ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ROME -- Italian retail sales fell for the fifth consecutive month in September in a further sign that the euro zone's third-largest economy may be entering a recession.

 

ยอดขายปลีกของอิตาลี ตกลง เดือนที่ห้าติดต่อกัน เดือนกันยายนตกลง 0.4%

 

Retail sales fell 0.4% in September from August in seasonally adjusted terms, national statistics institute Istat said Friday.

 

Economists polled by Dow Jones Newswires had expected them to be flat. August retail sales declined 0.1%, Istat said, revising that figure down from a flat reading.

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

FRANKFURT (MarketWatch) -- The cost of insuring German, French and Belgian sovereign debt against default through credit default swaps, or CDS, rose to record levels Friday after Italy paid a yield of more than 6.5% in an auction of six-month bills. The spread on five-year Italian CDS widened to 560 basis points from 553 basis points on Thursday, according to data provider Markit. That means it would now cost $560,000 annually to insure $10 million of Italian government debt against default, up $7,000. The spread on Belgian CDS topped 400 basis points for the first time, rising 13 basis points to 407, Markit said. The French CDS spread widened 3 basis points to 251, while Germany's CDS spread widened 6 basis points to 115.

 

ต้นทุนการกู้เงินของ เยอรมัน / ฝรั่งเศส / เบลเยี่ยม เพิ่มสูงขึ้นในส่วนของค่าประกันความเสี่ยง ยิ่งซ้ำเติมปัญญาในการจ่ายหนี้ของยูโรโซน

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MADRID (MarketWatch) — European stock markets faced a seventh straight loss on Friday after an Italian bond auction produced record-high yields, and as investors continued to fret over a lack of solutions to the euro-zone debt crisis.

 

The Stoxx Europe 600 index XX:SXXP -0.84%  fell 0.6% to 218.48, following Thursday’s action in which late-day selling left the index with a loss of around 0.2%. That marked the sixth straight day of losses.

 

The Italy FTSE MIB index XX:FTSEMIB -2.15%  fell 1.8% to 13,671.64.

The French CAC 40 index FR:PX1 -0.80%  fell 0.8% to 2,801.49

The German DAX 30 index DX:DAX -0.80%  fell 0.7% to 5,391.60

The FTSE 100 index UK:UKX -0.58%  fell 0.6% to 5,096.12

 

มีแต่อยู่ในแดนลบ

 

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ใครบอกเรื่องนี้ ไม่น่าเชื่อถือ เท่ากับธนาคาร กสิกรไทย โอกาสเป็นไปได้สูงมาก

 

ศูนย์ฯ กสิกรไทย คาด 30 พ.ย. กนง. ปรับลด ดอกเบี้ยนโยบาย 0.5 % เหตุผลกระทบจากน้ำท่วมและปัญหาหนี้ยูโรโซน

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ว่า การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ คณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5 % จาก 3.50 % มาอยู่ที่ 3.00 % ในการประชุมรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 นี้ เพื่อดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่า กนง. คงจะให้น้ำหนักกับความเสี่ยงเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยครั้งรุนแรง รวมทั้งความเสี่ยงภายนอกประเทศจากปัญหาหนี้ในยูโรโซน ที่อาจจะลุกลามไปสู่ประเทศแกนหลักและภาคธนาคาร ในขณะที่การแก้ไขปัญหาอาจเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทาย โดยมีความเสี่ยงมากขึ้นที่เศรษฐกิจในยูโรโซน อาจจะประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า

 

นอกจากนี้ เส้นทางการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ยังคงต้องใช้เวลาและยังมีความเสี่ยงจากประเด็นการคลังและการต่อรองอำนาจทางการเมือง ขณะเดียวกัน แม้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศยังคงมีอยู่ โดยในระยะสั้น ยังคงมีแรงหนุนจากราคาสินค้าในหมวดอาหารและสินค้าจำเป็นที่ปรับตัวสูง จากผลของอุทกภัยก่อนที่กำลังการผลิตจะฟื้นคืนสู่ภาวะปกติ รวมถึงนโยบาย

ของภาครัฐโดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับมาตรการพลังงานในช่วงต้นปี 2555 และการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในเดือน เม.ย. 2555 แต่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้ออาจเป็นผลจากปัจจัยที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว

 

Link : http://www.innnews.co.th/กสิกรไทยคาด30พย-กนง-ปรับลดดบ-0-5--323606_02.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

25 พย. 2554 18:19 น.

 

นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกทม. เปิดเผยว่า สำหรับการเยียวยาประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ 1,500 บาทที่จะให้กับผู้ที่ไปเช่าบ้าน เนื่องจากไม่สามารถพักอาศัยอยู่ในบ้านของตนเองได้นั้น ขณะนี้ขั้นตอนยังอยู่ที่การพิจารณาหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังว่าสามารถจะจ่างเงินได้หรือไม่ โดยงบประมาณที่จะใช้ในส่วนนี้จะต้องไปขอเบิกจ่ายจากรัฐบาลไม่ใช่เงินของกทม.เอง และต้องดูว่านโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างไรในเรื่องนี้ ส่วนผู้ที่บุกรุกพื้นที่เข้าไปอาศัยในพื้นที่ริมคลองต่างๆ และไม่มีทะเบียนบ้าน ยืนยันว่าสามารถขอยื่นคำร้องรับเงินเยียวยา 5,000 บาทได้ ตามระเบียบของรัฐบาลได้

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

25 พย. 2554 18:17 น.

