ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ป๋าลองขับน้ำมันแล้วเหยีบได้แต่ช่วงแรกอืดๆ ขับไปสักพักเปลี่ยนเป็นแก๊สก็ปกติ พอมาอยู่เกียร์ว่างสลับเป็นน้ำมัน เครื่องดับเฉยเลย น่าจะเป็นระบบน้ามันจ่ายไม่ดี ไว้รอไปทำงานอยค่อยไปทำ เพราะช่วงนี้ช่างหยุดหมด

ครับ น่าจะเป็นที่ " ปั้มติ๊ก " ที่น้ำมันไม่สามารถจ่ายน้ำมันเขื้อเพลิงได้เต็มที่

 

แต่ก็ยังมีอีกประเด็นหนึ่ง คือ จุดเซนเซอร์ การสั่งจ่ายน้ำมันฯ และ แก๊ส ที่ยังไงก็เกี่ยวข้องกับกล่อง ECU แนะนำวิธีแบบบ้านฯ ที่มักใข้กับอุปกรณ์สมองกล คือ Reset หรือ Shut Down แหม ! ล่อภาษาอังกฤษ เดี๋ยว เจ้ฯ งง ว่า ทำยังไงว่ะ ?

 

ถอดขั้วแบตเตอรี่ออก ทั้งบวกและลบ ( ทั้ง 2 ขั้ว ) สักพัก 5-10 นาที แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ ขันให้แน่น อุปกรณ์ไฟฟ้า ทุกอย่างจะเข้าสู่ตำแหน่ง " ตั้งค่าจากโรงงานฯ " เช่น วิทยุติดรถยนต์ ก็จะถูกตั้งค่าตามเก่า รวมไปถึงกล่อง ECU สมองกลควบคุมการทำงานอุปกรณ์การขับเคลืรอนรถยนต์ เป็นต้น

 

ถ้าถอดแบตเตอรี่ ตั้งค่าตามโรงงานฯ ไม่หาย ก็ต้องกลับไปที่ระบบสั่งจ่ายเชื้อเพลิง ( ปั้มติ๊ก )

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"จิตติ"คาดราคาทองปีหน้าอาจปรับขึ้นทะลุ 27,000 บาท

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2555 17:22 น.

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า สถานการณ์ทองคำตลาดโลกในปี 2556 มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับขึ้นลงแรง และปรับสูงขึ้นไปอยู่ในกรอบ 1,500 - 1,900 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ทองคำในปี 2555 ค่อนข้างนิ่ง ซึ่งหากราคายังนิ่งต่อไป กองทุนเก็งกำไรจะไม่สนใจเข้ามาลงทุน จึงมีโอกาสที่จะเห็นเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น หรืออาจมีการปั่นราคาเพื่อให้เกิดความน่าสนใจในการเข้าลงทุน

ส่วนทิศทางราคาทองคำในประเทศ มีโอกาสเห็นการทำสถิติราคาใหม่ หรือทำนิวไฮ โดยราคาอาจปรับขึ้นไปถึงบาทละ 27,000 บาท ได้ในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์การซื้อขายทองคำในปี 2555 ราคาทองคำค่อนข้างนิ่ง มีการเก็งกำไรน้อย ทำให้ยอดขายของร้านทองลดลงร้อยละ 20 - 25 โดยสัดส่วนของประชาชน ยังคงขายมากกว่าซื้อทองคำ

 

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000158397

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปตท.สำรองน้ำมันรับปีใหม่ หวนกลับมาขายเบนซิน95 กดราคาลง 2บ./ลิตร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 ธันวาคม 2555 17:05 น.

 

ปตท.สำรองน้ำมันพร้อมรับมือช่วงปีใหม่ คาดความต้องการใข้น้ำมันสูงกว่าปีก่อน 20-30% เผยจะกลับมาขายเบนซิน 95 และอี 20 เพิ่มขึ้น หลังเลิกขายเบนซิน 91 กดดันราคาเบนซิน 95 ลง 2 บาท/ลิตรภายใน 2 เดือน

 

นายสรัญ รังคศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความต้องการใช้น้ำมันในช่วงปีนี้ใหม่นี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าปีก่อน 20-30% เนื่องจากเศรษฐกิจดีขึ้นจากปลายปีที่แล้วที่มีปัญหาน้ำท่วม ดังนั้นปตท.เตรียมความพร้อมสำรองน้ำมันเต็มที่เพื่อไม่ให้มีปัญหาปั๊มไม่มีน้ำมัน

 

สำหรับราคาน้ำมันขายปลีกในช่วงปีใหม่นี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งการปรับขึ้นหรือลงของราคา แม้ว่าตลาดโลกปรับตัวลง เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันดีเซลต่ำกว่า 1 บาท/ลิตร ขณะที่เบนซินมีความตลาดอยู่ที่ 1.40 บาท/ลิตร โดยค่าการตลาดน้ำมันปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.30 บาท/ลิตร ต่ำกว่าค่าการตลาดที่ควรจะเป็น สืบเนื่องจากนโยบายรัฐตรึงราคาขายดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

 

ในปีหน้า ปตท.จะกลับมาขายปลีกเบนซิน 95 และอี 20 มาขายในปั๊มปตท.หลังจากรัฐมีนโยบายยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 91 ทำให้ราคาขายปลีกเบนซิน 95 ปรับตัวลดลง 2 บาท/ลิตรภายในช่วง 2 เดือนแรกปี 56

 

http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9550000157861

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำ....ปีมะเส็งยังขึ้นต่อ ภาพรวมผันผวน-เงินเฟ้อหนุนราคา

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 ธันวาคม 2555 08:45 น.

 

ทิศทางทองคำปีมะเส็ง คนในวงการเชื่อมีความผันผวนสูงแต่อยู่ในช่วงขาขึ้น ย้ำการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐฯ เป็นตัวชี้วัดต่อแนวโน้มของราคาช่วงไตรมาส 1 ส่วนระยะยาวเชื่อปัจจัยจากฟากเอเชียจะหนุนราคาทองปรับตัวเพิ่ม โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่ทั่วโลกหนีไม่พ้น คาดทั้งปีลุ้นสูงสุดเท่าเป้าหมายเดิม 1,800 เหรียญ/ออนซ์

 

นายสัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก จำกัด กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำในปี 2556 ว่า นักลงทุนควรพิจารณาในเรื่องปัจจัยที่มีผลกระทบกับราคาทองคำเป็นลำดับแรก นั่นคือ สถานการณ์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะเป็นเช่นไร ปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) จะเป็นเช่นไร จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า ถ้าเศรษบกิจของสหรัฐฯ ชะงักจากปัญหาดังกล่าว จะส่งผลให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่น่าสนใจอีกครั้ง

 

ส่วนในช่วงปลายปี 2555 ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงนั้น ประเมินว่า เป็นการโยกย้ายสินทรัพย์การลงทุนจากทองคำไปเป็นหุ้นเพื่อทำกำไรระยะสั้นมากกว่า ไม่ใช่เกิดจากความน่ากังวลว่าราคาทองคำมาสู่แนวโน้มปรับตัวลงอย่างถาวร เพราะหากดูปริมาณการเข้าลงทุนทองคำของกองทุนขนาดใหญ่อย่าง SPDR และธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ ยังพบว่า มีความต้องการเข้าสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง

 

“ปี 2555 ทั้งปีราคาทองคำวิ่งอยู่ที่ 1,520-1,800 เหรียญ/ออนซ์ หรือประมาณ 22,400-26,000 บาท ภาพรวมเรายังเชื่อว่าราคาทองยังมีโอกาสปรับตัวขึ้น แต่ถ้าหากหลุดแนวรับที่ 22,500 บาท เราก็เชื่อว่านั่นจะเป็นขาลงของทองคำอย่างแท้จริง”

 

สำหรับราคาเป้าหมายของทองคำในปี 2556 นายสัญญา กล่าวว่า ยังคงเป็นสถิติเดิมที่ราคาทองคำเคยปรับตัวขึ้นไปถึง นั่นคือ 1,800 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งปัจจัยที่จะช่วยผลักดันให้ราคาทองคำไปถึงจุดดังกล่าวได้ มากจากปริมาณเงินในระบบ เพราะที่ผ่านมา มาตรการอัดฉีดเม็ดเงินของสหรัฐฯ ในรอบนี้ เน้นเพิ่มสภาพคล่อง และไม่ต้องการให้เงินปัญหาเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นแรง จึงใช้วิธีแบบทยอยอัดฉีด อย่างไรก็ตาม การการอัดฉีดเม็ดเข้าย่อมทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว และย่อมมีผลต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น

 

หน้าผาการคลังมีผลต่อทองคำQ1

 

นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำว่า ภาพรวมในปีที่ผ่านมา ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวรุนแรงเหมือนเช่นปีก่อนๆ โดยการปรับตัวขึ้นที่ชัดเจนในรอบปี 2555 นั้น เกิดขึ้นในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีการใช้มาตรการ QE3 ซึ่งทำให้ราคาในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 26,000 บาท แต่ก็เป็นการปรับขึ้นมาไม่มากเท่าใด เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลต่อสถานการณ์วิกฤตหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยูโรโซน ที่เริ่มจากกรีซ และเริ่มส่อเค้าลุกลามไปถึงประเทศอื่นๆ ได้แก่ สเปน และอิตาลี อีกทั้งที่ผ่านมา ราคาทองคำก็ถูกกดดันจากการเทขายทำกำไรของบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ด้วย

 

ทั้งนี้ ในปี 2556 ประเมินว่า ราคาทองคำยังไม่อยู่ในทิศทางขาลง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน และมีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของประเทศขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐฯ กลุ่มประเทศในทวีปยุโรป ปัญหาเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และจีน

 

“ไตรมาส 1 นักลงทุนต้องติดตามปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐฯ ว่าจะออกมาในทิศทางใด ประธานาธิบดีโอบามาจะจัดการกับเรื่องนี้ได้หรือเปล่า เพราะจะมีผลต่อตลาดหุ้น และทองคำ รวมถึงมาตรการขึ้นภาษีคนรวย และการตัดงบประมาณภาครัฐ ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวของราคาอยู่ที่ประมาณ 1,600-1,800 เหรียญ/ออนซ์”

 

สำหรับภาพรวมการซื้อขายทองคำในประเทศ นายพิชญา กล่าวว่า แม้ราคาทองคำไม่อยู่ในระดับที่สูงมากนัก แต่ปริมาณการซื้อขายทองคำก็ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เช่น ช่วงปลายปีเป็นช่วงที่หลายคนนิยมจัดงานแต่งงาน แต่ความต้องการในทองรูปพรรณกลับไม่ได้มีเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับปริมาณการซื้อทองคำแท่ง แม้ราคาจะอยู่ในช่วงทรงตัวก็ยังไม่พบปริมาณการซื้อสะสม หรือเพื่อลงทุนในจำนวนที่มาก

ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมทองคำในประเทศ ยังต้องเผชิญหน้ากับพวกมิจฉาชีพ นั่นคือ ทองคำปลอม ที่มีกลวิธีโกงในรูปแบบต่างๆ เช่น นำทองคำน้ำหนักมาตรฐานมาผสมปนกับทองคำปลอมในบางส่วนเพื่อตบตาร้านค้าทองคำ ซึ่งเท่าที่จับกุม และดำเนินคดีพบว่า ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากช่างทำทองที่ทุจริตต่อวิชาชีพของตนเองนำทองปลอมมาต่อตัวเรือนร่วมกับทองคำมาตรฐานเพื่อใช้ตบตา

ส่วนการเปิดเสรีทางการค้าอย่างเต็มตัวในอนาคต ประเมินว่า ผู้ประกอบการไทยจะมีคู่แข่งขันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากทางมาเลเซีย และอินโดนีเซียที่ใช้เครื่องจักรในการผลิต ทำให้มีปริมาณทองคำในจำนวนที่มาก และราคาที่ต่ำกว่า แม้ไทยยังได้เปรียบในน้ำหนักมาตรฐาน แต่ภาครัฐควรให้ความสำคัญต่อเรื่องภาษีในการจัดเก็บเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจของตนเองได้

 

ปัจจัยฝั่งเอเชียเป็นผลบวกต่อราคาทอง

 

ด้านฝ่ายวิจัย บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด (AFC Research) ได้จัดทำบทวิเคราะห์ประเมินภาพรวมการลงทุนทองคำ ปี 2556 ว่า 1.เอเชียโดยรวมน่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ซึ่งจากภาพเศรษฐกิจ และการเงินที่ย่ำแย่ของญี่ปุ่น ทำให้มีการคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงผ่อนคลายของเอเชีย ที่มีแนวโน้มที่จะนำมาซึ่งปริมาณเม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบ อันเป็นผลบวกต่อการคาดหวังราคาทองคำได้อย่างดี และล่าสุด การประกาศรายงานประชุมของธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่นที่ได้คงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดที่ไม่เกิน 0.10% และได้ขยายวงเงินอัดฉีด หรือผ่อนคลายเชิงปริมาณจาก 66 ล้านล้านเยนเป็น 76 ล้านล้านเยน และน่าจะมีแนวโน้มเช่นนี้ต่อไปในปี 2556 ขณะที่ ด้านจีน เศรษฐกิจโดยรวมได้เริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ ปัจจัยทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงผู้นำในประเทศที่สำคัญในเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ จีนยุคใหม่ ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า น่าจะส่งเสริมและสนับสนุนให้บรรยากาศการลงทุนโดยรวมดีขึ้น โดยเฉพาะผลบวกต่อสกุลเงินในเอเชีย และทองคำในปี 2556

 

2.ยุโรปยังน่าเป็นห่วง และกดดันราคาทองคำ โดยประเทศในกลุ่มยุโรปโดยรวม มีแนวโน้มที่จะสร้างความกดดันต่อราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยเรื่องของแนวทางการจัดการหนี้สินภาคยุโรปในระดับมหภาค เพราะจากภาพของการประชุม Eurogroup หรือ Ecofin ที่ผ่านมาในรอบปี 2555 โดยรวมได้สะท้อนภาพของการพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งได้ปรากฏออกมาในแผนงานในการช่วยเหลือกรีซ สเปน และอีกหลายประเทศ ประกอบกับแรงกดดันจากการต่อต้านนโยบายการเงินแบบรัดกุมของประเทศกลุ่มยูโร ได้สร้างความผันผวนเชิงลบต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม และราคาทองคำ ทำให้ฝ่ายวิจัย คาดว่า ปัญหาหนี้สาธารณะ สถานการณ์การเมืองในกลุ่มยุโรปโดยรวมยังคงมีอยู่ และดูเหมือนจะค่อยๆ คลายปัญหาออกมาเรื่อยๆ จนถึงปลายปี 2555 และปี 2556

 

3.ผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 กับบทบาทที่ท้าท้าย จากการที่ นายโอบามา ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ที่ผ่านมา ได้ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหลายๆ โครงการ และมาตรการที่ดำเนินการอยู่ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ก็น่าจะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี จากผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ ล่าสุด ที่ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดไม่เกินร้อยละ 0.25 และการสร้างความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการเข้าซื้อพันธบัตรในวงเงินถึง 45,000 ล้านเหรียญต่อเดือนจนกว่าระดับของอัตราการว่างงานนอกภาคการเกษตรจะลดลงเหลือที่ระดับไม่เกินร้อยละ 6.5 และอัตราเงินเฟ้อไม่เกินร้อยละ 2.5 ได้สร้างความผันผวนเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุน แต่อาจเป็นปัจจัยเชิงลบต่อราคาทองคำได้จากการที่ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามความมั่นใจในเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ และนาย Boehner โดยเนื้อหาหลักๆ ได้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มภาษีผู้มีรายได้ $1 ล้านต่อปี แทนที่ข้อเสนอของนายโอบามาที่ $4 แสนต่อปี เพื่อเป็นการกดดันนายโอบามาให้มีการลดค่าใช้จ่ายมากขึ้น นับเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ

 

ฝ่ายวิจัยมองว่า ต้องจับตาดูถึงสัญญาณแห่งการฟื้นตัว โดยสังเกตจากตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัว เพราะมองว่า จากความต่อเนื่องของการพยายามหามาตรการต่างๆ มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มขึ้นมีแนวโน้มจะทำให้สหรัฐฯ เริ่มกลับมาฟื้นตัว และอาจส่งผลลบต่อราคาทองคำได้

 

http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9550000157832

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เปิดยื่นขอคืนภาษีรถคันแรกพรุ่งนี้วันสุดท้าย

ข่าวเศรษฐกิจ วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2555 13:52น.

 

อธิบดีกรมสรรพสามิต เผย ขอคืนภาษีรถคันแรก พรุ่งนี้วันสุดท้าย ล่าสุด ยื่นแล้ว 1.23 ล้านคัน รถส่วนบุคคลสูงสุด 7.27 แสนคัน กระบะ 2.54 แสนคัน วงเงิน 8.98 หมื่นล.

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ว่า ตั้งแต่เปิดโครงการ จนถึงวันที่ 30 ธ.ค. ปี 2555 มียอดผู้ขอใช้สิทธิ์รถคันแรก ประมาณ 1,238,956 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 727,497 คัน รถกระบะ 254,949 คัน และรถกระบะ ดับเบิลแคป 254,339 คัน นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของที่ไม่ระบุประเภทอีก 2,171 คัน รวมเป็นวงเงินในการคืนภาษี กว่า 89,850 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่สนใจ ยังสามารถยื่นขอใช้สิทธิ์คืนภาษีรถยนต์คันแรกได้ถึงวันพรุ่งนี้ ในส่วนของกรมสรรพสามิต ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ไปจนถึง เวลา 16.30 น. ขณะที่ ผู้ใช้ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต สามารถยื่นได้ถึงเวลา 24.00 น.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮีย เอาข่าวคุณจิตติมาให้แทงสวนเหรอ หุหุ. สยองเล็กน้อย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พรุ่งนี้จะลองทำดู ได้ผลอย่างไงแล้วจะมาแจ้งจ๊า ขอบคุณป๋ามากๆ จุ๊ป ๆฮเรียนแบบป้าข้างบ้านบ้าง

ถูกแก้ไข โดย เกี้ยมอี๋

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำแท่ง รับซื้อถัวเฉลี่ยต้นและปลายปี 2555

ม.ค.55. 24,630.43

ธ.ค. 55 24418.75 ราคาปิดปลายปี เสาร์ 29 ธ.ค. 24,000

ใครซื้อทองต้นปีนี้แล้วเก็บยาวถึงปลายปีไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย

หวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่น้องทองจะกลับตัวกลับใจทำตัวให้มีคุณค่ามากขึ้นกว่าปีนี้นะครับ

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจีนเดือนธันวาคม 55 ปรับตัวดีขึ้น เพิ่มขึ้นในรอบ 19 เดือน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮีย เอาข่าวคุณจิตติมาให้แทงสวนเหรอ หุหุ. สยองเล็กน้อย

สวัสดีคุณ Aiya สำหรับวันที่ 365 ของปี 2012 : ในสถานการณ์ปกติ คนเราค้าขายอะไรอยู่ ก็ต้องบอกเสมอว่า ของที่ตัวเองขาย ดำรงชีวิตอยู่ ต้องดูดี มีสกุลเสมอ เพราะมีความต้องการอยากขาย แต่เมื่อไหร่ สินค้าตัวนั้น ถูกขายออกไปแล้ว สินค้าตัวนั้นๆ เริ่มดูไม่ดีจากคนขายแล้ว อนาคตย่ำแย่ มูลค่าหายไปเยอะ หุหุ ผมพูดถึงทองที่เลี่ยมพระ นะครับ ส่วนทองแท่งตัวเป็นๆ ผมเชื่ออาแปะที่เขาพูด แต่ส่วนราคาจะขึ้นได้ถึงไหน จากตอนนี้ จนถึงตรุษจีนปี 56 ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 56 แล้วหลังจากนั้น ผมว่า ผันผวนแบบเคยๆๆ ขึ้นวันหนึ่ง 2 เหรียญ 5 เหรียญ 4 เหรียญ แต่เวลามันหล่นที 50 เหรียญ อุตสาห์สะสมตัวบวกมาตั้ง 10 วัน แมร่งวันเดียว หายเรียบ จึงควรสายตาสั้น และซอยเข้าซื้อมากกว่าที่เป็น ว่าแต่ เพี้ยง ! ขอให้หลุดเนินให้ได้ก่อนนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“Wait and see” is the best strategy today

Sun, Dec 30 2012, 21:16 GMT | FXWW

 

By: Sean Lee

ยุทธวิธีที่ดีที่สุดในวันนี้ " รอ และ ฟัง " ขาใหญ่จะตัดสินใจจะทำอะไรในวันนี้ บรรยากาศยังเงียบสงัด ขาใหญ่จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะปั่นราคาขึ้น หรือ ปั่นราคาลง ใครๆ ก็คงรู้ดีว่า ขาใหญ่เหบ่านี้ มีเส้นสายภายในอย่างดีต่อวอชืงตัน และตอนนี้ พวกเขาพยายามสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีข่าวที่ดีออกมา เพื่อให้ผิดทางหรือเปล่า ยังไง ควรรอและดูความเคลื่อนไหวจากกราฟ

 

Running large positions on a day like today is probably not a great idea although if large hedge funds already have them built up, they have little choice but to hang on and hope. These big funds normally have excellent contacts into Washington and the fact that they seem happy to sit on their positions (short JPY) does suggest that they are confident of a positive resolution at the last minute.

 

For the rest of us mere mortals, it’s a matter of waiting to see if the market gives us some opportunities. I’d suggest that we should wait and see how the market reacts to the first of the headlines once they start hitting the screen, and then decide on our strategy from there.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Senate Majority Leader Harry Reid said his chamber would meet again at 11 a.m. Eastern time on Monday. เลื่อนออกไปอีกแล้ว 5 ทุ่มคืนนี้ นับถอยหลัง เหลืออีก 13 ชั่วโมงจะปีใหม่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฮิลลารี่ คลินตันเข้ารพ.รอบใหม่แพทย์พบเลือดคั่งในสมอง

 

 

มาร์กาเร็ต เบรนแนน ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ CBS ได้ทวี้ตข้อความว่า โฆษกของนางคลินตัน ได้ยืนยันว่า อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ได้ถูกนำตัวส่งไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนิวยอร์ก-เพรสไบเทอเรียน ในนิวยอร์ค และทางโรงพยาบาลจะสังเกตการณ์อาการเธอต่อไปอีก 48 ชั่วโมง

 

ก่อนหน้านี้ นายจอช โรกิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายต่างประเทศ เปิดเผยว่า นางคลินตันมีกำหนดจะกลับไปทำงานในสัปดาห์นี้ หลังจากพักฟื้นจากอาการไวรัสลงกระเพาะ และการล้มศีรษะกระแทกพื้นนาน 3 สัปดาห์

 

ฟิลิป ไรน์ส โฆษกของนางคลินตัน เปิดเผยว่า แพทย์ได้ตรวจพบเมื่อวันอาทิตย์ว่า นางคลินตันมีเลือดคั่ง และได้ให้ยาสลายลิ่มเลือดในการรักษา และจะประเมินอาการของนางคลินตัน และอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจากการกระทบกระเทือนของเธอคราวที่แล้วอีกครั้ง เพื่อการรักษาต่อไป ข่าวสุขภาพของนางคลินตัน ถูกประกาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม โดยเป็นการแถลงเหตุผลอย่างเป็นทางการ ที่ทำให้เธอต้าองยกเลิกกำหนดการเดินทางไปเยือนตะวันออกกลาง และต่อมาในวันที่ 15 ธันวาคม คณะแพทย์ที่ดูแลอาการป่วยของนางคลินตัน ได้แถลงว่า เธอได้รับความกระทบกระเทือนจากการเป็นลม ล้มศีรษะกระแทกพื้นเพราะอาการป่วยไวรัสลงกระเพาะ

 

พวกหัวอนุรักษ์นิยมและบล็อกเกอร์ ได้กล่าวหานางคลินตันว่า ใช้อาการป่วยเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรสส์ เกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีสถานกงสุลสหรัฐ ที่เมืองเบงกาซี ของลิเบีย เมื่อวันที่ 11 กันยายน แต่นางคลินตันเคยบอกไว้ว่า เธอจะเข้าให้ปากคำต่อทั้งคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เมื่อเธอกลับไปทำงาน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้ค้าราชประสงค์คาดคนแห่เคาท์ดาวน์5แสน

ข่าวเศรษฐกิจ ปีใหม่2556 วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2555 9:43น.

 

ผู้ค้าราชประสงค์ คาด คนแห่เคาท์ดาวน์ 5 แสน มั่นใจปลอดภัย ตรวจเข้มทุกจุด ใช้เจ้าหน้าที่กว่า 4 พันนาย ดูแล พร้อมติดกล้อง CCTV 17 ตัว เปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมง แนะ ปชช. ใช้รถไฟฟ้าแทนรถส่วนตัว

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) เปิดเผยถึง ความพร้อมการจัดงาน "แบงคอก เคาท์ดาวน์ 2013" ในย่านราชประสงค์ ว่า ในขณะนี้ มีความพร้อม ทั้งในเรื่องของสถานที่ และการดูแลความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เดินทางมาร่วมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่คาดว่าจะมีมากกว่าปกติ โดยคาดว่า มีประมาณ 400,000-500,000 คน ติดตั้งกล้อง CCTV ที่มีประสิทธิภาพ จำนวน 17 ตัว เปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 2,000 นาย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประมาณ 1,600 คน รวมถึง มีเจ้าหน้าที่เทศกิจของกรุงเทพมหานคร เข้าประจำจุดต่างๆ ในบริเวณงาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาร่วมงาน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวอาคาร เพื่อตรวจสอบรถทุกคันที่เข้ามาจอดตามอาคาร และเมื่อเช้า ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบที่จัดงาน รวมถึง ตู้โทรศัพท์ ถังขยะ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ นายชาย กล่าวด้วยว่า ส่วนของการจัดงาน เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ฉะนั้น ช่วงเวลาดังกล่าว จะมีปริมาณประชาชนมาเป็นจำนวนมาก ขอแนะนำให้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส จะสะดวกกว่านำรถส่วนตัวมา ซึ่ง บีทีเอส ได้ขยายเวลาบริการรับส่งออกไปถึง 03.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2556

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...