ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ป๋าค่ะอย่างผ่านหน้าผาไปได้ ขาใหญ่จะขายทองหันไปลงหุ้นกันหรือไม่ค่ะ ขอความรู้หน่อยค่ะ ขอบพระคุณป๋าค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีปีใหม่ป๋า พี่ๆน้องๆ ที่น่ารักทุกๆคนในห้องนี้ครับ

 

96a1e_new_year_uk_2013_New+Year+2013+Wallpapers+Best+Collection+Of+2013+Wallpapers+HD.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีปีใหม่ค่ะ เฮียนายห้าง คุณป๋าขายของ คุณarthas คุณเกี้ยมอี๋ คุณอัยยา คุณPasaya กัปตันและทุกคน

ขอให้มีความสุขกาย สบายใจ แข็งแรง และโชคดีนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงที่ผ่านมา มาอัดอั้นตันใจจาก วันสิ้นโลก / วันตรืสต์มาส / วันปีใหม่ สุดท้ายคือ การผ่าน " หน้าผาการคลัง " ซึ่งเมื่อวานนี้ สื่อฯ ออกคำแถลงจาก ทำเนียบขาว ต้องย้ำว่า ทำเนียบขาว เพราะนั้นคือฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องเอยอะไรออกมาในมุมมองที่ดี ที่เป็นบวก ตามโพยฯ ที่เขาอยากให้เกิด ซึ่งข่าวล่าสุดของ CNBC ก็ยังระบุความล้มเหลว Fail ในเรื่องตัดรายจ่ายงบประมาณ Cut Spending

 

ในสภาพความจริงนั้นน่าจะ เป็นการประนีประนอม ในส่วนของภาษีที่จะเก็บจากอเมริกันชนที่มีรายได้ต่อปี เท่าไหร่ เสียภาษีอัตราเท่าไหร่ เพียงอย่างเดียว เช้านี้ ฝั่งเอเชียก็ยังคงยึกยัก รอคอยการตีความหมายจากขาใหญ่ ว่าจะซืี้อหรือขายทองคำ แต่อย่าลืมนะครับว่า สัญญานฯ รหัส 5,35,9 Signal ส่ออาการเส้น 2 เส้นตัดกันแล้ว บ่งบอกว่า จะเกิดสิ่งดีๆ ในราคาทองคำ เมื่อไหร่ เส้นรหัส 12,26,9 ตัดกัน ก็คงค้องระวังตัวที่ต้องเผ่น เพราะทุกคนทั่วโลก เริ่มที่จะเห็นสัญญานฯนั้น ขาใหญ่ก็อาจฉลองปีใหม่ให้ " พ่อ " เสียววาบแต่ต้นปีเลยนะ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อิหร่านกล่าวโจมตีประธานาธิบดีสหรัฐ ที่บังคับใช้กฎหมายต่อต้านการมีอิทธิพลเหนือลาตินอเมริกาของอิหร่าน

วันที่ข่าว : 1 มกราคม 2556

อิหร่านกล่าวโจมตีประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐวันนี้ ที่บังคับใช้กฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อต้านการมีอิทธิพลเหนือลาตินอเมริกาของอิหร่าน และว่า การกระทำของสหรัฐถือเป็นการแทรกแซงในภูมิภาค

นายโฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นการกระทำที่แทรกแซงกิจการภายในลาตินอเมริกาอย่างชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สหรัฐไม่คุ้นเคยกับความสัมพันธ์โลกแบบใหม่ พร้อมกล่าวว่า สหรัฐยังคงอยู่ในยุคสงครามเย็น และมองว่าลาตินอเมริกาเป็นสนามหลังบ้าน ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโอบามาได้ประกาศใช้กฎหมายภายใต้การทูตและยุทธศาสตร์ทางการเมืองใหม่ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อต้านการมีอิทธิพลเหนือลาตินอเมริกาของอิหร่าน

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข. พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข.

