ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

กราฟยูโร : ชนแนวต้าน 1.28

[Pete 15,187]

หลังจากคนมีบุญหนักเยือนที่ใดแล้ว มักเกิดปัญหาต่อประเทศนั้นๆ ตามมา คอยติดตามดูว่า " มันจะเกิดอะไรที่นี่ต่อจากนี้ไป เร็วๆ นี้ "

[Pete 15,187]

[Pete 15,187]

"ประสาร"หวั่นTPPกระทบเครื่องมือคุมเงินทุน

ผู้ว่าการแบงก์ชาติเตือนรัฐบาลพิจารณารอบคอบร่วมมือ TPP หวั่นสหรัฐกดดันเปิดเสรีเงินทุน โดยอาจจะส่งผลให้การใช้มาตรการควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้ายถูกจำกัดมากขึ้น แม้ว่าภาคการธนาคารจะเข้ามาแข่งขันยาก คาดเปิดเสรีในกลุ่มอาเซียนจะเร่งเร็วขึ้นอีก 2-3 ปีเตุพื้นฐานเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน ด้านนักวิชาการ-ภาคประชาสังคมค้าน ชี้ ให้ชะลอเข้าร่วม เหตุส่งผลกระทบรุนแรง

 

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในภาคการเงินไทยยังไม่มีความพร้อมในการเปิดเสรีทางการเงิน ซึ่งจะต้องพิจารณารายละเอียด หากว่ารัฐบาลเข้าร่วมเจรจาหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี)

 

ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามในข้อตกลงทีพีพี โดยจะออกแถลงการณ์ร่วมและบันทึกความเข้าใจไทย-สหรัฐ ในโอกาสที่นายบารัค โอบามา จะมาเยือนไทยวันที่ 18-19 พ.ย. นี้ โดยรัฐบาลชี้แจงว่าเพียงการแสดงเจตนารมณ์ว่าไทยสนใจที่จะเข้าร่วมเจรจาทีพีพีเท่านั้น เพราะต้องมีการศึกษาผลดีผลเสียอีกมาก

 

"ทีพีพีกับสหรัฐอเมริกานั้น เชื่อว่ารัฐบาลคงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง แต่ในส่วนของ ธปท. จะเกี่ยวข้องเรื่องการเปิดบริการด้านการเงิน ซึ่งผลเจรจาสุดท้ายจะเป็นอย่างไรนั้น รัฐบาลคงต้องเลือกในสิ่งที่ประเทศได้ประโยชน์เป็นสำคัญ"

 

ดร.ประสาร กล่าวว่า ข้อตกลงทีพีพี จะคล้ายกับที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนทำข้อตกลงร่วมกัน คือ การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เพียงแต่ ทีพีพี มีจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมตรงที่การทำข้อตกลงกับเออีซีนั้น เป็นการทำในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ส่วนใหญ่มีพื้นฐานเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน ขณะที่ ทีพีพี ทำกับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อย่างสหรัฐ ซึ่งมีระดับพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันมาก และไม่แน่ใจว่าจะมีข้อยืดหยุ่นในเรื่องระยะเวลาเพื่อเตรียมความพร้อมหรือไม่

 

"ต้องยอมรับว่า เรายังมีข้อมูลในเรื่องนี้น้อย ซึ่งทีพีพีเป็นความพยายามของกลุ่มประเทศที่จะทำคล้ายๆ กับเออีซี คือ มีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เพียงแต่รายละเอียดยังไม่ชัด มีหลายเรื่องที่ยังต้องติดตามดู ซึ่งบางเรื่องเราอาจได้ประโยชน์ บางเรื่องเสียเปรียบ จึงต้องศึกษาในองค์รวมว่า ถ้าทำแล้วประเทศไทยจะได้อะไร หรือเสียอะไร และยอมรับได้มากน้อยแค่ไหน" ดร.ประสาร กล่าว

 

คาดสหรัฐหวังให้เปิดเสรีการเงิน

 