 

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ชาวจ.นนทบุรีนยื่นคำร้องไต่สวนพิเศษต่อศาลปกครองกลาง กรณีที่การบริหารจัดการน้ำของกทม.ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อจ.นนทบุรีนั้น ถ้าจำเป็นต้องไปชี้แจงก็สามารถชี้แจงได้ และไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะยึดหลักการบริหารตามอำนาจที่ได้มอบหมายจากรัฐบาล ไม่ได้ทำด้วยอารมณ์ ไม่ได้กดดันทางการเมือง หรือรักใครชอบใคร ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำสามารถอธิบายได้ และไม่เคยเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง เพราะสิ่งที่กทม.ดำเนินการเป็นเหตุผลทางเทคนิค ถ้าการดำเนินการไต่สวนในชั้นศาลสามารถไขข้อสงสัยของประชาชนได้ก็เป็นเรื่องดี ถือเป็นโอกาสอธิบายให้ประชาชนเข้าใจการทำงานได้

 

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวด้วยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่ประชาชนย่านรามอินทราเรียกร้องให้มีการเร่งระบายน้ำในพื้น ตนได้ส่งนายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกทม. เข้าไปชี้แจ้งแล้วในเบื้องต้นแล้ว เพื่อปรับความเข้าใจว่าบางหมู่บ้านไม่สามารถระบายน้ำออกมาได้ เพราะจะกระทบกับพื้นที่โดยรอบ ดังนั้นจะหาวิธีการบรรเทาปัญหาต่อไป ทั้งนี้ กทม.ได้รับข้อเสนอจากชาวบ้านแล้ว กทม.จะตอบสนองข้อเรียกร้องให้ดีที่สุด โดยในวันพรุ่ง(26พ.ย.) ช่วงบ่ายตนจะลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว แต่ขอร้องอย่าปิดถนนเพราะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

25 พย. 2554 16:58 น.

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 พ.ย. ร.ต.ต.กมลศิลป์ สิงหะสุริยะ ประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้นำ นางสายฝน เจตบุตร อายุ 42 ปี อยู่บ้านหมู่ 14 บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี นางบานเย็น พิมพ์โคตร อายุ 52 ปี บ้านหมู่ 1 บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี และชาวบ้านจากทั้งสองหมู่บ้านอีก 10 คน เข้าพบ ร.ต.ท.ณัฏฐชล เชื้อไพบูลย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแจ้งความเป็นหลักฐาน อ้างว่า กลุ่มชาวบ้านของบ้านตาด หมู่ 1 และ หมู่ 14 ถูกแกนนำคนเสื้อแดงรายหนึ่ง(ขอสงวนนาม) ของแนวร่วมหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยหลอกลวง

นางสายฝน และ นางบานเย็น ให้การว่า ทั้งสองหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย ราวเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา แกนนำคนดังกล่าวได้เข้ามาพบกับชาวบ้านบ้านตาด หมู่ 1 และ หมู่ 14 พร้อมชักชวนให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันเพื่อผลิตสินค้าโอทอป โดยจะนำเสนอโครงการกับรัฐบาล เพื่อขอรับเงินสนับสนุน แต่ช่วงแรกชาวบ้านจะต้องหาทุนกันเองเพื่อผลิตสินค้าก่อน ชาวบ้านหลงเชื่อจึงได้หายืมเงินจากที่ต่าง ๆ มาร่วมลงขันกว่า 8 หมื่นบาท ตั้งเป็นกลุ่มอาชีพ 2 กลุ่ม จ้างครูมาสอนให้สานตะกร้าพลาสติก ลงทุนซื้อเส้นพลาสติก ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร โดยเขาบอกจะหาตัวแทนมารับซื้อ และหาตลาดให้ โดยมีแกนนำอีกส่วนหนึ่งจะเป็นผู้วิ่งเต้นผ่านอดีตรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย

“แต่หลังจากพวกเราชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ได้ลงทุนร่วมกันจนทำสินค้าออกมาแล้ว เขาก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย เรากำลังเดือดร้อน เพราะเงินที่นำมาลงทุนทำตะกร้า ก็หาที่ขายไม่ได้ เคยโทรศัพท์ติดต่อไปหา ก็บ่ายเบี่ยง บอกว่าไมได้ให้พวกเราทำ จนครั้งหลังสุดได้โทรศัพท์ไปหาเขาอีก เมื่อตอนเที่ยงวันที่ 24 พ.ย. ก็บอกว่า เราทำผิดโครงการ ไม่ได้ให้ทำสินค้าโอทอป แต่ให้ทำโครงการเอสเอ็มแอล รู้สึกผิดหวังที่ได้รับคำตอบปฏิเสธ จึงปรึกษากับทางประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย และพากันมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ”นางสายฝน และ นางบานเย็น กล่าวให้การ

 

ร.ต.ต.กมลศิลป์ฯ ประธานสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่นำชาวบ้านที่เป็นคนของหมู่บ้านเสื้อแดงฯมาแจ้งความเป็นหลักฐาน โดยไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีเอาผิด เนื่องจากชาวบ้านต้องการเพียงอยากให้ชาวบ้านที่อื่น หรือหมู่บ้านเสื้อแดงอื่น เดือดร้อนเหมือนกับชาวบ้านบ้านตาด ซึ่งการที่มาพูด มิใช่เป็นการแย่งมวลชนกัน เพราะเดิมก็เคยมาร่วมงานกับเราหมู่บ้านเสื้อแดง แต่มาระยะหลังช่วงเลือกตั้ง เขาแยกไปอยู่กับกลุ่มใหม่ ที่มีชื่อว่า แนวร่วมหมู่บ้านเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐพบทางหลายแพร่งต้องเดิน

November 24, 2011  |   Filed under: บทบรรณาธิการ  |   Posted by: admin

 

คงจำได้ว่าเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาเกิดการงัดข้อกันขึ้นระหว่างรัฐบาลบารัค โอบามา กับสภาคองเกรสนำโดยนายจอห์น เบย์เนอร์ ประธานสภาฯในการพิจารณากฎหมายการเงินที่รัฐบาลสหรัฐเป็นหนี้ต่างชาติอยู่ 14.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ชั่วขณะโดยมีการจัดตั้ง Supercommittee ขึ้นมาร่วมกันเพื่อพิจารณาตัดงบประมาณรายจ่าย 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในรอบ 10 ปีข้างหน้า จนถึงทุกวันนี้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจากสองพรรคก็ยังตกลงอะไรกันไม่ได้

 

