ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

คุณ DKK หายไปไหนคะ ปกติมาแต่เช้า รีบเข้ามานะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

น่าจะอยู่ เฮ้ย มีคำแสลง แต่น้อยกว่าเจ้ เพราะปั้วเปิดขายพระกะกรอบนะ เพิ่งปล่อยหลวงปู่ทิมไปแสนหน่อยๆนะ ไม่เคยแบ่งเจ้เลย :_02

สวัสดีวันเสาร์ที่ 7 เดือน 7 ครับ วันนี้ คงติดอยู่บนเกาะฯ ทั้งวัน อาจจะมาบอกเล่าข่าวสาร ได้น้อยนะครับ

 

เด็กขายของ อ่านที่เจ้ฯ โพสต์ พึ่งรู้อีกแล้วว่า ที่บ้านเจ้ฯ อินเทรน หลายอย่าง เช่น จตุคามรามเทพฯ / เงินเม็ด เป็นต้น และพึ่งทราบว่า อยู่ในแวดวงพระเครื่องฯ ต้องร้องเสียงหลง ที่ไม่น่าปล่อยไก่ ในเรื่องสร้อยห้อยพระของผม วันก่อนเลย ส่วนหลวงปู่ทิม เป็นเหรียญ เจริญพร บนหรือล่าง ครับ หรือ พรายกุมาร อยากทราบ เพราะผมก็มีเหมือนกัน

 

งานนี้ สงสัยจะมีจตุคามฯ เกิน 100 องค์แน่ๆๆ เพราะออกกันมาเยอะช่วงนั้น

 

วันนี้ ราคาขายทองในประเทศ เปิดมา 23,750/23,850 บาท ถ้าดูตามด้านบนของ ไทยโกลด์ ก็ต้องประเมินใหม่ เนื่องจาก ค่าเงินบาทไม่ถูกต้อง หน้า Forexpro อยู่ที่ 31.735 ส่วนที่ร้านโคตรรวย อยู่ที่ 31.75 ราคา Fair ก็คงราวๆ 23,800-23,750 บาทเท่านั้น และ จากการที่ปรากฎ " คำแสลง " คราวนี้เยอะ ผลกระทบน่าจะอีกหลายวัน ( เมื่อคืนนี้ ขนาดตัวเลขรายงานสหรัฐฯ ไม่ดี ต่ำกว่าคาดการณ์ ราคาทองจะขึ้นอยู่ดีๆ มาที่ 1608 รายงานออกที โดนตีสลบร่วง ) ทำให้ ถึงแม้ราคาที่ตั้งใจจะซื้อที่ร้านทองตู้แดงฯ มาแล้ว 23,850 บาท ก็ยังไม่มีความคิดที่จะซื้อเก็บเข้าพอร์ตแต่อย่างใด ยอมปล่อยให้อาแปะเก็บต่อไปที่ร้านฯ ก่อน หรือ อาจจะมีนักลงทุนเห็นว่าต่ำแล้ว และ ต่ำกว่าที่ขายคืนไปครั้งที่แล้ว ซื้อกลับคืนก็ได้ เรื่องแบบนี้ นานาจิตตัง

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2555 06:55:00 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเกือบทุกสกุลเงินหลัก เนื่องจากรายงานตัวเลขจ้างงานที่น่าผิดหวังผลักดันให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น แล้วหันมาถือครองดอลลาร์ที่มีความปลอดภัยกว่า

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.73% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9763 ฟรังค์ จากระดับ 0.9692 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ 1.0178 จากระดับ 1.0138 ดอลลาร์ แต่ลดลง 0.33% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.610 เยน จากระดับ 79.870 เยน

 

 

 

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.77% แตะที่ 1.2296 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2392 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ขยับลง 0.23% แตะที่ 1.5488 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5524 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลดลง 0.63% แตะที่ 1.0222 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0287 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.62% แตะที่ 0.7984 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8034 ดอลลาร์สหรัฐ

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 90,000-100,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ส่วนใหญ่

 

ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอ่อนแรง ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยถึงแม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกันแล้ว แต่อัตราขยายตัวยังคงต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ข้อมูลที่อ่อนแอเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐก็ได้เพิ่มกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวได้จำกัดช่วงขาขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในตะกร้าสกุลเงิน ปรับตัวขึ้น 0.619 แตะ 83. 561

 

ด้านสกุลเงินยูโรยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสเปนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% ซึ่งเป็นระดับที่อันตราย สะท้อนว่านักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถของสเปนในการชำระหนี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2555 06:35:00 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและถือเงินดอลลาร์มากขึ้น

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 30.5 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,578.9 ดอลลาร์/ออนซ์ นับเป็นอีกครั้งที่ราคาทองปิดต่ำกว่าระดับ 1,600 ดอลลาร์ และตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองร่วงลง 1.6%

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 75.2 เซนต์ หรือ 2.72% ปิดที่ 26.920 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 28.2 ดอลลาร์ หรือ 1.9%  ปิดที่ 1,449. 5 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 580.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 90,000-100,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ส่วนใหญ่

 

ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอ่อนแรง ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยถึงแม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกันแล้ว แต่อัตราขยายตัวยังคงต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

 

ข้อมูลตลาดแรงงานที่น่าผิดหวังผลักดันให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาถือสกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเพิ่มแรงกดดันให้ราคาทองคำ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆด้วย เพราะดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพงสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่น โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่ยูโรอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ 1.2262 ดอลลาร์

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2555 06:20:00 น.

