ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ชี้ตลาดมีโอกาสบวกจากแรงซื้อต่างชาติ

ข่าวเศรษฐกิจ วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ.2555 10:29น.

 

นักวิเคราะห์ ชี้ ตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อจากต่างชาติ จับตา รบ.สเปน แถลงนโยบาย ศก. 27 ก.ย. นี้ ถึงความชัดเจนในรูปแบบขอรับความช่วยเหลือ ให้แนวรับ 1,250 - 1,270 จุด แนวต้าน 1,289 - 1,295 จุด

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ ว่า ตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อต่างชาติ ที่ยังคงมีแรงผลักดันจากสภาพคล่องในตลาดการเงินโลก โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ปิดตัวเป็นบวกได้ แม้ข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น การขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งจะเป็นเครื่องตอกย้ำให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ใช้มาตรการ QE3 ในระยะเวลาที่นานขึ้น ส่วนปัจจัยในสหภาพยุโรป ยังอยู่ที่สเปน ซึ่งประมูลพันธบัตร 3 ปี และ 10 ปี ผลตอบรับค่อนข้างดี โดยประมูลได้ 4,800 ล้านยูโร

โดยในวันที่ 27 กันยายนนี้ สเปนจะแถลงนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนว่า สเปนจะขอรับความช่วยเหลืออย่างเต็มรูปแบบหรือไม่ โดยในวันนี้ให้แนวรับที่ 1,250 - 1,270 จุด แนวต้านที่ 1,289 - 1,295 จุด

 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=405825

 

[Pete 15,187]

โอลิมปิกเกมส์ไม่ช่วย ยอดค้าปลีกอังกฤษเดือนสิงหาคมดำดิ่ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กันยายน 2555 00:00 น.

 

       เอเอฟพี - ศึกลอนดอนเกมส์ ล้มเหลวในการส่งเสริมภาคค้าปลีกของอังกฤษ โดยเฉพาะยอดขายทางออนไลน์ที่ดำดิ่งอย่างเหลือเชื่อ แม้ชาวบ้านส่วนมากจะอยู่บ้านเฝ้าดูกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ จากข้อมูลอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี(20)

       

       สำนักงานสถิติแห่งชาติ(โอเอ็นเอส) ระบุในถ้อยแถลงว่ามูลค่าการขายในเดือนสิงหาคม ลดลงจากเดือนกรกฎาคม ร้อยละ 0.2 อันเป็นผลกระทบจากภาวะถดถอยในอังกฤษ อันเป็นตัวเลขที่ตรงตามกับเหล่านักวิเคราะห์คาดหมายไว้เบื้องต้น

       

       โอเอ็นเอสบอกด้วยว่าแม้ยอดขายในเดือนสิงหาคม จะเติบโตขึ้นจากเดือนเดียวกันนี้ของเมื่อปีที่แล้ว อยู่ร้อยละ 2.7 แต่ก็ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ราวๆร้อยละ 0.2

       

       ขณะเดียวกันยอดค้าปลีกแบบไม่มีร้านค้า (non- stores retailing) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจออนไลน์แต่ก็รวมถึงคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ด้วย ก็ดิ่งลงถึงร้อยละ 6.7 ในเดือนสิงหาคม นับเป็นการลดลงรายเดือนรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ธันวาคมปี 2007

       

       ลอนดอนเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกเกมส์เป็นเวลาราวๆ 3 สัปดาห์ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม จากนั้นก็รับหน้าสื่อจับพาราลิมปิกเกมส์ ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม ถึง 9 กันยายน

       

       ซาเอล ทอมส์ นักวิเคราะห์จากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ ระบุว่าลอนดอนเกมส์สนับสนุนยอดค้าปลีกเฉพาะสินค้าบางอย่างเท่านั้น "แม้ว่าโอลิมปิกเกมส์จะช่วยเพิ่มแรงซื้อด้านเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์กีฬา แต่ยอดขายสินค้าที่ใช้ในครัวเรือนและยอดขายตามห้างสรรพสินค้ากลับลดลงอย่างน่าผิดหวัง"

       

       เวลานี้อังกฤษอยู่ในภาวะถดถอน ซึ่งรัฐบาลกล่าวโทษว่าส่วนใหญ่เป็นผลกระทบมาจากปัญหาวิกฤตหนี้ในชาติเพื่อนบ้านยูโรโซน

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000116180

 

[Pete 15,187]

ธปท.จับตาการเก็งกำไรในปท.จากผล QE3,มอง ศก.ต่างประเทศเป็นปัจจัยเสี่ยงปีหน้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กันยายน 2555 11:14:43 น.

นางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.เร่งติดตามการเก็งกำไรในสินทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์หลังจากคาดว่าจะมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าจากมาตรการ QE3 ซึ่งทำให้ราคาสินทรัพย์เร่งตัวขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่พบการเก็งกำไรที่ผิดปกติ และ ธปท.ก็มีมาตรการพร้อมจะเข้ามาดูแล อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยในประเทศทขณะนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น จึงยังเห็นการเข้ามาลงทุนซื้อสินทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์อยู่ แต่ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากังวล เพราะยังไม่ถึงขั้นมีการขายใบจองเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

 

"ยืนวันว่าเศรษฐกิจไม่ได้ซบเซา ถ้าใช้อัตราดอกเบี้ยกระตุ้นก็ไม่เป็นไร แต่อาจทำให้ราคาสินทรัพย์สูงขึ้น ช่วงนี้ ธปท.ติดตามแต่คงไม่อะไรออกมาเป็นพิเศษ เพราะยังไม่พบการเก็งกำไร"นางสุชาดา กล่าว

 

นางสุชาดา กล่าวว่า ตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประกาศใช้มาตรการ QE3 ทำให้ค่าเงินบาทในวันที่ 19 ก.ย.แข็งค่าไปราว 0.5% แต่วันที่ 20 ก.ย.ก็อ่อนค่าลงมาบ้างแล้ว โดยอัตราการแข็งค่าของเงินบาทถือว่าน้อยสุดของกลุ่มค่าเงินในภูมิภาค ซึ่งส่วนใหญ่เงินที่ไหลเข้ามาจะลงทุนในตลาดพันธบัตร

 

อย่างไรก็ตาม มาตรการ QE3 ไม่มีผลกระทบต่อเงินทุนไหลเข้าไทยมากเมื่อเทียบกับเมื่อครั้งที่สหรัฐประกาศใช้มาตรการ QE1 และ QE2 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจภูมิภาคชะลอตัวด้วย ส่วนไทยยังมีแรงซื้อเงินดอลลาร์จากผู้นำเข้า ขณะที่ผู้ส่งออกไม่ได้ซื้อฟอร์เวิร์ดเพิ่มเติม เพราะยอดส่งสินค้าลดลง ทำให้ในระยะนี้ผู้ส่งออกไม่ได้ออกมาเรียกร้องให้ ธปท.ดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลง นอกจากนั้น ตลาดฯ รับรู้มาตรการดังกล่าวไปมากแล้ว เมื่อมีการออกมาตรการมาจริง จึงไม่มีผลกระทบมากนัก

 

นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังเกิดจากการที่นักลงทุนไทยออกไปซื้ออสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ กิจการด้านเกษตร อุปโภคบริโภค ค้าปลีกในต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์ในต่างประเทศมีราคาถูกลง ซึ่ง ธปท.มองว่าเป็นจังหวะที่ดีที่เข้าไปซื้อแบรนด์ของต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุโรป การที่มีเงินไหลออกไปลงทุนต่างประเทศช่วยสร้างให้การเคลื่อนย้ายเงินทุนมีความสมดุล และทำให้ค่าเงินบาทมีความสมดุลด้วย

 

นางสุชาดา กล่าวต่อว่า ปัจจัยเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจในปี 56 วิกฤตเศรษฐกิจต่างประเทศดูท่าทางจะยืดเยื้อยาวนาน โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐคงยังไม่ฟื้นตัวไปจนถึงปี 58 และยังมีปัญหาเรื่องนโยบายการเงิน

 

"สหรัฐฯ ยังมีปัญหาเกี่ยวกับ fisical คือจะหาทางออกยังไง เลยใช้ QE3 เข้ามาช่วย เพราะนโยบายการเงินและการคลังเขาไม่ offset กัน นโยบายการคลังมีผลต่อจีดีพีทันที นโยบายการเงินมีผลต่อเศรษฐกิจค่อนข้างช้ามาก ทางประธานเฟดกลัวเรื่อง fisical เลยออก QE3 ออกมาก่อน แต่ยังต้องรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี เพราะ fisical มีผลต่อจีดีพีมากถึง 3-4% ของจีดีพี และตอนนี้มีเงินช่วยเหลือการว่างงานลดลง จากเดิมที่ขยายจาก 52 สัปดาห์เป็น 92 สัปดาห์ตอนนี้ลดลงเหลือ 20 สัปดาห์ ตรงนี้ทำให้เงินหายไปเยอะถ้าเลิกมาตรการนี้"นางสุชาดา กล่าว

 

ขณะที่ยุโรป ตอนนี้เหมือนจะมีทางออก แต่ประเทศที่มีปัญหาก็ยังต้องใช้นโยบายรัดเข็มขัด และหลายประเทศประชาชนไม่ยินยอมให้ดำเนินการตามเงื่อนไขที่จะเข้ารับการช่วยเหลือ ทำให้การแก้ไขปัญหามีความล่าช้าไป

 

สำหรับประเทศไทย การบริโภคและการลงทุนในประเทศปีนี้ขยายตัวสูง แต่คาดว่าในปี 56 อาจจะแผ่วลง ประกอบกับ โครงการเงินกู้ผ่อนปรนเพื่อให้ความช่วยเหลือกับภาคธุรกิจหมดโครงการไปแล้ว และด้านการลงทุนขยายตัวในอัตราชะลอลง แต่ปัจจัยหลักที่จะมาช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 56 คือรัฐบาล โดยหากเกิดการลงทุนจริงในโครงการต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ ก็จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจในประเทศ เพราะฉะนั้นปัจจัยเสี่ยงของไทยก็จะเหลือเฉพาะภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศเท่านั้น

