ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาด​เงินนิวยอร์ก: ดอลล์/​เยน​แข็งค่า จากคาด​การณ์บี​โอ​เจผ่อนคลาย​การ​เงิน (12/03/56)

สกุล​เงินดอลลาร์สหรัฐ​แข็งค่าขึ้น​เมื่อ​เทียบกับ​เงิน​เยน ​ใน​การซื้อขายที่ตลาดปริวรรต​เงินตรานิวยอร์ก​เมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) ​เพราะ​ได้​แรงหนุนจาก​การคาด​การณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บี​โอ​เจ) จะ​ใช้มาตร​การผ่อนคลาย​การ​เงิน​เพิ่ม​เติม หากนายฮารุฮิ​โกะ คุ​โรดะ ​ได้รับ​เลือก​ให้ดำรงตำ​แหน่ง​ผู้ว่า​การบี​โอ​เจ

 

ค่า​เงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น​เมื่อ​เทียบกับ​เงิน​เยนที่ระดับ 96.28 ​เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 95.81 ​เยน ​แต่อ่อน​แรงลง​เมื่อ​เทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9513 ฟรังค์ จากระดับ 1.0264 ฟรังค์

 

ค่า​เงินยู​โร​แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.0314 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3003 ดอลลาร์สหรัฐ ​และ​เงินปอนด์ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4931 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.4934 ดอลลาร์สหรัฐ ​และค่า​เงินดอลลาร์ออส​เตร​เลียพุ่งขึ้น​แตะระดับ 1.0271 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0237 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุล​เงินดอลลาร์สหรัฐ​แข็งค่าขึ้น​เมื่อ​เทียบกับ​เงิน​เยน จาก​การคาด​การณ์ที่ว่าบี​โอ​เจจะ​ใช้มาตา​การผ่อนคลาย​การ​เงิน​เพิ่ม​เติม หากนายคุ​โรดะ​ได้รับ​เลือก​ให้ดำรงตำ​แหน่ง​ผู้ว่า​การบี​โอ​เจ

 

นายคุ​โรดะกล่าวต่อวุฒิสภาญี่ปุ่น​เมื่อวานนี้ว่า ​การที่บี​โอ​เจจะบรรลุ​เป้าหมาย​เงิน​เฟ้อที่ระดับ 2% ​ได้นั้น จะต้อง​ใช้น​โยบาย​การ​เงิน พร้อมกับ​ให้คำมั่นสัญญาว่าจะ​เดินหน้าผ่อนคลาย​การ​เงินอย่างจริงจัง หาก​เขา​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​ผู้ว่า​การบี​โอ​เจ

 

นอกจากนี้ นายคู​โรดะกล่าวว่า ​การ​ใช้จ่ายทาง​การคลังอย่างยืดหยุ่นของรัฐบาล ประกอบกับ​การ​ใช้กลยุทธ์​การขยายตัวทาง​เศรษฐกิจ​ในระยะกลาง​ถึงระยะยาว นั้น จะช่วย​ให้บี​โอ​เจบรรลุ​เป้าหมาย​การรักษา​เสถียรภาพด้านราคาด้วย​เช่นกัน

 

สกุล​เงินดอลลาร์สหรัฐ​ได้รับ​แรงหนุนมากขึ้นหลังจากกระทรวง​แรงงานสหรัฐ ​เปิด​เผยว่า ตัว​เลข​การจ้างงานนอกภาค​การ​เกษตร​เพิ่มขึ้น 236,000 ตำ​แหน่ง​ใน​เดือนก.พ. ​ในขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 7.7% ​ซึ่ง​เป็นระดับต่ำสุดนับตั้ง​แต่สิ้นปี 2551 บ่งชี้​ถึง​การปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อ​เนื่องของตลาด​แรงงาน

 

ส่วนสกุล​เงินยู​โร​แข็งค่าขึ้น​เมื่อ​เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ​แม้ฟิทช์ ​เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับ​ความน่า​เชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ BBB+ พร้อมกับ​ให้​แนว​โน้ม​เชิงลบ ​เนื่องจาก​ความ​ไม่​แน่นอนทาง​การ​เมือง หลังจากที่ผล​การ​เลือกตั้งของอิตาลี​ใน​เดือนที่​แล้วยัง​ไม่​ได้ข้อสรุป ที่ชัด​เจน

 

ที่มา : สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (12/03/56)

 

เศรษฐกิจกรีซหดตัวรอบใหม่ปลายปี 55(12/03/2556)

