ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

น้ำมันลง-หุ้นสหรัฐฯขึ้น ทองคำดิ่ง$32หลังดอลลาร์แข็งค่า

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 พฤษภาคม 2556 05:30 น.

 

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้(10) ขยับลง จากความกังวลต่ออุปสงค์โลก หลังโอเปกคงประมาณการณ์ความต้องการบริโภคเชื้อเพลิงตามเดิม ส่วนวอลล์สตรีท ซื้อขายผันผวนก่อนปิดบวกเล็กน้อย ขณะที่ทองคำดิ่งลงแรง หลังค่าเงินดอลลาร์เทียบกับเงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 35 เซนต์ ปิดที่ 96.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 56 เซนต์ ปิดที่ 103.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังจากกลุ่มโอเปกไม่ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อุปสงค์พลังงานโลก และยังคงเตือนถึงภาวะเศรษฐกิจที่น่ากังวลด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(10) ซื้อขายผันผวน ก่อนปิดบวกเล็กน้อย โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลหารือยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของเหล่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มจี7ในอังกฤษ

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 34.41 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,117.03 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 27.41 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,436.58 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.89 จุด (0.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,633.56 จุด

 

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(10) มีขึ้นท่ามกลางความซึมเซาของนักลงทุน เหตุไร้ปัจจัยทางข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ๆของอเมริกา แต่ก็ยังดีที่ได้แรงหนุนของหุ้นบริษัทแก็ปและไพรซ์ไลน์ หลังมีรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกอันสดใส

 

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังชะลอการลงทุนและจับตาไปที่การประชุม 2 วันของรัฐมนตรีคลังกลุ่มจี 7 ใกล้กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อหารือถึงยุทธศาสตร์การเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันศุกร์(10)

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(10) ดิ่งลงแรง หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับเงินเยน จุดชนวนนักลงทุนแห่ขายโลหะมีค่าชนิดนี้ จนทำให้ทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลงถึง 32 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,436.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000056462

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอเอฟพี - ธนาคารต่างในสเปน ดำเนินการยึดบ้านเกือบ 40,000 หลังเมื่อปีที่แล้ว สืบเนื่องจากลูกค้าค้างชำระหนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงและยอดคนว่างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุวันศุกร์(10)

 

ถ้อยแถลงของธนาคารกลางสเปน ที่อ้างผลสำรวจจากเหล่าธนาคารผู้ปล่อยกู้ ซึ่งอนุมัติการจำนองคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 85 ในประเทศ ระบุว่าตลอดทั้งปี 2012 มีบ้านที่ถูกยึดถึง 39,167 หลัง

 

เป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางสเปนเผยแพร่ตัวเลขจำนวนบ้านที่ถูกธนาคารต่างๆยึด และนับตั้งแต่นี้ธนาคารแห่งนี้วางแผนจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในทุกๆ 6 เดือน

 

บ้านส่วนใหญ่ที่ถูกยึดเมื่อปีที่แล้ว จำนวน 32,490 หลังเป็นบ้านหลังแรก ส่วนที่เหลือเป็นบ้านหลังที่สองซึ่งผู้ซื้อใช้สำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหรือไม่ก็เปิดให้เช่า

 

ครึ่งหนึ่งของผู้เอาสินเชื่อบ้านหลังแรกที่ถูกยึดเมื่อปีที่แล้ว หรือ 18,325 หลัง ยินยอมส่งมอบคืนด้วยความสมัครใจ ส่วนอีก 14,165 หลัง ผู้ปล่อยกู้จำเป็นต้องยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเข้าควบคุมสินทรัยพ์ดังกล่าว

 

ยอดยึดคืนบ้านที่สูงขึ้นเรื่อยๆนี้ได้กลายมาเป็นวาระสำคัญทางการเมือง สืบเนื่องจากเกิดกรณีประชาชนฆ่าตัวตายหลายต่อหลายครั้งหลังจากคนเหล่านั้นถูกโยนออกจากบ้านตัวเอง ขณะเดียวกันบ่อยครั้งที่สถานีโทรทัศน์ก็นำเสนอภาพข่าวครอบครัวชาวสเปนกอดคอกันร่ำไห้หลังต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนใช้ชีวิตบนท้องถนน

