ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

คาดและหวังว่า 1180 - 1150 มันจะมา (S)

แต่ก่อนจะไปตรงนั้น ต้องรวบรวมพลังเม่าน้อยอีกซักรอบ

ไม๊ครับ 555

 

เช้านี้ยังไงต้องขายออก 18,100 ซื้อเข้า 18,000

ถูกแก้ไข โดย GB2514

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"คริสติน ลาการ์ด"ส่งสัญญาณไอเอ็มเอฟอาจลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลง

 

นางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ส่งสัญญานว่าไอเอ็มเอฟอาจลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงเล็กน้อย โดยจะมีการเปิดเผยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

 

นางลาการ์ดตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อเดือนเม.ย. ไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก ระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่ดำเนินไปใน 3 ระดับ โดยประเทศตลาดเกิดใหม่ขยายตัวได้ถึง 5.5% ส่วนประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐกับออสเตรเลีย โตเพียง 2% ขณะที่เศรษฐกิจของยูโรโซนซบเซามาก

 

นางลาการ์ดกล่าวว่าสภาพการณ์ดังกล่าวทำให้ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.3% แต่มาขณะนี้เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับประเทศตลาดเกิดใหม่แล้ว เกรงว่าจะต้องมีการปรับลดคาดการณ์ลงเล็กน้อยจากการคาดหมายครั้งก่อน

 

เมื่อต้นเดือน ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตสำหรับมหาอำนาจประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างจีน ลงเหลือ 7.7% จาก 8.4% พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลงอย่างหนัก ผลจากการลงทุนที่ลดลง การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีน ทำให้ต้องมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกสำหรับปีนี้ลงเหลือ 2.2% จาก 2.4%

 

อย่างไรก็ตาม นางลาการ์ดไม่ได้ระบุไอเอ็มเอฟจะปรับลดคาดการณ์ลงเหลือเท่าไร กล่าวเพียงว่าหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟจะเปิดเผยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 8 กรกฎาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คณะรัฐมนตรีจีนได้ออกมาย้ำว่า จีนจะยังคงดำเนินนโยบายเงินตราอย่างรอบคอบ เพื่อส่งเสริมการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยคลายแรงกดดันของธนาคารพาณิชย์ หลังจากที่เกิดความวิตกกังวลเรื่องการผ่อนคลายนโยบาย ในช่วงที่เกิดภาวะสภาพคล่องตึงตัวในตลาดอินเตอร์แบงก์เช่นนี้

 

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีจีนได้ระบุแนวทางต่อภาคการเงินว่า จีนจะรักษาอัตราการขยายตัวของสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

 

และยังได้ให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะพยายามสร้างสมดุลระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การจัดการภาวะเงินเฟ้อ และการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน

 

รัฐบาลจะใช้เครื่องมือด้านนโยบายเชิงปริมาณและราคา เพื่ออัดเงินเข้าระบบและทำให้มั่นใจว่าจะมีการใช้เงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ด้านธนาคารกลางจีนก็จะมีส่วนช่วยให้บรรดาสถาบันการเงินมั่นใจได้ว่า จะมีการควบคุมการปล่อยสินเชื่อสำหรับภาคอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูงและอุตสาหกรรมไอที เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมที่เน้นแรงงาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 กรกฎาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองปิดดิ่ง $39.2 หลังตัวเลข ศก.สหรัฐดีเกินคาด

วันจันทร์, 08 กรกฎาคม 2556 08:20 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันจันทร์, 08 กรกฎาคม 2556 08:20

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ดิ่งลง 39.2 ดอลลาร์ หรือ 3.13% ปิดที่ 1,212.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนวันศุกร์ (5 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่ดีเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง

 

ข้อมูลแรงงานที่ดีเกินคาดจุดกระแสให้นักลงทุนเริ่มเกิดความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอโครงการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดการณ์ โดยนักวิเคราห์ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเฟดอาจเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตรในเดือนก.ย.นี้ แทนที่จะเป็นช่วงสิ้นปีอย่างที่เคยคาดการณ์กันไว้

 