ผู้ว่าการแบงก์ชาติ กล่าวอีกว่าสหรัฐคงอยากให้มีเปิดเสรีในส่วนของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น แต่คงต้องรอดูรายละเอียด ซึ่งธนาคารพาณิชย์ไทยกับสหรัฐมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ถ้าจะให้ธนาคารพาณิชย์ไทยไปแข่งขันคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกล หรือถ้าเขาจะมาทำธุรกิจในบ้านเรา ก็คงต้องดูว่าระดับการพัฒนาที่ต่างกันตรงนี้จะเป็นอุปสรรคหรือไม่

 

“นอกจากจะดูเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบแล้ว อีกด้านหนึ่งที่ต้องดู คือ เวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดเงินและเราจำเป็นต้องดูแลเรื่องเสถียรภาพ อย่างแบงก์ไทย เวลาเขาจะไปจะมายังไงเขาก็จะมาบอกเรา แต่กับแบงก์ประเทศใหญ่ๆ บทจะไปบางทีก็ไม่บอก ซึ่งอย่างนี้ต้องระวัง เหมือนตัวอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้น บทจะขายหุ้นก็ไม่บอกว่าจะขาย แล้วขายให้ใครก็ไม่รู้ บอกเพียงแค่ว่าทางต่างประเทศสั่งมา” ดร.ประสาร กล่าว

 

ดร.ประสาร กล่าวยอมรับว่าความร่วมมือในลักษณะทีพีพี นั้น ย่อมทำให้เกิดโอกาสที่เงินทุนจะไหลเข้าและออกได้มากขึ้น จึงต้องพิจารณาด้วยว่าการเจรจาจะครอบคลุมไปถึงเรื่องของการกำหนดเครื่องมือในการควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้ายด้วยหรือไม่ เพราะระยะหลังเงินทุนเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมได้ การเจรจาในครั้งนี้จึงหวังว่าจะไม่มีข้อเรียกร้องที่จะมาจำกัดมาตรการในการดูแลตรงนี้

 

เปิดเสรีการเงิน AEC เร็วกว่าเดิม

 

นอกจากนี้ ดร.ประสาร ยังกล่าวถึงการเปิดเสรีภาคธนาคารในกลุ่มเออีซี ด้วยว่ามีความคืบหน้าอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการกำหนดมาตรฐานสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่จะดำเนินกิจการในประเทศสมาชิกอื่น หรือ Qualified ASEAN Bank (QAB) ซึ่งขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างจัดทำกรอบกฎเกณฑ์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในปีหน้า และเริ่มดำเนินการได้ในอีก 2-3 ปีถัดไป จากกำหนดเดิมจะใช้ในปี 2563

 

"เรื่องกฎเกณฑ์นั้น ไม่แน่ใจว่าเขาเอาเรื่องขนาดเข้ามานับด้วยหรือไม่ ถ้าไม่นับเรื่องนี้แล้วใช้เพียงหลักในการกำกับดูแลโดยดูในเรื่องของฐานะความมั่นคงแล้ว เกือบทุกแบงก์ของไทยน่าจะผ่านเกณฑ์ได้ แต่ถ้าเขาใช้ในเรื่องของขนาดก็ต้องดูว่าขนาดเท่าไรถึงจะผ่าน ช่วงนี้คณะทำงานเขาทำข้อเสนอกันอยู่เพื่อที่จะเสนอต่อที่ประชุมผู้ว่าการแบงก์ชาติอาเซียน และเราเองก็ต้องหารือกระทรวงการคลังในเรื่องนี้ก่อนด้วย" ดร.ประสาร กล่าว

 

ภาคประชาสังคมจี้"ยิ่งลักษณ์"ชะลอทีพีพี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคประชาสังคม ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ 15 องค์กร ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ชะลอการประกาศการเข้าร่วมเจรจาความตกลงทีพีพี จนกว่าจะมีการศึกษาข้อดีข้อเสียอย่างชัดเจน ครอบคลุม และกว้างขวางเพียงพอ และดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งหารือประชาชนอย่างเร่งด่วน

 

ทั้งนี้ องค์กรที่ลงนาม ประกอบด้วย กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย คณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ชมรมเพื่อนโรคไต เครือข่ายเพื่อนมะเร็ง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเภสัชชนบท กลุ่มศึกษาปัญหายา มูลนิธิชีววิถี มูลนิธิบูรณะนิเวศ มูลนิธิสุขภาพไทย

 

