ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัว เหตุเจรจาเพดานหนี้สหรัฐไม่คืบ-ส่งออกจีนลด

 

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับลดลง ขณะที่สหรัฐยังหาทางออกเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ไม่ได้ รวมทั้งยอดการส่งออกของจีนที่อ่อนตัวลงสวนทางคาดการณ์

ดัชนี Stoxx Europe 600 อ่อนตัว 0.3% แตะ 310.75 เมื่อเวลา 8.08 น.ตามเวลาลอนดอน

หุ้นแดสซอลท์ ซิสเต็มส์ ร่วง 8.2% หลังจากที่รายได้ร่วงลงต่ำกว่าเป้า ส่วนหุ้นพีเอสเอ เปอร์โยต์ ซีตรอง ร่วง 7.4% จากรายงานข่าวเรื่องบริษัทวางแผนที่จะขายหุ้นใหม่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า เฟดเผชิญกับความท้าทายในการสื่อสารเกี่ยวกับนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ ของเฟด เมื่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นใกล้เคียงระดับ 0%

 

นาย โรเซนเกรน กล่าวที่สภาวิเทศสัมพันธ์ในนิวยอร์กว่า เป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นสำหรับเฟดในการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน ขณะที่มีการหารือเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนที่ดำเนินมานับ 2 สัปดาห์แล้ว และได้ส่งผลกระทบต่อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ

 

ประธาน เฟดบอสตัน กล่าวว่า เครื่องมือนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษที่เฟดใช้อยู่ในขณะนี้ถือเป็น เรื่องใหม่อยู่เล็กน้อย และประชาชนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือดัง กล่าว ซึ่งนั่นทำให้เกิดความท้าทายอย่างมาก นอกจากนี้ เฟดยังไม่มีข้อมูลย้อนหลังมากนักเกี่ยวกับเครื่องมือด้านนโยบายที่ใช้อยู่ใน ปัจจุบัน

 

นายโรเซนเกรน กล่าวว่า การสื่อสารของเฟดอาจเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องมือ “ที่ไม่ชัดเจนและไม่สามารถคาดเดาได้ในแง่ของผลที่มีต่ออัตราดอกเบี้ยระยะยาว

 

ประธาน เฟดบอสตัน ระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่เฟดสามารถและควรสื่อสารก็คือ นโยบายต่างๆที่เรากำหนดขึ้นนั้น มีความสอดคล้องกับเป้าหมายหลักของเราในการสร้างงานให้ได้สูงสุดและการสร้าง เสถียรภาพด้านราคา

 

ที่มา: money channel (วันที่ 14 ตค.56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประธานเวิลด์แบงก์เตือน หากสหรัฐไม่พ้นวิกฤติเพดานหนี้ เศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาเสี่ยงถึงคราวหายนะ ขณะแกนนำสองพรรคในสภาสูงหารือกันใหม่หวังยุติการชัตดาวน์และเลี่ยงการผิดนัด ชำระหนี้หลังการเจรจาระหว่างโอบามากับรีพับลิกันในสภาล่างล่ม

แกนนำวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันนัดเจรจาหารือกันอีกครั้งเมื่อวัน อาทิตย์ ต่อเนื่องจากการพูดคุยเมื่อวันเสาร์ระหว่างแฮร์รี รีด ผู้นำ ส.ว.เสียงข้างมากพรรคเดโมแครต กับมิตช์ แม็กคอนเนล แกนนำ ส.ว.รีพับลิกัน ที่รีดระบุว่ามีความจริงใจที่สุด แต่ยังเป็นเพียงการพูดคุยเบื้องต้น

ความพยายามของวุฒิสภาที่จะผ่านกฎหมายเพื่อยุติการปิดทำการหน่วยงานภาครัฐบาง ส่วนขณะนี้ เนื่องจากกฎหมายงบประมาณไม่ผ่านสภาล่างเมื่อปลายเดือนที่แล้ว และการผ่านกฎหมายขยายเพดานหนี้ก่อนเส้นตายวัน 17 ตุลาคมที่กระทรวงการคลังจะหมดเงินชำระหนี้ มีขึ้นภายหลังการเจรจาต่อรองระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามา และแกนนำพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วล้มเหลวลงภาย หลังโอบามาปฏิเสธข้อเสนอของรีพับลิกันที่จะผ่านกฎหมายขยายเพดานหนี้เพียง ระยะสั้น