Rewriter : พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข. พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาวฮ่องกงหลายหมื่นคนเดินขบวนต่อต้านผู้นำ

วันที่ข่าว : 1 มกราคม 2556

ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมบนถนนหลายแห่งในฮ่องกงวันนี้ เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำลาออก และต้องการให้มีประชาธิปไตยที่แท้จริงเกิดขึ้น หลังจาก 15 ปี ที่กลับสู่การปกครองของจีน

ผู้จัดการประท้วงกล่าวว่า คาดว่ามีประชาชนมากถึง 50,000 คน ร่วมในการเดินขบวนวันปีใหม่ เพื่อต่อต้านนายเหลียง ชุน-หยิง ผู้นำฮ่องกง ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลก็จัดการชุมนุมเช่นกัน แต่เป็นการชุมนุมที่เล็กกว่า เพื่อแสดงความสนับสนุนผู้บริหารระดับสูงที่จีนให้การสนับสนุน ทั้งนี้ นับตั้งแต่นายเหลียงขึ้นสู่อำนาจ ความนิยมในตัวเขาลดน้อยลง นอกจากนี้ เขายังเผชิญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เกี่ยวกับโครงสร้างที่ผิดกฎหมายของบ้านหรูของเขา ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองในฮ่องกง

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข. พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข.

Rewriter : พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข. พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐสภาสหรัฐอนุมัติข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤต “หน้าผาการคลัง”

วันที่ข่าว : 1 มกราคม 2556

ทำเนียบขาวและสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลีกันไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มภาษีและการตัดลดค่าใช้จ่ายที่จะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ หลังปีใหม่นี้ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐต้องเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

ภายหลังความพยายามฝ่าฟันวิกฤตดังกล่าวหลายเดือน ซึ่งมีทั้งการถกปัญหาเกี่ยวกับทางออกที่น่าจะเป็นไปได้หลายสัปดาห์และการเจรจาแบบลับ สมาชิกรัฐสภาสหรัฐก็ได้ลงมติอย่างท่วมท้นช่วงเช้าวันนี้ ด้วยคะแนน 89 ต่อ 8 เสียง เพื่อผ่านร่างกฎหมายที่จะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงภาวะ “หน้าผาการคลัง” หรือภาวะที่ยากลำบากทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะต้องปรับเพิ่มภาษีและตัดลดค่าใช้จ่ายโดยอัตโนมัติ ได้ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐก็จะลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวในวันปีใหม่นี้ และหากรัฐสภาเห็นชอบ รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็จะปรับเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีครัวเรือนที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 450,000 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ รัฐบาลก็จะตัดลดงบประมาณลง 109,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนาน 2 เดือน ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า ยังมีงานอีกมากที่จะต้องตัดลดหนี้สิน และเขาก็เต็มใจที่จะทำ

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข. พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข.

Rewriter : พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข. พรทิพย์ แสงมหาชัย / สนข.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

dficg8ggibbfg95ifhced.jpg

'สุรพงษ์'เล็งชี้แจงคดี'พระวิหาร'ต่อประชาชน หวั่นศาลตัดสินไม่ถูกใจคนไม่ยอมรับ เตรียมโยนรัฐบาลที่แล้วต้นเหตุทำ'กัมพูชา'นำเรื่องขึ้นสู่ศาลโลก

1 ม.ค.56 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของทีมไทยต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารว่า เรื่องดังกล่าวต้องแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ1.การปฎิบัติตามคำสั่งเรื่องมาตรการชั่วคราวของศาลโลก ซึ่งคณะตัวแทนคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา(เจดับเบิลยูจี) ได้หารือกันครั้งที่ 3 ไปเมื่อวันที่ 17-19 ธ.ค.ที่ผ่านมา และได้ข้อสรุปคือ ให้สองฝ่ายพิสูจน์ทราบจุดเอ-บี-ซี-ดี ของพื้นที่เขตปลอดทหารชั่วคราว และร่วมกันเตรียมแผนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดภายในไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2556 โดยจะเริ่มเก็บกู้ทุ่นระเบิดในไตรมาสแรกของปี 2556