ภาคประชาคมเห็นว่าการทำความตกลงทีพีพี จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในด้านต่างๆ คือ

 

1.การเข้าถึงยาและสาธารณสุขของประเทศ ผ่านการเพิ่มระบบการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และจำกัดอำนาจต่อรองและควบคุมราคายาของระบบหลักประกันสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อนโยบายลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพของรัฐบาล

 

2.การอนุญาตให้จดสิทธิบัตรพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ทำให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากรชีวภาพและบังคับให้เกษตรกรต้องจ่ายค่าชดเชยต่างๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับเกษตรกร

 

3.เปิดเสรีบริการทางการเงินอย่างกว้างขวางให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้น 100% และจำกัดสิทธิในการกำกับดูแล โดยเฉพาะมาตรานโยบายเงินทุนเคลื่อนย้ายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ

 

4.การคุ้มครองการลงทุนให้แก่นักลงทุนต่างชาติ สามารถฟ้องร้องเพื่อยกเลิกนโยบายสาธารณะและเรียกค่าชดเชยจากรัฐผ่านกลไกอนุญาโตตุลาการ นั่นจะยิ่งจำกัดพื้นที่ในการดำเนินนโยบายเพื่อสาธารณะของรัฐบาล

 

กรุงไทยเชื่อเป็นโอกาสการเงินไทย

 

นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ทีพีพี น่าจะเป็นโอกาสของสถาบันการเงินไทยมากกว่าที่จะทำให้การแข่งขันเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากธนาคารต่างชาติได้เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทยเป็นเวลานานแล้ว บางแห่งยาวนานกว่า 50 ปี และที่ผ่านมาธนาคารต่างชาติมีความสนใจที่จะหาพันธมิตรในประเทศได้ เพื่อให้บริการลูกค้าของธนาคารต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทย

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารสัญชาติอเมริกาหลายแห่งมีการเจรจากับธนาคาร เพื่อให้บริการทางการเงินกับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น ธุรกิจบริหารเงินสด (Cash Management) ธุรกิจปริวรรตเงินตรา (Treasury) หรือ อิเล็กทรอนิกส์แบงกิ้ง ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ให้บริการธุรกิจเหล่านี้อยู่แล้ว การให้บริการกับลูกค้าของธนาคารต่างชาติยังจะเป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับธนาคารอีกช่องทางหนึ่ง โดยในขณะนี้ธนาคารมีสัดส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยต่อรายได้รวมประมาณ 30%

 

นักวิชาการค้านไทยเข้าร่วมทีพีพี

 

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทย กล่าวเปิดเผยว่า กรณีท่าทีของรัฐบาลที่จะเข้าร่วมการจัดทำความตกลงและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของภาคพื้นแปซิฟิก หรือ ทีพีพี ในระหว่างที่นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย และมีเป้าหมายให้รัฐบาลทำความเข้าใจกับประชาชน เรื่องผลดี ผลเสีย ผลกระทบ และมาตรการรองรับ หากไทยจะเข้าร่วมทีพีพี กับสหรัฐ โดยอ้างว่าในอนาคต ไทยมีโอกาสจะได้ประโยชน์จากทีพีพี ในหลายด้าน เช่น ภาคการเงินไทยที่มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่หากกลัวเรื่องความผันผวนเรื่องการไหลเข้าออกของเงินต่างประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีความสามารถในการดูแล หรือเรื่องยารักษาโรค ไทยสามารถนำยาที่หมดการคุ้มครองตามสิทธิบัตรของสหรัฐ มาผลิตช่วยเหลือคนยากจนให้เข้าถึงยารักษาโรคได้

 

"ในเรื่องนี้ไทยไม่จำเป็นต้องรีบร้อนลงนามตามข้อเสนอของสหรัฐ แต่สามารถแสดงท่าทีให้นายโอบามารับทราบได้ว่าเราสนใจ โดยต้องทำความเข้าใจกับประชาชนก่อน จากนั้นจึงมาเตรียมการศึกษาถึงผลดี ผลเสีย ของการเข้าร่วมทีพีพีให้ชัดเจน เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อม มาตรฐานสินค้า สิทธิการจ้างงาน ผลกระทบต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในประเทศ"

