ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ดร.โกร่งหนักใจคลังขัดแย้งธปท.แก้ค่าเงิน(03/05/2556)

วีรพงษ์" หวังรมว.คลังและผู้ว่าธปท.ร่วมหาทางออกแก้บาทแข็ง หลังกระทบการส่งออกและสภาพคล่องธปท.แล้ว

 

นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อ เนื่อง โดยกังวลว่าจะนำไปสู่การเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า รู้สึกอึดอัดต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างรมว.คลังและผู้ว่าการธปท. ทั้งแสดงท่าทีกดดันการทำงานของผู้ว่าการธปท.

 

นายวีรพงษ์ ระบุว่า อำนาจการสั่งปลดผู้ว่าการธปท.ไม่ใช่อำนาจของคณะกรรมการธปท.เสียงข้างมาก แต่เป็นต้องเป็นอำนาจของรมว.คลังที่จะเสนอต่อนายกฯ และเสนอให้ครม.ปลด แต่ตนไม่อยากให้ไปถึงขั้นนั้น เพียงแต่ออกมาพูดเตือนด้วยความหนักใจ ขณะที่การลดอัตราดอกเบี้ยจะลดปัญหาค่าเงินบาทได้ แต่คงไม่พอต้องมีมาตรการอื่นๆเสริม

 

“ถ้าเป็นอย่างนี้ มันไม่ไหวนะ ตำแหน่งผมไม่ใช่รมว.เป็นแค่กรรมการเล็ก ส่วนทางออกของปัญหานี้ ก็ได้พูดมานานแล้ว และการลดเบี้ยอาจจะยังไม่เพียงพอ”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ ระบุ เท่าที่ไปเป็นประธานธปท.มาปีกว่า ก็เห็นชัดทีเดียวว่าการทำงานของธปท.กับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลังมีปัญหา ทั้งๆที่ความจริงแล้วการดำเนินนโยบายการเงินและนโยบายการคลังจะต้องสอด ประสานเพื่อให้เกิดเสถียรภาพกับระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

 

“การปรึกษาหารือกันระหว่างผู้ว่าธปท.และรมว.คลังเท่าที่ผมเห็นมา มีปัญหามาโดยตลอด การทำงานของธปท.ก็มีปัญหา เมื่อเกิดความเสียหายกับผู้ส่งออกและระบบเศรษฐกิจ ต่างก็โยนความผิด โยนความรับผิดชอบ ผู้ว่าการฯก็บอกเป็นหน้าที่กนง.ทำอะไรไม่ได้ รมว.คลังก็บอกว่าเป็นหน้าที่ธปท. ทางธปท.ก็บอกว่ามีมาตรการหลายอย่างกระทรวงการคลังทำไมไม่ทำ ตกลงผลเสียก็เลยเกิดขึ้นกับประเทศชาติ ประชาชน โดยไม่รู้ความรับผิดชอบอยู่ที่ไหน”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ กล่าวว่า แม้ว่าพ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดให้รมว.คลังเป็นผู้กำกับดูแลและควบคุมการดำเนินงานโดยส่วนรวมของธปท. แต่รมว.คลังไม่อาจก้าวก่ายการทำงานของธปท.ได้ แต่เมื่อเกิดความเสียหาย รมว.คลังก็ไม่อาจรับผิดชอบต่อรัฐสภาได้ เพราะแม้จะเป็นผู้รักษาการตามพ.ร.บ.แต่ก็ไม่สามารถคุยหรือประสานงานกับผู้ ว่าธปท.ได้

 

ขณะที่ผู้ว่าการธปท.ก็บอกว่าตนเองก็ไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะมีหน้าที่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ส่วนกนง.มาจากไหนก็ไม่ทราบ ซึ่งตนไปดูรายชื่อก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจมหภาคเลยแม้แต่คนเดียว แต่กลับมีอำนาจมหาศาล ใครพูดทักท้วง ใครพูดติติงอะไร ก็ไม่มีผลอะไร

 

