ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

เมื่อคืนนี้ ฝันว่า นายเบอร์นันเก้ ทำท่า " ชี้นิ้ว " ประมาณนี้

 

ปล. ขออภัย เด็กขายของบอกเล่าแค่ " ผมฝัน "

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดน้ำมันลอนดอน:ราคาปิดบวกรับข่าวโอเปกผลิตน้ำมันลดลงในเดือนพ.ย.

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดล่วงหน้าลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นหลังการ ซื้อขายที่ผันผวนในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า การผลิตน้ำมันของ กลุ่มโอเปกลดลงในเดือนพ.ย., ดอลลาร์อ่อนค่าลง และปัญหาด้านอุปทานน้ำมัน จากความปั่นป่วนอย่างต่อเนื่องในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดบวก 68 เซนต์ หรือ 0.63% สู่ระดับ 108.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังปรับตัวในช่วง 107.09-108.34 ดอลลาร์

 

 

ตลาดโลหะมีค่ายุโรป:ทองปิดลบจากแนวโน้มสหรัฐรอดพ้นวิกฤติงบประมาณ

 

ราคาทองปิดตลาดยุโรปปรับตัวลงในวันอังคาร โดยถูกถ่วงลงจากความ หวังที่ว่าสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤติงบประมาณ และราคาทองปรับตัวลงก่อน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยแถลงการณ์ประชุมกำหนดแนวโน้มนโยบายการเงิน

ราคาโลหะเงินและพัลลาเดียมปิดตลาดลดลงเช่นกัน ส่วนราคาพลาตินั่มปิดบวกสวนตลาด

 

ระดับปิดของราคาโลหะมีค่าในตลาดลอนดอนเป็นดังนี้

ทอง - ปิดที่ 1,709.85 ดอลลาร์/ออนซ์ ลบ 1.74 ดอลลาร์

เงิน - ปิดที่ 32.94 ดอลลาร์/ออนซ์ ลบ 0.25 ดอลลาร์

พลาตินั่ม - ปิดที่ 1,633.00 ดอลลาร์/ออนซ์ บวก 14.75 ดอลลาร์

พัลลาเดียม - ปิดที่ 689.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ลบ 7.30 ดอลลาร์

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 80.93 จุดหลังตลาดหุ้นสหรัฐ,ยุโรปพุ่ง

 

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ 9,606.25 จุด เพิ่มขึ้น 80.93 จุดในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรป หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 6.9 ในเดือนธ.ค. จาก -15.7 ในเดือนพ.ย.

นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม และนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ

 

ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ดอลล์อ่อนค่าเช้านี้,จับตาประชุมเฟด

 

ดอลลาร์ทรงตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตร เลีย และยังคงเผชิญกับแรงกดดันในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย ขณะที่ตลาดรอดูมาตรการ กระตุ้นเพิ่มเติมจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ในช่วงเช้านี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.3% มาที่ 80.061 ขณะที่ยูโรอยู่ที่ 1.30030 ดอลลาร์ หลังจากดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1.3000 ดอลลาร์ โดยฟื้นตัวจาก ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1.2876 ดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

ดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นมาที่ 1.0533 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดตั้งแต่ กลางเดือนก.ย. และดอลลาร์ทรงตัวที่ 82.51 เยน ขณะที่คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะขยายโครงการซื้อสินทรัพย์และปล่อยกู้ในการประชุมนโยบายในสัปดาห์หน้า

ขณะเดียวกัน คาดว่าเฟดจะออกโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลรอบใหม่เพื่อทด แทนมาตรการ Operation Twist ที่กำลังจะสิ้นสุดลง

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า เฟดจะประกาศซื้อพันธบัตรวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน แต่ก็มีความเสี่ยงว่า เฟดจะซื้อมากกว่านั้น ซึ่งจะยิ่งลดความ น่าสนใจของดอลลาร์

ตลาดไม่ได้สนใจข่าวที่น่าผิดหวังเกี่ยวกับการเจรจาแก้ไขภาวะ fiscal cliff ของสหรัฐ โดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไม่ได้ส่งสัญญาณความคืบ หน้าที่เป็นรูปธรรม แต่เขาก็ยังคงหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงภายในกำหนดเส้นตาย สิ้นปีนี้ได้

นักลงทุนจะรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลาง ออสเตรเลีย (RBA) ที่กรุงเทพในเวลา 11.30 น.ตามเวลาไทยในวันนี้

RBA ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.0% ในสัปดาห์ที่แล้ว และตลาดได้ปรับตัวรับโอกาสที่จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.50% ในปีหน้า

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ (12/12/2555)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีที่ปรับตัวสูงขึ้น และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ในการประชุมซึ่งจะรับทราบผลในวันนี้ตามเวลาไทย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 280.49 จุด

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,589.75 จุด เพิ่มขึ้น 58.83 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,646.15 จุด เพิ่มขึ้น 34.05 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,924.97 จุด เพิ่มขึ้น 3.34 จุด

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม และนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 78.56 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 13,248.44 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.29 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 1,427.84 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 35.34 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 3,022.30 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะรับทราบผลในวันนี้ และการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันนี้เช่นกัน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ขยับขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 85.79 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.21-86.37 ดอลลาร์

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 108.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 107.09-108.37 ดอลลาร์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกันในช่วง 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะรับทราบผลในวันนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 4.8 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,709.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 33.017 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 36.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.95 เซนต์ ปิดที่ 3.6865 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,640.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 16.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 696.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 7.95 ดอลลาร์

 

-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐติดต่อกัน 2 วันทำการ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.51% แตะที่ 1.3006 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2940 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.24% แตะที่ Stg/dlr 1.6112 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6074 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.510 เยน จากระดับ 82.330 เยน และอ่อนค่าลง 0.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9322 ฟรังค์ จากระดับ 0.9332 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.39% แตะที่ 1.0525 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0484 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.43% แตะที่ระดับ 0.8384 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8348 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ขยับขึ้น 3.34 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 5,924.97 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,908.32-5,937.93 จุด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 12 ธันวาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิตกศก.อิตาลีแย่หลังมาริโอ มอนติลาออก (12/12/2555)

วิตกศก.อิตาลีแย่หลังมาริโอ มอนติลาออก

 

 

เริ่มปรากฎเค้าลางความหวั่นวิตกว่า อิตาลี อาจเข้าสู่สถานการณ์ความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจถดถอย หลังนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ตัดสินใจที่จะลาออกจากตำแหน่ง และนายซิลวีโอ แบร์ลุสโคนีหวนคืนสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง

 

หลังจากที่นายมอนติ สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศว่า จะลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากพรรค People of Freedom ของนายแบร์ลุสโคนี ซึ่งครองเสียงมากที่สุดในรัฐสภา ได้ถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาลของนายมอนติ โดยนายมอนติ กล่าวว่า เขามั่นใจว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะมีความรับผิดชอบอย่างมาก

 

แต่ถึงแม้จะมีคำยืนยันดังกล่าวออกมา ต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลี ก็ทะยานขึ้นเกือบ 0.4% แตะที่ 362 ขณะที่ตลาดหุ้นอิตาลีร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรป ก่อนปิดปรับตัวลง 2.2% โดยหุ้นกลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ ขณะที่ความวิตกกังวลที่ว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจบั่นทอนวิกฤตยูโรโซนนั้น ได้กระทบตลาดเงินทั่วทั้งภูมิภาค

 

"นักลงทุนวิตกกังวลว่าอิตาลีอาจหวนคืนสู่สถานการณ์เดิมเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว" นายมอริซิโอ มาซิเอโร นักวิเคราะห์การเงินในกรุงมิลาน กล่าว

 

นายมาซิเอโร กล่าวว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คณะรัฐบาลของนายมอนติ สามารถกอบกู้ความน่าเชื่อถือของอิตาลี แต่ความเป็นไปได้ ที่ออกจะคลุมเครือที่ว่า นายแบร์ลุสโคนี อาจขึ้นมามีอิทธิพลในรัฐบาลชุดใหม่นั้น ส่งสัญญาณเตือนถึงความวิตกกังวลระลอกใหม่ เกี่ยวกับความไม่น่าเชื่อถือของอิตาลี

