ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

 

 

       เอเอฟพี - มหกรรมช้อปปิง "แบล็กฟรายเดย์" หลังวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ ในปีนี้ กลายเป็นความรุนแรง ที่เต็มไปด้วยเหตุยิงกัน ต่อสู้ชกต่อยกัน และการโจมตีด้วยสเปรย์พริกไทย ท่ามกลางความโกลาหลในการจับจ่ายสินค้าของบรรดาขาช้อปทั้งหลาย

       

       เหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจที่สุดคือ กรณีที่หญิงเชื้อสายสเปน วัยประมาณ 30 ปีรายหนึ่งพ่นสเปรย์พริกไทยใส่นักช้อปคนอื่นๆ ที่ร้านวอลมาร์ท ในนครลอสแองเจลีส เพื่อลดคู่แข่ง ที่จะแย่งซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งหั่นราคาลดกระหน่ำเนื่องในเทศกาลแบล็กฟรายเดย์

       

       ตำรวจนครลอสแองเจลีสเผยว่า ลูกค้าอย่างน้อย 10 คน ในจำนวนนั้นเป็นเด็กด้วย ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ที่ร้านวอลมาร์ท ย่านพอร์เตอร์ แรนช์ แห่งนี้ และแจ้งความไปยังเจ้าหน้าที่

       

       ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า มีผู้ที่กำลังรับการรักษาอาการบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวราว 20 คน หลายคนมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่ลำคอ ระคายเคืองผิวหนัง และดวงตา

       

       ตำรวจระบุว่า หญิงผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากร้านไปก่อนที่ตำรวจถึงที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ก็ยังพยายามหาตัวเธออยู่ เพื่อนำตัวมารับโทษจำคุก และปรับเงิน แต่ด้วยความสับสนวุ่นวาย ทำให้ยากจะมองหาตัวด้วยภาพจากกล้องวงจรปิด

       

       นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเหตุระทึกในวันแบล็กฟรายเดย์ โดยขาช้อปรายหนึ่งถูกกลุ่มโจรยิง ในที่จอดรถของห้างวอลมาร์ทในซานลีนโดร มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ช่วงหลังตี 1 ถึงขั้นอาการสาหัส แต่ยังทรงตัว

             เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์นี้ได้รายหนึ่ง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเขาเป็นผู้ลั่นไกปืนหรือไม่ และก็ยังไม่พบปืน ที่ใช้เป็นอาวุธด้วย

       

       ขณะที่มลรัฐเซาท์แคโรไลนา หญิง วัย 55 ปีรายหนึ่งถูกคนร้าย 2 คนยิง บริเวณลานจอดรถ ใกล้กับห้างวอลมาร์ท ในมีร์เทิลบีช ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ปล้นชิงทรัพย์ ส่วนลูกชายของเธอก็ถูกปืนทุบหัว ขณะพยายามปกป้องผู้เป็นแม่ ทว่า คนร้ายได้หนีไป เมื่อน้องสาวของหญิงผู้นี้ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่

             ยิ่งไปกว่านั้น ตำรวจยังตามล่าหาตัวผู้ต้องสงสัยอีกอย่างน้อย 2 คน ซึ่งยิงปืนก่อความวุ่นวายที่ฟายเอ็ดวิลล์ ห้างสรรพสินค้าในนอร์ทแคโรไลนา

       

       ส่วนในคิสซิมมี รัฐฟลอริดา เจ้าหน้าที่เผยว่า สามารถจับกุมตัวชายคนหนึ่งไว้ หลังเขาเหวี่ยงหมัดใส่ตำรวจ ขณะที่พยายามยับยั้งไม่ให้เขาก่อเหตุชกต่อย หน้าเคาน์เตอร์ขายเครื่องประดับ ที่วอลมาร์ท

[Pete 15,187]

       เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันวานนี้(25) ปิดผสมผสาน หลังความกังวลต่อปัญหานิวเคลียร์อิหร่านกลบกระแสตึงเครียดของวิกฤตหนี้ยูโรโซน อย่างไรก็ตามปัจจัยหลังนี้ฉุกให้วอลล์สตรีทขยับลงในกรอบแคบๆ เหตุนักลงทุนยังไม่เห็นแนวทางที่น่าเชื่อถือสำหรับจัดการกับภัยทางเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามนี้

       

       สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 96.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าในอเมริกา ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

       

       ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ อยู่ที่ 1.3226 ดอลลาร์ หลังจากการหารือกันระหว่างฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลี 3ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดี(24) ยังคงแตกคอกันเรื่องแนวทางแก้ไขเชิงโครงสร้างระยะยาวของวิกฤตหนี้ยูโรโซน ส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดลอนดอนดิ่งลงอย่างแรงในวันศุกร์(25)

       

       อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันนิวยอร์กกลับปิดในแดนบวก หลังนักลงทุนมีความกังวลว่าตลาดอาจตึงตัวหลังชาติตะวันตกหลายชาติกำหนดมาตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อชาติผู้ผลิตเชื้อเพลิงอย่างอิหร่านเพื่อกดดันให้ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขา

       

       ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(25) ขยับลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน ทำสถิติเป็นสัปดาห์เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 เดือน หลังนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เหตุยังไม่เห็นน่าเชื่อถือสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน

       

       นักลงทุนเทขายหุ้นต่อเนื่อง หลังมีการเปิดเผยอัตรดอกเบี้ยพันธบัตรของอิตาลี พุ่งสูงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 6 เดือนของรัฐบาลอิตาลี อยู่ที่ร้อยละ 6.5 สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์(25) และต้นทุนดอกเบี้ยระยะยาวของพวกเขาก็ทะยานเกินกว่าระดับความยั่งยืนของการคลังสาธารณะ

       

       ผลตอบแทนพันธบัตรระดับสูงในชาติยักษ์ใหญ่ของยุโรปอย่างสเปน ฝรั่งเศสและเยอรมนี บ่งชี้ว่าภูมิภาคแห่งนี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีความกังวลเพิ่มเติมจากกรณีที่สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส ลดอันดับความน่าเชื่อถือของเบลเยียม โดยอ้างถึงความวิตกเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องและแรงกดดันของตลาด

       

       ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 25.77 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,231.78 แนสแดค ลดลง 18.57 จุด (0.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,441.51 เอสแอนด์พี ลดลง 3.12 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,158.67

[Pete 15,187]

European debt markets face a crucial test next week as Italy, Spain, France and Belgium attempt to borrow billions of euros as investors appear increasingly reluctant to hold even the safest European debt.

 

อาทิตย์หน้าจะมีการออกขายพันธบัตร อิตาลี / สเปน / ฝรั่งเศส และ เบลเยี่ยม ขืนยังต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูง ในขณะที่ราคามูลค่าพันธบัตรลดลง จากความไม่เชื่อมั่นอีก ค่าเงินยูโร ได้ทิ้งดิ่งอีกแน่ๆ ใซึ่งตอนนี้ ก็ถือว่า แย่อยู่แล้ว ซึ่งถ้าดูดีๆๆ ในส่วนของการเพิ่มขึ้นค่าเงินดอลล์สหรัฐ กับ การลดค่าของเงินยูโร ก็สะเทือนต่อราคาทองไม่มาก จนนักลงทุนเมืองนอก ต่างประหลาดใจว่า " แข็งอย่างนี้แล้ว ทองยืนได้ยังไง " ซึ่งเป็นภาพรวมที่ยังดี

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 26, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย คาด หุ้นไทยสัปดาห์หน้า ผันผวน จับตาประชุม กนง. ปรับอัตราดบ.,พัฒนาการแก้หนี้และการเมืองในยุโรป ให้แนวรับ 940 จุด แนวต้าน 993 จุด

 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินทิศทางดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม 2554 ว่า ดัชนี ยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลง แต่อาจจะฟื้นตัวได้ในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ผลการประชุม กนง. รวมถึง พัฒนาการการแก้ปัญหาหนี้และการเมืองในยุโรป การทบทวนอันดับเครดิตของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยุโรป

 

นอกจากนี้ คงต้องติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้วัดตลาดที่อยู่อาศัย ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีภาคการผลิต (ISM) และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 940 และ 920 จุด ขณะที่ แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 983 และ 993 จุด ตามลำดับ

 

Link : http://www.innnews.co.th/กสิกร-คาด-หุ้นไทยสัปดาห์หน้า-ผันผวน--323687_02.html

 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย คาด ค่าเงินบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.50 บ./ดอล จับตา กนง. ถกปรับอัตราดอกเบี้ย,วิกฤตหนี้ยูโรโซน

 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายนถึง 2 ธันวาคม 2554 ว่า ค่าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของไทย (30 พ.ย.) ตลอดจนการรายงานเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยเดือนต.ค. และอัตราเงินเฟ้อ เดือนพ.ย. รวมถึง สัญญาณการลุกลามของวิกฤตหนี้ยูโรโซน และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคการผลิต ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขตชิคาโก ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย รายจ่ายด้านการก่อสร้าง เดือนต.ค. ดัชนีราคาบ้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เดือนก.ย. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ตลอดจน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

Link : http://www.innnews.co.th/กสิกรคาดค่าบาทอยู่ในกรอบ31-15-31-50บ-ดอล--323686_02.html

 

 

 

[Pete 15,187]

สภากลาโหมสูงสุด ของ อียิปต์ แต่งตั้ง "คามาล กันซูรี" เป็นผู้นำคนใหม่

 

สื่อต่างประเทศรายงาน สภากลาโหมสูงสุด ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองสูงสุดของอียิปต์ ประกาศแต่งตั้ง นายคามาล กันซูรี เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว หลังสิ้นอำนาจของ อดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค และมีการยืนยันออกมาว่า จะจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา ตามกำหนดเดิมในสัปดาห์หน้า

 

รายงานข่าว ระบุว่า นายกันซูรี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วครั้งหนึ่ง ระหว่างปี 1996-1999 ในสมัยฮอสนี มูบารัค ครองอำนาจ ได้รับเลือกจากคณะผู้นำกองทัพ ให้ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแดนมัมมี่ อีกสมัย เพื่อทำหน้าที่ ตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้ามาบริหารประเทศ หลังจากที่ คณะรัฐมนตรีชุดก่อนประกาศลาออกยกคณะ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเหตุประท้วงของประชาชน ที่ต้องการให้กองทัพ "คืนอำนาจ" เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

Link : http://www.innnews.co.th/กลาโหมอียิปต์-ตั้งคามาลนั่งนายกฯ--323663_04.html

 

26 พย. 2554 13:20 น.

 

สภากลาโหมอียิปต์แต่งตั้ง นายคามาล อัล-กันซูรี ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เมื่อวานนี้ โดยเขาเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีในสมัยอดีตประธานาธิบดีฮอสนีย์ มูบารัค ระหว่างปี 2539-2542 แต่ผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนที่จตุรัสทาห์รีร์ ในกรุงไคโร ไม่ยอมรับนายกันซูรีโดยบอกว่า พวกเขาไม่ต้องการคนที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากสภากลาโหม และนายกันซูรี ก็เป็นคนที่มาจากอำนาจเก่า

 

การชุมนุมต่อต้านกองทัพอียิปต์จะยังดำเนินต่อไป แม้ว่ากำลังจะมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกของประเทศ หลังหมดยุคอดีตประธานาธิบดีฮอสนีย์ มูบารัค ในวันจันทร์นี้ โดยสภากลาโหมประกาศเมื่อวาน ยืนยันว่า การเลือกตั้งจะดำเนินต่อไปและจะขยายเวลาเลือกตั้งรอบแรก จาก 1 วัน เป็น 2 วัน

 

