ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ฮั่วเซ่งเฮง มองราคาทองคำปีหน้ายังเป็นขาลง เหตุมาตรการคิวอีกดดัน ลุ้นฟื้นในปี 58 ตามเทรนด์ดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น

 

นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในปีหน้ายังอยู่ในช่วงขาลง โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,050-1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยกดดันสำคัญมาจากการชะลอมาตรการ QE ซึ่งมีโอกาสชะลอครั้งละ 10,000 ล้านเหรียญ จนถึงครั้งสุดท้ายในช่วงปลายปี 2557 คือ 1.5 ล้านเหรียญ ตามที่ธนาคารบาร์เคลย์สประเมินไว้

 

โดยในปีหน้าปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม คือเรื่องเศรษฐกิจในสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อภาพรวมราคาทองคำเช่นกัน

 

อย่างไรก็ดีราคาทองคำภายในประเทศยังได้รับปัจจัยบวกจากกรณีค่าเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทอ่อนค่าแล้วกว่า 3% ซึ่งมีผลกระทบทำให้ราคาทองคำในประเทศสูงขึ้น โดยเทียบว่าค่าเงินบาท 1 บาทมีผลกระทบต่อราคาทองคำ 700 บาท โดยมองราคาในประเทศต่ำสุดไว้ที่ 17,500 บาท ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ทยอยซื้อเป็นระยะได้

 

อย่างไรก็ตามในปี 2558 คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ตามทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลกที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น

 

ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 23 ธันวาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์ทองคำระบุราคาทองคำโลกปีนี้ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ลดครั้งหลังสุดเมื่อปี43 และมีความเสี่ยงที่จะลดลงอีกในปี57

 

 

ราคาทองคำใน ตลาดทองคำแท่งลอนดอนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) อยู่ที่ออนซ์ละ 1,205 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 38,560 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ปรับลดลงไปแล้วเกือบร้อยละ 27 ในปีนี้ เนื่องจากปริมาณความต้องการทองคำในตลาดลดน้อยลงและภาวะเงินเฟ้อบรรเทาลง เป็นราคาที่ลดลงครั้งแรกหลังจากลดลงครั้งหลังสุด 5.6% เมื่อปี 2543 จากนั้นได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันตลอด 12 ปีจนถึงปีที่แล้ว

 

นักวิเคราะห์ของกลุ่มธนาคารแมคควอรีมองว่ามี 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำใน ปีนี้ลดลง ปัจจัยแรกเกิดจากแรงเทขายของนักลงทุน โดยเฉพาะกองทุนเปิดที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หรืออีทีเอฟ ที่เทขายแล้ว 840 ตัน เพราะเห็นสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว ปัจจัยที่สองคือ ปริมาณความต้องการทองคำทั่วโลกลดลง เพราะไม่มีความจำเป็นต้องซื้อทองเพื่อเป็นหลักประกันป้องกันความเสี่ยงจาก ภาวะเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ประกาศลดปริมาณการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลรายเดือนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งมาตรการ ผ่อนคลายทางการเงินหรือคิวอี

 

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ธนาคารแห่งออสเตรเลียหรือเอ็นเอบี คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงแตะออนซ์ละ 1,050 ดอลลาร์ ช่วงปลายปี 2557 และต้นปี 2558 ธนาคารคอมเมิร์ซแบงก์ของเยอรมนีกลับคาดการณ์ว่าราคาทองคำน่า จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับออนซ์ละ 1,400 ดอลลาร์ในสิ้นปีหน้า เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลกจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และมูลค่าเงินสกุลต่าง ๆ ลดลง ทำให้นักลงทุนต้องซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะขาดทุน

 

ราคาทองคำเคย ทะยานแตะระดับสูงสุดที่ออนซ์ละ 1,921.15 ดอลลาร์ เมื่อเดือนกันยายน 2554 โดยเป็นผลจากความวิตกของนักลงทุนที่กังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะถด ถอยรอบใหม่ ท่ามกลางปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในกลุ่มยูโรโซน

 

 

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (23/12/2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่คิดว่า ยังใช้งานได้. วันนั้น เวลา 09.09-09.30 น.ของวันที่ 17 ธ.ค.56

สะพานกรุงเทพฯปิดการจราจร เปิดให้เรือผ่าน 2 ลำ เป็นเรือรบ 1 ลำ เรือสินค้า 1 ลำ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนเรือสินค้า 1 ลำ ผ่าน ก็ยิ่งเจ๋งมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถึงป๋า บอกจะไปเดินให้ใส่กางเกงนอนไป จะได้หาเจอ คราวหน้า เลือกไปซักตัวนะ ยกมาเป็นตัวอย่างให้แล้ว อิอิ

 

http://www.youtube.com/watch?v=9PVhIMr4ScI&feature=youtube_gdata_player

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นมะกันทุบสถิติอีก-ทองคำลงจากข้อมูลผู้บริโภคสหรัฐฯ น้ำมันปรับลด

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ธันวาคม 2556 05:32 น.