 

นักวิเคราะห์การเงินผู้นี้ ระบุด้วยว่า เมื่อพิจารณาความทรมานแสนสาหัสของอิตาลี เมื่อพิจารณาจากจำนวนหนี้สาธารณะที่พุ่งขึ้น อัตราว่างงานที่ทะยานจนทำสถิติใหม่ และการขาดศักยภาพในการผลิต สถานการณ์จึงจัดว่าหนักหน่วง และเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

 

นายมอนติ ให้คำมั่นสัญญาว่า จะลาออก ในกรณีที่กฎหมายงบประมาณปี 2556 ได้รับการอนุมัติโดยสภาเท่านั้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนช่วงคริสต์มาส ทำให้การเลือกตั้งเลื่อนมาเร็วขึ้นในเดือนก.พ. จากเดิมที่คาดว่า จะจัดขึ้นช่วงเดือนมี.ค.หรือเม.ย.

 

แต่ยังคงมีคำถามสำคัญค้างคาอยู่ว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลฉุกเฉินได้ทันเวลาหรือไม่ สำหรับการออกมาตรการที่สำคัญต่างๆ อย่าง การปรับลดต้นทุนทางการเมือง ซึ่งคำตอบอาจจะชี้ให้เห็นว่า อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ทันกาล

 

ขณะเดียวกัน ความสนใจยังพุ่งไปที่นายมอนติว่า เขาจะยังคงอยู่ในเส้นทางการเมืองหรือไม่ หลังหนังสือพิมพ์รายวัน La Repubblica ของอิตาลี รายงานโดยอ้างอิงบทสัมภาษณ์ของนายมอนติว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจ แต่ก็เป็นห่วงสถานการณ์อย่างมาก

 

แต่ผู้เชี่ยวชาญในอิตาลีส่วนใหญ่ เห็นพ้องกันว่า การถอยหลัง อาจเป็นตัวเลือกอันทรงเกียรติเพียงตัวเลือกเดียว ที่สอดรับกับนโยบายความรับผิดชอบที่ออกโดยคณะรัฐบาลของนายมอนติ ตามที่นายเอลิโอ เวลตริ นักการเมืองและนักเขียนชาวอิตาลีผู้หนึ่งเคยกล่าวไว้

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 12 ธันวาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Nth Korean rocket launched – Japan govmt เกาหลีเหนือปล่อยจรวดแล้ว

Wed, Dec 12 2012, 00:59 GMT | Forex Live

 

By: Eamonn Sheridan

 

Crossing the newswires is news Nth Korea have launched their rocket. Source is Japanese Govmt.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อคืนนี้ ฝันว่า นายเบอร์นันเก้ ทำท่า " ชี้นิ้ว " ประมาณนี้

 

ปล. ขออภัย เด็กขายของบอกเล่าแค่ " ผมฝัน "

แสดงว่าขึ้นแน่ๆๆ 555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิดตลาด 30.61/63 (12/12/2555)

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.61/63 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.60/64 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยมีการคาดการณ์ว่าผลการประชุมทั้งเมื่อวานและวันนี้จะมีเฟดจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ

 

"แข็งค่าตามภูมิภาค และคนก็คาดการณ์ว่าผลประชุมของเฟดเมื่อวานและวันนี้น่าจะอัดฉีดเงินเข้าระบบ ซึ่งมองเป็นข่าวดีมากกว่า จึงทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวาน" นักบริหารเงินกล่าว

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 82.52/54 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเย็นอยู่ที่ระดับ 82.46/50 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3006/3008 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าจากช่วงเย็นอยู่ที่ระดับ 1.2972/2974 ดอลลาร์/ยูโร

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบความเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้อยู่ที่ระหว่าง 30.58-30.65 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ (วันที่ 12 ธันวาคม 2555)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures (12/12/2555)

คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

Price Movement

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,709.60 USDต่อออนซ์ลดลง 4.80 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบ 1,706.00 - 1,715.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดลดลงเล็กน้อย เมื่อตลาดรับข่าวความคาดหวังว่า เฟดจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อภายหลังการประชุม FOMC วันที่ 11 — 12 ธ.ค.นี้ โดยนอกจากการซื้อพันธบัตร MBS มูลค่า 4 หมื่นล้านบาทแล้ว จะซื้อพันธบัตรระยะยาวมูลค่า 4.5 หมื่นล้านUSD ต่อเดือนเพื่อทดแทน Operation Twist ที่จะสิ้นสุดลง ซึ่งถ้าหากไม่เป็นไปตามคาดจะมีแรงขายทองคำออกมา ส่วนการเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff ของสหรัฐตลาดคาดการณ์ในทางบวกว่าจะตกลงกันได้ ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ในขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อตัวเลขความเชื่อมั่นของนักลงทุนของเยอรมันดีขึ้นอย่างมาก สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,711 USDต่อออนซ์ ราคาแกว่งตัวออกทางด้านข้างและประคองตัวอยู่เหนือเส้น MA 100 วันได้แต่ก็ไม่สามารถผ่านเส้น MA 34 วันไปได้ คาดว่าวันนี้ทองคำมีแนวรับบริเวณ 1,705/1,700/1,685 แนวต้านบริเวณ 1,718/ 1,726/1,733 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน นักลงทุนระยะกลาง — ยาว รออ่นตัวบริเวณแนวรับสะสม Long เพิ่ม ถ้าไม่หลุด 1,670 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้คาดว่าอยู่ในกรอบ 1,665 — 1,755 โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,670 หากหลุดจะทำให้ภาพเป็น Bearish มากขึ้น ส่วนการผ่านบริเวณ 1,725 ได้จะทำให้ภาพกลับมาเป็น Bullish ในสัปดาห์นี้

 

Spot Gold

 

Technical Analysis

 

ภาพกราฟทางเทคนิคราคาแกว่งตัวในกรอบ side way ออกทางด้านข้าง โดยราคาสามารถประคองตัวอยู่เหนือเส้น MA 100 วันได้ ในขณะที่มีแนวต้านเป็นเส้น MA หนาแน่นบริเวณ 1,718 — 1,733 โดยยังไม่มีแรงซื้อเข้ามามากพอ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,705/1,700/1,685 แนวต้านบริเวณ 1,718/ /1,726/1,733 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน นักลงทุนระยะกลาง — ยาว รออ่นตัวบริเวณแนวรับสะสม Long เพิ่ม ถ้าไม่หลุด 1,670

 

Key Point in Precious Market

 

- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ( + ) ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ( + ) ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ( - ) ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อลดลง ( - ) ความต้องการทองคำจากธนาคารกลางประเทศต่างๆเพิ่มขึ้น ความต้องการของกองทุน ETF ทองคำเพิ่มขึ้น ( + ) นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่หากผิดคาดจะทำให้มีการขายทองออกมา ( +/- )

 

- ประเด็นที่ต้องติดตาม การแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ การแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐ การชุมนุมประท้วงในอียิปต์ การชุมนุมประท้วงในซีเรีย การประชุม FOMC ของสหรัฐในวันที่ 11 — 12 ธ.ค. การประชุม EU Summit ในวันที่ 13 -14 ธ.ค.

 

- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันพุธ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ FOMCประกาศมติการประชุม กำหนดนโยบายการเงิน งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนพ.ย. วันพฤหัสบดี ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. วันศุกร์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนพ.ย.

 

- SPDR ขาย 1.93 ตัน ถือทองจำนวน 1,351.42 ตัน

 

Spot Silver

 

ราคาโลหะเงินปิดที่ 33.02 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 32.84 - 33.35 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวน 9,829.15ตัน คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 32.7/32.5 แนวต้านบริเวณ 33.3/33.5 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 12 ธันวาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธปท.เตรียมออกมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม-จับตา 4 ปัจจัย (12/12/2555)

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในระยะต่อไปมองว่าเงินทุนยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่องอาจจะมีความผันผวนตามภาวะ risk on risk off ตามตลาดการเงินโลก โดยมี 4 ปัจจัยที่ยังต้องจับตา ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดการเงิน คือ เรื่องการแก้ไขปัญหา Fiscal cliff ของสหรัฐฯ, ปัญหนี้สินในยุโรป, การเลือกตั้งในญี่ปุ่น ที่คาดว่าจะมีผลกดดันเงินเยนให้อ่อนค่าลง เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของจีน

 

อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังมีมาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายเพื่อให้ภาคเอกชนไทยนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ flow ของธุรกรรมต่างประเทศตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้โดยรวมภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี - ปัจจุบัน ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.9% โดยในช่วงครึ่งปีหลังมีการแข็งค่าเร็วถึง 3.5% โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3/55 ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจหลัก แต่อย่างไรก็ตาม เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค

 

ด้านนางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธปท.จะออกมาตรการเงินทุนเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม โดยจะผ่อนคลายให้นักลงทุนรายย่อยไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องขอนุญาตจากธปท. จากเดิมที่ต้องขออนุญาต

 

และในช่วงต้นเดือนม.ค.56 จะมีการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มในส่วนการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของบุคคลธรรมดา โดยให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ของไทยไปลงทุนต่างประเทศได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากธปท. นอกจากนี้จะมีการผ่อนคลายเกี่ยวกับมาตรการของผู้มีบัญชีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศ (FCD) โดยผู้ที่มีภาระผูกพันเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศสามารถฝากเงินเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศได้เต็มจำนวนภาระผูกพันโดยไม่จำกัดระยะเวลา จากเดิมที่กำหนดภาระผูกพันไม่เกิน 1 ปี สามารถฝากเงินได้ไม่เกิน 100 ล้านเหรียญฯ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 12 ธันวาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สื่อเผยอิหร่านเล็งเรียกร้องโอเปกลดการผลิตในการประชุมวันนี้ (12/12/2555)

สำนักข่าวกึ่งทางการ Fars รายงานว่า กระทรวงน้ำมันของอิหร่านประกาศว่าจะขอให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ตัดสินใจลดการผลิตลงในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันนี้

 

“ข้อเรียกร้องแรกของอิหร่านจากสมาชิกโอเปกจะเป็นการกลับไปสู่พันธสัญญาที่ตกลงกันไว้เกี่ยวกับการจำกัดการผลิต" นายอาลีเรซา นิคซาด-ราห์บาร์ โฆษกกระทรวงน้ำมันอิหร่านกล่าววานนี้

 

นายนิคซาด-ราห์บาร์กล่าวว่า การประชุมครั้งล่าสุดของโอเปกเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ได้ตัดสินใจว่าการผลิตโดยรวมของโอเปกจะอยู่ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน แต่การผลิตในขณะนี้สูงเกินกว่า 31 ล้านบาร์เรล/วัน

 

ทั้งนี้ โอเปกจะจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 162 ที่กรุงเวียนนาในวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดน้ำมันในปัจจุบัน และแต่งตั้งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการทั่วไปของโอเปกต่อจากนายอับดุลลาร์ อัล-บาดรี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 12 ธันวาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อย่าวางใจ'เงินเฟ้อ' (12/12/2555)

หลังจากที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดศึกกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของปี 2555

 

หลังจากที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดศึกกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของปี 2555 ที่ ธปท.เสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ถูก กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในขณะนั้นตีกลับ เนื่องจากไม่ได้เห็นรายละเอียดมาก่อน

 

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีก การจัดทำเป้าหมายเงินเฟ้อของปี 2556 ธปท.กับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมหารือกันอย่างใกล้ชิด จนเห็นชอบร่วมกันว่าจะเสนอเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่กรอบ 0.5-3% ซึ่งเป็นกรอบเงินเฟ้อที่ไม่แตกต่างจากปี 2555

 

กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อนี้ ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

 

กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในระดับนี้ อาจจะทำให้หลายคนกังวลใจว่า จัดทำต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ เพราะหากพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมและราคาสินค้า เงินเฟ้อน่าจะสูงกว่านี้

 