“อันนี้ผมเชื่อว่า ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ ก็เห็นท่าจะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกับประเทศชาติและประชาชน สถานการณ์ตอนนี้ก็ย่ำแย่แล้ว เห็นชัดว่าผู้ส่งออกได้รับความเสียหาย อุตสาหกรรมใหญ่ๆ ที่ว่าจะมีศูนย์อยู่ที่ประเทศไทย หากสถานการณ์ยังดำเนินไปอย่างนี้ คงเป็นไปไม่ได้”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายธปท.บอกว่ามีมาตรการหลายอย่างที่จะทำ แต่ตนไม่ทราบว่ามาตรการหลายอย่างอันลี้ลับนี้มีอะไรบ้าง จะงัดออกมาใช้ได้เมื่อใด เมื่อไหร่ ที่จะไม่เกิดผลข้างเคียง และเกิดความเสียหายต่อประชาชนทั้งประเทศ เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าค่าเงินบาทแข็งผิดปกติกว่าประเทศใดๆในโลกตั้งแต่ ต้นปี สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แต่ก็หาคนรับผิดชอบไม่ได้

 

“ผมในฐานะประธานธปท.ก็รู้สึกอึดอัด รู้สึกเป็นกังวลต่อเหตุการณ์ที่จะมาข้างหน้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะมองไปแล้วที่บอกว่าจะมีมาตรการหลายอย่าง นอกจากดอกเบี้ยก็ไม่เห็นมีอะไร ซักไซ้ไล่เรียงว่ามีอะไรก็ตอบไม่ได้ และก็ไม่มีอะไรมา 4 ปีแล้ว”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ ย้ำว่า รู้สึกหนักใจ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ว่าฯและรมว.คลังได้ เพราะต่างฝ่ายต่างพูดกันไปพูดกันมา พอรมว.พูดไป ผู้ว่าการธปท.ก็สวนมา ทางธปท.ก็อธิบายไป บางเรื่องตนก็เห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยในหลักวิชา ส่วนรมว.คลังก็แสดงความต้องการอยากเห็นเศรษฐกิจขยายตัว ทางนี้ก็สวนกันไปสวนกันมา

 

“ผมได้แต่หนักใจ ท่านทั้งสองเป็นผู้หลักผู้ใหญ่กว่าผม และผมก็แสดงความหนักใจทุกครั้งในคณะกรรมการทุกครั้งที่มีการประชุม หนังสือตอบที่ท่านคาดโทษ ผมก็ตอบมา ท่านก็หายไป ผมก็ถือว่าผมเป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่งจะให้เป็นตัวกลางเป็นท้าวมาลีวราช มันก็ไม่ใช่หน้าที่ ถ้าเขาฟังก็ดีไป ถ้าไม่ฟังก็เสียหน้า ขณะที่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะความความเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็ไม่ปรับกัน”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ ระบุว่า ที่ผ่านมาตนได้เตือนให้แก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าตั้งแต่ตอนที่ค่าเงิน บาทอยู่ที่ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แต่จนถึงบัดนี้ค่าเงินบาทต่ำกว่า 29 บาทต่อเหรียญสหรัฐไปแล้ว และเด้งมาเป็น 29 บาทเศษ เพราะปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งยังดำรงอยู่ คือ ความแตกต่างระหว่างดอกเบี้ยของเรากับดอกเบี้ยต่างประเทศ

 

“ผมก็ชี้ให้เห็นมานานแล้ว แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมพูดที่ผมกังวลทุกประการ เมื่อให้ผมมาระบายความทุกข์ใจผมก็มา”นายวีรพงษ์กล่าว

 

ส่วนการผ่าทางตันในการแก้ปัญหาค่าเงินบาทนั้น นายวีรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจอะไรทั้งสิ้น เมื่อเปิดดูกฎหมายก็บอกว่าคณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลการดำเนินงาน ของธปท. โดยทั่วไป ยกเว้นแต่งานที่เป็นอำนาจหน้าที่ของกนง. คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) และคณะกรรมการระบบการชำระเงิน (กรช.) แต่เป็นเมื่อคณะกรรมการธปท.ต้องรับผล คือ มีความรับผิดชอบแต่ไม่มีอำนาจ