2. เรื่องการยื่นขอให้ศาลโลกตีความคำพิพากษา ศาลกำหนดว่า จะนั่งบัลลังก์ฟังการชี้แจงด้วยวาจาครั้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 15-19 เม.ย.นี้ โดยคาดว่าหลังจากนั้นจะใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะมีคำพิพากษา ขณะนี้ได้หารือทีมที่ปรึกษากฎหมายต่างประเทศและกลั่นกรองท่าทีเบื้องต้นที่ได้จากการหารือเพื่อเสนอเป็นท่าทีให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนที่จะไปชี้แจงต่อศาล นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ตนจะไปประชุมกับทีมทนาย โดยนายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะกำกับดูแลเรื่องกฎหมาย และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายต่างๆ อาทิ คณะกรรมการกฤษฎีกา ไปร่วมพูดคุยกับทีมทนายเพื่อรับฟังแนวทางชี้แจงในศาลครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ดี ตนคงไม่เดินทางไปร่วมในการชี้แจงเดือนเมษายนนี้

3. กระทรวงการต่างประเทศจะเร่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชนคนไทยเกี่ยวกับเรื่องปราสาทพระวิหารอย่างต่อเนื่องในปี 2556 โดยนอกจากการทำสารคดีและรายการต่างๆ แล้ว ยังได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า จะให้ผู้แทนกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงการต่างประเทศไปร่วมอธิบายประเด็นปราสาทพระวิหารให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ เพื่อจะได้นำไปถ่ายทอดต่อไป พร้อมกับทำเอกสารสรุปเพื่อแจกจ่ายประชาชนด้วย

"สิ่งที่เราเกรงกลัวมากที่สุดคือ หากศาลตัดสินไม่ถูกใจคนบางกลุ่มแล้วเกิดการชักจูงคนไปในทางที่ผิดจะส่งผลเสียอย่างยิ่ง เพราะคำตัดสินของศาลโลกทุกประเทศต้องยอมรับ การขัดขืนจะทำให้ไทยอยู่ในสังคมโลกลำบาก ดังนั้นต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนเกี่ยวกับความเป็นมาว่ารัฐบาลที่แล้วทำอะไรจึงเป็นต้นเหตุให้กัมพูชาไปฟ้องศาลโลก" นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าหนักใจในคดีดังกล่าว แต่คิดว่า รัฐบาลก็ทำดีที่สุดแล้ว องค์ประกอบในการสู้คดีใช้ทีมงานชุดเดิมตลอดมีการเปลี่ยนแปลงแค่ตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น มองตั้งแต่ตอนมารับตำแหน่งแล้วว่า คดีนี้มีแต่แพ้กับเสมอตัวคือ ถ้าแพ้ก็เสีย แต่ถ้าอยู่แบบเดิมคือปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา ส่วนพื้นที่รอบปราสาทเป็นแบบเดียวกับปี 2505 ก็คือเสมอตัวเท่านั้น แต่คนที่อยู่ตามแนวชายแดนทั้งไทยและกัมพูชาต้องอยู่กันอย่างนี้ไปชั่วลูกชั่วหลานยิ่งในอนาคตที่เราก้าวสู่ประชาคมอาเซียนเหมือนประชาคมยุโรปเรื่องเขตแดนแทบจะไม่มีความหมาย และไม่อยากเห็นการปะทะตามแนวชายแดนเกิดขึ้น เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านกันควรอยู่ร่วมกันด้วยสันติสุข ไม่อยากให้มีการแบ่งแยก อยากฝากไว้ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรต้องยอมรับแต่หนักใจที่คนส่วนหนึ่งจะไม่เข้าใจเท่านั้นเอง

http://www.komchadluek.net/detail/20130101/148452/สุรพงษ์เล็งชี้แจงคดีพระวิหารต่อปชช..html#.UON-wnwaySM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จาก 2 ข่าวข้างบน เขาก็บอกว่า ในที่สุด ขีดเส้นตายวันที่ 1 มกราคม ก็มาถึง และก็จากไป แต่ยังดันบอกอีกว่า วันสุดท้ายคือวันพฤหัสบดี ใหม่อีกแล้ว

