ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

แต่ขาใหญ่ก็ดูกราฟ กราฟก็ใช้กันทั่ว เรารู้เขาก็รู้ ส่วนใหญ่มักลากลงไปไม่ถึงแนวนั้นให้เราได้เก็บของถูก แล้วก็มักจะลากเลยเพื่อให้เราได้จองพื้นที่บนดอยครับ อิอิ

เด็กขายของชอบโพสต์นี้ ที่คุณ Donjuan โพสต์เอาไว้ " ขาใหญ่ก็ดูกราฟ กราฟก็ใช้กันทั่ว เรารู้เขาก็รู้ " ใช่เลย

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

วนเวียนในหัว แบบนี้ คงต้องฝึกฝนวิชาหัวเหล็ก จากยายยุ่นคนนี้ก่อนมั่ง หัวไม่แตกก็กล้าขาย 55555555

127043445215.gif

 

ดูตั้งนานเฮียนึกว่าภาพนิ่ง.

 

ดูแล้วสงสัยเฮียจะได้ขาย อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

By Michael Kitchen, MarketWatch

LOS ANGELES (MarketWatch) — Crude-oil futures moved lower during Asian trading hours Monday, with comments from Saudi Arabia’s oil minister and concerns about Europe’s debt crisis helping to weigh on the commodity.

 

Benchmark U.S. crude futures for June delivery CLM2 -0.70%  dropped 42 cents or 0.4% to $95.71 a barrel, down from Friday’s settlement of $96.13 on the New York Mercantile Exchange.

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ดูตั้งนานเฮียนึกว่าภาพนิ่ง.

 

ดูแล้วสงสัยเฮียจะได้ขาย อิอิ

จ๊าก ! ไม่ทันการแล้ว มันลงไป 50 บาท คงหวัง Rebound มาที่ 1,900 ก่อน แล้วจะทยอยขาย

 

ปล. ไม่ได้เขียนผิด แต่เขียนประชดมันโว้ย ถ้าขายลดยอดทุนดอย จะตะโกนมาบอก ถ้ามั่นใจกว่านี้ แต่วันนี้ เดาว่า Sideway คืนนี้ สหรัฐฯ ก็ไม่มีรายงานออก มะรืนนี้ ก็หวยแห่งชาติออก วันแห่งการ Rebound ราคาทองน่าจะเกิดตรงวันหวยแห่งชาติออก นะ

 

ในภาพเคลื่อนไหว ตรูว่า กระเบื้องหลังคาแตกหมด แต่หน้ายายยุ่นก็คงแหกไปด้วย จากอิฐบล็อคที่ทั้งหนาทั้งแข็ง

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มะรืนนี้ หวยออก มาดูหน่อยสิว่า เขาเล่นเบอร์อะไรกับ้าง อิอิ

525519_428512517168448_189467037739665_1570724_1563921188_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Forex: EUR/USD weakens after Germany data

Mon, May 14 2012, 06:36 GMT | FXstreet.com

 

FXstreet.com (Barcelona) - Germany wholesale prices have lowered its monthly growth in April to 0.5% (from 0.9%) despite improving in the yearly basis (2.4%, from 2.2%).

 

Having lost the 1.2900 handle during the weekend and found resistance there in mid Asian session, the EUR/USD was now capped again close to that area and fell as the German data was released.

 

The EUR/USD is now quoting around 1.2880/85 and will have EMU’s industrial production to jitter to at 09:00 GMT.

 

Mataf.net analysts point to resistance at 1.2905, 1.2955 and 1.2975. On the downside, supports might be found at 1.2875, 1.2820 and 1.2765.

 

EUR/USD May 14 at 06:46 GMT

1.2892/93 (-0.07%)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พรรค CDU ของรัฐบาลเยอรมนี แพ้ลต.ในรัฐสำคัญของปท.

