ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีครับ ทุกท่าน วันนี้ดูราคาแล้วต้องมีดีดขึ้นทดสอบแนวต้านบ้าง เพราะสัญญษณลงมาต่ำมากแล้ว หากไม่หลุดต่ำกว่า 1609 ลงไปอีก หรือหากลงไป 1600 ไม่ควรหลุดและการลงมาอาจเด้งเร็วนะครับ ระวังด้วย แต่ถ้าลงมาแล้วไม่รีบๆเด้ง อาจไป 1588 ครับ แนวนี้คิดว่าไม่น่าหลุดและน่าเก็บของครับ

 

ในการดีดไปทดสอบแนวต้าน อาจจะติดเล็กน้อยแถว 1625 จากนั้นไปเทส 1640 +/- ครับ หากยืนอยู่ไปต่อแน่ๆที่ 1660 แต่ถ้ายืนไม่อยู่ อาจลงมาย้ำแถว 162X อีกนะครับ

 

กรณีย่อก่อนแล้วเด้งแรงๆ อาจจะกลับเป็นขาขึ้น กรณีขึ้นก่อน อาจจะไซค์เวย์จากนั้นมาย้ำแนวรับ แล้วค่อยเป็นขาขึ้นครับ

 

ทั้งหมดเดานะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สนไหมครับ ! หาเพื่อนมาแชร์ซื้อ จากราคาที่ลดแล้ว 1,200 บาท ถ้าซื้อถึง 12 ใบ คือ 12 คืน จะได้ลดอีก 20% เหลือสุทธิ 960 บาท รวมอาหารเช้า 2 คน อยู่หาดจอมเทียน เก็บไว้ใข้ได้ถึง กันยายน 57 ( ปีหน้า ) ปิดเทอมนี้ จะได้ใช้ไปพักผ่อน ราคาไม่แพง สะดวก ปลอดภัย ถ้าสนใจ รายละเอียดทำยังไง เดี๋ยวค่อยว่ากันครับ หุหุ กลัวหาคนแชร์ไม่ได้

 

ปล. หรือว่าหลังห้องฯ แล้วนัดรวมตัวไปซื้อที่ศูนย์สิริกิตต์ พฤหัสนี้ ช่วงเที่ยงวัน ทุกๆ 12 ใบ ราคา 960 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้าแล้ว 2 ท่าน

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขัอความที่โพสต์ตั้งแต่เช้า เด็กขายของแค่บ่นในสิ่งที่จะเล่นทองวันนี้ คืนนี้ อย่ามาคิดจริงจังเล่นตามนะครับ หรือจะมองตามก็ใช้วิจารณญานในการตัดสินใจด้วยตัวเอง

 

ณ. ตอนนี้ ผมก็รอราคาทองย่อ หรือ ราคาที่คิดว่าดีที่สุดตอนนี้ หุหุ มันมีแนวรับที่ 1603 แล้วเพื่อนๆ คิดว่า มันจะลงมาสักเท่าไหร่ดี ที่จะให้เก็บในขาซื้อเข้า

ขอบคุณคุณป๋ามากๆค่ะ คุณป๋าบ่นเยอะๆนะคะ อลันชอบ ได้ความรู้เยอะดีค่ะ

จะได้เป็นข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจ

ขอบคุณคุณป๋ามากๆค่ะ :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ ทุกท่าน วันนี้ดูราคาแล้วต้องมีดีดขึ้นทดสอบแนวต้านบ้าง เพราะสัญญษณลงมาต่ำมากแล้ว หากไม่หลุดต่ำกว่า 1609 ลงไปอีก หรือหากลงไป 1600 ไม่ควรหลุดและการลงมาอาจเด้งเร็วนะครับ ระวังด้วย แต่ถ้าลงมาแล้วไม่รีบๆเด้ง อาจไป 1588 ครับ แนวนี้คิดว่าไม่น่าหลุดและน่าเก็บของครับ

 

ในการดีดไปทดสอบแนวต้าน อาจจะติดเล็กน้อยแถว 1625 จากนั้นไปเทส 1640 +/- ครับ หากยืนอยู่ไปต่อแน่ๆที่ 1660 แต่ถ้ายืนไม่อยู่ อาจลงมาย้ำแถว 162X อีกนะครับ

 