โอบามาอ้างว่า เขาไม่ต้องการแค่การเลื่อนปัญหาเพดานหนี้ออกไปแค่ 6 สัปดาห์ เพื่อที่จะกลับมาเผชิญการผิดนัดชำระหนี้กลางช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผู้คนออก จับจ่ายใช้สอย

ส.ว.รีดเผยว่า การหารือตัวต่อตัวกันครั้งแรกระหว่างเขาและแม็กคอนเนลยังไม่ได้ข้อสรุป รายงานกลาวว่าแม็กคอนเนลเสนอมาตรการขยายอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาลไปถึงปี 2557 และอนุมัติงบประมาณสำหรับ 6 เดือนข้าง แต่ขณะเดียวกันก็จะยกเลิกการเก็บภาษีเครื่องแพทย์ตามกฎหมายประกันสุขภาพของ โอบามา แต่รีดปฏิเสธ อย่างไรก็ดี ส.ว.เดโมแครตกล่าวกันว่า ทั้งสองพรรคตั้งเป้าจะบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ให้ได้ในวันอาทิตย์หรือก่อน ตลาดเปิดทำการวันจันทร์

วิกฤติขยายเพดานหนี้สร้างความวิตกแก่ตลาดทุนยิ่งกว่าการชัตดาวน์ ในที่ประชุมประจำปีของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศเมื่อวันเสาร์ จิม ยง คิม ประธานเวิลด์แบงก์ ได้กล่าวเตือนว่า สหรัฐใกล้เผชิญสถานการณ์อันตรายอย่างมากในไม่กี่วันข้างหน้า และหากคองเกรสไม่สามารถขยายการกู้ยืมเงิน 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ก่อนเส้นตายวันพฤหัสบดีนี้ ก็อาจกลายเป็น "เหตุการณ์หายนะ" สำหรับโลก

"ยิ่งเข้าใกล้เส้นตายเท่าไร ผลกระทบก็จะเกิดกับโลกกำลังพัฒนาใหญ่หลวงมากขึ้นเท่านั้น การไม่ดำเนินการจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น, ความเชื่อมั่นตก และการขยายตัวช้าลง" คิมกล่าว.

 

ที่มา: ไทยโพสต์(วันที่ 14 ตค.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม ซึ่งหมายถึงเหลือเวลาอีก 3 วันก่อนวันที่ 17 ตุลาคม ที่เป็นวันสุดท้ายที่ฝ่ายการเมืองสหรัฐต้องมีทางออก

 

เรื่องการปรับขึ้นเพดานหนี้สาธารณะ เพราะถ้าภายในคืนวันที่ 17 ตุลาคมนี้ (เวลาสหรัฐ) ยังตกลงกันไม่ได้ เข้าเช้าวันที่ 18 ตุลาคม รัฐบาลสหรัฐก็จะไม่สามารถกู้เงินเพิ่มได้เพราะจะติดเพดานหนี้ที่ขณะนี้กำหนดไว้ที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อกู้เพิ่มไม่ได้รัฐบาลสหรัฐก็คงขาดสภาพคล่อง คือ ไม่มีเงินสดพอที่จะใช้จ่ายตามข้อผูกพันต่างๆ และที่กังวลกันมากก็คือ ถ้าไม่มีการเพิ่มเพดานหนี้จริง รัฐบาลสหรัฐอาจจะไม่สามารถชำระดอกเบี้ยพันธบัตรเงินกู้ได้ ซึ่งถ้าเกิดขึ้น สหรัฐก็จะกลายเป็นประเทศที่มีปัญหาผิดนัดชำระหนี้ คือ ไม่สามารถชำระหนี้ที่ตนมีอยู่ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก และอาจนำไปสู่การเกิดวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกอีกครั้งก็ได้

 