สัญญาน้ำมันดิบปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้ ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวลว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซาอาจจะส่งผลไปถึงความต้องการพลังงานด้วย

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด NYMEX ปรับตัวลง 2.77 ดอลลาร์ หรือ 3.18% ปิดที่ 84.45 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.6%

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอน ดิ่งลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 98.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงขยับขึ้น 0.4%

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 90,000-100,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ส่วนใหญ่

 

ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอ่อนแรง ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยถึงแม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกันแล้ว แต่อัตราขยายตัวยังคงต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

 

โดยตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 77,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 69,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น ขณะที่ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 68,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจาก 77,000 ตำแหน่งในรายงานก่อนหน้านี้

 

เท่ากับว่าในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.นั้น สหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียงเดือนละ 75,000 ตำแหน่ง ซึ่งคิดเป็นเพียงประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวน 226,000 ในช่วงไตรมาสแรก และถือเป็นตัวเลขที่ยังห่างไกลจากการที่จะฉุดให้อัตราว่างงานสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูงปรับตัวลดลงมาได้

 

นักลงทุนวิตกว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันเยอะที่สุดในโลก จะยิ่งทำให้อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกอ่อนตัวลง

 

ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ก็สร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เพราะเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้สินค้าเหล่านี้มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่น

 

สำหรับน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวสูงขึ้นจากกรณีที่แรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์หยุดงานประท้วง และจากความวิตกกังวลว่าอุปทานน้ำมันอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

แนะนำเรื่องทอง บอกอะไรเขาหลายอย่าง เขานิยมชมชอบ ป้าแกเลยให้มาครับผม ให้ที่ชั้น 17 อ่ะครับ :17

กัปตัน ต้องซื้อของเล่น. และทุกเช้าต้องหาข้าวขนมอย่าลืมน้ำหวานให้ทุกวันนะค่ะ. ห้ามขาดเด็ดขาดเพราะเค้าก้อเหมือนกับเราที่ต้องกิน. ถ้าปล่อยไม่ดูแลจะไม่เป็นคุณกับตัวเอง กัปตันไปไหนแล้วก่อนจะกินอะไรต้องเรียกเค้ากินด้วย ต้องตักเเบ่งให้เค้าต่างหากหรือสั่งอีกจาน เรียกเค้ากิน. แล้วปล่อยจานนั้นทิ้งไว้ไม่ต้องไปยุ่ง. อันนี้อ่านจากคนที่เค้าเลี้ยง แต่ถ้าเราทำถูกต้อง เค้าจะเป็นคุณกับเรามาก. ต้องเลี้ยงเหมือนเค้าเป็นลูกเราเลยค่ะ. แล้วอีกอย่างตอนนี้กัปตันไปรับเค้ามา เค้ารับรู้ว่ากัปตันยินดีรับดูแลเเละให้เค้าอยู่ด้วยแล้ว. ถ้ากัปตันไปยกเค้าให้ใครก้อเหมือนเราเอาเด็กที่เรารับเลี้ยงดูไปยกให้คนอื่น. ลองคิดถึงจิตใจเค้าว่าจะรู้สึกอย่างไร. คือจะบอกว่าการไปรับกุมารมาเลี้ยงก่อนไปรับต้องคิดให้ดีก่อนไม่ใช่ไปรับมาแล้วแล้วไปยกเค้าให้ใครอีก ไม่ได้เขียนให้กัปตันกลัวนะ แต่เรื่องแบบนี้ต้องคิดให้ดี.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณโกหกตัวเองหรือเปล่าเกี่ยวกับระดับความเสี่ยงในการลงทุนที่คุณสามารถยอมรับได้

Investment Planning: Are you being truthful enough about your risk tolerance level?

 

 

     การหารือเรื่องความเสี่ยงส่วนมากจะขึ้นอยู่กับสองคำถามและหลายครั้งสองคำถามนี้มักจะได้ถูกใช้สลับกัน

     คำถามที่ 1 คุณสามารถรับความเสี่ยงได้มากเท่าไร

     คำถามที่ 2  คุณควรจะเสี่ยงมากเท่าไร

 

     คำตอบสำหรับคำถามที่ 1 จะไม่เหมือนคำตอบสำหรับคำถามที่ 2 เสมอไป ถึงแม้ว่านักวางแผนการเงินส่วนใหญ่มักจะสรุปให้คำตอบเหมือนกัน คำถามที่ 1 เกี่ยวกับระดับความอดทนต่อความเสี่ยง กล่าวคือคุณรู้สึกสบายใจแค่ไหนเมื่อคุณเห็นว่าพอร์ตของคุณกำลังได้รับผลกระทบจากการสูญเสียอย่างรุนแรง แต่ความต้องการที่คุณอยากจะเสี่ยงก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรจะเสี่ยง และนี่คือที่มาของคำถามที่ 2 เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ความอดทนต่อความเสี่ยงถูกใช้เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาส่วนประกอบของพอร์ตการลงทุน แต่ในความเป็นจริงมีอยู่สามปัจจัยที่ควรจะนำมาใช้ในการพิจารณาแนวทางการลงทุนระยะยาว กล่าวคือความอดทนต่อความเสี่ยง ความสามารถด้านการเงินต่อความเสี่ยง และ ความเสี่ยงที่เหมาะสมที่สุด (Optimal risk)

 

