ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch คงสถานะสหรัฐไว้ที่ AAA มุมมอง ลบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯขยับลง ทองคำปิดบวกจากแรงช้อนซื้อ blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มิถุนายน 2556 05:28 น.

 

blank.gif 556000008285101.JPEG blank.gif

เอเอฟพี - ราคาน้ำมันลงเล็กน้อยวานนี้(28) จากการขายทำกำไรก่อนหน้าวันหยุดสุดสัปดาห์ ผิดกับทองคำที่มีแรงช้อนซื้อจนดีดตัวขึ้นพอสมควร หลังดิ่งลงแรงต่อเนื่องหลายวัน ส่วนวอลล์สตรีท ปิดลบตามรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของแบล็คเบอร์รี

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 49 เซนต์ ปิดที่ 9.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 66 เซนต์ ปิดที่ 102.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

เบื้องต้นราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆของแดนบวก แต่ก็ปรับลงแรงจนปิดลบด้วยตัวเลขดังกล่าวในช่วงท้ายของการซื้อขาย เหตุนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนหน้าวันหยุดสุดสัปดาห์ หลังจากก่อนหน้านี้ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งมา 4 วันติด

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(28) ปิดลบพอสมควร หลังปิดบวกมา 3 วันติด ด้วยหุ้นของแบล็คเบอร์รี ดิ่งลงแรง หลังบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์แห่งนี้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ขาดดุนอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 114.89 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,909.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 1.38 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,403.25 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.92 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,606.28 จุด

 

ความเคลื่อนไหวในแดนลบของตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(28) มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ปิดบวกมา 3 วันติด หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อกรณีธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) อาจกระชับนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเร็วกว่าที่คาดหมายไว้

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(28) ขยับขึ้นพอสมควร จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน หลังดิ่งลงหนักหลายวันติดท่ามกลางความกังวลว่าเฟดจะยกเลิกกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามหากคิดเป็นรายไตรมาสแล้ว ราคาทองคำช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถึนายน 2013 นับเป็นไตรมาสที่ปรับลดหนักหน่วงที่สุดในรอบกว่า 45 ปี

 

โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12.10 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 1.0 ปิดที่ 1,223.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000078958

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกสมาคมค้าทองคำ เผยเหตุทองร่วงต่ำสุดในรอบ 3 ปี นักลงทุนทุบราคาเพื่อช้อนซื้อเก็งกำไร

1362641772.jpg

updated: 28 มิ.ย. 2556 เวลา 14:22:48 น.

 

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (28 มิ.ย.)จนถึงเมื่อ 12.25 น.น. ราคาทองปรับทั้งหมด 7 ครั้ง ปรับลง 3 ครั้งรวม 550 บาท และปรับขึ้น 4 ครั้ง 200 บาท ทำให้ราคา ทองคำแท่งรับซื้อคืนที่บาทละ 17,800 บาท และขายที่บาทละ 17,900 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อคืนที่บาทละ 17,540.12 บาท และขายที่บาทละ 18,300 บาท โดยเปิดตลาด ปรับตัวลดลง บาทละ 450 บาท ต่ำสุดในรอบ 3 ปี

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้เป็นการปรับลดลงที่ค่อนข้างแรงและเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าราคาทองคำน่าจะปรับลดลงในปีหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนราคาทองที่ร่วงค่อนข้างแรงในช่วงนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากนักลงทุนทุบราคาทองเพื่อเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร เพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ แม้นักลงทุนจะกังวลกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอมาตรการ QE และยกเลิกมาตรการดังกล่าวในปีหน้า แต่เศรษฐกิจโลกโดยรวมก็ค่อยๆ ฟื้นตัว ก็ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ราคาทองคำร่วงอย่างรุนแรง

 

นายจิตติ กล่าวต่อว่า การประเมินราคาทองคำในช่วงนี้ค่อนข้างลำบาก และต้องประเมินระยะสั้นวันต่อวัน เพราะราคาผันผวนรุนแรง โดยคาดว่าราคาทองจะปรับลดลงอีกระยะหนึ่ง และมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาขายทองในประเทศกลับไปอยู่ที่บาทละ 17,000 บาท ก่อนสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นจะดีดกลับขึ้นมาสูงถึงบาทละ 20,000 บาทอีกครั้ง