ปัญหาในสหรัฐกำลังจะเกิดขึ้นอีกระลอกกล่าวคือในสิ้นปี 2011 หากสภาคองเกรสไม่ดำเนินการ 2 ประการคนอเมริกันจะพบกับวิกฤติอย่างหนัก ประการแรกการตัดภาษีหรือ Tax Cut ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลจอร์จ บุชจะสิ้นสุดลง ถ้าสภาคองเกรสไม่ต่ออายุจะทำให้คนอเมริกัน 160 ล้านคนเสียภาษีเพิ่มเฉลี่ยอีกครอบครัวละ 1,000 ดอลลาร์ต่อปี (เงินจำนวนนี้เท่ากับใช้เติมน้ำมันรถยนต์ทุก 2 สัปดาห์ใน 1 ปี)  แต่หากมีรายได้ปีละ 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไปต้องเสียภาษีเพิ่มเฉลี่ยปีละ 2,000 ดอลลาร์

 

ประการที่สองเงินช่วยเหลือคนว่างงานก็จะหมดอายุปี 2011 หากไม่ต่ออีกจะทำให้คน 6 ล้านคนไม่มีรายได้ โดยเฉลี่ยแล้วเช็คว่างงานจะได้รับประมาณ 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ถือเป็นรายได้อย่างเดียวที่พวกเขาได้รับ ผลกระทบต่อเนื่องก็คือจะทำให้เงินหายไปจากระบบ 165,000 ล้านดอลลาร์ หมายความว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงอีก  คนที่ว่างงานอยู่แล้วจะเอารายได้มาจากไหน รัฐบาลเองก็ไม่สามารถสร้างงานหรือหางานให้พวกเขาทำได้ นี่คือปัญหาที่รออยู่เบื้องหน้า

 

ขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐ( The Federal Reserve)คาดว่าในปี 2012 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐ(GDP)จะโต 2.7 % แต่ถ้าหากสองรายการข้างต้นถูกระงับจะทำให้เศรษฐกิจโตประมาณ 1.7 %  ถือว่าเศรษฐกิจอ่อนปวกเปียกทีเดียว

 

แนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลบารัค โอบามาคือ 1.เพิ่มภาษีคนที่มีรายได้กว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี แนวทางนี้พรรครีพับลิกันปฏิเสธ 2.เสนอให้ตัดภาษีประกันสังคม (Social Security tax) ซึ่งปัจจุบันอัตราภาษีนี้ 6.2 % ตัดให้ลงเหลือ 3.1 %  วิธีการนี้จะทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบ 250,000 ล้านดอลลาร์  แต่ผลกระทบที่ตามมาก็คือจะทำให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น  ทั้งๆที่สภาคองเกรสเองก็กำลังหาวิธีลดการขาดดุลลง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในรอบ 10 ปีข้างหน้าและยังตกลงกันไม่ได้  นี่คือภาพที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอเมริกันในอนาคตอันใกล้นี้

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ขอบคุณพระเจ้าหรือ Thanksgiving Day เป็นวันที่คนอเมริกันขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ดลบรรดาลให้นักแสวงบุญมาตั้งอาณานิคมใหม่ รอดชีวิตมาได้ตั้งแต่ครั้งปีคริสตศักราช 1620 หรือพุทธศักราช 2163 สมัยกรุงศรีอยุธยาของเรา…..@สมัยนั้นคณะนักจาริกแสวงบุญที่เรียกกันว่า พวก pilgrims นิกายศาสนาบริสุทธิ์หรือ Puritanism ออกเดินทางจากอังกฤษโดยเรือ Mayflower มาตั้งถิ่นฐานในอเมริกา โดยมาขึ้นบกที่เมือง Plymouth มลรัฐ Massachusetts และตัดสินใจจัดตั้งอาณานิคมพลิมัธ หรือ Plymouth Colony ขึ้น  พวกพิลกริมส์ทำไร่ไถนาออกป่าล่าสัตว์และจัดตั้งบ้านเรือนโดยมีผู้ว่าการรัฐ William Bradford และ Miles Standish เป็นผู้นำ…..@ในฤดูใบไม้ร่วงปีรุ่งขึ้นหลังจากเก็บเกี่ยวพืชผลแล้ว พวกพิลกริมส์เลยจัดให้มีงานเลี้ยงฉลองขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยดลบันดาลให้รอดชีวิตในดินแดนใหม่มาได้ครบ 1 ปี เนื่องจากในช่วงแรกนั้น พวกพิลกริมส์ที่ทนความหนาว ความอดอยาก และโรคภัยไข้เจ็บไม่ไหวพากันล้มตายไปถึงเกือบครึ่งอาณานิคม…..@ในงานเลี้ยงขอบคุณพระเจ้าครั้งแรกนั้น พวกพิลกริมส์ได้เชิญชาวอินเดียนแดงพื้นเมือง เผ่า Wampanaug มาร่วมรับประทานด้วย เนื่องจากว่าชาวอินเดียนแดงเป็นผู้สอนพวกพิลกริมส์ ให้เพาะปลูกข้าวโพดและพืชผลพื้นเมืองอื่นๆไว้เป็นอาหาร งานเลี้ยงครั้งนั้นประกอบไปด้วย ไก่งวง เป็ด ห่าน ปลาค้อดและข้าวโพด ส่วนชาวอินเดียนแดงที่ได้รับเชิญมาร่วมงานเลี้ยงก็ออกไปล่ากวางมาเป็นอาหารร่วมด้วย…..@ในสมัยถัดมาชาวอาณานิคมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าติดต่อกันมาทุกปีแต่ไม่ได้มีการประกาศให้วันขอบคุณพระเจ้าเป็นวันหยุดที่มีการฉลองกันทั่วประเทศ จนกระทั่งนาง Sarah Josepha Hale  บรรณาธิการนิตยสารสตรี Godey’s Lady’s Book รณรงค์ต่อรัฐสภาสหรัฐฯในปี 1863 หรือพุทธศักราช  2406  ประธานาธิบดีลินคอล์นจึงประกาศให้วันขอบคุณพระเจ้าเป็นวันหยุดทั่วประเทศสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้…..@ปัจจุบัน วันขอบคุณพระเจ้าฉลองกันในวันพฤหัสบดีที่สี่ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ปรกติที่ทำการรัฐบาลจะหยุดทำการกันทั้งวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ กว่าจะไปเปิดทำการกันอีกครั้งก็ในวันจันทร์ถัดมา สมาชิกในครอบครัวที่แยกย้ายกันออกไปอยู่ตามมลรัฐต่างๆ ก็เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านกัน ว่ากันว่าในช่วงวันขอบคุณพระเจ้านี้มีคนเดินทางกันแน่นขนัดที่สุดในรอบปี หนาตากว่าในช่วงวันคริสต์มาสเสียอีก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คดีตัวอย่างศาลปกครองไต่สวน 29 พ.ย.ชาวบ้านฟ้องศปภ.-กทม.ระงับกู้สาย 340