 

 

 

 

พรรคอนุรักษ์นิยม สหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน หรือ CDU ของนายกรัฐมนตรีแองเจล่า แมร์เคิล ของเยอรมนี ต้องเผชิญความพ่ายแพ้อย่างน่าอัปยศ จากการเลือกตั้งในแคว้นที่มีความสำคัญทางการเมือง และมีประชากรมากที่สุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

สถานีโทรทัศน์ ARD รายงานเอ็กซิส โพลล์ และผลการนับคะแนนบางส่วนว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งในนอร์ธ ไรน์-เวสต์ฟาเลีย ได้เทความไว้วางใจให้กับพรรคสังคมประชาธิปไตย หรือ SDPและพรรคกรีนส์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่สำคัญทั้งสองพรรค ซึ่งรวมกันแล้วได้คะแนนเสียงถึง 51 เปอร์เซ็นต์ และทำให้ทั้งสองพรรคครองเสียงข้างมากในสภาฯของรัฐ อันแสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งไม่พอใจนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาล

 

นางฮันเนโลเร่ คราฟต์ ผู้ว่าการแคว้นไรน์-เวสต์ฟาเลีย จากพรรคสังคมนิยม มีคะแนนเหนือนายนอร์เบิร์ต โร้ตต์เก้น รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมในรัฐบาลของนางแมร์เคิล ซึ่งนางคราฟต์ กล่าวว่า ทางพรรคมีการสื่อสารที่หลากหลายรูปแบบ ในระหว่างการรณรงค์หาเสียง เธอรู้สึกได้ว่า นี่คือเหตุผลที่ทำให้พรรคเป็นฝ่ายชนะ

 

การที่พรรค CDU ของนางแมร์เคิล มีคะแนนร่วงจาก 34 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 26 เปอร์เซ็นต์ ได้แสดงให้เห็นผลงานที่ตกต่ำสุดขีด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ซึ่งนายโร้ตต์เก้น ได้ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างชัดเจนทั้งของตัวเขาเองและของพรรค

 

ผลการเลือกตั้งที่ออกมา ยิ่งทำให้พรรคฝ่ายค้านกลางซ้ายมีความฮึกเหิมมากขึ้น และแม้จะไม่ส่งผลต่อการเมืองระดับชาติ แต่ก็ทำให้ฝ่ายหัวอนุรักษ์นิยมของนางแมร์เคิล ต้องจัดกระบวนทัพใหม่ ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งระดับชาติในปีหน้า และนางแมร์เคิลก็ยังยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤติหนี้ในยุโปต่อไป

 

มีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งที่แคว้นไรน์-เวสต์ฟาเลีย ประมาณ 13.2 ล้านคน ซึ่งปกติแล้วจะเป็นฐานเสียงของพวกกลางซ้าย ที่รวมทั้งเมืองโคโลญจน์ , ดุสเซลดอร์ฟ และเขตอุตสาหกรรม รูห์

 

แม้ว่าพรรคจะเสียคะแนนไป แต่ตัวนางแมร์เคิล ยังคงได้รับคะแนนนิยมอย่างสูง และจากผลสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ พบว่า พรรค CDU ของเธอ ยังคงเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สุด ที่จะกวาดเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่พรรคสังคมประชาธิปไตยหรือพรรคกรีนส์ ที่เคยเป็นพรรครัฐบาล เมื่อปี 2541ถึง 2548 ทำให้เชื่อว่า นางแมร์เคิลจะอยู่ในอำนาจต่อไปในศึกเลือกตั้งระดับชาติครั้งหน้า แม้จะมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องมีหุ้นส่วนจัดตั้งรัฐบาลผสมใหม่ก็ตาม

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ซีอีโอของ Yahoo ลาออกกรณีใช้วุฒิการศึกษาปลอม

 

