ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งเช้านี้ จากคาดการณ์ฝ่ายค้านญี่ปุ่นชนะเลือกตั้งเดือนหน้า (16/11/2555)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าพรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นจะชนะการเลือกตั้งในเดือนหน้า และจะทำให้มีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่จริงจังกว่าปัจจุบัน

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific (MXAP) เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ระดับ 199.8 จุด ณ เวลา 9.27 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,898.33 จุด เพิ่มขึ้น 68.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,203.82 จุด เพิ่มขึ้น 94.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,125.24 จุด ลดลง 18.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,865.81 จุด ลดลง 4.91 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,933.81 จุด ลดลง 12.11 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,634.45 จุด เพิ่มขึ้น 2.77 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,350.50 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด

 

หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ บวก 2.4%, หุ้นบารู เอเนอร์จี ทะยาน 4.4% ในออสเตรเลีย ขณะที่หุ้นคิริน โฮลดิงส์ ร่วงลง 3.1%

 

ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า พรรคแอลดีพีภายใต้การนำของนายชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในเดือนธ.ค.นี้ โดยนายอาเบะมีมุมมองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ควรจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินโดยไม่จำกัด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อรายปีที่ระดับ 2-3%

 

การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยืนยันว่าจะยุบสภาในวันนี้ เพื่อเปิดทางสู่การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนหน้า

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555)

[Pete 15,187]

ผอ.IIF แนะกรีซรัดเข็มขัดน้อยลง เน้นขยายตัวมากขึ้น เรียกร้องเจ้าหนี้ลดดบ. (16/11/2555)

นายชาร์ลส์ ดัลลารา ผู้อำนวยการสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) กล่าววานนี้ที่กรุงเอเธนส์ว่า กรีซจำเป็นต้องสร้างความสมดุลที่ดีขึ้นของการรัดเข็มขัดน้อยลงและขยายตัวมากขึ้น ในการเผชิญวิกฤตหนี้ และยุโรปควรให้การสนับสนุนอย่างจริงจังต่อแนวทางนี้เพื่อเลี่ยงการลุกลามของปัญหาและภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายดัลลาราเรียกร้องให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ให้แก่กรีซ เพื่อให้กรีซมีโอกาสฟื้นตัวและสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับศักยภาพในการบริหารจัดการหนี้สินของกรีซ

 

ผู้อำนวยการ IIF แสดงความพอใจกับแนวคิดเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาออกไปอีก 2 ปีสำหรับกรีซในการบรรลุเป้าหมายทางการคลัง แต่เน้นย้ำว่าต้องมีการดำเนินการมากขึ้นเพื่อบรรลุแนวทางที่ครอบคลุมในการคลี่คลายวิกฤติกรีซและยุโรปผ่านทางกลยุทธ์ใหม่ๆ

 

เขากล่าวเตือนว่า ถึงเวลาที่จะต้องตระหนักว่ามาตรการรัดเข็มขัดไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อกรีซ แต่ยังอาจทำให้ทั่วทั้งยุโรปเผชิญภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อที่อาจจะเกิดขึ้น

 

“ในขณะนี้ กรีซจำเป็นต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับการขยายตัว และให้ความสำคัญน้อยลงกับการรัดเข็มขัด ยุโรปก็เช่นกัน แม้ว่ามีการตัดสินใจที่สำคัญมานับแต่เดือนมิ.ย. แต่อนาคตของยุโรปก็ยังขึ้นอยู่กับความสมดุลดังกล่าว ตราบใดที่ยังมีความไม่แน่ใจว่ากรีซจะยังคงอยู่ในยูโรโซนต่อไปหรือไม่ และจนกว่าเศรษฐกิจของกรีซจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง ความไม่แน่นอนเหล่านั้นก็จะยังคงมีอยู่ต่อไป ซึ่งจะกระตุ้นให้มีการลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน" นายดัลลารากล่าว

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555)

[Pete 15,187]

IMF ประเมินนโยบายการเงินไทยในช่วงวิกฤต (16/11/2555)

สายนโยบายการเงิน

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เผยแพร่งานวิจัยล่าสุดเรื่อง “Shock Therapy! What Role for Thai Monetary Policy?” ซึ่งศึกษาถึงบทบาทและประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยในช่วงที่เกิดภาวะช็อกทางเศรษฐกิจ 3 ครั้งได้แก่ วิกฤตการเงินโลกในช่วงปี 2551-2552 เหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นในช่วงต้นปี 2554 และมหาอุทกภัยในประเทศในช่วงปลายปี 2554