November 25, 2011  |   Filed under: Politics,การเมือง  |   Posted by: admin

ศป.แผนกคดีสิ่งแวดล้อมนัดไต่สวนคดีชาวบ้านฟ้อง ศปภ.-กทม. ระงับกู้ถนนสาย 340 บางบัวทอง-สุพรรณฯ 29 พ.ย.  

 

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ศาลปกครอง (ศป.) ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกลางแผนกคดีสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งนัดไต่สวนคู่กรณี ในคดีที่นางทศสิริ พูลนวล อาชีพรับจ้าง ชาวบ้าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ยื่นฟ้องศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และ กทม.เรื่องออกคำสั่งโดยมิชอบขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับการกู้ถนนหลวงสาย 340 บางบัวทอง-สุพรรณบุรีและถนนกาญจนาภิเษกและระงับการปิดประตูระบายน้ำและการเสริมแนวกระสอบทรายช่วงเชื่อมต่อคลองมหาสวัสดิ์และพื้นที่ จ.นนทบุรี ที่ส่งผลกระทบให้น้ำพื้นที่ จ.นนทบุรี ต้องท่วมขังเป็นเวลานาน

 

โดยศาลจะทำการไต่สวนคู่กรณีทั้งสองฝ่ายในวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายนนี้ เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 8

 

นางทศสิริ ผู้ฟ้องกล่าวว่าได้รับหนังสือแจ้งจากศาลแล้วให้ไปให้ถ้อยคำเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งตนเตรียมพยานไปให้ข้อมูลโดยจะชี้ให้ศาลเห็นว่าการที่ ศปภ.ดำเนินการโครงการกู้ถนนสาย 340 บางบัวทอง-สุพรรณบุรีไม่ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนได้รับทราบถึงผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน

 

ขณะเดียวกันการที่ให้ กทม.เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจว่าจะเปิดหรือปิดประตูระบายน้ำแต่เพียงผู้เดียวน่าจะไม่ถูกต้อง เนื่องจากในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยการจะตัดสินเปิดหรือปิดประตูระบายน้ำนั้น เห็นว่าควรให้ผู้มีส่วนได้เสียทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมกันตัดสินใจเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างประชาชนใน 2 เขต เช่น พื้นที่รอยต่อ จ.นนทบุรีกับกรุงเทพมหานคร

 

ทั้งผู้ว่าฯกทม.และผู้ว่าฯนนทบุรี ก็ควรลงมาหารือกับพูดคุยกับทั้งประชาชนในเขต กทม.และเขตนนทบุรี ที่ได้รับผลกระทบว่าควรจะมีการดำเนินการเปิดประตูระบายน้ำหรือไม่ในระดับที่เท่าใด เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาระหว่างประชาชน 2 ฝ่ายในภายหลังเหมือนที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โสภณ ซารัมย์เตรียมฟ้องส.ส.-เหลิมชี้เติมเรื่องคดีปล้นเพื่อกลบน้ำท่วมและออกพระราชกฤษฎีกา

November 25, 2011  |   Filed under: TOP News  |   Posted by: admin

 

123

เหลิมแฉกลางสภาปล้นบ้านปลัดคมนาคมเงินมาจากรถไฟฟ้าสีม่วง-น้ำเงิน-สีแดง โสภณ ซารัมย์เตรียมฟ้องกลับส.ส.เชียงรายพร้อมเฉลิม อยู่บำรุง ระบุออกมาจัดฉากละครต่อเติมเรื่องเพื่อกลบปัญหาน้ำท่วมและออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ

 

ที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 25 พ.ย.เวลา 10.00 น.นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และอดีตรมว.คมนาคมแถลงข่าวกรณีมีคนร้ายปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ต่อมามีการเชื่อมโยงผ่านกระทู้สดถึงการทุจริตโครงการในสมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา  

 

 

โสภณ ซารัมย์

“กระทู้สดดังกล่าวถือว่าเป็นการสร้างละครจัดฉากโดยใช้สภาอันทรงเกียรติเป็นเครื่องมือในการสร้างละครเพื่อกลบ 2 ประเด็น คือ 1.การตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม 2.การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่มีการทุจริต “นายโสภณกล่าว

 

ต้องให้ตำรวจดำเนินการ-ให้นายสุพจน์พูด   

 

นายโสภณ กล่าวว่าตอนนี้เราต้องให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินการต่อไปโดยเฉพาะประเด็นว่านายสุพจน์ มีการทุจริตหรือไม่แทนการออกมากล่าวหาลอยๆแบบนี้ โดยมีการพูดกันจนคนเชื่อแล้วว่านายสุพจน์มีเงินมากมาย ดังนั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการพิสูจน์ เช่นเดียวกับต้องให้โอกาสนายสุพจน์พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองก่อนด้วย

 

ขณะเดียวกัน ส่วนตัวจะเตรียมฟ้องกลับพรรคนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตนเองมีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองเช่นกันว่าไม่เคยมีการทุจริต

 

ชี้คดีไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ               

 

นายโสภณ กล่าวว่า สำหรับเนื้อหาที่มีการพูดกันในสภาเมื่อวันที่ 24 พ.ย.มีแต่ความเท็จ คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าพนักงานมีแต่การกล่าวหาเงินที่มีการปล้นไปนั้นเป็นการทุจริตแต่ปรากฏว่าไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษหรือการกล่าวหาว่ามีการทุจริตในการประมูลงานก็ไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเช่นกันตรงกันข้ามจะเป็นร.ต.อ.เฉลิมเองที่จะโดนข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ)และสีแดงว่ามีการทุจริตก็ไม่เป็นความจริง