 

นอกจากนี้มันยังชุดชนวนการประท้วงที่เหล่านักเคลื่อนไหวพากันปิดถนนทางเข้าบ้านของประชาชนซึ่งถูกไล่ที่ เพื่อขัดขวางไม่ให้ตำรวจใช้กำลังบังคับพวกเขาเคลื่อนย้ายออกจากบ้านของตนเอง

 

รัฐบาลหัวอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราจอย ได้เปิดตัวแนวทางต่างๆหลากหลายมาตรการในความพยายามช่วยเหลือครอบครัวที่มีปัญหาให้ได้อยู่ในบ้านของตนเองต่อไป อย่างไรก็ตามรัฐบาล ปฏิเสธข้อเรียกร้องของนักเคลื่อนไหวที่ต้องการให้มีการแก้ไขกฎหมายจำนอง เพื่อเปิดทางลบหนี้แก่ผู้กู้หากคนเหล่านั้นยอมคืนบ้านแก่ธนาคาร ขณะที่ภายใต้กฎหมายของสเปน ผู้กู้ยังจะต้องชำระหนี้ของตนเองต่อไป แม้ถูกไล่ออกจากบ้านแล้วก็ตาม

 

สเปน ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำซ้อน อันมีต้นตอจากภาาวะฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อปี 2008 และเป็นผลให้อัตราคนว่างงานของประเทศทะยานขึ้นแตะระดับร้อยละ 27 สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000056451

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองแท่งร้านทองตู้แดง อดซื้ออีกแล้วตรู เซ็งโว้ย ราคาทองขึ้นมาอยู่ที่ $1447 แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ตัดสินใจง่ายมากที่จะไม่ซื้อ ไม่ต้องรอลุ้นว่า ผลประชุม ของผู้ว่าธนาคารและ รมต. คลัง. จะออกมาแบบไหน และอาทิตย์นี้ก็หยุดยาวอีกแล้ว

 

เซ็งเหมือนกันเลย วันจันทร์ คงไม่มีแผนชกลม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันลง-หุ้นสหรัฐฯขึ้น ทองคำดิ่ง$32หลังดอลลาร์แข็งค่า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 พฤษภาคม 2556 05:30 น.

556000005876601.JPEG

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้(10) ขยับลง จากความกังวลต่ออุปสงค์โลก หลังโอเปกคงประมาณการณ์ความต้องการบริโภคเชื้อเพลิงตามเดิม ส่วนวอลล์สตรีท ซื้อขายผันผวนก่อนปิดบวกเล็กน้อย ขณะที่ทองคำดิ่งลงแรง หลังค่าเงินดอลลาร์เทียบกับเงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 35 เซนต์ ปิดที่ 96.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 56 เซนต์ ปิดที่ 103.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังจากกลุ่มโอเปกไม่ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อุปสงค์พลังงานโลก และยังคงเตือนถึงภาวะเศรษฐกิจที่น่ากังวลด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(10) ซื้อขายผันผวน ก่อนปิดบวกเล็กน้อย โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลหารือยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของเหล่ารัฐมนตรีคลังกลุ่มจี7ในอังกฤษ

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 34.41 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,117.03 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 27.41 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,436.58 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.89 จุด (0.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,633.56 จุด

 

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(10) มีขึ้นท่ามกลางความซึมเซาของนักลงทุน เหตุไร้ปัจจัยทางข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ๆของอเมริกา แต่ก็ยังดีที่ได้แรงหนุนของหุ้นบริษัทแก็ปและไพรซ์ไลน์ หลังมีรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกอันสดใส

 

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังชะลอการลงทุนและจับตาไปที่การประชุม 2 วันของรัฐมนตรีคลังกลุ่มจี 7 ใกล้กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อหารือถึงยุทธศาสตร์การเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันศุกร์(10)

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(10) ดิ่งลงแรง หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับเงินเยน จุดชนวนนักลงทุนแห่ขายโลหะมีค่าชนิดนี้ จนทำให้ทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลงถึง 32 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,436.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://manager.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อยากรวยทอง...ต้องรู้จริง(ตอนที่1)

 

วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2556 เวลา 00:00 น.