 

“ผมก็ถามว่าการขาดทุนทุกปีๆ และผลการดำเนินงานขาดทุนติดลบเมื่อสิ้นปี 2555 กว่า 5.3 แสนล้านบาท ไตรมาส 1 เพิ่มเป็น 8 แสนล้านบาทกว่า และกำลังจะไปเป็น 1 ล้านล้านบาทในไม่ช้านี้ และเหมือนต้มยำกุ้งที่เราเสียหาย 1.14 ล้านล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรรมการ และกรรมการก็ทำอะไรไม่ได้เลย”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ ย้ำว่า สาเหตุการขาดทุนของธปท. เป็นเพราะการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตลาดโลก ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินก็ไหลเข้า พอเงินไหลเข้าบาทแข็งก็ตกใจ ต้องนำเอาเงินสดซื้อเงินเหรียญสกรัฐดอลลาร์ และออกพันธบัตรดูดสภาพคล่องที่มีดอกเบี้ยสูง ได้เงินเหรียญสหรัฐที่ให้ผลตอบแทนต่ำ แต่ก็ไม่ได้ผลอะไร เพราะในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าจาก 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จนบัดนี้ต่ำกว่า 30 ก็ยังไม่เห็นฝั่ง ตนก็ได้แต่เตือน

 

“รมว.คลังทำหนังสือมาคาดโทษผมว่าฐานะงบดุลของธปท.ขาดดุลมากมายอย่างนี้ กรรมการต้องรับผิดชอบ ผมก็บอกว่ากรรมการก็ได้หยิบยกเรื่องนี้มาคุยทุกครั้ง ทุกเดือนที่มีการประชุม แต่ก็ไม่มีผลอะไร ดูในรายงานประชุมของกนง. ผู้ว่าการก็ไม่ได้หยิบยกเรื่องที่กรรมการกังวลเข้าไปหารือในกนง.ก็ทำได้เท่า นี้ ก็ทำหนังสือตอบรมว.คลังไปอย่างนี้ ท่านจะเอาโทษเอาโพยอะไรก็ต้องยอมรับ และไปชี้แจงว่าเป็นอย่างนี้”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ ยังกล่าวว่า มีการนำความคิดเห็นของเสียงข้างมากในคณะกรรมการธปท.เตือนและติงผู้ว่าการ ธปท.เกี่ยวกับการขาดทุนของธปท.ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ไปตรวจในรายงานการประชุมก็ได้ และบอร์ดก็ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาคณะหนึ่งมีดร.คณิต แสงสุพรรณ เป็นกรรมการให้สอบข้อเท็จจริง

 

“เขาตรวจสอบว่า ความเสียหายกับงบดุลธปท.เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีวิธีการแก้ไขอย่างไร เขาก็เสนอมาว่าเหตุผลเป็นอย่างไร และแก้ไขอย่างไร และรายงานนี้ก็ได้ส่งให้ผู้ว่าฯ ให้ผู้ว่าธปท.แจ้งกนง.เพื่อทราบ ท่านผู้ว่าฯก็ดูเหมือนจะไม่เดือดร้อนหรอก เพราะท่านบอกว่า ธปท.ขาดทุนได้ไปเรื่อยๆ ถ้าอย่างนั้น เมื่อตอนเกิดต้มยำกุ้งก็ไปโยนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯมาที่กระทรวงคลัง และใช้เงินภาษีชำระดอกเบี้ยมา 15 ปีๆละ 6 หมื่นล้านบาทมาเรื่อยๆ ประชาชนต้องควักเงินแดงๆมาชำระหนี้ให้ธปท.หรือกองทุนฟื้นฟูฯที่จัดขึ้นภาย ใต้พ.ร.บ.ธปท.ก็ตอบไม่ได้”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ ระบุว่า ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดในเรื่องนี้ คือ นายกฯ รองลงมาคือ รมว.คลัง แต่เท่าที่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ ตนคิดว่านายกฯไม่อาจรับผิดชอบต่อรัฐสภาเลย หากเกิดปัญหารุนแรงถึงขั้นเศรษฐกิจล้มละลาย หากเงินบาทยังแข็งไปเรื่อยๆถึงจุดหนึ่งก็จะมีปัญหา แต่ปัญหาจะกลับกันกับตอนที่เงินบาทควรจะอ่อนเราไม่ให้อ่อน