 

“โครงการสายสีม่วงได้เคยชี้แจงไปแล้วตั้งแต่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อรัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าการที่มีการยกเลิกสัญญาการวางรางที่ 5 เพราะผู้ได้สัญญาขาดคุณสมบัติและไจก้าก็ยกเลิกสัญญาเพราะเห็นว่าขาดคุณสมบัติ และยืนยันว่าไม่เคยมีการเอาเงินมาแบ่งกันตามที่กล่าวหา และขณะนี้อยู่ในการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งผมก็ถูกตรวจสอบโดยป.ป.ช.และไม่รู้ว่าป.ป.ช.ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว   ส่วนโครงการสายสีแดงมีการลงนามทำสัญญาตั้งแต่รัฐบาลสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ต่อมาโครงการสายสีน้ำเงินยังไม่มีการลงนามในยุคผมเป็นรัฐมนตรี ดังนั้น การหยิบยกโครงการสายสีต่างๆเป็นเพียงการมาสร้างตัวเลขให้มันสูงเพื่อสร้างละครเบี่ยงเบนกระแสและสร้างเรื่องเพิ่มเข้าไปในกระแสความสนใจของประชาชนเกี่ยวกับการปล้นบ้านปลัดคมนาคม”นายโสภณ กล่าว

 

ปล้นบ้านปลัดยังไม่คืบหน้าแต่เติมเรื่องกันแล้ว

 

นายโสภณ กล่าวว่า คดีปล้นบ้านปลัดคมนาคมยังไม่มีการสอบสวนคืบหน้าไปเท่าไหรแต่ปรากฎว่ามีการเติมเรื่องและกล่าวหาไปหมดแล้ว ทำไมต้องร้อนรนออกมาจัดฉากกันขนาดนี้ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวน

 

ในทางกลับกันมีการกล่าวหานายสุพจน์ร้ายแรงมากว่าเงินดังกล่าวมาจากการทุจริตทั้งที่ปงป.ป.ช.ยังไม่ได้ชี้มูลความผิดแต่รองนายกฯไปตัดสินแทนสังคมหมด ทั้งหมดทำไปเพื่อให้สังคมลืมเรื่องน้ำท่วมและพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถึงเวลาที่ต้องพูดความจริงได้แล้วและการที่ตัวเองเงียบมาตลอดไม่ใช่เพราะกลัวแต่ไม่ต้องการให้สังคมสับสน              

 

“ตลอดเวลาเป็นรมว.คมนาคมเชื่อว่าคนที่พูดได้ดีที่สุดคือข้าราชการ และเมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็รู้ว่ามีการพยายามตรวจสอบโครงการถนนไร้ฝุ่นแต่การตรวจสอบไม่พบประเด็นการทุจริตและโครงการก็เป็นไปตามสเปคที่วางเอาไว้แต่ไม่มีใครออกมาพูด กลับกันมีการออกมาสร้างประเด็นให้คนอื่นๆเสียหายโดยที่ไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ผมเป็นรัฐมนตรีหนึ่งที่ไม่เคยเอาข้าราชการไปชี้แจงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและเป็นรัฐมนตรีที่ไม่มีแผล”นายโสภณ กล่าว

 

เหลิมปูดในสภาเงินปล้นเงินมาจากรถไฟฟ้า 3 สาย   

 

ก่อนหน้านี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุมมีวาระพิจารณากระทู้สดของ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เขต 5 จ.เชียงราย พรรคเพื่อไทยเรื่องการปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

 

โดยถามนายกรัฐมนตรีว่ากรณีปล้นบ้านปลัดคมนาคม แทนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีจะทุกข์ร้อนเร่งดำเนินการ แต่กลับเงียบทั้งๆที่เป็นกรณีที่สะเทือนวงการราชการไทยเป็นอย่างมาก ตนอยากถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมในฐานะรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะรับผิดชอบอย่างไร จะเอาเงินคืนมาได้มากน้อยเพียงใด

 

แสดงแผนผังประกอบทันที

 

 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

ร.ต.อ.เฉลิม ตอบกระทู้สดแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมนำแผ่นชาร์ตมาแสดงภาพประกอบว่า คดีนี้เป็นคดีแปลกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่เจ้าทรัพย์ระบุว่าถูกปล้นแค่ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจตามจับคนร้ายและยึดทรัพย์กลับมาได้แล้ว 17.8 ล้านบาท จากบทความใน นสพ.ฉบับหนึ่งระบุว่า เรื่องนี้มีต้นเหตุมาจาก “เจ๊ตุ๋ย” ทะเลาะกับ “เจ๊ติ๋ม” แต่ตนทราบว่ามี “น้องแนท” เข้ามาเกี่ยวข้องอีกคนหนึ่ง

 

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าขณะนี้ตำรวจจับคนร้ายได้ 7 คน มอบตัว 1 เป็น 8 คน จากทั้งหมด 11 คน ยึดทรัพย์ได้ 17.8 ล้านบาท โดยมีนายโก้ ได้หนีไปลาวพร้อมเงินของกลาง 100 ล้านบาท งานนี้เขาสั่งให้ปล้น แล้วเอาเงินไปให้ มีสาเหตุมาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีน้ำเงิน สีแดง ซึ่งมีการคอรัปชั่น 7-8% เรื่องนี้ตนเคยอภิปรายในสภามาแล้ว แต่ถูกประท้วง ซึ่งก็ชัดเจนว่าไจก้าได้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นของใคร

 

เหลิมบอกตามใครได้เอาหมด

 

