ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ค้านราชบัณฑิตแก้'คำทับศัพท์'ภาษาอังกฤษสับสนแนวคิด

วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555| |

Tweet ขณะที่เลขาฯ ราชบัณฑิต แจงแก้คำทับศัพท์ภาษาอังกฤษแค่แนวคิด ยังไม่ทำประชาพิจารณ์ นักอักษร แนะถ้าแก้ต้องแก้ทั้งระบบแต่ปัญหามาก เว็บบอร์ดเรียงหน้าค้าน ชี้ทำให้สับสน แนะสำรวจความเห็นประชาชน สื่อ ครู

 

 

กรณีสำนักศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถาน มีดำริที่จะเปลี่ยนแปลงการเขียนคำศัพท์ที่ยืมจากภาษาอังกฤษ หรือคำทับศัพท์ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ใหม่ ด้วยเหตุที่มีคำศัพท์ที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษ 176 คำ เขียนไม่ตรงกับเสียงวรรณยุกต์ของคำนั้นๆ ตามอักขรวิธีไทย โดยอยู่ระหว่างทำแบบสำรวจความคิดเห็นจาก คณะกรรมการราชบัณฑิต ภาคีสมาชิก และผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 300 ชุดนั้น

 

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม น.ส.กนกวลี ชูชัยยะ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเพียงข้อเสนอส่วนบุคคลของ ศ.กิตติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตภาษาไทย ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเป็นการภายในราชบัณฑิตยสถาน โดยการออกแบบสอบถามภายในองค์กรไปถึงภาคีสมาชิกและกรรมการวิชาการ ก่อนที่จะสรุปผลเสนอสภาราชบัณฑิตในเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นจะต้องมีกระบวนการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ที่คนไทยทุกคนควรต้องมีส่วนร่วมในภาษาของชาติ

 

เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน ยืนยันด้วยว่า จะยังไม่มีการแก้ไขคำทับศัพท์ดังกล่าวในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ที่จะเผยแพร่ภายในต้นปี 2556 อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดพิมพ์แล้ว โดยพจนานุกรมฉบับนี้ถือเป็นฉบับที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน ต่อจากฉบับ พ.ศ.2493 พ.ศ.2525 และ พ.ศ.2542 เป็นฉบับเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งบรรจุคำที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เช่น คำว่า “แกล้งดิน” และยังเป็นฉบับแรกที่จะจัดพิมพ์ 1 แสนเล่ม แจกจ่ายให้แก่สถานศึกษา องค์กร หน่วยงาน และสื่อสารมวลชนด้วย

 

ศ.กิตติคุณ ดร.กาญจนา กล่าวว่า เจตนาของการเสนอเปลี่ยนแปลงการเขียนคำทับศัพท์ใหม่ เพื่อให้คำศัพท์ดังกล่าวเขียนตรงกับเสียงวรรณยุกต์และการอ่านออกเสียง และถ้าเปลี่ยนแล้วใครไม่เขียนตาม ราชบัณฑิตก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะทุกวันนี้ก็มีคำศัพท์หลายคำที่ไม่ได้เขียนตามแบบราชบัณฑิตอยู่แล้ว แต่การเสนอให้เปลี่ยนเพราะเมื่อออกเสียงอย่างไรก็ควรเขียนอย่างนั้น

 

"คำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษแล้วได้เขียนตามเสียงวรรณยุกต์ถูกต้อง เช่น ประชุมอังค์ถัด ดาวน์โหลด และคำว่าโหวต ดังนั้นเมื่อหลายคำเขียนถูกที่เหลือก็ควรเปลี่ยนให้ถูกต้องด้วย อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลการสำรวจความคิดเห็นอีกครั้งว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือไม่ และถ้าเห็นด้วยเฉพาะบางคำ ก็ปรับแก้เฉพาะที่เห็นด้วย ซึ่งก็ไม่คัดค้าน" ศ.กิตติคุณ ดร.กาญจนา กล่าว

 

ด้าน นายวัฒนะ บุญจับ นักอักษรศาสตร์ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร กล่าวว่า เรื่องนี้น่าเห็นใจและน่าเป็นห่วงพอๆ กัน ในส่วนที่น่าเห็นใจคืออิทธิพลของการยืมคำที่ทำให้ภาษาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการยืมคำจากภาษาที่ไม่ใช้วรรณยุกต์มาใช้ด้วยวิธีทับศัพท์

 