 

“ก็ต้องฝากนายกฯให้ดูแล ซึ่งผมไม่ทราบว่านายกฯมีสิทธิถอดถอนหรือไม่ แต่ผมไม่อยากให้ไปถึงขั้นนั้น อย่าให้ผมแสดงความเห็นมากกว่านี้เลย ผมแสดงความหนักอกหนักใจ วิตกกังวลต่อปัญหาประเทศนี้ แต่ที่จริงปัญหามันแก้ไขได้ เพราะเป็นปัญหาขององค์กร ระบบบริหารราชการแผ่นดินของประเทศเรามากกว่า ซึ่งผมไม่อยากก้าวก่ายงานรมว.คลังหรือรัฐบาล เพียงแต่อยากไปเรียนรมว.คลังแทน ว่าประธานแบงก์ชาติหนักใจกังวลและวิตกว่ามันจะเกิดวิกฤติระบบเศรษฐกิจของ ชาติ”นายวีรพงษ์กล่าว

 

นายวีรพงษ์ ย้ำว่า ค่าเงินบาท ณ ขณะนี้ก็สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการส่งออกแล้ว แต่ธปท.กลับพูดเองเออเองว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ ทั้งๆที่เศรษฐกิจจะพังทลายอยู่แล้ว จึงอยากฝากถึงรมว.คลังว่า บ้านเมืองมาถึงจุดนี้แล้วข้างหน้าเห็นอยู่แล้วว่า มันจะเดินลงเหว ขอฝากบ้านฝากเมืองไว้กับรมว.คลัง

 

“ค่าเงินที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ก็ กระทบแล้ว ต่ำกว่า 30 บาท ก็ทยอยกันพังแล้ว ส่วนที่แบงก์ชาติบอกว่า 27 บาทยังโตได้ 4% อันนี้เขาก็พูดของเขาเอง เออเอง ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วย ผมอยู่เอกชนผมรู้ดี และที่การลดอัตราดอกเบี้ยไม่สามารถลดการไหลเข้าของเงินทุน อันนั้นเขาก็พูดของเขาเอง ซึ่งไม่มีใครเห็นด้วย เขาพูดเป็นนกแก้วนกขุนทองที่วังบางขุนพรหม”

 

นายวีรพงษ์ ระบุว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า คือ แรงงานในต่างประเทศที่ผลิตของให้ประเทศไทยใช้ ธนาคาร นักค้าเงิน และนักเก็งกำไร ส่วนผู้ที่เสีย คือ แรงงาน ชาวไร่ ชาวนาในประเทศไทย

 

“วันก่อนก็เจอนักเก็งกำไรบอกขอร้องว่าอย่ามาเลย เขาบอกว่าประเทศไทยแหมดีเหลือเกิน ดอกก็ดี อะไรก็ดี ผลตอบแทนก็ดี กำลังเตรียมเงินมาเยอะแยะเลย และผมเองก็ไม่มีอำนาจไปกดดันให้ใครลาออก แต่นี่ก็พูดแรงเกินไปแล้ว ส่วนคำแนะนำเรื่องลดดอกเบี้ยให้มา 4 ปีแล้ว ดอกเบี้ยเมืองนอกไม่ถึง 1% แต่เรา 2.75% ก็คิดตัวเลขง่ายๆก็แล้วกันว่าจะลดดอกเบี้ยเท่าไหร่”นายวีรพงษ์กล่าว

 

ที่มา : โพสต์ทูเดย์(วันที่ 3 พค.56)

[Pete 15,187]