ส่วนนายกันซูรี นายกรัฐมนตรีอียิปต์คนใหม่ พูดผ่านรายการโทรทัศน์ครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวานนี้ว่า เขาจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อดูแลช่วงการเปลี่ยนผ่านให้เสร็จก่อนสิ้นสัปดาห์หน้า และจะแต่งตั้งคนรุ่นใหม่เข้ามาอยู่ในรัฐบาลด้วย

 

ห่างออกไปจากจตุรัสทาห์รีร์ราว 3 กิโลเมตร ผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งราว 1 หมื่นคน รวมตัวกันเพื่อสนับสนุนสภากลาโหม โดยพวกเขาบอกว่า ผู้ชุมนุมที่จตุรัสทาห์รีร์ ไม่ได้สะท้อนความต้องการของชาวอียิปต์ทั้งหมด

 

ส่วนสหรัฐฯ พันธมิตรสำคัญของอียิปต์ ระบุในแถลงการณ์ เรียกร้องให้กองทัพโอนถ่ายอำนาจสู่พลเรือนโดยเร็ว ด้านเลขาธิการสหประชาชาติ นายบัน คี-มูน เรียกร้องให้สภากลาโหมถ่ายโอนอำนาจโดยสันติ

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 26, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

หุ้นสหรัฐ ปิดลบวันที่ 7 ติดต่อกัน น้ำมันดิบไนเม็กซ์ บวก 60 เซนต์ ด้านราคาทองคำ ตลาดนิวยอร์ก ลดลง 10.20 ดอลลาร์

 

 

 

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีร่วงลง วันที่ 7 ติดต่อกัน หลัง นักลงทุน เทขายทรัพย์สินที่มีความเสี่ยง เนื่องจาก ยังไม่เห็นความน่าเชื่อถือ สำหรับปัญหาหนี้ยูโรโซน ทำให้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 25.77 จุด หรือ 0.23 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 11,231.78 จุด ดัชนีแนสแดค ลดลง 18.57 จุด หรือ 0.75 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,441.51 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี ลดลง 3.12 จุด หรือ 0.27 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,158.67 จุด

 

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน ม.ค. 2012 เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.62 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 96.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐ ส่วนเบรนท์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ด้าน ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ลดลง 10.20 ดอลลาร์ หรือ 0.60 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,685.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

[ariya 1,481]

มันเป็นข้าวเกรียบปากหม้อ รวมกับก๊วยเตี๋ยว มันมีหลายไส้ บางที่เรียกว่าก๊วยเตี๋ยงไอน้ำ กว่าจะได้กินชามนึง แม่ค้าแคะกันเมื่อย

[Pete 15,187]

26 พย. 2554 12:48 น.

 

ทองคำล็อตแรกของรัฐบาลเวเนซุเอลา ถูกลำเลียงออกจากเครื่องบินที่เดินทางมาจากฝรั่งเศสแล้วเมื่อวานนี้ โดยมีทหารพร้อมอาวุธปืนคุ้มกันอย่างแน่นหนาทองคำเหล่านี้จะถูกส่งไปเก็บไว้ที่ธนาคารกลางเวเนซุเอลา ที่เมืองคารากัส เมืองหลวงของประเทศ

 

นายฮูโก้ ชาเวส ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ผู้นำซ้ายจัด ที่ดำเนินนโยบายประเทศไปสู่สังคมนิยม ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมว่า รัฐบาลจะถอนทองคำสำรองมากกว่า 211 ตันที่ฝากไว้ในธนาคารสหรัฐฯ และยุโรปกลับประเทศเพื่อปกป้องทรัพย์สินของชาติจากปัญหาวิกฤตหนี้สินในสหรัฐฯ และยุโรป

 

ชาเวสบอกว่า ทองคำเหล่านี้จะกลับมาอยู่ในที่ที่มันเคยอยู่ นั่นคือ ตู้นิรภัยของธนาคารกลางเวเนซุเอลา ไม่ใช่ธนาคารกลางอังกฤษ หรือธนาคารกลางสหรัฐฯเพราะมันเป็นทองคำของประเทศ

[Pete 15,187]

26 พย. 2554 10:34 น.