 

และในวันพุธ สภาคองเกรสฯ สภาผู้แทนราษฎร ที่เสียงส่วนใหญ่คือ ฝ่ายรีพลับริกัน หรือ ฝ่ายค้าน ที่จะทำการลงมติฯ ผ่านหรือไม่ผ่าน กฎหมาย โดยที่วิปรัฐบาลกำลังเจรจาในการขอเพิ่มการตัดลดงบประมาณ ในการลงมติครั้งนี้ด้วย

 

มาถึงตอนนี้สิ่งที่ผู้คนเฝ้าจับตามองกันก็คือ จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะหว่านล้อมชักจูงพวกพันธมิตร ส.ส.อนุรักษนิยมของเขาให้เห็นดีเห็นงามกับข้อตกลงคราวนี้ได้หรือไม่ โดยที่แน่นอนทีเดียวว่า พวก ส.ส.ของเดโมแครตเองก็จะต้องร่วมยกมือให้ความสนับสนุนด้วย

 

เป็นเวลาราว 20 ปีมาแล้ว ที่พวกรีพับลิกันในรัฐสภาพยายามต่อสู้คัดค้านความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะออกกฏหมายที่เป็นการขึ้นภาษี ดังนั้น การที่สภาล่างจะผ่านร่างข้อตกลงประนีประนอมนี้ด้วยหรือไม่ จึงยังไม่เป็นที่แน่นอน

 

ตัวโบห์เนอร์เอง ออกคำแถลงสั้นๆ ฉบับหนึ่งกล่าวว่า สภาล่างจะพิจารณาร่างกฎหมายนี้ ถ้าหากผ่านวุฒิสภามาแล้ว ทว่า “การตัดสินใจในเรื่องที่ว่าสภาผู้แทนราษฎรจะยอมรับหรือจะทำการแก้ไขแปรญัติติร่างกฎหมายนี้ในทันที จะยังคงไม่มีการดำเนินการลงไป จนกว่าบรรดาสมาชิกสภา และประชาชนอเมริกัน จะสามารถพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้แล้ว”

 

ถึงแม้มาตรการลดภาษีให้ชาวอเมริกันมีกำหนดหมดอายุลงตอนสิ้นปี 2012 และการบังคับตัดลดงบรายจ่ายโดยอัตโนมัติ ก็เริ่มบังคับใช้ตอนเริ่มปี 2013 แต่เนื่องจากวันที่ 1 มกราคมเป็นวันหยุดราชการ ดังนั้น มาตรการเหล่านี้จึงมีผลบังคับในทางพฤตินัยในวันพุธ(2) ทำให้ยังมีเวลาอีก 1 วันเพื่อให้สภาทั้ง 2 ผ่านร่างกฎหมายประนีประนอมกันให้สำเร็จ และโอบามาลงนามประกาศใช้

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปฏิวัติหัวนักเรียนไทย อ้างกระทบสิทธิมนุษยชน

 

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 1 มกราคม 2556 19:55 น.

 

หลังจากมีการยุติการใช้ไม้เรียวในการลงโทษเด็กนักเรียนลงก็มีการเรียกร้องสิทธิต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุดได้มีการเรียกร้องเรื่องทรงผมนักเรียนที่ผู้ชายต้องสั้นเกรียน ผู้หญิงต้องสั้นเท่าติ่งหู ว่าเรื่องนี้มีการลิดรอนสิทธิมนุษยชนมากเกินไป ทำเอานักเรียนที่รักสวยรักงามต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่จะได้ไว้ผมยาวแบบไม่ต้องแอบอาจารย์ฝ่ายปกครอง

 