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามีหลายปัจจัยที่อาจหนุนราคาทองคำให้ดีดตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้ อาทิ สถานการณ์ทางการเมืองในอียิปต์ที่อยู่ในภาวะตึงเครียดและไร้เสถียรภาพ อุปสงค์ทองคำจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ วิกฤตหนี้ยูโรโซน และอุปสงค์ทองคำจากจีนหากราคาทองคำร่วงลงแตะ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 96.4 เซนต์ หรือ 4.89% ปิดที่ 18.736 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 20.4 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 1,326.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 8.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 677.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/16522-f60.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จ้างงานสหรัฐฯพุ่งตอกย้ำเฟดลดคิวอี

07/07/2013 , 08:29

267.jpg

 

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แบงก์ ออฟ เวสต์ ในซานฟรานซิสโก “นายสกอตต์ แอนเดอร์สัน” กล่าวว่า รายงานการจ้างงานดังกล่าว เป็นพยานหลักฐานที่เฟดกำลังมองหาอยู่ เพื่อให้การตัดสินใจของธนาคาร ที่จะเริ่มลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนถึงสิ้่นปีนี้ เป็นเรื่องชอบธรรม

 

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ แถลงว่า เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐฯมีการจ้างงานใหม่ 195,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานยังทรงตัวที่ระดับ 7.6% จากการที่คนเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังมีการปรับทบทวนตัวเลขสำหรับเดือนเมษายน และพฤษภาคม ที่แสดงให้เห็นถึงการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากรายงานที่ออกมาครั้งแรก 70,000 ตำแหน่ง อันเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่บนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แม้จะมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น รัฐบาลใช้จ่ายน้อยลง และสัญญาณซบเซาจากต่างประเทศ

 

ตัวเลขจ้างงานที่ออกมายังทำให้ราคาพันธบัตรสหรัฐฯร่วงลง และดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปี พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 2.74% จากการที่เทรดเดอร์ เริ่มรับความรู้สึกในเรื่องที่ว่า เฟดจะชะลอโครงการเข้าซื้อพันธบัตร เพื่อคุมต้นทุนการกู้ยืมให้อยู่ในระดับต่ำ

 

ผลตอบแทนที่สูงขึ้นดังกล่าวยังช่วยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี เมื่อเทียบกับตระกร้าเงินหลักๆ —ISN 02

 

http://www.isnhotnews.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อียิปต์สะเทือน ศก.โลก ดันราคาน้ำมันพุ่ง-ลดกำลังซื้อ

 

 

icon-sns-facebook.gif

1

icon-sns-tweeter.gif

0

 

 

9C1E58FE037E4B259BE4E0BE16CCD105.jpg

 

 

 

โดย...พันธสิทธิ เจริญพาณิชย์พันธ์

 

เป็นข่าวที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก เมื่อผู้นำกองทัพของอียิปต์ ตัดสินใจเข้าแทรกแซงความขัดแย้งทางการเมืองด้วยการสั่งปลดประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ออกกลางอากาศเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับตั้งรัฐบาลพลเรือนขึ้นทำหน้าที่รักษาการชั่วคราว จนกว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นใหม่ และเตรียมเริ่มต้นกระบวนการฟื้นฟูประเทศไปสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง

แม้การเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลดังกล่าวของผู้นำกองทัพแห่งดินแดนไอยคุปต์จะเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาการเมืองภายในประเทศเป็นหลัก แต่ ในอีกแง่หนึ่งนั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความเคลื่อนไหวในอียิปต์กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลกแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะในด้านผลกระทบที่จะมีต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งเห็นได้จากราคาน้ำมันดิบกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 เดือน ที่ 102 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากกองทัพได้ออกมาขู่ว่าจะเข้าแทรกแซงทางการเมือง จนทำให้เกิดความตึงเครียดในอียิปต์อย่างหนัก