เศรษฐกิจกรีซหดตัว 5.7% ต่อปี ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 ส่งผลให้นับแต่ปี 2551 เป็นต้นมา เศรษฐกิจแท้จริงหดตัวไปแล้วร่วม 20%

 

อิสแตท สำนักงานสถิติแห่งชาติของกรีซ ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะได้ชดเชยจากตัวเลขขาดดุลการค้าในไตรมาสดังกล่าว ที่ลดลงมา 17.5% โดยตัวเลขทบทวนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แสดงให้เห็นการหดตัวน้อยกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย

 

อย่างไรก็ดี คาดว่า เศรษฐกิจโดยรวมในปีนี้ จะหดตัวเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดยทั้งรัฐบาล และธนาคารกรีซ ต่างคาดการณ์ว่า ในปี 2556 เศรษฐกิจจะหดตัวราว 4.5%

 

นักเศรษฐศาสตร์จากยูโรแบงก์ "พลาตัน โมโนครูซซอส" แสดงความเห็นว่า ข้อมูลเบื้องต้นยืนยันถึงการหดตัวอย่างต่อเนื่องในความต้องการท้องถิ่น โดยการบริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของจีดีพีกรีซ ร่วงลงมา 9% ต่อปี

 

ในไตรมาส 4 ของปี 2555 กรีซยังมีตัวเลขเงินทุนเพื่อการลงทุนโดยรวมลดลง 10.3% ซึ่งเป็นการค่อยๆ ปรับตัวลงมา เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนๆ นี้ ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดดังกล่าว ทำให้เกิดการประเมินว่าเศรษฐกิจกรีซ ตลอดทั้งปี 2555 น่าจะหดตัวราว 6.4% สอดคล้องกับที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้

 

ไม่เพียงแต่กรีซเท่านั้นที่ยังเจอกับการหดตัวอยู่ แต่ประเทศในกลุ่มยูโรที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน รวมถึง ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าอย่าง อิตาลี ซึ่งในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจอิตาลีหดตัวไป 0.9% เทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2555 ที่เศรษฐกิจหดตัวไป 2.8% โดยการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ อิตาลีคาดว่า ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจะหดตัวราว 2.7%

 

อิสแตท สำนักงานสถิติของอิตาลี ระบุว่า ในไตรมาสแรก เศรษฐกิจท้องถิ่นหดตัวไป 0.9% ไตรมาส 2 หดตัว 0.7% และ 0.2% ในไตรมาส 3 ซึ่งการหดตัวในไตรมาส 4 เป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน นับเป็นช่วงเวลาเศรษฐกิจซบเซาที่ยาวนานสุดในรอบ 20 ปี

 

ขณะผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า อาจต้องรอจนถึงไตรมาส 2 ของปีนี้ กว่าเศรษฐกิจอิตาลีจะเริ่มฟื้นตัว แต่นักวิเคราะห์บางรายก็เตือนว่า โอกาสการฟื้นตัวดังกล่าว อาจจะล่าช้าออกไปอีก เพราะภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองการเมือง หลังไม่มีพรรคการเมืองใดได้รับชัยชนะอย่างชัดเจนในการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไป

 

ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 12 มีนาคม 2556)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ปิดบวก 50.22 จุด นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร (12/03/2556)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มีนาคม 2556) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 50.22 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 14,447.29 จุด

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5.04 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 1,556.22 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 8.51 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 3,252.87 จุด

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากปัจจัยลบมากมาย รวมถึงข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ BBB+ พร้อมกับให้แนวโน้มเชิงลบ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากที่ผลการเลือกตั้งของอิตาลีในเดือนที่แล้วยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เศรษฐกิจอิตาลีในช่วงไตรมาสุดท้ายของปี 2555 ปรับตัวลง 0.9% จากช่วงไตรมาส 3 ปีเดียวกัน และหดตัวลง 2.8% จากช่วงไตรมาส 4 ของปี 2554 ส่วนจีดีพีของอิตาลีหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน โดยมีสาเหตุมาจากการปรับขึ้นภาษีและต้นทุนการกู้ยืมของประเทศที่สูงขึ้น ขณะที่รัฐบาลอิตาลีคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเผชิญภาวะถดถอยต่อไปอีก 2 ไตรมาส

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ขยายตัว 9.9% ซึ่งขยายตัวช้ากว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ราว 1.5% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 10.5%