เมื่อสามอาทิตย์ก่อน ผมเขียนถึงความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐสามเรื่องที่ขณะนี้จับเศรษฐกิจโลกเป็นเชลย เรื่องแรก ก็คือ เงื่อนเวลาที่จะเริ่มลดทอนมาตรการคิวอี ซึ่งปัจจุบันยังไม่ชัดเจน สอง คือ ความไม่แน่นอนว่าใครจะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐคนต่อไป และสาม สหรัฐจะสามารถแก้ปัญหาเพดานหนี้สาธารณะได้หรือไม่ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ในเรื่องที่สามนี้แฟนๆ คอลัมน์ “เศรษฐศาสตร์บัณฑิต” หลายคนเขียนมาถามว่า ถ้าปรับเพดานไม่ได้ ผลจะเป็นอย่างไร วันนี้ก็เลยอยากให้ความเห็นเรื่องนี้

 

เพดานหนี้สหรัฐ หมายถึง ระดับการก่อหนี้สูงสุดที่ได้ถูกกำหนดขึ้นตามกฎหมายโดยรัฐบาลสหรัฐ ผ่านการเห็นชอบรัฐสภา เพื่อควบคุมการกู้ยืมของรัฐบาล เพื่อผลของการรักษาหรือแก้ไขปัญหาเสถียรภาพการคลังของประเทศ ปัจจุบันเพดานหนี้อยู่ที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากข้อตกลงระหว่างรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาหน้าผาการคลังเมื่อตอนต้นปี ทำให้เพดานหนี้ได้ถูกปรับสูงขึ้นเป็นการชั่วคราวที่ระดับปัจจุบันที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ และตั้งแต่ต้นปีถึงขณะนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐก็ได้พยายามบริหารรายจ่ายโดยมาตรการพิเศษต่างๆ เพื่อให้ระดับการก่อหนี้ไม่เกินเพดานหนี้ที่ได้กำหนดไว้ แต่เพดานหนี้นี้เป็นเพดานชั่วคราว ทำให้จำเป็นต้องมีการเพิ่มเพดานหนี้ในอนาคต เพื่อรองรับระดับการใช้จ่ายที่จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะตามรายจ่ายของงบประมาณปีหน้า เพราะประมาณร้อยละ 20 ของการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐจะต้องมาจากเงินกู้ยืม เนื่องจากรายได้ภาษีไม่เพียงพอที่จะชดเชยการใช้จ่ายได้

 

ล่าสุดทางการสหรัฐประมาณว่า ถ้าเพดานหนี้ไม่ปรับเพิ่มขึ้นภายในวันที่ 17 ตุลาคม ระดับเงินสดที่มีเหลืออยู่ที่จะใช้ได้จะมีประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์ซึ่งไม่เพียงพอกับภาระการใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นที่ประมาณ 60 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน ดังนั้น จำเป็นที่เพดานหนี้ต้องปรับขึ้น เพื่อให้ทางการสหรัฐสามารถกู้เงินใหม่ เพื่อมาใช้จ่ายตามภาระที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเพื่อชำระภาระดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ได้กู้ไว้ในวงเงินสูงถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์

 

สิ่งที่ตลาดการเงินโลกกลัวขณะนี้ก็คือ ถ้าเพดานหนี้ไม่ปรับขึ้น และมีผลทำให้ทางการสหรัฐไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผลกระทบที่จะเกิดตามมาต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกจะรุนแรงมาก อย่างน้อยในสามประเด็น

 

1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐคงอ่อนลงมาก เพราะตลาดจะขาดความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ ทำให้คนจะขายทิ้งสินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ราคาพันธบัตรสหรัฐจะตก เพราะไม่มีคนถือ และอัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะสูงขึ้นมาก ซึ่งจะกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก

 

2. ตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐที่ถือว่าปลอดภัยที่สุด เมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้จะกลายเป็นตราสารการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากกว่าเดิม ทำให้ตลาดการเงินโลกจะต้องประเมินราคาของสินทรัพย์ต่างๆ ใหม่ทั้งหมด (Re-pricing) เพราะความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่เคยปลอดภัยที่สุดขณะนี้มีมากขึ้น ภาวะดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนทางการเงินในตลาดการเงินโลกปรับสูงขึ้น ทั่วหน้า ซึ่งจะกระทบสภาพคล่องและกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วโลก

