชดเชยในกรณีดังกล่าวได้หรือไม่

 

Link : http://www.innnews.co.th/ม็อบชุมนุมร้องเงินชดเชยน้ำท่วม-ยอมยุติ--322694_03.html

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กสิกรไทย คาด GDPปีหน้าโต 4.3% ข่าวเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 21 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 21:51 น.share4 ฟังคลิปเสียงข่าวศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด จีดีพีปีหน้าโต 4.3 % ปี 54 เหลือ 1.5 % เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่เศรษฐกิจเสียหาย 2.4 แสนล้าน

 

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า จากอุทกภัยครั้งใหญ่ ซึ่งนับเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายในเชิงมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยสูงสุดเท่าที่เคยประสบมานั้น ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 242,200 ล้านบาท ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทย ในไตรมาสที่ 4/2554 หดตัวลงถึงร้อยละ 3.3 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนประกอบกับตัวเลขจีดีพี ในไตรมาสที่ 3/2554 ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด ทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2554 ทั้งปีลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.5 เทียบกับคาดการณ์เดิม เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมอยู่ที่ร้อยละ 1.7 โดยเป็นการปรับลงตามตัวเลขจีดีพี ในไตรมาสที่ 3/2554 ที่ต่ำกว่าคาด

 

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ฯ คาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2555 น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวในไตรมาสที่ 1/2555 ก่อนที่จะเติบโตได้ชัดเจนขึ้นในไตรมาสที่ 2/2555 โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญคาดว่า จะมาจาก ภาคการลงทุนทั้งในภาครัฐและเอกชน เพื่อการบูรณะฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัย ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการป้องกันอุทกภัยและการบริหารจัดการระบบน้ำ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าการลงทุนที่เป็นผลมาจากอุทกภัยนี้อาจมีมูลค่าสูงถึง 400,000-550,000 ล้านบาทในปี 2555 คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2555 อาจขยายตัวประมาณร้อยละ 4.3 โดยมีช่วงประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4.8

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต่ำกว่า US$1,700 ต้องใช้วิธีพิเศษ อีกแล้ว

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยันท่านเด็กขายของมาแล้ว. โอมเพี้ยงงงงงงงงจงอยู่ๆๆๆๆๆๆๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NEW YORK (MarketWatch) — U.S. stocks fell sharply on Monday ahead of an expected announcement from the congressional supercommittee that it failed to agree on reducing the federal deficit.

 

The apparent stalemate in Washington added to market jitters over Europe’s debt crisis, prompting investors to flee equities and flock to perceived safe havens including the U.S. dollar and government bonds.

 

“As we start off this holiday-shortened week, it appears that the supercommittee has completely failed to reach an agreement other than to admit to failure early, so that they can make it home for the holidays,” Marc Pado, U.S. market strategist at Cantor Fitzgerald, noted in emailed commentary.

 

ตลาดหุ้นดาวน์โจน ร่วงแตะ 300 จุด จากความหวั่นวิตกในเรื่องต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่ อาทิตย์นี้ ตลาดจะเปิดทำการเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น พวกเขาเหล่านั้น จึงมีความคิดที่จะเก็บการลงทุนของเขาในรูปที่ปลอดภัย ซึ่งก็คือ เงินสด เหรียญดอลล์สหรัฐ และ พันธบัตรรัฐบาล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ญี่ปุ่นอึ้งขาดดุลการค้าเดือนตค.ระบุปัจจัยหนึ่งคือ'อุทกภัยไทย'

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2554 22:31 น.

 

Share

 

 

 

 

ญี่ปุ่นประสบกับการขาดดุลการค้าในเดือนตุลาคม โดยที่อุทกภัยใหญ่ในไทยถูกระบุเป็นสาเหตุประการหนึ่งด้วย เนื่องจากทำให้เกิดการขาดแคลนชิ้นส่วนจนการผลิตทางอุตสาหกรรมชะงักงัน

 

       เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ญี่ปุ่นประสบกับการขาดดุลการค้าในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ตามข้อมูลของรัฐบาลที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์(21) โดยที่อุทกภัยใหญ่ในไทยถูกระบุเป็นสาเหตุประการหนึ่งด้วย เนื่องจากทำให้เกิดการขาดแคลนชิ้นส่วนจนการผลิตทางอุตสาหกรรมชะงักงัน สำหรับปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้แดนอาทิตย์อุทัยตกอยู่ในภาวะส่งออกน้อยกว่านำเข้าในเดือนดังกล่าว ยังได้แก่การที่เงินเยนแข็งโป๊กไม่ยอมเลิก, และอุปสงค์ของทั่วโลกกำลังอ่อนตัวลง