 

 

 

203484.jpg

 

ราคาทองคำที่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นำพา “ความเศร้า” และ “ความสุข” ให้กับนักลงทุน “ทองคำ” อย่างถ้วนหน้า หลายคนเจ็บเนื้อเจ็บตัว พาลไปถึง “เจ็บใจ” กันเลย

 

ไม่ให้เจ็บใจก็คงแปลก เพราะราคาทองคำแท่งในช่วงต้นปี 2556 ยืนอยู่บาทละ 24,000 บาท ดูแนวโน้มจะขึ้นอีก ตอกย้ำความมั่นใจด้วยบทวิเคราะห์จากกูรูผู้รู้เรื่องทองว่า ราคาทองคำแท่งอาจจะไต่ไปได้ถึงบาทละ 27,000 บาท เกิดการเก็งราคา มองหากำไรส่วนต่าง หลังสงกรานต์ราคาทองคำแท่งก็ร่วงลงต่ำกว่าบาทละ 20,000 บาท...บางวันลงไปถึงบาทละ 18,950 บาท..เกร็งสมใจกันเลยทีนี้

 

Jim Rogers กูรูด้านทองคำ ที่ลงทุนจนร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี ได้พูดถึงราคาทองคำไว้ว่า “ราคาทองคำในปี 2514 เริ่มต้นที่ 35 ดอลลาร์/ออนซ์ และขึ้นไปถึง 200 ดอลลาร์ในปีเดียวกัน ปี 2517 ราคาตกลงอย่างหนักมาอยู่ที่ 100 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากนั้นอีก 6 ปี มันก็พุ่งขึ้นไปถึง 750 ดอลลาร์/ออนซ์ ทุกวันนี้ราคาทองคำได้ขึ้นติดต่อกัน 12 ปีแล้ว เคยไปแตะถึง 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ ด้วย มันน่าจะถึงเวลาแล้วที่ราคาทองคำจะต้องตก คาดว่าอาจจะตกลงมาถึง 1,200-1,300 ดอลลาร์/ออนซ์และปีนี้ราคาทองคำก็ดำดิ่งลงมาต่ำกว่า 20,000 บาท จริง ๆ

 

Jim Rogers เป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ปี 2516 ในฐานะผู้ก่อตั้ง Quantum Fund ร่วมกับ George Soros และทำกำไรให้กองทุนมากถึง 4,200% ภายในเวลา 10 ปี ขณะที่ดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทนเพียง 47% นี่จึงสร้างชื่อเสียงให้เขา “เกิด” ในวงการนักลงทุนทันที จากนั้นก็แยกตัวออกมาลงทุนด้วยตัวเองในวัยเพียง 37 ปีเท่านั้น และเดินทางไปประเทศต่าง ๆทั่วโลก เพื่อวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เขาต้องการที่จะรู้ให้จริงว่าประเทศที่ประสบปัญหา หรือประสบความสำเร็จด้านเศรษฐกิจมาจากปัจจัยอะไร และสร้างโอกาสการลงทุนให้ตัวเองในทุกมุมโลก นอกจากนั้นเขายังชอบอ่านประวัติศาสตร์ของตลาดทุนซ้ำไปซ้ำมา จนรู้ว่าอะไรอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้น ทุกวันนี้นักลงทุนทั้งหลายจึงยกย่องและติดตามการวิเคราะห์วิจารณ์ของเขา โดยเฉพาะการลงทุนในทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์

 

เข็มทิศลงทุนวันนี้ หยิบมุมมองด้านการลงทุนทองคำของ Jim Rogers แบบกว้าง ๆ 3 ข้อ ให้รู้จริงก่อนลงทุน ดังนี้