นักเรียนผู้ปกครองเรียกร้องสิทธิมนุษยชน

ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับการร้องเรียนจากนักเรียนและผู้ปกครอง ว่าการกำหนดทรงผมของนักเรียน คือนักเรียนชายต้องตัดผมสั้นเกรียน และนักเรียนหญิงต้องตัดผมสั้นเห็นติ่งหู กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยบางโรงเรียนได้อนุโลมให้นักเรียนที่เรียนนาฏศิลป์สามารถไว้ผมยาวได้ จึงเป็นการเลือกปฏิบัติ กรรมการสิทธิมนุษยชนได้พิจารณาและเห็นว่าไม่เป็นการจำกัดสิทธิ เพราะมีกฎระเบียบที่โรงเรียนสามารถอนุโลมได้จึงส่งเรื่องให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบ ซึ่งทาง ครม. ได้ส่งเรื่องต่อให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเรื่องดังกล่าว

 

ศิริพร กิจเกื้อกูล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับแบบทรงผมของนักเรียน นักศึกษา อธิบายแนวความคิดนี้ว่ากระทรวงศึกษากำลังรวบรวมกฎระเบียบเกี่ยวกับทรงผมที่ออกมาหลายฉบับมายกร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ให้เหลือเพียงฉบับเดียว โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และประโยชน์สูงสุดของนักเรียน แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ เพราะถือว่าระเบียบต่าง ๆ ดีอยู่แล้ว เพียงแต่นำมาปรับปรุงให้เหมาะสมตามสถานการณ์ปัจจุบันเท่านั้น

 

ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการได้ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นด้วยตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไปกำหนดอย่างนั้น เพราะสิ่งที่สำคัญคือสิ่งที่อยู่ข้างในมากกว่านั่นคือเรื่องของความรู้ในหัวสมอง ส่วนเรื่องของทรงผมนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะไปตั้งกฎกติกา กำหนดกฎเกณฑ์อะไรซึ่งไม่ค่อยมีเหตุผลมากนัก

 

กฎระเบียบมีอยู่แล้วเกี่ยวอะไรกับสิทธิมนุษยชน?

ด้านอาจารย์ภัคญดา กิตติสุทธกุล อาจารย์ฝ่ายกิจกรรมนักเรียน ได้เล่าถึงความรู้สึกว่า ไม่เห็นด้วยหากนักเรียนจะต้องไว้ผมยาว เพราะทางโรงเรียนได้มีกฎเกณฑ์ให้นักเรียนได้ฝึกทำตามระเบียบ ทำตามข้อบังคับ เพื่อเป็นการฝึกให้ตัวนักเรียนเองมีระเบียบวินัย ทุกสถานที่มีกฎระเบียบในตัวอยู่แล้ว เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะได้ไม่ทำอะไรที่ตามใจตัวเอง เพราะว่าการทำตามกฎระเบียบของโรงเรียนนั้นเป็นการฝึกความอดทน หากในอนาคตได้มีการปรับเปลี่ยนให้นักเรียนนั้นสามารถไว้ผมยาวได้ ก็คงต้องยามรับตามกฎระเบียบ ตามนโยบายที่ทางกระทรวงกำหนดมา

 

“คิดว่าเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน เพราะว่าไม่ได้เป็นการคุกคามหรือการไปล่วงละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แต่อย่างใด แต่ว่าเป็นการฝึกให้นักเรียนมีการเคารพกติกาของสังคม ให้เข้าใจถึงระเบียบการอยู่ร่วมกันมากกว่า หากมีการปรับเปลี่ยนจริง ๆ น่าจะมีผลกระทบต่อการเรียนอย่างมาก เพราะเป็นการให้อิสระกับนักเรียนมากเกินไป หากปล่อยให้มีอิสระมากเกินไปก็อาจจะทำอะไรที่เกินขอบเขตได้ เช่นการรักสวยรักงาม ทำตามแฟชั่น หากมีมากเกินไปโดยไม่มีกฎระเบียบก็อาจทำให้มีผลกระทบต่อการเรียนอย่างแน่นอน โดยสิ่งเหล่านี้อาจจะไปลิดรอนเวลาของการเรียนของตัวนักเรียน

 

ส่วนเรื่องของการใช้ไม้เรียวในการทำโทษนักเรียนนั้นส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วย ควรจะมีอยู่ ไม่สมควรให้ยกเลิกการใช้ไม้เรียว เพราะการใช้ไม้เรียว เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าครูไม่สามารถจัดการชั้นเรียนได้ จึงต้องใช้อำนาจเผด็จการกับนักเรียนที่ไม่มีทางต่อสู้ การตีสั่งสอนไม่จำเป็นต้องตีแรงหรือตีหลายๆที แต่ขึ้นอยู่กับว่าก่อนจะตีได้มีการอบรมสั่งสอนให้นักเรียนเห็นและยอมรับในสิ่งที่เขาทำว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เด็กก็จะรู้สึกเสียใจในการกระทำเพื่อที่จะได้ไม่ทำผิดอีก ผิดกับการลงโทษที่ครูใช้อารมณ์ต่างหากที่ทำให้เด็กซึมซับพฤติกรรมที่ก้าวร้าวสะสมไว้ ไม่เฉพาะแต่การทำโทษด้วยไม้เรียว อาจเป็นการพูดกระแทกแดกดันของครูก็อาจทำให้เด็กได้รับความเจ็บปวดมากเสียกว่าการถูกดีด้วยไม้เรียว”

 

หลายเสียง หลายความเห็น

เสียงส่วนหนึ่งที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องทรงผมของนักเรียน ส่วนมากไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกการตัดผมนักเรียนชายสั้นเกรียนและนักเรียนหญิงต้องสั้นเท่าติ่งหู แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงจริง ๆก็ต้องยอมรับตามกฎระเบียบแบบใหม่

 

วรรณเพ็ญ อยู่ทอง ผู้ปกครองโรงเรียนหอวังนนทบุรี กล่าวว่า หากนักเรียนสามารถไว้ผมยาวได้มันจะเป็นอะไรที่ไม่น่าดู ความเป็นนักเรียนไทย ความน่ารัก น่าเอ็นดูของเด็กไทยก็จะหายไป ไม่อยากให้เด็กโตก่อนวัย อยากให้เด็กไทยเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ตามวัยของตัวเขาเองเป็นลำดับไป ไม่ใช่ปล่อยให้มีอิสระมากเกินไป ควรมีกรอบให้เด็กบ้าง แต่ต้องไม่ใช่ตีกรอบให้เขาเลย เราต้องให้เขาตีกรอบด้วยตัวเอง แต่ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่

 

นฤนาฏ ธิดา นักเรียนโรงเรียนหอวังนนทบุรีเล่าว่า กฎก็ต้องเป็นกฎ โดยปกติจะทำถูกต้องตามกฎระเบียบของโรงเรียนอยู่แล้ว เพราะหากเราทำผิดกฎระเบียบเราก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำอะไรก็ไม่ได้ เมื่อถูกครูจับได้ ก็ต้องไปตัดผมให้ถูกระเบียบอยู่ดี สู้ทำให้ถูกระเบียบตั้งแต่แรกไปเลยดีกว่า เชื่อว่านักเรียนทุกคนอยากไว้ผมยาวเพื่อความสวยงามและตามแฟชั่นอยู่แล้ว หากมีกฎที่สามารถไว้ผมยาวได้จริง ๆ ก็อยากให้อยู่ในขอบเขต ไม่ใช่จะยาวเท่าไหร่ก็ได้ เพราะเมื่อเราโตขึ้นเราก็สามารถไว้ยาวเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ กฎที่มีอยู่นั้นดีอยู่แล้วเพราะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี

 