 

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)เปิดเผยถึงการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ (อุทกภัย)ด้านการเกษตร ปี 2554 ร่วมกับ World Bankโดยการสำรวจข้อมูลในครั้งนี้เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นกรณีศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์และลพบุรีเพื่อนำไปฟื้นฟูช่วยเหลือเร่งด่วนและจัดทำแผนพัฒนาและแก้ปัญหาภัยพิบัติในระยะสั้น จนถึงระยะยาวต่อไปโดยแบ่งการสำรวจออกเป็น 4 ภาคหลัก คือ ภาคโครงสร้างพื้นฐาน (Inflastructure)ภาคการผลิต(Productive) ภาคสังคม (Social)ภาคที่เป็นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(Cross sectoral) และประกอบด้วยภาคย่อยอีก18 ภาค ซึ่งอยู่ในภาคการผลิตจากเจ้าหน้าที่เกษตรธกส.ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรกรและใช้แหล่งข้อมูลจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธ.ก.ส.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานสถิติ เพื่อประเมินผลกระทบจากน้ำท่วม

 

โดยการสำรวจครั้งนี้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้สำรวจความเสียหายด้านการเกษตรร่วมกับ World BankFAO TDRI ธกส. GISDA กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง ใน 2จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ ที่อ.ชุมแสง อ.เมือง อ.ท่าตะโกและลงพื้นที่สำรวจจังหวัดลพบุรีใน อ.บ้านหมี่ และอ.ท่าวุ้ง ซึ่งพบว่าสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย นาข้าวส่วนพืชไร่ที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ มันสำปะหลังและอ้อยโรงงานด้านปศุสัตว์ ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ปีก (ไก่เนื้อ และไก่ไข่)และสุกร ส่วนประมง ได้แก่ บ่อเลี้ยงปลา และปลาในกระชัง นอกจากนี้เครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ได้แก่เครื่องปั๊มน้ำ เครื่องพ่นยา ด้านประมง ได้แก่ เครื่องตีน้ำ เครื่องบดเหยื่อโรงเรือนเลี้ยงไก่ เป็นต้นสำหรับความเสียหาย พบว่า นาข้าว ส่วนใหญ่เสียหาย 100 %เนื่องจากปีนี้น้ำมีปริมาณมาก และท่วมเร็วกว่าปกติ (ปกติน้ำท่วมในช่วงก.ย.-ต.ค. ) โดยมีบางส่วนที่เกี่ยวหนีน้ำประมาณ 5 - 10 %แต่เป็นการเก็บเกี่ยวข้าวที่ยังไม่ได้อายุ หรือที่เรียกว่าเกี่ยวเขียวซึ่งขายได้ราคาต่ำมาก ประมาณตันละ 2,000- 3,000 บาทและส่วนใหญ่ใช้เพื่อเป็นอาหารสัตว์ ส่วนมันสำปะหลัง ที่ถูกน้ำท่วมขังนานกว่า10 วัน หัวมันจะเน่า เสียหายประมาณ 40 % ส่วนอ้อยโรงงานที่ถูกน้ำท่วมขังนานมากว่า 15 วัน ส่วนยอดยังเขียวอยู่แต่ส่วนล่างลำต้นแห้งคาดว่าเสียหาย 40 - 60 %นอกจากนี้ จากการสำรวจ พบว่า เกษตรกรต้องการเงินทุนด่วน ให้ทันต่อการเพาะปลูกหลังน้ำลด และต้องการให้ภาครัฐ ดูแลเรื่องปัจจัยการผลิตเพราะราคาเพิ่มสูงขึ้นทั้งพันธุ์และปุ๋ย

 