 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1372404244

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์กสิกรฯคาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแกว่งกรอบ 30.90-31.20 เกาะติดFund Flow

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556 08:59:43 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองค่าเงินบาท (Onshore) แนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (1-5 ก.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.90-31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาการเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี ISM ภาคการผลิต-ภาคบริการ เดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้าง ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตารายงานดัชนี PMI ของหลายๆ ประเทศในเดือนมิ.ย. 2556 ที่มีกำหนดจะประกาศในช่วงต้นเดือนด้วยเช่นกัน อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯจะปิดทำการในวันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติของสหรัฐฯ

 

 

เงินบาทปรับตัวในกรอบที่อ่อนค่า ก่อนฟื้นตัวท้ายสัปดาห์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ สอดคล้องกับสกุลเงินในภูมิภาค หลังจากที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ช่วยคลายความกังวลของตลาดต่อแผนการเตรียมชะลอซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการ QE อย่างไรก็ดี เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงสิ้นเดือนของกลุ่มผู้นำเข้า และผู้ค้าทองในช่วงที่ราคาทองคำในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก อย่างไรก็ดี เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยปลายสัปดาห์ตามทิศทางของสกุลเงินเอเชียอื่นๆ

 

ในวันศุกร์ (28 มิ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.03 ใกล้เคียงกับระดับ 31.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 มิ.ย.)

 

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

 

 

กสิกรไทยคาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ายังผันผวนมีโอกาสฟื้น จับตาตัวเลขศก.สหรัฐ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556 08:50:44 น.

บล.กสิกรไทย และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (2-5 ก.ค.)ว่า ดัชนียังคงผันผวน และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น โดยจับตามองรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ เครื่องชี้ภาคการผลิต (ISM Manufacturing) ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน และ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,419 และ 1,317 ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,482 และ 1,492 ตามลำดับ

 

 

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นปรับร่วงลงในวันจันทร์ จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีอยู่ต่อเนื่อง ก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนหลังราคาปรับร่วงลงไปมาก กอปรกับแรงซื้อจากการทำปิดงวดบัญชี (Window Dressing)

 

ตลาดหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้น โดยมีแรงซื้อกลับจากนักลงทุนในประเทศ ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,451.90 จุด เพิ่มขึ้น 3.67% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 2.58% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 59,074.0 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบัน บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 392.21 จุด ลดลง 0.83% จากสัปดาห์ก่อน

 

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 114.89 จุด วิตกศก.สหรัฐ,เฟดลด QE

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556 06:50:46 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเจ้าหน้าที่ของเฟดได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนการปรับลดขนาด QE

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลงปิดวันทำการล่าสุดที่ 14,909.60 จุด ร่วงลง 114.89 จุด หรือ -0.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,606.28 จุด ลดลง 6.92 จุด หรือ -0.43% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,403.25 จุด เพิ่มขึ้น 1.38 จุด หรือ +0.04%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนมิ.ย.ยืนอยู่ที่ระดับ 84.1 ซึ่งน้อยกว่าเดือนพ.ค.และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 83

 

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตในเขตชิคาโก้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 51.6 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 58.7 ของเดือนพ.ค.

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายเจเรมี สเตน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดกล่าวว่า เฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการ QE ในการประชุมเดือนก.ย. ขณะที่นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกได้ออกมาสนับสนุนการปรับลดขนาด QE เช่นกัน

 

การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่เฟดอีกหลายคนที่ออกมาส่งสัญญาณในด้านบวกต่อตลาดก่อนหน้านี้ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน และเฟดสามารถรอคอยเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แม้ว่าอัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.5% นอกจากนี้ เขากล่าวว่าการซื้อสินทรัพย์ของเฟดจะยังคงมีอัตราสูงขึ้นเป็นระยะเวลานาน หากภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานมีการขยายตัวน้อยกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้

 

ขณะที่นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าก็ออกมาขานรับความเห็นของนายดัดลีย์ ด้านนายนายเจโรม โพเวลล์ เจ้าหน้าที่เฟดอีกคนหนึ่งกล่าวว่า ตลาดมีปฏิกริยามากเกินไปต่อการที่เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับลดขนาด QE

 

หุ้นแอคเซนเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี ร่วงลง 10% หลังจากบริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้จะอยู่ที่ 6.7-7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.36 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นไอบีเอ็ม ร่วงลง 2.3% ส่วนหุ้นแบล็คเบอร์รี ร่วงลง 28%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 27.93 จุด หลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.อ่อนแอ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556 08:28:24 น.

ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตในเขตชิคาโก

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,215.47 จุด ลดลง 27.93 จุด หรือ -0.45%

ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนมิ.ย.ยืนอยู่ที่ระดับ 84.1 ซึ่งน้อยกว่าเดือนพ.ค.และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 83

 

 

 

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตในเขตชิคาโก้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 51.6 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 58.7 ของเดือนพ.ค.

 

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นอีเอ็นอาร์ซี ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองของคาซัคสถาน ดิ่งลง 3.7% ขณะที่หุ้นคาซัคมิส ร่วงลง 2.4% และหุ้นแอฟริกัน แบริค โกลด์ ดิ่งลง 7.7%

 

หุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางทหารของยุโรป ร่วงลง 2.1% หลังจากดอยช์แบงก์ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษได้ปรับทบทวนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2556 ลงมาเป็นขยายตัว 0.3% เมื่อเทียบรายปี จากอัตราขยายตัวที่ 0.6% ในรายงานเบื้องต้น

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์พุ่ง หลังเจ้าหน้าที่เฟดหนุนลดขนาด QE

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556 08:19:10 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหัฐ (เฟด) ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนการปรับลดขนาดการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.18 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 98.39 เยน แต่ขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9438 ฟรังค์ จากระดับ 0.9447 ฟรังค์

 

 

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3018 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3048 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5212 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5261 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9157 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9278 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากนายเจเรมี สเตน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดกล่าวว่า เฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการ QE ในการประชุมเดือนก.ย. ขณะที่นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกได้ออกมาสนับสนุนการปรับลดขนาด QE เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนมิ.ย.ยืนอยู่ที่ระดับ 84.1 ซึ่งน้อยกว่าเดือนพ.ค.และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 83

 

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตในเขตชิคาโก้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 51.6 ในเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 58.7 ของเดือนพ.ค.

 

นักลงทุนจับตาดูสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ในวันจันทร์ที่ 1 ก.ค.เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าดัชนี ISM ภาคการผลิตจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50.1 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 49.0 ของเดือนพ.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“จิตติ” ฟันธงทองคำโลกดิ่งถึงสิ้นปี มีสิทธิลงแตะบาทละ17,000

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556 06:00:00 น.

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดหลุด 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์แล้ว ด้าน “วายแอลจี” แนะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ 5 ก.ค.นื้ ชี้วัดทิศทางราคา

 

สมาคมค้าทองคำ รายงานการซื้อทองคำในประเทศ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2556 พบว่า ระหว่างวันราคาได้ตัวปรับขึ้น-ลงถึง15 ครั้ง ก่อนปิดตลาดลดลง400 บาท ทั้งนี้ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 17,750บาท? ขายออก 17,850 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณ 17,494.64 บาท ขายออก 18,250 บาท

 

 

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองได้ปรับลดลงค่อนข้างแรง และเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าราคาทองคำน่าจะปรับลดลงในปีหน้า น่าจะมีสาเหตุมาจากนักลงทุนทุบราคาทองเพื่อเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร ?มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาขายทองในประเทศกลับไปอยู่ที่บาทละ 17,000 บาท ก่อนสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ดียังเชื่อว่าหลังจากนั้นราคาอาจจะดีดกลับขึ้นมาสูงถึงบาทละ 20,000 บาทได้อีกครั้ง

 

ขณะที่ นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ออสสิริส กล่าวว่า ราคาทองที่ปรับลดลงต่อเนื่องถือว่าเป็นไปตามทิศทางตลาดโลกที่หลุด 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลงมาต่ำสุดที่ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยมาจากความรู้สึกของตลาดในเชิงลบที่มีต่อทองคำ เพราะเมื่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ มีความน่าสนใจน้อยลง และนักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแทน และตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐจะทยอยถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแน่นอน จึงทำให้กองทุนทองคำขนาดใหญ่เทขายทองคำอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม เห็นว่าราคาทองขณะนี้ต่ำเกินปัจจัยพื้นฐานและต่ำกว่าต้นทุนหน้าเหมือง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1,250-1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ในขณะนี้กองทุนทองคำไม่ได้สนใจราคาหน้าเหมือง เพราะสามารถซื้อทองที่อยู่ในตลาดได้ เนื่องจากมีนักลงทุนรายย่อยยอมขายตัดขาดทุน ณ ระดับราคาที่ 1,200-1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ออกมาเป็นจำนวนมาก