 

3. เมื่อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกลายเป็นตราสารหนี้ ที่มีความไม่แน่นอนเรื่องการชำระหนี้ คือเป็นตราสารที่ผิดนัดชำระหนี้ มูลค่าตลาดของตราสารเหล่านี้ก็จะลดลงทันที ซึ่งจะกระทบฐานะทางการเงินของผู้ถือตราสาร และที่จะถูกกระทบมากก็คือ ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารกลางทั่วโลกที่ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไว้มาก เพื่อเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่สำคัญในตลาดการกู้ยืมที่การใช้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นหลักประกัน เช่น ตลาด Repo ก็จะปั่นป่วนมาก เพราะจะไม่สามารถใช้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันได้อีกต่อไป เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีปัญหาการชำระหนี้ ซึ่งจะกระทบการทำธุรกรรมการเงินไปทั่วโลก

 

เหล่านี้คือตัวอย่างของความปั่นป่วนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกมาก ประเด็นนี้ทำให้หลายฝ่าย รวมถึงจีนและไอเอ็มเอฟได้ออกมาเตือนรัฐบาลสหรัฐให้ตระหนักถึงผลกระทบรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจการเงินโลกถ้าฝ่ายการเมืองสหรัฐไม่สามารถหาทางออกที่เหมาะสมในเรื่องนี้ได้

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดการเงินโลกยังไม่ได้ตื่นตระหนกมากนักกับความเป็นไปได้ที่ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐอาจไม่สามารถหาทางออกได้ และนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะตลาดเชื่อว่า ฝ่ายการเมืองสหรัฐตระหนักถึงความปั่นป่วนที่อาจเกิดขึ้นเป็นอย่างดี และคงต้องพยายามหาข้อยุติให้ได้ก่อนนาทีสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์ปั่นป่วนดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะถ้าเกิดขึ้น ความผิดทั้งหมดจะตกที่ฝ่ายการเมืองสหรัฐ ที่เล่นการเมืองในประเทศกันแบบไม่สนใจผลที่จะมีต่อเศรษฐกิจของประเทศตนเองและเศรษฐกิจโลก

 

ประเด็นการเมืองที่เป็นจุดที่ไม่ยอมกันระหว่างรัฐบาลโอบามา พรรคเดโมเครตกับฝ่ายค้านพรรครีพับลิกันก็คือ รัฐบาลโอบามาต้องการเพิ่มเพดานหนี้โดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อให้การใช้จ่าย ภายใต้ภาระที่มีและการใช้จ่ายภายใต้งบประมาณใหม่สามารถเดินต่อได้ แต่ฝ่ายค้านต้องการให้มีการเพิ่มเพดานหนี้อย่างมีเงื่อนไข และเงื่อนไขที่ฝ่ายค้านต้องการก็คือ ต้องมีการลดทอนรายจ่ายลงพร้อมกับการเพิ่มเพดานหนี้ เพื่อให้เกิดวินัยทางการคลัง ซึ่งมีเหตุผล แต่การใช้จ่ายที่ฝ่ายค้านต้องการให้ลด ก็คือ การใช้จ่ายด้านสังคมสงเคราะห์ ซึ่งรวมถึงเงินที่จะเข้ามาสนับสนุนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพที่เป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาลโอบามา ที่ชาวอเมริกันหลายฝ่ายไม่ชอบ ทำให้รัฐบาลโอบามายอมไม่ได้

 

ดังนั้น สามวันจากนี้ไป ตลาดการเงินโลกคงเป็นเชลยไปกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการเมืองสหรัฐว่าจะมีทางออกเรื่องเพดานหนี้ได้หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกก็คือ แม้วันที่ 17 ตุลาคม จะยังไม่มีทางออกก็อย่าเพิ่งตกใจ กระทรวงการคลังสหรัฐคงต้องตัดทอนรายจ่ายอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นไปก่อน เพื่อให้สหรัฐยังมีวงเงินที่จะชำระหนี้ ซึ่งถ้าสถานการณ์พัฒนามาถึงจุดนี้ ตลาดการเงินโลกก็คงกดดันรัฐบาลสหรัฐด้วยการตกลงอย่างรุนแรงของตลาดหุ้น การอ่อนค่าอย่างรุนแรงของเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่จะปรับขึ้นเร็วมาก จนฝ่ายการเมืองสหรัฐจะต้องเลิกทะเลาะกัน และหันมาเร่งปรับเพดานหนี้ในที่สุด

