ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

นาโต้ส่งกองทัพต้านรัสเซียบุกปักธงชาติยูเครน

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ.2557 21:24น.

 

นาโต้ให้คำมั่น วันนี้ว่า จะส่งกองกำลังทหารของยุโรปปฏิบัติการตอบโต้ การรุกรานของรัสเซียในยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศ นายเอนเดรส ฟอกห์ เลขาธิการนาโต้กล่าวว่า จะส่งเครื่องบินและเรือเข้ายูเครน เพื่อสนับสนุนการเตรียมความความพร้อมทางภาคพื้นดินอันเป็นมาตราการตอบโต้ การรุกรานยูเครนของรัสเซีย

 

ขณะที่ ยูเครนเริ่มเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วงทางตะวันออกของประเทศรัสเซีย ก็สั่งสมกำลังพลประมาณ40000 นาย ตามแนวชายแดนที่ติดกับยูเครน ผู้นำยูเครนกล่าวประณามรัสเซียว่า กำลังสร้าง "กำแพงเบอร์ลินแห่งใหม่"

 

กลุ่มติดอาวุธปักธงรัสเซียสลาฟเวียนยูเครนแล้ว

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ.2557 19:31น.

 

กลุ่มกองกำลังติดอาวุธพร้อมยานหุ้มเกราะ บุกเข้าปักธงชาติรัสเซียแสดงอธิปไตยที่เมือง สลาฟเวียน ของยูเครนแล้ว

 

สื่อต่างประเทศ รายงานล่าสุดว่า มีกองกำลังติดอาวุธ แต่งกายชุดทหาร บุกเข้าเมืองสลาฟเวียน ของยูเครน และปักธงชาติรัสเซียแสดงอธิปไตยเหนือพื้นที่ดังกล่าวแล้วทั้งนี้ชายติดอาวุธ กลุ่มดังกล่าวบางรายยังผูกริบบินสีส้ม-ดำ ของเซ็นต์ จอร์จ ซึ่งเป็นสัญลักษ์ของกลุ่มประท้วงแบ่งแยกดินแดนในรัสเซียแสดงให้เห็นว่าคนทั้งสองกลุ่มเกี่ยวข้องกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งเดาทองยามบ่าย กล่าวว่า ราคาทองเวียนวนแถวๆ 1300 อยู่พักใหญ่แล้ว ถึงแม้ขาใหญ่กองทุนฯ จะเทขาย 8 ตันกว่าๆ ราคาก็ยังพยุงไว้ได้ และในตอนนี้ มีจุดรองรับที่ 1295 ทำให้แนวโน้มวันนี้ ฝ่ายซื้อเดาว่าจะสู้เต็มที่ มีลักษณะจะขยับราคามุ่งสู่ขึ้นด้านบน 132x แต่ก็ยังเผชิญกับแนวต้านด้านบน 133x ต้องทำใจ พร้อมแนวทางขาเสี่ยง ดังนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*บาท/ดอลลาร์เช้านี้แข็งค่าต่อเนื่อง ในทิศทางเดียวกับสกุลเงินภูมิภาค

ตามความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หลังเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัว

*เยนทรงตัวที่ระดับต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ เมื่อเทียบดอลลาร์ ในการซื้อขาย

ช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากอ่อนค่าลงเมื่อคืนนี้ ขณะที่การพุ่งขึ้นของ

หุ้นทั่วโลก ได้ลดความต้องการเยน

*เยนร่วงลงในตลาดเอเชียเมื่อวานนี้ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นหลังความเห็น

ของนายทาโร อาโซะ รมว.คลังญี่ปุ่น ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณว่า

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของญี่ปุ่น จะซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น

*นักลงทุนกำลังรอการแถลงของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลาง

ญี่ปุ่น(บีโอเจ) ขณะที่เมื่อวานนี้เขาได้ยืนยันมุมมองเชิงบวกของบีโอเจต่อ

ภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่น

*นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ย้ำถึงความจำเป็น

ของนโยบายเชิงผ่อนคลาย โดยระบุถึงอัตราเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจที่

ชะลอตัวเป็นเวลานาน

*ขณะที่ข้อมูลซึ่งเปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐ

กำลังฟื้นตัวมากขึ้น โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวมากเกินคาด ใน

เดือนมี.ค. ขณะที่รายงาน Beige Book ของเฟดพบว่า กิจกรรมทาง

เศรษฐกิจ ขยายตัวมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

*นักลงทุนขายยูโร หลังจากข้อมูลระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนชะลอลงสู่

ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพ.ย.52 และนั่นน่าจะกดดันให้ธนาคารกลางยุโรป

(อีซีบี) ดำเนินการมาตรการบางอย่าง หากอัตราเงินเฟ้อไม่ดีดตัวขึ้น

*อัตราแลกเปลี่ยน บาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร ของ

ธปท.วันนี้ อยู่ที่ 32.286 บาท

*08.43 น.บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 32.21/23 จาก 32.260/275 เมื่อวาน

ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 32.20/24 จาก 32.24/26 เมื่อวาน

*เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 101.98/99 จาก 102.22 เมื่อวาน

*ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.3837/38 จาก 1.3814 เมื่อวาน

 

"sentiment ตลาดเช้านี้ยังเป็น risk on อยู่ จากตัวเลขของประเทศต่างๆ ที่ออกมาดี แล้วเฟดก็มีสัญญาณว่าจะกระตุ้นเศรษฐกินต่อไป ส่งให้บาทลงมา test ด้านล่างของกรอบที่บริเวณ 32.20" ดีลเลอร์ กล่าว

เขา กล่าวว่า เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้น ในทิศทางเดียวกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค จากความต้องการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ที่ยังมีเข้ามาในตลาด หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกของประเทศขนาดใหญ่ ช่วยหนุนตลาด รวมทั้งเฟดยังมีแนวโน้ม

จะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป เพื่อดูแลให้การเติบโตมีความแข็งแกร่งต่อเนื่อง

ดีลเลอร์ คาดว่า เงินบาทวันนี้จะมีแนวต้านที่ 32.20 ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 32.30

 

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ระดับต่ำอย่างต่อเนื่องนั้น ถือเป็นความเสี่ยงในระยะสั้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าราคาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการย้ำว่า เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเยลเลนต่อสโมสรเศรษฐกิจนิวยอร์คเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดนั้น นางเยลเลนใช้ความระมัดระวังที่จะไม่ระบุคาดการณ์กำหนดเวลาว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น เมื่อใดจากระดับใกล้ 0% ในปัจจุบัน แต่กลับย้ำว่า การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับภาวะฟื้นตัวในตลาดแรงงาน และการปรับตัวขึ้นของภาวะเงินเฟ้อสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%

นอกจากนี้ เฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัว เพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่หนาวจัดได้คลี่คลายลงแล้ว

ทั้งนี้ เฟดเปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั่วสหรัฐ(Beige Book)ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจใน 8 เขตจาก 12 เขตของเฟด ขยายตัว "เล็กน้อยถึงปานกลาง"

เฟดสาขาชิคาโกรายงานว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ขณะที่นิวยอร์คและฟิลาเดลเฟียระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นจากภาวะชะลอตัวที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงต้นปีนี้

"รายงานจากทั้ง 12 เขตของเฟดบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศนับตั้งแต่รายงานฉบับที่แล้ว" เฟด ระบุ

รายงานดังกล่าวซึ่งรวบรมโดยเฟดสาขาริชมอนด์จากข้อมูลก่อนวันที่ 7 เม.ย.นั้น สอดคล้องกับข้อมูลอื่นๆ อาทิ ยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจตามภาวะอากาศที่อบอุ่นขึ้น

เศรษฐกิจทรุดตัวลงในช่วงต้นปี ขณะที่พายุหิมะและสภาพอากาศหนาวจัดส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

รายงาน Beige Book บ่งชี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาในส่วนใหญ่ของเขตต่างๆ โดยยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นใน 7 เขต ขณะที่การผลิตปรับตัวดีขึ้นในเขตส่วนใหญ่

"เขตต่างๆรายงานว่า ผลกระทบของสภาพอากาศในฤดูหนาวมีความรุนแรงน้อยกว่าต้นปีนี้" เฟดระบุ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นต่ออัตราเงินเฟ้อภายในประเทศที่ยังไม่เพิ่ม ขึ้นจากระดับต่ำ นับเป็นธนาคารกลางขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่สะท้อนความกังวลใจถึงเศรษฐกิจโลก ที่ยังอ่อนแอ

เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด เริ่มต้นปี 2557 ด้วยความหวังว่าเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของสหรัฐอเมริกาจะช่วยผลักดันให้ อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 1% ขึ้นสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับที่ธนาคารประเมินว่าจะนำมาซึ่งกิจกรรมทางธุรกิจที่เข้มแข็ง อย่างไรก็ดี ช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐฯ เผชิญกับอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติในช่วงฤดูหนาวจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เงินเฟ้อแทบจะไม่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับใกล้เคียงกับเป้าหมาย