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(11มี.ค.) ปิดบวกต่อเนื่อง ด้วยดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน จากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกาและนักลงทุนเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงการคลังสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยยอดขาดดุลงบประมาณเดือนก.พ.ของรัฐบาลสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณจะอยู่ที่ 2.05 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภมพันธ์ หลังจากที่สหรัฐมีการเกินดุลมุลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 12 มีนาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 20.05 จุดหลังดาว​โจนส์พุ่ง (12/03/56)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก​เมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) ​เพราะ​ได้​แรงหนุนจาก​การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ​ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยลด​แรงกดดันจากข่าวฟิทช์ ​เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับ​ความน่า​เชื่อถือของอิตา

 

​ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 20.05 จุด ​หรือ 0.31% ​แตะที่ 6,503.63 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอน​ได้รับ​แรงหนุนจาก​การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ​ซึ่งช่วยลด​แรงกดดันจากปัจจัยลบของข่าวที่ว่าฟิทช์ ​เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับ​ความน่า​เชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ BBB+ พร้อมกับ​ให้​แนว​โน้ม​เชิงลบ ​เนื่องจาก​ความ​ไม่​แน่นอนทาง​การ​เมือง หลังจากที่ผล​การ​เลือกตั้งของอิตาลี​ใน​เดือนที่​แล้วยัง​ไม่​ได้ข้อสรุป ที่ชัด​เจน

 

หุ้น​เอส​เอบีมิล​เลอร์ พุ่งขึ้น 1.4% หลังจากนักวิ​เคราะห์จาก​แบงก์ ออฟ อ​เมริกา ​แนะนำ​ให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นดังกล่าว หุ้นอัน​โตฟากัสต้า พุ่งขึ้น 2.4%

 

หุ้นธนาคารบาร์​เคลย์ส ร่วงลง 2.2% ขณะที่หุ้นรอยัล ​แบงก์ ออฟ ส​ก็อต​แลนด์ ดิ่งลง 1.6%

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (12/03/56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ครับป๋า เจ้อี๋ ซ้อ Pa และทุกท่าน โชคดีมีลำใยกันถ้วนหน้านะครับ :Hi

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความจริงทางวิชาการก็มีอยู่ว่าข้าวที่ขึ้นรานั้น จะอุดมด้วยอะฟลาท็อกซิน พิษจากเชื้อราซึ่งก่อมะเร็งตับและอาจเป็นมะเร็งที่อวัยวะอื่นได้อีกด้วย เนื่องจาก “ตามรอยข้าวเน่า เข้าปากคนไทย” มีอยู่เกลื่อนทั่วไปตอนนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

image-C272_513E880D.gif

 

คุณต่ายสบายดีเหรอคะ เรื่องลูกเรียบร้อยหรือ สวยเหมือนเดิมนะคะ ลูกชายตัวใหญ่นะคะ หน้าเหมือนกันเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลข ศก.สหรัฐสดใสหนุนทองปิดบวก $ 1.1

วันอังคาร, 12 มีนาคม 2556 07:39 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันอังคาร, 12 มีนาคม 2556 07:39

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,578 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ปีนี้

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ. และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 28.853 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.5 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.65 เซนต์ ปิดที่ 3.4925 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,601.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 779.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 3.55 ดอลลาร์

 

http://www.moneychannel.co.th

ถูกแก้ไข โดย Namchiang

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เชื่อมั่นศก.สหรัฐฯดาวโจนส์ทุบสถิติต่อ ทองคำขึ้น น้ำมันลอนดอนลง blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 มีนาคม 2556 05:29 น.

 

blank.gif 556000003148501.JPEG blank.gif เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลอนดอนขยับลงวานนี้(11) หลังข้อมูลทางเศรษฐกิจจีนก่อความกังวลทางอุปสงค์ ผิดกับตัวเลขการเติบโตของสหรัฐฯ ที่ยังดันดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับทองคำ ซึ่งยังปิดบวกได้เล็กน้อย

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ปิดที่ 92.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 63 เซนต์ ปิดที่ 110.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันตลาดลอนดอน เป็นผลมาจากข้อมูลอย่างเป็นทางการซึ่งเผยแพร่เมื่อวันเสาร์(11) ที่ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนกุมภาพันธ์ ของจีนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน

 

ทั้งนี้แม้ว่าตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม ซึ่งครอบคลุมถึงผลผลิตในเหมืองแร่ โรงงาน และสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2013 จะเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบแบบรายปี แต่หากเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2012 ถือว่าชะลอตัวลง และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(11) ปิดบวกต่อเนื่อง ด้วยดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน จากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกาและนักลงทุนเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพ ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด

 

ขณะเดียวกันจากการที่หุ้นของแอปเปิล พุ่งขึ้นปิดบวกได้ร้อยละ 1.4 ในช่วงท้ายของการซื้อขาย ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักให้ เอสแอนด์พี 500 เป็นดัชนีอีกตัว ที่จ่อทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลด้วย

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 50.22 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,447.29 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 8.50 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,252.87 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.04 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,556.22 จุด ห่างจากสถิติปิดสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำเอาไว้เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2007 เพียงแต่ 9 จุด

 

ตลาดทุนสหรัฐฯ ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2013 จากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและแรงหนุนของประสิทธิภาพมาตรการผ่อนคลายทาง การเงินเชิงปริมาณของธนาคารกลางอเมริกา

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(4) ปิดบวกเล็กน้อย จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง สืบเนื่องจากมีแรงกดดันบางส่วนต่อสกุลเงินยูโร โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,578 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตือนภัยซื้อขายทองคำต่างแดน ระวังมิจฉาชีพในแอฟริกา

 

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2556 เวลา 09:27 น.

 

 

 

189775.jpg

 

ในปัจจุบัน ธุรกิจการค้าทองคำถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างมากให้กับเหล่า นักลงทุน กล่าวได้ว่าใครถือครอบครองทองคำไว้ย่อมเป็นหลักทรัพย์สินที่มั่นคงอย่างมาก โดยเมื่อต้นปี 2556 ที่ผ่านมา มีนักธุรกิจชาวไทยทำสัญญาซื้อขายทองคำกับบริษัทในประเทศคองโก โดยทองคำที่สั่งซื้อนั้นจะต้องเดินทางผ่านประเทศเคนยา และส่งมาประเทศไทยเป็นที่หมายสุดท้าย ซึ่งนักธุรกิจรายนี้ได้ทราบว่าการซื้อทองคำจากคองโกนั้นมีราคาต้นทุนที่ ถูกกว่าการซื้อที่อื่น แต่ทว่าเหตุการณ์กลับพลิกผันหลังจากที่ทราบว่าทองคำที่สั่งไปนั้นถูกยึดโดย เจ้าหน้าที่สนามบินในประเทศเคนยา และเมื่อมีการสอบถามไปยังบริษัทที่ทำธุรกรรมด้วย บริษัทดังกล่าวกลับหนีหายไป จนเมื่อสืบทราบ จึงได้รู้ว่าเป็นวิธีของเหล่ามิจฉาชีพ ในทวีปแอฟริกาที่หลอกให้นักธุรกิจไทยโอนเงินข้ามประเทศเพื่อซื้อทองคำ ก่อนที่จะหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งกว่านักธุรกิจผู้นั้นจะรู้ตัวนั้น ก็เสียเงินไปแล้วหลายล้านบาท

วิธีของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้จะกระทำในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ด้วยการอ้างว่าเป็นผู้ขายสินแร่ทองคำ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีให้นักธุรกิจที่มาติดต่อหลงเชื่อ เมื่อนักธุรกิจมาติดต่อซื้อสินค้าและชำระเงิน ก็จะชิ่งหนีหายไป เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลัง โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาที่เป็นแหล่งค้าทองคำสำคัญของโลก โดยนักธุรกิจไทยจำนวนมาก ถูกหลอกลวงให้ซื้อทองคำและเพชร และด้วยความที่เหยื่อมักจะไม่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบสินค้า รวมถึงการทำธุรกรรมข้ามประเทศนั้นมีขั้นตอนที่ซับซ้อน จึงทำให้ถูกเหล่ามิจฉาชีพเชิดเงินไปได้อย่างง่ายดาย

หากคนไทยประสงค์ที่จะติดต่อซื้อขายสินแร่ทองคำจากทวีปแอฟริกานั้น ควรมีการทำธุรกรรมหรือติดต่อกันที่ประเทศไทยหรือในสถานที่ที่สามารถตรวจสอบ สิ่งต่าง ๆ ได้โดยสะดวก เพื่อที่จะได้ทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทที่จะทำธุรกรรม รวมถึงเอกสารและสินค้าที่อย่างน้อยผู้ซื้อจะได้เห็นและได้ทราบด้วยตัวเอง ซึ่งน่าจะดีกว่าการสั่งซื้อข้ามประเทศที่อาจจะ ไม่เห็นสินค้าโดยตรงก็เป็นได้