เสียโอกาสจาก "บาทแข็ง"(03/05/2556)

ใน ยามที่เงินบาทแข็งค่า เสียงเรียกร้องให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเพื่อให้ "บาทอ่อน" กังวลว่าจะกระทบส่งออกซึ่งจะกระทบจีดีพีตามไปด้วย เสียงของฝั่งที่อยากให้ลดดอกเบี้ยจึงดัง

 

อย่างที่บอกบาทแข็งหรือบาทอ่อน มีคุณมีโทษพอๆ กันอยู่ที่เราจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสอย่างไร

 

น่า ดีใจมีความเคลื่อนไหวในซีกของพลังงานที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประกาศ ลดค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ลงอีก 5.12 สตางค์ต่อหน่วยและกรณีที่กระทรวงพลังงานจะเรียกเก็บเงินจากน้ำมันดีเซลเข้า กองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิงเอาไปใช้หนี้ลดภาระการขาดทุน

 

นี่คือตัวอย่างพลิกวิกฤตจากเงินบาทแข็งค่า

 

นี่ แค่น้ำจิ้มเรื่องใหญ่จริงๆ ของกระทรวงพลังงาน น่าจะไปดูว่าสถานการณ์ราคานำเข้าน้ำมันดิบตั้งแต่ตอนที่เงินบาทเริ่มแข็งค่า เป็นอย่างไร ถูกลงเท่าไหร่อย่างที่รู้ๆ กันว่าบาทแข็งทำให้สินค้านำเข้ารวมถึง "น้ำมันดิบ" ถูกลงโดยอาจจะไล่เบี้ยตั้งแต่ราคาน้ำมันดิบที่นำเข้า ค่าการกลั่นของโรงกลั่นไปจนถึงสถานีบริการขายปลีก

 

ไล่มาตั้งแต่ต้น ทางยันปลายสายราคาจริงๆ เมื่อเติมใส่ถังรถยนต์ควรเป็นเท่าไหร่ หากทำจริงๆ ทำตั้งแต่เงินบาทแข็งค่าใหม่ๆ คนไทยอาจจะได้ใช้น้ำมันราคาถูกกว่านี้ แต่เมื่อไม่มีใครทำอะไรไม่รู้บริษัทน้ำมันมั่วนิ่มหรือไม่

 

อีก อย่างเมื่อราคาน้ำมันถูกลงควรฉวยจังหวะนี้ล้างหนี้กองทุนน้ำมันที่ผิดพลาด ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้งโดยหักเงินจากการขายน้ำมันทุกชนิดไม่ใช่แค่ดีเซล เข้ากองทุนน้ำมันล้างหนี้ทำตอนน้ำมันราคาถูกชาวบ้านจะไม่รู้สึกอะไร หรือฉวยจังหวะสั่งให้ปตท. สต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้นไว้ใช้เวลาตลาดโลกแพงเราก็เอาน้ำมันในสต๊อกที่ซื้อมา ตอนบาทแข็งจำหน่ายให้ผู้บริโภค

 

แม้แต่ราคาสินค้าทุกวันนี้ยังแพง สวนทางค่าเงินเพราะเมื่อเงินบาทแข็งค่าราคาวัตถุดิบนำเข้า ราคาสินค้านำเข้าต้องถูกลง น้ำมันต้องถูกลงซึ่งจะส่งผลให้ค่าขนส่งที่ยังใช้ดีเซลถูกลงตามรวมถึงราคา น้ำมันเตาและปัจจัยการผลิตอื่นๆ

 

จึงไม่มีเหตุผลที่ราคาสินค้าจะ แพงอย่างทุกวันนี้ยกเว้นสินค้าเกษตร แต่ของจริงตั้งแต่เงินบาทแข็งค่าราคาสินค้าไม่ได้ลดลงเพราะไม่มีใครดูแลผู้ บริโภค

 

กระทรวงพาณิชย์ก็มัวแต่สนใจผู้ส่งออก

 

ที่มา : ข่าวสด(วันที่ 3 พค.56)

[เด็กอู่ทอง 76]