สาเหตุที่ความเคลื่อนไหวในอียิปต์กำลังกลายเป็นที่จับตามองจากทั่วทุกมุม โลก โดยเฉพาะหลังจากมีการยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็เพราะว่าหากพรรคภราดรภาพมุสลิม ซึ่งเป็นฐานทางการเมืองของ มอร์ซี และผู้ต่อต้านการรัฐประหาร เกิดลุกฮือขึ้นมาตอบโต้จนเกิดความวุ่นวาย และนำพาประเทศไปสู่ความไร้เสถียรภาพขึ้นมา ก็อาจจะไปกระทบกระเทือนต่อการดูแลความปลอดภัยในการเดินเรือสินค้า และเส้นทางการขนถ่ายน้ำมันสำคัญของโลกอย่าง “คลองสุเอซ” ที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและมหาสมุทรอินเดีย

ล่าสุดนั้น ฝันร้ายดังกล่าวดูท่าจะคืบคลานเข้าสู่ความเป็นจริงมากขึ้น เมื่อตัวแทนพรรคภราดรภาพมุสลิมได้ปฏิเสธการยอมรับและร่วมงานกับรัฐบาลที่มา จากการยึดอำนาจ และเตือนว่าอาจเสี่ยงที่จะนำพาประเทศไปสู่ความวุ่นวายอีกด้วย ขณะที่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เกิดศึกม็อบชนม็อบ ระหว่างผู้สนับสนุนการรัฐประหารกับฝ่ายต่อต้านการรัฐประหารขึ้นในเมืองอเล็ก ซานเดรียขึ้น จนมีผู้เสียชีวิตไป 14 คน บาดเจ็บร่วม 200 คน

ทั้งนี้ เส้นทางการเดินเรือผ่านคลองสุเอซนี้ถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่สำคัญต่อภาวะ ความเป็นไปของเศรษฐกิจอียิปต์ และเส้นทางการเดินเรือสินค้าและขนถ่ายน้ำมันการค้าของโลกเป็นอย่างมาก

เพราะตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งเชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในยุโรปกับทะเลแดง ที่จะออกสู่มหาสมุทรอินเดียได้ ซึ่งเส้นทางเดินเรือดังกล่าวนี้คิดเป็นสัดส่วน 8% ของปริมาณการค้าในทะเลของโลก อีกทั้งยังเป็นเส้นทางขนถ่ายน้ำมันที่สำคัญ โดยคิดเป็น 4.5% ของปริมาณการค้าน้ำมันของโลก และคิดเป็น 14% ของการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในทะเลของโลก

ด้านข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐ ประเมินว่า ในแต่ละวันมีน้ำมันดิบถูกขนถ่ายผ่านเส้นทางดังกล่าวประมาณ 8 แสนบาร์เรลต่อวัน และก๊าซแอลเอ็นจี ที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ยังไม่รวมการขนถ่ายน้ำมันผ่านท่อที่ขนานไปกับคลองสุเอซที่ยาวกว่า 190 กิโลเมตร อีก 1.7 ล้านบาร์เรล

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ความเคลื่อนไหวของอียิปต์มีนัยสำคัญต่อความเป็นไปของราคาตลาดน้ำมัน ทั่วโลกไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่ประเทศแห่งนี้ไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกเลยด้วยซ้ำ

เนื่องจากหากเหล่าผู้เดินเรือสินค้าและผู้ขนถ่ายน้ำมันไม่เลือกเส้นทาง คลองอุเอซเพื่อเดินทางไปเอเชียนี้ ก็จะต้องลงไปอ้อมไกลถึงแหลมกู๊ดโฮปของแอฟริกาใต้เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องกินระยะทางไกลกว่ากันมาก และทำให้ต้นทุนการขนส่งแพงกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกัน หรือหากพูดให้ชัดกว่านั้นคือ หากเริ่มจากกรุงลอนดอนของอังกฤษ เพื่อเดินเรือไปเมืองมุมไบของอินเดีย โดยผ่านคลองสุเอซนั้น โดยเฉลี่ยจะใช้ระยะทางการเดินเรือประมาณ 1.16 หมื่นกิโลเมตร ขณะที่เส้นทางแหลมกู๊ดโฮปใช้ระยะทางกว่า 1.98 หมื่นกิโลเมตร

ความกังวลต่อสถานการณ์ความวุ่นวายของดินแดนแห่งพีระมิดและฟาโรห์ที่จะส่ง ผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลก ล่าสุดได้ส่งผลสะเทือนไปยังประเทศต่างๆ แล้ว โดยล่าสุด ฮัตตา ราชสาร หัวหน้ารัฐมนตรีเศรษฐกิจอินโดนีเซีย ได้ออกมาเผยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กำลังรู้สึกกังวลต่อสถานการณ์ในอียิปต์ที่จะส่งผลถึงเสถียรภาพในตะวันออก กลางและตลาดน้ำมันโลกที่จะพุ่งขึ้นสูง