 

แนะรวมกลุ่มอาเซียนเข้าร่วมทีพีพี

 

นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่า ไทยควรรวมกลุ่มกับประเทศสมาชิกอาเซียนในการเข้าร่วมทีพีพี ที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพ เพราะกลยุทธ์ของสหรัฐ คือ การชักชวนชาติอาเซียนเข้าร่วมทีพีพี ทีละประเทศ ซึ่งสหรัฐ จะได้ประโยชน์มากกว่า เนื่องจากคุยกันตัวต่อตัวจะมีอำนาจการต่อรองมากกว่า หากไทยเข้าร่วมทีพีพีในนามอาเซียนจะได้ประโยชน์ 2 ด้าน คือ 1.เพิ่มอำนาจการต่อรองกับสหรัฐ และ 2.เป็นการแสดงท่าทีทางการทูตที่เป็นกลาง เป็นมิตรกับทุกฝ่าย ไม่ได้แสดงตัวเลือกข้างว่าจะเข้ากับสหรัฐ หรือจะเข้ากับจีนที่กำลังแผ่อิทธิพลเข้ามา

 

“คิดง่ายๆ ไทยได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐ ปีละประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 210,000 ล้านบาท ติดอันดับ 1 ใน 20 ประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าของสหรัฐ ขณะที่ โอบามา พยายามแก้ปัญหาการว่างงานของคนในประเทศ จึงต้องส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีการจ้างงานมาก ส่งเสริมเอสเอ็มอี ก็ต้องมาเพิ่มการส่งออกสินค้าของตัวเอง และลดการขาดดุลการค้า ซึ่งสถานการณ์อย่างนี้สหรัฐ คงไม่ยอมเรื่องการค้าให้ไทยง่ายๆ แน่นอน” นายสมภพ กล่าว

 

http://www.suthichaiyoon.com/home/details.php?NewsID=312

 

[Pete 15,187]

จากเมื่อวานนี้ ที่มีข่าวออกมาว่า ยุโรป เริ่มเข้าสู่ระดับถดถอย นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่า ค่าเงินยูโรฯ อาจจะลดต่ำลง

[Pete 15,187]

ช่วงเช้านี้ ไม่มีสิ่งเร้าต่อค่าเงิน หวังเพียงช่วงเปิดตลาดยุโรป และ ตลาดสหรัฐ

[jewjang40 5,712]

 

อรุณสวัสดิ์คะ เฮียNamchiang เฮียเด็กขายของ เพื่อนๆ

[Pete 15,187]

!!!!! เหลืออีก 45 วันสุดท้าย รถยนต์ราคาพิเศษจากมาตราการ รถคันแรก โอกาสอย่าพลาด ไหนฯ ถ้าไม่เคยได้อะไรจาก " ประชานิยม "

 

รายละเอียด ข้อกำหนด เงื่อนไขต่างๆมีดังนี้

 

1.ผู้ซื้อต้องอายุ 21 ปีขึ้นไป

2.ผู้ซื้อจะต้องไม่เคยซื้อรถยนต์มาก่อน

3.ระยะเวลา จะต้องซื้อตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 – 31 ธันวาคม 2555

4.โดย ราคารถยนต์นั้นจะต้องไม่เกิน 1,000,000 บาท

5.เครื่องยนต์สำหรับรถกระบะจะไม่จำกัด ซีซี

6.เป็นรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยเท่านั้น

7.เป็นรถใหม่(ป้ายแดง,มือสองไม่ได้)

8.ห้ามโอนเปลี่ยนมือใน 5 ปี ยกเว้นกรณีรถถูกยึดเนื่องจากไม่ได้ผ่อนต่อ ไฟแนนสามารถเปลี่ยนมือได้

 

วิธีดำเนินการ

 

1. ผู้ซื้อรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย

-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี

-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ

-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)

2. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ

3. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

4. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่

5. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อเมื่อครอบครองครบ 1 ปี โดยจ่ายเป็นเช็คให้ในครั้งเดียว

กรณีรถถูกยึดเนื่องจากไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้

ปลดล็อคเงื่อนไข ห้ามโอนภายใน 5 ปี กรณีผู้ซื้อรถ(ผ่อน)ผิดนัดไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ ไฟแนนซ์ก็สามารถยื่นเรื่องให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบ ว่าเป็นจริง เป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าผู้ซื้อรถผิดนัดไม่ผ่อนชำระต่อจริง ก็จะแก้เงื่อนไขกรณีห้ามโอนภายใน 5 ปี ให้สามารถนำรถไปขายทอดตลาดได้

และจะเรียกเงินภาษีจากผู้ที่ซื้อรถไปแล้วแต่ไม่สามารถผ่อนต่อได้ คืนกลับให้กรมสรรพสามิตเท่ากับจำนวนที่ได้รับไป (ผู้ซื้อรถไปแล้วแต่ไม่สามารถผ่อนต่อได้ จะต้องคืนเงินให้กรมสรรพสามิตเท่ากับจำนวนเงินที่ได้รับการคืนภาษีรถยนต์คันแรก)

 

คำแนะนำสำหรับประชาชนในการคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก

ดาวน์โหลด แบบฟอร์ม คำขอคืนเงินและเงื่อนไขสาหรับรถยนต์คันแรก

ดาวน์โหลด แบบฟอร์ม หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันแรกภายใน 5 ปี

ตัวอย่าง แบบฟอร์ม หนังสือแจ้งผลการได้รับสิทธิจากกรมสรรพสามิต

รายละเอียดข้อมูลการคืนเงินรถยนต์คันแรกสำหรับ รถยนต์นั่ง (รถเก๋ง)

รายละเอียดข้อมูลการคืนเงินรถยนต์คันแรกสำหรับ รถยนต์กระบะ(Pick Up)

credit :http://thaielectionnews.blogspot.com

http://www.kwamru.com/130

[Pete 15,187]

เฮ้อ ! ดูราคาทองมันนิ่งๆ ที่ระดับ 1714-1715 เลยมาสำรวจอวัยวะขิ้นส่วนร่างกายดีกว่า ว่าใช้งานแบบไหนดี

 

ตา >> อวัยวะที่ใช้ในการมอง มักจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี

หู >> อวัยวะที่ใช้ในการฟัง ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา เพื่อสะดวกในการพกพา

ปาก >> อวัยวะที่ใช้ในการพูด ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ

จมูก >> อวัยวะที่ใช้ในการหายใจ ถ้ายื่นเข้าไปในเรื่องของคนอื่นเขาเรียกว่า ..แส่

บ่า-ไหล่ >> อวัยวะที่อยู่เคียงคู่กันมา ดังที่เรียกว่า “เคียงบ่าเคียงไหล่” มีให้คนคนขี้เหงาได้ซบ ถ้าเป็นจับกังก็ใช้แบกหาม ข้าวสาร ปูน…

หัวใจ >> อวัยวะที่ใช้สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกาย คนที่เจ้าชู้ส่วนใหญ่มักจะเก็บตัวจริงไว้ แล้วถ่ายเอกสารไว้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ

ปอด >> อวัยวะที่ใช้ฟอกโลหิต แต่ถ้าปอดแหกจะเก็บความกล้าหาญไว้ไม่ได้

นม >> อวัยวะที่สุภาพสตรีอยากให้ยื่นไปข้างหน้ามากกว่าพุง

ศอก >> ข้อต่อระหว่างแขนท่อนบนกับแขนท่อนล่าง ใช้เป็นอาวุธประจำกาย หรือใช้สำหรับรองน้ำดื่มสำหรับหญิงที่มาทีหลัง

ตัว >> เป็นชิ้นส่วนที่ใหญ่ของร่างกายมีไว้ให้ส่วนอื่นได้พักพิง มักจะลืมกันมากในเวลาได้ดิบได้ดี

สะดือ >> เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ตอนอยู่ในครรภ์ เมื่อใดใช้วัดความสุภาพ…ถ้าอยู่ต่ำกว่าสะดือ ถือว่าทะลึ่ง

ขาอ่อน >> เป็นส่วนที่เชื่อมต่อมาจากสะโพก มักนิยมใช้ประกวด เพราะมองเห็นง่ายกว่าสมอง

หัวเข่า >> เป็นข้อต่อระหว่างขากับแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนของผู้ชาย และบางคนใช้เช็ดน้ำตาเวลาเศร้า โดยเฉพาะคนที่แอบรักผัวชาวบ้านเขา

ขนหน้าแข้ง >> ใช้วัดระดับฐานะทางการเงิน ยิ่งรวยมาก ขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย

เท้า >> เป็นอวัยวะที่ใช้ในการยืน เดิน หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก หรือที่เรียกว่ากันทั่วไปว่า..ถีบ

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 16, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

 

ฮา! ทีม "รปภ.โอมามา" ผงะ! เกิดมาไม่เคยพบเห็นไม่เคยเห็น"ตะกวด"โผล่ทำเนียบรบ.ไทย ขณะเข้าตรวจพื้นที่ ถามใช่"มังกรโคโมโด"หรือไม่ ก่อนจนท.แจงแค่สัตว์ประจำถิ่น-ไม่อันตราย พร้อมตรวจสอบปืนใหญ่โบราณละเอียดยิบ

 

 

วันนี้(15 พ.ย.) ทีมรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีบารัก โอบามา และเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้เข้าตรวจความพร้อม บริเวณทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง พร้อมกับนำเครื่องมือทันสมัยเข้าตรวจสอบ เพื่อเตรียมพิธีต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจะใช้เป็นสถานที่ที่จะหารือกันทวิภาคี แต่อย่างไรก็ตาม ระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของสหรัฐ กำลังตรวจสอบอยู่ ต่างก็ตกใจ เมื่ออยู่ๆ "ตัวเงินตัวทอง" โผล่ขึ้นมาทักทาย ทางเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ จึงสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทำเนียบรัฐบาลว่าใช่ "มังกรโคโมโด" สัตว์นิสัยดุร้ายของอินโดนีเซียหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ไทย ตอบกลับไปว่าเป็นสัตว์ประจำถิ่นไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด

 

พร้อมกันนั้น รปภ.ของสหรัฐฯ ยังได้เข้าตรวจสอบและเก็บภาพปืนใหญ่โบราณที่ตั้งประดับอยู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้าอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ไทยจึงให้ข้อมูลว่าเป็นปืนโบราณ ที่นำมาตกแต่งสถานที่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 และไม่มีกระสุนหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด

 

ปล. สงสัยถ้าทีมงานฯ มาที่ศาลหลักเมือง กทม. คงร้อง " Oh My God it's so Big พระเจ้าช่วย มันใหญ่มาก " 55555

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 16, 2012 โดย เด็กขายของ

[namchiang 468]

น้ำมันผันผวนหลังตอ.กลางตึงเครียด หุ้นมะกันลง-ทองคำดิ่งแรง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2555 05:32 น.

 

เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดผสมผสานวานนี้(15) ท่ามกลางยอดผู้รับสิทธิประโยชน์คนว่างงานสหรัฐฯสูงขึ้นและเหตุตึงเครียดในตะวันออกกลาง ส่วนวอลล์สตรีทผัวผวน ก่อนปิดลบ ผิดหวังผลประกอบการวอล์มาร์ต ขณะที่ข้อวิตกต่อวิกฤตหน้าผาการคลังของอเมริกา ยังเป็นปัจจัยที่ฉุดให้ทองคำดิ่งลงอย่างแรง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 85.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.37 เซนต์ ปิดที่ 110.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ตลาดน้ำมันถูกถาโถมด้วยแรงกดดัน หลังรัฐบาลสหรัฐฯ เผยยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สะท้อนถึงผลกระทบของเฮอร์ริเคนแซนดี้ที่กัดเซาะกิจกรรมทางเศรษฐกิจในมลรัฐต่างๆในแถบตอนกลางของแอตแลนติก ทั้งก่อนและหลังซัดถล่มอเมริกาช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วตลาดน้ำมันวานนี้(15) ซื้อขายผันผวนอย่างยิ่ง ด้วยช่วงต้นราคาน้ำมันแกว่งตัวอยู่ในแดนบวก จากข้อวิตกด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเหตุสู้รบกันระหว่างอิสราเอลและนักรบฮามาส

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(15) ก็ซื้อขายผันผวนเช่นกัน ก่อนปิดลบในกรอบแคบๆ จากแรงฉุดของรายงานผลประกอบการบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างวอลมาร์ต

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 28.57 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,542.38 จุด แนสแดค ลดลง 9.87 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,836.94 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.16 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,353.33 จุด

 

หุ้นของ วอลมาร์ต บริษัทค้าปลีกรายใหญ่สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 3.7 หลังบริษัทแห่งนี้มีรายได้ในช่วงไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่คาดหมาย แถมยังเปิดเผยด้วยว่ากำลังสืบสวนถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการคอรัปชันในหน่วยดำเนินงานที่อินเดีย จีนและบราซิล

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(15) ดิ่งลงอย่างแรง หลังนักลงทุนยังกังวลต่อวิกฤตหน้าผาการคลังในสหรัฐฯ หรือการตัดรายจ่ายและขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติในช่วงสิ้นปี ที่อาจฉุดเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 16.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,730.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000139968

[namchiang 468]

16 พฤศจิกายน 2555 05:38

อุปสงค์ทองคำทั่วโลกลดไตรมาส 3/2555

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

อุปสงค์ทองคำทั่วโลกลดลงในไตรมาส 3/2555 หลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

 

สภาทองคำโลกรายงานว่า อุปสงค์ทองคำทั่วโลกปรับตัวลดลงในไตรมาส 3 ของปีนี้ อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง และการลงทุนในผลิตภัณฑ์ทองคำที่ลดลง

 

รายงานที่เผยแพร่วานนี้ ระบุว่า อุปสงค์ทองคำทั่วโลกร่วงลงแตะ 1,084.6 ตันในไตรมาส 3 จากระดับ 1,223.5 ตันในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณการใช้ทองคำในจีนที่ลดน้อยลง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของประเทศ

 

ปริมาณการใช้ทองคำในจีนร่วงลง 8% สู่ระดับ 176.8 ตันในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ขณะที่การลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำลดลง 12% แตะ 53 ตัน ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของจีนขยายตัว 7.4% ในไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2552 เนื่องจากวิกฤตการเงินได้จุดปะทุขึ้น

 

แต่สภาทองคำโลก ระบุว่า มีสัญญาณว่าความต้องการลงทุนในทองคำดีดตัวขึ้น เนื่องจากราคาทองปรับตัวขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 3

 

นายเจิ่ง เหลียงเฮา ผู้จัดการสภาทองคำโลกประจำภูมิภาคตะวันออกไกล กล่าวว่า อุปสงค์ของจีน มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 4 เนื่องจากเทศกาลเฉลิมฉลองซึ่งชาวจีนนิยมให้ทองเป็นของขวัญแก่กันนั้นกำลังใกล้เข้ามา

 

http://www.bangkokbiznews.com/

[namchiang 468]

Gold Demand Down, World Gold Council Says

 

 

World gold demand fell 11% on the year in the third quarter, driven by a sharp drop in investor appetite for gold coins and bars and lower consumption in China, the World Gold Council said Thursday.

Third-quarter gold demand totaled 1,084.6 metric tons, down from record levels of 1,223.5 tons in the same period of 2011, the industry body said in its latest Gold Demand Trends report. In dollar terms this equated to $57.6 billion, down 14% from the third quarter of 2011.

The most significant factor in the drop in demand was a fall of 16% in investment demand for gold to 429.9 tons, said the WGC. This was driven by a steep drop in demand for gold bars and coins, which fell 30% to 293.9 tons.

According to the WGC, this decline was "largely a reflection of the strength of demand in 3Q 2011, a period of exceptional investment inflows."

Weaker Chinese demand was also a factor in lower gold demand in the third quarter, it said.

Chinese gold consumption fell 8% in the third quarter to 176.8 tons, led by a 6% and 12% drop in jewelry and investment demand respectively.

According to Marcus Grubb, managing director of investment at the WGC, the slowdown in Chinese demand last quarter came as somewhat of a surprise and was "very much a reflection of the Chinese economy slowing down."

Indian gold demand, on the other hand, improved in the third quarter, rising 9% to 223.1 tons.

India and China are by far the world's biggest gold consumers, jointly accounting for 37% of global gold consumption in the third quarter of this year.

Exchange-traded fund demand was another bright spot in the third quarter, soaring 56% to 136 tons. This was likely driven by rising interest in alternative investment vehicles by the private wealth sector, said Mr. Grubb.

"Large investors are still very concerned about the world economy and financial system," said Mr. Grubb. Gold, which tends to hold its value better than other assets at times of economic instability, is often treated as a traditional " safe haven."

Official sector gold demand, which includes buying from central banks, tumbled 31% to 97.6 tons. From a historical perspective, however, central bank demand for gold remains resilient, with demand over the first three quarter of the year still above the same period of 2011.

The WGC still expects official sector gold demand to total between 450 and 500 tons this year, said Mr. Grubb. Last year, the official sector bought 457 tons of gold.

Global jewelry demand in the third quarter fell 2% to 448.8 tons. Demand for the metal from the technology sector fell 6% to 108.2 tons.

The supply of gold to the market was down year-on-year. Total gold supply in the third quarter fell 2% to 1,188.3 tons, while mine production fell 1% to 731.6 tons.

Write to Francesca Freeman at francesca.freeman@dowjones.com

Subscribe to WSJ: http://online.wsj.com?mod=djnwires

(END) Dow Jones Newswires

11-15-120245ET

Copyright © 2012 Dow Jones & Company, Inc.

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซต์เวย์ ปัจจัยการเมืองกดดัน-แต่แรงซื้อกองทุนหนุน (16/11/2555)

นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ เนื่องจากตลาดฯได้มีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางการเมือง ที่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเสนอครม.ในวันอังคารนี้ให้ใช้พรบ.ความมั่นคงฯในการชุมนุมฯในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ตรงนี้ทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนลดลง

 

อย่างไรก็ดี จากการที่ตลาดฯได้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และการที่มีแรงซื้อจากกองทุนเข้าในช่วงที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าแรงซื้อของกองทุนน่าจะช่วยพยุงไม่ให้ตลาดฯปรับตัวลงแรง

 

สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็มีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยตลาดญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น อันเนื่องมาจากความคาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา แต่โดยรวมแล้วตลาดฯยังให้ความกังวลเกี่ยวกับปัญหา Fiscal Cliff และปัญหาหนี้ในยุโรปที่จะต้องติดตามดูต่อไป พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,270-1,280 จุด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555)

 

เงินเยนร่วงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากคาดการณ์ญี่ปุ่นผ่อนคลายการเงิน (16/11/2555)

สกุลเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จากการคาดการณ์ที่ว่าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่น จะได้เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า ซึ่งพรรคแอลดีพีจะสนับสนุนให้มีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

 

เมื่อเวลา 07.39 น.ตามเวลานิวยอร์กในวานนี้ เงินเยนร่วงลง 1.3% มาอยู่ที่ระดับ 81.25 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. ขณะเดียวกันเงินเยนร่วงลง 1.5% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 103.68 เยนต่อยูโร

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ จากการคาดการณ์ที่ว่าพรรคแอลดีพีภายใต้การนำของนายชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในเดือนธ.ค.นี้ โดยนายอาเบะมีมุมมองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ควรจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินโดยไม่จำกัด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อรายปีที่ระดับ 2-3%

 

การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันว่าจะยุบสภาในวันพรุ่งนี้ เพื่อเปิดทางสู่การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนหน้า

 

ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมบีโอเจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.1% และผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมด้วยการขยายขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ของบีโอเจเพิ่มขึ้นเป็น 91

ล้านล้านเยน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 15 พฤศจิกายน 2555)

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 16, 2012 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

เงินบาทเปิด 30.73/75 อ่อนค่าตามเงินเยน มองกรอบ 30.70-30.80 (16/11/2555)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.73/75 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานที่ระดับ 30.70/72 บาท/ดอลลาร์ โดยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินในภูมิภาค

 

"เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยตามค่าเงินเยน" นักบริหารเงิน กล่าว

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 81.10/15 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากวานนี้ที่ระดับ 80.96/81 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2773/2776 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 1.2757/2760 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงินประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้จะอยู่ในกรอบระหว่าง 30.70-30.80 บาท/ดอลลาร์

 

ขณะที่วันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการประกาศข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนต.ค.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555)