 

งานวิจัยนี้พบว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว นโยบายการเงินภายใต้ “กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น” (Flexible Inflation Targeting: FIT) ที่ชัดเจนน่าเชื่อถือ และอัตราแลกเปลี่ยนที่สามารถเคลื่อนไหวได้ยืดหยุ่นตามกลไกตลาด มีส่วนสำคัญในการลดทอนผลกระทบและสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาดังกล่าว

 

เจ้าหน้าที่ IMF ประมาณการว่า หากประเทศไทยไม่ได้ใช้กรอบ FIT และมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น (แต่ใช้กรอบอื่นเช่น กรอบนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนคงที่) จะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าที่เกิดขึ้น กล่าวคือ อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะต่ำกว่าที่เกิดขึ้นจริงถึงร้อยละ 3.7 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับปกติที่เศรษฐกิจไทยเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5 ต่อปี

 

ทั้งนี้ งานศึกษาของ IMF ชิ้นนี้ยังให้ข้อสังเกตว่า กรอบ FIT นอกจากจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำแล้ว กรอบนโยบายนี้ยังมีความยืดหยุ่นพอ เพราะไม่ได้มุ่งแค่เป้าหมายแคบๆ ในระยะสั้นแต่เน้นเป้าหมายที่เป็นกรอบกว้างในระยะปานกลาง จึงทำให้มีความยืดหยุ่นพอที่จะใช้ดูแลการเติบโตของเศรษฐกิจและลดความผันผวนระยะสั้น โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากภายนอกได้

 

งานวิจัยนี้ได้ยกตัวอย่างการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงปลายปี 2551 ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวมร้อยละ 2.50 จากร้อยละ 3.75 ไปอยู่ที่ร้อยละ 1.25 ต่อปี ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งการปล่อยให้ค่าเงินบาทสามารถเคลื่อนไหวได้ตามกลไกตลาดว่า การดำเนินนโยบายการเงินดังกล่าวมีส่วนช่วยรองรับผลจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้มาก

 

ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555)

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินเยนร่วงกว่า 1% จากคาดญี่ปุ่นผ่อนคลายการเงิน (16/11/2555)

เงินเยนร่วงลงกว่า 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ จากการคาดการณ์ที่ว่าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่น จะได้เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า ซึ่งพรรคแอลดีพีจะสนับสนุนให้มีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

 

ค่าเงินเยนร่วงลง 1.15% แตะที่ 81.160 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 80.240 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.24% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9426 ฟรังค์ จากระดับ 0.9449 ฟรังค์

 

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.29% แตะที่ 1.2771 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2734 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.10% แตะที่ 1.5855 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5839 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.46% แตะที่ 1.0326 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0374 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.17% แตะที่ 0.8086 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8100 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินเยนร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ จากการคาดการณ์ที่ว่าพรรคแอลดีพีภายใต้การนำของนายชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในเดือนธ.ค.นี้ โดยนายอาเบะมีมุมมองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ควรจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินโดยไม่จำกัด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อรายปีที่ระดับ 2-3%

 

การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันว่าจะยุบสภาในวันพรุ่งนี้ เพื่อเปิดทางสู่การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนหน้า

 

ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมบีโอเจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.1% และผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมด้วยการขยายขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ของบีโอเจเพิ่มขึ้นเป็น 91 ล้านล้านเยน

 

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ย. พุ่งสูงขึ้น 78,000 ราย มาอยู่ที่ 439,000 ราย ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 375,000 ราย

 

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ที่พัดถล่มแถบอีสท์โคสท์ของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสถานการณ์ในตลาดแรงงานของสหรัฐจะย่ำแย่ลงอีกในอนาคตอันใกล้นี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555)

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures (16/11/2555)

ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

- ทองปิดลบกังวลเศรษฐกิจยุโรป

 

- SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น3.32 ตัน

 

- คาดทองแกว่งตัวแคบรอซื้อเก็งกำไรช่วงปรับฐาน

 