 

 

 

 

 

เอเอฟพี - วอลล์สตรีทวานนี้(23) ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง จากแรงหนุนของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง แต่ปัจจัยนี้ฉุดให้ทองคำขยับลง เหตุนักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ขณะที่ราคาน้ำมัน ปิดในกรอบแคบๆ ก่อนหน้าวันหยุดยาวช่วงคริสต์มาส

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 73.47 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,294.61 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.67 จุด (0.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,827.22 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลทั้ง 2 ดัชนี แนสแดค เพิ่มขึ้น 44.16 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,148.90 จุด

 

ความเคลื่อนไหวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ มีขึ้หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่ายอดใช้จ่ายผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เป็นการปรับขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ก็คาดหมายว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนธันวาคม ก็น่าจะดีขึ้นเช่นกัน

 

ข้อมูลบวกต่างๆเหล่านี้มีออกมาไม่นาน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนเพิ่งได้ข่าวดี จากกรณีกระทรวงพาณิชย์ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3 และธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธมิตร โดยอ้างถึงการฟื้นตัวที่มั่นคงของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน

 

อย่างไรก็ตามตัวเลขทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งทั้งหลายแหล่ของสหรัฐฯ กลับฉุดให้ราคาทองคำวานนี้(23) ปิดลบเล็กน้อย เหตุนักลงทุนขายโลหะมีค่าชนิดนี้ แล้วหันไปลงทุนเก็งกำไรในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงแทน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.70 ดอลลาร์ (0.6 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,197.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ด้านราคาน้ำมันวานนี้(23) ลดลงในกรอบแคบๆ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง จากการขายทำกำไรก่อนหน้าเทศกาลวันหยุดช่วงกลางสัปดาห์

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ 98.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 111.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้นถึง 2.8 เปอร์เซ็นต์ จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในอเมริกาและเหตุปิดคลังส่งออกน้ำมันในลิเบียที่ยังยืดเยื้อต่อไป "สัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างมาก" แอนดี ลิโพว์ นักวิเคราะห์ทางพลังงานระบุ "วันนี้ จึงเป็นการขายคืนท่ามการมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทั้งรหัส 5,35,9 และ 12.26,9 เส้นแดงอยู่ด้านบนเส้นดำ บ่งบอกด้านลบต่อราคาทอง แต่ว่าจะลงไปขนาดไหน กันหนอ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในปี2557ยังอยู่ในช่วงขาลง โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 1,050-1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยกดดันสำคัญมาจากการชะลอมาตรการ QE ซึ่งมีโอกาสชะลอครั้งละ 10,000 ล้านเหรียญ จนถึงครั้งสุดท้ายในช่วงปลายปี 2557 คือ 1.5 ล้านเหรียญ ตามที่ธนาคารบาร์เคลย์สประเมินไว้ โดยในปี2557 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม คือเรื่องเศรษฐกิจในสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อภาพรวมราคาทองคำเช่นกัน ??

 

อย่างไรก็ดีราคาทองคำภายในประเทศยังได้รับปัจจัยบวกจากกรณีค่าเงินบาท อ่อนค่า ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทอ่อนค่าแล้วกว่า 3% ซึ่งมีผลกระทบทำให้ราคาทองคำในประเทศสูงขึ้น โดยเทียบว่าค่าเงินบาท 1 บาทมีผลกระทบต่อราคาทองคำ 700 บาท โดยมองราคาในประเทศต่ำสุดไว้ที่ 17,500 บาท ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ทยอยซื้อเป็นระยะได้

 

“คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในปี 2558 ตามทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลกที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น “

 

ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำและประธานห้างทองจินฮั่วเฮง เปิดเผยว่า ราคาทองคำในปีหน้าจะอยู่ในกรอบ 1,175-1,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือราคาในประเทศที่ 18,000-22,500 บาท หากเงินบาทอยู่ที่ 32.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเชื่อว่าราคาทองจะมีโอกาสสูงขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ครบกำหนดช่วง เวลาขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ คาดว่าน่าจะมีการต่อรองก่อนที่จะมีข้อตกลงขยายเพดานหนี้ต่อไป เป็นปัจจัยเชิงจิตวิทยาทำให้เกิดการเก็งกำไรทำให้ราคาทองปรับขึ้นได้ ดังนั้นแนะนำนักลงทุนที่ซื้อทองคำในราคาสูง ให้ยอมตัดขาดทุนบางส่วนขาย เพื่อนำต้นทุนกลับมาลงทุนใหม่จะดีกว่า

 

ส่วนที่นักวิชาการต่างประเทศคาดการณ์ทองคำจะต่ำกว่า 1,050 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นั้น เห็นว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากต้นทุนราคาทองเหมือง อยู่ที่ 1,100-1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จึงไม่ควรต่ำกว่าราคาหน้าเหมือง แต่ยังคงแนะนำให้นักลงทุนลงทุนระยะสั้น และ เชื่อว่าราคาทองคำจะไม่ปรับขึ้นไปถึงสถิติสูงสุดเดิมที่ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,100 บาท หากไม่เกิดสงครามหรือการก่อการร้าย เพราะที่ผ่านมามีการเก็งกำไรจนราคาสูงกว่าราคาที่แท้จริงถึง 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เมื่อปี 2554

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 24 ธันวาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นเกือบ 0.1% แตะที่ 139.19 จุด เมื่อเวลา 10.12 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,955.90 จุด เพิ่มขึ้น 85.48 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,094.07 จุด เพิ่มขึ้น 4.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,045.64 จุด เพิ่มขึ้น 124.08 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,473.02 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,000.24 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,124.47 จุด เพิ่มขึ้น 8.25 จุด แล

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 24 ธันวาคม 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรรพสามิตโยนรัฐบาลใหม่ชี้ขาดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลปีหน้า ชี้หากไม่ได้การต่ออายุมาตรการในสิ้นธ.ค.นี้ ปี 57 ภาษีดีเซลขยับขึ้นลิตรละ 10 บาท

 

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะสิ้นสุดใน เดือนธ.ค.นี้ในอัตราลิตรละ0.005บาทว่า ต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.พิจารณาว่ารัฐบาลรักษาการสามารถต่อ อายุภาษีได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่อนุมัติให้ดำเนินการใด ๆ ต้องรอให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณา เพราะหากไม่ต่ออายุมาตรการออกไปอีกจะทำ ให้ภาษีดีเซลในเดือนม.ค.ปี57 จัดเก็บในอัตราปกติที่ลิตรละ 10 บาท อย่างไรก็ตามการลดภาษีน้ำมันดีเซลในช่วงที่ผ่านมาทำให้รายได้หายไปเดือนละ 10,000 ล้านบาท

 

“มาตรการนี้ไม่ใช่มาตรการใหม่ได้ดำเนิน การตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนจนถึงรัฐบาลปัจจุบันเพราะต้องการช่วยเหลือประชาชนลด ภาระค่าครองชีพในช่วงราคาน้ำมันแพง และประเมินว่าหากปีหน้าไม่ได้ขึ้นภาษีดีเซล ผลการจัดเก็บรายได้ในไตรมาส 1/57 ยังได้ตามเป้าเพราะในช่วงเทศกาลปีใหม่การท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวดีขึ้นขณะ ที่การบริโภคสุราเริ่มมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และทั้งปีคาดว่าจัดเก็บภาษีจะอยู่ที่ 460,000ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดปราบปรามและจับกุมสินค้าเถื่อน ส่วนการปรับโครง สร้างภาษีสรรพสามิตได้ศึกษาเบื้องต้นแล้วแต่ต้องรอนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ก่อน”

 