ก่อนอื่นขอ อนุญาติ ท่านเจ้าของห้อง ก่อนนะคับ บุคคลใดก็ตาม หากท่านเป็นผุ้ได้รับความเสียหาย จาก บริษัทค้าทองคำแท่ง ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการที่พนักงานซื้อ ขายให้โดย พละการ หรือ จะเป็นการหลอกให้ลุกค้าซื้อ หลอกให้ขาย หรือ โดนเอาเปรียบใดๆ ก็ตาม ขอเชิญ ร่วม ส่งข้อมูล มาที่ผม[ เด็กอู่ทอง] คุยกันหลังไมล์ ได้เลยคับ เพื่อรวบรวมข้อมูล ร้องทุกข์ ขอความเป็นธรรมจากหน่วย ราชการต่อไป คับ 

[Pete 15,187]

อีซีบีส่งสัญญาณอาจดำเนินมาตรการกระตุ้นศก.อีกหลังลดดบ.วานนี้

 

 

ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนเมื่อวานนี้ และระบุว่าอีซีบีมีโอกาสดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนที่อยู่ในภาวะถดถอย

 

 

อีซีบีปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่สถิติต่ำสุดใหม่ที่ 0.50% โดยเป็นการตอบรับต่ออัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้น และต่ออัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน ที่ร่วงลงสู่ระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายเป็นอย่างมาก

 

 

นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีให้สัญญาว่าจะจัดหาสภาพคล่องให้แก่ ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนในระดับที่มากเท่าที่จำเป็นจนถึงปีหน้า และจะ ช่วยเหลือบริษัทขนาดเล็กในการเข้าถึงสินเชื่อ

 

 

นอกจากนี้ เขายังระบุอีกด้วยว่า ผู้กำหนดนโยบายบางคนผลักดันให้อีซีบี ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่า 0.25% ในครั้งนี้

 

 

หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีประชุมกันที่กรุงบราติสลาวา ประเทศสโลวาเกีย นายดรากีก็กล่าวในการแถลงข่าวว่า "ความเห็นส่วนใหญ่ สนับสนุนให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง และภายในกลุ่มที่สนับสนุนเรื่องนี้นั้น ความเห็นส่วนใหญ่สนับสนุนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25%"

 

 

อีซีบี "มีความพร้อมในทางเทคนิค" ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงจากระดับ 0% สู่ระดับติดลบ ซึ่งจะส่งผลให้อีซีบีเริ่มต้นเรียกเก็บเงินจากธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินมาฝากไว้ที่อีซีบีในช่วงข้ามคืน

 

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้ แทนที่จะนำเงินมาฝากไว้ที่อีซีบี อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวนี้อาจส่งผลกระทบ เป็นอย่างมากต่อการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ และต่อตลาดตราสารหนี้ และตลาดการระดมทุนด้วย

 

 

นายดรากีกล่าวว่า อีซีบีสามารถรับมือกับสิ่งนี้ได้ ซึ่งถ้อยแถลงนี้แตกต่างไ ป จากถ้อยแถลงครั้งก่อนๆของเขา

นายดรากีกล่าวถึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ระดับติดลบว่า "มาตรการนี้อาจก่อ ให้เกิดผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจบางประการ" และกล่าวเสริมว่า "เราจะแก้ไขและ รับมือกับผลกระทบนี้ ถ้าหากเราตัดสินใจจะดำเนินมาตรการดังกล่าว และเราจะ พิจารณาเรื่องนี้ด้วยใจที่เปิดกว้าง และเราพร้อมที่จะดำเนินมาตรการนี้ถ้าหากมี ความจำเป็น"

 

 

นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย นโยบายลงในวันพฤหัสบดี หลังจากนายดรากีกล่าวในเดือนเม.ย.ว่า อีซีบีพร้อม ที่จะดำเนินมาตรการ อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า การปรับ ลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก

 

 