ความอดทนต่อความเสี่ยง เป็นการวัดความสมัครใจในการยอมรับความเสี่ยงหรือความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่อาจจะสูงขึ้น คนที่มีความอดทนสูงถือว่าเป็นนักลงทุนที่มีความมั่นใจสูงและพร้อมที่จะสูญเสียทุนเพื่อแลกกับโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ส่วนคนที่มีความอดทนต่ำหรือที่เรียกกันว่า ผู้ที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง จะเป็นนักลงทุนที่ใช้ความระมัดระวัง โดยจะเน้นการปกป้องทุน ทั้งสองประเภทไม่ใช่นักลงทุนในอุดมคติ นักลงทุนที่มีความอดทนต่อความเสี่ยงสูงจะเลือกที่จะลงทุนในสิ่งที่มีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนสูงถึงแม้ว่ามีโอกาสจะสูญเสียสูง นักลงทุนประเภทนี้จะไม่ขายหุ้นในช่วงเวลาตลาดปรับตัวชั่วคราว แต่ในเวลาเดียวกันนักลงทุนที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงมักจะตื่นตระหนกและขายหุ้นผิดเวลา ในทางกลับกัน นักลงทุนที่มีความอดทนสูงมักจะมองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงถึงแม้ว่าจะได้ผลตอบแทนสำหรับพอร์ตการลงทุนของเขาไม่มากนัก

 

     ตัวอย่างคือ สมชายและสมศรีทำงานเป็นพนักงานร้านค้า ทั้งสองคนรับเงินเดือนเท่ากัน และมีทางเลือกด้านวิชาชีพสำหรับอนาคตเท่ากัน ทั้งสองคนอายุ 38 ปี เพราะฉะนั้นจะมีโอกาสระยะยาวเท่ากัน สมชายเป็นคนชอบพนันม้า ความที่ติดพนันมานานทำให้เขาสามารถรับการสูญเสียได้ถึงแม้ว่าการสูญเสียดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินของเขาในอนาคต ในทางกลับกันสมศรีเป็นคนที่ระมัดระวัง เธอพยายามออมเงินที่ได้รับและไม่ชอบที่จะใช้เงินสำหรับสิ่งที่ไม่จำเป็น

 

     ถึงแม้ว่าทั้งสองคนมีฐานะทางการเงินที่เหมือนกัน แต่ต่างคนต่างมีความอดทนต่อความเสี่ยงที่แตกต่างกันมาก พอร์ตการลงทุนของสมชายอาจประกอบด้วยการลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูงถึงแม้ว่าเขาเป็นแค่พนักงานร้านค้าและไม่สามารถจะรับความสูญเสียอย่างมากได้ ส่วนพอร์ตการลงทุนของสมศรี ซึ่งต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อาจจะประกอบด้วยการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเท่านั้น ถึงแม้ว่าเงินต้นจะยังอยู่แต่เธอก็จะได้รับผลตอบแทนที่ไม่แตกต่างจากผลตอบแทนในการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยงและพอร์ตการลงทุนของเธอก็อาจจะไม่สามารถปรับตัวตามอัตราเงินเฟ้อได้ หากทั้งสองคนเลือกที่จะลงทุนตามความอดทนต่อความเสี่ยงของตน ผลที่ได้รับจะไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับทั้งสอง ในกรณีนี้แผนการลงทุนที่เหมาะสมควรจะอยู่ระหว่างสองตัวอย่างเบื้องต้น ความอดทนต่อความเสี่ยงของคุณจะเป็นตัววัดว่าคุณจะสามารถรับความเสี่ยงได้มากเท่าไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอัตราความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่ปัจจัยการประเมินความเสี่ยงที่สองที่ควรจะทำต่อไป

 

ความสามารถที่จะรับความเสี่ยง เมื่อเรานำปัจจัยความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการลงทุน มีอยู่สองคุณสมบัติที่ต้องนำมาใช้ คุณสมบัติที่หนึ่งคือจิตวิทยา ที่เรียกกันว่า ความอดทนต่อความเสี่ยง ซึ่งเราได้พูดถึงแล้ว อีกคุณสมบัติจะเกี่ยวข้องกับความสามารถทางการเงินหรือความสามารถที่จะรับความเสี่ยง ลองมาดูถึงผลกระทบต่อนักลงทุนสามคนที่มูลค่าพอร์ตของเขาลดลงในอัตราร้อยละ 50:

 

     ชาตรี อายุ 76 ปี และเคยได้รายได้เป็นจำนวนหลายพันล้านในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมของเขา สินทรัพย์ของเขาประเมินมูลค่าได้กว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท

 

     สมบัติ มีอายุปลายๆ30 มีครอบครัวที่เขาต้องอุปถัมภ์และกำลังย่างเข้าสู่การเกษียณ

 

     บุรินทร์ มีอายุ 10 ปี และเพิ่งจะเริ่มชีวิตการลงทุน โดยมีทุนรวมอยู่ที่ 5,000 บาท

 