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้รัฐบาลอิเหนารู้สึกอ่อนไหวต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นพิเศษ ก็เพราะเกรงว่าการที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จะยิ่งเป็นการเข้ามาซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพของประชาชนให้ยิ่งสูง ขึ้นไปอีก รวมไปถึงปัญหาการขาดดุลงบประมาณของประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลมีแนวโน้มว่าจะลดการอุดหนุนราคาน้ำมันในประเทศ

อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันโลกจากผลพวงความวุ่นวายในอียิปต์ ก็อาจยิ่งเป็นการเข้าซ้ำเติมภาวะกระแสเงินทุนร้อนไหลออกและค่าเงินที่เริ่ม อ่อนค่าลงอย่างหนักของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐออกมาเผยว่าอาจลดการใช้มาตรการอัด ฉีดในปลายปีนี้ ทำให้ยิ่งทวีความเลวร้ายลงมากขึ้น

นอกเหนือจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและราคาน้ำมันโลกแล้ว ในอีกแง่หนึ่ง การบุกยึดอำนาจของกองทัพอียิปต์ก็ยังอาจส่งผลสะเทือนไปยังการเมืองและ เสถียรภาพของภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หลายๆ ประเทศ เช่น ตุรกี บราซิล ที่กำลังเผชิญกับการลุกฮือประท้วงของประชาชนอยู่ในขณะนี้ได้ เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นๆ เดิมตาม โดยเฉพาะในตุรกีนั้นเคยมีประวัติของการที่ทหารลุกขึ้นมายึดอำนาจมาแล้ว

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างตุรกีจะออกมาตำหนิการใช้กำลังเข้า ยึดอำนาจของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามครรลองของระบอบ ประชาธิปไตย ตรงกันข้ามกับประเทศที่มีแนวโน้มการปกครองแบบอำนาจนิยมและไม่ค่อยถูกกับการ ปกครองประเทศโดยกลุ่มหัวรุนแรงอย่างพรรคภราดรภาพมุสลิม ที่ไม่ค่อยจะต่อว่าการลุกขึ้นยึดอำนาจครั้งนี้ของการกระทำครั้งนี้มากนัก เช่น ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความกังวลต่อสถานการณ์ความวุ่นวายในอียิปต์จะสร้างความปั่นป่วนต่อทิศ ทางราคาน้ำมันของโลก แต่นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งก็เชื่อว่าราคาน้ำมันคงจะไม่พุ่งสูงขึ้นไป มากกว่าที่ระดับ 104-105 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลมากนัก เพราะปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวมนั้นยังอ่อนแออยู่ โดยเฉพาะผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อย่างจีน กำลังเผชิญกับภาวะการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ผลผลิตน้ำมันจากแหล่งอื่นๆ เช่น สหรัฐ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ความเคลื่อนไหวในตะวันออกกลางไม่สามารถส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลก เหมือนในช่วงทศวรรษ 1960 ที่เกิดภาวะสงครามระหว่างอียิปต์กับอิสราเอลและพันธมิตร จนมีการสั่งปิดช่องแคบคลองสุเอซ และทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นไปกว่านี้หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกๆ ฝ่ายยอมรับแล้วก็คือ ผลพวงจากกระแสทุนโลกาภิวัตน์นี้ได้ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อพื้นที่อีกมุมหนึ่งของโลกได้อย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน

 

http://www.posttoday.com/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เช้านี้ ค่าเงินบาทผันผวนขึ้นลงแรงมากๆๆๆๆ ระดับถึง 31.30 - 31.58 คือถึง 28 สตางค์ ตีเป็นราคาทอง 150-200 บาทเชียวนะ แล้วอาแปะจะปรับราคาแนวทางแบบไหนล่ะ อันนี้ วันนี้ เช้านี้ นักเล่นซื้อขาย กำไร ขาดทุน กันแบบ " งง ๆๆๆ " ราคา Spot ไม่ไปไหน แต่ราคาทองปรู้ดปร้าด รอให้มีเสถียรภาพก่อนสักพัก ธนาคารชาติคงลงมากระตุก