นายวัฒนะ อธิบายว่า การยืมคำดังกล่าว เมื่อถอดถ่ายอักษรมาเป็นภาษาไทยนั้นถือกติกาว่าไม่ต้องมีรูปวรรณยุกต์กำกับ เนื่องจากผู้รู้ภาษารู้ดีว่าจะอ่านออกเสียงสูงต่ำอย่างไรก็ไม่กระทบกับความหมาย แต่พอเวลาอ่านออกเสียงกันจริงๆ กลับใช้อีกกติกาหนึ่ง คือกลุ่มคนที่รณรงค์การใช้ภาษาแบบบ้าคลั่ง บังคับว่าเขียนอย่างไรต้องออกเสียงอย่างนั้น เมื่อไม่มีวรรณยุกต์กำกับก็ต้องไม่ออกเสียงวรรณยุกต์ หากออกเสียงแปร่งไปจากรูปเขียนก็ถือว่าผิด ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือ หากจะเปลี่ยนกันจริงๆ ควรเปลี่ยนทั้งระบบ ซึ่งคงเกิดปัญหายุ่งยากในวงการภาษาอีกไม่ใช่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเข้าไปอ่านในกระดานสนทนาของราชบัณฑิตยสถาน วันที่ 1 ตุลาคม พบว่ามีสมาชิกเว็บบอร์ดจำนวนมากเข้ามาอ่านและแสดงความเห็นเรื่องนี้ อาทิ ผู้ที่ใช้ชื่อว่า "ลุงเคน" เข้ามาตั้งกระทู้สนทนาหัวข้อ "เหตุผลเปลี่ยนเพื่อความสะดวกของฝรั่งจะได้ไม่สับสนจะได้อ่านถูก" โดยมีผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันคือ เสนอให้สำรวจความเห็นจากประชาชน และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา เช่นสื่อ และครู

 

คุณลุงเคน แสดงความเห็นด้วยว่า การใช้คำศัพท์ที่มาจากภาษาต่างประเทศต้องเขียนให้ไม่มีรูปวรรณยุกต์ ยกเว้นจะไปซ้ำกับคำศัพท์ภาษาไทย แต่ต้องออกเสียงให้ถูกต้องตามภาษาเดิมของเจ้าของภาษา แต่ไม่เห็นด้วยที่จะแก้การเขียนคำเพียงเพื่อให้ชาวต่างชาติที่เรียนภาษาไทยอ่านเข้าใจง่าย หรือไม่เกิดความสับสน

 

คุณลุงเคน ให้เหตุผลว่า การออกเสียงเป็นเรื่องของการฝึกฝนของคนที่ใช้เท่านั้น แต่ผู้ที่มีผลกระทบคือองค์กรต่างๆ และหนังสือทุกเล่มที่ใช้คำทับศัพท์เหล่านี้อยู่ก่อนแล้วจะต้องเปลี่ยนการสะกดคำศัพท์ใหม่จะเกิดความสับสนแทน

 

อย่างไรก็ดี คุณลุงเคน เสนอว่า หากต้องการเปลี่ยนแปลง ควรทำแบบสำรวจความคิดเห็นของประชาชนก่อน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ต้องใช้คำเหล่านั้นในชีวิตประจำวัน หรืออีกแนวทางคือ เสนอให้เขียนได้ทั้งสองแบบ เหมือนกับตอนที่ราชบัณฑิตประกาศให้คำหลายคำเช่น สัปดาห์ อ่านเป็น สับ-ดา หรือ สับ-ปะ-ดา ก็ได้

 

เช่นเดียวกับผู้แสดงความเห็นอีก 2 คน คือ คุณ Sukanya (สุกัญญา) ระบุว่า ดูไม่เป็นสาระสำคัญสำหรับคนไทย น่าจะลองทำแบบสำรวจจากประชาชนแบบที่เจ้าของกระทู้บอกก็น่าจะดี

 

คุณ prakhong (ประคอง) เสนอว่า การชำระศัพท์บัญญัติ ควรสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ผลิตสื่อ ทั้งวงการหนังสือ โทรทัศน์ และสื่ออื่นๆ รวมทั้งครูทั่วประเทศ ซึ่งมีผลต่อการกระจายความรู้ในวงกว้าง

 

คุณ prakhong เห็นว่า คำบางคำที่ราชบัณฑิต เสนอมาพอรับได้ เช่น กลุ่มที่เติมวรรณยุกต์หรือไม้ไต่คู้บางคำ แต่กลุ่มเปลี่ยนเป็นอักษรสูงและใช้ ห นำหน้า ดูทะแม่งๆ แม้ว่าจะให้เสียงตรงตามจริงก็ตาม แต่คำพวกนั้นน่าจะอยู่ในวงเล็บเหลี่ยมเพื่อบอกเสียงอ่านมากกว่า เพราะคนส่วนใหญ่ยอมรับหลักการถอดทับศัพท์เดิมและจำได้แล้วว่าออกเสียงต่างจากการเขียน ไม่ต่างจากการออกเสียง น้ำ เป็น น้าม / ขนม เป็น ขะหนม ไม่ใช่ ขะนม / สังขยา เป็น สังขะหยา ไม่ใช่ สังขะยา