อย่างไรก็ตามธกส.ได้ให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมกู้ครัวเรือนละ 100,000 บาท โดยจ่ายให้เป็นเมล็ดพันธุ์และปุ๋ย รวมทั้งพักชำระหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ย 3 ปี ทั้งนี้พบว่า เกษตรกรไม่กังวลที่จะขาดแคลนเมล็ดพันธ์ เพราะ ธ.ก.ส.มีการสำรวจความต้องการของเกษตรกรและขอชื้อเมล็ดพันธุ์จากลูกค้าที่ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดย ธ.ก.ส.มั่นใจที่จะสามารถจัดสรรได้เพียงพอ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ กข.29 (CP) อายุ 105วัน ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และขอให้เร่งจัดหาพันธุ์ปลาและดูแลเรื่องปัจจัยการผลิตต่อไป

 

 

[Pete 15,187]

26 พย. 2554 09:30 น.

 

รายงานสถานการณ์เส้นทางที่ระดับน้ำลดลงและเปิดการจราจรอย่างไม่เป็นทางการ 3 เส้นทาง

1) ถ.เพชรเกษม ขาเข้า - ขาออก เปิดการจราจร 2 ช่วง 1.1) ตั้งแต่ แยกท่าพระ ถึง ถ.เพชรเกษม ซ.47 1.2) ตั้งแต่ ถ.เพชรเกษม 88 ถึง พุทธมณฑลสาย 4 (สุดเขตนครบาล) 2) ถ.บางบอน 1 ขาเข้า -ขาออก เปิดการจราจร ตลอดสาย ยังมีระดับน้ำเป็นระยะ ความสูงประมาณ 15-20 ซม.

3) ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ขาเข้า - ขาออก เปิดการจราจรตลอดสาย

 

26 พย. 2554 09:30 น.

 

ทิศตะวันออก ถนนสายรองปิดการจราจร จำนวน 2 เส้นทาง

1) ถ.หทัยราษฎร์ ขาเข้า -ขาออก ตั้งแต่แยกตัดถ.สุวินทวงศ์ ถึงซ.หทัยราษฎร์ 1 ระดับน้ำ 40 ซม.

2) ถ.ราษฎร์อุทิศ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 25-30 ซม. ทิศตะวันออก ถนนสายหลัก ปิดการจราจร จำนวน 1 เส้นทาง 1) ถ.สุวินทวงศ์ ขาเข้า -ขาออก ตั้งแต่แยกตัด ถ.ราษฎร์อุทิศ ถึงแยกพาณิชยการมีนบุรี ระดับน้ำ 30-45 ซม.

 

26 พย. 2554 08:36 น.

 

ทิศตะวันตก-ใต้ ถนนสายรอง ปิดการจราจร จำนวน 12 เส้นทาง

1) ถ.ทวีวัฒนา ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่คลองทวีวัฒนา ถึงตัด คลองบางไผ่ 30-40 ซม.

2) ถ.ฉิมพลี ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกทุ่งมังกร ถึงหน้า สน.ตลิ่งชัน ระดับน้ำ 20-30 ซม.

3) ถ.ชัยพฤกษ์ ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ตัด ถ.บรมราชชนนี ถึงตัดวัดชัยพฤกษ์ ระดับน้ำ 30-40 ซม.

4) ถ.บางแวก ขาเข้า - ขาออก ตั้งแต่ ถ.กาญจนาฯ ถึงคลองทวีวัฒนา ระดับน้ำ 30 - 50 ซม.

5) ถ.พุทธมณฑล สาย 3 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 30-50 ซม.

6) ถ.อุทยาน ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 20-30 ซม.

7) ถ.ศาลาธรรมสพน์ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 30-50 ซม.

8) ถ.สวนผัก ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่แยกกาญจนา ถึงสะพานข้ามทางรถไฟ ระดับน้ำ 10-20 ซม.

9) ถ.บางระมาด ขาเข้า-ขาออก ตั้งแต่ตัด ถ.กาญจนา ถึงตัด ถ.ราชพฤกษ์ ระดับน้ำ 20-30 ซม.

10) ถ.ทุ่งมังกร ขาเข้า -ขาออก ตั้งแต่ตัด ถ.บรมราชชนนี ถึงตัด ถ.สวนผัก มีระดับน้ำท่วมขังเป็นระยะ ความสูงประมาณ 10-20 ซม.

