ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ หลังภาคการผลิตยูโรโซนหดตัว

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555 07:02:18 น.

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิค รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

 

 

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.60% แตะที่ 1.3157 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3236 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.12% แตะที่ 1.6198 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6218 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 80.110 เยน จากระดับ 80.070 เยน และพุ่งขึ้น 0.63% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9132 ฟรังค์ จากระดับ 0.9075 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.04% แตะที่ 1.0328 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0332 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.52% แตะที่ 0.8105 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8147 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากมาร์กิต อิโคโนมิค รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 จุดในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552 และเป็นการเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

 

ขณะที่อัตราว่างงานในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 10.9% ในเดือนมี.ค. จาก 10.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีนับแต่เริ่มใช้เงินยูโรในปี 2542 โดยสเปนมีอัตราว่างงานสูงสุดที่ 24.1%

 

นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะใช้มาตรการจัดสรรสภาพคล่องระยะยาว (LTRO) รอบที่ 3 หรือการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่ 1% เป็นระยะเวลา 3 ปีแก่ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน ซึ่งธนาคารกลางยุโรปได้ดำเนินการไปแล้ว 2 ครั้ง คือในช่วงปลายเดือนธ.ค.2554 และปลายเดือนก.พ.2555 ที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยในขณะที่การแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสุดท้ายของฝรั่งเศสระหว่างนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี และนายฟรังซัวร์ ออลลองด์ ดำเนินไปอย่างเข้มข้นนั้น ปัญหาอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงของฝรั่งเศสกำลังกลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของนายซาร์โกซี

 

กระทรวงแรงงานฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ฝรั่งเศสมียอดผู้ลงทะเบียนว่างงานอยู่ที่ 4.582 ล้านคน ณ สิ้นเดือนมี.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวกำลังสร้างแรงกดดันให้กับนายซาร์โกซี และอาจจะเป็นบทพิสูจน์ว่าเขาจะได้รับความไว้วางใจจากชาวฝรั่งเศสให้ยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งหรือไม่

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

[DonJuan 4,685]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณ foo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ Madee คุณ forgame คุณ noonoon_ja คุณ luk คุณ 96Needle คุณ ดอกเหมยสีทอง และทุกๆท่านครับ(ขออภัยที่เอ่ยนามไม่ครบครับ)

 

วันนี้จะให้สวยๆไม่ควรหลุดลงไปต่ำกว่า 1648-1649 อีก แนวต้านใหญ่แรกที่น่าจะไปชนแล้วติดคือ 1669-1670 ต้านต่อไปก็ 1680 วันนี้เดาว่าน่าจะป้วนเปี้ยนแถว 1651-1656 แล้วจากนั้นกระชากราคาไปหาแนวต้านครับ วันนี้โอกาสน้อยที่จะลงไปย้พแนวรับนะครับ

 

วันนี้เดาว่าน่าจะขึ้นในช่วง บ่าย 2 หรือ 4 ทุ่ม นะครับ โอกาสลากหลังตี 1 ยังมีครับผม(รอเมื่อไหร่จะจัดหนัก) ถ้าไม่มีลากรุนแรงน่าจะยืนแถว 1675 ครับ ถ้าลากแบบรุนแรงหลังตี 1 อาจไปได้ถึง 1700 + นะครับ

 

ทั้งเดา ทั้งดันแบบเชียร์ขาดใจว่า วันนี้พรุ่งนี้ ขึ้นแน่นอน มากหรือน้อยเท่านั้นครับ

มั่วมากกว่าแม่น แต่ยังไงก็ จะดันต่อไป หวังว่า อ้ายกัน จะเห็นใจในสักครา

[Pete 15,187]

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555 07:11:16 น.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 94 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 105.22 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 106.05 - 104.92 ดอลลาร์

 

 

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอน ร่วงลง 1.46 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 118.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 117.64-119.80 ดอลลาร์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 เม.ย.พุ่งขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 375.9  ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล

 

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 124.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.0 ล้านบาร์เรล แตะที่ 209.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3% แตะที่ 86.0% มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4%

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 — 177,000 ตำแหน่ง

 

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลง 1.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์การขนส่ง ซึ่งรวมถึงเครื่องบิน ดิ่งลงอย่างหนัก

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[Pete 15,187]

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555 06:40:41 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และรายงานที่ว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1,654 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1654.0 - 1652.0 ดอลลาร์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 28.5 เซนต์ ปิดที่ 30.645 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 5.45 เซนต์ ปิดที่ 3.7855 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 7.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,564.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 11.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 669.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานและทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 — 177,000 ตำแหน่งโดยประมาณ

 

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลง 1.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์การขนส่งปรับตัวลดลงอย่างมาก

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า อัตราว่างงานในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 10.9% ในเดือนมี.ค. จาก 10.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีนับแต่เริ่มใช้เงินยูโรในปี 2542

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ (dollar index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 79.12 จุดเมื่อคืนนี้ จากระดับของวันอังคารที่ 78.82 จุด

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[meng166 131]

ขอขอบใจหลาย

[ariya 1,481]

เอาน่า(จริงๆต้องเอาตรงอื่น) เจ้ครับ ราคาผม ถัว เพราะเสี้ยนแล้วก็ 24170 อ่ะครับ ไม่ต่างกันมาก วันนี้น่าจะรู้ผลว่า นรกมีจริง หรือสวรรค์รำไร ช่วงนี้ดูจะมีมรสุมเยอะ สวดมนต์ไหว์พระทำบุญด้วยนะครับ

 

เออ เป็นเพื่อนกัน แต่ เริ่ม นับ 1 1.01 1.02 ..... 0 แสดงว่าเราจะลดความสัมพันธ์ กันไปเรื่อยๆ ใช่ป่าว ถ้า ใช่ วันนี้ปล่อยให้เหงา ไปอีกวัน

 

เมื่อวาน หงอย กันทั้ง ห้อง บอกแล้ว เจ้พวก รส อู นา มิ ขอร้องป๋า ไม่ต้องอ๊วก

[Pete 15,187]

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555 06:02:39 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในสหรัฐและยูโรโซน หลังจากมีรายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด และผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนเม.ย. รวมทั้งอัตราว่างงานในยูโรโซนที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี

 

 

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.4% ปิดที่ 257.39 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6710.77 จุด ลบ 50.42 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3226.33 จุด บวก 13.53 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5758.11 จุด ลบ 54.12 จุด

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากมีรายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 13268.57 จุด ลบ 10.75 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1402.31 จุด ลบ 3.51 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3059.85 จุด บวก 9.41 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 94 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 105.22 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 106.05 - 104.92 ดอลลาร์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และรายงานที่ว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1,654 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง1654.0 - 1652.0 ดอลลาร์

 

-- สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิค รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและกรีซ

 

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.60% แตะที่ 1.3157 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3236 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.12% แตะที่ 1.6198 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6218 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 80.110 เยน จากระดับ 80.070 เยน และพุ่งขึ้น 0.63% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9132 ฟรังค์ จากระดับ 0.9075 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.04% แตะที่ 1.0328 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0332 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.52% แตะที่ 0.8105 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8147 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.)  หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิค รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ กำลังชะลอตัวลงอย่างมาก

 

ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 54.12 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 5,758.11 จุด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[Pete 15,187]

นักวิเคราะห์มั่นใจเศรษฐกิจจีนจะไม่ทรุดตัวรุนแรง หลังภาคการผลิตฟื้นตัว (03/05/2555)

นายเซิน เจียงกวาง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมิซูโฮ ซิเคียวริตีส์ เอเชีย กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนจะไม่ทรุดตัวลงอย่างรุนแรง เนื่องจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) รายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบกับเดือนก่อน มาอยู่ที่ระดับ 53.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันและแตะสถิติสูงสุดในรอบ 12 เดือน

 

นายเซินกล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในรอบนี้จะถึงจุดต่ำสุดเมื่อนั้น จะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งและจังหวะในการผ่อนคลายนโยบาย และหากขั้นตอนดังกล่าวเกิดขึ้นช้ากว่าคาดการณ์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ก็อาจจะขยายตัวเหนือระดับ 8.1%

 

เขากล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 หรือไม่ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งในการปรับนโยบายในระดับมหภาค เช่น การปรับโครงสร้างเงินกู้ในระยะกลางและระยะยาว และการส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

 

มิซูโฮ ซิเคียวริตี้ส์ เชื่อว่า จีนจำเป็นต้องปรับลดสัดส่วนเพดานกันสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์ (RRR) สำหรับเงินฝากลง แต่ก็เชื่อว่าจีนจะไม่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวในระยะสั้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2555)

 

[Pete 15,187]

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 เม.ย.พุ่งขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 375.9  ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล

 

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 124.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.0 ล้านบาร์เรล แตะที่ 209.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3% แตะที่ 86.0% มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4%

 

สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่ได้รายงานในข้างต้นนั้น ไม่นับรวมกับน้ำมันในคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2555)

 

[Pete 15,187]

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.88/90 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.84/86 บาท/ดอลลาร์ สาเหตุที่เงินบาทอ่อนค่าเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เพราะยังมีความกังวลเกี่ยวกับข่าวในยุโรปซึ่งต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดวันนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 80.16 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3141/3142 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า มองกรอบไว้ที่ 30.85-30.95 บาท/ดอลลาร์ โดยให้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) คืนนี้, การเลือกตั้งของประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศสและกรีซ นอกจากนี้ตลาดยังรอดูตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศในยุโรป เช่น สเปน เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี

 

"ข่าวที่มีตอนนี้ค่อนข้างเป็นข่าวลบกับยูโร และคนเริ่มมองว่าค่าเงินยูโรลงต่อ แต่ถ้าเทียบวันนี้กับเมื่อวาน ก็ยังไม่ได้ลงเยอะ" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2555)

 

[Pete 15,187]

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลง 1.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์การขนส่ง ซึ่งรวมถึงเครื่องบิน ได้ดิ่งลงอย่างฮวบฮาบ

 

สำหรับยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนก.พ.ถูกปรับทบทวนเป็นเพิ่มขึ้น 1.1% จากที่เพิ่มขึ้น 1.3% ในรายงานครั้งก่อน

 

สาเหตุหลักที่ทำให้ยอดสั่งซื้อเดือนมี.ค.ร่วงหนักนั้น เนื่องมาจากยอดสั่งซื้อในภาคการขนส่งร่วงลง 12.6% อันเป็นผลมาจากยอดสั่งซื้อเครื่องบินพลเรือนหรือเครื่องบินพาณิชย์ที่ดิ่งลงเกือบ 50%

 

แต่หากไม่รวมยอดสั่งซื้อสินค้าด้านการขนส่งที่มีความผันผวน ปรากฏว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานทรงตัวในเดือนมี.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.พ.

 

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาแพงและมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 3 ปี ลดลง 4.0% ในเดือนมี.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ไม่รวมอากาศยาน ลดลง 0.8%

 

อย่างไรก็ดี ยอดสั่งสินค้าไม่คงทน อาทิ อาหารและปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเดือนก่อนหน้า

 

ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าทุนนอกภาคกลาโหมซึ่งไม่รวมอากาศยาน ลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนก.พ. โดยนักเศรษฐศาสตร์จับตาดูสินค้าหมวดนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นข้อมูลที่ใช้ประเมินแผนการลงทุนทางธุรกิจ

 

นอกจากนี้ ยอดขนส่งสินค้าทุนนอกภาคกลาโหมซึ่งไม่รวมอากาศยาน เพิ่มขึ้น 2.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนก.พ.โดยข้อมูลนี้ถูกนำไปใช้ในการคำนวณผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐ

 

ทั้งนี้ กิจกรรมภาคการผลิตส่งสัญญาณหยุดนิ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจุดปะทุความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับความยั่งยืนของการฟื้นตัว

 

อย่างไรก็ดี รายงานยอดสั่งซื้อภาคโรงงานมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานวานนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 54.8 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 53.4 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 53 จุด

 

โดยดัชนีภาคการผลิตดังกล่าวบ่งชี้ว่ายอดสั่งซื้อเดือนเม.ย.อาจจะกลับมาดีดตัวขึ้น

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2555)

 

[Pete 15,187]

พันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สภาพเศรษฐกิจยุโรปจะย่ำแย่ลงอีกและส่งผลกระทบต่อวิกฤตการเงินในภูมิภาคยิ่งกว่าเดิม หลังจากที่มีการรายงานข้อมูลภาคการผลิตที่หดตัวลงในเดือนเม.ย.

 

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับตัวลง 0.06% แตะระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 1.608% และอยู่ที่ระดับ 1.609% เมื่อเวลา 14.07 น.ตามเวลาลอนดอน

 

มาร์กิต อิโคโนมิค รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552 และนับเป็นเดือนที่ 9 แล้วที่ดัชนีเคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2555)

 

[Pete 15,187]

ค่าเงินยูโรร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยน เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันพรุ่งนี้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

ปล. สถานการณ์ตอนนี้ จากการบอกกล่าว หรือจะเรียกว่า ปล่อยข่าว ของการประชุม ECB เย็นนี้ เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง จาก 1% ลงมาเหลือ 0.75% ทำให้เกิดแรงกดค่าเงินยูโรให้ร่วงลงมาโดยตลอดจากเมื่อเย็นวานนี้ เพราะถ้ามีการปรับลดเกิดขึ้นจริง เมื่อนั้น ค่าเงินยูโรที่มีการคาดเดา คือ ต่ำกว่า 1.3000 ทั้งนี้ ก็คงขึ้นอยู่กับคำพูดขอบประธานฯ อีซีบี ที่จะมีมาตรการอะไรออกมา ที่จะเรียกความเชื่อมั่นต่อค่าเงินยูโรให้กลับมา ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นในการเรียกร้องให้กลุ่มประเทศยูโร ดูแลเงินเฟ้อ จากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น และ การเร่งภาคการส่งออกของแต่ละประเทศ เพื่อให้เกิดการสร้างงานในประเทศเหล่านั้น

 

เมื่อไหร่ที่ ECB แถลงข่าวเรื่องดอกเบี้ย ค่าเงินยูโรก็คงผ่อนคลาย เพิ่มขึ้น

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 3, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

ราคาทองฟิวเจอร์ลดลงต่อเนื่อง หลังดอลล์แข็ง,คาดเฟดอาจไม่กระตุ้นศก.เพิ่ม (03/05/2555)

ราคาสัญญาทองคำปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่นักลงทุนคาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจช่วยลดความจำเป็นในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 0.6% แตะที่ 1,652.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 08.01 น. ตามเวลาในนิวยอร์ก

 

ทั้งนี้ เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 9 ขณะที่อัตราว่างงานในยูโรโซนปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้านเยอรมนีเปิดเผยจำนวนคนว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น

 

มาร์กิต อิโคโนมิค รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.9 จุดในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552 และเป็นการเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

 

ขณะที่อัตราว่างงานในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 10.9% ในเดือนมี.ค. จาก 10.8% ในเดือนก.พ. โดยเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีนับแต่เริ่มใช้เงินยูโรในปี 2542

 

ด้านสำนักงานแรงงานของรัฐบาลกลางเยอรมนีรายงานว่า จำนวนคนว่างงานในเดือนเม.ย.หลังจากที่ปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว เพิ่มขึ้น 19,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 2.87 ล้านคน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นโดยไม่คาดหมาย สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลง

 

ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ยูโรร่วงลง และทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในทางกลับกับ ซึ่งการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดใจน้อยลง

 

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดระบุว่า ดอลลาร์เริ่มปรับตัวลดลงจากระดับสูง หลังจาก ADP เปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ซึ่งดอลลาร์ที่ปรับตัวลงช่วยพยุงให้ทองคำขยับขึ้นจากระดับต่ำมาอยู่ที่ 1,654.20 ดอลลาร์ ณ เวลา 20.12 น.ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งราคาดังกล่าวลดลง 8.2 ดอลลาร์จากระดับปิดเมื่อวานนี้

 

โดยวานนี้ (1 พ.ค.) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กลดลง 1.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,662.4 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ใช้มาตรการผ่อนคลายในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งและรวดเร็วที่สุดในรอบ 10 เดือน

 

สมาชิก 3 คนของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ระบุก่อนหน้านี้ว่า พวกเขาไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงขยายตัว

 

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานวานนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 54.8 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 53.4 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 53 จุด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2555)

 

[Pete 15,187]

นายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวกับสถานีวิทยุบีบีซีว่า เศรษฐกิจของอังกฤษมีการฟื้นตัวที่อ่อนแอและเชื่องช้ากว่าที่คาด ขณะที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงเกินไป พร้อมเตือนว่าวิกฤติหนี้ของยุโรปยังไม่มีแนวโน้มสิ้นสุดลงและจะยังคงเป็นปัจจัยถ่วง

 

อัตราเงินเฟ้อรายปีของอังกฤษอยู่ที่ 3.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ธนาคารกลางอังกฤษตั้งไว้ที่ 2%

 

นายคิงกล่าวว่า เงินเฟ้อยังคงสูงเกินไป แม้ได้ปรับตัวลงมาแล้วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และหลังจากที่มีความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการซื้อพันธบัตรมูลค่า 3.25 แสนล้านปอนด์ แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจก็ยังเชื่องช้ากว่าที่คาด

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยเมื่อปลายเดือนเม.ย.ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษหดตัว 0.2% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 หลังจากที่หดตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2552

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยของอังกฤษจะตัดสินใจในสัปดาห์หน้าว่าจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการซื้อพันธบัตรรอบใหม่เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจหรือไม่ ขณะที่จะมีการเปิดเผยคาดการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในอังกฤษในเดือนนนี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 พฤษภาคม 2555)