     การขาดทุนถึงร้อยละ 50 จะทำให้ชาตรีมีสินทรัพย์เหลือ 5,000 ล้านบาท ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธต่อความสูญเสียดังกล่าวแต่เขาก็ยังมีเงินพอที่จะซื้อทุกอย่างที่เขาต้องการได้ บุรินทร์ก็ยังมีความสามารถที่จะรับการสูญเสียได้เช่นกัน เขายังมีเวลาอีกหลายปีที่จะเก็บเงินและลงทุนก่อนที่จะต้องคำนึงถึงการเกษียณ ในเวลาเดียวกันสมบัติไม่มีเงินพอที่จะรับความเสี่ยงได้ถึงแม้ว่าเขาพร้อมที่จะลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูง เขามีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดูและมีเวลาน้อยกว่า 20 ปีก่อนที่จะต้องเกษียณ การที่มูลค่าพอร์ตการลงทุนของเขาลดลงร้อยละ 50 จะส่งผลกระทบให้เขามาก

 

     ความสามารถที่จะรับความเสี่ยงทางการเงินจะวัดได้หลายแบบ ซึ่งรวมถึงระยะเวลา สภาพคล่อง มูลค่าของนักลงทุนและรายได้ คนที่ต้องการสภาพคล่องสูงเช่นต้องสามารถเรียกใช้เงินได้ทุกเมื่อ ก็จะถูกจำกัดในอัตราความเสี่ยงที่สามารถรับได้ บุคคลเหล่านี้จะต้องหลีกเลี่ยงการลงทุนที่อาจจะมีผลตอบแทนที่ดีแต่ไม่มีสภาพคล่องตามที่ต้องการ  เมื่อระยะเวลายาวขึ้นความสามารถในการรับความเสี่ยงก็มากขึ้นจากการแกว่งตัวของตลาดในระยะสั้นมีความสำคัญลดลง สำหรับผู้ที่มีรายได้สูงและมีทรัพย์สินมากก็สามารถลงทุนในการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงได้เพราะเขาก็ยังจะมีรายได้ไม่ว่าสภาพตลาดจะเป็นอย่างไร เช่นเดียวกันนักลงทุนที่มีอายุและทุนน้อยก็สามารถรับความเสี่ยงได้สูงเนื่องจากมีเวลาการลงทุนที่ยาว สามารถรอการปรับลดของตลาดในระยะสั้นให้ผ่านไปได้โดยไม่ต้องถอนทุนก่อนที่ตลาดจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งก็จะนำเราไปสู่ปัจจัยการประเมินความเสี่ยงที่สาม ความเสี่ยงที่เหมาะสมสำหรับพอร์ตการลงทุน

 

ความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งแตกต่างกันมากจากความอดทนต่อความเสี่ยงและความสามารถที่จะรับความเสี่ยง ปัจจัยที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งสองเป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับตัวนักลงทุนแต่ความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นการสร้างพอร์ตที่มีประสิทธภาพเหมาะที่สุดต่อความเสี่ยง ความเสี่ยงที่เหมาะสมของพอร์ตมาจากทฤษฎีพอร์ตสมัยใหม่ (Modern Portfolio Theory) ปัจจัยสำคัยของทฤษฎีนี้คือ นักลงทุนพยายามที่จะจำกัดอัตราความเสี่ยงในเวลาเดียวกันก็ต้องการเพิ่มผลตอบแทนที่จะได้รับให้มากที่สุด ในทฤษฎีนี้จะเป็นการผสมผสานกันของกลุ่มหลักทรัพย์ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งเป็นจุดเมื่อหน่วยความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดหรือพูดอีกนัยหนึ่งคือเป็นจุดที่คุณจะได้รับผลตอบแทนสูงสุดในการลงทุนด้วยความเสี่ยงที่ต่ำที่สุดดังปรากฏในเส้นความเหมาะสมในชาร์ทที่เรียกว่า Efficient Frontier ด้านล่างนี้

teera_inner1_1.gif

 

 

     Efficient frontier คำนวนได้โดยการวิเคราะห์แต่ละกลุ่มหลักทรัพย์ (asset class) ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์ความเป็นมาระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยงและความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มหลักทรัพย์ (correlation coefficient) และเหมือนกับการคำนวณอื่นๆ ข้อมูลที่นำไปใช้ในการคำนวณดังกล่าวอาจไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน นอกจากนี้เป็นการคำนวณโดยคำนึงถึงสิ่งที่เกิดในอดีตซึ่งอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่มีอะไรที่จะสามารถรับประกันได้ว่าส่วนประกอบที่เหมาะสมในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจะเป็นส่วนประกอบที่เหมาะสมในอีก 10 ปีข้างหน้า

 

สรุปแล้วคุณควรจะเสี่ยงเท่าไร สำหรับนักลงทุนส่วนมากความอดทนต่อความเสี่ยงของเขา ความสามารถด้านการเงินของเขาต่อความเสี่ยงและความเสี่ยงที่เหมาะสมสำหรับพอร์ตการลงทุนของเขาจะมีความใกล้เคียงกันมาก กล่าวคือปัจจัยทั้งสามจะมี efficient frontier ที่ใกล้กันมาก อย่างไรก็ตามยังมีนักลงทุนบางคนที่ยังไม่พบความสมดุล ส่วนมากเมื่อนักลงทุนไปพบกับนักวางแผนการเงินคนใหม่เขามักจะถูกขอให้กรอกแบบสอบถามเกี่ยวกับอัตราความอดทนต่อความเสี่ยง ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าวจะมีปัญหาอยู่สามข้อคือ

 

 คำถามต่างๆ เป็นสมมุติฐานทั้งหมด ในชีวิตจริงเมื่อนักลงทุนต้องเผชิญกับปัญหาเขาจะทำแตกต่างจากที่เขาคิดจะทำ การที่ถูกถามว่าคุณจะทำอย่างไรเมื่อมูลค่าของพอร์ตลดลงร้อยละ 30 คำตอบที่ได้รับจะแตกต่างจากเมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง

 

พอร์ตที่มีพื้นฐานบนความอดทนต่อความเสี่ยงอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน พอร์ตการลงทุนที่ทำขึ้นบนพื้นฐานของอัตราความอดทนต่อความเสี่ยงอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ ตัวอย่างคือนักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอาจจะมีพอร์ตการลงทุนที่มีมูลค่าน้อยเกินกว่าจะเลี้ยงชีวิตของเขาในช่วงหลังเกษียณอายุได้

 

ความอดทนต่อความเสี่ยงอาจไม่ตรงกับความเป็นจริงทางการเงิน สิ่งที่คุณสามารถยอมรับได้ในความคิดของคุณอาจจะมากกว่าที่ทุนของคุณจะรับได้ กล่าวคือนักลงทุนที่ชอบพนันม้าสามารถรับความเสี่ยงได้สูงแต่เมื่อแพ้พนันที่มีมูลค่าสูงก็จะทำให้เขาสิ้นเนื้อประดาตัวได้อย่างมากเช่นกัน

 

     สิ่งแรกและสิ่งที่สำคัญที่สุด คือความสามารถทางการเงินควรจะเป็นปัจจัยหลัก นักลงทุนไม่ควรจะรับความเสี่ยงที่สูงกว่าความสามารถของเขา (คุณเสี่ยงได้แต่ไม่ควรจะเสี่ยงทั้งหมด) ดังที่เห็นได้จากตัวอย่างข้างต้น หากคุณต้องการใช้เงินในสัปดาห์หน้าคุณก็ไม่ควรจะใส่เงินทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์วันนี้  หากสถานะทางการเงินในปัจจุบันของคุณไม่สามารถรับความสูญเสียชั่วคราวได้คุณก็ควรจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นักลงทุนควรจะมุ่งหาจุดความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน ในระหว่างการจัดทำแนวทางการลงทุนระยะยาวและส่วนประกอบของหลักทรัพย์มีความเสี่ยงอยู่สามประเภทที่ต้องคำนึงถึง คือ ความอดทนต่อความเสี่ยงของนักลงทุน ความสามารถของคุณต่อความเสี่ยง และความเสี่ยงที่เหมาะสม ความเข้าใจของปัจจัยทั้งสามจะช่วยให้นักลงทุนจัดทำพอร์ตที่มีความเสี่ยงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละสถานการณ์

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สินทรัพย์เสี่ยงโลกทรุดผิดหวังECBไม่ใช้เชิงรุก

วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

 

สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกร่วงลงทุกตลาด เหตุนกลงทุนผิดหวังมาตรการลดดอกเบี้ยของ ECB ไม่ใช่มาตรการเชิงรุกที่จะช่วยบรรเทาปัญหาวิกฤติหนี้ยูโรโซน รวมทั้งผู้นำ IMF ที่ออกมาเตือนเศรษฐกิจโลกยังอ่อนแอแบบปริ่มน้ำ ขณะที่ตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำกว่าคาดการณ์ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วงลง 124 จุด ขณะที่หุ้นยุโรปทรุดตัวลงเฉียด 2% รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลงหนักทั้งราคาน้ำมันร่วงลง 2.77 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 84.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาทองผันผวนดิ่งลงกว่า 30 ดอลลาร์สู่ 1,578.90ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (6 ก.ค.) ร่วงลง 124.20 จุด หรือ 0.96% ที่ 12,772.47 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 12.90 จุดหรือ 0.94% ปิดที่ 1,354.68 และดัชนีแนสแด็กร่วงลง 38.79 จุดหรือ 1.30% ปิดที่ 2,937.33

 

ด้นฟากฝั่งยุโรปดิ่งลงหนักใน 3 ตลาดหุ้นหลักจากสัญญาณเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง โดย FAX เยอรมันทรุดตัวลง 1.92% CAC50 ฝรั่งเศสดิ่งลง 1.88% และ FT100 ลอนดอน ร่วงลง 0.53%

 

นักลงทุนผิดหวังตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 80,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 90,000-100,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ส่วนใหญ่

 

ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย. ถือเป็นสัญญาณล่าสุด ที่บ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอ่อนแรง ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยถึงแม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกันแล้ว แต่อัตราขยายตัวยังคงต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

 

ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 77,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 69,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น ขณะที่ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 68,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจาก 77,000 ตำแหน่งในรายงานก่อนหน้านี้

 

หวั่นเศรษฐกิจโลกทรุดฉุดน้ำมันไนเม็กซ์ปิดร่วงกว่า3%

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐ ปิดร่วง 2.77 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนกังวลความต้องการน้ำมันหด หลังไอเอ็มเอฟ เตือนจะหั่นคาดการณ์จีดีพีโลกในเดือนนี้

 

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วง 2.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐปิดตลาดลดลง เนื่องจากตลาดกังวลว่า สภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันลดลง ท่ามกลางความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจากข่าวที่ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะปรับลดการประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้

 

ราคาน้ำมันดิบ เผชิญปัจจัยลบหลังจากที่นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กล่าวว่า ไอเอ็มเอฟ จะปรับลดการประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงในปีนี้ เนื่องจากการลงทุน การจ้างงาน และการผลิตที่อ่อนตัวลงในยุโรป สหรัฐ บราซิล อินเดีย และจีน