สุทธิพงษ์ ขวัญเมือง นักเรียนโรงเรียนวัดบาง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า จริง ๆ ก็อยากไว้ผมยาว ไม่ชอบทรงนักเรียนเท่าไหร่มันดูแปลก ๆ มองไปทางไหนก็เหมือน ๆ กันหมด แต่ก็ต้องยอมรับเพราะมันเป็นกฎระเบียบของโรงเรียน เราก็ไปทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะมีกฎที่ออกมาให้ไว้ผมยาวได้ ซึ่งผมและเพื่อน ๆ ก็จะไว้กัน โดยปกติก็ไม่ได้ตัดผมทรงนักเรียนอยู่แล้ว จะตัดทรงรองหวีมากกว่าเพราะมันดูเหมือนทรงนักเรียน เพียงแค่ไม่เกรียนติดหนังหัว แต่หากถูกอาจารย์จับได้ก็จะถูกตัดผมแล้วให้ไปตัดเป็นทรงนักเรียนมา

 

หัวไทย ไม่ใช่หัวนอก

หากเรื่องทรงผมนักเรียนได้ผ่านการอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการเชื่อได้เลยว่าจะต้องมีเสียงเรียกร้องสิ่งต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตัวชุดนักเรียน เรื่องสีผม ฯลฯ ไม่ต่างอะไรกับต่างประเทศที่จะแต่งชุดอะไรไปเรียนก็ได้ ไว้ผมทรงอะไรก็ได้ ทำสีอะไรก็ได้ แต่ความต่างของนักเรียนไทยกับนักเรียนต่างประเทศนั้นต่างกันมากจะให้นักเรียนไทยใส่ชุดไปเที่ยวก็คงไม่ใช่ กฎของประเทศไทยเป็นอย่างนี้ติดต่อกันมาหลายต่อหลายรุ่น

 

สำหรับเรื่องการเรียนคงไม่เกี่ยวอะไรกับทรงผม อยู่ที่ตัวเด็กมากกว่าว่ามีความคิดอย่างไร แล้วผู้ใหญ่ในประเทศจะสามารถยอมรับความคิดของเด็กได้หรือไม่ การศึกษาไทยควรให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ปล่อยให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นแล้วรับฟัง เมื่อเด็กพูดจบก็ปล่อยผ่านเหมือนไม่เคยได้ยิน

 

นี่เป็นเพียงมุมมองของแต่ละคนที่จะมองว่าเรื่องของทรงผมนักเรียนไทยนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต่างคนต่างความคิด อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ก็ตาม แต่หากปรับเปลี่ยนจริง ๆ ก็คงต้องอยู่ในระเบียบและกรอบ ไม่ใช่ให้อิสระแก่เด็กนักเรียนมากจนเกินไป

 

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000157849

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 2 มกราคม 2556 07:49

เพดานหนี้16ล้านดอลล์ หน้าผาการคลังสหรัฐ

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจ

"เพดานหนี้ 16.4 ล้านล้านดอลล์" หน้าผาการคลังที่แท้จริงของสหรัฐ

 

ในระหว่างที่ลุ้นผลการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก เพื่อลงมติรับร่างแก้ไขกฎหมายหน้าผาการคลังที่ผ่านความเห็นชอบของทำเนียบขาว-วุฒิสภา และเป็นที่คาดกันว่า ส.ส. รีพับลิกันจะค้านแผนขึ้นภาษีครัวเรือนที่มีรายได้ตั้งแต่ 450,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีขึ้นไป

 

ผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่ มองตรงกันว่า ในปี 2556 นี้ หน้าผาการคลังที่แท้จริง คือ เพดานหนี้ 16.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพราะหากไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ดังกล่าวได้แล้ว สุดท้าย กระทรวงการคลังจะไม่มีเงินมาชำระหนี้ และต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งหมายถึงหายนะแท้จริงที่จะเกิดกับตลาดการเงิน และมองข้ามช็อตหลังการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังผ่านพ้นไปแล้ว จะยังคงหาคำว่า "สันติภาพ" ไม่เจอระหว่างสภาคองเกรสกับรัฐบาล

 