       

       ตามตัวเลขข้อมูลของกระทรวงการคลัง ในเดือนตุลาคม ญี่ปุ่นส่งออกลดลง 3.7% มาอยู่ที่ 5.51 ล้านล้านเยน ถือเป็นการตกลงมาครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ขณะที่นำเข้าสูงขึ้น 17.9% มาอยู่ที่ 5.79 ล้านล้านเยน นับเป็นการขยับขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นเดือนที่ 22 ติดต่อกันแล้ว โดยปัจจัยสำคัญคือราคาของน้ำมันและก๊าซที่สูงขึ้น

       

       ในสภาพเช่นนี้ทำให้เดือนตุลาคม ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าเป็นจำนวน 273,800 ล้านเยน (3,600 ล้านดอลลาร์) นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน และกลับตาลปัตรจากช่วงเดือนเดียวกันของปี 2010 ซึ่งได้เปรียบดุลการค้า 812,600 ล้านเยน อีกทั้งผิดความคาดหมายของพวกนักเศรษฐศาสตร์ ที่สำรวจความคิดเห็นโดยสำนักข่าวดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ และหนังสือพิมพ์นิกเกอิ ซึ่งทำนายว่าจะได้เปรียบดุลการค้าเป็นจำนวน 55,600 ล้านเยน

       

       “การส่งออกอ่อนตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว ขณะที่การนำเข้ายังคงเพิ่มขึ้นสืบเนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติมีราคาสูงขึ้น ญี่ปุ่นกำลังถลำลงสู่ตัวเลขสีแดงในลักษณะที่น่าวิตกทีเดียว” นักเศรษฐศาสตร์แห่งสถาบันวิจัยไดวา นาม ซาโตชิ โอซานาอิ ให้ความเห็น

       

       ญี่ปุ่นนั้นสามารถกลับมาได้เปรียบดุลการค้าได้อีกครั้งในเดือนกันยายน เมื่อการผลิตรถยนต์ฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับที่เคยทำได้ก่อนเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในแดนอาทิตย์อุทัยเดือนมีนาคมปีนี้

       

       แต่แล้วอุทกภัยใหญ่ที่เกิดขึ้นในไทยก็ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของพวกบริษัทรถยนต์และบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากโรงงานในเมืองไทยของพวกเขาและของพวกผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ถูกน้ำท่วม จนกระทั่งเกิดการขาดแคลนชิ้นส่วน ทั้งนี้โรงงานต่างๆ ในประเทศไทยคือห่วงโซ่สำคัญห่วงหนึ่งในสายโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

       

       “น้ำท่วม(ในไทย)เป็นเหตุให้เกิดขาดแคลนชิ้นส่วนขึ้นในญี่ปุ่น และลดยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังโรงงานต่างๆ ของพวกผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทย” ค่าย แคปิตอล อีโคโนมิกส์ ระบุเช่นนี้เอาไว้ในรายงานการวิจัยฉบับหนึ่ง ทั้งนี้ยักษ์ใหญ่รถยนต์ญี่ปุ่นอย่างเช่น โตโยต้า และ ฮอนด้า ต่างต้องระงับการประกาศตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ไปแล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายจากอุทกภัยในไทย

       

       ตามตัวเลขการค้าในเดือนตุลาคม เมื่อแยกเป็นรายภูมิภาค ปรากฏว่ายอดส่งออกไปยังเอเชียได้ลดลงมา 6.6% โดยที่การขนส่งไปยังจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่น หล่นลงมา 7.7% ส่วนที่ส่งมายังไทยก็หดตัว 5.1%

       

       ทาเกชิ มินามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งสถาบันวิจัยโนรินชูกิน ให้ความเห็นว่า ตัวเลขที่ประกาศออกมาคราวนี้เลวร้ายกว่าที่คาดหมายกัน และอาจเป็นสัญญาณแสดงว่าการส่งออกจะทรุดตัวต่อไปอีกหลายๆ เดือน เขายังแสดงความกังวลเป็นพิเศษกับการตกต่ำของการส่งออกไปยังเอเชีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่น

       

       มินามิ บอกว่า การทรุดตัวเช่นนี้เป็นการสะท้อนถึงเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัว, ผลพวงจากน้ำท่วมในไทย, และค่าเงินเยนที่แข็งมาก