นายสก็อต ธอมป์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของบริษัทยาฮู อิงค์ ลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวาน เพียง 10 วันหลังจากแดเนียล โลบ ซีอีโอจากบริษัท เธิร์ด พอยต์ ที่ถือหุ้น 5.8% ของยาฮู กล่าวหาว่า นายธอมป์สันใช้วุฒิการศึกษาปลอมที่ระบุว่าจบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากวิทยาลัยสโตนฮิลล์ ในการยื่นเอกสารสมัครงาน แต่จริงๆแล้วเขาจบสาขาบัญชีในปี 2522 และวิทยาลัยแห่งนี้ไม่มีสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จนกระทั่งปี 2526

การลาออกมีขึ้นหลังจากธอมป์สันเพิ่งเข้ารับตำแหน่งซีอีโอได้เพียง 4 เดือนในช่วงการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารบริษัท และยาฮู ยอมรับว่า นายธอมป์สันไม่ได้มีวุฒิการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จริง พร้อมกับแจ้งว่า นายรอสส์ เลวินซอห์น ผู้อำนวยการฝ่ายโกลบอล มิเดียจะเข้ารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่แทนนายธอมป์สัน

ธอมป์สัน วัย 54 ปี เคยเป็นประธานบริษัทเพย์พาล ซึ่งเป็นธุรกิจบริการจ่ายโอนเงินออนไลน์ในเครือของอีเบย์ และเข้ารับตำแหน่งซีอีโอของยาฮูเมื่อเดือนม.ค.ซึ่งเป็นคนที่ 4 ในเวลาไม่ถึง 5 ปี เขาพยายามตัดลดรายจ่ายและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของยาฮู โดยเมื่อเดือนที่แล้วเขาเพิ่งปลดพนักงาน 2,000 คน คิดเป็น 14% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นการปลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้นำพรรคอันดับ 2 ในกรีซบอยคอตเจรจาตั้งรัฐบาล

 

สถานการณ์การเมืองในกรีซเข้าสู่ภาวะชะงักงันมากขึ้นหลังการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมตลอด

หนึ่งสัปดาห์ล้มเหลว และพรรคใหญ่อันดับ 2 ที่ต่อต้านนโยบายรัดเข็มขัดประกาศไม่เข้าร่วม

การเจรจาครั้งใหม่วันนี้ ทำให้มีแนวโน้มยิ่งขึ้นว่ากรีซอาจต้องจัดเลือกตั้งใหม่

 

นายอเล็กซิส ทซีปรัส นักการเมืองหนุ่มวัย 37 ปี ผู้นำพรรคซิริซา ประกาศเมื่อวานว่าจะไม่เข้า

ร่วมการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมวันนี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอาส

ที่ต้องการให้ 3 พรรคใหญ่และ 1 พรรคเล็กเข้าร่วมเจรจา โดยทซีปรัสให้เหตุผลว่าไม่อาจเข้า

ร่วมกับพรรคการเมืองใดที่สนับสนุนการใช้มาตรการประหยัดรายจ่ายที่เป็นเงื่อนไขแลกเงินกู้

ช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

 

คำประกาศกร้าวมีขึ้นหลังจากเขา พร้อมด้วยนายอีแวนเกลอส เวนิเซลอส ผู้นำของพรรคปาซ็อก

ซึ่งได้ที่นั่งมากเป็นอันดับสาม และอันโตนิส ซามาราส ผู้นำของพรรคนิว เดโมเครซี ที่กวาดที่นั่ง

มากเป็นอันดับ 1 เข้าพบประธานาธิบดีเมื่อวานเพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังทั้งสาม

พรรคต่างได้โอกาสจัดตั้งรัฐบาลแต่ทำไม่สำเร็จ

 

หลังจากนั้นทซีปรัสได้ร่วมชุมนุมในกรุงเอเธนส์เมื่อคืนวานเพื่อต่อต้านนโยบายรัดเข็มขัด และบอก

ว่า ประชาชนได้แสดงจุดยืนผ่านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้วว่าพวกเขาไม่สมัครใจฆ่าตัวตาย

ไม่ต้องการทนแบกรับเงื่อนไขของอียูและไอเอ็มเอฟ

 

