ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[DonJuan 4,685]

ถ้าเช้านี้ ถึงกลางวัน 1600 รับได้ น่าจะดีดในช่วงบ่ายถึงค่ำ แต่คงไม่มาก ไซค์เวย์อัพรอข่าวมากระทุ้งมากกว่าครับ

[Anna 567]

ลุ้นกันต่อไป ไม่ได้ลงดอยซะที

 

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 9, 2012 โดย Aiya

[phomw 62]

อรุณสวัสดิ์ครับ คุณเด็กขายของ คุณกัปตัน เจ้อี๋ คุณตี๋ คุณหนุนุ่น และทุกๆท่าน

เช้านี้มาลุ้นระทึกกันต่อไป สู้ๆๆ ครับ

[DonJuan 4,685]

อรุณสวัสดิ์ครับ คุณเด็กขายของ คุณกัปตัน เจ้อี๋ คุณตี๋ คุณหนุนุ่น และทุกๆท่าน

เช้านี้มาลุ้นระทึกกันต่อไป สู้ๆๆ ครับ

 

สวัสดีครับ เช้านี้เหมือนมีแรงซื้อเข้ามาบ้าง แต่ก็โดนสอยร่วงลงไป 1599 ตลอดเลย อยากให้จีน อินเดีย รัสเซีย อัดเข้าไปรวมๆสัก 50 ตันจัง

[oniphand 86]

ตั้งแต่เปิดตลาดเช้าไม่กี่ชั่วโมง side way down ประมาณ 100 บาทแล้วนะครับ

[Anna 567]

เจ้ไปไหนและเห็นแว่บๆ

 

กัปตันมันจะลงไปถึงไหนเนี่ย สยองๆๆ

 

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 9, 2012 โดย Aiya

[Robbo7 16]

ราคาลงไปขนาดนี้ เฮียเหม่งจะปล่อย QE3 ไหมเนี่ย

[meng166 131]

สะบายดียามเช้าทุกๆทาน

[DonJuan 4,685]

เจ้ไปไหนและเห็นแว่บๆ

 

กัปตันมันจะลงไปถึงไหนเนี่ย สยองๆๆ

 

 

 

 

หาแนวรับยากหน่อยนะครับ ต่ำสุดคงไม่น่าจะลงไปถึง 1522 แต่ผมเดาว่า 1580-1590 น่าจะสุดแล้วนะครับ ดูวันนี้ดีดได้เกิน 1625 ก็รอดครับ หรือให้สวยก็ยืน 1614-1615 ถ้าไม่ได้น่าจะลงไปให้ สาแก่ใจ ครับผม

[arthas2u 407]

ลาพักร้อนสัก วัน ไปเที่ยวดอยดีฟ่า :bye

[raty 151]

สวัสดีค่ะเฮียแบ้ท พี่ขายของ คุณDonjuan คุณเกี้ยมอี๋ และเพื่อน ๆ ว่าจะหยุดซื้อขาย เตรียมตัวไป ฮันนี่ซัน รอบสองในสองเดือนๆที่แล้วฮันนี่มูน(ใช่ป่าวไม่รุ) เมื่อคืนดันเปิดคอม หลวมตัวซื้อไปนิด ติดดอยเลยอ่ะ

[DonJuan 4,685]

พักรบ แต่ไม่พบรัก ขาดทุนช้ำใจ กำไรหดหาย แต่รอวันหนึ่งจะกลับมาสู้ตายอีกครั้ง ตอนนี้สู้ไป ตายฟรี อิอิ

[Pete 15,187]

 

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันอังคาร หลังจากเหตุการณ์ทางการเมืองใน กรีซทำให้นักลงทุนกังวลกับฐานะการคลังของยุโรป อย่างไรก็ดี ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ ลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้างในช่วงท้ายตลาด

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดปรับลง 76.44 จุด หรือ 0.59% สู่ 12,932.09, ดัชนี S&P 500 ปิดอ่อนลง 5.86 จุด หรือ 0.43 % สู่ 1,363.72 และ ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 11.49 จุด หรือ 0.39 % สู่ 2,946.27

 

 

ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 7.72 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้น อเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งสูงกว่าปริมาณ เฉลี่ยต่อวันที่ 6.76 พันล้านหุ้น

 

จำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วนราว 3 ต่อ 2 ในตลาดนิวยอร์ค และ 13 ต่อ 11 ในตลาด Nasdaq