ร.ต.อ.เฉลิมยืนยันว่ารัฐบาลจะจับตัวคนร้ายให้ได้ พาดพิงถึงใครเอาหมด วันนี้ได้ข่าวว่า นักการเมืองที่ทุจริตกลัวตำรวจค้นบ้าน แต่ขอให้ตำรวจทำด้วยความระมัดระวัง เพราะกลัวจะถูกมองว่าเป็นการเอาคืน เรื่องนี้ผู้ต้องหาให้การชัดว่าเกิดจากความแค้น รัฐบาลจะรับผิดชอบการจับกุมสอบสวน ไม่ลูบหน้าปะจมูก นักการเมืองคนไหนมีส่วนร่วมก็จะไม่ละเว้น แม้นักการเมืองจะไม่ได้เป็นการปล้น แต่การรับของโจรก็มีความผิด

 

ถามเชื่อมปชป.ไปถึงภูมิใจไทย

 

นายพิเชษฐ์ถามต่อว่า นายสุพจน์เติบใหญ่ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ มีพรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบกระทรวงคมนาคม กระทรวงนี้เป็นกระทรวงทองคำฝังเพชร การที่คนร้ายบอกว่า น่าจะมีเงินเกินพันล้าน เป็นการปล้นระดับฮอลลีวูด มีคนร้ายมากกว่า 10 คน อยากรู้ว่าจริงหรือไม่ที่บอกว่าการปล้นครั้งนี้เป็นการปล้นสั่งสอน ถ้าไม่เป็นการปล้นสั่งสอนก็เป็นการทวงเงินคืน

 

นายพิเชษฐ์กล่าวว่าตนทราบว่าเป็นเพราะทำมาหากินแล้วไม่แบ่งให้กิ๊ก กิ๊กก็เลยทะเลาะกัน ทำแบบนี้เสียหายวงราชการทั้งประเทศ ถ้าเป็นตำรวจต้องออกราชการไว้ก่อน ดังนั้นถ้ามีการพาดพิงหรือสืบสวนว่า นายสุพจน์มีผลประโยชน์ที่กว้างขวางออกไปจะดำเนินการทางวินัยต่อนายสุพจน์อย่างไร

 

เหลิมแนะต้องสอบจากเงินว่ามาจากไหน

 

ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า พฤติกรรมมีเงินแล้วชี้แจงไม่ได้ บอกว่าเป็นเงินสินสอด ถือว่าผิดปกติ ย้ายมาสำนักนายกรัฐมนตรียังถือว่าน้อยไป แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะตนไม่ได้กำกับดูแล เรื่องคนตายเขายังสืบจากศพ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องสืบจากเงิน ขอให้ดูพลาสติกที่คาดเงินจะรู้ว่าเบิกมาเมื่อไร ธนาคารอะไร บัญชีใคร มีสาเหตุการเบิกเพื่ออะไร

 

“เรื่องนี้การปล้นมีการวางแผน มีข้อมูลอินไซด์ รู้หมดว่าปลัดฯ ไม่อยู่ไปงานแต่งงานลูก และเขาก็ไม่อยากให้เป็นเรื่อง ได้บอกนายตำรวจที่เป็นเพื่อนสนิท ตำรวจคนนั้นก็ตกใจ ก็รีบ ว.บอกต่อกันทันที ทำให้สื่อมวลชนทราบ ทราบว่าเงินส่วนหนึ่งที่ยึดคืนมาได้ เงินบางปึกมีการเบิกมาจากธนาคารที่ จ.อุดรธานี เป็นบริษัทก่อสร้างแถวนั้น มันฮั้วประมูล มันอิทธิพล ประมูลทีไรได้ทุกที เพราะมีการจ่ายใต้โต๊ะ จึงเป็นที่มาของความลำบากของตำรวจ”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

 

ปลัดมีพันล้านแล้วโสภณมีเท่าไร

 

นายพิเชษฐ์ถามต่อว่า สังคมสงสัยทำไมเสนาบดีมีเงินมากมายมหาศาล ปล้นแล้วขนไปไม่หมด อยากทราบว่าพรรคภูมิใจไทยจะว่าอย่างไร เมื่อปลัดฯ มีพันล้าน แล้วนายโสภณ ซารัมย์ (อดีต รมว.คมนาคม) จะมีเท่าไหร่ เป็นหมื่นล้านหรือไม่

 

ทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงที่พาดพิงมาถึงพรรคพร้อมกับขอให้ถอนคำพูดในส่วนที่พาดพิงถึงนายโสภณ ในเรื่องนี้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานในที่ประชุมก็ขอให้นายพิเชษฐ์ถอนคำพูด ซึ่งนายพิเชษฐ์ก็ยอมถอนคำพูด พร้อมกับถามต่อว่า หากมีการสอบสวนพาดพิงไปถึงนักการเมือง ร.ต.อ.เฉลิมจะยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่กลัวอิทธิพล เพื่อประเทศจะได้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี้

 

ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ขอเรียกร้องนายโก้ที่หนีไปลาว ซึ่งเป็นคนอุดรฯภรรยาเป็นคนเวียดนาม ติดต่อมามอบตัว แล้วจะรอดชีวิต ไม่ใช่เพราะตำรวจตามฆ่า แต่เพราะคนที่สั่งให้ไปปล้น กำลังตามล่า ขอให้มอบตัว ถ้าไม่มั่นใจ ตนจะเดินทางไปรับด้วยตัวเอง

 

“มันเอาแน่ เพราะแหล่งข่าวจากการสืบสวนสอบสวนที่เปิดเผยไม่ได้ เป็นความลับทางราชการอธิบายไว้หมดว่า พาดพิงใครบ้าง และพูดถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีน้ำเงิน สีแดง สีเขียว ว่า มีการจ่ายกันกี่เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดมันเจ็บปวดเจ็บแค้น จึงเป็นที่มาของการปล้น ไม่ใช่การปล้นธรรมดา ไม่ได้ประทุษร้าย ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่มีสิ่งซ่อนเร้นในหัวใจคือ การหักกันไปมา ยืนยันว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

 

เหลิมแง้มนักการเมืองไปซื้อบ้านในลอนดอน

 

