ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ขานรับรายงานประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2557 07:12:47 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ของเฟดให้การสนับสนุนการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และส่งสัญญาณว่าอาจจะลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.82 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 104.48 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9109 ฟรังค์ จากระดับ 0.9086 ฟรังค์

 

ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3578 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3618 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.8907 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8922 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.6447 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6407 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนการปรับลดขนาดมาตรการ QE ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะลดมาตรการ QE ลงอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เมื่อพิจารณาจากการประเมินเศรษฐกิจในด้านบวก

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของ ADP ที่ระบุว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 238,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 12.9% สู่ระดับ 3.425 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.933 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากยอดส่งออกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เป็นช่วงอ่านข่าวสารมั่งนะ ตัวเลขรายงานจีนออกมา เงินเฟ้อลดลง เงินหยวนอ่อนค่าลง ไม่ได้ส่งผลดีต่อราคาทอง ขาขึ้นนะครับ แต่ทำไม อาแปะ ประกาศราคาขายออก 19,250 บาท เกินเลยเสียขนาดนั้น ค่าเงินยาทก็แข็งกว่าวันก่อน ตอนนี้ก็แค่ 33.01.33.03 เท่านั้น เอาตรงไหนมาคำนวณเนี่ย เป็นรูปแบบนี้ ต่ำกว่า 1200 อาแปะ ก็ตั้งไม่ต่ำกว่า 19,000 แหง่ๆๆ. แทงกันแบบสุดๆๆ

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ลดลง 1.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 22 ติดต่อกัน

 

ตัวเลข PPI ในเดือนธ.ค.ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ย.

NBS ระบุว่า สำหรับปี 2556 นั้น ดัชนี PPI อ่อนแรงลง 1.9% เมี่อเทียบรายปี

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 9 มกราคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อาแปะ อยากขายแพง ๆ น่ะซี่

 

อาตี๋ อาหมวย จงไล่ซื้อตาม ฟิลลิ่ง กันปายยยยย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค.ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องกับการตัดสินใจที่จะเริ่มชะลอมาตรการซื้อ พันธบัตร เนื่องจากคาดการณ์กันถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและการปรับตัว ดีขึ้นของตลาดแรงงาน

 

“เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าการปรับตัวดีขึ้นของภาวะตลาดแรงงาน และความเป็นไปได้ที่การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวจะมีความต่อเนื่องนั้นบ่งชี้ ว่าคณะกรรมการอาจจะเริ่มชะลออัตราการซื้อสินทรัพย์อย่างเหมาะสมในการประชุม ครั้งนี้" รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ระบุ

 

เจ้าหน้าที่บางรายแสดงความวิตกเกี่ยวกับภาวะตึงตัวที่เกิดโดยไม่ตั้งใจ ของสถานการณ์ทางการเงิน หากมีการตีความว่าการปรับลดสัดส่วนการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นการส่ง สัญญาณว่าเฟดมีแนวโน้มจะถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงนโยบายอย่างรวดเร็วมากกว่า ที่คาดการณ์กันไว้

 

เจ้าหน้าที่เฟดจำนวนมากมองว่าเฟดควรดำเนินการอย่างระมัดระวังในการดำเนิน การครั้งแรกเพื่อลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ และควรระบุว่าการปรับลดต่อไปจะมีการดำเนิน “ในขั้นตอนที่ระมัดระวัง"

 

นอกจากนี้ ยังมีการหารือกันเกี่ยวกับการส่งเสริมมาตรการสัญญาณชี้นำล่วงหน้า (Forward Guidance) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่บางรายระบุว่าการปรับลดเป้าอัตราว่างงานจาก 6.5% สู่ระดับ 6.0% อาจจะบ่งชี้อย่างมีประสิทธิภาพถึงเจตนารมณ์ของเฟดในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใน ระยะดับต่ำเป็นระยะเวลานานนั้น เจ้าหน้าที่ FOMC ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และต้องการเน้นย้ำว่าจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ “จนผ่านพ้นช่วงเวลาที่อัตราว่างงานลดลงต่ำกว่า 6.5%" หากการคาดการณ์เงินเฟ้อยังคงทรงตัว