 

ส่วนอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะไม่มีแรงกดดันทำให้เงิรนเฟ้อต้องเร่งตัวขึ้น เว้นแต่ราคาน้ำมันดิบโลกที่เร่งตัวขึ้น และในช่วงนี้ราคาอาหารสัตว์แพงขึ้นอาจทำให้ราคาปศุสัตว์สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้นตามไปด้วย

 

"ไม่คิดว่าปัจจัยเงินเฟ้อน่ากังวลในปี 56 แต่กังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกที่มีผลกระทบต่อไทยมากกว่า แต่กังวลการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า และอาจนำไปใช้ในโครงการที่ไม่มีความเหมาะสม ซึ่งจะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพ"นางสุชาดา กล่าว

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

http://www.ryt9.com/s/iq03/1493876

 

 

 

[modtanoiy 126]

เข้าห้องมาแล้ว งง ขอให้ทุกอย่างเหมือนเดิมค่ะ

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

 

http://www.ryt9.com/s/prg/1493829

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 21 กันยายน 2555 10:18:42 น.

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- ตัวเลขเศรษฐกิจแย่กดดันทองปรับฐาน

- SPDR ถือทองเพิ่ม 3.01 ตัน

- คาดทองเริ่มฟื้นหลังปรับฐานวานนี้

ราคาทองและราคาโลหะเงินแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดการซื้อขายช่วงเช้าวานนี้ แต่หลังมีรายงานว่าภาคการผลิตของประเทศในยุโรปยังคงหดตัวลง ก็กลับมาเป็นปัจจัยลบกดดันให้ราคาทองปรับฐานลงสู่แนวรับบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับในการซื้อขายช่วงค่ำ เช่นเดียวกับโลหะเงินที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาจากแนวรับบริเวณ 34.0 ดอลลาร์ จึงทำให้ภาพเทคนิคของโลหะทั้ง 2 ชนิด ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

 

ช่วงเช้าวานนี้รายงานตัวเลขภาคการผลิตของจีนที่ยังมีสัญญาณชะลอตัวกดดันให้ตลาดหุ้นและค่าเงินในเอเชียกลับอ่อนค่าลงสวนทางกับเงินดอลลาร์ และในช่วงบ่ายรายงานตัวเลขภาคการผลิตของประเทศในยุโรปที่ยังคงหดตัวลง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทองคำและราคาโลหะเงินให้ปรับฐานลงผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

 

การเคลื่อนไหวของราคาทองและราคาโลหะเงินในภาพรวมยังมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ด้วยราคาที่ปรับตัวขึ้นมามากจึงต้องระวังการปรับฐานที่อาจเกิดขึ้น ประกอบกับสัญญาณชะลอตัวจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศต่างในกลุ่มยุโรป ก็ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและราคาโลหะเงิน ผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จึงทำให้การดีดตัวของราคาโลหะทั้ง 2 ชนิด คาดว่าจะมีกรอบค่อนข้างจำกัด แต่หากราคากลับปรับฐานลง คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา เนื่องจากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศยังเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

 

ราคาทองคำปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับ โดยหลายวันที่ผ่านมาราคาทองเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวรับและแนวต้านบริเวณ 1,750-1,780 ดอลลาร์ และคาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณนี้ต่อไป อย่างไรก็ตามหากราคาทองดีดตัวผ่านแนวต้านหรือปรับฐานลงต่ำกว่ากรอบแนวรับบริเวณนี้ คาดว่าจะมีแรงซื้อขายเข้ามามาก จนราคาแกว่งตัวในกรอบที่กว้างขึ้น เช่นเดียวกับราคาโลหะเงินที่ยังมีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 34.0-35.0 ดอลลาร์ โดยวานนี้ราคาอ่อนตัวเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 34.0 ดอลลาร์ และเริ่มดีดตัวกลับ หากสามารถผ่านแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 34.6-34.7 ดอลลาร์ ได้ คาดว่าราคาจะดีดตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 35.0 และ 35.5 ดอลลาร์ ต่อไป

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนต.ค.55

Close   chg.  Support        Resistance

25,960  -80   25,950/25,850  26,100/26,250

ราคาทองอ่อนตัวลงสู่แนวรับสำหรับเก็งกำไรฝั่งซื้อในการซื้อขายช่วงบ่ายวานนี้ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบลง โดยในวันนี้คาดว่าราคาทองอาจเริ่มดีดตัวกลับ โดยแนวต้านบริเวณ 1,780 และ 1,800 ดอลลาร์ เป็นจุดปิดสถานะลดความเสี่ยงเป็นบางส่วน ส่วนการเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรรอบใหม่ ควรรอเปิดสถานะในช่วงที่ราคาปรับฐานเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,755-1,760 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,740-1,745 ดอลลาร์