11) ถ.พัฒนาการ (บางแค) ขาเข้า - ขาออก ตลอดสาย ระดับน้ำ 30-40 ซม.

12) ถ.เทอดไท ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 30 -50 ซม.

 

 

 

 

 

[Pete 15,187]

26 พย. 2554 08:25 น.

 

รายงานสถานการณ์ทางทิศเหนือ ถนนสายรอง ปิดการจราจร จำนวน 15 เส้นทาง 1) ถ.ช่างอากาศอุทิศ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 40 ซม. 2) ถ.เลียบคลองสอง ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 40 ซม. 3) ถ.จันทรุเบกษา ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 40 ซม. 4) ถ.วัชรพล ปิดการจราจรตลอดสาย ตั้งแต่ห้าแยกวัชรพล ถึง ตัด ถ.เพิ่มสิน ระดับน้ำ 30 ซม. 5) ถ.เพิ่มสิน ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 30 ซม. 6) ถ.สุขาภิบาล 5 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 20 ซม. 7) ถ.เทิดราชันย์ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 55 ซม.

8) ถ.กำแพงเพชร 6 ตั้งแต่ปากทางเข้าการเคหะทุ่งสองห้อง ถึง สุดเขตนครบาล (สน.ดอนเมือง) ระดับน้ำ 30 - 38 ซม. 9) สรงประภา ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 40 ซม. 10) ถ.เชิดวุฒากาศ ปิดกาจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 35 ซม. 11) ถ.โกสุมร่วมใจ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 35 ซม. 12) ถ.เตชะตุงคะ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 35 ซม. 13) ถ.เวฬุวนาราม ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 25 ซม. 14) ถ.แจ้งวัฒนะ ซอย 14 ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 70 ซม. 15) ถ.พระยาสุเรนทร์ ปิดการจราจรตลอดสาย ระดับน้ำ 30 -50 ซม.

[Pete 15,187]

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2554 00:00:54 น.

ผลพวงจากน้ำท่วม ทำเอาเศรษฐกิจไทยตก สะเก็ด ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ฯ แถลงจีดีพีไตรมาส 3 โตแค่ 3.5% และคาดว่าไตรมาส 4 จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างมาก จึงปรับลดจีดีพีทั้งปี 2554 ลง จากเดิม 3.5-4% เหลือ 1.5% เท่านั้น...*

 

ส่วนฝั่งของ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ต้องจับตาดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน นัดสุดท้ายของปีนี้วันที่ 30 พ.ย. จะมีการปรับลดเป้าจีดีพีเหลือเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ "ดอกเบี้ย" ต้องลด ไม่งั้นโดนชาวบ้านด่ายับแน่...*

[Pete 15,187]

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- เสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2554 13:17:28 น.

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้(26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมถนนรังสิต-นครนายก ช่วงหน้าหมู่บ้านฟ้าลากูน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้มีกลุ่มตัวแทนชาวบ้านจากชุมชนต่างๆ 13 ชุมชน ที่อยู่ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ทำการรื้อแนวบิ๊กแบ็กทั้งหมด เพื่อให้ระดับน้ำในชุมชนลดระดับลง เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนเพราะถูกน้ำท่วมขังมานานกว่า 1 เดือนแล้ว

 

 

 

ด้าน ว่าที่ รต.ดาวฤทธิ์ ทองนิ่ม ประธานนิติบุคคลบ้านฟ้าลากูน กล่าวว่า ชาวชุมชนจำนวน 13 ชุมชนที่ตั้งอยู่ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ มีมติให้ยื่นคำเรียกร้องให้ทาง ศปภ.ทำการรื้อแนวคันบิ๊กแบ็กทั้งหมดออกเพื่อให้น้ำได้ระบายไปได้ ซึ่งข้อเสนอนี้เราได้ยื่นไปยัง ศปภ.เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ดังนั้นถ้าภายใน 1-2 วันนี้ยังไม่มีการรื้อบิ๊กแบ็กทั้งหมดออก ชาวชุมชน 13 ชุมชนริมคลองรังสิต จะดำเนินการรื้อแนวบิ๊กแบ็กทั้งหมดเอง โดยยืนยันว่าจะไม่มีการปิดถนน แต่เราจะรื้อบิ๊กแบ็กทุกแนวแทน