- การเคลื่อนไหวของทั้งราคาทองคำและราคาโลหะเงินเมื่อวานนี้ ยังคงเป็นการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ระหว่างกรอบแนวรับและแนวต้านในทางเทคนิค โดยในการซื้อขายช่วงค่ำซึ่งตลาดอนุพันธ์ของไทยและระบบการซื้อขายทองคำแท่งในระบบออนไลน์ยังเปิดทำการนั้น ได้มีแรงขายกลับออกมามาก จนราคาทองและโลหะเงินปรับตัวลงค่อนข้างแรง แต่ก็มีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา จนราคาโลหะทั้ง 2 ชนิด ดีดตัวกลับลดช่วงการติดลบลง

 

- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปที่ยังคงย่ำแย่เป็นปัจจัยลบกดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำผ่านการอ่อนค่าของเงินยูโร โดยช่วงเย็นวานนี้สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปรายงานว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนไตรมาส 3 หดตัวลง 0.1% หลังจากไตรมาส 2 หดตัวลง 0.2%ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจของยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามสำหรับเยอรมันและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 1 และ 2 ของกลุ่ม ยังสามารถขยายตัวขึ้นในไตรมาสที่ 3

 

- นอกจากปัญหาของประเทศในกลุ่มยุโรปที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแล้ว การอ่อนค่าของเงินเยนก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันการเคลื่อนไหวของราคาทอง โดยมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นอาจประกาศยุบสภาในวันนี้ และผู้นำฝ่ายค้านที่คาดกันว่าจะเป็นผู้ได้รับชัยชนะหลังการเลือกตั้ง ได้แสดงจุดยืนที่ค่อนข้างชัดเจนถึงความพยามที่จะแก้ไขปัญหาเงินฝืดโดยการเพิ่มสภาพคล่องของเงินเยนเข้าสู่ระบบ พร้อมกับการออกมาตรการอื่นๆที่อาจทำให้ค่าเงินเยนในภาพรวมอ่อนค่าลง

 

- ราคาทองคำอ่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,710 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวกลับ ทำให้ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคในระยะสั้นยังคงมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ตามการเลื่อนไหวของ MACD ซึ่งเป็นเครื่องมือที่บอกแนวโน้มการเคลื่อนไหวในทางเทคนิคกลับเริ่มอ่อนตัวลง ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองจึงอาจมีการปรับฐานเกิดขึ้นอีก หากราคาทองอ่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับจิตวิทยาบริเวณ 1,700 ดอลลาร์ จึงต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมามาก จนราคาปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,690 และ 1,675 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนราคาโลหะเงินคาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 32.0-33.0 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำหรับเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 32.5 และ 32.0-32.2 ดอลลาร์ ตามลำดับ

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.55

 

Close chg. Support Resistance

 

25,320 -10 25,250/25,100 25,400/25,550

 

ราคาทองปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับของวานนี้บริเวณ1,710 ดอลลาร์ แต่ยังสามารถดีดตัวขึ้นจากแนวรับที่เป็นจุดปิดสถานะซื้อตัดขาดทุนบริเวณ 1,700-1,705 ดอลลาร์ ขึ้นมาได้ โดยคาดว่าราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ดังนั้นการเปิดสถานะซื้อยังแนะนำให้รอเปิดสถานะช่วงที่ราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับ และปิดสถานะทำกำไรออกไปก่อนในช่วงที่ราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,725-1,730 และ 1,745-1,750 ดอลลาร์ ตามลำดับ

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.55

 

Close chg. Support Resistance

 

1,012 +15 1,000/990/980/975 1,020/1,030

 

ราคาโลหะเงินดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของวันบริเวณ 32.8 ดอลลาร์ ก่อนที่จะมีแรงขายกลับออกมา จนราคาอ่อนตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 32.2ดอลลาร์ หากราคาสามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 32.8-33.0 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาโลหะเงินก็จะมีทิศทางการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น หากมีสถานะซื้ออยู่ ควรทะยอยปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงที่ราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 32.8 ดอลลาร์ แล้วรอเปิดสถานะใหม่ช่วงที่ราคาเริ่มปรับตัวลง

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555)

[Pete 15,187]

คาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง โอกาสปรับลงมีจำกัด-ไม่มีปัจจัยลบใหม่

 

 

*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคบ่ายของวานนี้ หลังมองว่าโอกาสของการปรับลงมีไม่มากแล้ว ขณะที่ปัจจัยที่กดดันตลาด แม้จะยังมีอยู่ แต่ก็ยังเป็นเรื่องเดิม

 

 

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันพฤหัสบดี โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดลบ 0.23% ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลัง และหุ้นวอลมาร์ท ร่วงลง หลังการเปิดเผยยอดขายที่น่าผิดหวัง