กรณีย่อก่อนแล้วเด้งแรงๆ อาจจะกลับเป็นขาขึ้น กรณีขึ้นก่อน อาจจะไซค์เวย์จากนั้นมาย้ำแนวรับ แล้วค่อยเป็นขาขึ้นครับ

 

ทั้งหมดเดานะครับ

ขอบคุณคุณกัปตันมากๆค่ะ :01

เฮ้อ! เมื่อไหร่จรวดทองคำจะมาสักทีนะ เพี้ยงมาเร็วๆน๊าาาา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองไม่ต้องรีบรอซื้อ2.25หมื่นสะสมลงทุนยาว

วายแอลจีแนะรอจังหวะซื้อทองคำแถว 2.25 หมื่นบาท สะสมลงทุนระยะกลาง-ยาว

ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเบี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส เปิดเผย

ว่า ราคาทองคำที่ปรับลดลงเป็นโอกาสซื้อเพื่อลงทุนระยะกลางและระยะยาว โดยแนะนำให้ซื้อที่ราคาบาทละ

2.25 หมื่นบาท หรือเมื่อราคาลดต่ำกว่า 1,600 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ(19/02/2556)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการเลือกตั้งในอิตาลีจะไม่เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่ายอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของกลุ่มยูโรโซนปรับตัวลดลงในเดือนธ.ค.

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 286.76 จุด

 

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 3,667.04 จุด เพิ่มขึ้น 6.67 จุด, +0.18% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,628.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.22 จุด, +0.46% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,318.19 จุด ลดลง 10.07 จุด, -0.16%

 

-- ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานยอดค้าปลีกที่ลดลงเกินคาดของอังกฤษ

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดลอนดอนที่ 6318.19 ลบ 10.07 จุด

-- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

-- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

-- ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

-- ตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 กุมภาพันธ์ 2556)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ เมื่อคืน 1607 ได้แต่จ้อง

 

เพราะตลาดปิด กลัวไร้ทางหนี

 

เช้านี้เลยมานั่งเสียดาย 555+

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จี20ไม่ยุติเรื่องค่าเงิน (19/02/2556)

นักวิเคราะห์ระบุมติประชุม จี20 เหลว ไม่ช่วยยุติปัญหาแข่งขันลดค่าเงิน

 

รอยเตอร์สเสนอบทความกึ่งวิเคราะห์จากบรรดานักลงทุนและนักกลยุทธ์การเงิน ซึ่งระบุชัดเจนว่า มติที่ประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ (จี20) ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะไม่สามารถยุติปัญหาและช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนกลับมามีเสถียรภาพตามกลไกตลาดอีกครั้ง

 

เหตุผลเพราะแม้รัฐมนตรีการคลังในกลุ่มประเทศ จี20 ตลอดจนผู้ว่าการธนาคารกลางจะให้คำมั่นไม่ใช้นโยบายลดค่าเงินของตน แต่ก็ไม่มีหลักประกันใดรับรองเช่นกันว่าธนาคารกลางเหล่านั้นจะไม่ทุ่มเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอีกครั้ง

 

ยิ่งเมื่อมติที่ประชุม จี20 ยอมรับเหตุผลของรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งยืนกรานว่าการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อลดค่าเงินเยนเพื่อมุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะถดถอยว่าไม่ใช่การกระทำผิด ก็ยิ่งทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า การแข่งขันเพื่อลดค่าเงินของประเทศต่างๆ มีแนวโน้มยุติลงได้ยาก

 

นอกจากนี้ การที่ที่ประชุม จี20 ไม่ตำหนิการกระทำของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จงใจกดค่าเงินเยน ยังส่งผลให้นักวิเคราะห์หลายสำนักตีความว่าเป็นการอนุมัติเห็นชอบให้ญี่ปุ่น และอาจจะอีกหลายๆ ประเทศดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปได้

 