 

ทั้งนี้ ภายหลังการรวมตัวกันประมาณ 1 ชั่วโมง กลุ่มชาวบ้านทั้งหมดได้ยืนไว้อาลัยให้กับการทำงานของ ศปภ.เป็นเวลา 1 นาที ก่อนจะสลายตัวไปในเวลาประมาณ 11.00 น.

[Pete 15,187]

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2554 08:33:41 น.

สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในการประมูลเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลเบลเยียม

 

 

 

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.88% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3230 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3348 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.35% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5438 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5492 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.86% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.730 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 77.070 เยน และทะยานขึ้น 1.20% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9304 ฟรังค์ จากระดับ 0.9194 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9693 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9725 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.42% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7379 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7410 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.814% ในการประมูลที่สามารถระดมทุนได้ 2 พันล้านยูโรเมื่อวานนี้ ซึ่งอัตราผลตอบแทนดังกล่าวสูงกว่าระดับ 4.628% ในการประมูลครั้งก่อน และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรเมื่อปี 2542

 

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นถือเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีภายใต้การนำของนายมาริโอ มอนติ กำลังเผชิญกับภาระหนี้สินมูลค่ามหาศาล และอาจจะประสบความยากลำบากในการใช้มาตรการควบคุมหนี้และลดยอดขาดดุลงบประมาณ

 

นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับปัจจัยลบจากการที่เอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลเบลเยียม ลง 1 ขั้น สู่ระดับ AA จากระดับ AA+ โดยให้แนวโน้มเป็น "เชิงลบ" เนื่องจากหนี้สินที่อยู่ในระดับสูงของรัฐบาลกำลังบั่นทอนศักยภาพในการระดมทุนของทั้งภาครัฐและภาคธนาคาร และแสดงความกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ด้านงบประมาณของเบลเยียมด้วย

 

เอสแอนด์พีคาดว่า หนี้สินสุทธิของรัฐบาลเบลเยียมจะอยู่ที่ 93% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2554 และคาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลเบลเยียมในปี 2554 จะอยู่ที่ 3.6% ของจีดีพี

 

นอกเหนือจากความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้แล้ว นักลงทุนยังวิตกว่าความขัดแย้งของผู้นำยุโรปในเรื่องแนวทางการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ จะส่งผลให้ปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อและจะยิ่งบั่นทอนเศรษฐกิจโดยรวมของยูโรโซน โดยความขัดแย้งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังคงเดินหน้าคัดค้านการออกพันธบัตรยูโรและการเพิ่มบทบาทของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป โดยกล่าวว่า "ไม่มีความจำเป็นต้องออกพันธบัตรยูโร และการออกพันธบัตรยูโรถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในขณะนี้"

 

ทั้งนี้ นางแมร์เคลได้คัดค้านแนวคิดเรื่องการออกพันธบัตรยูโรของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) มาโดยตลอด โดยเธอย้ำว่า พันธบัตรยูโรไม่ใช่ทางออกที่จะทำให้ยูโรโซนหลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ในตอนนี้ได้ เพราะการออกพันธบัตรยูโรจะเป็นการส่งสัญญาณว่า บางประเทศจะแก้ปัญหาโครงสร้างทางการเงินด้วยการยืมเงินเพิ่มอีก

 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจมากที่สุดในสัปดาห์หน้าคือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 2 พ.ย. เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 117,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 9.0% ในเดือน พ.ย. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนต.ค.

[ลูกน้ำเค็ม 14]

ขอบคุณครับคุณเด็กขายของสำหรับข่าวสาร