เหตุที่น่าสงสัยว่า รัฐบาลอาจจะจัดทำเป้าหมายเงินเฟ้อต่ำเกินไป ก็เพราะวันที่ 1 ม.ค. 2556 ประเทศไทยจะต้องใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่เป็นวันละ 300 บาททั่วประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนวิตกกังวลว่า มาตรการนี้จะกระชากค่าครองชีพให้แพงทั้งแผ่นดินขึ้นอีก เหมือนในช่วงที่ประกาศขึ้นค่าจ้างใน 7 จังหวัดนำร่องเมื่อต้นปีหรือไม่

 

นอกจากนี้ ปัญหาภัยแล้งที่เริ่มส่งสัญญาณขึ้นมาให้น่ากังวลใจก็เริ่มขึ้น จากปริมาณน้ำที่จะทำการเพาะปลูกพืชในบางพื้นที่แห้งเหือด ส่งผลให้ราคาอาหารประเภทผักและผลไม้มีราคาแพงขึ้นตั้งแต่เดี๋ยวนี้ รวมทั้งนโยบายพลังงานของรัฐบาล ที่อาจจะมีผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นจากปัจจุบันที่กำหนดไว้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท การลอยตัวก๊าซแอลพีจี ซึ่งถ้านโยบายใหม่ทำให้ราคาปรับขึ้นสูงขึ้นอาจจะกระทบต่อเนื่องไปส่วนอื่นๆ เช่น ค่าโดยสารสาธารณะ อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น

 

แค่เพียง 3 ปัจจัยนี้ ก็มีแนวโน้มที่จะดึงเงินเฟ้อให้เพิ่มสูงขึ้นได้อย่างน่าเป็นห่วงแล้ว แต่การที่ ธปท.ยอมตั้งกรอบเงินเฟ้อไว้ในระดับเดิม ก็เพราะเห็นว่าปัจจัยที่จะดึงให้เงินเฟ้อต่ำลงมีอิทธิพลมากกว่า

 

นั่นคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่มีแนวโน้มยังไม่ฟื้นตัวหลุดออกจากวังวนหนี้เสียได้ง่ายๆ ทั้งอเมริกาและสหภาพยุโรป รวมทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็ออกมายอมรับว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอีกครั้ง

 

ธปท.มองว่า สิ่งที่ธนาคารกลางของหลายๆ ประเทศได้พยายามพยุงเศรษฐกิจ โดยออกมาตรการกระตุ้นทางการเงินต่างๆ ทั้งสหภาพยุโรปที่ออกมาตรการรับซื้อพันธบัตรไม่จำกัดปริมาณ (Outright MonetaryTransaction : OMT) สหรัฐที่ทำมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน หรือ Quantitative Easing (QE) เพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 3 รวมทั้งญี่ปุ่นที่ออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (Asset Purchase Program : APP)

 

“มาตรการกระตุ้นเหล่านี้ดูเหมือนจะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจได้ไม่มากนัก เพราะไม่ได้เป็นมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่โครงสร้าง เศรษฐกิจโลกในระยะต่อไปจึงมีแนวโน้มซบเซายืดเยื้อ และอาจกล่าวได้ว่า ไม่มีใครช่วยใครได้ ความหวังสำหรับเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจึงต้องจับตาว่า จุดแข็งด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจของไทยที่อยู่ในเกณฑ์ดีในช่วงที่ผ่านมา และแรงขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจในประเทศจะช่วยเป็นเกราะป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบของเศรษฐกิจโลกได้มากน้อยเพียงใด” ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าว

 

นอกจากนี้ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภายในของรัฐบาลด้วยการลงทุน ก็ไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ กว่าจะเปิดประมูล กว่าจะลงมือก็คงเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

 

การส่งออกที่หวังจะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็หวังไม่ได้ หากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าไม่ฟื้น การหวังเพิ่มส่งออกในตลาดอาเซียนด้วยกัน เนื่องจากเศรษฐกิจยังดีอยู่ น่าจะเป็นตลาดที่พึ่งได้ ก็อาจจะเป็นความหวังที่หวังได้ยาก เนื่องจากเศรษฐกิจของทุกประเทศในอาเซียนจะชะลอตัวลงตามประเทศคู่ค้าเช่นกัน

 

สำหรับการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โครงการรถคันแรกของรัฐบาล ก็ได้สร้างกำลังซื้อไปในปีนี้หมดแล้ว ยอดซื้อรถยนต์ในปีหน้าจะเริ่มขยายตัวต่ำลง อีกทั้งคนชั้นกลางที่เป็นผู้บริโภคมากไม่แพ้กลุ่มรากหญ้า ก็เป็นหนี้รถยนต์ไปแล้ว ต้องเจียดรายได้ไปผ่อนชำระค่างวดรถ เงินที่จะใช้จับจ่ายบริโภคก็จะน้อยลง

 

ปัจจัยที่มีผลต่อเงินเฟ้อทางอ้อมที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศ ที่ยังคุกรุ่นพร้อมที่จะระเบิดเป็นความรุนแรงได้ทุกเมื่อ มีผลทางด้านจิตวิทยาความเชื่อมั่นและอารมณ์ในการบริโภคของประชาชน

 

ดังนั้น เมื่อปัจจัยที่จะดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้นมีน้อยกว่าปัจจัยที่จะดึงเงินเฟ้อให้ลดลงมา ทาง ธปท.และกระทรวงการคลังจึงกำหนดอัตราเงินเฟ้อไว้อย่างอนุรักษนิยม ไม่หวือหวามากจนเกินไป และข้อดีของการจับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ในระดับนี้ ทำให้ ธปท.สามารถจะดำเนินนโยบายการเงินได้อย่างยืดหยุ่น สามารถที่จะผ่อนปรนนโยบายการเงินได้ในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ หากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่อาจทวีความซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น

 

ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันว่า การทำกรอบเงินเฟ้อของ ธปท. เป็นของจริง เพราะได้ส่งทีมงานระดับผู้ช่วยผู้ว่าการเดินสายในหลายจังหวัดทั่วประเทศเป็นระยะๆ เพื่อให้เข้าใจสภาพเศรษฐกิจจริงที่เกิดขึ้น เพิ่มเติมจากการประเมินข้อมูลต่างๆ ในด้านเศรษฐกิจมหภาค นอกจากการประเมินภาพเศรษฐกิจในกรณีฐาน (Most Likely Case) แล้ว

 

คณะกรรมการนโยบายการเงินและทีมเศรษฐกิจของ ธปท.ยังต้องมีสายตากว้างไกล สอดส่องสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ผิดปกติ และไม่ละเลยที่จะวาดภาพเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในกรณีต่างๆ รวมทั้งกรณีเลวร้ายที่สุด (Tail Events) เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินนโยบายหากเกิดกรณีเหล่านั้นขึ้นด้วย

 

นอกจากนี้ ทีมงานด้านเศรษฐกิจของ ธปท.ยังต้องประชุมร่วมกันกับทีมงานด้านนโยบายสถาบันการเงินด้วย เพื่อให้การดำเนินนโยบายครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งการดำเนินนโยบายทำได้ถูกจังหวะจึงจะเกิดประสิทธิผลได้สูงสุด

 

อย่างไรก็ดี แม้กรอบเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มไม่สูงจนเกินไป สมดังความต้องการของฝ่ายการเมือง แต่ ธปท.กับกระทรวงการคลังคงจะดีกันได้ไม่นาน เพราะความเห็นต่างด้านนโยบายดอกเบี้ยยังคงอยู่

 

ยิ่งมองว่าเศรษฐกิจยังแย่ รัฐบาลก็ยิ่งอยากให้ดอกเบี้ยนโยบายลดลงไปอีก เพื่อกดให้ดอกเบี้ยในประเทศลดลงตามแต่ ธปท.โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินจะมองเสถียรภาพเศรษฐกิจเป็นหลักมากกว่าการเติบโต ดังนั้นไม่ได้หมายความว่า ปรากฏการณ์กำหนดกรอบเงินเฟ้อนี้จะทำให้ความขัดแย้งทางนโยบายการเงิน การคลัง จะลดลง

 