แต่ทั้งนายเวนิเซลอส และซามาราส บอกว่า จุดยืนของทซีปรัสเป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบ และจะ

ทำให้กรีซต้องถูกขับออกจากกลุ่มยูโรโซน

 

หากยังไม่มีพรรคใดสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในวันที่ 17 พ.ค. กรีซจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่

ซึ่งคาดว่าจะจัดได้ในช่วง 10 หรือ 17 มิ.ย. และผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวานพบว่า พรรคซิริซาจะ

ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง 20.5% แต่ก็ยังไม่อาจเพียงพอจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"เฉลิม"เชื่อเสื้อแดงไม่ได้กดดัน"ตั๊ก-บงกช"

 

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวกรณีกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงนำรวมกลุ่มกันขับไล่ ตั๊ก-บงกช คงมาลัย นักแสดงที่เดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ ที่ พัทยา จังหวัดชลบุรี ว่า เป็นเรื่องของความเห็นที่แตกต่างกันในมุมมองทางการเมืองเท่านั้น ตนเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้ต้องการกดดัน แต่เป็นแค่สีสันของการแสดงความเป็นประชาธิปไตยมากกว่า พร้อมกล่าวชมนักแสดงสาวด้วยสีหน้าหน้ายิ้มแย้มด้วยว่า เป็นคนสวย น่ารัก คงไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปว่า รมต.พลังงาน คนก่อนทำผิดหรือทำถูกกันนี่ ในการขึ้นราคาพลังงานทุกอย่าง และเลิกส่งเสริมพลังงานทดแทน แต่เอ๊ะ ! คราวนี้ รองนายกฯ มาเป็นคนยกเลิก มติฯ ที่ออกมา

 

กพช.เคาะตรึงราคาเอ็นจีวี-แอลพีจี3เดือน

 

 

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 ว่า เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะราคาน้ำมันแพง รวมทั้งแก้ปัญหาการกักตุนน้ำมันของผู้ค้าน้ำมัน และก๊าซ ที่ประชุม กพช. จึงมีมติเห็นชอบดังนี้

 

-ยกเลิกมติเดิมเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2554 ที่ให้ทยอยปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เดือนละ 1 บาท/ลิตร และปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันดีเซล อัตรา 0.60 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม เป็นต้นไป

 

-มอบหมายให้ กบง. พิจารณากำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงราคาน้ำมันในตลาดโลก ภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศ การส่งเสริมพลังงานทดแทน และฐานะกองทุนน้ำมันฯ สำหรับน้ำมันดีเซล มีหลักเกณฑ์พิจารณาโดยจะปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ หากราคาขายปลีกดีเซลสูงขึ้นจนกระทบต่อค่าขนส่ง และค่าโดยสาร และจะพิจารณาปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ เมื่อราคาขายปลีกมีราคาต่ำจนทำให้ผู้ประกอบการขนส่ง และโดยสารสมควรปรับค่าบริการลง

 

ส่วนน้ำมันเบนซิน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ กบง.จะปรับเพิ่ม/ลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ โดยรักษาระดับส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เพื่อจูงใจให้มีการใช้พลังงานทดแทนคือเอทานอลมากขึ้น

 

-ยกเลิกมติเดิมที่ให้ทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV เดือนละ 0.50 บาท/กก. ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 จนถึงเดือนธันวาคม 2555 เพื่อไม่ให้กระทบผู้ใช้ NGV มากเกินไป และยกเลิกมติที่ให้ทยอยปรับลดอัตราเงินชดเชยก๊าซ NGV ลงเดือนละ 0.50 บาท/กก. จำนวน 4 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมถึงเดือนเมษายน 2555

 

-ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 10.50 บาท/กก. ต่อไปอีก 3 เดือน (16 พฤษภาคม - 15 สิงหาคม 2555) หลังจากนั้น ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2555 ให้ กบง. พิจารณาการปรับราคาขายปลีกก๊าซ NGV ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยพิจารณาจากผลการศึกษาต้นทุนราคาก๊าซ NGV ที่ศึกษาโดยสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