 

ส่วนประเด็นอัตราเฟ้อต่ำก็เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลในการประชุมดัง กล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่จำนวนมากมองว่าจำเป็นต้องจับตาความคืบหน้าด้านเงินเฟ้อ อย่างระมัดระวังเพื่อประเมินความชัดเจนว่าเงินเฟ้อ ซึ่งได้ปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% อย่างต่อเนื่องนั้น จะเคลื่อนไหวกลับมาสู่เป้าหมายระยะยาวของเฟด

 

เฟดประกาศในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งหลังการประชุมเมื่อเดือนธ.ค.ว่าจะเริ่ม ชะลอการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) มาอยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จาก 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน

 

นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดที่กำลังจะครบวาระได้กล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า การตัดสินใจของเฟด “ในการที่จะลดสัดส่วนการซื้อสินทรัพย์ลงเล็กน้อยในการประชุมเมื่อเดือน ธ.ค.นั้น ไม่ได้บ่งชี้การปรับเปลี่ยนพันธสัญญาของเฟดในการคงนโยบายการเงินเชิงผ่อน คลายขนานใหญ่ตราบเท่าที่มีความจำเป็น"

 

“การตัดสินใจดังกล่าวสะท้อนถึงความคืบหน้าที่เราได้ดำเนินการเพื่อไปสู่ ป้าหมายของการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของแนวโน้มตลาดแรงงาน" นายเบอร์นันเก้กล่าว

 

วาระการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ของนายเบอร์นันเก้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ม.ค.นี้ และผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไปก็คือ นางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งได้ทำหน้าที่รองประธานเฟดมานับแต่ปี 2553 และจะกลายเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ 100 ปีของเฟดที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดนี้

 

ทั้งนี้ เฟดจะมีการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 29-30 ม.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 9 มกราคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ซึ่งออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมิน กดดันให้ราคาทองคำเมื่อคืนนี้อ่อนตัวลงต่อเนื่องจากการซื้อขายวันอังคาร แต่ด้วยนักลงทุนต่างยังรอติดตามรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานในคืนวันศุกร์ การเคลื่อนไหวของราคาทองโดยรวม

 

สำหรับ การซื้อขายเมื่อคืนนี้ เป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,225.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 5.70 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,218 และ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 19,200 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,100 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลง 1.5 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 793.12 ตัน

 

ราคาทองคำอ่อน ตัวลงจากระดับปิดของวันอังคาร แต่โดยรวมแล้วราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยคาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนต่างชะลอการลงทุน เพื่อติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ส่วนรายงานการจ้างงานจากบริษัท ออโตเมติค ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐฯ นั้น ได้รายงานว่า ภาคเอกชนสหรัฐฯ มีการจ้างงานที่รวดเร็วขึ้นในเดือน ธ.ค. ราว 238,000 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง

 

ส่วนในคืนวันนี้จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับ สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์นี้ ผลสำรวจประเมินว่าจะมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราว 337,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนที่ 339,000 ราย อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าว อาจมีผลต่อราคาทองในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ ในช่วงค่ำวันศุกร์ ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองในทางเทคนิค ซึ่งวานนี้ราคาทองกลับลงมาเคลื่อนไหวที่แนวรับบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทั้งนี้ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองจึงยังไม่มีสัญญาณซื้อยืนยันทิศทางการ ฟื้นตัวจากเครื่องมือทางเทคนิคชนิดต่างๆ ดังนั้น กรณีที่ราคากลับอ่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,215-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ควรระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมามาก และกดดันให้ราคากลับอ่อนตัวลงสู่แนวรับ บริเวณ 1,200 และ 1,185-1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป ส่วนแนวต้านของวันยังคงอยู่ที่บริเวณ 1,250 และ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ.