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนต.ค.55

Close  chg.  Support      Resistance

1,060  -12   1,055/1,045  1,070/1,080/1,090

ราคาโลหะเงินปรับตัวลงเข้าใกล้จุดปิดสถานะตัดขาดทุนการถือครองฝั่งซื้อบริเวณ 34.0 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับ โดยคาดว่าในระยะสั้นราคาโลหะยังมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 35.0 ดอลลาร์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นระดับแนวต้านที่ควรปิดสถานะซื้อลดความเสี่ยงเป็นบางส่วน แต่ในกรณีที่สามารถรับความเสี่ยงได้ ยังสามารถถือครองฝั่งซื้อเก็งกำไรการดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณนี้ โดยคาดว่าราคาจะกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวที่บริเวณ 35.5 ดอลลาร์ ได้ต่อไป และในกรณีที่ราคากลับอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 34.2 ดอลลาร์ ก็ยังเป็นระดับที่สามารถเลือกเปิดสถานะซื้อเก็งกำไร โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 34.0 ดอลลาร์

[Pete 15,187]

สรุปภาวะ Precious Metals Futures By GT Wealth Management 21 ก.ย. 55 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 21 กันยายน 2555 10:20:48 น.

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--GT Wealth Management

ราคาทองคำอ่อนตัวลงระหว่างวันก่อนจะปรับตัวขึ้นเหนือ US$1,770 ในช่วงเช้าวันนี้ โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมจากธนาคารกลางขนาดใหญ่ นักลงทุนต่างพุ่งประเด็นไปที่การตัดสินใจของสเปนต่อแนวทางการซื้อพันธบัตรของ ECB ซึ่งการตัดสินใจให้ธนาคารกลางเข้าซื้อได้ก็อาจจะช่วยหนุนตลาดมากขึ้น ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 30.85 การสะสมของกองทุนยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง SPDR รายงานการถือครองทองคำ 1,308.41 ตัน เพิ่มขึ้น 3.01 ตัน ราคาทองคำโลกเช้านี้เคลื่อนไหวใกล้ระดับ US$ 1,773 ต่อออนซ์ โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม 2555 (GFV12) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 26,100 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 25,750 บาท ราคาเสนอขาย 25,850 บาท

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ความผันผวนของระบบสกุลเงินหลังมาตรการ QE3 ของสหรัฐฯ จะส่งผลให้ธนาคารกลางอื่น ๆ พยายามกดค่าเงินตนเองลงขณะที่ตลาดรอการเข้าซื้อพันธบัตรของ ECB หลังจากที่มีการอนุมัติการเข้าซื้อไปในการประชุมครั้งก่อน การดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสำคัญจะเป็นตัวกระตุ้นให้เงินการพองตัวของราคาสินทรัพย์รวมถึงทองคำ และทำให้เงินเก็งกำไรเข้าสู่ตลาดทองคำเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

ถูกแก้ไข กันยายน 21, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

 

http://www.ryt9.com/s/prg/1493825

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 21 กันยายน 2555 10:15:52 น.

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement:

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,770.20 USDต่อออนซ์ ลดลง 1.50 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,757.70 — 1,774.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวระหว่างวันแต่ปิดลดลงเล็กน้อย โดยราคาลงไปทำ low ระหว่างวันจากการประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนเท่ากับ 47.8 ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ ราคาดีดกลับได้เมื่อการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด ทำให้มีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคำและค่าเงิน USD ปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันในช่วงเช้าวันนี้ปรับขึ้นมาที่ระดับ 93 USDต่อบาร์เรล จากราคาปิดที่ 91.87 USD ค่าเงินยูโรร่วงลงแม้ว่าสเปนจะประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ 4.8 พันล้านยูโรมาเกินคาด ในขณะที่อัตราผลตอบแทนลดลงมาที่ระดับ 5.666% ต่ำสุดในรอบปี อย่างไรก็ตาม มีการคาดว่าผลการทำ Stress test ของธนาคารพาณิชย์สเปนจะมีความต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 50 — 60 พันล้านยูโร ซึ่งผลการทำ Stress test จะออกมาในวันที่ 28 ก.ย. ส่วนประเด็นบวก คือ ปธน.ของจีนยืนยันจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลของยุโรปหรือกองทุน EFSF และพร้อมช่วยเหลือให้ยุโรปกลับมาฟื้นตัว SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 3.01 ตัน ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,772 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,750 — 1,790 โดยเข้าซื้อเพิ่มเมื่อราคาอ่อนตัว และปิดทำกำไรบางส่วนเมื่อถึงแนวต้าน และ Let profit run บางส่วน

 

Technical Analysis:

สำหรับภาพทางเทคนิคในรายวัน ราคาทองคำแกว่งตัว side way ในกรอบเพื่อสร้างฐานแต่มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยเส้น MA 50 วันตัดเส้น MA 200 วันขึ้นมาได้ทำให้ภาพแนวโน้มขาขึ้นเป็นบวกมากขึ้น คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,760/1,756 และแนวต้านบริเวณ 1,780/1,790 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,750 — 1,790 โดยเข้าซื้อเพิ่มเมื่อราคาอ่อนตัว และปิดทำกำไรบางส่วนเมื่อถึงแนวต้าน และ Let profit run บางส่วน