 

ส่วนคุณจีรัง มีความเห็นสนับสนุนแนวคิดของราชบัณฑิต แต่ติติงว่าอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากเกินไปสักนิด และอาจขัดต่อความเคยชินของคนไทยที่เคยใช้ภาษาแบบเดิม

 

คุณจีรัง บอกว่า สำหรับผู้ที่มีความสามารถเทียบคำภาษาไทยให้กลับไปหาภาษาอังกฤษ คงไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องเหล่านี้ และกลายเป็นความเคยชินไปแล้วที่ใช้กันมาแบบนั้น แต่สำหรับคนไทยจำนวนมากที่พื้นฐานการศึกษายังไม่ดี เวลาอ่านคำพวกนี้ ย่อมต้องอ่านออกเสียงผิด จนอาจถึงขั้นทำให้การสื่อสารไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ดังนั้นโดยแนวคิดของราชบัณฑิตจึงน่าสนับสนุน

[Pete 15,187]

สส.แห่พบทักษิณที่ฮ่องกง

 

 

นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐมนตรี และส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนมากเดินทางไปฮ่องกงเพื่อวิ่งพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ทราบว่ามีส.ส.ไปเยอะอยู่เหมือนกัน ใครที่กลัวหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีก็ไป ใครที่ไม่แน่ใจว่าจะได้ตำแหน่งหรือไม่ก็ต้องไป จะได้ทราบแนวโน้มว่าจะได้เป็นหรือไม่ ดีกว่าไม่ไปเลย แต่ตนไม่ได้เดินทางไปด้วย เพราะไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร ส่วนกระแสข่าวที่ว่าส.ส.อีสานต่อรองขอเพิ่มโควตารัฐมนตรีจากเดิมที่มีอยู่ 5 ตำแหน่งนั้น คงไม่ถึงขั้นที่จะไปต่อรองอะไร แต่โดยทางการเมือง พรรคเพื่อไทยมีศูนย์กลางอยู่ที่ภาคอีสาน คนอีสานเป็นฐานการเมืองใหญ่สุดของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นการให้ตำแหน่งฝ่ายบริหารต้องสอดคล้องและสมดุลกับฐานการเมือง เมื่อคนอีสานทุ่มเทให้พรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรคก็ต้องให้เกียรติส.ส.อีสานเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อความสะดวกในการแก้ปัญหาให้คนอีสาน ถ้าส.ส.อีสานได้โควตารัฐมนตรีเพิ่มก็เป็นเรื่องดี ถ้าทำได้เช่นนี้จะเป็นการตอบแทนคนอีสานที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งส.ส.ภาคอีสานหลายคนก็คิดเหมือนตน แต่ไม่กล้าพูด อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้โควตารัฐมนตรีเพิ่ม ส.ส.อีสานก็คงไม่ไปกดดันผู้บริหารพรรค เราคงต้องอดทน แต่คงมีความรู้สึกน้อยใจว่า ทำไมจึงเป็นแบบนี้อีกแล้ว

[Pete 15,187]

ตร.อิหร่านปะทะผู้ชุมนุมหลังค่าเงินปท.อ่อนลง

ข่าวต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2555 7:34น.

 

ตำรวจอิหร่าน ได้มีการปะทะกับผู้ชุมนุม เนื่องจาก ไม่พอใจจากค่าเงินเรียลของประเทศกำลังอ่อนลงอย่างหนัก

เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนาย ยิงแก๊สน้ำตา เพื่อไล่ผู้ชุมนุมที่ขว้างปาก้อนหิน เนื่องจากอยู่ในอารมณ์โกรธจากค่าเงินเรียลที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก กลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวหาว่า ประธานาธิบดี มาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ของอิหร่าน ในฐานะผู้กำหนดนโนบายที่ก่อให้เกิดวิกฤติ นอกจากนี้ ทางการยังเดินหน้าจัดการกับตลาดซื้อขายเงินนอกระบบ โดยจับกุมเทรดเดอร์ที่ค้าเงินดอลลาร์ หลังทางการสั่งควบคุม เพื่อไม่ให้มีการเก็งกำไรโดยค่าเงินเรียลอ่อนค่าทำสถิติต่ำสุด เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจาก มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตกต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ส่งผลให้รายได้จากการส่งออกน้ำมันลดลง และกระทบความสามารถของธนาคารกลางอิหร่าน ที่จะเข้ามาพยุงค่าเงินชาวอิหร่าน ที่กำลังตื่นตระหนกต่างพากันแย่งตุนเงินสกุลหลัก จึงยิ่งทำให้ค่าเงินเรียลอ่อนค่าลง ส่งผลต่อมาตรฐานค่าครองชีพ และการทำงานของผู้คน ร้านรวงในตลาดต่างพากันปิด เพราะค่าเงินที่ผันผวนทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่รู้จะตั้งราคาอย่างไร และอาจต้องเปลี่ยนราคาทุก ๆ ชั่วโมง ค่าเงินเรียลในตลาดเทียบกับดอลลาร์ทำสถิติต่ำสุด ในวันอังคารที่ 37,500 เรียล จากระดับ 34,200 เรียล ในวันจันทร์ ขณะที่ อัตราแลกเปลี่ยน เมื่อวันที่ 24 กันยายน หรือ 1 สัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ 24,600 เรียล

[Pete 15,187]

หน้าแรก >> รายชื่อกูรู >> รายการบทความ >> บทความ

บทความโดย คุณวรวรรณ ธาราภูมิ

บทความอื่นๆ >>

Good Morning News 5 ตุลาคม 2555

5 ตุลาคม 2555

บลจ.บัวหลวง มิตรแท้ตลอดเส้นทางการลงทุน

 

General News

 

 

• ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.75% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

 

• อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี เตรียมเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านในการประชุมอียูที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เพื่อกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์

 

• โปรตุเกสประกาศขึ้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ตามมาตรการรัดเข็มขัดใหม่ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดยอดขาดดุลและกอบกู้วิกฤตหนี้ของประเทศ

 

• ไซปรัสเตรียมขอความช่วยเหลือทางการเงิน 11 พันล้านยูโร จากกองทุนรักษาเสถียรภาพของยุโรป (ESM) เพื่อใช้ในการเพิ่มทุนให้ธนาคารและชำระหนี้ที่ถึงกำหนด โดยจำนวนเงินดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 62% ของจีดีพี

 

• ธนาคารอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.5% และมีมติให้คงวงเงินสำหรับการซื้อพันธบัตรไว้ที่ 3.75 แสนล้านปอนด์

 

• ราคาบ้านในอังกฤษเดือน ก.ย. ปรับตัวลง 0.4% จากเดือน ส.ค. สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่โดยทั่วไปส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อบ้าน

 

• ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 ราย ซึ่งดีกว่าคาดการณ์

 

• องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เปิดเผยว่า จำนวนหนุ่มสาวผู้ว่างงานใน 17 ประเทศจากกลุ่มประเทศ G20 อยู่ที่ 17.7 ล้านคน หรือกว่า 16% ซึ่งถือว่าเป็นภาวะวิกฤต โดยประเทศที่มีสถานการณ์ด้านการว่างงานสูงสุด คือ อิตาลี แอฟริกาใต้ และสเปน

 

• ยอดค้าปลีกของออสเตรเลียเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.2% จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายในห้างสรรพสินค้า อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจห้างสรรพสินค้ายังปรับตัวย่ำแย่ที่สุดเมื่อมองในระยะยาว

 

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอินเดียเดือน ก.ย. ขยายตัวขึ้นเป็น 55.8 จาก 55.0 ในเดือน ส.ค. โดยเป็นการขยายตัวเร็วสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากรัฐบาลได้ดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ

 

• ยอดเกินดุลการค้าของอุตสาหกรรมไอทีของเกาหลีใต้เดือน ก.ย.สถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 7.41 พันล้านดอลลาร์ จากการที่มูลค่านำเข้าลดลงขณะที่มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น โดยตัวเลขส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากอุปสงค์โทรศัพท์มือถือ หน้าจอแสดงผล และชิปประมวลผล

 

• เกาหลีใต้ได้รับเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ในเดือนม.ค.- ก.ย.1.12 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเกาหลีใต้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น หลังมีการบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศ

 

• การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดขายพื้นที่นิคมในปีงบประมาณ 2555 เพิ่มขึ้น 999 ไร่ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากพื้นที่การลงทุนส่วนใหญ่ยังได้เปรียบทั้งในเรื่องแรงงานฝีมือและเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว พม่าและเวียดนาม ประกอบกับนักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นในแผนจัดการในด้านต่างๆ

 

• สมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า เบี้ยประกันชีวิตรับรวมตั้งแต่ต้นปีเป็น 245,328 ล้านบาท โดยเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 78,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3 จากการขายผ่านช่องทางหลัก ได้แก่ ขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตและธนาคารยังคงได้รับความนิยมเพราะเข้าถึงประชาชนได้อย่างกว้างขวาง

 

ส่วนเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปจำนวน 166,828.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 88 โดยเติบโตจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบใหม่ที่หลากหลาย ตรงกับความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งบริษัทประกันชีวิตยังสามารถรักษามาตรฐานความน่าเชื่อถือ มีการประชาสัมพันธ์และบริการหลังการขายที่ดี ทำให้ประชาชนสนใจทำประกันชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา

 

• บีโอไอ เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ภาคอุตสาหกรรมยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 1,583 โครงการ 804,000 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่ยื่นของการส่งเสริมสูงสุด คือ อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักร และโลหะ

 

• ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยของไทยในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 51.3 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็น 56.2 เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลเรื่องฝนตกชุกในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และข่าวอุทกภัยในภูมิภาคต่างๆ

 

อย่างไรก็ตาม แม้ดัชนีจะลดลงมาแต่ยังสูงกว่าค่ากลาง โดยผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีค่าความเชื่อมั่นอยู่ที่ 54.9 ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ใช่บริษัทที่จดทะเบียนฯ มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ 47.8

 

• ก.พลังงาน จะเสนอแนวทางยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 เพื่อให้หันมาใช้แก๊สโซฮอล์แทน และเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมผลิตเอทานอลโดยสอดคล้องกับนโยบายพลังงานทดแทน โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบคือผู้ใช้รถยนต์รุ่นเก่าและจักรยานยนต์ 2 จังหวะซึ่งมีจำนวนไม่มาก ซึ่งจะหาแนวทางรช่วยเหลืออีกครั้ง ทั้งนี้ ยังมีทางเลือกใช้น้ำมันเบนซิน 95 แทนได้

 

• ก.พาณิชย์ รายงานว่า ยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือน ก.ย.อยู่ที่ 5,472 ราย ลดลง 2% จากเดือน ส.ค.ที่มี 5,584 ราย โดยธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ บริการนันทนาการ 790 ราย ก่อสร้างอาคารทั่วไป 501 ราย อสังหาริมทรัพย์ 233 ราย ขนส่งผู้โดยสารและสินค้า 150 ราย และขายส่งเครื่องจักรและเครื่องมือเครื่องใช้ 147 ราย

 

Equity Market

 

• SET Index ปิดที่ 1,306.63 จุด ลดลง 0.92 จุด หรือ 0.07% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44,631.62 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 496.92 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งขาขึ้น-ขาลง ตามตลาดในภูมิภาคเอเชีย และได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมัน

 

• ผลการสำรวจ Euromoney Real Estate Survey 2012 ในระดับประเทศของ โจนส์ แลง ลาซาลล์ ประเทศไทย ได้รับโหวตให้เป็นอันดับหนึ่งในสาขาที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์โดยภาพรวมเป็นปีที่สองติดต่อกัน และอีก 3 สาขา ได้แก่ ด้านประเมินราคาหลักทรัพย์ ด้านการวิจัย และด้านเป็นตัวแทนซื้อขายให้เช่า

 

• แอปเปิ้ล เริ่มเดินหน้าการผลิตแท็บเล็ต iPad ที่มีขนาดเล็กและถูกกว่ารุ่นปกติแล้ว โดยจะมีหน้าจอแอลซีดีขนาด 7.85 นิ้ว และมีความละเอียดหน้าจอต่ำกว่า The New iPad ซึ่งการเปิดตัว iPad รุ่นเล็กถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวของแอปเปิลเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งอย่างกูเกิลและอเมซอนที่เปิดตัวแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วในราคาไม่เกิน 200 ดอลลาร์ ขณะที่ iPad รุ่นที่ราคาต่ำสุดมีราคาเกือบ 400 ดอลลาร์

 

Fixed Income Market

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวช่วงระหว่าง 0.00% ถึง 0.05% มูลค่าซื้อขายรวม 49,967 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 14 วัน วงเงิน 40,000 ล้านบาท

 

• ผลการประมูลขายพันธบัตรสเปนยอดรวม 3.992 พันล้านยูโร

 

รุ่นอายุ 2 ปี มียอดจำหน่าย 1.285 พันล้านยูโร ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 3.282% ลดลงจากระดับ 5.204% ในการประมูลครั้งก่อน

 

รุ่นอายุ 3 ปีมียอดจำหน่าย 1.997 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 3.956% จาก 3.845% ในการประมูลก่อนหน้า

 