 

นางลาการ์ด กล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงโตเกียวว่า แนวโน้มของการขยายตัวทั่วโลก จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ไว้เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แม้ว่าแนวโน้มที่ต่ำลงนั้น จะขึ้นอยู่กับการใช้นโยบายที่เหมาะสม โดยคาดว่า จะมีการประกาศแนวโน้มใหม่ในช่วง 10 วันข้างหน้า หลังจากที่มีการประเมินเมื่อเดือนเม.ย.ไว้ที่ 3.5% ซึ่งตลาดประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่สำคัญอย่างบราซิล จีน และอินเดีย ส่งสัญญาณของการชะลอตัวลง ประเทศทั้ง 3 รวมกับรัสเซีย จะคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของเศรษฐกิจโลกในปีนี้

 

นอกจากนั้น ตลาดน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากกรณี ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% เช่นเดียวกับธนาคารกลางจีนที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.31%

 

ทองคำปิดดิ่ง30ดอลล์หลังเปิดเผยตัวเลขจ้างงาน

 

ราคาทองตลาดสหรัฐ ปิดร่วงลง 30.50 ดอลลาร์ เหตุถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน

 

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและถือเงินดอลลาร์มากขึ้น

 

ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 30.50 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,578.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับเป็นอีกครั้งที่ราคาทองปิดต่ำกว่าระดับ 1,600 ดอลลาร์ และตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองร่วงลง 1.6%

 

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 90,000-100,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ส่วนใหญ่

 

ข้อมูลตลาดแรงงานที่น่าผิดหวัง ผลักดันให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง และหันมาถือสกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเพิ่มแรงกดดันให้ราคาทองคำ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆด้วย เพราะดอลลาร์ที่แข็งค่า ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพง สำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่น โดยดอลลาร์ พุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่ยูโรอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ 1.2262 ดอลลาร์

 

เหคุตลาดไม่เชื่อลดดอกเบี้ยอีซีบีไม่ช่วยหนุนเศรษฐกิจ

 

นักวิเคราะห์ชี้การลดดอกเบี้ยของอีซีบีแทบไม่ได้ช่วยหนุนเศรษฐกิจ หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน แต่ไม่ได้ดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวมากกว่านี้ เช่น การเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ธนาคารพาณิชย์

 

นางเจนนิเฟอร์ มิคโยน จากบริษัทแคปิตัล อิโคโนมิคส์ กล่าวว่า "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีในครั้งนี้ แทบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่อย่างน้อยการดำเนินการนี้ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณหนุนเศรษฐกิจ

 

ผู้กำหนดนโยบายของอีซีบี ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลง 0.25 % สู่ 0.75 % หลังจากมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาในยูโรโซน ซึ่งรวมถึงตัวเลขที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีตกต่ำลงเล็กน้อย ถึงแม้เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซน

 

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปให้ปรับตัวขึ้นในช่วงแรก แต่ก็ได้ร่วงลงในช่วงต่อมา หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะฟื้นตัวขึ้นอย่างเชื่องช้า และเผชิญกับภัยคุกคามจากปัญหาหนี้ ในประเทศสมาชิกบางประเทศ และจากความไม่เต็มใจของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยกู้

 

ก่อนที่อีซีบี จะผ่อนคลายนโยบายลงเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางจีนและอังกฤษ ก็ได้ผ่อนคลายนโยบายลงด้วยเช่นกัน ซึ่งนายดรากีกล่าวว่า ธนาคารกลาง 3 แห่งนี้ไม่ได้ประสานงานกันแต่อย่างใด ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงในวันเดียวกัน

 

นอกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว อีซีบียังปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ 0 % จากเดิมที่ 0.25 % โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของอีซีบีทำหน้าที่เป็นเหมือนกับอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำสุดในตลาดเงิน

 

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนปล่อยกู้ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ด้วยกันเอง แทนที่จะนำเงินราว 8 แสนล้านยูโรไปฝากไว้ที่อีซีบีในทุกๆคืนโดยไม่ได้รับผลตอบแทนกลับคืนมา

 

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะสร้างความพึงพอใจให้แก่ธนาคารพาณิชย์ทางตอนใต้ของยุโรปที่กู้เงินจำนวนมากจากอีซีบีด้วย เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 % จะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนจ่ายดอกเบี้ยลดลงราว 2.5 พันล้านยูโรต่อปี สำหรับสินเชื่อระยะ 3 ปีที่กู้มาจากอีซีบีในวงเงินราว 1 ล้านล้านยูโร

 

แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่ได้เป็นมาตรการที่สามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างในยูโรโซน เพราะปัญหาในยูโรโซนมีต้นกำเนิดมาจากการสูญเสียความเชื่อมั่นในฐานะการเงินของรัฐบาลและธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ดีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแสดงให้เห็นว่าอีซีบี พร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่อีซีบีตั้งไว้ที่ระดับต่ำกว่า 2 % เล็กน้อย แต่อัตราเงินเฟ้อก็ปรับลดลงในระยะนี้ อย่างไรก็ดี นายดรากีกล่าวว่า เขาไม่เห็นสัญญาณภาวะเงินฝืดในประเทศใดในยูโรโซน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 17 ประเทศ

 

และแม้ว่าเศรษฐกิจได้รับแรงกดดันจากวิกฤติหนี้ยูโรโซน แต่นายดรากี ก็กล่าวว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินในขณะนี้ไม่ได้เลวร้ายมากเท่ากับปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่การล้มละลายของวาณิชธนกิจเลห์แมน บราเธอร์ส ก่อให้เกิดวิกฤติการเงินไปทั่วโลก

 

 ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

กรีซวอนอียู-IMFขยายเวลาหั่นงบประมาณ คลายความทุกข์ทรมาน

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 กรกฎาคม 2555 03:16 น.