-ยกเลิกมติเดิมที่ให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคขนส่ง เดือนละ 0.75 บาท/กก. (0.41 บาท/ลิตร) ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 โดยปรับพร้อมกับการขึ้นราคา NGV 0.50 บาท/กก. จนไปสู่ต้นทุนโรงกลั่นน้ำมัน

 

-ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคขนส่งไว้ที่ 21.13 บาท/กก. ต่อไปอีก 3 เดือน (16 พฤษภาคม - 15 สิงหาคม 2555) และตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2555 มอบหมายให้ กบง. ปรับราคาขายปลีก LPG ภาคขนส่งให้ราคาไม่เกินต้นทุนก๊าซ LPG จากโรงกลั่นน้ำมัน

 

-ให้ยกเลิกมติ กพช. เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 ที่เห็นชอบให้ทยอยปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ในภาคอุตสาหกรรมให้สะท้อนต้นทุนโรงกลั่นน้ำมัน ตั้งแต่กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป โดยปรับราคาขายปลีกไตรมาสละ 1 ครั้ง จำนวน 4 ครั้งๆ ละ 3 บาท/กก.

 

-ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 มอบหมายให้ กบง. พิจารณาการปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคอุตสาหกรรมให้ราคาไม่เกินต้นทุนก๊าซ LPG จากโรงกลั่นน้ำมัน โดยกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในแต่ละเดือนได้ตามความเหมาะสม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จ๊าก ! ไม่ทันการแล้ว มันลงไป 50 บาท คงหวัง Rebound มาที่ 1,900 ก่อน แล้วจะทยอยขาย

 

ปล. ไม่ได้เขียนผิด แต่เขียนประชดมันโว้ย ถ้าขายลดยอดทุนดอย จะตะโกนมาบอก ถ้ามั่นใจกว่านี้ แต่วันนี้ เดาว่า Sideway คืนนี้ สหรัฐฯ ก็ไม่มีรายงานออก มะรืนนี้ ก็หวยแห่งชาติออก วันแห่งการ Rebound ราคาทองน่าจะเกิดตรงวันหวยแห่งชาติออก นะ

 

ในภาพเคลื่อนไหว ตรูว่า กระเบื้องหลังคาแตกหมด แต่หน้ายายยุ่นก็คงแหกไปด้วย จากอิฐบล็อคที่ทั้งหนาทั้งแข็ง

 

ป๋าเอา เจ้เอา แต่ดูแล้วตอนจบ สาวยุ่นกลัวตูดเปิด มากกว่าหน้าแหก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

View All ตลาดหุ้นยุโรปเปิดทำการ ติดลบตามคาด

 

German DAX 30 index down 1.2% to 6,499.24

French CAC 40 index down 1.6% to 3,074.83

Stoxx Europe 600 index down 1% to 249.36

FTSE 100 index down 1.1% to 5,512.46

 

Australia's S&P/ASX 200 closes up 0.3% at 4,297.00

Japan's Nikkei Average ends 0.2% up at 8,973.84

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

 

 

วิกฤติหนี้ยุโรปตามหลอน!..'เมอร์เคิล'ยังหวั่นไหว

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แม้กระทั่งล่าสุด ทิศทางการเมืองของหญิงเหล็กอย่าง "แองเกล่า เมอร์เคิล" ก็ยังหวั่นไหว เมื่อความนิยมในเมืองที่สนับสนุนหลักตัวเธอและ "คริสเตียน เดโมแครทส์" ที่เป็นพรรครัฐบาลทรุดฮวบลงจาก 35% เหลือแค่ 26% ทำให้ต้องพ่ายโหวตให้กับพรรคคู่แข่งจากพรรค "โซเชียล เดโมแครทส์" หลังการเมืองในกรีซวุ่นไม่จบด่อการเจรจาจัดตั้งนัฐบาลใหม่ล้มเหลว คาดต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะยิ่งบั่นทอนความเป็นหนึ่งเดี่ยวของยูโรโซนเปราะบางมากขึ้นหลังแรงกดดันให้กรีซถอนตัวไปจากกลุ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เศรษฐกิจสเปนย่ำแย่หนักเช่นกัน มีคนตกงานพุ่ง้กือบ 25% กำลังเผชิญการประท้วงต่อต้านแผนรัดเข็มขัดจากชาวสเปนนับแสน แมีกรัทั่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเกิดการพลิกขั้วเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน

 

 

วิกฤติหนี้ยุโรปไม่เพียงแต่ไม่จางหายเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปสร้างปัญหาในภาคการเมืองด้วย ที่เห็นได้ชัดคือในกรีซ ซึ่งแม้ผ่านพ้นการเลือกตั้งมาแล้วเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม แต่ก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงมากเป็นอันดับ 1 และมีแนวทางอนุรักษนิยม ได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลทันทีที่การเลือกตั้งเสร็จสิ้น แต่ก็ล้มเหลว พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 2 ซึ่งมีแนวทางซ้ายจัด จึงได้สิทธิเจรจาจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่สามารถเจรจากับพรรคใดได้ ล่วงมาถึงพรรคสังคมนิยมที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 3 สามารถดึงพรรคเล็กๆ มาได้พรรคเดียว ซึ่งคะแนนเสียงรวมกันก็ไม่ถึง 2 ใน 3 จึงไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้อีกเช่นกัน

 

ล่าสุด ประธานาธิบดีคาร์ลอส ปาปูลิอัส เตรียมเรียกหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคมาประชุม เพื่อขอให้พรรคเหล่านี้ร่วมมือกันในการจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพสำหรับทำหน้าที่บริหารประเทศ โดยพรรคการเมืองต่างๆ ต้องจัดการเลือกตั้งให้ได้ภายในวันพฤหัสบดี (17 พ.ค.) อันเป็นวันที่จะมีการประชุมสภา ไม่เช่นนั้นจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ในเดือนมิ.ย.

 

ประธานาธิบดีปาปูลิอัส กล่าวว่า มีแสงแห่งความหวังว่าพรรคอนุรักษนิยม พรรคสังคมนิยม และพรรคเล็กๆ ที่สนับสนุนการอยู่ในยูโรโซนต่อไป อาจสามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกันได้ พร้อมชี้ว่ากรีซต้องมีตัวแทนไปเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันจันทร์ (14 พ.ค.) การประชุมนาโตในวันพฤหัสบดี (17 พ.ค) และการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปในวันศุกร์ (18 พ.ค.)

 

ขณะที่ นายอีแวนเจลอส เวไนเซลอส หัวหน้าพรรคสังคมนิยมเพซอก แจ้งกับประธานาธิบดีว่าสามพรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเพซอก และพรรคประชาธิปไตยฝ่ายซ้าย ซึ่งรวมกันมีที่นั่ง 168 ที่ในสภา 300 ที่นั่ง อาจจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลระยะ 2 ปีร่วมกัน เพื่อให้กรีซอยู่ในยูโรโซนได้ต่อไป รวมถึงปรับปรุงข้อตกลงช่วยเหลือที่ทำไว้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (อียู) และ สหภาพยุโรป (อียู)

 

อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปไตยฝ่ายซ้ายเคยระบุว่าจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลที่ประกอบด้วยพรรคเพซอกและพรรคประชาธิปไตยใหม่เท่านั้น แต่ต้องประกอบด้วยพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรคแนวทางซ้ายจัดที่คัดค้านข้อตกลงช่วยเหลือมูลค่า 240,000 ล้านยูโร ที่ทำไว้กับไอเอ็มเอฟและอียู นอกจากนั้น นายฟอร์ทิส คูเวลิส หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยฝ่ายซ้าย ยังวางเงื่อนไขว่ารัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาต้องยกเลิกกฎหมายลดค่าแรงขั้นต่ำและอำนวยความสะดวกในการลอยแพคนงาน พร้อมเริ่มปลดปล่อยกรีซจากข้อตกลงช่วยเหลือของไอเอ็มเอฟและอียู

