ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

**กบข.ปรับกลยุทธ์รับ ดบ.ลงต่อ

 

น.ส.โสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งต่อไปในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีการหารือในประเด็นเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25-0.5% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งยอมรับว่า หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง จะทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนของ กบข.ลดลงตามไปด้วย ซึ่ง กบข.ได้เตรียมกำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2555 และปี 2556 ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคที่มีความแข็งแกร่ง มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดี เช่น ภูมิภาคเอเชีย เป็นต้น

 

 

ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เผยแพร่งานวิจัยล่าสุดเรื่อง “Shock Therapy! What Role for Thai Monetary Policy?” ซึ่งศึกษาถึงบทบาทและประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในช่วงที่เกิดภาวะช็อกทางเศรษฐกิจ 3 ครั้ง ได้แก่ วิกฤตการเงินโลกในช่วงปี 2551-2552 เหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นในช่วงต้นปี 2554 และมหาอุทกภัยในประเทศในช่วงปลายปี 2554

 

 

งานวิจัยนี้พบว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวนโยบายการเงินภายใต้“กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น” (Flexible Inflation Targeting: FIT) ที่ชัดเจนน่าเชื่อถือ และอัตราแลกเปลี่ยนที่สามารถเคลื่อนไหวได้ยืดหยุ่นตามกลไกตลาด มีส่วนสำคัญในการลดทอนผลกระทบและสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาดังกล่าว

 

 

เจ้าหน้าที่ IMF ประมาณการว่า หากประเทศไทยไม่ได้ใช้กรอบ FIT และมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น (แต่ใช้กรอบอื่น เช่น กรอบนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนคงที่) จะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าที่เกิดขึ้น กล่าวคือ อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะต่ำกว่าที่เกิดขึ้นจริงถึง 3.7% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับปกติที่เศรษฐกิจไทยเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี

 

 

นอกจากนี้ยังให้ข้อสังเกตว่า กรอบ FIT นอกจากจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพ อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำแล้ว กรอบนโยบายยังยืดหยุ่น เพราะไม่ได้มุ่งแค่เป้าหมายแคบๆ ในระยะสั้น แต่เน้นเป้าหมายที่เป็นกรอบกว้างในระยะปานกลาง ทำให้มีความยืดหยุ่นพอที่จะใช้ดูแลการเติบโตของเศรษฐกิจและลดความผันผวนระยะสั้น โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากภายนอกได้

 

 

งานวิจัยนี้ได้ยกตัวอย่างการตัดสินใจของกนง.ในช่วงปลายปี 2551 ที่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม 2.50% จาก 3.75 %ไปอยู่ที่ 1.25% ต่อปีซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งปล่อยให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวได้ตามกลไกตลาด ซึ่งการดำเนินนโยบายการเงินดังกล่าวมีส่วนช่วยรองรับผลจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้มาก

[Pete 15,187]

19 พฤศจิกายน 2555

เงินบาทเปิด 30.71/73 เคลื่อนไหวตามภูมิภาค รอปัจจัยใหม่หนุนตลาด

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.71/73 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 30.75/77 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาค แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามาส่งผลกระทบ

 

"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อย แต่ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่หวือหวา" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ปัจจัยที่ตลาดให้ความสนใจยังคงเป็นเรื่องปัญหาหนี้ของสหภาพยุโรป โดยเฉพาะปัญหาของประเทศกรีซ และกรณีที่สหรัฐฯ ยังมีความกังวลเรื่องการตัดงบประมาณทั้งหลายทั้งปวง หลังนายบารัค โอบามา ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่สอง

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 81.03 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 81.05/07 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2754/2758 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับ 1.2730/2732 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ในกรอบ 30.67-30.77 บาท/ดอลลาร์

 

[Pete 15,187]

24950 25050

[ariya 1,481]

เซ็ง spot เพิ่ม ราคายังไม่ไปไหนเลย

[Pete 15,187]

เซ็ง spot เพิ่ม ราคายังไม่ไปไหนเลย

ซื้อ 1715 ราคาประมาณ 25,040-25,060 บาท ราคาประกาศฯ อ้างอิง 1722 ขึ้นมา 7 เหรียญ ยังหากำไรไม่เจอ คงต้อง 1730 ส่วนตัวรอกำไรนิดหน่อยก็จะ

[ariya 1,481]

 

ซื้อ 1715 ราคาประมาณ 25,040-25,060 บาท ราคาประกาศฯ อ้างอิง 1722 ขึ้นมา 7 เหรียญ ยังหากำไรไม่เจอ คงต้อง 1730 ส่วนตัวรอกำไรนิดหน่อยก็จะ

เจ้ซื้อ25022 ได้ 50 เป็นค่ากับข้าวก็เอาแล้วป๋า ถ้าไม่ดีป๋าไลน์บอกด้วยนะ ช่วงนี้อยู่ward icu

[Plubpunch 20]

หวัดดีค่ะ. ป๋า และทุกท่าน

 

 

 

โชคดีมีกำไรทุกท่านนะคะ

[Pasaya 499]

สวัสดีก่อนเที่ยงวัยจันทร์ค่ะทุกคน

แดดสลัวน่านอนต่อจัง ตุนแรงไว้คืนนี้ดีกว่า

[pedtc 0]

ขอขอบคุณเฮียเด็กขายของ และทุกๆ ท่านสำหรับข่าวสารครับผม

[Pete 15,187]

ข่าวภาคบ่าย ก่อนเปิดตลาดยุโรป

 

CFTC FX Speculative report shows heavy Euro selling

Mon, Nov 19 2012, 01:11 GMT

by Greg McKenna | GlobalFX

FX markets are made up of many different players. One of the most influential are traders and speculators but because of the OTC nature of FX markets it is difficult to get a good read on exactly what the "speculators" are doing in the market.

