ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

กกพ.ขึ้นค่า FT อีก 4.04 สตางค์

 

 

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2556 ในอัตรา 4.04 สตางค์ต่อหน่วย จากที่ควรปรับขึ้น 13.57 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าเอฟทีที่เรียกเก็บงวดนี้เท่ากับ 52.04 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟเฉลี่ยที่เรียกเก็บจากประชาชนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 3.72 บาทต่อหน่วย เป็น 3.76 บาทต่อหน่วย โดยส่วนต่างค่าเอฟที ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ช่วยรับภาระแทนประชาชนเป็นการชั่วคราวไปก่อนเป็นจำนวน 5,131 ล้านบาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โอบามายกย่องการจัดการเลี่ยงหน้าผาการคลัง

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ.2556 14:49น.

 

"บารัก โอบามา" ผู้นำของสหรัฐฯ สรรเสริญการจัดการ เกี่ยวกับข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยง "หน้าผาการคลัง"

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ได้ยกย่องข้อตกลงเพื่อที่จะบรรลุผ่านการหลีกเลี่ยงหน้าผาการคลังซึ่งเป็นวิกฤติที่รุนแรงในขณะนี้ โดยมีมาตรการจัดเก็บภาษี และลดค่าใช้จ่าย โอบามา กล่าวสรรเสริญว่า วิธีการเช่นนี้อาจจะทำให้ระบบการพัฒนาในการยกระดับเศรษฐกิจโลก ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น

 

ผู้นำของสหรัฐฯ กล่าวหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ผ่านการร่างพระราชบัญญัตินั้น วุฒิสภา ได้รับเสียงคะแนนโหวตถึง 167 เสียง ใน 257 เสียงด้วยกัน และในขณะนี้การพยายามเพิ่มการจ่ายภาษีสำหรับผู้ที่มีฐานะ และการลดค่าใช้จ่ายลง ซึ่งแผนการได้เลื่อนออกไปให้มีผลบังคับใช้อีก 2 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้การหารือครั้งนี้ยังมีการกดดันการลงคะแนนเสียง ซึ่งจะต้องผ่านก่อนเปิดตลาดในวันนี้ (2 ม.ค.) อีกด้วย

 

 

 

ส.ส.สหรัฐโหวตอนุมัติร่างกม.เลี่ยงหน้าผาการคลัง

 

 

ในที่สุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายที่ช่วยหลีกเลี่ยงวิกฤติหน้าผาการคลัง

ซึ่งเสนอและผ่านความเห็นชอบโดยวุฒิสภาในวันเดียวกันแล้ว สร้างความโล่งอกแก่ชาวอเมริกัน

และทั่วโลกที่วิตกว่ามาตรการขึ้นภาษีและการตัดรายจ่ายพร้อมกันในปีใหม่นี้จะทำให้เศรษฐกิจ

สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติในการประชุมเมื่อคืนวานหรือราว 11 โมงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยด้วย

คะแนนเสียง 257 ต่อ 167 เสียงอนุมัติร่างกฎหมายของวุฒิสภาที่ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน

เสียง 89 ต่อ 8 เสียงในเช้ามืดวันเดียวกัน และได้ส่งต่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาเพื่อลงนาม

บังคับใช้ โดยร่างกฎหมายนี้จะช่วยให้สหรัฐรอดพ้นจากวิกฤติหน้าผาการคลังที่มาตรการลดภาษี

เกือบทั้งระบบจะหมดอายุ ซึ่งจะทำให้ต้องมีปรับขึ้นภาษีสู่ระดับปกติบวกกับจะต้องมีการปรับ

ลดรายจ่ายภาครัฐพร้อมกันในวันที่ 1 ม.ค.รวมสองมาตรการเป็นเงินกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์

ที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยได้

 

ส่วนร่างกฎหมายที่ผ่านการเจรจาต่อรองกันอย่างหนักโดยรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน และนาย

มิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันจะคงขยายมาตรการลดภาษี

ต่อชนชั้นกลางต่อไป แต่ปรับขึ้นภาษีเฉพาะคนรวยที่มีรายได้ตั้งแต่ 4 แสนดอลลาร์ต่อปีขึ้นไปและ

คู่สมรสที่มีรายได้ตั้งแต่ 450,000 ดอลลาร์ต่อปีขึ้นไป โดยขึ้นภาษีจากอัตรา 35% เป็น 39.6%

นอกจากนี้ชะลอการตัดลดรายจ่ายด้านการทหารและสังคมรวมเป็นเงิน 24,000 ล้านดอลลาร์ไว้

สองเดือน และขยายสิทธิประกันการว่างงานต่อไปอีก 1 ปีให้กับประชาชน 2 ล้านคน

 

ประธานาธิบดีโอบามากล่าวแสดงความพอใจต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ที่เขาบอกว่าจะช่วยให้ชาว

อเมริกัน 98% และธุรกิจขนาดเล็ก 97% รอดพ้นจากการขึ้นภาษี และล่าสุดเขากล่าวหลังการลง

มติของส.ส.ว่า ในที่สุดความพยายามขึ้นภาษีกับคนรวยก็บรรลุเป้าหมาย แต่เตือนว่ายอดขาดดุล

งบประมาณยังสูงมากและเขาจะไม่ยอมต่อรองใดๆกับสภาคองเกรสเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Nasdaq 100 futures up 41.75 pts, 1.6%, to 2,697

6:05a

DJIA futures up 171 pts, 1.3%, to 13,199

6:04a

S&P 500 stock futures up 24 pts, 1.7%, to 1,444

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 2 มกราคม 2555 โดย YLG

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 2 มกราคม 2556 17:07:53 น.

กรุงเทพฯ--2 ม.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 2 มกราคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,670.95 — 1,684.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG13 อยู่ที่ 24,440 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,340 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG13 อยู่ที่ 939 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 14 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 925 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.38 น.ของวันที่ 02/01/12)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 3 มกราคม 2556

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก มีมติผ่านร่างกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) หลังจากวุฒิสภาสหรัฐ ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ การที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตสามารถประนีประนอมกันได้ในรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวสามารถผ่านมติในขั้นตอนสุดท้ายได้ ทำให้สหรัฐรอดพ้นจากการต้องปรับขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายลงโดยอัตโนมัติ โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เตรียมลงนามบังคับ ขณะที่สำนักงานงบประมาณของสภาคองเกรสออกมาเตือนว่า ร่างกฎหมายนี้ จะส่งผลให้มียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปี และแหล่งข่าวรายงานว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มีสาระสำคัญคือ เลื่อนการตัดงบรายจ่ายของรัฐโดยอัตโนมัติวงเงิน 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ออกไปอีก 2 เดือนและระดมรายได้เข้ารัฐจำนวน 6 แสนล้านดอลลาร์ด้วยการเพิ่มอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากชาวอเมริกันที่ร่ำรวย โดยสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ถึงแม้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงภาวะ fiscal cliff ได้สำเร็จอย่างไม่สวยหรูมากนักทำให้นักลงทุนยังจับตาดูทางรัฐบาลสหรัฐ ว่าจะเกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับในการตกลงเรื่องเพดานหนี้สาธารณะอีกหรือไม่ โดยราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นอาจมีแรงขายทำกำไรบ้าง ซึ่งนักลงทุนที่ถือทองคำไว้อาจแบ่งขายบ้างส่วน และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับคอยเข้าสะสมเพิ่มเติม ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,665-1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้มีโอกาสเห็นการดีดตัวขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีแนะนำลงทุนซื้อขายในระยะสั้น จากการแกว่งตัวของราคาทองคำ เมื่อราคาย่อลงมาไม่หลุดแนวรับและเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นทยอยขายบางส่วน แล้รอจังหวะเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาไม่หลุดแนวรับ โดยประเมินแนวรับบริเวณ 1,665 หรือ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,688 หรือ 1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ให้ขายตัดขาดทุนหากราคาหลุดโซน 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุน

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,665 (23,930บาท) 1,660 (23,860บาท) 1,650 (23,710บาท)

แนวต้าน 1,688 (24,260บาท) 1,695 (24,360บาท) 1,704 (24,490บาท)

 

GOLD FUTURES (GFG13)

แนวรับ 1,665 (24,210บาท) 1,660 (24,140บาท) 1,650 (23,990บาท)

แนวต้าน 1,688 (24,540บาท) 1,695 (24,640บาท) 1,704 (24,770บาท)

SILVER FUTURES (SVG13)

แนวรับ 30.05 (920บาท) 29.65 (908บาท) 29.40 (900บาท)

แนวต้าน 30.90 (946บาท) 31.15 (954บาท) 31.40 (961บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งไม่ออกแนวต้านแนวรับ จึงขอใข้ของ YLG ในคืนนี้

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,665 (23,930บาท) 1,660 (23,860บาท) 1,650 (23,710บาท)

แนวต้าน 1,688 (24,260บาท) 1,695 (24,360บาท) 1,704 (24,490บาท)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์วิจัยกสิกร คาดกนง.ยังคงดบ.นโยบายที่ 2.75% ในการประชุมรอบแรกของปี

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 2 มกราคม 2556 17:05:21 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ระดับราคาสินค้าผู้บริโภคในช่วงเดือนม.ค.56 อาจขยับสูงขึ้นจากระดับในช่วงปลายปีที่ผ่านมาตามแรงผลักดันด้านอุปทาน ทั้งจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาททั่วประเทศ, การปรับค่าไฟฟ้า Ft (4.04 สตางค์/หน่วย สำหรับงวดเดือนม.ค.-เม.ย.56) และราคาพลังงานในประเทศ แต่ผลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อของไทย อาจเป็นลักษณะทยอยปรับขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

 

 

 

ทั้งนี้ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนม.ค.56 อาจไต่ระดับขึ้นไม่เกินร้อยละ 0.5 จากเดือนธ.ค.55 เพราะกระบวนการส่งผ่านภาระต้นทุนของภาคธุรกิจมาที่ราคาสินค้าผู้บริโภคหลายประเภทน่าจะต้องมีขั้นตอนการอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์

 

อนึ่ง วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) เดือน ธ.ค.55 อยู่ที่ 116.86 เพิ่มขึ้น 3.63% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.55 เพิ่มขึ้น 0.39% ส่งผลให้ CPI เฉลี่ยทั้งปี 55 เพิ่มขึ้น 3.02% จากปีก่อน

 

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ(Core CPI) เดือน ธ.ค.55 อยู่ที่ 108.88 เพิ่มขึ้น 1.78% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.55 ส่งผลให้ Core CPI เฉลี่ยทั้งปี 55 เพิ่มขึ้น 2.09% จากปีก่อน

 

แม้ว่าแรงกดันเงินเฟ้อในเดือนธ.ค.55 ล่าสุดจะสูงกว่าที่คาด แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมีมุมมองต่อตัวแปรที่อาจมีผลต่อเงินเฟ้อในปี 56 เช่นเดิม เหตุนี้จึงยังคงประมาณการสำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 56 ไว้ที่ร้อยละ 3.0-3.6 (มีค่ากลางที่ร้อยละ 3.3 สูงขึ้นจากค่าเฉลี่ยร้อยละ 3.02 ในปี 55) ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจมีค่าเฉลี่ยอยู่ในกรอบร้อยละ 2.2-2.8 (มีค่ากลางที่ร้อยละ 2.4 ขยับขึ้นจากร้อยละ 2.09 ในปี 55)

 

ศูนย์วิจัยกสิกร ระบุว่า แม้แรงกดดันเงินเฟ้อไทยอาจทยอยขยับขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า แต่ก็ยังไม่น่าจะเพิ่มน้ำหนักให้กับความเสี่ยงด้านเสถียรภาพราคาสำหรับการพิจารณานโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ดังนั้นเครือธนาคารกสิกรไทยจึงคาดว่า ธปท.น่าจะยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบแรกของปีในวันที่ 9 ม.ค.56 นี้ ไว้ที่ร้อยละ 2.75 ตามเดิม

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำสัปดาห์ที่ 24-28 ธ.ค. 55 และแนวโน้มในสัปดาห์ที่ 31 ธ.ค. 55- 4 ม.ค.56

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 2 มกราคม 2556 16:54:43 น.