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดแสดงความกังวลต่อประเด็นเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับ ต่ำอย่างต่อเนื่องในการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายเมื่อเดือนก่อน โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 18-19 มีนาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการเฟดได้มีการหารือกันว่าควรจะกล่าวให้คำมั่นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปจนกว่าเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่ท้ายที่สุดเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ต่อไปก่อน

ปัญหาเงินเฟ้อต่ำเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุมระหว่างตัวแทนจาก ธนาคารกลางทั่วโลก และรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศจี- 20 ในการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในวันที่ 10-11 เมษายน โดยธนาคารกลางญี่ปุ่นกำลังพยายามแก้ไขภาวะเงินฝืดที่รุมเร้ามากว่า 10 ปี ขณะที่เงินเฟ้อในยุโรปอยู่ในระดับที่ต่ำจนน่ากังวล

นายโอลิเวอร์ แบลนชาร์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า "เราคิดว่ามีความเสี่ยงของการเกิดภาวะเงินฝืด หรือเงินเฟ้อติดลบ และเราคิดว่าถ้ามันเกิดขึ้น จะทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในยูโรโซนทำได้ยาก และยิ่งยากมากขึ้นสำหรับประเทศรอบนอก" ดังนั้นไอเอ็มเอฟเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทางการจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น

ภาวะเงินเฟ้อต่ำดูเหมือนจะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของภาคครัวเรือน อย่างไรก็ดี เมื่อเงินเฟ้อต่ำมาพร้อมกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นในระดับต่ำ ศักยภาพของภาคธุรกิจที่มากเกินความจำเป็น และความต้องการทั่วโลกที่อ่อนแอ นักเศรษฐศาสตร์มองภาวะดังกล่าวว่าเป็นสัญญาณของความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่ จำกัดการลงทุนและการจ้างงาน ค่าแรงและกำไรที่เติบโตต่ำยังทำให้ภาคครัวเรือนและธุรกิจที่กู้ยืมเงินมาใช้ หนี้ได้ยากยิ่งขึ้น

เจ้าหน้าที่ทางการของเฟดเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอในช่วงต้นปีส่วนหนึ่งเนื่องจากสภาพอากาศ ซึ่งเฟดเชื่อว่าเวลานี้การเติบโตจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าสถานการณ์ยังไม่กระเตื้อง เฟดอาจจะรอนานขึ้นก่อนที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เฟดและนักลงทุนไม่คาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจน กว่าจะล่วงเข้าสู่ปี 2558

"สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำที่ยืดเยื้อ คณะกรรมการบริหารเฟดตกลงว่าควรติดตามพัฒนาการของเงินเฟ้ออย่างระมัดระวัง" เฟดระบุในรายงานการประชุม

ไอเอ็มเอฟเปิดเผยคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของปี 2557 และ 2558 ในรายงานฉบับล่าสุด โดยไอเอ็มเอฟคาดว่า เงินเฟ้อในประเทศพัฒนาแล้วจะอยู่ที่ 1.5% ในปีนี้ เทียบกับ 1.4% เมื่อปีก่อน ขณะที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้ 3.6% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 3% ในปี 2556

บรูซ แคสแมน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพี มอร์แกน เชส กล่าวว่า เงินเฟ้ออ่อนแอในประเทศกำลังพัฒนาเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในจีน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวช่วยลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางในบางประเทศ อาทิ อินเดียและตุรกี ในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเติบโตเร็วเกินไป "จากนี้ไปอีก 6 เดือน ผมคิดว่าเราจะเห็นเงินเฟ้อในตลาดเกิดใหม่ต่ำกว่าระดับเมื่อ 1 ปีก่อน"

 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 17 เมย.57)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายเจค็อบ เจ ลิว รัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐ ได้ผลักดันให้ผู้นำประเทศต่างๆทั่วโลกใช้มาตรการเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ พร้อมกับย้ำด้วยว่า ตนเองเป็นห่วงดีมานด์ที่อ่อนตัวลงในยุโรป

 