 

Key Point in Precious Market:

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ( - ) ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ( + ) ECB ประกาศจะเข้าซื้อพันธบัตรรอบใหม่ไม่จำกัดจำนวน แต่มีเงื่อนไขให้ประเทศที่ประสบปัญหาหนี้มีวินัยทางการคลัง ( + ) เฟดออกมาตรการ QE3 ตามคาด ( + ) BOJ ประกาศซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม ( + ) ปธน.จีนยืนยันจะช่วยซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซน ( + ) เศรษฐกิจโลกอ่อนแอลง ( - )

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม การประชุมระหว่างผู้นำ กรีซ อิตาลี สเปน วันที่ 28 ก.ย. ก่อนที่จะประชุมผู้นำยูโรโซนวันที่ 18 — 19 ต.ค. การที่สเปนจะขอความช่วยเหลือทางการเงินหรือไม่ ผลการทำ Stress test ของธนาคารพาณิชย์สเปนจะออกมาในวันที่ 28 ก.ย.อาจต้องการเงินทุนอีก 50 — 60 พันล้านยูโร

 

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของ ไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 3.01 ตัน ถือทองคำจำนวน 1,308.41 ตัน

ราคาโลหะเงินปิดที่ 34.68 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 34.12 — 34.80 USDต่อออนซ์ ราคาโลหะเงินแกว่งตัว side way ในกรอบระหว่าง 34.1 — 35.1 โดยมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 35 USD ต่อออนซ์ และยังไม่สามารถผ่านไปได้ คาดว่าราคาจะแกว่งตัว side way สร้างฐานก่อน คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 35.0/35.2 มีแนวรับบริเวณ 34.1/33.7 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน ishares silver trust ซื้อโลหะเงิน 57.26 ตัน รวมถือโลหะเงินจำนวน 9,940.66 ตัน

[Pete 15,187]

(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.86/88 แข็งค่าตามยูโร-แรงซื้อ

http://www.ryt9.com/s/iq03/1493881

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กันยายน 2555 11:19:38 น.

นักบริหารเงินธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.86/88 บาท/ดอลลาร์ ขยับแข็งค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.89/91 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินยูโรและแรงซื้อ-ขายของผู้ส่งออกและนำเข้า

 

"เงินบาทขยับแข็งค่าเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในกรอบเดิม ขึ้นไป 30.90(บาท/ดอลลาร์) Exporter ก็ขาย ลงมาใกล้แถวๆ 30.80(บาท/ดอลลาร์) Importer ก็ซื้อ" นักบริหารเงิน กล่าว

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2966/2969 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 1.2947/2948 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินเยนอยู่ที่ระดับ 78.30/35 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 78.15/20 เยน/ดอลลาร์

 

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ระหว่าง 30.80-30.90 บาท/ดอลลาร์

 

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 30.8390 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 3.06361%

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

 

[Pete 15,187]

คลังเผยส.ค.55 จัดเก็บรายได้ภาครัฐ 3 แสนลบ. ต่ำกว่าประมาณการ 9.7%

http://www.ryt9.com/s/iq03/1493843

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กันยายน 2555 10:47:37 น.

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รายได้รัฐบาลสุทธิเดือนสิงหาคม 2555 จัดเก็บได้ 300,116 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 32,323 ล้านบาท จากการชำระภาษีจากกำไรสุทธิของนิติบุคคลที่ต่ำกว่าเป้าหมายได้ ส่งผลให้รายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม 2554 — สิงหาคม 2555) ต่ำกว่าเป้าหมาย 19,837 ล้านบาท

 

สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้เดือน ส.ค.55 จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 32,323 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.7 มาจากการชำระภาษีของนิติบุคคลจากกำไรสุทธิเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี(ภ.ง.ด.50) (รอบบัญชีของบริษัทญี่ปุ่น) และจากประมาณกำไรสุทธิครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี(ภ.ง.ด.51) จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัยช่วงปลายปี 2554 ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจในช่วงต้นปี 2555, ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยูโรโซน, การให้สิทธิประโยชน์ภาษีของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ในเรื่องการลงทุนสีเขียว และการตั้งสำรองเพิ่มของธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้การขยายเวลาลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 0.005 บาท ทำให้ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 8,242 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ฟื้นตัวหลังจากอุทกภัยและโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกตามนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้ภาษีรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,466 ล้านบาท หรือร้อยละ 61.8 นอกจากนี้ การบริโภคและการนำเข้าที่ขยายตัว ส่งผลให้ภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,153 และ 915 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.0 และ 10.2 ตามลำดับ รวมทั้งการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 654 ล้านบาท เนื่องจาก บมจ.กสท โทรคมนาคม นำส่งค่าธรรมเนียมการให้บริการการสื่อสารสูงกว่าประมาณการ

 