 

*นักลงทุนวิตกว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจหดตัวลง หากสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลง เพื่อหลีกเลี่ยงการปรับลดงบประมาณและการขึ้นภาษี ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีหน้า โดยจับตาการประชุมในวันศุกร์นี้ที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามา และผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการ

ลดยอดขาดดุลงบประมาณ

 

 

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดวานนี้ดิ่งลง 87 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 85.45 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้นักลงทุน กังวลกับอุปสงค์น้ำมัน และปัจจัยนี้บดบังแรงบวกที่ราคาน้ำมันได้รับจากเหตุการณ์ รุนแรงในตะวันออกกลาง

 

 

*วันพฤหัสบดี ต่างชาติขายสุทธิ 1,331.01 ลบ.จากวันพุธ ขายสุทธิ 1,568.70 ลบ.

 

 

*เช้านี้บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 30.74/75 จากเมื่อวันพฤหัสบดี อยู่ที่ 30.68/72

 

 

*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,270 ส่วนแนวต้านที่ 1,280

 

 

"ตลาดมีโอกาส rebound ต่อเนื่อง เราเห็นการ rebound ตั้งแต่ช่วงบ่ายของ เมื่อวานนี้แล้ว" นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหาร สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าว เขา กล่าวว่า วานนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับลงมาสู่ระดับต่ำสุดที่ 1,263 จุด ซึ่งที่ระดับดังกล่าวถือว่าค่อนข้างลึก จึงมีการฟื้นตัวกลับขึ้นมา ซึ่งระดับปิดของเมื่อวาน ถือว่าความเสี่ยงในการปรับลงอีกนั้น มีไม่มากแล้ว

 

นอกจากนี้ ยังมองว่า ปัจจัยลบที่กดดันตลาดในช่วงนี้ ยังคงเป็นเรื่องเดิม ไม่ว่าจะเป็น fiscal cliff ของสหรัฐ หรือปัจจัยภายในประเทศเอง กรณีการคัดค้านเรื่อง ใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G

 

 

"ปัจจัยที่กดดันตลาด เป็นเรื่องเดิม เราพูดกันมาเป็นสัปดาห์แล้ว...เรื่อง 3G เชื่อว่าตลาดต้องการความชัดเจนมากกว่า" นายปริญทร์ กล่าว

 

ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ

*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันพฤหัสบดี ปิดลบ 5.27 จุด หรือ 0.41% มาที่ 1,274.02 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35,355.86 ล้านบาท

 

 

*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อวันพุธ ปิดลบ 28.57 จุด หรือ 0.23% มาที่ 12,542.38 และดัชนีแนสแดค ปิดลบ 9.87 จุด หรือ 0.35% มาที่ 2,836.94 จุด

 

 

*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ มีทั้งบวกและลบ โดยตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลบ 0.13%, ไต้หวัน บวก 0.1%, ฮ่องกง บวก 0.2%, สิงคโปร์ ลบ 0.23% ขณะที่ตลาดหุ้น ญี่ปุ่น บวก 1.86%

 

จับตาหุ้น

*SCCC จะซื้อธุรกิจผลิตคอนกรีตมวลเบาจาก SUPER มูลค่า 480 ลบ.

*KMC คาดปีหน้าพลิกมีกำไร, เล็งล้างขาดทุนสะสมหมด ภายใน 5 ปี

*BBL จะขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ 10 ปี ไม่เกิน 3 หมื่นลบ,ดอบเบี้ย 4.375%

*MCOT ตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 56 โต 10-15%, เตรียมลงทุนดิจิตอลทีวี

*DRT คาดกำไรสุทธิปีนี้โต 18-19%, รายได้โตใกล้เคียง 10%

*TSTH คาดงวดปี 55/56 ขาดทุนลดลงจากปีก่อน, ปริมาณขาย 1.2 ล้านตัน

*LVT จะได้งานเพิ่ม 1 พันลบ.ทำให้มีงานในมือราว 3.2 พันลบ.