 

1. ลงทุนในทองคำก่อนที่จะมีข่าวว่าประเทศใดพิมพ์เงินอัดฉีดเข้าไปในระบบ

Jim Rogers มองว่าการที่ประเทศต่าง ๆทั้งสหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศยุโรป รวมถึงญี่ปุ่น ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการพิมพ์ธนบัตรจำนวนมากอัดฉีดเข้าสู่ระบบ ค่าเงินของประเทศที่พิมพ์เงินเหล่านี้จะอ่อนลง เมื่อนักลงทุนไม่มั่นใจในค่าเงิน ก็จะหันไปลงทุนในทองคำแทน ราคาทองคำก็จะปรับตัวสูงขึ้น Jim Rogers ซึ่งสะสมทองคำมาก่อนหน้านี้ ก็ปล่อยขายทำกำไร

 

2. ลงทุนในทองคำ เมื่อเศรษฐกิจเริ่มถดถอย

 

Jim Rogers ถอยห่างจากหุ้นยุโรป หุ้นอเมริกา และเทน้ำหนักไปลงทุนในทองคำ เพราะเขาเชื่อว่า เมื่อตลาดผันผวนสูง การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีตัวตน เช่น ทองคำ คือการป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุด และปัญหาเศรษฐกิจทั้งในยุโรปและอเมริกา ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง นักลงทุนไม่น้อยที่ย้ายเงินลงทุนจากหุ้นไปลงทุนในทองคำ และสุดท้าย Jim Rogers ก็ขายทองคำทำกำไรอีก

 

3. ลงทุนในทองคำ เมื่อราคาทองคำเริ่มตก

 

Jim Rogers ศึกษาวัฏจักรการลงทุนในทองคำอย่างถ่องแท้ เหตุการณ์จริงที่เห็นกันในปีนี้ก็คือ ราคาทองที่เคยแตะระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ กลับตกลงมาเหลือ 1,320 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว นักลงทุนทั่วไปก็เริ่มหนีจากทองคำไปลงทุนในหุ้นกันมากขึ้น Jim Rogers บอกวิธีการลงทุนในทองคำของเขาว่า เขาจะเข้าซื้อทองจำนวนหนึ่งตอนที่ราคาต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ หากราคาต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ เขาจะซื้อเพิ่มอีกนิด หรือถ้าราคาลดลงไปต่ำกว่า 1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ เขาจะลงทุนเพิ่มเข้าไปอีกเรื่อย ๆ เขาคาดว่าราคาทองจะลงได้อีก อาจจะถึง 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ด้วยซ้ำ และรอขายตอนที่ราคาดีดกลับในช่วงเศรษฐกิจถดถอย นั่นแหละที่เรียกว่า “โอกาสทอง” ของจริง

 

เข็มทิศลงทุน สัปดาห์หน้า จะมาบอกเล่าเครื่องมือสำหรับการลงทุนในทองคำให้รู้จริง ห้ามพลาด!! ด้วยประการทั้งปวง.

 

http://www.dailynews.co.th/article/55/203484

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'อัมมาร'ค้านลดดบ.นโยบายแก้บาทแข็ง

ข่าวเศรษฐกิจ วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2556 7:51น.

 

ศ.ดร.อัมมาร ค้านลดดอกเบี้ยนโยบาย แก้บาทแข็ง ห่วงส่งออก ชี้ ฟองสบู่อสังหาฯ เริ่มแล้ว

ศ.ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ เปิดเผยกับ

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น เกิดจากเงินทุนไหลเข้า ซึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. สามารถอธิบายภาพได้ดี ทั้งนี้ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อลดกระแสเงินทุนไหลเข้าที่เป็นผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยนั้น ศ.ดร.อัมมาร มองว่า ยังไม่เสียหายอะไรมากนัก แต่หากเงินบาทแข็งค่าต่อไปอีก ก็จะกระทบต่อภาคการส่งออก อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีความเป็นห่วงปัญหาฟองสบู่ ขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว 2 - 3 จุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ฟองสบู่อาจจะแตกได้ ก็เห็นได้จากบ้านเริ่มขายได้ลำบากมากขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กสิกรไทย คาด SET สัปดาห์หน้าผันผวนหลังขึ้นสูงสุดในรอบ 16 ปีสัปดาห์ก่อน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2556 11:01:21 น.