ขณะที่ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,858,773 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 19,837 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.9) เป็นผลจากอุทกภัยช่วงปลายปีที่ผ่านมาและการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ำกว่าประมาณการ นอกจากนี้ การขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล ทำให้การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีน้ำมันสรรพสามิตต่ำกว่าประมาณการ อย่างไรก็ดี การนำเข้าที่ขยายตัวทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ

 

ทั้งนี้ กรมสรรพากรจัดเก็บรายได้รวม 1,501,507 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 24,114 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.5) สาเหตุสำคัญมาจากภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 56,806 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.8

 

กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 345,648 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 22,183 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.0 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.2) สาเหตุสำคัญมาจากการขยายเวลาการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 0.005 บาท ส่งผลให้ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 36,868 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.7

 

กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 109,781 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 13,481 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 17.3) เป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดรถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์

 

รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 97,880 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,655 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.8) โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ โรงงานยาสูบ, บมจ.กสท โทรคมนาคม และบมจ.ปตท.

 

ขณะที่หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 106,619 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,843 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.8 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.5)

 

ด้านการคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 225,827 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6,173 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.7 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 185,323 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 323 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.2 และการคืนภาษีอื่นๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 40,504 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6,496 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.8

 

การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ ให้แก่ อปท. ในปีงบประมาณ 2555 ได้มีการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ อปท. แล้ว 7 งวด เป็นจำนวน 50,521 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,621 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.5

 

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยช่วงปลายปี 2554 และความผันผวนของเศรษฐกิจโลกจากวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยูโรโซน รวมทั้งผลกระทบจากมาตรการเพิ่มขีดความสามารถเอกชนไทยผ่านการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และผลกระทบจากมาตรการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนผ่านการชะลอการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ได้ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่ผ่านมาในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 ต่ำกว่าเป้าหมาย

 

อย่างไรก็ดี การดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลทั้งเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายของประชาชน และนโยบายกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน รวมทั้งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ ทำให้กระทรวงการคลังเชื่อมั่นว่าผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในปีงบประมาณ 2555 จะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

[Pete 15,187]

ที่ 4/21/2012 03:40:00 PM

เขียนโดย Bangkokline gateway to Forex.

ตลาด ฟอร์เร็กซ์ ตลาดทุน หรือ เกมพนัน

 

 

"บทเรียนที่ดีสำหรับนักลงทุน คือ การแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดจากการลงทุน"

 

 

จากสถิติที่พบว่า นักลงทุนในตลาดฟอร์เร็กซ์ มีหลายคนที่มองเรื่องการลงทุนในตลาดนี้เหมือนเป็น "เกมส์การพนัน" เกมส์ที่เสียงได้ เสี่ยงเสีย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะชอบสิ่งเหล่านี้เป็นอันมาก การมองตลาด 

ฟอร์เร็กซ์คือบ่อนการพนันเป็นอันตรายที่พึงหลีกเลี่ยง

            นักพนันมักมองอะไรด้วยอารมภ์ขาดการยั้งคิด ลุ่มหลงและอยากได้ ในยามที่ได้ก็จะหลงไหลกับผลประโยชน์ที่ได้รับ ในยามที่เสียก็จะมุทะลุ ต้องการเอาชนะเพื่อหวังเงินคืนอย่างเดียว

            นักพนันเสี่ยงโชคมักจะใช้อารมภ์ในการตัดสินใจ โอกาสการสูญเสียเงินจึงมีมาก การที่นักลงทุนมองตลาดเป็นย่อนการพนัน หรือสถานเริงรมภ์ที่สามารถหาความสุขได้นับว่าเป็นสิ่งที่อันตราย

             นักเล่นหวยจะรู้สึกลิงโลดใจเมื่อม้าที่แทงเข้าวิน และรู้สึกห่อเหี่ยวใจมือเท้าชา เมื่อหวยออกมากผิดจากที่ได้แทงไว้ นักพนันจำนวนมากชอบดื่มเหล้าย้อมใจให้ฮึกเหิม เพื่อจะเข้าเล่นการพนันรอบใหม่

            ต่างกับนักลงทุนที่ชาญฉลาด ก่อนลงทุนจะศึกษาถึงภาวะเศรษฐกิจ ปัจจัยพื้นฐาน วิเคราะห์ตลาด เตรียมพร้อมเรื่องสภาวะจิตใจ เข้าใจถึงสภาพจิตวิทยามวลชน การที่นักลงทุนเข้าใจพฤติกรรมของคนหมู่มากในตลาดหุ้น โอกาสที่จะทำกำไรจากอารมภ์ที่อ่อนไหวของนักลงทุนมือใหม่จึงเกิดขึ้นได้ แต่ต้องระมัดระวังมิให้อารมภ์ของนักลงทุนตกอยู่ในวังวนของความโลภความกลัวเสียเอง จากสถิติพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ทั้งนี้จากการที่การลงทุนในตลาดเปรียบเสมือนเป็น "เกมส์ การพนัน" 