*FPI คาดรายได้ปี 56 โต 20% จากคาด 1.5-1.6 พันลบ.ในปีนี้--จบ--

 

[Pete 15,187]

ผลประกอบการกลุ่มปตท.6บริษัท กำไรรวม1.61แสนล้าน

 

จากการรวบรวมผลประกอบการกลุ่มปตท.(PTT) 6 บริษัท ประกอบด้วย ปตท. บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.(PTTEP) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTCG) บริษัท ไทยออยล์ (TOP) บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP) พบว่าช่วง 9 เดือนปี2555 มีกำไรสุทธิรวม 1.61 แสนล้านบาท ลดลง 6,092 ล้านบาท หรือ 3.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรทุกบริษัทปรับลดลง มีเพียงปตท.สผ.ที่มีกำไรเพิ่มขึ้น 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

สำหรับงวดไตรมาส 3 กลุ่มปตท.มีกำไรสุทธิรวม 7.97 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1 หมื่นล้านบาท หรือ 105.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทุกบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัท ไทยออยล์ มีการเพิ่มขึ้นของกำไรสูงสุด คือ มีกำไร 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 300% บริษัทไออาร์พีซี มีกำไร 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 231.4% ตามมาด้วย ปตท.ผส.กำไร 1.75 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.7% บริษัท พีทีทีโกลบอลฯมีกำไร 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 113% บางจากกำไร 1.07 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.3% และปตท.กำไร 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 67%

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT)กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 6.86 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% มีกำไรสุทธิ 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าราคาเฉลี่ยของน้ามันดิบดูไบจะลดลงจาก 107.1 ดอลลาร์หรัฐต่อบาร์เรล เหลือ 106.3 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล

 

ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของปตท.สผ. ประกอบกับบริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 1.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 195.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมีที่ดีขึ้น แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและวิกฤติหนี้ยุโรปยังคงยืดเยื้อ แต่อุปทานของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ตึงตัว และส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ (สเปรด) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้บริษัท ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 163.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 5.3 พันล้านบาท 5,362 ล้านบาท รวมทั้งจ่ายภาษีลดลง 13.9% หรือจ่ายที่ 8.93 พันล้านบาท

[Pete 15,187]

ระทึก!ฮามาสยิงจรวดตกในทะเลใกล้เทลอาวีฟ

ข่าวต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 7:22น.

 

สงครามจ่อปะทุ กลุ่มติดอาวุธฮามาส ยิงจรวด ตกในทะเลห่างจากทางใต้ของเมืองเทล อาวีฟ คนหนีโกลาหล

สื่อต่างประเทศ รายงาน กลุ่มติดอาวุธ “ฮามาส” ยิงจรวดจากฉนวนกาซา ตกในทะเลห่างจากทางใต้ของเมืองเทลอาวีฟ ไม่กี่กิโลเมตร เมื่อวันที่ 15 พ.ย. การโจมตีเมืองหลวงด้านการค้าของอิสราเอล ครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ที่ก่อความตื่นตระหนกแก่ผู้คนทั่วทั้งเมือง และเพิ่มความเสี่ยงผลักดันยิวกับปาเลสไต น์เข้าสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบ

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี รายงานว่า "จรวดลูกหนึ่งตกใส่น่านน้ำไม่ไกลจากจัฟฟา ผมยืนอยู่นอกสถานทูตฝรั่งเศส ตอนที่เห็นจรวดร่วงลงสู่ทะเล" พร้อมบอกว่า จากนั้นก็ได้ยินเสียงไซเรนเตือนภัยดังระงมทั่วเมืองเทลอาวีฟ

 

"หลังเสียงไซเรนดังเตือนให้ประชาชนเข้าไปหลบยังสถานที่หลบภัยราวๆ 1 นาที จรวดก็ดิ่งลงมา ผู้คนบนท้องถนนต่างพากันวิ่งหนีไปทุกทิศทุกทาง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าสถานที่หลบภัยนั้นอยู่ที่ไหน"

 

ขณะที่เครือข่ายสถานีโทรทัศน์อิสราเอล รายงานตรงกันว่า นับเป็นครั้งแรกที่มีจรวดถูกยิงเข้ามาตกแถวๆ เมืองแห่งนี้ นับตั้งแต่สงครามอ่าวเปอร์เซีย ปี 1991 ขณะที่ในเวลาต่อมาทางโฆษกของกองทัพ ออกมายืนยันว่า จรวดไม่ส่งผลกระทบต่อภาคพื้นดินแต่อย่างใด

[Alan 1,136]

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณป๋า คุณเกี้ยมอี๋ คุณpasaya คุณarthas คุณน่ำเชียง คุณaiyaและทุกๆท่าน