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (09/01/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธุรกิจกางแผนพร้อมรับชัตดาวน์ 13 มกราคมนี้ แบงก์ตุนเงินรองรับ ตลาดหุ้นเตรียมระบบสำรองสามารถเทรดได้ปกติ มั่นใจแต่ละโบรกพร้อมรับมือไม่ต้องสั่งการเป็นพิเศษ ด้านนายกสมาคมร้านค้าทองยืนยันเปิดค้าขายปกติ แต่ย่านไหนส่อเสี่ยงสูงแนะสมาชิกใช้ดุลพินิจปิดหนีเพื่อความปลอดภัย

 

นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยถึงแผนรับมือการปิดกรุงเทพฯ (ชัตดาวน์)ในวันที่ 13 มกราคมนี้ ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบนั้น

 

แบงก์ตุนเงินรับเบิกถอนเต็มที่

 

ธนาคารได้เตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร ระบบ ตลอดจนการสำรองเงินสดทั้งในตู้เอทีเอ็ม และ ตามสาขา เพื่อรองรับกับความต้องการเบิกถอนของประชาชนไว้แล้ว โดยสามารถรองรับได้ไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ที่สำคัญธนาคารมีศูนย์กระจายเงินสดอยู่ถึง

3 ศูนย์ ซึ่งครอบคลุมทุกพื้นที่ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาในการให้บริการ และเงินสดมีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน นอกจากนี้ธนาคารมีการเตรียมใช้แผนงานบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือบีซีพี ในช่วงที่เกิดภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเคยใช้มาแล้วทั้งในช่วงปัญหาการเมืองในปี 2553 และปัญหาอุทกภัยในปี 2554 จึงมั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังไม่มีนโยบายปิดสาขาแต่อย่างใด รวมทั้งในพื้นที่ที่มีการชุมนุม ยังต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงก็จะเปิดให้บริการตามปกติ

 

นายธีรนันท์กล่าวยอมรับว่า ปัญหาทางการเมืองมีผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ในปีนี้ ถ้าการเมืองยืดเยื้อเกินไตรมาส 2 ปีนี้ และจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จีดีพีจะขยายตัวเพียงแค่ 2% ถึง 2.5% จากเดิมที่เคยมองว่าจีดีพีจะโต 3.6% ถึง 3.7% ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทในขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางใด เนื่องจากมีปัจจัยหลักมาจากการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ของสหรัฐอเมริกา และปัญหาการเมืองในประเทศ ที่ทำให้เงินทุนไหลออกจึงมองว่า เงินบาทจะยังผันผวนต่อไป หากการเมืองยืดเยื้อ

 

ตลท.ยืนยันมีมาตรการคุมเข้ม

 

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ตลท.ได้มีการหารือและวางมาตรการรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่โดยเฉพาะการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการประเมินสถานการณ์หลายรูปแบบทั้งระดับที่มีการเกิดจลาจล การชุมนุมธรรมดา รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วม โดยยืนยันว่าจะทำการซื้อขายได้ปกติแม้อาจจะมีการตัดไฟฟ้า เพราะมีระบบสำรองไฟฟ้าเพียงพอมากกว่า 1 สัปดาห์ ประกอบกับปัจจุบันปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายผ่านอินเตอร์เนต

 

ส่วนการดูแลพนักงานที่จะเข้ามาทำงานในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานจากที่บ้านได้ หากไม่สามารถเดินทางเข้ามายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ พร้อมทั้งมีบริการรับ-ส่งพนักงานในพื้นที่ใกล้เขตการชุมนุม ส่วนความปลอดภัยในพื้นที่ ตลท.ยืนยันว่าจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ตลท.ไม่ได้สั่งการกับบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ให้ดำเนินการใดๆ เป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่า บล.แต่ละแห่งจะมีแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

 

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.มีการซักซ้อมระบบต่างๆ ในการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินตามแผนงานการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมกับกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม รวมไปถึงตลาดหลักทรัพย์ จึงเชื่อว่าหากเกิดสถานการณ์ไม่ปกติ ก็จะสามารถให้บริการแก่นักลงทุนได้แน่นอน มั่นใจว่าบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ จะสามารถให้บริการนักลงทุนได้ แม้ว่าหุ้นจะตกแรงก็ยังรับความเสี่ยงได้

 