ทั้งนี้ นีล เมลเลอร์ นักกลยุทธ์ค่าเงินจากแบงก์ออฟนิวยอร์ก เมลลอน ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า นักลงทุนได้ยึดเอาแถลงการณ์ของ จี20 เป็นตัวตัดสินให้เทขายเงินเยน เนื่องจากเก็งกันว่ารัฐบาลญี่ปุ่นน่าจะพิมพ์เงินออกมามากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลภายในจาก จี20 ระบุว่า ประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับ จี20 ปีนี้ก็คือเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ วิเตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่กล่าวว่า สิ่งที่กลุ่ม จี20 ควรทำ ไม่ใช่เรื่องการหลีกเลี่ยงการแข่งขันการลดค่าเงิน แต่เป็นเรื่องการจัดการกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ปรับตัวผันผวนอย่างรวดเร็วเกินไปมากกว่า

 

“จี20 จำเป็นต้องมีการพูดคุยหารือเพื่อจัดการกับอัตราแลกเปลี่ยนอย่างถาวร เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทุกประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกัน” คอนสแตนซิโอ กล่าวสรุป

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ (วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบุณและสวัสดีค่ะ คุณป๋า คุณDonJuan. เจ๊เกี๊ยมอี๋. และทุกๆๆท่าน

รอต่อไปในทุกทาง.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คลังฝรั่งเศส เล็ง ลดเป้า GDP ปีนี้(19/02/2556)

นายปิแอร์ มอส์โควีซี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า การขยายตัวในปีนี้นั้นอ่อน กำลังลง โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ฝรั่งเศสอาจจะทบทวนเกี่ยวกับแนวโน้มการ ขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ

 

นายมอส์โควีซี กล่าวว่า "จะดำเนินการในจังหวะเวลาและด้วยวิธีการที่เหมาะสม นโยบาย ที่สนับสนุนไม่ใช่นโยบายที่รุนแรง แต่ก็จริงจัง ต่อเนื่อง และสร้างการเติบโตได้"

 

ฝรั่งเศสมีอัตราการขยายตัวที่ 0% ในปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าการประเมินของรัฐบาลที่ 0.3% เนื่องจากการบริโภคของภาคครัวเรือนซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันการขยาย ตัวของ ประเทศนั้นซบเซาลง

 

ที่มา : money channel (วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จับตา"จอร์จ โซรอส"ถอนลงทุนทองคำ (19/02/2556)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงิน และนายหลุยส์ มัวร์ เบคอน ได้ถอนการลงทุนในกองทุนเพื่อการลงทุนด้านทองคำ เมื่อไตรมาสที่แล้ว ในช่วงที่ราคาทองคำได้ตกลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี

 

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การตัดสินใจดังกล่าว อาจทำให้มองได้ว่า ภาวะทองคำพุ่งสูงได้ถึงจุดสูงสุดแล้ว หลังจากตลาดได้เผยข้อมูลว่า เศรษฐกิจสหรัฐ และจีน กำลังดีขึ้น และตลาดทองคำไม่ใช่แหล่งพักการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดอีกต่อไป

 

รายงาน ระบุว่า ที่ผ่านมา กองทุน"โซรอส ฟันด์"ได้ลดการลงทุนใน"SRDR"Gold Trust"ซึ่งเป็นกองทุนลงทุนด้านทองคำ ลง 55 เปอร์เซนต์ หรือเหลือเพียง 6 แสนหุ้น ขณะที่กองทุนบริหารการเงินของนายหลุยส์ มัวร์ เบคอน ได้ขายหุ้นทั้งหมดในกองทุน SRDR Gold

 

รวมทั้งยังลดการลงทุนด้านทองคำ ในกองทุน the Sprott Physical Gold Trust และนักลงทุนบอกว่า การลดการลงทุนในทองคำของโซรอสอาจไม่สั่นสะเทือนตลาดมาก แต่ตลาดได้จับตานักเก็งกำไรรายอื่น ๆ ว่า และพบว่า นักลงทุนเหล่านี้ ยังคงลงทุนในทองคำต่อไปเหมือนเดิม

 

ที่มา : money channel (วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

19 กุมภาพันธ์ 2556 08:02

เตือนเงินทุนเคลื่อนย้าย-ค่าบาท กดดันศก.

news_img_491000_1.jpg

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

สภาพัฒน์เตือนปัจจัยเสี่ยงเงินทุนเคลื่อนย้าย-ค่าเงินบาทแข็ง กดดันเศรษฐกิจไทยปี"56 คาดจีดีพีขยายตัว 4.5-5.5% ส่งออกโต 11%

 

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประมาณการเศรษฐกิจปี 2556 โดยคงประมาณการจีดีพีไว้เท่าเดิม ขณะที่ปรับการบริโภคและลงทุนภาครัฐ ส่วนการส่งออกคาดว่าจะขยายตัว 11% มีรายละเอียดดังนี้

 

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2556

 

เศรษฐกิจไทยในปี 2556 ยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในเกณฑ์ดี แม้ว่าจะชะลอตัวลงจากการขยายตัวสูงในปี 2555 อุปสงค์ภาคต่างประเทศมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้น ในขณะที่อุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามการลดลงของแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและแรงส่งจากรายจ่ายเพื่อการฟื้นฟูและบูรณะประเทศ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งด้านเสถียรภาพราคาและดุลบัญชีเดินสะพัด

 

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง

 

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในช่วง 4.5-5.5% เทียบกับการขยายตัว 6.4% ในปี 2555 อัตราเงินเฟ้อ 2.5-3.5% เทียบกับ 3.0% ในปี 2555 และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 0.9% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากการเกินดุล 0.7% ในปี 25555

 

องค์ประกอบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

1. การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภครวม ขยายตัว 3.5% ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 3.8% ในประมาณการเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2555 ตามการปรับลดอัตราการขยายตัวของการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน 4.0% ในประมาณการครั้งก่อนหน้า เป็นการขยายตัว 3.5% ในประมาณการครั้งนี้

 

สาเหตุสำคัญมาจากการใช้สิทธิจากมาตรการคืนภาษีรถยนต์คันแรกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 สูงกว่าคาดการณ์และทำให้รายจ่ายการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสสุดท้ายและทั้งปี 2555 ขยายตัวสูงถึง 12.2% และ 6.6% ตามลำดับ โดยปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในปี 2555 ขยายตัวสูงถึง 85.6% ซึ่งจะทำให้การใช้จ่ายเพื่ออุปโภคและการบริโภคภาคเอกชนในปี 2556 ชะลอตัวลงมากกว่าผลการประมาณการครั้งที่ผ่านมา ในขณะที่การใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคภาครัฐขยายตัว 3.5% ซึ่งเป็นผลจากการปรับเพิ่มจากการขยายตัว 2.5% ในการประมาณการครั้งที่ผ่านมา

 

2. การลงทุนรวม ขยายตัว 8.9% เทียบกับการขยายตัว 13.3% ในปี 2555 โดยการลงทุนภาครัฐและเอกชนขยายตัว 8.0% และ 12.0% เทียบกับการขยายตัว 14.6% และ 8.9% ในปี 2555 และเป็นการปรับเพิ่มประมาณการขยายตัวการลงทุนภาครัฐจาก 8.5% เป็น 12.0% ในการประมาณการครั้งนี้

 

3. การส่งออกสินค้าในรูปเงินดอลลาร์ ขยายตัว 11.0% เทียบกับการขยายตัว 3.2% ในปี 2555 ซึ่งเป็นการปรับลดจากการขยายตัว 12.2% ในการประมาณการครั้งก่อนหน้าตามการปรับลดสมมติฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก จากเดิม 3.9% ในการประมาณการครั้งก่อนหน้าเป็น 3.8% ในการประมาณการครั้งนี้

 

รวมทั้งการปรับสมมติฐานด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากเฉลี่ย 30.00-31.00 บาทต่อดอลลาร์ เป็นเฉลี่ย 29.00-30.00 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการส่งออกสินค้าขยายตัว 7% ต่ำกว่า 8.0% ในการประมาณการครั้งที่แล้ว รวมทั้งการปรับลดสมมติฐานการขยายตัวของราคาสินค้าส่งออกจากเดิม 4.2% เป็น 4.0% ในการประมาณการครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตาม การปรับสมมติฐานด้านจำนวนนักท่องเที่ยวส่งผลให้ปริมาณการส่งออกบริการขยายตัวสูงกว่าการประมาณการครั้งที่ผ่านมา

 

4. มูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปเงินดอลลาร์ ขยายตัว 11.3% เทียบกับ 7.8% ในปี 2555 และเป็นการปรับลดจากการขยายตัว 12.4% ในการประมาณการครั้งที่ผ่านมา ตามการปรับลดการขยายตัวของภาคส่งออกและการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งส่งผลให้ปริมาณความต้องการนำเข้าลดลงจากประมาณการครั้งก่อนหน้า รวมทั้งการปรับสมมติฐานด้านราคานำเข้าจากเดิม 3.7% เป็น 3.5% ในการประมาณการครั้งนี้

 

5. ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3.6 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับการเกินดุล 2.7 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2555 และเป็นการปรับลดจากการเกินดุล 3.7 พันล้านดอลลาร์ ในการประมาณการครั้งที่แล้ว เนื่องจากการปรับลดการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกที่เร็วกว่าการปรับลดการขยายตัวของมูลค่าการนำเข้าทำให้การเกินดุลการค้าลดลง 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประมาณการครั้งที่แล้วเป็น 8.5 พันล้านดอลลาร์ ในการประมาณการครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตาม การปรับสมมติฐานด้านจำนวนนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ดุลบริการปรับตัวดีขึ้นจากการประมาณการในครั้งก่อนหน้า

 

6. อัตราเงินเฟ้อ อยู่ในช่วง 2.5-3.5% ใกล้เคียงกับร้อยละ 3.0% ในปี 2555 และเป็นการคงประมาณการ

 

ประเด็นบริหารในปี 2556

 

เศรษฐกิจในปีนี้ มีแนวแนวโน้มปรับตัวเข้าสู่การขยายตัวปกติตามการฟื้นตัวของกำลังการผลิตในประเทศและการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้มีความจำเป็นในการพึ่งพามาตรการกระตุ้นอุปสงค์ระยะสั้นลดลง โดยภาครัฐควรบริหารจัดการ ดังนี้

 

1. ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้มีการเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินในภูมิภาคและประเทศที่เป็นคู่แข่งด้านส่งออกสำคัญ

 

2. การดูแลรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาสินค้า รวมทั้งป้องกันความผันผวนในตลาดสำคัญ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะตลาดเงิน ตลาดทุนและตลาดอสังหาริมทรัพย์

 

3. การบริหารจัดการให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบจากการลดลงของแรงส่งจากมาตรการภาษีรถยนต์คันแรก

 

4. การเร่งรัดมาตรการแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จากค่าเงินบาทแข็งค่าและค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท

 

5. เร่งรัดโครงการลงทุนภายใต้แผนบริหารจัดการน้ำและลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท

 

จับตาผลกระทบรถคันแรก

 

มาตรการภาษีรถยนต์คันแรกส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ในปี 2555 สูงถึง 1.2 ล้านคัน เทียบกับการจำหน่ายรถยนต์เฉลี่ย 6.2 แสนคันต่อปี ในช่วงปี 2551-2554

 

แม้ว่าปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ที่สูงเป็นประวัติการณ์จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2555 สูงเกินการคาดการณ์ของหน่วยงานต่างๆ ก็ตาม แต่หากอุปสงค์ใหม่ (นอกเหนือจากรถยนต์ภายใต้มาตรการภาษีรถยนต์คันแรก ที่รอการส่งมอบจำนวนประมาณ 568,862 คัน ในปี 2556) ไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ในปี 2556 จะลดลงจากปี 2555 และส่งผลให้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนในปี 2556 ชะลอลง

 

ในอีกด้านหนึ่ง การเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ในปี 2555 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินเชื่อภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ดังนั้น แนวโน้มการชะลอตัวของปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ในปี 2556 มีแนวโน้มที่จะทำให้การขยายตัวของสินเชื่อภาคครัวเรือนชะลอตามไปด้วย

 

http://www.bangkokbiznews.com

ถูกแก้ไข โดย Namchiang

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวออกมาแบบนี้ น่ากลัวจัง สำหรับ นักลงทุนที่หน้ามืดตามัว มองเพียงหวังราคาจะเพิ่มขึ้นเพื่อได้กำไรจากราคาทองปรับขึ้น จากปริมาณการซื้อที่ผ่านไปแล้ว แต่ปัจจุบัน ไม่รู้ว่า เขาเหล่านั้น จะอยู่หน้าไหน !

 

 

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นหลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน (19/02/2556)

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากปรับตัวผันผวนในระหว่างแดนบวกและแดนลบ ท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขายที่เบาบาง ขณะที่ตลาดการเงินสหรัฐจะปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันประธานาธิบดี

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 0.1% แตะที่ 1,610.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 11.00 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้

 

นักวิเคราะห์คาดว่าราคาทองที่ร่วงหนักจะกระตุ้นให้นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อสัญญาทองคำ

 

สัญญาทองได้รับแรงหนุนจากสัญญาณบ่งชี้ในเชิงบวกในช่วงที่ผ่านมา โดยเมื่อวานนี้ สมาพันธ์ทองคำแห่งประเทศจีนรายงานว่า ยอดบริโภคทองคำของจีนเพิ่มขึ้น 9.35% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 832.18 ตันในปี 2555

 

อุปสงค์ทองคำขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากชาวจีนจำนวนมากเล็งเห็นว่าเป็นการลงทุนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ปัจจุบันจีนเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากอินเดีย

 

นอกจากนี้ สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในช่วงไตรมาส 4/2555 เพิ่มขึ้น 3.8% สู่ระดับ 1,195.9 ตัน จากไตรมาส 4/2554 ที่ระดับ 1,151.7 ตัน เนื่องจากปริมาณการใช้ทองคำของอินเดียปรับตัวสูงขึ้น

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Q4/55GDP ของกลุ่ม1ยูโรโซนหดตัวลง 0.6% มากสุดในรอบ 3 ปี(19/02/2556)

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า GDP ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรหดตัวลง 0.6% (q-o-q) ในไตรมาส 4 ปี 2555 นับเป็นอัตราการหดตัวสูงที่สุดตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2552 และเมื่อเทียบเป็นรายปี เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัว 0.9% (y-o-y) สำหรับสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 17 ประเทศหดตัวเกินคาดในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว เนื่องจากมาตรการลดยอดขาดดุลงบประมาณของหลายประเทศในยูโรโซน ส่งผลให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังไม่กระเตื้อง และภาคธุรกิจชะลอการลงทุน สะท้อนได้จากภาวะหดตัวในประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดของภูมิภาคอย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เยนอ่อนค่าเทียบดอลล์,ยูโร หลังประชุมจี-20 ขณะจับตาโผผู้ว่าฯบีโอเจ (19/02/2556)

เยนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังจากกลุ่มปรเทศจี-20 ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจและการเงินของญี่ปุ่นโดยตรง ในการประชุมเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นปัจจัยที่ฉุดค่าเงินเยนลง

 

เงินเยนร่วงลง 0.5% สู่ระดับ 93.99 เยน/ดอลลาร์ ณ เวลา 11.21 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ และปรับตัวลง 0.4% แตะ 125.46 เยนเมื่อเทียบยูโร ขณะที่ยูโรแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1.3347 ดอลลาร์

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่ามีแรงเทขายเยนระลอกใหม่ หลังจากมีแถลงการณ์จากการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มจี-20 ซึ่งไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์โดยตรงถึงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่น

 

ทั้งนี้ ที่ประชุมจี-20 เห็นพ้องต้องกันว่าจะงดเว้นการแข่งขันกันลดค่าเงินของประเทศตนเอง และเห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่โจมตีอัตราแลกเปลี่ยนด้วยจุดประสงค์ด้านการแข่งขัน

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) แทนนายมาซาอากิ ชิรากาวา ซึ่งจะลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 19 มี.ค.ก่อนหน้าที่จะครบวาระการทำหน้าที่ในวันที่ 8 เม.ย. เพื่อสร้างความมั่นใจว่า การเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำของธนาคารกลางจะเป็นไปอย่างราบรื่น

 

ในขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มดำเนินการเพื่อนำเสนอรายชื่อผู้ว่าการบีโอเจต่อสภาไดเอ็ทภายในช่วงสิ้นเดือนนี้

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโยชิฮิเดะ สึกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวกับสมาชิกอาวุโสของพรรคแอลดีพีถึงแผนการนำเสนอชื่อตัวเก็งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นที่จะมาทำหน้าที่แทนนายชิรากาวา ผู้ว่าการบีโอเจคนปัจจุบัน ต่อรัฐสภา โดยคาดว่ารองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นทั้ง 2 รายจะมีชื่ออยู่ในโผดังกล่าว

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...