                    ทุกครั้งที่ตลาดปิด นักลงทุนที่ดีจะต้องตรวจสอบการลงทุน และยามที่นักลงทุนประสบปัญหาการขาดทุน ต้องกลับมาพิจารณาถึงปัญหาที่เกิด มีอะไรเป็นสาเหตุและหาทางแก้ไขป้องกันการลงทุนในครั้งต่อไป

                      บทเรียนที่ดีที่สุดของนักลงทุน คืิอ "การแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดจากการลงทุน"

                      นักลงทุนบางคนเมื่อเริ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เปิดโปรแกรมการลงทุนขึ้นมา ก็จะกระหายใคร่จะซื้อ-ขายตลิดเวลา เสมือนนักเลงเหล้าที่อยากดื่มสุรา เพราะคิดว่าการได้ดื่มสุราคือ ความสุข แต่นักลงทุนในตลาดฟอร์เร็กซ์ ที่ดี ซื้อขาย อัตราแลกเปลี่ยนเงินให้ได้ผลประโยชน์พอประมาณและไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อขายตลอดเวลาทุกวัน การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน ในตลาดฟอร์เร็กซ์ทุกวันเพื่อแลกกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ ย่อยครั้งที่นักลงทุนเช่นนั้นต้องผิดหวังจากการเข้าซื้อขาย

                       ในยามที่ตลาดมีความร้อนแรงผิดปกติวิสัย นักลงทุนที่ฉลาดจะเข้าซื้อขายเพื่อทำกำไร ซึ่งต่างจากนักลงทุนที่เห็นตลาดเป็นบ่อนการพนัน จะยังจมปลักอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ อยู่ในตลาดไม่สามารถถอนตัวได้ เพราะคิดว่าสักครู่หรือสักชั่วโมงจะสามารถเอาชนะตลาดหุ้นได้ โดยหารู้ไม่ว่าเขากำลังขุดหลุมฝังตัวเอง

                  

http://bangkokline.blogspot.com/2012/04/blog-post.html

 

     

[หลิวลู่ลม 9]

 

 

คุณ GB2514 ครับ ขอให้ยุติ เรื่องการพูดถึงแนวทางการเล่นในแต่ละคนนะครับ เพราะผมก็ไม่เคยไปต่อว่าใคร ที่โดดดอยเพื่อไปหวังซื้อของราคาต่ำกว่าเช่นกัน ขอให้เรื่องมุมมองว่าจะไปเกี่ยวกับหรือเป็น การพนัน หรือไม่นั้น ยุติด้วยการจากไปของผม สำหรับห้องนี้ดีกว่าครับ เพราะวิจารณ์อะไรใดๆไป คุณก็ไม่เข้าใจ รู้ความจริง หรือได้สัมผัสจริงๆนะครับ

 

ผมย้ำว่า ผมไม่เคยไปวิจารณ์ใครแล้วผมก็ไม่ต้องการให้ใครมาวิจารณ์ผมเช่นกันครับ ท่านใดใครคิดว่าหลักการใครถูก ก็ทำต่อไปตามนั้น กาลเวลา ผลในสิ่งที่ทำ ทั้งหมดที่เรียกว่า กรรม จะเป็นเครื่องกำหนด ชะตา ชีวิตผู้นั้นครับ

 

แล้วที่สำคัญ ผมไม่จำเป็นต้อง ขอโทษใคร เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ใช้วาจาก้าวร้าวแต่อย่างใด เพียงแต่ปกป้องสิทธิของผมเท่านั้น ที่สำคัญผมก็ใช่ใช่คนเด่นดังอะไร ที่จะให้ใครมาวิจารณ์ ซึ่งเข้าข่าย ละเมิด ที่ตรงประเด็นกว่าคำว่า นักพนัน

 

สุดท้ายแล้ว ใครจะดีหรือไม่ดี ใครจะเป็นอย่างไร ในสายตาของใคร สุดแล้วแต่มุมมองในแต่ละท่าน แต่ขอให้คำว่า การพนัน นักพนันหรืออะไรก็แล้วแต่ ตายไปพร้อมกับผมสำหรับห้องสนทนานี้ หากมีการเตือนกัน ก็ขอให้เป็นไปในแบบ อย่าเล่นเกินตัว อย่าโลภมาก ไม่ใช่ไปกล่าวหาเขาว่า เป็นนักพนันหรือเล่นการพนันครับ

 

ขอเถอะนะครับ มันจะตายไปพร้อมกับล็อกอิน DonJuan จริงๆครับ

 

ปล. แล้วอย่าไปวิจารณ์ใคร หรือกล่าวหาเขาว่าเป็นอะไร โดยที่เราไม่รู้หรือไม่พยายามจะรู้ให้เห็นความจริงนั้นอย่างเข้าใจ เพราะเท่ากับว่าคุณได้ ฆ่าเขาทั้งที่เขายังมีลมหายใจอยู่ครับ