รมว.คลังสหรัฐ กล่าวในระหว่างการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศในวันนี้ว่า ขณะนี้ไม่มีเวลาสำหรับความลังเล เราจะต้องไม่ยอมพ่ายแพ้ให้กับการขยายตัวที่อ่อนตัวและอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง การขยายตัวถือเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับสหรัฐ และจะต้องเป็นวาระสำคัญของเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน

 

สำหรับยูโรโซนนั้น นายลิว กล่าวว่า สหรัฐยังคงกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย และดีมานด์ที่อ่อนตัว เราจำเป็นต้องทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวในยูโรโซน ซึ่งจะช่วยลดภาระและการส่งเสริมเรื่องการสร้างสมดุลด้านดีมานด์ในยูโรโซน

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่า ยูโรโซนจะขยายตัว 1.2% ในปีนี้ ซึ่งสูงขึ้นจากระดับคาดการณ์เมื่อเดือนม.ค.ที่ 1%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 11 เมษายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ผู้กำหนดนโยบายสองคนของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) กล่าวว่า เฟดไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าใกล้ภาวะแข็ง แกร่งเต็มที่ โดยผู้กำหนดนโยบายสองคนนี้มีแนวคิดแบบสายพิราบหรือเป็นผู้ที่ มักจะสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายนารายานา โคเชอร์ลาโค ทา ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิส กล่าวว่า "ถ้าหากเฟดให้สัญญาว่าจะตรึงอัตรา ดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ ถึงแม้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดำเนินต่อไป ผมก็คิดว่า ประชาชนจะมองว่า เฟดจะยังคงสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และผมคิดว่าเฟดจำ เป็นต้องส่งสัญญาณแบบนี้ให้ดียิ่งขึ้น"

นายโคเชอร์ลาโคทากล่าว ว่า ถ้าหากภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเชื่อว่าเฟดใกล้ที่จะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย พวกเขาก็อาจตัดสินใจออมเงินแทนที่จะจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะเป็น อุปสรรคขัดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

นายโคเชอร์ลาโคทากล่าว ว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับต่ำมากในปัจจุบันดังนั้นเฟดจึงสามารถดำเนิน นโยบายผ่อนคลายทางการเงินได้ต่อไป ถึงแม้เศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่ง ขึ้น และเฟดมีแนวโน้มที่จะจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็น ค่อยไปเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อัตรา เงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนที่แล้ว แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่า เป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2 % โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐอยู่ ที่ 1.5 % เมื่อเทียบรายปี ในเดือนมี.ค. โดยปรับตัวขึ้นจาก 1.1 % ในเดือนก. พ.

อัตราการว่างงานอยู่ที่ 6.7 % ขณะนี้ ซึ่งสูงกว่าระดับ 5-6%ที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มองว่าเป็นระดับปกติ

ทาง ด้านนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน เสนอแนะว่าเฟดควรให้สัญญาว่าจะ ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0 % จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะ บรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเป้าหมายภาวะเงินเฟ้อภายในเวลา 1 ปี

นาย โรเซนเกรนกล่าวว่า "ในทางอุดมคตินั้น สัญญาณชี้นำล่วงหน้าควรที่จะยังคงเป็น สัญญาณเชิงคุณภาพต่อไป แต่ควรจะมีการปรับสัญญาณชี้นำให้เชื่อมโยงกับความคืบ หน้าในการบรรลุเป้าหมายสองประการของเฟดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยขึ้นอยู่กับตัวเลข เศรษฐกิจที่ออกมา"

นายโรเซนเกรน กล่าวว่า "สัญญาณชี้นำล่วงหน้าควรจะสอดคล้องกับการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ใน ระดับต่ำมาก จนกว่าเฟดจะมีแนวโน้มบรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มที่และเป้า หมายอัตราเงินเฟ้อ 2 % ภายในเวลาหนึ่งปีข้างหน้า และสัญญาณชี้นำควรที่จะ แสดงจุดประสงค์ดังกล่าวอย่างชัดเจน"

ทั้งนายโรเซนเกรนและนายโคเชอร์ลาโคทาเคยสนับสนุนให้เฟดผ่อนคลายนโยบายการเงินลงมากกว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่สนับสนุนกัน

ใน เดือนธ.ค. 2013 นายโรเซนเกรนเคยลงคะแนนเสียงคัดค้านการตัดสินใจของเจ้าหน้า ที่เฟดส่วนใหญ่ที่ต้องการให้เฟดเริ่มต้นปรับลดขนาดมาตรการเข้าซื้อตราสาร หนี้ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ในเดือนมี.ค.ปีนี้นาย โคเชอร์ลาโคทาเป็นสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เพียงคน เดียวที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านการตัดสินใจของเฟดที่ยุติการให้สัญญาที่ว่า เฟด จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำตราบใดที่อัตราการว่างงานยังคงอยู่สูง กว่าระดับที่กำหนดไว้