อีซีบียอมรับในเรื่องนี้ และระบุว่า อีซีบีจะอัดฉีดสภาพคล่องในระดับที่ มากเท่าที่จำเป็นให้แก่ธนาคารพาณิชย์อย่างน้อยจนถึงเดือนก.ค.2014 และจะมองหาหนทางอื่นๆในการกระตุ้นการปล่อยกู้แก่บริษัทขนาดเล็ก ซึ่งถือ เป็นปัจจัยสำคัญที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจยุโรป อย่างไรก็ดี บริษัทขนาดเล็กในหลาย ประเทศประสบความยากลำบากในการขอกู้เงิน

 

 

นายคาร์สเตน เบรสกี นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทไอเอ็นจีกล่าวว่า "การ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี ถือเป็นการช่วยเหลือธนาคารในประเทศ ที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอในยูโรโซน และอาจช่วยหนุนระดับความเชื่อมั่นขึ้นได้เล็กน้อย "

 

 

 

นายดรากียืนยันการคาดการณ์ของอีซีบีที่ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงต่อไ ป ในปีนี้ แต่เขากล่าวย้ำว่า การคาดการณ์ดังกล่าวเผชิญกับ "ความเสี่ยงช่วงขาลง"

 

 

 

นายดรากีกล่าวว่า อีซีบีจะจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจทุกตัวอย่างใกล้ชิด ซึ่งใน อดีตนั้นวลีดังกล่าวมักจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า อีซีบีกำลังจะดำเนินมาตรการเพิ่มเ ติม ในอนาคต

 

 

ราคาสัญญาล่วงหน้าพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงที นายดรากีกล่าวแถลงเมื่อวานนี้ โดยพันธบัตรเยอรมนีถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความ ปลอดภัยสูง

 

 

อัตราการว่างงานในยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนมี.ค. ในขณะ ที่อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนดิ่งลงสู่ 1.2% ต่อปีในเดือนเม.ย. และตัวเลขดังกล่าว มีส่วนกดดันอีซีบีให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนนี้ เพื่อทำตามภารกิจในการ สร้างเสถียรภาพของราคา

 

 

ทั้งนี้ อีซีบีกำหนดว่าเสถียรภาพของราคาคืออัตราเงินเฟ้อที่อยู่ต่ำกว่า 2% เล็กน้อย

 

 

การดิ่งลงอย่างฉับพลันของอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้อีซีบีอาจมีความจำเป็น ต้องพิจารณาเครื่องมืออื่นๆนอกเหนือจากอัตราดอกเบี้ยด้วย เพื่อใช้ในการ สกัดกั้นอัตราเงินเฟ้อไม่ให้ดิ่งลงต่อไป

 

 

นายแอนดรูว์ บอซัมเวิร์ธ จากพิมโคซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุด ในโลกกล่าวว่า "เราคิดว่าในอนาคตอีซีบีอาจจำเป็นต้องเข้าซื้อสินทรัพย์ในภาค เอกชนเพื่อปรับปรุงกลไกในการส่งผลกระทบของนโยบายการเงิน"

 

 

การเข้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวอาจส่งผลให้อีซีบีเริ่มต้นดำเนินมาตรการผ่อน คลายเชิงปริมาณ (QE) หรือการพิมพ์เงินใหม่เพื่อนำมาซื้อสินทรัพย์ โดย อีซีบีหลีกเลี่ยงการดำเนิน QE ในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ธนาคารกลางขนาด ใหญ่แห่งอื่นๆ ใช้มาตรการนี้ไปแล้ว

 

[Pete 15,187]

ใกล้จะถึงเป้าหมายที่ฝรั่งตั้งไว้แล้วที่ 29.71 บาทต่อดอลล์

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 3, 2013 โดย เด็กขายของ

[sr20detgt 1,468]

ใกล้จะถึงเป้าหมายที่ฝรั่งตั้งไว้แล้วที่ 29.71 บาทต่อดอลล์

 

หมายความว่าถึงเป้าหมายแล้วนักลงทุนชาวต่างชาติอาจเทขายบาททำกำไรออกมา ซึ่งจะทำให้บาทกลับมาแข็งต่ออีก

 

ประมาณนี้หรือเปล่าขอรับ

[Pete 15,187]

 

 

หมายความว่าถึงเป้าหมายแล้วนักลงทุนชาวต่างชาติอาจเทขายบาททำกำไรออกมา ซึ่งจะทำให้บาทกลับมาแข็งต่ออีก

 

ประมาณนี้หรือเปล่าขอรับ

โทษครับ ที่เข้ามาตอบช้า : ใช่ครับ เล่นค่าเงินไม่เหมือนแบบอื่นที่ อะไรนะ " ปล่อยให้กำไรวิ่งต่อไป " เล็ท โปรฟิท รัน. ถึงเวลาถึงเป้าก็ต้องขาย แล้วเวลาจะทำให้แข็งของพวกนี้ ก็ง่ายดาย ขนเงินต่างประเทศกลับเข้ามาถือเงินบาท โดยอ้างเข้ามาลงทุน หรือ ซื้อตราสารหนี้ระยะยาว

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 3, 2013 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

แนวทางฝรั่งฯ วันนี้

[kad 137]

ป๋าคะบ่ายนี้จะมีข่าวให้ทองลงบ้างมั๊ยคะ ตั้งแต่ขายดอยไปแบบขาดทุนยับเยินยังซื้อคืนไม่ได้เลย มีแววว่าจะลงมาให้ซื้อคืนบ้างมั๊ยคะ

[Pete 15,187]

แด่ น้องทองแท่ง

[sr20detgt 1,468]

โทษครับ ที่เข้ามาตอบช้า : ใช่ครับ เล่นค่าเงินไม่เหมือนแบบอื่นที่ อะไรนะ " ปล่อยให้กำไรวิ่งต่อไป " เล็ท โปรฟิท รัน. ถึงเวลาถึงเป้าก็ต้องขาย แล้วเวลาจะทำให้แข็งของพวกนี้ ก็ง่ายดาย ขนเงินต่างประเทศกลับเข้ามาถือเงินบาท โดยอ้างเข้ามาลงทุน หรือ ซื้อตราสารหนี้ระยะยาว

 

ขอบคุณครับป๋า

[Pete 15,187]

ป๋าคะบ่ายนี้จะมีข่าวให้ทองลงบ้างมั๊ยคะ ตั้งแต่ขายดอยไปแบบขาดทุนยับเยินยังซื้อคืนไม่ได้เลย มีแววว่าจะลงมาให้ซื้อคืนบ้างมั๊ยคะ

บ่ายนี้ไม่มีรายงานฝั่งยุโรป แต่การที่ราคาทองจะลง จะมาจากการที่ ECB ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมา 0.25% เมื่อวานนี้ เนื่องจาก การลดดอกเบี้ย ก็เพื่อกระตุ้นการลงทุนในธุรกิจเป็นสำคัญ ซึ่งก็น่าจะส่งเสริมตลาดหุ้นมากกว่า ตลาดเก็งกำไรทองคำ / ผมขายทองคืนร้านไปที่ 20,450 บาทก็ยังไม่ได้ซื้อคืนเช่นกัน แนวต้านที่ 1485 แข็งพอควร เพราะสถาบันฯหลัก เคยประเมินราคาไม่เกิน 1500 คืนนี้ ในฝั่งสหรัฐอเมริกา ตามความคิดส่วนตัว น่าจะลดลง มั่งครับ

 

หมายเหตุ : แท้ที่จริงตอนนี้ ขณะนี้ ราคาตลาดโลกทองคำ ไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นมาสูงเลยนะครับ แต่เป็นที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามามากต่างหาก ที่ทำให้ราคาทองขยับขึ้นแบบนี้

[kad 137]

ขอบคุณค่ะที่ตอบ

[Pete 15,187]

โปรดทำความเข้าใจอีกครั้งนะว่า ราคาทองในประเทศปรับสูงขึ้น มาจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว

[ariya 1,481]

ป๋าแล้วที่ขายเมื่อคืนละ 20, 390