ขณะนี้สั่งให้ตำรวจส่งข้อมูลให้ ปปง. และ ป.ป.ช. ปลัดฯ ต้องโดนแน่เพราะแจ้งทรัพย์สินเท็จ ผิดประมวลกฎหมายอาญา วันนี้เกรงใจกันไม่ได้ ยืนยันว่าไม่กลัวใคร เพราะตอนเป็นฝ่ายค้านก็ยังอภิปรายรัฐบาลได้ มาวันนี้เป็นรัฐบาลก็ต้องทำตามหน้าที่ ยิ่งไม่กลัวใคร ขอให้สบายใจได้ ถ้าจะตั้งกระทู้ต้องถามว่า “สมมติว่าปลัดมีเท่านี้ รัฐมนตรีมีเท่าไหร่ แล้วลูกพี่ รมต.มีเท่าไหร่” จึงจะไม่ถูกประท้วง เพราะไม่ได้บอกว่าใครทุจริต เป็นเพียงการอุปมาอุปมัย

 

ขณะนี้มันมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ มีนักการเมืองไทยซื้อเป็นแถว แต่ไม่ขอลงลึก โดยเอาเงินคดโกงทุจริตไปซื้อทั้งนั้น บ้านใหญ่โต ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ข้อมูลตำรวจ

 

ชวรัตน์บอกจะพูดอย่างไรก็ได้

 

ทางด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และสส.ระบบบัญชีรายชื่อ เปิดเผยว่า กรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร อ้างว่าคดีคนร้ายปล้นเงินในบ้านพักของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม บางส่วนเป็นเงินจากการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆในสมัยพรรคภูมิใจไทยดูแลกระทรวงคมนาคม ถือเป็นเรื่องทางการเมืองที่นักการเมืองในสภาฯ จะพูดอย่างไรก็ได้เป็นสิทธิ์ของคนพูด ต้องมีการพิสูจน์ความจริง

 

ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องที่ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวในสภาฯไม่เป็นความจริง พรรคภูมิใจไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินในบ้านของปลัดกระทรวงคมนาคม ส่วนที่มีการอ้างไปถึงชื่อ ของบริษัท ชิโน-ไทย เป็นเรื่องของบริษัทเอกชนจะเป็นผู้ไปดำเนินการไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องการเมืองน้ำเน่า

 

“ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องคงต้องขอฟังก่อน หากข้อมูลที่กล่าวหาไม่ถูกต้องและไม่เป็นความจริง อาจตัดสินใจฟ้องหมิ่นประมาทได้เหมือนกัน แต่ทั้งหมดเป็นสิทธิ์ด้วยว่าจะตัดสินใจฟ้องหมิ่นประมาทหรือไม่” นายชวรัตน์ กล่าว.

 

มาร์คสนับสนุนให้สอบตรงไปตรงมา

 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้หารือกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แล้วยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กรณีการเดินหน้าตรวจสอบที่มาของเงินจำนวนมากในบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม และขอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

 

ส่วนที่มีการพาดพิงไปถึงนายโสภณ ซารัมย์ ในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้มีการคุยกับนายโสภณ แต่ยืนยันว่าทุกโครงการที่มีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลขณะนั้นได้มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงคงต้องกลับไปดูว่ามีการกระทำผิดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่

 

เหลิมไม่ลดละโต้ทันทีไม่กลัวถูกฟ้อง

 

ในวันที่ 25 พ.ย.ภายหลังจากนายโสภณแถลงแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตอบโต้ทันทีว่าไม่กลัวที่นายโสภณจะฟ้องร้อง เพราะในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การอภิปรายไม่ได้เอ่ยถึงชื่อใคร ส่วนเงินที่มีการปล้นไปจากบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม นั้น เป็นเงินที่มาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

 

“การตอบกระทู้สดเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ไม่ใช่เป็นการเล่นละครเพื่อกลบประเด็นทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ หรือ น้ำท่วม  แต่ประเด็นที่ชี้แจงไปมีข้อเท็จจริงว่าทำเป็นกระบวนการ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คนในต้องรู้ ไม่คนขับรถ คนที่นำเงินมาให้ หรือก็คนแบกเงินเข้าบ้าน โดยไม่ได้นำมาจากสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีแหล่งข่าวเชื่อถือได้นำข้อมูลมาบอกให้ทราบ นำภาพในกล้องโทรทัศน์วงจรปิดมาให้”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

 

ปล้นบ้านสุพจน์มีทุจริตเกี่ยวข้องล้านเปอร์เซนต์

 

ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า การปล้นบ้านนายสุพจน์ ล้านเปอร์เซ็นต์มีเรื่องทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่บอกนะว่ามีนักการเมืองคนใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ไม่ใช่ว่ากลัวถูกฟ้อง ประเด็นนี้ย้ำไปหลายครั้งแล้วว่า เกิดจากรถไฟฟ้าสายบางซื่อ-บางใหญ่ ที่ตอนแรกจะกู้เงินภายในประเทศจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 2,000 ล้านบาท แต่ภายหลังปรากฎว่าไปกู้เงินจากไจก้าแทน ทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวนั้นไม่ต้องเสีย แล้วพวกอุบาทว์ก็เอาเงินดังกล่าวไปให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เป็นพรรคพวก

 

“เพื่อความชัดเจน ผมเตรียมมาฉายหนังซ้ำอีกไม่เกิน 2-3 อาทิตย์นี้ รับรองสะเทือน ทั้งนี้ผมไม่จำเป็น ต้องเล่นละคร เพราะอายุเยอะแล้ว หากเป็นสมัยอายุ 25 ปีก็ว่าไปอย่าง เพราะยังหล่อเฟี้ยว”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว 

 

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้ใช้อำนาจรองนายกฯ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปแทรกแซงคดีดังกล่าวแต่ก็ไม่ได้บ้าอำนาจหรือทำตัวเกเรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นบ้าน แม้จะมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าก็ตาม อย่างไรก็ตามทราบว่ามีนักการเมืองที่ยากจนที่ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

 

หากได้ตัวนายโก้ทุกอย่างจะคลี่คลาย

 

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากสามารถจับกุมนายโก้ หัวหน้ากลุ่มได้จะทำให้คดีมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ติดต่อมาเพื่อขอมอบตัว ซึ่งขณะนี้ได้ให้ตำรวจภูธรภาค 4 เดินทางไปประเทศลาวแล้ว 