 

But we can do that by proxy using the CFTC's Commitment of Traders report that they release at 3.30 pm each Friday afternoon.

 

Certainly Futures traders are but a tiny part of the almost 5 trillion dollars of FX turnover each day but they remain a very good bellwether for what positioning might look like in some currency pairs. In some pairs like the EURUSD watching the large speculators is a very good proxy for the underlying EUR rate - while in others the relationship is less strong.

 

What we know though is that watching this sector of the market is an important part of any traders toolkit of indicators for assessing the direction of a pair both short and long term.

 

Here is our summary of this week's moves in the positioning of the large speculators as reported by the CFTC in its Commitment of traders report.

 

 

Euro

 

More big short Euro positions were instituted by the large speculators in the week to last Tuesday with a net increase in shorts of 16505 to -83646. As we have been saying for a few weeks now there is still plenty of negative fire power in the Euro short positions as the specs wind back their recent bullishness.

 

 

Certainly the market has been net short for a very long time now but the net position as it stands now is only in the botom quartile of positioning in the past 6 months.

 

 

So as the Euro slides and as the price action confirms the rejection of recent highs and pushes lower so it is that there is still plenty of room for shorts and we'd expect to see this short position increase with next weeks numbers.

http://www.fxstreet.com/fundamental/analysis-reports/fx-speculative-positions-report/2012/11/19/

 

[Pete 15,187]

 

Resistance: 1.2766 strong/1.2816 moderate/1.2851 minor

Support: 1.2731 moderate/1.2682 minor/1.2646 minor

[Pete 15,187]

Support: - 1704.37, 1693.13, 1687.96 and 1670.44(main). Break of the latter will give 1665.00, where a correction is possible. Then 1655.30, where a correction is also possible. Be there a strong impulse, we would see 1642.50. Continuation will bring 1624.81.

 

Resistance: - 1730.46 and 1739.44(main), where a correction may happen. Break would bring 1747.12, where a correction may also happen. Then follows 1757.84. Be there a strong impulse, we’d see 1764.59. Continuation would bring 1777.42.

[Pete 15,187]

Asian markets up on Monday

Mon, Nov 19 2012, 07:24 GMT | FXstreet.com

Share on email Share on facebook_like

Related News

Forex Flash: EUR/USD targets 1.2661 current November low – Commerzbank

Asian markets up on Monday

Japanese Vice FinMin Takemasa: Expects bold monetary easing from BOJ

FXstreet.com (Barcelona) - Japan's Nikkei Stock Average hit a 2-month high as investors continue to push higher ahead of the election in Dec-16, with expectations of more agressive monetary policy by the BoJ soon. Tomorrow, the central bank is having its meeting. Japan's Nikkei Stock Average rallied +1.43%, Hong Kong's Hang Seng gained +0.35%, South Korea's Kospi edged higher by +0.93%, Australia's S&P/ASX 200 rose +0.57% and Mainland China's Shanghai Composite closed just below flat at -0.01%.

 

This week, financial markets will be focusing on the escalating tensions in the Middle East, Greece and the US “fiscal cliff”, while the economic calendar will provide housing data, eurozone flash PMIs, BoE Minutes and China’s HSBC flash PMI. Futures for the German DAX 30 are down by -0.34%, while the French CAC 40 rallies +1.12%.

 

ตลาดยุโรปคาดการณ์ว่า เยอรมัน ลบ ฝรั่งเศส บวก ส่วนในเอเชีย วันนี้อยู่ในด้านบวก

[Pete 15,187]

**SET ปิดบวก 1.5 จุด แกว่งแคบ ไร้ปัจจัยหนุน-นลท.เฝ้าระวังยังไม่รีบซื้อ

 

 

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,281.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด(+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 8,884.36 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ เหตุไร้ปัจจัยใหม่หนุน และวอลุ่มเทรดน้อย มองนักลงทุนเฝ้าระวังจึงยังไม่รีบซื้อ ขณะที่ตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ ทั้งนี้ตลาดบ้านเราต่างชาติยังไม่กลับมาซื้อ มีเพียงกองทุนที่ซื้อ ทำให้ภาพตลาดฯเป็นลักษณะแกว่งตัว และการประกาศงบฯก็ได้เสร็จสิ้นแล้วจึงไม่มีประเด็น ส่วนการเมืองมองเป็นแค่ผลทาง Sentiment ไม่น่ามีน้ำหนักมาก ส่วนปัจจัยนอกประเทศยังกังวล Fiscal Cliff แต่"โอบามา"เชื่อว่าน่าจะเจรจาได้สำเร็จ ทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้น ปัญหาหนี้ยุโรปเรื่องการช่วยกรีซ ตลาดฯรับรู้กันนานแล้ว บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งตัวในลักษณะซึม เพราะต่างชาติยังไม่กลับมาซื้อหุ้น และรอชัดเจนจากสหรัฐ พร้อมให้แนวรับ 1,270 แนวต้าน 1,295 จุด