รุ่นอายุ 5 ปีมียอดจำหน่าย 710 ล้านยูโร มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 4.766% ปรับลงจากการประมูลครั้งก่อนที่ 6.459%

 

Guru Corner

 

• Marc Faber :

 

คนที่ประสพความสำเร็จมักจะเชื่อว่ามันมาจากความเก่งของตน แทนที่จะคิดว่าโชคช่วย การคิดแบบนั้นบ่อยครั้งเป็นความผิดพลาด เพราะคนในโลกตั้งกว่า 6 พันล้านคนนี้ หากมีใครสักคนที่ถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ มันเพราะเขาเก่งหรือโชคช่วยล่ะ

 

• Nouriel Rubini :

 

ระบบธนาคารของสหรัฐในปัจจุบันมีสภาพที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา ธนาคารมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะปล่อยให้ล้มไปได้ (Too big to fail) ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการเงินในปี 2008 ยิ่งวันนี้ก็ยิ่งมีขนาดใหญ่กว่าและมีปัญหาหนักกว่าเดิมอีกมากเพราะไปแก้ ปัญหาวิกฤติปี 2008 ด้วยการรวมธนาคารเข้าด้วยกัน

 

วิธีเดียวที่จะทำให้ปัญหา Too big to fail จบลงได้คือต้องกลับไปใช้กฏหมาย Glass-Steagall Act ที่ประธานาธิบดี แฟรงคลิน ดี รูสท์เวลท์ ผลักดันให้ออกมาในปี 1932 (กฏหมายนี้ปฏิรูประบบธนาคารโดยแยกธนาคารพาณิชย์ออกจากธนาคารที่ทำกิจการ Investment Banking)

 

ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เราคงต้องรอให้วิกฤติการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดในโลกเกิดขึ้นในเจเนอเรชั่นหน้าเสียก่อนถึงจะมีการตัดสินใจใช้ Glass-Steagall Act เสียที (เพื่อไม่ให้ธนาคารใหญ่ๆ หรือ Too big to fail banks ต้องใหญ่ขึ้นไปอีกตามวิธีแก้ปัญหาแบบเดิมๆ จนก่อปัญหาอีกไม่รู้จบ)

 

และในวันนี้การเมืองที่เป็นอยู่ไม่ได้นำเราไปสู่การแก้ไขให้ถูกต้องได้เลย

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

ถูกแก้ไข ตุลาคม 5, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

ราคาอาแปะ

[Pete 15,187]

[Pete 15,187]

สวัสดียามเช้า จ๊า 1791

 

ออนไลน์ 25839/25894 ช่วงนี้เจ้ขออยู่นอกสายตาก่อนดีกว่า กลัวมีดบาทนะ

 

รอเชียร์ทิดคุงดีกว่า แล้วป๋าละทำไรยัง :uu บ่นให้ฟังหน่อย

[Pete 15,187]

 

หลายๆ คนเริ่มออกมาพูด - เงินชดเชยที่ขายของขาดทุน คือเงินภาษี อย่าลืม !

 

- เมื่อขาดทุนก็ต้องกู้เงินมาแน่นอน เพราะมีแต่นโยบายฯ กับตั้งคณะกรรมการฯ มารับเงินเดือน เมื่อเก็บภาษีไม่เพียงพอรายจ่าย มันจะเป็นอย่างนี้ เป็นการใช้เงินอนาคตจนหมด สร้างภาระให้คนไทยรุ่นต่อไป ระวังคนรุ่นหลังจะไม่เลี้ยงท่าน คือ คนแก่สูงอายุ ที่ยังไม่ตาย ที่ยังรอความช่วยเหลือทุกด้าน ได้เดือนละ 500 บาท 700 บ้าง. คนรุ่นใหม่จะไม่เลี้ยง โดยมีข้ออ้าง ก็คนแก่เหล่านั้นใช้เงินอนาคตหมดไปแล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงตอบแทน

 

- เมื่อข้าวกินก็ต้องซื้อ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันรถ ค่าผ่อนรถ ก็ต้องจ่าย มีทางเดียวคือเดินขบวนเท่านั้นเอง

 

จะให้ใครไปหน้าวัดพระแก้ว ไปทำพิธีสาบานขอรับ ศีล ๕ มาปฏิบัติ ถ้าปฏิบัติได้ รับรองอะไรๆ ที่มันไม่ดีๆ จะลดน้อยลงไป ไม่มีหนทางอื่นอีกแล้วจริงๆๆ เพราะมันอยู่ที่คน จิตคน สนองความต้องการของคน หลงอยู่ในจิตตนเองทั้งนั้น

ถูกแก้ไข ตุลาคม 5, 2012 โดย เด็กขายของ

[ariya 1,481]