แม้ว่าการสั่งซื้อของข้ามประเทศผ่านช่องทางต่าง ๆ จะเป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการที่เทคโนโลยีและช่องทางการซื้อขายจะมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น แต่การทำธุรกรรมต่าง ๆ นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบถึงที่มาของสินค้า และผู้ขายสินค้า ว่ามีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะของที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการพิจารณาอย่างทองคำหรือเพชร ที่ผู้ซื้อควรจะได้เห็นสินค้าและตรวจสอบให้ละเอียดเสียก่อน โดยเฉพาะของที่มีมูลค่าสูง และอย่าหลงเชื่อเพียงเพราะว่าจะได้ซื้อของในราคาที่ถูกกว่าที่อื่น เพราะอย่างที่เขาว่ากันว่า ของถูกไม่ใช่ของดี และของฟรีไม่มีในโลก!

ไท ดูโต

 

http://www.dailynews.co.th/article/842/189775

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"เบรนท์ร่วงต่อ หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาแย่ ส่วน WTI ขึ้น หลังดอลลาร์อ่อนค่า"

เบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับลดลง 0.63 ปิดที่ 110.22 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.11 ปิดที่ 92.06 เหรียญฯ

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาต่ากว่าคาด โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ม.ค. - ก.พ. ขยายตัว 9.9% จากปีก่อน ซึ่งนับเป็นการขยายตัวที่น้อยที่สุดนับจากต.ค. ปีก่อน ส่วนยอดค้าปลีกโตเพียง 12.3% ต่าสุดในรอบ 9 ปี ชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนช้ากว่าที่คาดไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันอันดับ 2 ของโลก

- นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือน ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.2% จากปีก่อน มากกว่าคาดที่ 3% เนื่องจากราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้นมาก ซึ่งความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นนั้น จะกดดันรัฐบาลจีนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้

- การผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโอเปกในเดือน ก.พ.ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปรับขึ้น 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวันจากเดือน ม.ค. โดยซาอุฯ ส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ก.พ. ลดลง ส่งสัญญาณว่าความต้องการใช้น้ำมันของโลกมีแนวโน้มปรับลดลง

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 8 มี.ค. คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านบาร์เรล เนื่องจากมีการนาเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นและโรงกลั่นเตรียมปิดซ่อม

+ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร เนื่องจากนักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์เพื่อทากาไร หลังเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากเมื่อวันศุกร์จากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดี โดยนักลงทุนมีการโยกย้ายเงินกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นและน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้นมาปิดในแดนบวกวานนี้

+ อย่างไรก็ตาม ปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่ยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ราคาน้ำมันไม่ปรับลดลงไปมากกว่านี้ โดยการสู้รบในซีเรียระหว่างรัฐบาลและกลุ่มกบฎที่กินเวลากว่า 2 ปี ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อสถานการณ์การสู้รบจะลุกลามไปยังประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายอื่น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่ปรับสูงขึ้นจากภาวะอุปทานตึงตัว

ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในเอเชียมีแนวโน้มปรับลดลง หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาไม่ดีนัก

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้เบรนท์ 108-115 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 88-95 เหรียญ ตลาดเฝ้าจับตาการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลีและการผ่านแผนงบประมาณประจาปีของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

ส่วนในวันนี้ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำมันประจาเดือนมี.ค. ของ EIA ของสหรัฐฯ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันอังคาร: ดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี การผลิตภาคอุตสาหกรรมอังกฤษ

วันพุธ: ยอดขายปลีกสหรัฐฯ การผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน

วันพฤหัส: ดุลบัญชีเดินสะพัดสหรัฐฯ ตัวเลขการจ้างงานยูโรโซน ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ รายงานธนาคารกลางยุโรป

วันศุกร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯและยูโรโซน ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์ค ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ(ม.มิชิแกน)

- รายงานสถานการณ์น้ำมันประจาเดือน มี.ค. ของสานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ในวันที่12 มี.ค. รวมถึงรายงานของสานักงานพลังงานสากล (IEA) และโอเปกในวันที่ 13 มี.ค.