 

นายบุญเลิศ กล่าวว่า ทิศทางราคาทองคำยังผันผวนต่อไป แต่การปรับลดลงจะเบากว่าช่วงที่ผ่านมา จากที่เคยปรับลดลงเฉลี่ย 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ต่อ 1 วัน เหลือประมาณ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ต่อ 1 วัน โดยแนวรับทางเทคนิคอยู่ที่ประมาณ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และ 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ตามลำดับ

 

“ตลอดช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาทองลดลงมากกว่าการปรับขึ้น เพราะนักลงทุนมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาดี จึงกล้าโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ” นายบุญเลิศ กล่าว

 

ด้าน นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน? อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ?สถานการณ์ราคาทองคำอยู่ในทิศทางขาลง ราคาปรับลงต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันราคาทองคำปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก? สืบเนื่องมาจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือคิวอีที่มีแนวโน้มว่าจะชะลอในปีนี้และยุติในปีต่อไป

 

ทั้งนี้หากนับตั้งแต่ต้นช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันราคาทองคำในตลาดโลกร่วงลงไปแล้วกว่า 28% นับเป็นการปรับตัวลงที่ค่อนข้างรุนแรงมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนและในเดือนมิถุนายน สำหรับสถานการณ์ในช่วงนี้ วายแอลจี แนะนำให้นักลงทุนต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคมนี้ ก่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองได้ปรับลดลงค่อนข้างแรง และเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าราคาทองคำน่าจะปรับลดลงในปีหน้า น่าจะมีสาเหตุมาจากนักลงทุนทุบราคาทองเพื่อเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร ?มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาขายทองในประเทศกลับไปอยู่ที่บาทละ 17,000 บาท ก่อนสิ้นปีนี้

 

นายจิตติ กล่าวต่อว่า การประเมินราคาทองคำในช่วงนี้ค่อนข้างลำบาก และต้องประเมินระยะสั้นวันต่อวัน เพราะราคาผันผวนรุนแรง โดยคาดว่าราคาทองจะปรับลดลงอีกระยะหนึ่ง และมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาขายทองในประเทศกลับไปอยู่ที่บาทละ 17,000 บาท ก่อนสิ้นปีนี้

 

อาแปะ พูด" ราคาทองกลับไปที่ 17,000 บาท "

 

ปล. ที่ผ่านมาหลายครั้ง บอกว่า ไม่ถึงราคานั้นราคานี้ ถึงทุกที แต่มาคราวนี้ บอกเห็น 17,000 แสดงว่า " ไม่น่าจะเห็น " จนกว่า จะมีการเปลี่ยนวลีคำพูดใหม่

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แปะให้แทนคำขอบคุณ แบบเร่งด่วน ดึกๆค่อยมาอ่านข่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวสุดสัปดาห์ที่ปรากฎ คือ การที่นักลงทุนต่างๆ มีความต้องการถือ เงินตราสกุลดอลล์สหรัฐฯ อย่างมาก จากสาาเหตุที่ว่า กำลังจะเข้าสู่วันหยุดยาว วันชาติสหรัฐ 4 กรกฎาคม 2556 ส่วนราคาทอง Spot ที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ มาจากเหตุ ของการขายมากเกินไปแล้ว และ การออกข่าวจากสื่อฯ บางแห่งที่เขียนว่า " ต้นทุนราคาทองคำหน้าเหมืองฯ คือ $1200 ทำให้มีกองทุนฯ เข้ามาถือเก็บทีเดียวจำนวนหลายตัน

 

เพราะฉะนั้น อีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า ตลาดฯ จะเปิดทำการ ค่าเงินบาทอาจจะอ่อนค่าลง ตามสกุลเงินต่างๆ ในภูมิภาคฯ ก็เป็นไปได้สูง จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีการป้อนข้อมูลซื้อดอลล์สหรัฐฯไว้ล่วงหน้าแล้ว เช่นเดียวกับ ราคาทอง Spot

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...