บล.กสิกรไทย และศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (วันที่ 13-17 พ.ค. 2556) มองว่า ดัชนีอาจเผชิญกับความผันผวน โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Mich.)

 

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,594 และ 1,584 ขณะที่แนวต้านคาดว่า จะอยู่ที่ 1,640 และ 1,680 ตามลำดับ

 

สัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนออกมาดี ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,622.48 จุด เพิ่มขึ้น 2.76% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 17.94% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 41,552.09 ล้านบาท โดยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 497.38 จุด ลดลง 0.71% จากสัปดาห์ก่อน

 

ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนีปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,600 จุด จากแรงหนุนของข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ และการส่งออกของจีนที่ออกมาดี นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน จากคาดการณ์ว่า กนง. อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง

 

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

http://www.ryt9.com/s/iq05/1647712

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์กสิกรฯคาดเงินบาทสัปดาห์หน้าอยู่ในกรอบ 29.40-29.80 ลุ้นผลหารือกนง.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2556 10:35:15 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (13-17 พ.ค.) ว่าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 29.40-29.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นเพดานหนี้ของสหรัฐฯ สัญญาณ/ท่าทีของทางการในการดูแลค่าเงินบาทหลังจากที่หลายหน่วยงานจะมีการหารือกันกับกนง. ในวันที่ 13 พ.ค.

 

ขณะที่ ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาวะธุรกิจของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจภาวะธุรกิจของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนพ.ค. ยอดค้าปลีก ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย การเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม และอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนเม.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางแรงหนุนเงินดอลลาร์ฯ จากข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปีครึ่ง นอกจากนี้ นักลงทุนยังใช้ความระมัดระวังก่อนที่จะมีการหารือสถานการณ์ค่าเงินบาทระหว่างหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง และกนง. ในวันที่ 13 พ.ค. 2556 ด้วยเช่นกัน

 

ในวันศุกร์ (10 พ.ค.) เงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 29.75 ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยมายืนที่ระดับ 29.70 เทียบกับระดับ 29.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (3 พ.ค.)

 

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

http://www.ryt9.com/s/iq03/1647707

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ร่อนเอกสาร9หน้าย้ำความอิสระตีกัน‘การเมือง’แทรก ธปท.ห่วงดบ.ต่ำดันหนี้เพิ่ม

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- เสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2556 06:00:00 น.

“แบงก์ชาติ” ยันอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.75 ไม่ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ชี้ดอกเบี้ยที่ต่ำต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ประชาชนก่อหนี้มากขึ้นจูงใจให้นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ตีกัน “การเมือง” แทรกการทำงาน

 

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2556ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงจำนวน 9 หน้าเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานของธปท.ในระยะนี้ หลังจากมีกระแสข่าวตามสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการทำหน้าที่ดูแลเศรษฐกิจของธปท. ซึ่งอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสนและกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ธนาคารกลางของประเทศ

 

 

โดยธปท. จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชน และสาธารณชน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของ ธปท. อันเป็นหนึ่งในสถาบันหลักที่ทำหน้าที่ดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของประเทศมากว่า 70 ปี อาทิ บทบาทหน้าที่และความเป็นอิสระของธปท., การดูแลความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ย

 