ขอบคุณคุณป๋านะคะ ที่ช่วยแนะนำแนวทางให้ตลอด ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ :01

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 16, 2012 โดย Alan

[Pete 15,187]

 

ครับซ้อ ฯ ช่วงกลางวันถึงค่ำ ลุ้น Rebound แต่จากดูกราฟฯ รหัส 7,5,2 เส้นสีแดงปรากฎชัดแล้วว่า อยู่ข้างล่าง จังหวะปิดตลาดจะแดงอีกวันย่อมมีถึง 85% เด็กขายของมือไม่ซน หยุดรอสำหรับกรณีซื้อทองแท่งจริงที่ร้านตู้แดง ส่วนกรณีแทงสูงต่ำ เดี๋ยวรอมาสูงๆ 172x แล้วจะแทงต่ำ

เมื่อวานนี้ เส้นทับกันเป๊ะ " ทางสองแพร่ง " วันนี้ เส้นฯ เลือกทางแล้ว แดงอยู่ใต้ดำ เห็นๆ ซื้อทองแท่งตู้แดง ไม่เอาวันนี้

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 16, 2012 โดย เด็กขายของ

[ariya 1,481]

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณป๋า คุณเกี้ยมอี๋ คุณpasaya คุณarthas คุณน่ำเชียง คุณaiyaและทุกๆท่าน

ขอบคุณคุณป๋านะคะ ที่ช่วยแนะนำแนวทางให้ตลอด ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ :01

สวัสดีจ๊า ทุกๆคนวันนี้ลุ้นเด้ง อย่าเสียชื่อวันหวยแห่งชาตินะ อิ อิ ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 16, 2012 โดย เกี้ยมอี๋

[Pete 15,187]

ตลาดทองเอเชีย:ทองร่วงใกล้หลุด 1,710 ดอลล์เช้านี้ ขณะคาดดิ่ง 1% สัปดาห์นี้

 

 

ราคาทองอ่อนตัวลงในวันนี้ และมีแนวโน้มว่าราคาจะร่วงลงเกือบ 1% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัย ถ่วงราคาลง

 

 

ณ เวลา 10.22 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตอยู่ที่ 1,712.79 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาจะร่วงลง 0.9% ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่พุ่งขึ้น กว่า 3% ในสัปดาห์ที่แล้ว

 

ส่วนราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดนิวยอร์คอ่อนตัวลงแตะ 1,712.9 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันนี้

ซีเอ็มอี กรุ๊ปได้ปรับลดเงินประกันขั้นต้น (initial margin) ของ สัญญาทองในตลาด COMEX ลง 18.5% สู่ระดับ 7,425 ดอลลาร์ต่อสัญญา แต่ยังคงตรึงเงินประกันขั้นต่ำ (maintenance margin) สำหรับทอง

ซีเอ็มอียังได้ปรับลดเงินประกันขั้นต่ำของสัญญาโลหะเงินในตลาด COMEX ลงสู่ระดับ 11,000 ดอลลาร์ต่อสัญญา จาก 12,500 ดอลลาร์ และปรับลดเงินประกัน ขั้นต้นลงสู่ 12,100 ดอลลาร์ จาก 16,875 ดอลลาร์

 

เอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของสหรัฐระบุว่า นายจอห์น พอลสัน ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดัง ยังคงมีสัดส่วน การถือครองทองเป็นจำนวนมากในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อความ น่าสนใจของทองในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจผันผวน

 

SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองทองของ SPDR เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1,339.616 ตัน ณ วันที่ 15 พ.ย. ลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 1,340.521 ตันในเดือนต.ค

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures (16/11/2555)

คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

Price Movement

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,713.80 USDต่อออนซ์ลดลง 16.30 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,704.50 - 1,727.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน และลงไปทำ low บริเวณ 1,704 เนื่องจาก สภาทองคำโลก (WGC) ประกาศอุปสงค์ทองคำในไตรมาสที่ 3 ลดลง 11.35% QoQ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ราคาได้ปรับขึ้นได้อย่างรวดเร็วจากแรงซื้อของนักลงทุนที่หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว อย่างไรก็ตามราคายังคงสะท้อนถึงความต้องการทองคำที่ลดลงในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซนที่หดตัวลง 0.1% ในไตรมาสที่ 3 ส่วนราคาราคาน้ำมันดิบปรับลดลง และค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เมื่อมีการคาดการณ์ว่า ญี่ปุ่นจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ในเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวอ่อนตัวลงมาที่บริเวณ 1,714 USDต่อออนซ์ ประเด็นที่ต้องติดตาม คือ การประชุมระหว่างผู้นำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในการแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลังในคืนนี้ การประกาศตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ และการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ คาดว่าวันนี้ทองคำมีแนวรับบริเวณ 1,705/1,690 แนวต้านบริเวณ 1,720/1,727/1,735 แนะนำ นักลงทุน Trading ในกรอบ 1,705 — 1,735