 

       เอเอฟพี - นายอันโตนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซเมื่อวันศุกร์(6) ร้องขอเจ้าหนี้อียูและไอเอ็มเอฟ ขยายเวลาตัดลดงบประมาณตามเงื่อนไขเงินกู้ออกไปมากกว่า 2 ปี เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจที่กำลังตะเกียกตะกายในภาวะถดถอยอย่างรุนแรง

       

       ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีรายนี้บอกว่ารัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งมาหมาดๆของเขา ให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามพันธสัญญาด้านงบประมาณ ตามความต้องการของเจ้าหนี้ทั้งสองเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน

       

       "เราเรียกร้องสำหรับการปรับปรุงเงื่อนไข" นายซามาราส กล่าวต่อรัฐสภาระหว่างที่เขานำเสนอเป้าหมายต่างๆของรัฐบาลในช่วง 4 ปีข้างหน้า ทั้งให้คำมั่นเดินหน้าแปรรูปรัฐวิสาหกิจและปกปักษ์รักษากรีซให้ได้อยู่ในยูโรโซนต่อไป

       

       "เราอยากเห็นข้อตกลงระหว่างพันธมิตรและเจ้าหนี้ของเรา และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโปรแกรมนี้ เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของมัน ที่รังแต่จะซ้ำเติมภาวะถดถอยให้เลวร้ายลงไปอีก" ซามาสราสกล่าว

       

       นายกรัฐมนตรีรายนี้กล่าวต่อว่า "เราจะทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขในสิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อต่อสู้กับภาวะถดถอยและเพื่อให้ประเทศสามารถทำได้ตามเป้าหมาย เราจะขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทุกอย่าง(ในโปรแกรมกู้ยืม)ที่ทำให้ผู้คนต้องตกงาน"

       

       นายซามาราส ยังให้คำมั่นด้วยว่าจะปิดหรือควบรวมกิจการของรัฐหลายแห่งก่อนสิ้นปีและเดินหน้าแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างเร่งรัด ในนั้นรวมถึงบริษัทเดินรถไฟแห่งชาติและหน่วยยุทธศาสตร์ของการไฟฟ้า นอกจากนี้รัฐบาลยังจะเสนองดเว้นภาษีแก่ชาวกรีซที่ส่งเงินมาจากต่างแดน

       

       คำกล่าวเหล่านี้ของนายซามาราส คือส่วนหนึ่งในถ้อยแถลงเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นเวลา 2 วันและมีกำหนดลงมติในวันอาทิตย์(8) ซึ่งคาดหมายว่ารัฐบาลผสม 3 พรรค จะผ่านการโหวตค่อนข้างแน่

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กัปตัน ต้องซื้อของเล่น. และทุกเช้าต้องหาข้าวขนมอย่าลืมน้ำหวานให้ทุกวันนะค่ะ. ห้ามขาดเด็ดขาดเพราะเค้าก้อเหมือนกับเราที่ต้องกิน. ถ้าปล่อยไม่ดูแลจะไม่เป็นคุณกับตัวเอง กัปตันไปไหนแล้วก่อนจะกินอะไรต้องเรียกเค้ากินด้วย ต้องตักเเบ่งให้เค้าต่างหากหรือสั่งอีกจาน เรียกเค้ากิน. แล้วปล่อยจานนั้นทิ้งไว้ไม่ต้องไปยุ่ง. อันนี้อ่านจากคนที่เค้าเลี้ยง แต่ถ้าเราทำถูกต้อง เค้าจะเป็นคุณกับเรามาก. ต้องเลี้ยงเหมือนเค้าเป็นลูกเราเลยค่ะ. แล้วอีกอย่างตอนนี้กัปตันไปรับเค้ามา เค้ารับรู้ว่ากัปตันยินดีรับดูแลเเละให้เค้าอยู่ด้วยแล้ว. ถ้ากัปตันไปยกเค้าให้ใครก้อเหมือนเราเอาเด็กที่เรารับเลี้ยงดูไปยกให้คนอื่น. ลองคิดถึงจิตใจเค้าว่าจะรู้สึกอย่างไร. คือจะบอกว่าการไปรับกุมารมาเลี้ยงก่อนไปรับต้องคิดให้ดีก่อนไม่ใช่ไปรับมาแล้วแล้วไปยกเค้าให้ใครอีก ไม่ได้เขียนให้กัปตันกลัวนะ แต่เรื่องแบบนี้ต้องคิดให้ดี.