ปัจจัยผันแปรที่ทำให้ ธปท.ยังไม่วางใจว่า เงินเฟ้อจะไม่เพิ่มจนน่าเป็นห่วงก็คือ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ขยันคิดมุขประชานิยมใหม่ๆ ออกมา ขณะนี้ก็เริ่มแล้วที่จะให้ธนาคารของรัฐพักหนี้ให้ลูกค้ารายย่อยอีกรอบ หลังจากที่เคยพักไปแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้

 

นี่คือการปลดล็อกให้กลุ่มรายย่อย มีเงินใช้ต่อลมหายใจไปอีก แต่ก็จะเป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดินในระยะต่อไป

 

ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า ผลต่อการปรับค่าจ้าง 300 บาท รอบสองที่มีผลให้ปรับขึ้นทั่วประเทศในต้นปีหน้านี้ ยังต้องติดตามว่าจะส่งผลให้ต้นทุนดันราคาสินค้าให้เพิ่มขึ้นหรือไม่

 

นอกจากนี้ หากเศรษฐกิจโลกพลิกกลับมาฟื้นตัว อาจจะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน เพราะสหรัฐและจีน ผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก จะกลับมาไล่ซื้อทำให้ราคาสูงขึ้น อีกทั้งการใช้จ่ายมาตรการกระตุ้นภาครัฐในประเทศที่สูงขึ้น ถ้ากระตุ้นดีเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี ก็มีผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้น

 

รัฐบาลเองก็เป็นกังวลกับตัวเลขเงินเฟ้อ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ก็ได้มีการสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานสรุปภาวะเงินเฟ้อให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกเดือน เพื่อจะติดตามแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

 

ดังนั้น การทำนายราคาสินค้าในปีหน้าว่าจะแพงขึ้นอีกหรือไม่ เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก แต่การกำหนดเป้าเงินเฟ้อที่ระดับนี้ น่าจะช่วยให้ ธปท.ตัดสินใจเรื่องนโยบายดอกเบี้ยได้ง่ายกว่าเดิม

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ (วันที่ 12 ธันวาคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีป๋า และทุกท่าน ขี่จักรยานตามต้อยๆ อิอิ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

The calm before the storm ช่างเป็นห้วงเวลาที่เงียบสงบ ก่อนพายุลูกใหญ่จะมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อียิปต์ประท้วงต่อเนื่องต้านลงประชามติรธน.

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2555 11:59น.

 

ชาวอียิปต์ ยังคงชุมนุมต่อต้านการลงประชามิติ ร่างรัฐธรรมนูญต่อเนื่อง รัฐบาลส่งทหาร ดูแลความเรียบร้อยวันที่ 15 ธ.ค.นี้

สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานว่า ชาวอียิปต์ หลายพันคน ยังคงร่วมชุมนุมประท้วงกับกลุ่มฝ่ายค้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อต้านการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้น ในวันเสาร์ที่ 15 ธ.ค.นี้ โดยเฉพาะบริเวณ จัตุรัสทาห์รีร์ ในกรุงไคโร และบริเวณหน้าทำเนียบประธานาธิบดี แต่ไม่มีรายงานความรุนแรง หรือ การปะทะกันของกลุ่มผู้สนับสนุนและฝ่ายต่อต้านแต่อย่างใด

 

รายงานระบุว่า ประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มูร์ซี ได้สั่งการให้กองทัพ เข้ามาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการลงประชามติ วันที่ 15 ธ.ค.นี้ อย่างเข้มงวดด้วย

 

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฮิชาม (Hisham Qandil) นายกรัฐมนตรีของอียิปต์ เปิดเผยว่า ได้มีการร้องขอให้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ชะลอการพิจารณา เงินกู้ 4.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หลังจาก ได้มีการระงับโครงการเพิ่มภาษีไปแล้ว เพราะกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง

 

ด้าน ไอเอ็มเอฟ ยืนยันว่า พร้อมที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลืออียิปต์ทันที เมื่อพร้อมที่จะเดินหน้าแผนกู้ยืมเงินครั้งต่อไป รวมถึงคำปรึกษาในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ หลังจากเกิดภาวะถดถอยต่อเนื่อง นับตั้งแต่กอ่นมีการประท้วงขับไล่ อดีตประธานาธิบดี ฮอสนีย์ มูบารัค ในปี 2010

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...