กรุงเทพฯ--2 ม.ค.--ปตท.

ราคาน้ำมันเฉลี่ยในสัปดาห์ที่ 24 -28 ธ.ค. 55 น้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.96 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 107.25 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 1.12 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 110.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสท์ เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 1.53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอยู่ที่ 90.31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาเฉลี่ยน้ำมันน้ำมันเบนซิน 95 เพิ่มขึ้น 2.71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 121.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 123.19 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ได้แก่

 

 

 

ปัจจัยที่ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก

คณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมเสนอขยายระยะเวลาที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกลดระดับหนี้สาธารณะให้ต่ำกว่า 3% ของ GDP ในปี 56 โดยสเปนและฝรั่งเศสเลื่อนเป็นปี 58 และ 57 ตามลำดับ

 

Weather Services International คาดการณ์ระดับอุณหภูมิทางตอนเหนือของสหรัฐฯ ในช่วง ม.ค. - มี.ค. 56 จะหนาวเย็นกว่าระดับปกติเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 30 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2524-2553

 

สหภาพยุโรปออกกฎหมายบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านที่ตกลงกันก่อนหน้าในเดือน ต.ค. 55 โดยมีข้อกำหนดห้ามการชื้อขายก๊าซธรรมชาติจากอิหร่านรวมทั้งขยายขอบเขตการคว่ำบาตรนิติบุคคลเพิ่มขึ้นเป็น 490 รายและบุคคลธรรมดา 150 ราย

 

Reuters รายงาน ในปี 2556 กลุ่มประเทศเอเชียจะนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านลดลงประมาณ 135,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการจ่ายเงินค่าน้ำมันให้กับอิหร่านมีความยุ่งยากมากขึ้น อาทิ อินเดีย มีแผนลดการนำเข้าในปีงบประมาณ 56 (เริ่ม เม.ย. 56) ลงอีก 10-15% จากปริมาณนำเข้าปี 55

 

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ

Thomson Reuters/University of Michigan รายงานดัชนีความมั่นใจของผู้บริโภคสหรัฐฯ (Consumer Sentiment Index) เดือน ธ. ค. 55 ลดลงอยู่ที่ระดับ 72.9 จุด ลดลงจากเดือนก่อน 9.8 จุด เพราะปัญหาทางการคลังที่ยังไม่มีข้อยุติทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นและลดการใช้จ่ายในช่วงเทศกาล

 

ความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคตของผู้บริโภคเยอรมนีเดือน ม.ค. 56 อยู่ที่ระดับ 5.6 จุด ลดลงจากเดือนก่อน 0.2 จุด จากแรงกดดันของปัญหาเศรษฐกิจยุโรป

 

รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิรัก นาย Abdul Kareem Luaibi กล่าวปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิรัก ณ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับมากกว่า 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในปี 2556 และ 2557 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ

 

Korea National Oil Company (KNOC) รายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเดือน ธ.ค. 55 อยู่ที่ระดับ 80.1 ล้านบาร์เรล ลดลงจากเดือนก่อน 0.1 ล้านบาร์เรล และลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล จากปีก่อน

 

แนวโน้มราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สามารถประนีประนอมกันได้ในรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวและลงคะแนนเสียงอนุมัติร่างกฎหมายที่ทำให้สหรัฐรอดพ้นจากการปรับขึ้นภาษีและการลดงบประมาณการใช้จ่าย หรือภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ขณะที่การปรับตัวเชิงบวกของภาคการผลิตจีนในเดือน ธ.ค. 55 ประกอบกับปัจจัยทางการเมืองในอิรักที่เกิดการปะทะระหว่างชาวมุสลิมต่างนิกายมีผู้เสียชีวิต 27 ราย และการสู้รบยืดเยื้อรุนแรงในซีเรียเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่าซาอุดิอาระเบียยังต้องการผลิตน้ำมันอยู่ในระดับสูงจากงบประมาณรายจ่ายปี 56 ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 19% อยู่ที่ระดับ 2.19 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสร้างโครงการสาธารณูปโถค การศึกษา สาธารณสุข ให้จับตาภาวะเศรษฐกิจของจีนที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ เพราะจีนมีอัตราการเติบโตสูงกว่าประเทศอื่นโดยคาดว่าปี 55 เติบโตที่ 7.6% และในปีนี้รัฐบาลจีนเน้นให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยตั้งเป้าที่ 8.6% คาดว่าสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent เคลื่อนไหวในกรอบ 90-93 USD/BBL และ 107-113 USD/BBL ตามลำดับ

 

โทร. 0 2537-2568 ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

โทรสาร 0 2537-2171

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปิยสวัสดิ์ จวก รัฐประชานิยม ทำชาติล่ม

 

 

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 2 มกราคม 2556 18:56:00 น.

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือดีดี บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ได้โพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัว Piyasvasti Amranand เมื่อวีนที่ 2 มกราคม 2556 ถึงการบริหารนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยระบุถึง นโยบายการเพิ่มค่าครองชีพ และนโยบายกองทุนน้ำมัน ว่า

 

การเอาคนที่ไม่รู้เรื่องมาบริหารบ้านเมืองมีโอกาสสูงที่จะทำความเสียหายให้แก่ประเทศ ตัวอย่างหนึ่งก็คือนโยบายการกระชากค่าครองชีพ การลดเงินกองทุนน้ำมันอย่างมั่วๆ ทำให้ไม่นานหลังจากนั้นก็ต้องปรับขึ้นไปใหม่ แต่ความเสียหายเกิดขึ้นทันทีต่ออุตสาหกรรมเอทานอล และเกษตรกร เพราะยอดขายเอทานอล ซึ่งผลิตจากอ้อยและมันสำปะหลังลดลงฮวบ ตามที่แสดงในกราฟ

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งไม่ออกแนวต้านแนวรับ จึงขอใข้ของ YLG ในคืนนี้

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,665 (23,930บาท) 1,660 (23,860บาท) 1,650 (23,710บาท)

แนวต้าน 1,688 (24,260บาท) 1,695 (24,360บาท) 1,704 (24,490บาท)

ด่านต้าน 1688 ด่านต้านแรกคืนนี้ คืนแห่งวันแรกของปี 2013 แตกแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวสารบอกว่า ตลาดทองรอตัวเลขสหรัฐ ตอน 9 โมง จึงเดาว่า ตัวเลขออกมาทางไหน ยังไงราคาทองก็ต้องขึ้นแบบนำมาเป็นข้ออ้างได้เสมอ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.fxstreet.com/fundamental/analysis-reports/london-gold-market-report/2013/01/02/

 

Gold and Silver Gain Along with Stocks, "Chaotic and Unsatisfactory" Fiscal Deal "Could See Another US Downgrade" ถึงแม้ว่า สภาฯ จะผ่านกฎหมายด้านภาษีไปแล้ว แต่ทั้งรายจ่ายที่ค้างอยู่ และ เพดานหนี้ อาจจะเชื้อชวนให้สถาบันจัดอันดับ ลดความน่าเชื่อถือสหรัฐลงได้ ดังนั้น ทองน่าจะดันขึ้นไปได้จากความกลัวสิ่งนี้

Wed, Jan 2 2013, 11:41 GMT

by BullionVault analysis team | BullionVault.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...