- จับตาการเปิดประชุมสภาของอิตาลี เพื่อการจัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่ในวันที่ 15 มี.ค. หลังผลการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมายังไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากทั้งในสภาสูงและสภาล่าง ซึ่งถ้าหากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สาอิตาลีอาจจาเป็นต้องมีการแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราวเพื่อรักษาการณ์จนกว่าจะมีการกาหนดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง

- ติดตามความคืบหน้าของการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีของสหรัฐฯ โดยวุฒิสภาในสัปดาห์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการที่สหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับภาวะขาดงบประมาณของประเทศซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 มี.ค. นี้ หลังร่างดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากสภาผู้ทนราษฎรแล้วเมื่อวันที่ 6 มี.ค.

- การเลือกตั้งของเวเนซุเอลาที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 เม.ย. นี้ ติดตามว่ารองประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรจะได้รับเลือกตั้งตามที่อดีตประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซตั้งใจไว้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างๆ ของประเทศและความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย

- ติดตามการกลับมาส่งออกน้ำมันซูดานใต้อีกครั้ง หลังความรุนแรงระหว่าซูดานและซูดานใต้คลี่คลายและมีข้อตกลงจะถอนกาลังทหารที่บริเวณชายแดนออกตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. เป็นต้นไป

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 12 มีนาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาวอิตาลี 6.7 ล้านคนกำลังเผชิญพิษเศรษฐกิจขั้นรุนแรง Air conditioners(12/03/2556)

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) และสภาเศรษฐกิจและแรงงานแห่งชาติ (CNEL) ได้ออกมาเปิดเผยรายงานร่วมวานนี้ (11 มีนาคม 2556) ว่า ชาวอิตาเลียนราว 6.7 ล้านคน หรือ 11.1% ของประชากรทั้งประเทศ เผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ

โดยรายงานระบุว่าดีชนีชี้วัดประชากรที่ประสบกับความยากลำบากอย่างหนักได้ พุ่งขึ้นแตะ 11.1% ในปี 2554 จาก 6.9% ในปี 2553 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีชาวอิตาเลียนเผชิญกับสภาพที่ทุกข์ยากอย่างหนักเพิ่ม ขึ้น 2.5 ล้านคน

 

นอกจากนี้ การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนยังลดลง 5% ในช่วงปี 2550-2554 จากผลกระทบของวิกฤตที่มีต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรวัยหนุ่มสาวที่อายุระหว่าง 15-29 ปี ไม่ได้เข้ารับการฝึกงานหรือไม่มีงานทำในปี 2554 ขณะที่อัตราจ้างงานในกลุ่มประชากรวัย 20-64 ปี ลดลงจาก 63% ในปี 2551 สู่ระดับ 61.2% ในปี 2554

 

ทั้งนี้ ล่าสุด ฟิทช์ เรทติ้งส์พิจารณาว่าวิกฤติเศรษฐกิจในอิตาลีมีความรุนแรงแรงที่สุดในยุโรป และได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงจาก A- สู่ระดับ BBB+ โดยแนวโน้มอยู่ในเชิงลบ อันเนื่องมาจากผลการเลือกตั้งในเดือนที่แล้วที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน ซึ่งมีแนวโน้มว่าอิตาลีจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ เนื่องจากพรรคการเมืองฝ่ายกลาง-ซ้ายไม่มีคะแนนเสียงมากเพียงพอที่จะครอง เสียงข้างมากในวุฒิสภา แม้ว่าจะได้รับชัยชนะเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งก็ตาม

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 12 มีนาคม 2556)

 

 

พิษเศรษฐกิจไซปรัซกระทบกรีซเพิ่ม เล็งชงหารืออียูสัปดาห์นี้(12/03/2556)

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วานนี้ (11 มีนาคม 2556) นายกรัฐมนตรี อันโตนิส ซามาราส ของกรีซ ได้ออกมาแถลงหลังเข้าร่วมการประชุมกับประธานาธิบดี นิคอส อนาสตาเซียเดส ของไซปรัส ว่า ขณะนี้กรีซกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก

เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปัญหาเศรษฐกิจของไซปรัส แฃะกรีซเตรียมนำปัญหาดังกล่าวเข้าปรึกษากับที่ประชุมของสหภาพยุโรปในปลาย สัปดาห์นี้

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 12 มีนาคม 2556)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 29.69/71 แข็งค่าจาก Flow มองกรอบ 29.50-29.70 (12/03/2556)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 29.69/71 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 29.72/74 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุดเงินบาทปรับตัวแข็งค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 29.57/59 บาท/ดอลลาร์