 

Spot Gold

 

Technical Analysis

 

ภาพกราฟทางเทคนิคราคาลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 1,705 แล้วดีดตัวขึ้นได้ แต่ indicator ต่างๆส่งสัญญาณอ่อนแอลง เช่น MACD ในราย 240 นาทีกลับมาติดลบ ถ้าหากแนวรับบริเวณ 1,710/1,705 รับไม่อยู่และหลุด 1,700 จะทำให้ภาพในระยะสั้นกลับมาเป็นขาลงอีก วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,720/1,727/ 1,735 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,705 — 1,735 นักลงทุนที่เปิด Long ไว้มีจุด Stop Loss บริเวณ 1,700

 

Key Point in Precious Market

 

- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ( - ) ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ( + ) ราคาน้ำมันปรับลดลง ( - ) สเปนยังไม่ขอรับความช่วยเหลือ ( - ) กรีซอาจได้รับเงินช่วยเหลือ 4.4 หมื่นล้านยูโร ( + ) ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อลดลง ( - ) ความต้องการทองคำมีแนวโน้มลดลงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ( - )

 

- ประเด็นที่ต้องติดตาม ประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ( 16 พ.ย.) กรีซจะหมดเงินสดในการใช้จ่าย ( 16 พ.ย.) ประชุมรมว.คลังยูโรโซน ( 20 พ.ย.)

 

- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันศุกร์ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนก.ย. ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนต.ค.

 

- SPDR ซื้อ 3.32 ตัน ถือทองจำนวน 1,339.62 ตัน

 

Spot Silver

 

ราคาโลหะเงินปิดที่ 32.67 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 32.15 - 32.78 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขาย 45.22 ตันถือโลหะเงินจำนวน 9,985.13 ตัน ภาพกราฟในราย 240 นาทีมีเส้น MA 200 เป็นเส้นกดลงและยังไม่สามารถผ่านไปได้ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 32.2/32.0/31.6 โดยมีแนวต้านบริเวณ 32.8/33.0/33.3 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555)

[Pete 15,187]

น้ำเสียปากอ่าวไทยตอนบนเริ่มวิกฤต

 

 

 

สถานการณ์น้ำทะเลอ่าวไทยตอนบนเกิดภาวะเน่าเสีย มีลักษณะน้ำเป็นสีขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็น ตกตะกอนเป็นสีดำขุ่น ตั้งแต่ จ.ฉะเชิงเทรา ถึง จ.สมุทรสงคราม ส่งผลให้ปลาจำนวนมากต้องลอยคอขึ้นมาสูดออกซิเจนในอากาศ รวมถึงหอยแครงและหอยแมลงภู่เลี้ยงของชาวบ้านจำนวนไม่น้อยเริ่มทยอยตายลง สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวประมงและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำเน่าเสียเป็นอย่างมาก ซึ่งสัตว์น้ำที่ตายลงเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วพื้นที่ ขณะที่เครือข่ายรักษ์อ่าวไทยตอนบนออกมาตั้งข้อสังเกต และแสดงความกังวลว่าความรุนแรงของภาวะน้ำเสียในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา จึงเกรงว่าสถานการณ์น้ำทะเลอ่าวไทยตอนบนเน่าเสียจะยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

 

นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำทะเลบริเวณปากอ่าวไทยตอนบนเน่าเสีย เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี ในช่วงเดือน ต.ค. ถึง ธ.ค. เกิดจากน้ำจืดปะทะกับน้ำเค็มจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าภาวะน้ำเบียด ส่งผลให้ค่าออกซิเจนละลายน้ำ(DO) ต่ำกว่าปกติ ทำให้สัตว์น้ำที่ชาวบ้านเลี้ยงในกระชังและสัตว์น้ำในธรรมชาติขาดออกซิเจน และหากว่าในบริเวณใดมีจำนวนสัตว์น้ำมากก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการตายเพราะต้องแย่งออกซิเจนเพื่อหายใจ