ชอบมากเลย ความสุขคือสนใจความทุกข์น้อยลง ถูกต้องค่ะ

[Pasaya 499]

สวัสดีค่ะทุกคน

ช่วงนี้ยุ่งค่ะไม่ค่อยมีเวลาเข้าเท่าไหร่ อยู่ข้างนอกตลอด

คิดถึงทุกคนนะ

[Pete 15,187]

ยูโรทรงตัวเทียบดอลล์,เยนเช้านี้ หลังอีซีบียืนยันหนุนยูโรโซน

 

 

ยูโรยังคงทรงตัวเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐและเยนในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว และยังคงใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ทำได้เมื่อคืนนี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นในตลาดปรับตัวดีขึ้นภายหลังผู้ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยืนยันที่จะสนับสนุนประเทศสมาชิกยูโรโซนที่กำลังประสบปัญหาหนี้สิน

 

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาในญี่ปุ่น ยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.3015-1.3018 ดอลลาร์ และ 102.11-102.13 เยน เมื่อเทียบกับ 1.3013-1.3023 ดอลลาร์ และ 102.13-102.23 เยนที่ตลาดนิวยอร์กและ 1.2947-1.2948 ดอลลาร์ และ 101.76-101.80 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น.

 

ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 78.44-78.46 เยน เมื่อเทียบกับ 78.44-78.54 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 78.60-78.61 เยนที่ตลาดโตเกียวเย็นวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

ยูโรเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆที่ตลาดโตเกียว โดยยังคงแข็งค่าต่อนเองจากเมื่อคืนนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ จากความกังวลที่บรรเทาลงเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน ภายหลังนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยืนยันว่าอีซีบีจะช่วยประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สินในภูมิภาค

 

"แม้ว่าจะไม่มีอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับถ้อยแถลงของประธานอีซีบี แต่ตลาดก็ประเมินจากท่าทีของเขาว่าจะมีการทำตามแผนต่างๆต่อไปเพื่อช่วยเหลือประเทศในยูโรโซน" นายยูโซะ ซากาอิ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจปริวรรตเงินตราของโตเกียว ฟอเร็กซ์ แอนด์ อูเอดะ ฮาโลว์กล่าว

 

 

เงินบาทเปิด 30.53/55 แข็งค่าต่อ รอตัวเลขศก.สหรัฐฯ มองกรอบ 30.50-30.60

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.53/55 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 30.57/59 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการแข็งค่าขึ้นตามค่าเงินยูโร

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 78.54/56 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3014/3017 ดอลลาร์/ยูโร

 

โดยประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจวันนี้ คือ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ คืนนี้ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ก.ย.

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทระหว่างวันอยู่ที่ 30.50-30.60 บาท/ดอลลาร์

 

ล่าสุด เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.5444 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 3.00698%

 

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.1%

 

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินไว้ไม่เปลี่ยนแปลง โดยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในช่วง 0-0.1% ตามคาด แต่มีการปรับลดการประเมินทางเศรษฐกิจ

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจได้ตัดสินใจคงขนาดของแผนการซื้อสินทรัพย์ไว้ในระดับปัจจุบันที่ 80 ล้านล้านเยน หลังจากที่มีการขยายวงเงินเพิ่ม 10 ล้านล้านเยน จากเดิมที่ 70 ล้านล้านเยนในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย.

 

ส่วนการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น บีโอเจระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังชะลอลงไม่มากก็น้อย ขณะที่การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมค่อนข้างอ่อนแอ เนื่องจากเศรษฐกิจในต่างประเทศปรับตัวลงสู่ช่วงที่ตกต่ำ

[Pete 15,187]

บช.น.ตั้งจุดอำนวยการรปภ.งานกินเจเยาวราช

 

 

วันที่ 5 ตุลาคม 2555 กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และกองบังคับการตำรวจจราจร ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรถนนเยาวราชตลอดสายงานเทศกาลกินเจเยาวราช 2555 วันที่ 14-23 ต.ค. บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ 72 พรรษามีการจัดงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมแนะนำประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงานให้ใช้บริการรถสาธารณะรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีหัวลำโพงและโดยสารทางเรือท่าน้ำราชวงศ์สะดวกกว่า

 

วันที่ 15 ต.ค.พิธีเปิดงานมีการปิดถนนช่วงซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ถึงแยกเฉลิมบุรี ตั้งแต่เวลา14.00-21.00 น. ให้หลีกเลี่ยงการสัญจรในเส้นทางดังกล่าว โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้ระดมกำลังตำรวจจราจรและเจ้าหน้าที่สายตรวจจาก สน.พลับพลาไชย 1 สน.พลับพลาไชย 2 สน.จักรวรรดิ และกองบังคับการตำรวจจราจร ดูแลการจราจร และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานมีการตั้งเต็นท์อำนวยการรักษาความปลอดภัยบริเวณงานดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดช่วงการจัดงานพร้อมจัดทำป้ายจราจรบอกเส้นทางเดินรถและเส้นทางเลี่ยงต่างๆแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด

 

 

 

[Pete 15,187]

อุตุฯสวนปลอดประสพไม่ต้องอพยพในวันที่7-9ต.ค.