 

ขอบคุณครับ ตอนที่ให้มาไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่ค่อยรู้เรื่อง รับมาพร้อมหลวงพอ่ปิ่นอีกองค์ครับ พอกลับมาที่บ้านเล่าให้ฟัง บวกหาข้อมูล ชักเสียวๆครับ :21

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่ได้โน้มน้าว ไม่ได้จ้างให้เชื่ิิอ ไม่ได้อยากให้ทำตาม !!!!!! แต่ขอบ่นเพียงว่า ในเมื่อราคาที่ขายทองคำแท่งวันนี้ ตั้งสูงกว่า Fair Price / นักลงทุนบางกลุ่มยังมีความคิดว่า ราคาทองคำจะ Rebound ได้อีก ตามกรอบแบบแผนที่แสดง ซึ่ง คนทั่วโลกใช้กันตรึม จึงไม่ยอม Stop Loss บรรดาข้อมูลซื้อๆๆ ขายๆๆ จากหน่วยหนึ่งสู่ศูนย์กลางระบบ ย่อมบ่งบอกปริมาณให้เหล่าขาใหญ่ ดำเนินการเพื่อหา รายได้กำไร เข้าบริษัทฯ อย่างเมื่อวาน SPDR ก็ขายออก 0.43 ตัน ดูเหมือนน้อยนิด แต่ที่ผ่านมา ขายออกน้อยนิด แล้วซื้อกลับเยอะกว่าในวันต่อมา นักลงทุนอาจมี ไอ้คาด กับ อีคิด ว่า อีหรอบเดิม / แผนเดิม หรือ ภาษาอังกฤษ History Repeat ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หุหุหุ จึงต้องขอร้องเพลงพุ่มพวง " แน่เหรอ พี่จ๋า " กระผมจึงอยากบอก หลวงพี่ ว่า ยุบหนอพองหนอ คือ กิเลสตัวเป็นๆ เชียวนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีวันเสาร์ที่ 7 เดือน 7 ครับ วันนี้ คงติดอยู่บนเกาะฯ ทั้งวัน อาจจะมาบอกเล่าข่าวสาร ได้น้อยนะครับ

 

เด็กขายของ อ่านที่เจ้ฯ โพสต์ พึ่งรู้อีกแล้วว่า ที่บ้านเจ้ฯ อินเทรน หลายอย่าง เช่น จตุคามรามเทพฯ / เงินเม็ด เป็นต้น และพึ่งทราบว่า อยู่ในแวดวงพระเครื่องฯ ต้องร้องเสียงหลง ที่ไม่น่าปล่อยไก่ ในเรื่องสร้อยห้อยพระของผม วันก่อนเลย ส่วนหลวงปู่ทิม เป็นเหรียญ เจริญพร บนหรือล่าง ครับ หรือ พรายกุมาร อยากทราบ เพราะผมก็มีเหมือนกัน

 

งานนี้ สงสัยจะมีจตุคามฯ เกิน 100 องค์แน่ๆๆ เพราะออกกันมาเยอะช่วงนั้น

 

วันนี้ ราคาขายทองในประเทศ เปิดมา 23,750/23,850 บาท ถ้าดูตามด้านบนของ ไทยโกลด์ ก็ต้องประเมินใหม่ เนื่องจาก ค่าเงินบาทไม่ถูกต้อง หน้า Forexpro อยู่ที่ 31.735 ส่วนที่ร้านโคตรรวย อยู่ที่ 31.75 ราคา Fair ก็คงราวๆ 23,800-23,750 บาทเท่านั้น และ จากการที่ปรากฎ " คำแสลง " คราวนี้เยอะ ผลกระทบน่าจะอีกหลายวัน ( เมื่อคืนนี้ ขนาดตัวเลขรายงานสหรัฐฯ ไม่ดี ต่ำกว่าคาดการณ์ ราคาทองจะขึ้นอยู่ดีๆ มาที่ 1608 รายงานออกที โดนตีสลบร่วง ) ทำให้ ถึงแม้ราคาที่ตั้งใจจะซื้อที่ร้านทองตู้แดงฯ มาแล้ว 23,850 บาท ก็ยังไม่มีความคิดที่จะซื้อเก็บเข้าพอร์ตแต่อย่างใด ยอมปล่อยให้อาแปะเก็บต่อไปที่ร้านฯ ก่อน หรือ อาจจะมีนักลงทุนเห็นว่าต่ำแล้ว และ ต่ำกว่าที่ขายคืนไปครั้งที่แล้ว ซื้อกลับคืนก็ได้ เรื่องแบบนี้ นานาจิตตัง

 

 

ขอบคุณครับ คุณเด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ขวัญเอ๋ย ขวัญมา เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปปลอบ

พรุ่งนี้ เจ้ฯ ไปปลอบจริงเปล่า แนะนำให้นำ " หน่อกล้วยตานี ไปฝาก คุณ Donjuan " แบบนี้ครบเลยครับ

 

matree-2012-02-20-1329728178-589899062108623301.gifmatree-2012-02-20-1329728398-1293780266822281793.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป๋ารุ่น เจริญพร 2 กับห่วงเชือก ปล่อยไป 2 องค์

 

แต่เรื่องพระเจ้ต้องถามปั้ว ตัวเองไม่ค่อยรู้เรื่อง ปั้วไม่ได้เป็นเซียนพระ แค่รู้งูๆปลาๆ

 

ส่วน เม็ดเงินซื้อไว้พอมันขึ้น 48$ ปั้วงกจัเอา 50 ตกลงมาไม่ขายเลยยาวจนป่านนี้

ถูกแก้ไข โดย เกี้ยมอี๋

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป๋า คืนนี้ทีรากกกกกกก บอก 2 ทุ่มกลับแล้วไม่ดูหรอกสาวๆ กลัวกลับดึก กุมารมารับหน้าบ้าน 5555555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...