 

อย่างไรก็ตามอาชญากรรมที่สมบูรณ์ มักทิ้งร่องรอยและหลักฐานไว้มากที่สุด อยู่ที่ตำรวจว่าจะมีความเชี่ยวชาญหรือไม่ เรื่องนี้ในทางพฤตินัยรู้แล้วว่าโยงถึงนักการเมือง เขาถึงเต้นเป็นเจ้าเข้า

 

“หากผมไม่กลัวที่ถูกสื่อด่า จะส่งตำรวจไปค้นบ้าน 3-4 หลังข้างๆ เชื่อว่าจะได้อีกหลายพัน เพราะกระทรวงคมนาคม เป็นกระทรวงทองฝังเพชร คนขี้โกงจะหาเงินได้เยอะ อย่าไปบอกใครนะว่าผมรู้จักคุณโสภณ มาตั้งแต่ปี 2531 ตอนนั้นผมเป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ส่วนนายโสภณ เป็นครูประชาบาล อ.ลำปลายมาศ หากเจอหน้าจะหยิกแก้มสักที”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

 

ทีมปล้นปลัดคมนาคมยังหลบหนีอีก 5 สำนักงานป.ป.ง.เรียกสอบฐานร่ำรวยผิดปกติ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลูกค้า1.9 แสนรายประท้วงห้างTarget เปิดขาย Black Friday เที่ยงคืนเร็วไป

November 24, 2011  |   Filed under: ข่าวสั้นในฉบับ  |   Posted by: admin

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนมีรายงานข่าวจากเมืองมินเนียโพลิส สำนักงานใหญ่ของห้าง Target  ได้รับถุงสีแดง-ขาวของห้าง 6 ถุงใหญ่บรรุจด้วยลายเซ็นลูกค้า 190,000 รายประท้วงบริษัทเปิดขายสินค้าเที่ยงคืนของวันแท้งสกีฟวิ่งหรือที่เรียกว่า Black Friday โดยปกติแล้วจะเริ่มเปิดขายตี 3 หรือ ตี 4 ของวันศุกร์

 

นายแอนโทนี ฮาร์ดวิค วัย 29 ปีพนักงานของบริษัทอยู่เมืองโอมาฮา รัฐเนบร้าสก้าก็ไม่เห็นด้วยที่บริษัทเปิดขายเร็วเพราะวันแท้งสกีฟวิ่งเป็นวันที่คนในครอบครัวมารวมตัวกัน โดยเขาได้ยื่นคำร้องไปยังฝ่ายบริหาร “ถ้าคุณให้พนักงานของคุณไปทำงาน 23 น.ในวันแท้งสกีฟวิ่ง พอมาถึงเช้าวันศุกร์พวกเขาก็ง่วงนอน อันเป็นที่ยุ่งที่สุดของปี”

 

ทั้งห้าง Target, Macy’s, Gap, Kohl’s, และ Best Buy ประกาศเปิดเผยสินค้าตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป เพื่อที่จะขายสินค้าให้ได้มากอีกทั้งบริษัทอ้างว่าลูกค้าเรียกร้อง  ทางด้าน Walmart และ Kmart ก็จะเปิดขายในวัน Thanksgiving Day

 

อนาฮิตะ คาเมรอน ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลห้างทาร์เก็ตกล่าวว่าบริษัทยินดีรับความเห็นของพนักงานร่วมทีม แต่การเปิดจำหน่ายเที่ยงคืนเราไม่ได้คิดเอง แต่เป็นเรื่องของการแข่งขัน  ลูกค้าเองก็แสดงความเห็นว่าต้องการเริ่มช้อปทันทีหลังจากได้เฉลิมฉลองกันแล้ว

 

บริแอนนา คาโย ค็อตเตอร์ โฆษกของ Change.org  แจ้งว่าภายหลังจากนายฮาร์ดวิคได้ยื่นคำร้องไปแล้วทำให้มีคนเอาอย่างผ่านเว็บไซท์เพื่อยื่นคำร้องไปยังห้างอื่นๆด้วยอาทิเช่น  Macy’s, Best Buy, Walmart, Kohl’s และห้างสรรพสินค้าอื่นๆ

 

สำหรับห้าง Walmart’s เปิดขายสินค้าวันBlack Friday เริ่ม เวลา 10.00 น.วันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.และเวลาเที่ยงคืน ส่วนวันศุกร์จะเริ่ม 08.00 น. โดยห้างจะแยกขายออกไปแต่ละแผนก

 

ปล. เพราะฉะนั้น เพื่อนๆคิดว่า นักลงทุนต่างๆ ยังมีใจอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือ จะหนีไปเดินห้างฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปฏิทินน้ำมันเครื่อง 2012 นำสาวงาม 6 นางแบบประชันโฉม ไม่สามารถโพสต์ให้ดู ถ้า.....http://apacnews.net/news/?p=14257

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

FRANKFURT (MarketWatch) — U.S. Treasury prices fell Friday as investors prepared to return from the Thanksgiving Day holiday.

 

The yield on 10-year U.S. Treasury notes 10_YEAR +2.82%  rose around 5 basis points to 1.94%, while the 30-year Treasury bond 30_YEAR +1.52%  yield rose 6 basis points to 2.90%.

 

Yields rise as bond prices fall.

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อยู่ที่สำนวนของตำรวจ การทำร้ายร่างกาย กฎหมายได้กำหนดโทษไว้ 3 ระดับคือ ความผิดลหุโทษ คือโทษเบาตามมาตรา 391 ใช่ครับ 500 บาท อีกกรณีคือการทำร้ายร่างกายตามมาตรา 295 กฏหมายมาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

แต่เด็กขายของ กล่าวว่า ก่อนถึงมือตำรวจ โดนอุ้มไปซ้อมในห้องน้ำ ไม่ตายก็นอนหยอดน้ำข้าวต้ม หลายเดือนแล้วครับ แถมฟันหลออีกต่างหาก

กลับไปกินแกงจืดที่บ้านดีกว่า หยอดน้ำข้าวต้มไม่กลัว กลัวฟันหลอ ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...