 

ด้านพรรคไซรีซาก็ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมรัฐบาลที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลงช่วยเหลือของไอเอ็มเอฟและอียู ขณะที่การสำรวจความเห็นระบุว่าพรรคนี้อาจเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่มีแนวโน้มจะมีขึ้นเดือนหน้า

 

การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ผลการสำรวจความเห็นครั้งใหม่ระบุว่าชาวกรีซหมดหวังกับรัฐบาลในการนำพาประเทศให้อยู่ในยูโรโซนต่อไป โดยประชาชน 72% คิดว่าพรรคการเมืองต่างๆ ควรร่วมมือกัน "ทุกวิถีทาง" และ 78.1% มองว่ารัฐบาลใหม่ควรทำทุกอย่างเพื่อให้กรีซอยู่ในยูโรโซนต่อไป

 

ขณะเดียวกัน บรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศของกรีซก็เตือนว่าจะไม่จ่ายเงินกู้งวดใหม่ให้ หากกรีซชะลอการปฏิรูปโครงสร้าง อันเป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อตกลงความช่วยเหลือเพื่อสะสางปัญหาต่างๆ ของกรีซให้หมดสิ้นหลังจากภาครัฐใช้จ่ายเงินเกินตัวมาหลายสิบปี

 

ทั้งนี้ กรีซซึ่งมีหนี้สินจำนวนมากต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดหลายต่อหลายอย่างตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟและอียู จนสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ผลจากการลดใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ และการลอยแพคนงาน วิกฤตการณ์ครั้งนี้ทำให้กรีซเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ หรืออาจถึงขั้นต้องออกจากยูโรโซนที่มีสมาชิก 17 ชาติ ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่าเศรษฐกิจกรีซจะหดตัว 4.7% ปีนี้ และ ขยายตัว 0% หรือไม่ขยายตัวเลยปีหน้า

 

สเปนประท้วงแผนรัดเข็มขัด

 

ชาวสเปนอย่างน้อย 100,000 คน ที่ไม่พอใจการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ชุมนุมกันตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ในวาระครบรอบ 1 ปีการเคลื่อนไหวประท้วงกระแสทุนนิยมซึ่งเกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยในกรุงมาดริด ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนได้หลั่งไหลไปจัตุรัสเปอร์ตาเดลโซล เพื่อตั้งแคมป์พักแรม 3 คืนแต่เจ้าหน้าที่เตือนว่าจะไม่อนุญาตให้ใครตั้งแคมป์ค้างคืน และได้ระดมตำรวจปราบจลาจล 2,000 นาย ไปสลายผู้ชุมนุม

 

ส่วนในเมืองบาร์เซโลนามีผู้ประท้วงอย่างน้อย 20,000 คนไปชุมนุมกัน ท่ามกลางสภาพการณ์ที่สเปนกำลังเผชิญความลำบากทางเศรษฐกิจ จนก่อให้เกิดความวิตกว่าอาจต้องขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เหมือนกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส โดยสเปนกำลังตกอยู่ในภาวะถดถอย อัตราว่างงานสูงถึงเกือบ 25% หรือสูงที่สุดในหมู่ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน และคนสเปนอายุต่ำกว่า 25 ปี จำนวน 1 ในทุก 2 คน ตกงาน

 

รัฐบาลอนุรักษนิยมของนายกรัฐมนตรีมาเรียโน เรจอย ได้หั่นการใช้จ่ายลงอย่างมาก เพื่อลดภาระหนี้ของประเทศ แต่ประชาชนจำนวนมากระบุว่ามาตรการรัดเข็มขัดเหล่านี้ทำให้ฐานะทางการเงินของพวกเขาแย่ลง

 