ความกังวลที่ว่ากรีซจะปฏิเสธมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบปัจจุบัน และถอนตัวออกจากยูโรโซนกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา

 

 

นายอเล็กซิส ซิปราส ผู้นำฝ่ายซ้ายของกรีซเริ่มความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเขาปฏิเสธเงื่อนไขในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ และ ขู่ที่จะโอนกิจการธนาคารพาณิชย์เข้ามาเป็นของรัฐบาล

 

 

ดัชนี S&P 500 ร่วงผ่านแนวรับที่ 1,350 ลงไปในระหว่างวัน และแตะ 1,347.75 ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. อย่างไรก็ดี มีคำสั่งซื้อเข้ามาในตลาด ในช่วงต่อมา

 

 

หุ้นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจร่วงลง โดยดัชนี S&P สำหรับหุ้น กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยดิ่งลง 1.3 % ในขณะที่นักลงทุนหันไปซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคขยับขึ้น 0.2 % ส่วนหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมขยับลงเพียง 0.2 %

 

 

การร่วงลงของตลาดหุ้นเกิดขึ้นในขณะที่นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยใน วงกว้าง อย่างเช่นพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนี ทั้งนี้ อัตราผลตอบพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนี ดิ่งลงแตะสถิติต่ำสุด ส่วนราคาน้ำมันร่วงลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน

 

 

ผลการเลือกตั้งในฝรั่งเศสและกรีซในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นจุด เริ่มต้นของยุคแห่งการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล และทำให้นักลงทุนกังวล กับอุปสงค์ในสหรัฐและจีน

 

 

มีความกังวลกันว่าฝรั่งเศสและเยอรมนีอาจขัดแย้งกันเรื่องนโยบายแก้ไขวิกฤติ หนี้ยูโรโซน หลังจากนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยมได้รับเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

 

หุ้นแมคโดนัลด์ส คอร์ปซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 2.1 % หลังจากยอดขายเดือนเม.ย.อยู่ในระดับต่ำเกินคาด

 

 

ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษร่วงลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2012 โดยได้รับแรงกดดันจากการรูดลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ในขณะที่นักลงทุนไม่มั่นใจ ว่ากรีซจะยังคงปฏิบัติตามสัญญาในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินหรือไม่ ทางด้านดีลเลอร์กล่าวว่าตลาดหุ้นอังกฤษมีแนวโน้มร่วงลงต่อไป

 

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดดิ่งลง 100.51 จุด หรือ 1.78 % สู่ 5,554.55 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,550.09-5,668.09 โดยระดับปิดวันอังคารถือเป็นระดับ ปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2011 ส่วนจุดต่ำสุดของวันอังคารถือเป็นจุดต่ำสุด ของปีนี้

 

 

ดัชนีได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อตามปัจจัยทางเทคนิคที่ระดับ 5,600 แต่ ดีลเลอร์กล่าวว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงขาลง

 

 

นายริชาร์ด เคอร์ จากบริษัทไพรม์ มาร์เก็ตส์ ลิมิเต็ดกล่าวว่า "สิ่งนี้อาจ เป็นการกำหนดแนวโน้มสำหรับช่วงต่อไปในสัปดาห์นี้ ผมคาดว่าตลาดจะร่วงลงในสัปดาห์ นี้"

 

 

ผลการเลือกตั้งในกรีซและฝรั่งเศสแสดงให้เห็นว่าประชาชนต่อต้านมาตรการ รัดเข็มขัด และทำให้นักลงทุนกังวลกับวิกฤติหนี้ยูโรโซนและภาวะเศรษฐกิจโลก

 

 

นายอเล็กซิส ซิปราส ผู้นำพรรคเลฟท์ โคลิชันของกรีซกล่าวในวันอังคารว่า ภาระผูกพันของกรีซที่มีต่อมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กลายเป็นโมฆะนับตั้งแต่การ เลือกตั้ง

 

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ของอังกฤษดิ่งลง 3.81 % โดยหุ้นโพลีเมทัล อินเตอร์เนชั่นแนลรูดลง 8.7 % และถือเป็นหุ้นที่รูดลงมากที่สุดในวันอังคาร

 

 

 

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดร่วงลง 123.20 จุด หรือ 0.6% แตะที่ 20,361.55 จุดในวันนี้ (9 พ.ค.) ซึ่งเป็นการเปิดตลาดร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มบริษัทจีน  

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดร่วงลง 0.67% แตะที่ 2,432.47 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นเปิดร่วงลง 1.08% แตะที่ 10,410.84 จุดในวันนี้ (9 พ.ค.)

 

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเรื่องสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดในกรีซ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า วิกฤตหนี้ยุโรปจะเลวร้ายมากไปกว่านี้ ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวทำให้หุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลง

 

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) อ่อนตัวลง 0.5% แตะ 120.78 เมื่อเวลา 9.33 น.ตามเวลากรุงโตเกียว

 

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,112.72 จุด ลดลง 68.93 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,361.55 จุด ลดลง 123.20 จุด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,432.47 จุด ลดลง 16.41 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,485.33 จุด ลดลง 60.38 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,958.31 จุด ลดลง 8.70 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,914.22 จุด ลดลง 17.76 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,310.40 จุด ลดลง 3.95 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,591.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.43 จุด

 

 

หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ อ่อนตัว 1.1% ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขณะที่หุ้นนัมโค บันได โฮลดิ้งส์ ร่วง 5% ในตลาดหุ้นโตเกียว หลังจากที่บริษัทคาดการณ์ว่า กำไรจะอ่อนตัวลง ส่วนหุ้นวู้ดไซด์ ปิโตรเลียม อ่อนตัว 1.4% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเคลื่อนตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

 

 

 

 

 

 

 

 

[Pete 15,187]

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

 

 

หุ้นเอเชีย-แปซิฟิกเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9 พ.ค.) ร่วงลงต่อนำโดยนิคเคอิลบ 1% คอสปี้ลบ 0.51% ออสซี่ลบ 0.56% หลังจากที่นักลงทุนตื่นขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ผวาการเมืองในฝรั่งเศสและกรีซต้านแผนรัดเข็มขัดในการแก้วิกฤติหนี้สาธารณะยูโรโซน ฉุดดาวโจนส์ร่วงหลุดระดับ 13,000 วานนี้ รวมทั้งหุ้นยุโรปกลับมาผันผวนขาลงดิ่งลงอย่างรุนแรงในตลาดหุ้นฝรั่งเศสมากกว่า 3.2% ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ก่อนปิดร่วงลง 2.78% ขณะที่ FT100 ลอนดอนได้รับผลกระทบเช่นกันร่วงถึง 1.78%ท่ามกลางการกดดันของ รมว.คลังเยอรมนีคาดหวังว่าฝรั่งเศสจะยึดพันธกรณีทางการคลัง ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เผชิญแรงเทขายเช่นกัน ราคาน้ำมันไนเม็กซ์ร่วงลง 93 เซนต์ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์ต่บาร์เรล ขณะที่มีการเทขายทองอย่างหนักราคาดิ่งลง 34.60 ดอลลาร์หรือ 2% หลังหลุดลงไปที่ 1,598 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนมาปิดที่ 1,604.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์.

 

 

หุ้นสหรัฐปิดตลาดวานนี้ (8 พ.ค.) ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น เพราะวิตกเศรษฐกิจและปัญหาหนี้ยุโรป หลังรู้ผลเลือกตั้งฝรั่งเศส-กรีซ โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 76.44 จุด หรือ 0.59% ที่ 12,932.09 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 5.86 จุดหรือ 0.43% ปิดที่ 1,363.72 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลบ 11.49 จุดหรือ 0.39% ปิดที่ 2,946.27

 

ด้านฟากฝั่งหุ้นยุโรปเปิดตลาดผันผวนในขาลงอย่างรวดเร็ว ดัชนีใน 3 ตลาดสำคัญดิ่งลงหนัก 2-3% ก่อนที่ FT100 ลอนดอน ปิดร่วงลง 1.78% CAC40 ฝรั่งเศสดิ่งลงถึง 2.78% และ DAX ร่วงลง 1.9%

 

โดยที่นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์หนี้ยุโรป หลังจากชาวฝรั่งเศสลงคะแนนเลือกนายฟรังซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยม ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศส โดยนายออลลองด์ เป็นผู้ที่มีท่าทีคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด

 

ขณะที่ในกรีซ พรรคนิวเดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมของกรีซ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยมีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งประมาณ 19% ของคะแนนโหวต หรือ 108 ที่นั่งในรัฐสภา ส่วนพรรคซิริซา ได้ไป 17% หรือเท่ากับ 52 ที่นั่ง และพรรคปาซอก ซึ่งเป็นอดีตพรรครัฐบาล ได้คะแนนตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 13% หรือ 41 ที่นั่ง

 

ผลการเลือกตั้งบ่งชี้ว่า พรรคนิวเดโมเครซี และพรรคปาซอก ซึ่งเป็นพรรคฝั่งสังคมนิยมและเป็นอดีตพรรคร่วมรัฐบาล ไม่สามารถรักษาเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ลงคะแนนเสียง ไม่เห็นด้วยกับนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลในการรับมือวิกฤตหนี้

 

รมว.คลังเยอรมนีเชื่อฝรั่งเศสมีพันธกรณีการคลัง

 

ทั้งนี้ นายวูล์ฟกัง ชอยเบล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า การที่นายฟรังซัวส์ ออลลองด์ ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนใหม่จะไม่เปลี่ยนแปลงพันธกรณีของฝรั่งเศสต่อการปรับลดการขาดดุลงบประมาณ และฝรั่งเศสและเยอรมนีจะทำงานร่วมกันต่อไป

 

"แต่ละประเทศสามารถตัดสินใจเองได้ว่าต้องการบริหารงบประมาณอย่างไรต้องการขึ้นภาษี และใช้จ่ายมากขึ้นหรือไม่" นายชอยเบิลกล่าว "แต่ตามกรอบนโยบายการคลัง มีการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลดยอดขาดดุลแล้ว และฝรั่งเศสก็จะยึดมั่นตามข้อตกลงนี้เหมือนกับที่เยอรมนีจะทำ"

 

นายชอยเบิลกล่าวว่า ฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆในยุโรปสามารถหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และลดอัตราว่างงานลงได้ด้วยการเรียนรู้จากเยอรมนีที่มีระบบฝึกหัดงานและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เรียกว่า Mittelstand

 

พร้อมกับกล่าวเสริมว่า การชนะเลือกตั้งของนายออลลองด์จะไม่กระทบการเป็นพันธมิตรของฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสหภาพยุโรป และยูโร "ความร่วมมือของฝรั่งเศส-เยอรมนีเป็นไปได้ด้วยดีในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาไม่ว่าผลการเลือกตั้งของทั้งสองประเทศจะเป็นอย่างไร

 

ต่อกรณีที่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งชาวกรีซไม่เลือกพรรคที่ปรับลดงบประมาณลงเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ นายชอยบอลกล่าวว่า ยุโรปยังมีพันธกรณีต่อสิ่งที่เราได้บรรลุข้อตกลงกันแล้ว เพราะนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้กรีซทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืนและมีความยุติธรรมทางสังคมมากขึ้น

 

น้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดลบต่อเนื่อง93เซนต์

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐ ปิดร่วงเกือบดอลลาร์ เหตุนักลงทุนวิตกหวั่น การเมืองกรีซไม่นิ่ง ส่งผลต่อแผนรัดเข็มขัดภายใต้กรอบอียูและไอเอ็มเอฟ โดยราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 93 เซนต์ จากราคาปิดเมื่อวันจันทร์ ถือเป็นราคาปิดต่ำสุด นับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.เป็นต้นมา ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 43 เซนต์ ปิดที่ 112.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

โดยที่ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันหลังจากมีผลการเลือกตั้งของ 2 ประเทศสำคัญในยูโรโซนออกมา และหลังจากนายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงเกินไป พร้อมระบุว่า ประเทศสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะหารือประเด็นการเพิ่มเป้าการผลิตในการประชุมโอเปกเดือนหน้า

 

ขณะที่ ตลาดคาดกันว่า ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ จะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ค.ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบ อาจเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่น อาจเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซิน อาจเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการ กลั่นน้ำมัน อาจเพิ่มขึ้น 0.3%

 

วิตกกรีซฉุดยูโรอ่อนค่าต่อเนื่องเทียบดอลล์

 

ความวิตกการเมืองในกรีซ หลังบทวิเคราะห์ซิตี้กรุ๊ปออกมาชี้ว่า กรีซมีความเป็นไปได้ที่จะออกจากกลุ่มยูโรโซนสูงถึง 65% ฉุดให้ยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 เมื่อเทียบเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ซิตี้กรุ๊ปเชื่อว่า การถอนตัวของกรีซอาจช่วยให้ฐานะประเทศดีขึ้นเมื่อสามารถกลับมาใช้สกุลเงินเก่าของตัวเองที่อ่อนค่าลง เพื่อช่วยการค้าของกรีซเอง

 

ทั้งนี้ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุน ต่างกำลังจับตาสถานการณ์การเมืองของกรีซ โดยพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซ เดินหน้าหาพันธมิตร เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังจากที่พรรคนิวเดโมเครซี ซึ่งคว้าชัยในการเลือกตั้งประสบความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้เกิดภาวะชะงักงันในรัฐสภา ขณะที่ตลาดวิตกกังวลว่า กรีซอาจจะถอนตัวจากยูโรโซน

 

เงินยูโรปรับตัวลดลง 0.1% แตะที่ 1.3035 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 07.31 น. ตามเวลาในนิวยอร์ก หลังร่วงแตะระดับ 1.2955 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 104.01 เยน หลังร่วงลงแตะ 103.24 เยนเมื่อวานนี้ ซี่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. ในขณะที่เยนแข็งค่า 0.2% มาอยู่ที่ 79.80 ดอลลาร์

 

ผลการเลือกตั้งในกรีซ และความไม่ชัดเจนของนโยบายการเงินในอนาคต ทำให้เกิดความกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตการเงินยุโรป โดยในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พรรคนิวเดโมเครซี ได้ไป 19% ของคะแนนโหวต และ 108 ที่นั่งในรัฐสภา ส่วนพรรคซิริซา ได้ไป 17% หรือเท่ากับ 52 ที่นั่ง และพรรคปาซอก ซึ่งเป็นอดีตพรรครัฐบาล ได้คะแนนตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 13% หรือ 41 ที่นั่ง

 

นายอันโตนิส ซามาราส หัวหน้าพรรคนิวเดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคที่ครองที่นั่งในสภามากที่สุด จากการผลการเลือกตั้งล่าสุด เปิดเผยว่า พรรคประสบความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลผสม บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนหน้า

 

ถ้อยแถลงดังกล่าว มีขึ้นภายหลังการเจรจาร่วมระหว่างพรรคต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลไม่ประสบผลสำรวจ ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่า ความผันผวนทางการเมืองอาจทำให้วิกฤติหนี้ยุโรปปะทุขึ้นอีกครั้ง และจะกระทบอย่างหนักต่อประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ อาทิ สเปน และ อิตาลี

 

[Pete 15,187]

 

ผลเลือกตั้งกรีซและฝรั่งเศสยังฉุดน้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯปิดลบ

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2555 05:30 น.

 

       เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทวานนี้(8) ขยับลงพอสมควร หลังนักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆต่อทิศทางมาตรการรัดเข็มขัดแก้วิกฤตหนี้สินภายใต้กรอบความช่วยเหลือของอียู-ไอเอ็มเอฟ จากผลการเลือกตั้งในกรีซและฝรั่งเศส

       

       สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 93 เซนต์ ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 112.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

       

       ความเคลื่อนไหวทางลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันของราคาน้ำมัน เกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมืองตามหลังการลงคะแนนต่อต้านพรรคการเมืองที่ชูมาตรการรัดเข็ดขัดในศึกเลือกตั้งทั้งในกรีซและฝรั่งเศส จนยากต่อการจัดตั้งรัฐบาลในเอเธนส์ ขณะที่ผู้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแดนน้ำหอม ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ก็ถูกกดดันทำตามที่ลั่นวาจาหลังเคยประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตโดยไม่สร้างความลำบากแก่ประชาชน

       

       ปัจจัยนี้เองก็ฉุดให้วอลล์สตรีทขยับลงเมื่อวันอังคาร(8) หลังนักลงทุนกังวลว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาอาจส่งผลกระทบต่อชะตากรรมของโปรแกรมช่วยเหลือของอียูและไอเอ็มเอฟ กระนั้นก็ดีตลาดหุ้นสหรัฐฯก็กระเตื้องปิดลบเพียงเล็กน้อย จากแรงซื้อในช่วงท้ายของการซื้อขาย

       

       ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 77.28 จุด (0.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,931.25 จุด แนสแดค ลดลง 11.49 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,946.27 จุด ส่วน เอสแอนด์พี ลดลง 5.91 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,363.67 จุด

       

       นักวิเคราะห์จากชาร์ลส์ ชวาบ แอนด์ โค ระบุว่า "ตลาดถูกกดดันจากรายงานที่น่าผิดหวังเกี่ยวกับข้อมูลภายในประเทศ ซึ่งซ้ำเติมความกังวลของนักลงทุน หลังปัญหาหนี้ยูโรโซนได้ก่อความอกสั่นขวัญแขวนอย่างหนักอยู่ก่อนแล้ว"