"ล่าสุดเงินบาทแข็งค่าลงมามากๆ แข็งค่าอยู่คนเดียว สกุลอื่น ไม่ค่อยแข็งค่า เข้าใจว่ามี Flow เงินเข้ามา"นักบริหารเงิน กล่าว

ทั้งนี้ ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 29.50-29.70 บาท/ดอลลาร์

 

*ปัจจัยสำคัญ

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร ธปท.วันนี้อยู่ที่ 29.7540 บาท/ดอลลาร์

- เช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 96.59/63 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 96.11/14 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3036/3039 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.3004/3007 ดอลลาร์/ยูโร

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม หากนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจ

- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานของสหรัฐในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นแตะ 111.14 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี จาก 109.93 ในเดือนม.ค. และดัชนีดีดตัวขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

- วานนี้ (11 มี.ค.) ดัชนี SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,577.65 จุด เพิ่มขึ้น 10.73 จุด(+0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 68,483.81 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 19 ปี ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 230.56 ลบ.(SET+MAI)

- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,578 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ปีนี้

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้นขึ้น 12 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 14,700 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,590.14 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจอิตาลีในช่วงไตรมาสุดท้ายของปี 2555 ปรับตัวลง 0.9% จากช่วงไตรมาส 3 ปีเดียวกัน และหดตัวลง 2.8% จากช่วงไตรมาส 4 ของปี 2554

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 12 มีนาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บาทเช้าวันนี้แข็งมาก 29.587

ราคา Spot ขึ้นไปทัน ค่าเงินบาท + อาแปะไม่กั๊กแล้ว > ราคาขายวันนี้ จึงถูกกว่าเมื่อวานนี้ โชคดีที่ เมื่อวานไม่ได้เข้าไปรับมีดแหลม.

 

ปล. จริงๆ ราคาขาย 22,250 เมื่อวานก็เกิดขึ้น จากร้านทองตู้แดงที่ซีคอน นาย. ฮ. ลดราคาให้ 50. บาท และวันนี้หลังจากมีส่วนลดก็คงต่ำกว่า 22,250 บาท

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"อีซีบี" ก้าวไม่ทันปัญหาหนียูโรเสี่ยงปะทุซ้ำ (12/03/2556)

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วสำหรับการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการ เงินธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% เอาไว้ต่อไปเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมกับได้ตัดลดคาดการณ์จีดีพีในปีนี้ว่าจะหดตัวลงต่อเนื่องจากปีก่อน โดยลดลงมาอยู่ที่ติดลบ 0.5% จากเดิมติดลบ 0.3% ขณะที่ปี 2012 หดตัวลงติดลบ 0.6%

 

แม้ว่าการตัดสินใจของอีซีบีในการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เอาไว้ในครั้งนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าอีซีบียังคงไม่ไว้วางใจต่อสถานการณ์วิกฤต หนี้ยุโรปอยู่ แต่นั่นก็ได้สร้างความผิดหวังให้กับเหล่าบรรดาผู้กำหนดนโยบาย และผู้ติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าวิกฤตหนี้ยุโรปอย่างมาก

 

เพราะมติของอีซีบีที่ออกมาในครั้งนี้ ดูจะล่าช้าไม่ทันการณ์กับความเป็นไปของปัญหาในปัจจุบันเลย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยจากผลการเลือกตั้งในอิตาลีที่ไม่มีพรรคไหนได้รับชัยชนะ ขาด จนอาจส่งผลให้การจัดตั้งรัฐบาลไม่เข้มแข็ง และนั่นก็ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจตามไปด้วย

 

ล่าสุด บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชื่อดัง ได้ออกมาตัดลดเครดิตรัฐบาลอิตาลีลงมาเหลือยู่ที่ BBB+ แล้ว พร้อมกับเสริมว่า ในอนาคตอาจตัดลดลงอีก เนื่องจากรัฐบาลแดนมะกะโรนีส่อแววว่าจะไร้เสถียรภาพจากผลการเลือกตั้งที่ไม่ มีฝ่ายไหนชนะเด็ดขาด ขณะที่ในปีนี้เศรษฐกิจของอิตาลีคาดว่าก็จะยังคงหดตัวที่ลบ 1.8% ในปีนี้ ขณะที่ปีก่อนหดตัวที่ติดลบ 2.4%

 