 

 

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,281.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด(+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 8,884.36 ล้านบาท

 

 

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,284.77 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,278.48 จุด

 

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่วอลุ่มเทรดของตลาดฯดูน้อย มองว่าเป็นลักษณะของการอยู่ในช่วงเฝ้าระวังของนักลงทุนจึงยังไม่รีบเข้ามาซื้อ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็มีการแกว่งตัวทั้งแดนบวก-ลบ

 

ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาซื้อ มีเพียงกองทุนเท่านั้น ทำให้ภาพตลาดฯเป็นลักษณะแกว่งตัว นอกจากนี้การประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/55 ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว จึงไม่มีประเด็นในการชักจูงเข้ามาซื้อ สำหรับปัจจัยการเมืองมองว่าเป็นแค่ผลทาง Sentiment เท่านั้น ไม่น่าจะมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นมากนัก

 

 

ขณะที่ปัจจัยนอกประเทศในเรื่องของ Fiscal Cliff ในสหรัฐฯ นักลงทุนยังคงกังวลกันอยู่ เพียงแต่อาจมีคำพูดที่"โอบามา"พูดว่าน่าจะเจรจาได้สำเร็จ ตรงนี้ทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังได้มากขึ้น แต่ก็ต้องรอความชัดเจนต่อไป ส่วนปัญหาหนี้สินในยุโรป ในเรื่องของการช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ มองว่าเป็นประเด็นเดิมที่นักลงทุนได้ต่างรับรู้กันมานานแล้ว

 

 

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว อยู่ในลักษณะซึม ๆ แต่ก็ต้องรอดูทิศทางของตลาดในยุโรปที่เปิดในช่วงบ่ายนี้ด้วย เนื่องจากตลาดฯยังไม่เห็นต่างชาติซื้อ ทำให้หุ้นปรับขึ้นได้ยาก และคงรอความชัดเจนเรื่อง Fiscal Cliff ที่คาดว่าจะได้เห็นในเดือนหน้า

 

 

พร้อมให้แนวรับ 1,270 จุด แนวต้าน 1,295 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BTS มูลค่าการซื้อขาย 506.27 ล้านบาท ปิดที่ 6.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 449.47 ล้านบาท ปิดที่ 312.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

SUPER มูลค่าการซื้อขาย 440.55 ล้านบาท ปิดที่ 1.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 396.57 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 330.67 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

 

ที่มา ทันหุ้น

[Pete 15,187]

TOP จับตาความขัดแย้งฉนวนกาซา-ตะวันออกกลางกระทบอุปทานน้ำมันดิบ

 

 

บมจ.ไทยออยล์ (TOP) คาดทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นสัปดาห์นี้ เบรนท์อยู่ที่ 104 -112 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 80 - 88 เหรียญฯ โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ (กลุ่มฮามัส) รวมทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบในซีเรียยังคงสร้างความกังวลในเรื่องความเสี่ยงต่ออุปทานน้ามันดิบ

 

 

การประชุมรัฐมนตรีการคลังสหภาพยุโรปในวันที่ 20 พ.ย. นี้ ซึ่งจะหารือเรื่องการอนุมัติเงินช่วยเหลือแก่กรีซมูลค่า 31.5 พันล้านยูโร โดย EC/ECB/IMF

 

 

อีกทั้ง จับตาว่าสเปนจะตัดสินใจขอเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปหรือไม่และเมื่อไร ซึ่งจะนาไปสู่การที่ธนาคารกลางยุโรปจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสเปน

 

 

ในการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่ 19-20 พ.ย.นี้ จะลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังถูกกดดันจากนายอาเบะ อย่างไรก็ดีตลาดคาดว่าธนาคารจะตรึงนโยบายการเงินไว้จนถึงการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในวันที่ 19-20 ธ.ค. นี้ และอาจจะเลื่อนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปจนกว่าจะถึงต้นปีหน้า

 

 

การหาทางออกให้กับปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) ของประธานาธิบดีโอบามาที่จำเป็นต้องสาเร็จก่อนที่มาตรการเพิ่มภาษีและลดค่าใช้จ่ายจะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2556 ซึ่งขณะนี้พรรคเดโมแครตที่มีเสียงส่วนมากในวุฒิสภายังมีความไม่ตรงกับพรรครีพับลิกันที่ครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทน โดยเฉพาะประเด็นการขึ้นภาษี

รวมทั้ง การประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน หลังนาย สี จิ้นผิงได้รับตาแหน่งผู้นาคนใหม่ของจีนแล้วเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา

 

ที่มา ทันหุ้น