 

นายนพพล กล่าวว่า จากจากรายงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทางทะเลและชายฝั่ง ที่ส่งเข้ามายังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เมื่อวันที่ 13 และ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าที่ ต.คลองโคน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม และ ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เป็นจุดที่มีสัตว์น้ำตายมากที่สุด โดยมีทั้งปลาและหอยที่ตายลงจากภาวะน้ำเน่าเสีย ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ต่างระบุว่าปรากฏการณ์น้ำเบียดในปีนี้ หากเทียบกับปีที่ผ่านมาน่าจะมีความรุนแรงมากกว่า เนื่องจากจำนวนสัตว์น้ำที่ตายในขณะนี้มีจำนวนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา

 

นางสาวกาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยทรัพยากรประมงชายฝั่งทะเล จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า ศูนย์วิจัยทรัพยากรประมงชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนบนและศูนย์อนุรักษ์ฯ ที่ 2 จังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกสำรวจเหตุการณ์สัตว์น้ำตายบริเวณชายฝั่งจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรปราการ ในวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา จำนวน 5 สถานี พบว่าปริมาณออกซิเจนละลายน้ำมีค่าต่ำมากโดยเฉพาะบริเวณพื้นท้องน้ำ มีค่าอยู่ในช่วง 0.2-0.3 มก.ต่อลิตร ซึ่งภาวะน้ำขาดออกซิเจน หากเกิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าดิน สัตว์น้ำขนาดเล็ก หรือสัตว์เกาะติด เช่นหอย ซึ่งไม่สามารถหนีไปในบริเวณที่คุณภาพน้ำดีกว่า

 

"ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำบริเวณชายฝั่งจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. แบ่งตาม สถานีตรวจวัดที่ 1 เมื่อเวลา 11.35 น. ที่ความลึก 4.1 ม. ค่าออกซิเจนละลายน้ำ 0.2 มก.ต่อลิตร สถานีตรวจวัดที่ 2 เมื่อเวลา 12.10 น. ที่ความลึก 8.3 ม. ค่าออกซิเจนละลายน้ำ 0.3 มก.ต่อลิตร สถานีตรวจวัดที่ 3 เมื่อเวลา 12.45 น. ที่ความลึก 6.7 ม. ค่าออกซิเจนละลายน้ำ 0.2 มก.ต่อลิตร สถานีตรวจวัดที่ 4 เมื่อเวลา 14.06 น. ที่ความลึก 2.2 ม. ค่าออกซิเจนละลายน้ำ 0.2 มก.ต่อลิตร และสถานีตรวจวัดที่ 5 เมื่อเวลา 14.55 น. ที่ความลึก 2.5 ม. ค่าออกซิเจนละลายน้ำ 0.2 มก.ต่อลิตร" นางสาวกาญจนา กล่าว

[Pete 15,187]

153ส.ส.ปชป.ยื่นวุฒิฯถอดถอน "สุกำพล" ออกจาก "รมว.กห."

 

เมื่อเวลา 09.45 น. น.ส.ผุสดี ตามไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ส.ส.ประชาธิปไตย ได้ยื่นคำร้องประกอบรายชื่อ ส.ส. จำนวน 153 คน เพื่อถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจากตำแหน่ง ต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา หลังจากพบพฤติการณ์ที่กระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ คือ 1. มีการออกคำสั่งกระทรวงกลาโหมปลด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากราชการอย่างมิชอบ และขัดต่อเจตนรมย์ในพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476 เพราะเป็นการถอดยศหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ปลดประจำการไปแล้ว และที่สำคัญคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยมีคำวินิจฉัยไว้ ว่า กระทรวงกลาโหมไม่มีอำนาจปลดนายทหารที่ปลดประจำการไปแล้ว 2.มีเจตนาที่พบว่าได้วางแผนร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพราะ พล.อ.อ.สุกำพลได้พูดต่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทย และต่อหน้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ว่าจะดำเนินการถอดยศ ร.ต. ของนายอภิสิทธ์ก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่จงใจขัดขวางการตรวจสอบงานรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้าน และ 3.เป็นการใช้อำนาจทางราชการ ออกคำสั่งโดยทุจริต กลั่นแกล้งนายอภิสิทธิ์

 

ด้านนายนิคม กล่าวว่า ตนจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 15 วัน ดังนั้นเชื่อว่าภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ตนจะสามารถส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนได้