ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.9% แตะที่ 1.3118 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลา 08.50 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรตั๋วเงินคลังของสเปนที่ปรับตัวลดลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการกู้ยืมและภาระหนี้สินของรัฐบาลสเปน

 

รัฐบาลสเปนสามารถจำหน่ายตั๋วเงินคลังในวันนี้เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5.64 พันล้านยูโร (ราว 7.36 พันล้านดอลลาร์) ในวันนี้ ซึ่งมากกว่าเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ โดยให้อัตราผลตอบแทนสำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนที่ 1.735% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ 5.11% และให้อัตราผลตอบแทนสำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนที่ 2.435% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อนที่ 5.227%

 

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 107.2 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับ 106.6 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และสะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของเยอรมนี

 

นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ เอจี กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่แข็งแกร่งของเยอรมนี ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้และยังช่วยหนุนสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นด้วย หลังจากที่ยูโรอ่อนตัวลงเมื่อวานนี้ ภายหลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตือนว่าวิกฤตหนี้สาธารณะทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงมากขึ้น

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 20 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ส่งออกพ.ย.จมน้ำโตติดลบ12.4% ยานยนต์-ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์อาการหนัก (21/12/2554)

ASTVผู้จัดการรายวัน-น้ำท่วมฉุดส่งออกพ.ย.ขยายตัวติดลบ 12.4% ครั้งแรกในรอบ 25 เดือน เผยสินค้ากลุ่มยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ยอดวูบหนัก หลังโรงงานจมน้ำ แต่สินค้าเกษตรยังคงขยายตัวได้ดี "ศิริวัฒน์"คาดเดือนธ.ค.ชะลอตัวอีก แต่เป้าทั้งปี 15% ทำได้แน่นอน ส่วนปี 55 ยังคงเป้าที่ 15% แม้ปัจจัยลบเพียบ

        นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนพ.ย.มีมูลค่า 15,498 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 12.4% เป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 25 เดือน นับจากต.ค.2552 ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ หลังจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้การส่งออกสินค้าสำคัญๆ หลายรายการลดลง ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 16,872 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.4% ทำให้เดือนนี้ขาดดุลการค้ามูลค่า 1,373 ล้านเหรียญสหรัฐ

        ส่วนการส่งออกในช่วง 11 เดือนของปี 2554 (ม.ย.-พ.ย.) มีมูลค่ารวม 211,809 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% การนำเข้ามีมูลค่ารวม 209,345 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25.5% โดยไทยยังคงเกินดุลการค้ามูลค่า 2,465 ล้านเหรียญสหรัฐ

        ทั้งนี้ คาดว่า การส่งออกในเดือนธ.ค.2554 จะยังคงขยายตัวติดลบ แต่ตัวเลขไม่น่าจะถึงสองหลัก และทำให้การส่งออกรวมทั้งปี 2554 จะยังคงขยายตัวได้ 15% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

        นายศิริวัฒน์กล่าวว่า สินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลงและมีผลทำให้มูลค่าการส่งออกในเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลง ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย คือ ยานยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วน ลดลง 54.7% เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ลดลง 47.4% ของเล่น ลดลง 42.5% เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลง 21.9% อัญมณีและเครื่องประดับ ลดลง 10.8% ทองคำยังไม่ขึ้นรูป ลดลง 16.8% เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ลดลง 10.3% ส่วนสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เพิ่มขึ้น 20.1% เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ 13.5% อาหารสัตว์เลี้ยง 10.4%

        ส่วนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง 11.3% โดยมีสินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา ขยายตัวทั้งปริมาณและมูลค่า 14.9% และ 24.1% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น 28.6% และ 20.2% สินค้ากลุ่มอาหาร เพิ่มขึ้น 11.3% เช่น กุ้งแช่แข็งและแปรรูป เพิ่มขึ้น 14.3% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เพิ่มขึ้น 6.2% เป็นต้น น้ำตาล เพิ่มขึ้น 172.6% ส่วนข้าว ปริมาณและมูลค่าลดลง 27.7% และ 21.1% ตามลำดับ

        ขณะที่การนำเข้าในเดือนพ.ย. ขยายตัวลดลงเกือบทุกกลุ่มสินค้า ยกเว้นสินค้าอุปโภคบริโภค โดยสินค้าเชื้อเพลิงลดลง 6.1% สินค้าทุน ลดลง 2.9% สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ลดลง 2.7% สินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มขึ้น 8.6% จากการเพิ่มขึ้นของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ลดลง 3.4% และอาวุธ ยุทธปัจจัย และสินค้าอื่นๆ ลดลง 1.9%

        ทางด้านตลาดส่งออก ตลาดหลักส่งออกลดลง 16.9% เป็นการส่งออกลดลงของตลาดสหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐฯ และญี่ปุ่น 28.8%, 13.9% และ 8.7% ตามลำดับ ตลาดศักยภาพสูง ส่งออกลดลง 8.4% โดยฮ่องกงลดลง 43.6% เกาหลีใต้ ลดลง 11.3% ไต้หวัน ลดลง 11% จีน ลดลง 9.7% ส่วนอินโดจีนและพม่า และอาเซียน 5 ประเทศ ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.8% และ 0.9% ตลาดศักยภาพรอง ส่งออกลดลง 19.8% โดยทวีปออสเตรเลีย ลดลง 33.1% ตะวันออกกลางลดลง 32.8% รัสเซียและ CIS ลดลง 24.6% แอฟริกา ลดลง 17.2% เป็นต้น ส่วนลาตินอเมริกา ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18.4%

        นายศิริวัฒน์กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยในปี 2555 คาดว่าไตรมาสแรกจะยังคงชะลอตัว เนื่องจากโรงงานในอุตสาหกรรมยังคงไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าสำคัญๆ เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ แต่ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป สินค้ากลุ่มนี้น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกอย่างเข้มข้น เพื่อชดเชยยอดการส่งออกที่คาดว่าจะหายไป โดยจะมุ่งการบุกเจาะตลาดอาเซียน จีน อินเดีย และลาตินอเมริกา และเน้นสินค้าในกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ และกลุ่มสินค้าเกษตร เป็นต้น

        ส่วนเป้าหมายการส่งออกในปี 2555 ได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 15% โดยมีปัจจัยเสี่ยงอยู่ที่การฟื้นตัวของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และอัตราการแลกเปลี่ยน แต่จะพยายามผลักดันให้การขยายตัวเป็นไปได้ตามเป้า โดยจะต้องมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆ คาดว่า หลังจากไตรมาสแรกผ่านไปแล้ว น่าจะมองเห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

 

ที่มา : ASTVผู้จัดการรายวัน (วันที่ 21 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ เมื่อคืนที่ผ่านมา(20 ธ.ค.54) ดัชนีปรับขึ้นแรงกว่า300จุดหลังตลาดได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่แข็งแกร่งของเยอรมนี และสหรัฐมีการรายงานตัวเลขสร้างบ้านของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1

 

หลังปิดตลาดดาวโจนส์บวกเพิ่ม 337.32 จุด หรือ 2.87% ปิดที่ 12,103.58 จุด ดัชนี เอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 35.95 จุด หรือ 2.98% ปิดตลาดที่ระดับ 1,241.30 จุด ดัชนี แนสแดคบวก 80.59 จุด หรือ 3.19% ปิดตลาดที่ ระดับ2,603.73 จุด

 

ด้านราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(NYMEX)งวด ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 3.34 ดอลลาร์ หรือ 3.44% ปิดตลาดที่ระดับ  97.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดนิวยอร์ก(COMEX)  ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 20.90 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดตลาดที่ระดับ 1,617.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ (วันที่ 21 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงินจากธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.22/25 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.30/32 บาท/ดอลลาร์

 

โดยวันนี้มองว่าเงินบาทคงไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากเข้าใกล้ช่วงสิ้นปี การทำธุรกรรมทางการเงินจึงค่อนข้างเบาบาง  "ปัจจัยวันนี้คงไม่มีอะไร ส่วนใหญ่ปิด book กันหมดแล้ว น่าจะมีอะไรที่เป็น real จริงๆ พวก export-import มากกว่า" นักบริหารเงิน ระบุส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 77.87/90 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3108/3112 ดอลลาร์/ยูโร คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย. และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20-31.30 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 21 ธันวาคม 2554)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่สำนักข่าวเกียวโดสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.1% ในการประชุมวันนี้ และจะคงขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์มูลค่า 20 ล้านล้านเยน และโครงการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 35 ล้านล้านเยนเพื่อสนับสนุนให้สถาบันการเงินมีความสามารถในการปล่อยเงินกู้ให้กับภาคธุรกิจได้มากขึ้น

 

นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยที่ทำให้บีโอเจยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินก็เพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลก

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าบีโอเจจะปรับลดการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ -4 จุดในไตรมาสเดือนธ.ค. จากไตรมาสเดือนก.ย.ที่ระดับ +2 จุด เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนและเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกลุ่มผลผลิตญี่ปุ่น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 21 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ครับ ทุกๆท่าน ราคาทองพุ่งแรงเลยครับ

 

ทองคำปิดพุ่ง 20.9 ดอลล์

 

21 ธันวาคม 2554 เวลา 08:03 น. |

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นวันแรกในรอบ 7 วัน หลังดอลล์ร่วงเทียบยูโร

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 20.9 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,617.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,594.10 - 1,620.80 ดอลลาร์

 

ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าถือครองทองคำ ซึ่งจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้มูลค่าของสัญญาทองคำน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลสเปนปรับตัวลดลงในการประมูลขายตั๋วเงินคลังและพันธบัตรเมื่อวานนี้ รวมทั้งรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 107.2 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับ 106.6 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2

 

ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลง 0.6% มาอยู่ที่ระดับ 79.864 จุด

http://www.posttoday.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 21 ธันวาคม 2554 06:44

ฟิทช์หั่นเรตติ้งแนวโน้มเครดิต4แบงก์ฝรั่งเศส

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

news_img_425525_1.jpg

ฟิทช์ลดแนวโน้มเครดิตธนาคารฝรั่งเศส 4แห่งพร้อม"จับตา"ธนาคารอิตาลี 7 แห่งและธนาคารสเปน 8 แห่ง

 

ฟิทช์ลดแนวโน้มเครดิตธนาคารฝรั่งเศส 4แห่งพร้อม"จับตา"ธนาคารอิตาลี 7 แห่งและธนาคารสเปน 8 แห่ง

ฟิทช์ ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารฝรั่งเศส 4แห่ง รวมทั้ง โซซิเอเต เจเนอราล เป็นลบ พร้อมทั้งจับตาธนาคารอิตาลี 7 แห่งและธนาคารสเปน 8 แห่ง

 

ทั้งนี้ ฟิทช์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำโลก สัญชาติสหรัฐ ระบุว่า ได้ทบทวนแนวโน้มเสถียรภาพเป็นลบแก่ธนาคาร โซซิเอเต เจเนอราล กรุ๊ป บีพีซีอี ธนาคารเด็กเซีย เครดิต โลคัล และธนาคารเลอ แบงก์ โพสเทล ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือมากที่สุดหลังจากที่ประกาศลดแนวโน้มเรตติ้งพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นลบ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีขึ้นหลังจาก ฟิทช์ ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศสที่ AAA แต่ได้ทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของฝรั่งเศสเป็น"ลบ" จากระดับ"เสถียรภาพ" โดยให้เหตุผลเรื่องความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ในยูโรโซน

 

นอกจากนี้ ฟิทช์ ซึ่งถือเป็น1 ใน 3 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือโลก ยังจัดให้ธนาคาร 7 แห่งของอิตาลีอยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ ส่วนธนาคารของสเปน 8 แห่งจัดในอยู่ในกลุ่ม"เรตติ้งที่ต้องจับตามองเชิงลบ"

http://www.bangkokbiznews.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Kk หวัดดีตอนเช้าคะคุณเด็กขายของ ขอบคุณนะคะทานกาแฟแล้วยังคะ :gvme

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดทองเอเชีย:ราคาทองปรับตัวขึ้นเช้านี้รับข้อมูลศก.สดใส,ยูโรแข็งค่า

 

 

ราคาทองปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ โดยบวกขึ้นต่อเนื่อง จากเมื่อวานนี้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐและเยอรมนีช่วยเพิ่มความ เชื่อมั่นในตลาด และยูโรได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในตั๋วเงินคลังสเปน