 

เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2555 นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงการรับมือพายุเเกมี

 

หลังจากที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานกบอ.ขอร้องชาวกทม.หยุดงานเพื่อเปิดพื้นที่ในการรับมือพายุนี้ในวันที่ 7-9 ต.ค.

 

รวมทั้่งมีเเผนอพยพประชาชนด้วยว่า พายุลูกนี้ในวันที่ 5 ต.ค.จะขึ้นฝั่งที่เวียดนาม โดยมีความเร็ว 90 กม.ต่อชั่วโมง เเละเคลื่อนตัวมาทางตะวันตกอย่างช้าๆ เเละเริ่มมีผลกระทบทางภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก เเละภาคใต้ตะวันตกของไทย ทั้งนี้จะเริ่มมีฝนในช่วงบ่ายวันนั้นโดยเป็นกลุ่มฝนหน้าพายุ เเละในวันที่ 6 ต.ค.พายุลูกนี้จะผ่านเข้าสปป.ลาวกับกัมพูชา เเต่ลดความรุนเเรงลง เเละเมื่อพายุลูกนี้เข้าไทย จะลดความรุนเเรงเหลือระดับดีเปรสชั่นในช่วงวันที่ 7 ต.ค.ในช่วงภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่างกับภาคตะวันออก เเล้วในช่วงค่ำวันนั้นกลุ่มฝนอาจจะเต็มพื้นที่ประเทศไทยเพราะพายุนี้จะอยู่ตรงกลางประเทศ อิทธิพลจะครอบคลุมหลายร้อยกิโลเมตร จากนั้นวันที่ 8 ต.ค.พายุจะเริ่มเคลื่อนตัวออกไปยังอ่าวเมาะตะมะ เเละขยับไปในภาคตะวันตกของไทย โดยพื้นที่ในช่วงข้างต้นที่ตนกล่าวมาเเล้วจะพ้นจากพายุนี้ จากนั้นวันที่ 9 ต.ค.ไทยจะพ้นจากพายุลูกนี้ เมื่อถามว่ามีความจำเป็นต้องอพยพประชาชนหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่ถึงขั้นนั้น เพราะเป็นพายุลูกเเรกของปีนี้เเละเป็นพายุโซนร้อนหากเทียบกับพายุไหหม่าเมื่อปีที่เเล้วนั้น มันเป็นพายุดีเปรสชั่นที่ทำให้ฝนตกเยอะเช่นกัน เเต่ความรุนเเรงอยู่ที่การเคลื่อนตัวของพายุกับสภาพเเวดล้อมในพื้นที่ หากผ่านเส้นทางภูเขาก็ไม่มีผลเยอะ เเต่หากผ่านพื้นที่ราบก็มีผลเยอะ เเละวันที่ 7-9 ต.ค.ประชาชนเพียงเเค่พกร่มติดตัว ส่วนพื้นที่ชายฝั่งก็รอฟังข่าวเเต่ไม่ถึงขั้นต้องอพยพตามที่มีกระเเสข่าวออกมา

 

 

[auntnextdoor 4,268]

สวัสดี ป๋า และทุกท่าน

แวะมาเตือน อย่าลืมกินอาหารเที่ยงนะจ้ะ ขอบคุณข่าวของป๋า ส่งให้ไม่เหน็ดเหนื่อย ช่วยเติมปีก( ให้ตัดสินใจอะไรได้แม่นยำขึ้น ) แต่ไม่ต่อเขานะ ดูจะไม่สวยงามซักเท่าไหร่ อิอื

แปะเพลง อย่างซึ้งให้ป๋า ไว้ฟังตอนพักเที่ยง ฮี่ๆ

 

[kamontip 17]

สวัสดีค่ะทุกคน

ช่วงนี้ยุ่งค่ะไม่ค่อยมีเวลาเข้าเท่าไหร่ อยู่ข้างนอกตลอด

คิดถึงทุกคนนะ

นอ้งเเมวเป็นอย่างไรบ้างค๊ะ ขอให้เเข็งเเรงเลี้ยงงายโตวัยๆๆ