       

       ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นก็เคยเตือนว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังเชื่องช้าลง เนื่องจากความไม่แน่นอนในต่างประเทศ และความปั่นป่วนผันผวนของตลาดการเงิน โดยมีสาเหตุจากวิกฤตยูโรโซน ตลอดจนอุทกภัยในประเทศไทย

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงนี้ คำว่า Supercommittee ปรากฎเยอะมาก แล้วมีผลทำให้ตลาดการเงิน และ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ผกผันรุนแรง แล้วมันคืออะไร

       เอเจนซีส์ - ความพยายามที่มีเป้าหมายสูงส่งที่สุดของวอชิงตันในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในการลดยอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล ทำท่าจบลงด้วยความผิดหวัง โดยมีรายงานว่า คณะเจรจาพิเศษเตรียมแถลงยอมแพ้เนื่องจากไม่สามารถหาข้อสรุปได้เรื่องการขึ้นภาษีและตัดลดงบประมาณรายจ่ายด้านสวัสดิการ

       

       คณะกรรมาธิการพิเศษ (super committee) ของรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วย สมาชิก 12 คนจากพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครต ฝ่ายละครึ่ง ยังมีเวลาทำงานไปจนถึงเส้นตายในวันพุธ (23) เพื่อเสนอแผนลดยอดขาดดุลงบประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลาร์ เพื่อให้รัฐสภาอนุมัติภายในวันที่ 23 เดือนหน้า แต่หากล้มเหลวจะนำไปสู่การลดการใช้จ่ายอัตโนมัติ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2013 เป็นต้นมา

       

       กระนั้น โทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (20) โดยอ้างแหล่งข่าวจากทั้งสองพรรคว่าสมาชิกทั้งหลายในซูเปอร์คอมมิตตี ยอมรับแล้วว่า ไม่สามารถหาข้อตกลงได้และเตรียมจัดแถลงข่าวในวันจันทร์ (21) ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ผู้นำ ส.ส.และวุฒิสมาชิกของทั้งสองพรรคหัวรั้นเกินกว่าจะยอมประนีประนอมในเรื่องการขึ้นภาษีเพื่อเพิ่มรายได้และการลดรายจ่ายทางด้านสวัสดิการ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าจำเป็นต่อการวางรากฐานเพื่อสถานะการคลังที่มั่นคงของประเทศ

       

       ความล้มเหลวนี้ยังตอกย้ำความไร้น้ำยาของวอชิงตันในสายตาผู้มีสิทธิ์ออกเสียง และนักลงทุนที่หมดศรัทธาแล้วกับนโยบายแก้ปัญหา ซึ่งเคยถึงขั้นทำให้อเมริกาหวุดหวิดผิดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

       

       นอกจากนี้ ความอึมครึมในคองเกรสเกี่ยวกับการลดยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ยังไปเพิ่มความกดดันต่อเศรษฐกิจโลก นอกเหนือจากปัญหาทางการเงินที่คุกคามความอยู่รอดของสหภาพการเงินยุโรปอยู่ในเวลานี้

       

       ประธานาธิบดี บารัค โอบามา นั้น กันตัวเองออกจากการเจรจา โดยเลือกเน้นมาตรการสร้างงานที่ถูกรีพับลิกันขัดขวางในสภามากกว่า โดยบรรดาผู้ช่วยเชื่อว่า ผู้นำทำเนียบขาวจะสามารถใช้ความล้มเหลวของคณะกรรมาธิการพิเศษเพื่อฉายภาพว่ารีพับลิกันเป็นพวกขัดขวางความเจริญในศึกเลือกตั้งใหญ่ปลายปีหน้า

       

       ทั้งนี้ ผู้นำในคองเกรสตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษชุดนี้ขึ้น ในช่วงที่เกิดศึกงบประมาณฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภค และกระตุ้นให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ที่ขณะนั้นอยู่ที่ AAA เป็นครั้งแรก รวมทั้งฉุดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งกว่า 2,000 จุด

       

       คณะกรรมาธิการพิเศษมีภารกิจในการจัดทำรายละเอียดข้อตกลงตัดลดงบประมาณอย่างน้อย 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า วอชิงตันสามารถผ่อนเพลาภาระหนี้ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 15 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หรือเท่ากับมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ

       

       เนื่องจากมีการตกลงกันไว้แล้วว่า ถ้าหาก “ซูเปอร์คอมมิตตี” ชุดนี้ทำงานไม่สำเร็จ ก็จะต้องหันไปตัดลดงบประมาณรายจ่ายอัตโนมัติในงบด้านกลาโหม และโครงการภายในประเทศในจำนวนเท่าๆ กัน ดังนั้นจึงมีหลายฝ่ายเชื่อว่า ภารกิจนี้จะบรรลุผล เพราะถ้าปล่อยให้ไปตัดรายจ่ายอย่างอัตโนมัติเช่นนั้น ก็จะเกิดผลเสียมากกว่าในด้านคะแนนนิยม

       

       ทว่า ในที่สุดแล้วคณะกรรมาธิการพิเศษยังคงตกลงกันไม่ได้อยู่นั่นเอง โดยที่ฝ่ายรีพับลิกันคัดค้านหัวชนใจไม่เอาด้วยกับมาตรการขึ้นภาษีเพื่อเพิ่มรายได้ ขณะที่เดโมแครตก็ไม่สนับสนุนการยกเครื่องระบบสวัสดิการครั้งใหญ่

       

       กระนั้น กลไกการลดการใช้จ่ายอัตโนมัติจะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะถึงเดือนมกราคม 2013 และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภายังเริ่มมองหาทางออกกฎหมายฉบับใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงกลไกดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อทั้งรีพับลิกันและเดโมแครต

       

       ทั้งนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ความล้มเหลวนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่สมาชิกรัฐสภาหวาดกลัวผลลบทางการเมืองจากข้อตกลงเหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1990

       

       จุดเริ่มเรื่องมาจากข้อตกลงปี 1990 ในการขึ้นภาษีและลดการใช้จ่าย กระตุ้นให้สมาชิกสายอนุรักษ์ในรีพับลิกันแข็งข้อ และสถานะของจอร์จ บุช ประธานาธิบดีในขณะนั้นคลอนแคลนลงและพ่ายแพ้การเลือกตั้งในสองปีให้หลัง

       

       เช่นเดียวกับข้อตกลงในปี 1993 ที่ปราศจากการยินยอมพร้อมใจของรีพับลิกัน และทำให้เดโมแครตแพ้การเลือกตั้งในปีต่อมา

.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:ph34r:

 

สวัสดีค่ะ คุณเด็กขายของ ขอยันตฺ้ ซ้ำเลขเดิมอีก 2 รอบค่ะ เพราะคืนนี้ ผีฝรั่งมันแรงงงงง :P ทั้งกัด ทั้งทุบ ไม่ปล่อยเหยื่อให้รอดเลยค่ะ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยันไม่อยู่แล้วอะ 16++ มันมาอีกแล้ว ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิกฤตหนี้ยุโรป-ศึกสภาอเมริกันร่วมดันเศรษฐกิจโลกจ่อปากเหว

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2554 23:29 น.

       เอเจนซีส์ - วิกฤตการเงินยุโรปกำลังฉุดเศรษฐกิจโลกเข้าสู่หายนะและจ่อภาวะถดถอยใกล้ขึ้น โดยเฉพาะเมื่อประกอบกับผลพวงจากศึกในสภาแดนอินทรีกรณีการหาทางตัดลดยอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล

       

       ยอดส่งออกของจีนทรุดลง 50% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ขณะที่ยอดสั่งซื้อของโรงงานในเยอรมนี ประเทศเศรษฐกิจเบอร์ 1 ของยุโรป ดิ่งลงตามการชะลอตัวในแดนมังกร อินโดนีเซียและออสเตรเลียลดดอกเบี้ยเพื่อผ่อนเพลาความเสียหายจากยุโรป ญี่ปุ่น อังกฤษ และบราซิล พร้อมใจลดการคาดการณ์การเติบโต       

       จากปักกิ่งถึงวอชิงตันและเซาเปาโล เจ้าหน้าที่การเงินระดับสูงกำลังกังวลว่าเศรษฐกิจจะถูกสูบเข้าสู่ความโกลาหล เนื่องจากยุโรปไม่สามารถหาข้อสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตหนี้

       

       อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีและสเปนที่เคลื่อนไหวอยู่แถวๆ 7% ส่งผลให้แบงก์พาณิชย์มีปัญหาในการระดมทุน และพลอยกระเทือนถึงเศรษฐกิจโลก ตามมาด้วยความเชื่อมั่นคลอนแคลนและการเติบโตถูกฉุดรั้ง

       

       ไมค์ เฟอโรลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพี มอร์แกน เชสในสหรัฐฯ ชี้ว่าอเมริกาอาจรอดพ้นจากภาวะถดถอยได้ ถ้ายุโรปไม่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา แต่เมื่อพิจารณาว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยุโรปยังไร้ทางออก จึงดูเหมือนว่าทางรอดของแดนอินทรีจะตีบตันไปด้วย อีกทั้งมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของปัญหา

       

       คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ขานรับว่า ถ้าปัญหาเศรษฐกิจยุโรปไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลใหญ่หลวงต่อสหรัฐฯ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา

       

       ในการให้สัมภาษณ์รายการ ’60 มินิตส์’ ทางซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์ (20) ลาการ์ดแจงว่าสินค้าออกของสหรัฐฯ 20% มีจุดหมายปลายทางที่ยุโรป อเมริกาและยุโรปยังผูกพันเหนียวแน่นทั้งในธุรกิจธนาคารและตลาดแรงงาน

       

       ลาการ์ดเสริมว่ากรณีอเมริกานั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือการทุ่มเถียงทางการเมืองเพื่อลดยอดขาดดุล

       

       ทั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาอเมริกันมีเวลาจนถึงวันพุธ (23) ในการเสนอแผนลดยอดขาดดุลงบประมาณ 1.2-1.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 10 ปี

       

       ทอม พอร์เซลลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในอเมริกาของอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กังวลว่าหากไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเป็นเช่นนั้น อาจทำให้เหล่าสมาชิกสภาต้องกลับลำและพยายามผลักดันกฎหมายฉบับใหม่เพื่อสกัดการเริ่มต้นลดงบประมาณโดยอัตโนมัติ อันจะทำให้ระบบการเงินผันผวนและแนวโน้มความเสี่ยงเลวร้ายลง

       

       นอกจากนี้ คองเกรสยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะขยายมาตรการกระตุ้นทางการคลังในปีหน้าหรือไม่ เจพี มอร์แกน เชสประเมินว่า หากมาตรการเหล่านี้ อาทิ การลดภาษีเงินเดือน สวัสดิการสำหรับผู้ว่างงานระยะยาว และการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน สิ้นสุดลง จะทำให้การเติบโตของสหรัฐฯ หายไป 1.5-2% ในปีหน้า

       

       ศึกงบประมาณในสภายังบ่อนทำลายข่าวดีที่ออกมาไม่นานนี้ เช่น ยอดขายรถประจำเดือนตุลาคมที่เพิ่มขึ้นถึง 7% เช่นเดียวกับผลผลิตอุตสาหกรรมที่ขยับขึ้น ขณะที่การขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงต่อเนื่อง ผู้บริโภคที่เป็นกำลังหลักของกิจกรรมเศรษฐกิจถึง 70% ปลดหนี้อย่างช้าๆ และอำนาจใช้จ่ายของครัวเรือนเริ่มฟื้นขณะที่ภาวะเงินเฟ้อคลี่คลายลง

       

       ยุโรปยังหลงเหลือจุดแข็งเช่นกัน จากกระแสเงินสดภาคธุรกิจและสินค้าคงคลังระดับต่ำ ทำให้มีช่องทางอีกมากในการกระตุ้นอุปสงค์ เช่นเดียวกัน เยอรมนีมีอัตราว่างงานต่ำ สถานะการคลังแข็งแกร่งเพียงพอส่งเสริมดีมานด์ภายในประเทศ

       

       แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองและความผันผวนทางการเงินกำลังแผ่ปกคลุมแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปและอเมริกา และแพร่กระจายสู่เอเชียที่ขับเคลื่อนด้วยภาคส่งออก

       

       ตัวอย่างเช่นดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีนที่ใกล้หยุดนิ่งในเดือนกันยายน โดยอยู่ที่ 51% เหนือกว่าระดับ 50% ที่เป็นเกณฑ์แบ่งระหว่างการเติบโตและการหดตัวเพียงเล็กน้อย

       

       สตีเฟน รอช ประธานกิตติมศักดิ์มอร์แกน สแตนเลย์ เอเชีย ชี้ว่าความต้องการของผู้บริโภคอเมริกันที่อ่อนแอลงประกอบกับปัญหาในยุโรป เป็นสัญญาณเตือนภัยสำหรับเอเชียที่เศรษฐกิจหนุนนำโดยการส่งออก และขณะนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปีที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกตกอยู่ในความเสี่ยง

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...