สำหรับ ผลการจัดเก็บในเดือนต.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมาเก็บได้จริง 71,631 ล้านบาท มากกว่าประมาณที่ตั้งไว้ 959ล้านบาท โดยภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้น เช่น ภาษีเบียร์มีมูลค่า 15,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้น3,309 ล้านบาท เพิ่มข้น 26.88%และภาษีสุรา 14,898 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,189 ล้านบาท หรือ 53.44% ส่วนภาษีที่จัดเก็บลดลง เช่น ภาษีรถยนต์เก็บรายได้ 17,579 ล้านบาท ลดลง 5,764 ล้านบาท ภาษีน้ำมัน 10,218 ล้านบาทลดลง 5,097 ล้านบาท หรือ 33.28% ภาษียาสูบ 9,289 ล้านบาทลดลง1,150 ล้านบาท หรือ 11% ภาษีเครื่องดื่ม 2,687 ล้านบาท ลดลง 228 ล้านบาท หรือ 7.8%

 

ส่วนความคืบ หน้าโครงการรถยนต์คันแรกนั้น มีผู้จองสิทธิ์จำนวน1.25 ล้านคัน คิดเป็นเงิน 92,174 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการรถยนต์ได้ส่งมอบรถยนต์ให้ผู้ได้รับสิทธิ์ ไปแล้ว1.12 ล้านคัน และที่ยังไม่ได้ส่งมอบประมาณ 126,000 คัน โดยในปี57 ตั้งงบประมาณรองรับไว้จำนวน 40,000 ล้านบาทและในปี 58 น่าจะคืนเงินได้หมด นอกจากนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายประสานไปยังค่ายรถยนต์ว่าหากมีรถยนต์พร้อมส่งมอบ แล้วประชาชนไม่มารับรถยนต์ภายใน 30 วันถือว่าสละสิทธิ์

 

 

 

ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ (24/12/2556)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองปิดร่วง $6.7 หลังตัวเลข ศก.สหรัฐสดใส

วันอังคาร, 24 ธันวาคม 2556 08:17 | พิมพ์ | อีเมล

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 1,197 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งสหรัฐเปิดเผยล่าสุดนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้สัญญาทองคำดิ่งลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) คาดการณ์ว่า สถานะการเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยของทองคำกำลังจะสิ้นสุดลง นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมที่ผ่านมา

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 19.413 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 4.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,327.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/23686-al2.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นมะกันทุบสถิติอีก-ทองคำลงจากข้อมูลผู้บริโภคสหรัฐฯ น้ำมันปรับลด

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ธันวาคม 2556 05:32 น.

 

 

blank.gif 556000016460701.JPEG blank.gif เอเอฟพี - วอลล์สตรีทวานนี้(23) ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง จากแรงหนุนของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง แต่ปัจจัยนี้ฉุดให้ทองคำขยับลง เหตุนักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ขณะที่ราคาน้ำมัน ปิดในกรอบแคบๆ ก่อนหน้าวันหยุดยาวช่วงคริสต์มาส

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 73.47 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,294.61 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.67 จุด (0.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,827.22 จุด ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลทั้ง 2 ดัชนี แนสแดค เพิ่มขึ้น 44.16 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,148.90 จุด

 

ความเคลื่อนไหวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ มีขึ้หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่ายอดใช้จ่ายผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เป็นการปรับขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ก็คาดหมายว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนธันวาคม ก็น่าจะดีขึ้นเช่นกัน

 

ข้อมูลบวกต่างๆเหล่านี้มีออกมาไม่นาน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนเพิ่งได้ข่าวดี จากกรณีกระทรวงพาณิชย์ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3 และธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธมิตร โดยอ้างถึงการฟื้นตัวที่มั่นคงของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน

 

อย่างไรก็ตามตัวเลขทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งทั้งหลายแหล่ของสหรัฐฯ กลับฉุดให้ราคาทองคำวานนี้(23) ปิดลบเล็กน้อย เหตุนักลงทุนขายโลหะมีค่าชนิดนี้ แล้วหันไปลงทุนเก็งกำไรในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงแทน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.70 ดอลลาร์ (0.6 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,197.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ด้านราคาน้ำมันวานนี้(23) ลดลงในกรอบแคบๆ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง จากการขายทำกำไรก่อนหน้าเทศกาลวันหยุดช่วงกลางสัปดาห์

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 41 เซนต์ ปิดที่ 98.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 111.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้นถึง 2.8 เปอร์เซ็นต์ จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในอเมริกาและเหตุปิดคลังส่งออกน้ำมันในลิเบียที่ยัง ยืดเยื้อต่อไป "สัปดาห์ที่แล้ว ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างมาก" แอนดี ลิโพว์ นักวิเคราะห์ทางพลังงานระบุ "วันนี้ จึงเป็นการขายคืนท่ามการมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...