นอกเหนือจากความเห็นที่ไม่ลงรอยกันในแนวทางการขึ้นภาษีและการลดการใช้จ่ายของภาครัฐแล้ว ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลกรุงวอชิงตันเป็นชายง่อยมาตลอดสองปีคือ สภาพของรัฐบาลที่ตกอยู่ในภาวะกระเป๋าแฟบ และต้องคอยแบมือขอให้สภาคองเกรสเติมเงินให้ตลอด

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังทำหนังสือแจ้งถึงสมาชิกสภาคองเกรสเมื่อวานว่าตัวเลขหนี้สาธารณะจะพุ่งสูงขึ้นจนเหลืออีกเพียง 95,000 ล้านดอลลาร์ก็จะแตะเพดานหนี้ที่ 16 ล้าน 3 แสน 9 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์ (เกือบ 16.4 ล้านล้านดอลลาร์)ในวันที่ 31 ธ.ค. แต่กระทรวงการคลังได้ประกาศมาตรการชั่วคราวเพื่อชะลอรายจ่ายต่างๆรวม 2 แสนล้านดอลลาร์ เขา บอกว่า มาตรการนี้จะช่วยซื้อเวลาได้เพียงเกือบ 2 เดือนเท่านั้น

 

ขณะที่เมื่อวานนี้ (1 ม.ค.) เจ้าหน้าที่คลังสหรัฐ ออกมาเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่า สหรัฐถึงจุดแตะเพดานหนี้ในวันจันทร์ตามที่คาดไว้ และภาครัฐต้องหาเงินทุนมาอัดฉีดเพิ่มเติม

 

เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากมาตรการชั่วคราวสิ้นสุดลง กระทรวงการคลังต้องส่งเรื่องไปให้คองเกรสพิจารณาเพิ่มเพดานหนี้ให้อีกครั้ง และรัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับสภาคองเกรสเพื่อให้ต่ออายุร่างกฎหมาย หรือยอมเผชิญกับสถานการณ์ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐ

 

อย่างไรก็ดี แม้สภาคองเกรสมีแนวโน้มจะผ่านร่างงบประมาณประจำปีก่อนเริ่มปีการเงินทุกครั้ง แต่สภาคองเกรสไม่เคยทำกระบวนการอนุมัติงบประมาณให้ครบถ้วน และเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ปี 2539 แล้ว ทำให้รัฐบาลต้องชะเง้อคอ รองบประมาณชั่วคราวมาตลอด ซึ่งนักวิเคราะห์ มองว่า เป็นวิธีที่ทำให้รัฐบาลต้องประหยัดการใช้จ่ายไปโดยปริยาย โดยสภาจะใช้เป็นเครื่องต่อรองทุกครั้งก่อนอนุมัติงบประมาณชั่วคราว

 

ตามข้อตกลงที่ผ่านการเจรจาต่อรองกันอย่างหนักระหว่างพรรคเดโมแครตนำโดยรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน และพรรครีพับลิกันนำโดยนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ได้ข้อสรุปว่าจะปรับขึ้นภาษีเฉพาะคนรวยที่มีรายได้ตั้งแต่ 4 แสนดอลลาร์ขึ้นไปและคู่สมรสที่มีรายได้ตั้งแต่ 450,000 ดอลลาร์ขึ้นไป โดยขึ้นภาษีจากอัตรา 35% เป็น 39.6% และขึ้นภาษีมรดกที่ดินจาก 35%เป็น 40% แต่ให้คงเก็บอัตราภาษีระดับต่ำแก่ชนชั้นกลาง นอกจากนี้ชะลอการตัดลดรายจ่ายด้านการทหารและสังคมรวมเป็นเงิน 24,000 ล้านดอลลาร์ไว้สองเดือน และขยายสิทธิประกันการว่างงานต่อไปอีก 1 ปีให้กับประชาชน 2 ล้านคน

 

Tags : หน้าผาการคลัง • Fiscal Cliff http://bit.ly/10KYAeL

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/foreign/20130102/484093/เพดานหนี้16ล้านดอลล์-หน้าผาการคลังสหรัฐ.html

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...