ผมคิดว่ามันเป็นสไตล์การเล่นของแต่ละคนซึ่งมีวิธีเล่นไม่เหมือนกันซึ่งแต่ละคนก็จะเล่นในสิ่งที่เหมาะกับเขาเพราะต้นทุนของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน......ไม่มีใครผิดหรือถูก.....ส่วนเป็นการพนันหรือผมว่าแล้วแต่มุมมองของแต่คนทุกอย่างมันมองได้2ด้านเสมอ....คุณเด็กขายของคงไม่ได้ตั้งใจว่าคุณกัปตันหลอกครับแค่จะเตือนคนทั่วไปที่อาจจะเล่นเพลินจนไร้สติแต่เผอิญคำว่า..นักการพนันไปสกิดโดนจิตใจคุณกัปตันว่า...เขาว่าเราหรือเปล่า......คนเราคิดต่างได้ครับมีสิทธิแต่อย่าแตกแยก..ขอให้เคารพในความคิดขอแต่ละท่าน.....กัปตันกลับมาเถอะครับเมื่อสบายใจแล้ว...........คุณพี่ขอร้องงงงงงงงงงงง........พูดมากไปเปล่าเรา......ไปดีกว่า......ฟิ้วววววววววว

[luk 352]

เฮ้อ......มันเป็นแค่เส้นบางๆเท่านั้นจริงๆที่คั่นระหว่างคำว่า "การลงทุน" กับ "การพนัน"

 

ต่างคนต่างความคิดเห็น เถียงกันไปเถียงกันมาก็ไม่จบหรอกครับ ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นในสิ่งที่คุณ GB2514 และคุณลิน กล่าวมา

 

ผมว่าสิ่งที่เฮียบอกกล่าวตักเตือนไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นหรือบทความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้เชื่อว่าหลายๆท่านที่อยู่ในห้องนี้คงจะซึมซับความหวังดีมามากพอสมควรแล้ว น่าจะนำไปใช้และเตือนสติใครหลายๆท่านในที่นี้ไม่มากก็น้อย ผมคงไม่สามารถบอกให้เฮียเลิกหรือหยุดกล่าวอะไรเกี่ยวกับประเด็นนี้เพราะมันก็ไม่ได้ผิดอะไรที่เฮียจะหวังดีกับน้องๆ เพื่อนๆในห้องนี้ แต่เพื่อให้บรรยากาศในห้องนี้กลับมาสนุกสนานคึกครื้นเหมือนเดิม น่าจะเป็นการดีกว่าและคงเป็นสิ่งที่เพื่อนๆหลายคนในห้องนี้อยากเห็นและมีความสุขในการเข้ามาอ่านข่าวหรือเรื่องสนุนสนานอื่นๆอีกมากมาย

 

ส่วนกัปตัน ก็อย่าคิดมากให้ปวดหัวเลยครับ ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่คนข้างนอกมองเราว่าเราเป็นเช่นนั้นไม่เป็นความจริง เราไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็อยากไปคิดมากเลยครับ อย่างดาราในวงการบันเทิงไม่ใช่น้อยก็เป็นเช่นนี้ บางท่านคิดมากถึงกะล้มป่วยทั้งๆที่ตนเองก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแต่ข่าวมันออกไปเป็นเช่นนั้น ส่วนบางคนมีสติในเมื่อเราไม่ได้เป็นเช่นนั้น สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือการแถลงไข ชี้แจงในสิ่งที่เราเป็น ส่วนสังคมนั้นจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นอีกเรื่องนึง เพราะเชื่อว่าสังคมก็มีวิจารณญาณส่วนตัวไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราคิดว่าเราไม่ได้เป็นเช่นนั้นจิงๆ ก็ไม่ต้องไปแคร์ แต่อย่าเดินหนีปัญหาก็เท่านั้น.......

 

ร่ายมาซะยาว ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่อยากให้ห้องเดาของพวกเราทุกคนเป็นแบบนี้อยากให้รักกัน รักกันเหมือนเดิม ........ด้วยความเคารพรักแด่เฮียเด็กขายของและกัปตัน Donjuan

[ariya 1,481]

โควต้า like หมดเจ้ like ให้น้องลินทีตอบโพส อัยยา กะลัก

[Dr.Polar Bear 346]

านไปอ่านมาพี่กัปตันก็ไม่ได้เป็นนักพนัน พี่เด็กขายของก็ไม่ได้ว่าพี่กัปตัน ลับมานะครับน้องๆรออยู่ คิดถึงจรวดพี่แล้ว ทองเลยไม่วิ่งขึ้นซักทีเลยอ่

[Pete 15,187]

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดในแดนบวก รับคาดการณ์ยุโรปออกมาตรการช่วยเหลือสเปน

 

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่มีรายงานว่า ยุโรปอาจจะเปิดเผยโครงการช่วยเหลือทางการเงินแก่สเปนอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.5% แตะ 275.84 เมื่อเวลา 8.10 น.ตามเวลาลอนดอน ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 3,528.99 จุด เพิ่มขึ้น 19.07 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 7,409.34 จุด เพิ่มขึ้น 19.85 จุด

 

หุ้นเมดิโอบังกา บวก 1.3% ส่วนหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส ปรับตัวขึ้น หลังจากที่โบรกเกอร์หลายแห่งคาดการณ์ว่า ราคาโลหะมีค่าจะอยู่ที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า