 

แต่ดีที่สุด และที่อยากเห็นก็คือ ประธานาธิบดีสหรัฐในฐานะผู้นำ ออกมาพูดอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจ และลดความผันผวนต่างๆ ในตลาดการเงินโลกได้ทันที

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 14 ตุลาคม 2556)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นั่งตบยุงเล่นดีกว่า

 

วิ่งวนเหรอ 1277-1291

 

เจ้าคางคก ฝนตกมันออกหากิน

เดินบนดิน กระโดดเหยงๆ หากินแมงเม่า แผล็บ ๆๆๆ

กินเข้าไปกินได้ สองสาม ตัว ท้องมันสั่นระรัว

 

มันจึงแลบลิ้น แผล็บ ๆๆๆ

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิ่งวนเหรอ 1277-1291

 

เจ้าคางคก ฝนตกมันออกหากิน

เดินบนดิน กระโดดเหยงๆ หากินแมงเม่า แผล็บ ๆๆๆ

กินเข้าไปกินได้ สองสาม ตัว ท้องมันสั่นระรัว

 

มันจึงแลบลิ้น แผล็บ ๆๆๆ

 

เพิ่งเข้าแถวๆ 83 เนียแหละพี่ใหญ่ รอ ปิด 72 ถ้า 90 เด๋วกลับขา อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ณ. ตอนนี้ แนวต้านด้านบนจะขยับมาที่ 1277

Support: 1261 (S1), 1243 (S2), 1237.50 ( main ) 1221 (S3).

Resistance: 1277 (R1), 1291 (R2), 1305.13 (main) 1316 (R3).

มาจาก 1274 ตอนเช้า $1277 ด่านแตก มุ่งหน้า 1291 ขณะนี้ 1288 ถึงก็ออก รอดู จะชน 1291 กี่ที 3 ทีไม่ผ่านก็ย่อลง 1277 ผ่านก็เจอ $1300

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

มาจาก 1274 ตอนเช้า $1277 ด่านแตก มุ่งหน้า 1291 ขณะนี้ 1288 ถึงก็ออก รอดู จะชน 1291 กี่ที 3 ทีไม่ผ่านก็ย่อลง 1277 ผ่านก็เจอ $1300

หัวใจทำงานไม่ดี ห้ามเล่นนะเนี่ย ขอบคุณป๋าค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โดยทั่วไป ถ้าราคาทองจะไต่ขึ้น ก็มาจากอัตราเงินเฟ้อ ที่เพิ่มสูงขึ้น หมายถึง ต้องใช้เงินจำนวนมากขึ้นเพื่อซื้อของ แต่ OECD ได้ปล่อยบทความตัวเลข เพื่อบอกกับชาวโลกนักลงทุนว่า " เงินเฟ้อปรับลดลง "

 

ซึ่งในสถานการณ์ตอนนี้ จะส่งผลให้ราคาทองย่อลงบ้าง แต่ไม่ถาวร รอมองดู 21.30 น. ตลาดเปิด แต่ธนาคารปิด มีแนวรับ $1277

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดพันธบัตรปิดทำการ ตลาดหุ้นเปิด CME floor closed for interest rates and FX products เน้นที่กระแสเดิม ที่ผ่านมา 14 วัน Government Shutdown

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองย่อกลับมาที่ $1277 ออกรอมองท่าที เพราะ นายโอบามา มีนัดคุยกับ ผู้นำสภาคองเกรสฯ ที่ทำเนียบขาว ตอน รุ่งสางเวลาไทย คงประมาณ ตี 3 พรุ่งนี้ สื่อฯ คงนำมาถกเถียง ว่าเป็นยังไง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 12,26,9 แบบดั้งเดิม และ รหัส 5,35,9 แบบสัญญานนำทาง บ่งบอกให้อยู่ห่าง ทองคำ เป็นสัญญานด้านลบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...