ขณะที่ปัจจัยตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ ก็มีทีท่าว่าจะเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง เช่น การว่างงานในสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะขยับสูงขึ้นต่อไปที่ 12.2% ขณะที่ดัชนีภาคการผลิต (พีเอ็มไอ) ที่จัดทำโดยบริษัท มาร์กิต ก็ออกมาเผยแล้วว่า ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะหดตัวต่อเนื่องต่อไปที่ 47.9 จุด ขณะที่เดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 48.6 จุด

 

นอกจากนี้ เมื่อฟังเหตุผลการตัดสินใจของอีซีบีที่ระบุว่าจะยังคงนโยบายที่เหมาะสมต่อไป ตราบเท่าที่มีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง และอีซีบีจะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเลือกลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงภาวะเศรษฐกิจ เมื่อไรนั้น ก็ดูเหมือนจะเป็นเครื่องตอกย้ำได้ชัดว่า อีซีบีไม่ได้ตระหนักถึงความเร่งด่วนของปัญหาเลยแม้แต่น้อย

 

จึงไม่แปลกใจที่มติของอีซีบีที่ออกมาในครั้งล่าสุดจะได้รับเสียงก่นด่ามากกว่าคำชม

 

ตอกย้ำได้จากแถลงการณ์ของ คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ออกมากล่าวเตือนสติธนาคารกลางยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ว่า อีซีบียังคงมีช่องว่างในการอัดฉีดโดยใช้นโยบายการเงินเพิ่มเติมได้อยู่ เห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 1.8% ในเดือนที่แล้ว ในขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อปีนี้ยูโรโซนน่าจะอยู่ที่ 1.6% และคาดว่าจะลดลงไปเหลืออยู่ที่ 1.4% ในปี 2014

 

“เหล่าบรรดาผู้กำหนดนโยบายของอีซีบีควรจะสร้างความมั่นใจต่อการใช้ มาตรการที่ช่วยประคับประคองทิศทางการฟื้นตัวไปจนกว่าจะมีการจ้างงานและค่า จ้างกลับมาอย่างแข็งแกร่งเสียก่อน” ลาการ์ด กล่าว

 

หากกล่าวเข้าใจง่ายกว่านั้นก็คือ ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟต้องการจะบอกกับยุโรปว่า อย่าเพิ่งวางใจกับมาตรการที่ใช้อยู่ เพราะการนิ่งนอนใจต่อการใช้มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ในตอนนี้นั้น อาจทำให้วิกฤตหนี้ยุโรปกลับมาเลวร้ายลงอีก โดยเฉพาะการว่างงานในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ยังสูงอยู่ถึง 11.9% หรือมีคนตกงานมากกว่า 19 ล้านคน

 

ฉะนั้น อีซีบีจึงควรเพิ่มบทบาทในการลุยกระตุ้นและประคับประคองสถานการณ์เศรษฐกิจให้ มากกว่านี้ โดยเฉพาะในเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่อีซีบียังมีความสามารถที่จะแสดงบทบาทได้ อยู่

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายฝ่ายพยายามเถียงว่า ที่ผ่านมาอีซีบีได้ดำเนินบทบาทเชิงรุกมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (แอลทีอาร์โอ) ถึง 2 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 1.01 ล้านล้านยูโร (ราว 39.39 ล้านล้านบาท) หรือมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศที่ประสบปัญหา (โอเอ็มที) แต่มาตรการเหล่านั้นที่ออกมาก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากปัจจัยและแรงบีบทางการ เมือง มากกว่าจะเป็นการตัดสินใจที่เกิดจากการเห็นพ้องของอีซีบีเอง

 

เพราะส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า ในมุมมองที่อีซีบีมีต่อหน้าที่ของตนเองก็มักจะยึดติดอยู่กับการมองว่าองค์กร ดังกล่าวมีหน้าที่เป็นแค่ผู้ช่วยและให้การสนับสนุนเท่านั้น ไม่ใช่ผู้มีบทบาทหลักในการแก้ปัญหาเหมือนเช่นรัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายรัฐ ฉะนั้น จึงทำให้ “อีซีบี” เลือกที่จะดำเนินนโยบายและมาตรการอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด

 

จึงเป็นที่น่าจับตาว่า ผลจากการประชุมและการตัดสินใจคงดอกเบี้ยของอีซีบีเอาไว้ครั้งนี้ จะส่งผลต่อภาวะวิกฤตหนี้ยุโรปให้กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้งหนึ่งตามที่หวาด กลัวกันไว้หรือไม่

 

ที่มา : โพสต์ทูเดย์(วันที่ 12 มีนาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...