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

บาทอ่อนปวกเปียกเลยง่ะ

 

แต่อ่อนไว ๆ แบบนี้

 

กลัว แข็งไว เหมือนกัน ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 31.32/34 อ่อนค่าต่อเนื่อง นลท.จับตาราคาทอง

 

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.32/34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 31.13/15 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐออกมาดีเกินคาด บ่งบอกว่าเศรษฐกิจของสหรัฐดีขึ้นค่อนข้างมาก ทำให้มีการคาดการณ์กันไปต่างๆนานาว่าจะมีการยกเลิกหรือชะลอหรือพิจารณาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเดือนก.ย.นี้หรือไม่

"Major Currency ในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นยูโร ปอนด์ หรือ Regional พากันตอบรับข่าวนี้ ประกอบกับทองคำลงมา Test แถวๆ ระดับ 1,200 ดอลาร์/ออนซ์ โดยเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ระดับ 1,211 ดอลลาร์/ออนซ์" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินทิศทางเงินบาทน่าจะมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไป และอาจจะต้องจับตาราคาทองคำว่าวันนี้จะหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือไม่ ถ้าหลุดเงินบาทมีโอกาสไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 31.40 และ 31.50 บาท/ดอลลาร์ตามลำดับ ส่วนแนวรับมองไว้ที่ระดับ 31.30 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.15 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 99.98/99 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2824 ดอลลาร์/ยูโร จากเนย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.2870/2871 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.1420 บาท/ดอลลาร์

- นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มการแข่งขันด้านการส่งออก ปีนี้ว่า ต้องการให้ผู้ส่งออกไทยเตรียมรับมือกับผู้ส่งออกจากประเทศจีนที่มีแนวโน้มที่จะลดราคาสินค้าส่งออกในตลาดต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดเอเซียนเพื่อระบายสินค้าที่เหลืออีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 การส่งออกในภาพรวมของจีนมีอัตราการขยายตัวในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย ประกอบกับการบริโภคในจีนก็เริ่มซบเซาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

- MTS คาดราคาทองไตรมาส 3 ปีนี้ยังเป็นขาลง หลังตลาดกังวลเฟดเลิก QE เผยในช่วงเดือน ส.ค. แนะนักลงทุนจับตาความต้องการทองคำของประเทศอินเดียในเทศกาลแต่งงาน

- นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศสัปดาห์นี้ มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จะไม่สูงเกินกว่าราคาปัจจุบันมากนัก ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ ในต้นสัปดาห์นี้ว่า จะมีการตอบสนองต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก มากน้อยเพียงใด ถึงแม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สนองต่อราคาน้ำมันตลาดโลกเท่าที่ควร

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (5 ก.ค.) หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.สูงเกินคาด

เงินดอลลาร์แข็งค่า 1.09% เทียบเงินเยน ที่ 101.12 เยน จากระดับเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 100.03 เยน ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์ก็แข็งค่า 0.74% เทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9633 ฟรังก์ จาก 0.9562 ฟรังก์

เงินยูโรอ่อนลง 0.64% เทียบดอลลาร์ แตะ 1.2830 ดอลลาร์ จาก 1.2913 ดอลลาร์ ด้านเงินปอนด์ก็ลดลง 1.14% เทียบดอลลาร์ ที่ 1.4898 ดอลลาร์ จาก 1.5070 ดอลลาร์

เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.96% เทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9054 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 0.9142 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.56% เทียบดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ 0.7709 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7831 ดอลลาร์สหรัฐ

- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (5 ก.ค.) เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้เป็นเหตุผลในการชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

- ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.สูงเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอโครงการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดการณ์

ด้านตลาดหุ้นไทย นักวิเคราะห์ฯ ประเมินวันนี้แนวโน้มดัชนีแกว่งตัวขึ้นในกรอบจำกัด ตามตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้าที่ส่วนใหญ่ดัชนีเป็นบวก ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราว่างงานยังทรงตัว ประกอบกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อาจจะมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มนี้เข้ามาหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทย แต่กำลังซื้อทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศยังคงเบาบาง พร้อมให้แนวต้าน 1,450-1,460 จุด แนวรับ 1,430 จุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

SPCG แจ้งยกเลิกการลงทุนในบริษัท ไทย โซล่าร์ฟิวเจอร์ จำกัด

 

 

ตามที่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ได้แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2/2556 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2556 เรื่องการเปลี่ยนแปลงการเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทย

โซล่าร์ฟิวเจอร์ จำกัด ("TSF") โดยการเข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดผ่านบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด ("SPR") ซึ่งบริษัทฯ

ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด นั้น

เนื่องจากเงื่อนไขการเข้าลงทุนดังกล่าว บริษัทฯ จะต้องดำเนินการตรวจสอบสถานะของกิจการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าซื้อหรือรับโอนกิจการและเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

ซึ่งตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2555 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2555 ได้มอบหมายให้ นางสาววันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ/หรือ บุคคลที่ได้รับมอบหมายจาก นางสาววันดี กุญชรยาคง

เป็นผู้มีอำนาจในการติดต่อ เจรจา แก้ไขเพิ่มเติม ตกลง ลงนาม ส่งมอบเอกสารและ/หรือสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคู่สัญญา และ/หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำรายการดังกล่าว

รวมถึงดำเนินการอันใดอันจำเป็นและเกี่ยวเนื่องกับการเข้าทำรายการดังกล่าวได้ทุกประการจนเสร็จการ

เมื่อเข้าทำการตรวจสอบความพร้อมของระบบบัญชีเพื่อจะทำการควบรวมกิจการแล้ว พบว่า บริษัท ไทย

โซล่าร์ฟิวเจอร์ จำกัด ยังไม่มีความพร้อมสำหรับการปรับปรุงระบบบัญชีเพื่อรองรับการเป็นบริษัทในเครือของบริษัทจดทะเบียน

ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการจัดทำงบการเงินรวมของบริษัทฯ ดังนั้น จึงเห็นควรยุติการเข้าควบรวมกิจการกับบริษัท ไทย โซล่าร์ฟิวเจอร์ จำกัด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเป็นผู้นำในด้านระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) โดยบริษัทฯ ได้ร่วมจัดตั้งบริษัท โซลาร์ เพาวเวอร์ รูฟ จำกัด ("SPR")

เพื่อดำเนินธุรกิจด้านการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันผลการดำเนินงานเป็นไปอย่างดีตามแผนงานที่วางไว้ อีกทั้งบริษัท เคียวเซร่า (ประเทศญี่ปุ่น)

จำกัด อยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าร่วมลงทุนใน SPR เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในบริษัทดังกล่าว โดย บริษัทฯ จะรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานที่สำคัญของ SPR ให้ทราบต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลายๆ สถาบันฯ เริ่มมีการตัดลดลง ตัวเลขการขยายตัวด้านเศรษฐกิจจีนลงมา ซึ่งนักลงทุนที่สหรัฐฯ อาจมองเป็นการส่งสัญญานการถดถอยด้านเศรษฐกิจของโลก ในครึ่งปีหลัง ซึ่งน่าจะเชื่่อมโยงมาที่ราคาทอง จะย่อตัวลงอีก

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คาดและหวังว่า 1180 - 1150 มันจะมา (S)

แต่ก่อนจะไปตรงนั้น ต้องรวบรวมพลังเม่าน้อยอีกซักรอบ

ไม๊ครับ 555

 

เช้านี้ยังไงต้องขายออก 18,100 ซื้อเข้า 18,000

555 เจอความผันผวน ขึ้น-ลง ของค่าเงินบาท อาแปะ ตั้งราคาแบบ " ปลอดภัยไว้ก่อน " ส่วนต่างระหว่าง Fair Price เฮอะๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

555 เจอความผันผวน ขึ้น-ลง ของค่าเงินบาท อาแปะ ตั้งราคาแบบ " ปลอดภัยไว้ก่อน " ส่วนต่างระหว่าง Fair Price เฮอะๆๆ

 

331044.jpg

ฝากไว้ก่อน....โอฬาร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...