 

ณ เวลา 09.07 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,623.29 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.ของสหรัฐ บวก 0.5% สู่ 1,625.8 ดอลลาร์ จาก 1,617.60 ดอลลาร์ในช่วงปิดตลาด วานนี้

 

ตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้โดยได้รับแรงหนุนจาก ตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐและดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่อยู่ใน ระดับแข็งแกร่ง โดยการดิ่งลงอย่างรุนแรงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล สเปนมีส่วนช่วยหนุนตลาดด้วย

 

 

นักลงทุนจะจับตาการปล่อยสินเชื่อระยะ 3 ปีครั้งแรกของธนาคาร กลางยุโรป (อีซีบี) สำหรับธนาคารพาณิชย์ โดยสินเชื่อนี้มีจุดประสงค์ เพื่อช่วยลดต้นทุนการระดมทุนของธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความ แน่นอนในเรื่องที่ว่าธนาคารพาณิชย์จะยื่นขอกู้เงินดังกล่าวในระดับที่มากเพียงใด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 0.64% เปิดที่ 2,230.18 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 0.88% เปิดที่ 9,111.32 จุด

 

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ เนื่องจากข้อมูลตัวเลขเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกของเอเชียมีแนวโน้มสดใสในวันนี้

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,442.74 จุด เพิ่มขึ้น 106.26 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,462.64 จุด เพิ่มขึ้น 382.44 จุด ส่วนดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 6,878.63 จุด เพิ่มขึ้น 215.99 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,837.99 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด ดัชนี FBMKLCI

 

 

 

ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,472.92 จุด บวก 7.75 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,072.70 จุด เพิ่มขึ้น 19.60 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,656.71 จุด เพิ่มขึ้น 42.26 จุด

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index บวก 1.1% แตะ 112.17 จุด เมื่อเวลา 9.29 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว

 

หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ พุ่ง 2.2% ในตลาดหุ้นโตเกียว ส่วนหุ้นเจมส์ ฮาร์ดี อินดัสทรีส์ พุ่ง 2.6% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่ง 2.9% ขานรับราคาน้ำมันดิบและทองแดงที่ปรับตัวสูงขึ้น

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 9.3% แตะระดับ 685,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 635,000 ยูนิต

 

 

ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2553 เพราะได้แรงหนุนจากความต้องการเช่าซื้อที่อพาร์ทเมนท์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งข้อมูลการสร้างบ้านที่แข็งแกร่งเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ถูกกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษทะยานขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุด รอบ 1 สัปดาห์ในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากการดิ่งลงของต้นทุนการกู้ยืม ของสเปน และจากตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของเยอรมนี โดยปัจจัยเหล่านี้ช่วยบดบัง ความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ยูโรโซน

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 54.61 จุด หรือ 1.02 % สู่ 5,419.60 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,328.67-5,426.28 โดยระดับปิดวันอังคารถือเป็นระดับ ปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. ส่วนวอลุ่มการซื้อขายอยู่ที่ 85 % ของค่าเฉลี่ย 90 วัน

 

ต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นของสเปนรูดลงกว่าครึ่งหนึ่ง ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ หลายแห่งเข้าซื้อตั๋วเงินคลังสเปนในการเปิดประมูล โดยเป็นที่เชื่อกันว่ากำลังซื้อ ของธนาคารกลุ่มนี้มาจากสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

 

สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเช่นหุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงหนุนจาก ตัวเลขของสถาบัน Ifo ของเยอรมนีและตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ โดย Ifo รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนี พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือน ธ.ค. โดยทะยานขึ้นสู่ 107.2 ในเดือนธ.ค. จาก 106.6 ในเดือนพ.ย. และเทียบกับ ตัวเลขคาดการณ์ที่ 106.1 สำหรับเดือนธ.ค.

ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐพุ่งขึ้น 9.3 % สู่ 685,000 ยูนิตต่อปีใน เดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2010

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษพุ่งขึ้น 1.79 % ในวันอังคาร หลังจากดิ่งลง ในวันจันทร์โดยได้รับแรงกดดันจากข้อเสนอในการแยกแผนกลูกค้ารายย่อยและแผนก วาณิชธนกิจในธนาคารออกจากกัน

 

ดัชนี FTSE 100 ดิ่งลงมาแล้วกว่า 8 % จากช่วงต้นปีนี้ โดยนายแอนดรูว์ เบลล์ ซีอีโอของบริษัทไวแทน อินเวสท์เมนท์ ทรัสต์กล่าวว่า ตลาดหุ้นมีความน่าดึงดูดใน ช่วงนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับพันธบัตรของรัฐบาลบางประเทศ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. ที่ 1,618.26 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันอังคาร ในขณะที่ยูโร/ดอลลาร์ทะยานขึ้น 1 % แต่วอลุ่มการซื้อขายอยู่ในระดับเบาบาง และเทรดเดอร์ระยะสั้นไม่ต้องการจะเสี่ยง ลงทุนขนาดใหญ่ก่อนสิ้นปี

 

 

ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนก.พ.ของสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.31 %

 

เทรดเดอร์ระยะยาวหลายคนได้ปิดบัญชีการซื้อขายสำหรับปีนี้ไปแล้ว ซึ่งอาจ ส่งผลให้ราคาทองเคลื่อนตัวไซด์เวย์จนถึงปี 2012

 

อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับขึ้นพร้อมกับตลาดหุ้น โดย ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ, ความสำเร็จของสเปนในการเปิด ประมูลตั๋วเงินคลัง และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่พุ่งขึ้นในเยอรมนี โดยปัจจัย เหล่านี้กระตุ้นให้นักลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง

 

ราคาทองสปอตยังไม่สามารถทะยานขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 1,621.43 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ โดยนักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคกล่าวว่าการพุ่งขึ้น เหนือระดับดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อราคาทอง

 

ความเชื่อมั่นในทองยังคงอยู่ในภาวะเปราะบาง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ผู้กำหนดนโยบายไม่ได้ใช้ความพยายามมากพอในการแก้ไขวิกฤติหนี้ยูโรโซน และปัจจัยนี้ อาจส่งผลลบต่อยูโร/ดอลลาร์

สวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยในวันอังคารว่า รัสเซียส่งออกพัลลาเดียม 5.16 ตัน

ให้แก่สวิตเซอร์แลนด์ในเดือนพ.ย. โดยรัสเซียถือเป็นผู้ส่งออกพัลลาเดียมรายใหญ่ที่สุดในโลก

 

 

แอฟริกาใต้ส่งออกพลาตินั่ม 3.7 ตันในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของปีนี้

 

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

ทองเดือนก.พ. 1,617.60 + 20.90

เงินเดือนมี.ค. 29.536 + 66.20(เซนต์)

 

ส่วนราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

พลาตินั่มเดือนม.ค. 1,432.90 + 19.30

พัลลาเดียมเดือนมี.ค. 628.60 + 10.90

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แม้จะเร่งเดินหน้าหารือพูดคุย รวมถึงผลักดันมาตรการต่างๆ ออกมายับยั้งวิกฤตหนี้ไม่ให้บานปลาย

 

 

แม้จะเร่งเดินหน้าหารือพูดคุย รวมถึงผลักดันมาตรการต่างๆ ออกมายับยั้งวิกฤตหนี้ไม่ให้บานปลาย

 

แต่ดูเหมือนว่า การประชุมสุดยอดผู้นำในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) รวมถึงรัฐมนตรีการคลังกลุ่มอียูตลอดทั้งปีที่ผ่านมาจะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นสักเท่าไรนัก

นอกเสียจากบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก จนยากที่จะฟื้นคืนกลับมาได้เร็ววัน

 

กระทั่งวิกฤตหนี้สาธารณะในกลุ่มยูโรโซนได้เขยิบฐานะเข้าขั้นเลวร้ายขีดสุดที่อาจนำไปสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจระลอกใหม่

คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จึงต้องออกมาส่งแรงกระตุ้นเตือนครั้งใหญ่แบบเสียงดังฟังชัดว่า วิกฤตหนี้ที่เกิดขึ้นในยุโรปในขณะนี้ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนเฉพาะประเทศในแถบยุโรปเท่านั้น

 

ที่มา : ข่าวราคายาง (วันที่ 21 ธันวาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...