โดยสรุป ธปท.ชี้ว่า การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงต้นปีนี้ แม้จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกแต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมมาก พบว่าในกรณีเลวร้ายคือ สมมุติให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วมากต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ถึงแม้จะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ปรับลดลงบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับศักยภาพ ซึ่งไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการแข็งค่าของค่าเงินจะทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงมากถึงขั้นวิกฤติแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ธปท. ตระหนักดีว่า ภาคธุรกิจขนาดเล็กที่มีศักยภาพจำกัดย่อมได้รับผลกระทบ มากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ ทางการจึงควรต้องมีมาตรการเยียวยาที่เจาะจงเฉพาะกลุ่ม เช่น การช่วยเหลือด้านสภาพคล่องและการค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดเล็ก เพื่อช่วยให้ภาคเอกชนสามารถปรับตัวได้อย่างราบรื่นและยั่งยืน

 

“ทั้งนี้ หาก กนง. ประเมินว่าการเคลื่อนไหวของเงินบาทมีความผันผวนผิดปกติ จนอาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่อาจจะไม่สามารถเติบโตได้ตามศักยภาพ กนง. ก็พร้อมที่จะพิจารณาทบทวนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และพิจารณาความจำเป็นในการใช้มาตรการเสริมเข้าดูแล รวมถึงประสานการใช้มาตรการอื่นๆ

 

พร้อมย้ำว่าระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ร้อยละ 2.75 ไม่ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และไม่ได้สูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาคที่มีระบบการเงินคล้ายคลึงกับไทย และหากพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (real interest rate) ซึ่งก็คืออัตราดอกเบี้ยหักด้วยอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันของไทยก็อยู่ในระดับใกล้ศูนย์ หมายถึง ประเทศไทยมีนโยบายการเงินที่ยังเอื้อต่อการใช้จ่ายและการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ดี บทเรียนจากวิกฤติเศรษฐกิจในต่างประเทศแสดงให้เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ต่ำต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ประชาชนก่อหนี้มากขึ้น และผู้ออมเกิดแรงจูงใจนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่า

 

“ในการพิจารณาประเด็นเชิงนโยบายต่างๆ นั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ว่าการ ธปท. และรมว.คลัง อาจมีความเห็นหรือมุมมองที่แตกต่างกันได้ โดยเฉพาะการให้น้ำหนักกับเศรษฐกิจในระยะสั้นกับระยะยาว ซึ่งต้องอาศัยการหารือและพิจารณาในภาพรวมว่า การดำเนินการอย่างไรจะเป็นผลดีที่สุดต่อประเทศในเมื่อทุกๆ ฝ่ายต่างมีความหวังดีต่อประเทศเป็นที่ตั้ง ดังนั้นการร่วมกันพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลักย่อมจะนำไปสู่ข้อสรุปที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้”

 

ด้านนายศิริ การเจริญดี อดีตรองผู้ว่าการ ธปท. ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวถึงการหารือร่วมกับรัฐบาล และภาคเอกชนเกี่ยวกับปัญหาค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าว่า ไม่ขัดข้องหากรัฐบาลเชิญไปหารือในลักษณะการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ได้สร้างแรงกดดันให้กับ กนง. แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าจะเป็นการแทรกแซงการทำงานหรือไม่เพราะยังไม่ทราบประเด็นที่จะพูดคุยกัน

 

ขณะที่ นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) สำหรับแนวคิดเอกชนให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 1 นั้น มองว่าไม่มีความจำเป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2.75?ในปัจจุบัน เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจไทยอยู่แล้ว การที่ธนาคารกลางหลายประเทศดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำ เพราะประเทศเหล่านั้นมีปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่ประเทศไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และไม่มีปัญหาการว่างงาน

 

ด้านนายเกียรติ สิทธีอมร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีเงาด้านเศรษฐกิจ แสดงความเห็นกรณีรัฐบาลพยายามกดดันให้ธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ย นโยบายจากปัจจุบัน 2.75% เพื่อชะลอการไหลเข้าของเงินทุน

 

ต่างชาติและส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นว่าแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้ ธปท.ลดดอกเบี้ย เป็นการมองโจทย์ที่ผิดพลาด เพราะดอกเบี้ยไม่ใช่เครื่องมือเดียวที่จะนำมาใช้แล้วทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้แต่การลดดอกเบี้ยจะเป็นการสร้างปัญหาในอนาคต คือการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ

 

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลงทุนซื้อขายทอง วินัยการเล่นในระบบซื้อขายต่างกันนะครับ ประเภทปากบอกว่า เล่นแบบ " สมาชิก ฯ " ก็เล่นเหมือนป็อกเด้ง / ไฮโล เกมต้องสั้นกินได้ต้องไว เล่นได้หลายตา ถึงแนวต้านแนวรับ หยุดดู ผ่านหรือเป็นยังไง แทงตาใหม่ แทงผิดเสีย ยอมแพ้ เริ่มตาใหม่ เล่นถือนานๆๆ ตลอดคืนตาเดียว หรือ 3-4 วันตา เล่นไปทำไม เหนื่อย เสียว ทรมานร่างกาย หลับไม่เป็นสุข มีแต่ความกังวลใจ ///////. ส่วนทองแท่งตัวเป็นๆ หน้าร้านฯ กรณีของเด็กขายของ ตราบใดที่เส้น 7,5,2 ไม่โผล่เหนือเส้นดำ หรือ มีเหตุรายงานใดๆ ที่น่าสนใจ จะไม่เข้าซื้อ เข้าคิวรับบัตรฯ สมัยนี้ ช่วงนี้ เดือนพฤษภาคม / เดือน มิถุนายน เดือนแห่งทำยอดของธุรกิจ นักลงทุนมักจะเล่นหุ้นมากกว่า เล่นทอง จึงต้องหาจังหวะดีๆๆ แล้วค่อยเข้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีวันหยุดค่ะ คุณพี่เด็กขายของ สุดยอดเลยค่า ขยันมาก ขอ Save บทกลอนดีดี ไว้เตือนตนนะค่ะ มากชอบค่ะ :01 วินัยดี แผนเยี่ยม เงินก็มา :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ พี่ๆ ทุกท่าน ก่อนอื่นขออนุญาติ ท่าน เจ้าของห้องก่อนนะคับ วันนี้ กระผม มา อยากจะออกมาเตือน พี่ๆ ครับ เห็นว่า มีงาน event ใหญ่ ที่เมืองทอง ท่านที่สนใจ อยากจะลงทุน ในทองคำแท่ง อยากให้พี่ๆ เลือก บริษัท ให้ดีๆ นะคับ อย่าตัดสินใจผิด เหมือนเด็ก อู่ทอง ที่ มาเล่น ในบริษัทนี้ ทำให้ หมดตัว แถมยางเป็นหนี้ เกือบ ร้อยล้าน บาท แต่ บริษัท ที่เค้าดีๆ ก็มีเยอะ นะคับ ไม่ได้เป็นกันทุก บริษัท. อย่าไปเห็นแก่ ขอเสนอ ดีๆ เล็กๆน้อยๆ ทำให้ดูน่าสนใจ เข้าลงทุน อ่านสัญญา ให้ดีๆนะคับ สิ่งที่อ่านแล้วไม่ชัดเจน หรือ ดูคุมเครือ ก็พริจาณากันให้ดีๆก่อน ที่จะตกเป็นเหยื่อ อันโอชะ ของเค้า นะคับ หวังดีจิงๆคับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอถามเพื่อนๆหน่อยค่ะ ครั้งที่แล้วทีถามว่าเครื่องสั่นแล้วดับ

ไปเช็คทีศูนย์แล้ว 0 บอกเป็นที่ท่อไอดีตัวที 2/3 ต้องทำใหม่และ

เปลี่ยนทั้งหมด 16 ตัว ราคา แสนกว่า เจ้เลยเอามาทำช่างนอก

ประมาณหมื่นกว่า ใช้เวลา อาทิตย์กว่า และมีคนแนะนำให้ซื้อเครื่องเก่า

เชียงกงราคาไม่กี่พัน ใช้เวลาเปลี่ยนเครื่องไม่กี่วัน อยากทราบแบบไหนดีกว่ากัน

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...