แนะปิดร้านทองถ้าความเสี่ยงเพิ่ม

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และประธานห้างทองจินฮั้วเฮง กล่าวว่าได้หารือกับสมาชิกสมาคม ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. วันที่ 13 มกราคม 2557 นี้ซึ่งจะมีการปิด 20 เส้นทาง ในกรุงเทพมหานครโดยให้ร้านค้าทองคำแต่ละพื้นที่พิจารณาตามสถานการณ์ หากเห็นว่าไม่สามารถทำการซื้อขายเพราะมีการชุมนุมปิดถนน และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นให้ปิดร้านค้าทองได้

 

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 9 มกราคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อาแปะ อยากขายแพง ๆ น่ะซี่

 

อาตี๋ อาหมวย จงไล่ซื้อตาม ฟิลลิ่ง กันปายยยยย

คือว่า บางครั้งไม่เข้าใจจริงๆ ในการตั้งราคาซื้อขาย ก็เมื่อวานนี้ การตั้งราคาก็เป็นแบบประชิดราคา Fair Price แทนที่วันนี้ จะตั้งประชิดเหมือนเช่นเดิม กลับไม่ทำ แต่คงไปคาดไปคิด ว่า ค่าเงินบาทจะอ่อนค่า แตะ 33.25 ถึง 33.40 ตามสถานการณ์ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2557 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคำร้องที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภาและสมาชิกรัฐสภา รวม 381 คน ที่ร่วมกันดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 จำกัดอำนาจรัฐสภาในการให้ความเห็นชอบการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศของฝ่ายบริหาร เข้าข่ายเป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครองและกระทำการให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 68

 

และคาดคิดไปว่า ตลาดหุ้นจะติดลบ ฝรั่งเทขายเงินบาท ซึ่งจะส่งผลให้ " บาทอ่อน " ท่าทางอาแปะจะเกร็งผิดพลาด เพราะยิ่งใกล้วัน ชัชดาว กลุ่มบุคคลที่กำลังจะเสียอำนาจ หรือ สภาพปัญหาบ้านเมืองเกิดการต่อสู้กัน. พวกเขาต้องการที่หลบพักเงิน และ ต้องการเงินทุนไว้อุดหนุนกองกำลังฯ โดยที่ แมงเม่า คงไม่รู้ในสถานการณ์ตอนนี้ เห็นราคาหุ้น รีบาวน์ ยิ่งไล่ตาม ใช้อารมย์ความรู้สึกพาไป มันเหมือนกับ ราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น มีเป้าหมายที่แตกต่างกัน แมงเม่าสิ จะขาดทุนป่นปี้

 

เดี๋ยวช่วงบ่าย คงจะเริ่มมีการปรับราคาขายซื้อทอง ในสมดุล กับ สภาพตลาดฯ และ ความเป็นจริงหน่อยนะ : การประเมินราคาค่าบาทอ่อนค่า มีแต่ได้กับได้ ในผู้ขายทอง คนเกร็งราคาทองถือช้อนจนเมื่อยมือ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

::จีนเผยดัชนี CPI ขยายตัวชะลอลงแตะ 2.5% ในเดือนธ.ค.

 

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 2.5% ในเดือนธ.ค.256 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งลดลงจาก 3.0% ในเดือนพ.ย.

สำหรับในช่วงตลอดปี 2556 ดัชนี CPI ขยายตัว 2.6% เมื่อเทียบรายปี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**SET พุ่งกว่า 10 จุด รีบาวด์ได้แม้การเมืองยังกดดัน

ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าพุ่งกว่า 10 จุด รีบาวด์ขึ้นมาได้ แม้ปัจจัยทางการเมืองยังกดดัน

เมื่อเวลา 10.00 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,270.36 จุด เพิ่มขึ้น 12.63 จุด (+1%)

 

หุ้นก็ขึ้น บาทก็อ่อนต่ำกว่า 33.0 ตามที่เกร็งไว้ แต่........... อาแปะก็ยังไม่ยอมปรับความพลาด ในการตั้งราคา

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คนไทยบางคนชอบโครงการประชานิยม รถคันแรก ลดภาษีฯ แล้วที่ผ่านมา คนที่เข้าโครงการฯ ซึ้งไหมว่า รถที่เข้าโครงการรถคันแรก กับ รถฯที่ขายปกติ รถที่ขายปกติ ดีกว่า ถูกว่า อุปกรณ์ครบกว่าแบบไหน / ขนาดตอนเดือนมีนาค คนไทยสละสิทธิ์ 2 พันราย แมร่งยังตกใจ แต่ล่าสุด กรมสรรพสามิต ออกแถลงข่าว ยอดทิ้งรถฯ โครงการรถคันแรก 120,000 ราย หรือกว่า 10% ภาครัฐฯ แมร่งบอกเป็นผลดี ที่ทำให้ไม่ต้องจ่ายภาษีคืน กว่า 90,000 ล้านบาท แบบนี้ เรียกว่า ตรรกะอะไรดี เพราะ

1. เมื่อคนไทยไมีซื้อรถ สละสิทธิ์ ก็ไม่มีภาษีเข้ารัฐฯ

2. เงินมัดจำ 5,000 บาท ที่มัดจำเพื่อจะได้ยื่นรับสิทธิ์ เสียฟรี ทิ้งไปเลย คนไทย ทิ้งเงิน 5,000 บาท

3. ผู้ผลิตรถยนต์ ผลิตรถออกมาเกินความต้องการ รถค้างส่งจอดทิ้งบานเยอะ ใครแบกรับ ก็คนไทยอีก

ภาครัฐฯ ดันออกมาคุย ว่า ตามคาด ประหยัดงบฯ ปัทโธ่ มรึงสร้างปัญหายังไม่สำนึก

 

http://www.dailynews.co.th/Content/economic/207241/สรรพสามิตรับยอดทิ้งจองรถคันแรก+1+แสนราย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**นักวิเคราะห์คาดธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5%

 

 

นักวิเคราะห์คาดว่า ที่ประชุมธนาคารกลางอังกฤษจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ในการประชุมวันนี้

ธนาคารกลางอังกฤษจัดการประชุมนโยบายวันสุดท้ายและจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ เวลา 19.00 น.ตามเวลาประเทศไทย

ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอังกฤษจะไม่เปิดเผยแถลงการณ์หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ แต่กลุ่มนักวิเคราะห์กล่าวว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะถูกกดดันให้ออกแถลงการณ์ เนื่องจากอัตราว่างงานที่ร่วงลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อพิจารณาจากนัยสำคัญที่มีต่ออัตราดอกเบี้ยของอังกฤษ

ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2556 นั้น ธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ตัดสินใจคงขนาดโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงบ่ายวันนี้ เหตุวิตก PPI จีนอ่อนตัว-รายงานประชุมเฟด

 

 

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงในช่วงบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่ดัชนี PPI ของจีนอ่อนตัวลงอย่างยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงินเอเชีย ประกอบกับรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเมื่อเดือนธ.ค.ได้ชี้ให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องกับการตัดสินใจที่จะเริ่มชะลอมาตรการซื้อพันธบัตร เนื่องจากคาดการณ์กันถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและการปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงาน

ดัชนี MSCI Asia Pacific อ่อนตัว 0.6% แตะ 139.03 เมื่อเวลา 13.10 น.ตามเวลากรุงโตเกียว

หุ้นแคนนอน ร่วง 2% ในตลาดหุ้นโตเกียว เนื่องจากกำไรของบริษัทออกมาสวนทางกับการคาดการณ์ของบริษัทเอง ส่วนหุ้นไดเออิ ร่วง 7.6% ในตลาดหุ้นโตเกียว เนื่องจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงาน

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ลดลง 1.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 22 ติดต่อกัน

ตัวเลข PPI ในเดือนธ.ค.ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ย.

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โห ! ค่าเงินบาทแข็งขึ้นมา 10 สตางค์ อาแปะจะว่าๆไงครับ ลงมาผมก็ยังไมีอยู่หน้าซื้อ ชอบที่จะอยู่หน้าขาย ตะซื้อก็รอ ต่ำกว่า 19,000 บาท ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...