ฮาเวียร์ คอลลิลลา นักศึกษาวัย 27 ปี กล่าวว่าเข้าร่วมการประท้วงเพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศดูเหมือนจะยิ่งตกสู่วังวนแห่งความวุ่นวาย

 

"เราตกอยู่ในวิกฤติมา 4 ปีแล้ว แต่รู้สึกเหมือนวิกฤติเพิ่งเริ่มต้น" คอลลิลลาระบุ พร้อมเสริมว่าเขายังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ เพราะไม่มีโอกาสเลยที่จะได้งานหลังจากสำเร็จการศึกษา ทางเลือกที่ดีที่สุดที่เขามองเห็นคือไปหางานล้างจานในเยอรมนีเพื่อเก็บเงินสักก้อนพร้อมเรียนภาษาเยอรมัน

 

คอลลิลลา แสดงความเห็นว่ามาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลซึ่งพุ่งเป้าไปที่โครงการด้านสาธารณสุขและการศึกษา แต่กลับโอบอุ้มภาคธนาคารนั้น เป็นเรื่องผิด อย่างไรก็ตาม นายอันโตนิโอ บาร์โรโซ นักวิเคราะห์แห่งบริษัทยูเรเซียกรุ๊ปในกรุงลอนดอน กังขาว่าการประท้วงในสเปนจะสามารถบีบให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงนโยบายได้หรือไม่

 

ล้อมกรอบ

 

สหรัฐเข้มมาตรการควบคุม หลังเจพีมอร์แกนขาดทุนยับ

 

ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ของสหรัฐ รายงานว่ามียอดขาดทุนด้านเทรดดิ้งอย่างน้อย 2,000 ล้านดอลลาร์ จากแผนการทำประกันความเสี่ยงที่ล้มเหลว ทั้งที่มีการมองว่าเจพีมอร์แกนเป็นธนาคารที่สามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่เคยรายงานยอดขาดทุนเลยตลอดช่วงที่เกิดวิกฤติการเงิน ซึ่ง เจมี ไดมอน หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ยอมรับว่ายอดสูญเสียครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่รายงานว่าเทรดเดอร์คนหนึ่งมีสถานะการลงทุนสูงผิดปกติ

 

ไดมอน ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อขายที่นำไปสู่การขาดทุน กล่าวเพียงว่าเกี่ยวข้องกับตราสารอนุพันธ์ประเภทหนึ่งที่มีความซับซ้อน ทั้งนี้ การเพิ่มการควบคุมดูแลตราสารอนุพันธ์เป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักของการยกเครื่องกฎหมายการเงินเมื่อปี 2553 แต่การนำกฎหมายดังกล่าวไปบังคับใช้ ล่าช้าไปจนถึงปลายปีนี้

 

ไซมอน จอห์นสัน อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งไอเอ็มเอฟ กล่าวว่าเรื่องนี้สะท้อนว่าเจพีมอร์แกนไม่สามารถบริหารความเสี่ยงได้ และหากเจพีมอร์แกนทำไม่ได้ ก็คงไม่มีใครทำได้ เพราะเจพีมอร์แกนเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ

 

แม้ว่าการขาดทุนของเจพีมอร์แกนไม่ได้ก่อให้เกิดภาวะตื่นตระหนกเหมือนการล้มละลายของเลแมนบราเดอร์สเมื่อปี 2551 แต่ก็ทำให้ความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการเงินสั่นคลอน และราคาหุ้นในตลาดนิวยอร์กของเจพีมอร์แกนทรุดฮวบไปเมื่อเปิดตลาดวันศุกร์ (11 พ.ค.) เกือบ 10% ทำให้มูลค่าตามราคาตลาดหายไป 15,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ฟิทช์เรทติ้งส์ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือของเจพีมอร์แกนลง 1 ขั้น ส่วนสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ก็ปรับแนวโน้มของเจพีมอร์แกนเป็น "เชิงลบ" สะท้อนว่าอาจมีการลดอันดับในอนาคต

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...