ทั้งนายโคเชอร์ลาโคทาและนายโรเซนเกรนเคย กล่าวว่า เฟดควรจะถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังเท่านั้น และเฟด ควรจะใช้ความอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับใกล้ 0 % โดยเฟดตรึง อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25 % นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2008 เป็นต้นมา

นับ ตั้งแต่ปลายปี 2008 เป็นต้นมา เฟดใช้วิธีการที่แตกต่างกันหลายวิธีในการส่ง สัญญาณบ่งชี้ว่า เฟดจะใช้เวลานานเพียงใดก่อนที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน โดย เฟดเคยนำอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำมากไปเชื่อมโยงกับกรอบเวลา และต่อมาเฟดก็ นำอัตราดอกเบี้ยไปเชื่อมโยงกับเกณฑ์อัตราการว่างงานและเกณฑ์อัตราเงินเฟ้อ ที่เฉพาะเจาะจง นักลงทุนหลายคนเคยแสดงความสับสนต่อความพยายามของเฟดในการใช้ วิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันไป โดยในปีที่แล้วนายเบน เบอร์นันเก้ ซึ่งดำรง ตำแหน่งประธานเฟดในขณะนั้น ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับลดขนาด QE ลงใน อนาคต และการส่งสัญญาณดังกล่าวก็ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมพุ่งขึ้นอย่างมาก ทั่วทั้งตลาด

นางเจเน็ต เยลเลนได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเฟด แทนที่นายเบอร์นันเก้ ในเดือนก.พ.ปีนี้ และในเดือนมี.ค.เฟดก็เริ่มต้นใช้ สัญญาณชี้นำล่วงหน้าแบบใหม่ โดยเฟดให้สัญญาว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย "เป็นเวลานาน" หลังจากที่เฟดยุติการดำเนินมาตรการ QE ทั้งหมด แล้ว

อย่างไรก็ดี นางเยลเลนได้สร้างความสับสนต่อตลาดเมื่อ กล่าวว่า คำว่า "เป็นเวลานาน" ในแถลงการณ์เฟดอาจจะหมายถึงระยะเวลา ราว 6 เดือน ทางด้านนายโคเชอร์ลาโคทาส่งสัญญาณเมื่อวานนี้ว่า อัตราดอกเบี้ย ควรจะทรงตัวที่ระดับต่ำเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน ถ้าหากอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ ระดับต่ำ

นายโคเชอร์ลาโคทากล่าวว่า "ผมสามารถกล่าวได้ว่า ผมมี ความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งใดก็ตามที่จำเป็นต้องทำเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ ใกล้ 2 % และ ถ้าหากเราเริ่มเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มพุ่งขึ้นเหนือระดับ ปัจจุบันที่ 1 % และ มีแนวโน้มเข้าใกล้ 2 % หรือพุ่งขึ้นเหนือ 2 % เมื่อ นั้นก็จะเป็นเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"

อย่างไรก็ ดี นายโคเชอร์ลาโคทากล่าวเสริมว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ต่ำ กว่า 2 % เป็นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

ทางด้านนางเย ลเลนกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดกำลังพิจารณามาตรการต่อไปในการบังคับให้ธนาคาร ขนาดใหญ่ดำรงเงินกองทุนมากยิ่งขึ้น และเฟดมองว่ามีเหตุผลในการดำเนินมาตรการ ส่งเสริมเสถียรภาพเพิ่มเติมสำหรับธุรกิจอื่นๆในย่านวอลล์สตรีทที่ไม่อยู่ภาย ใต้กฎระเบียบมากนัก

นางเยลเลนไม่ได้กล่าวถึงนโยบายการเงินเมื่อ วานนี้ แต่เป็นที่คาดกันว่าเขาจะกล่าวถึงนโยบายการเงินในการกล่าวแถลงต่อ สโมสรเศรษฐกิจนิวยอร์คในวันนี้

 

ที่มา: ทันหุ้น(วันที่ 17 เมย.57)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศก.ซบฉุดกำลังซื้อทองหลังสงกรานต์วูบ30%

ข่าวเศรษฐกิจ วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ.2557 14:21น.

 

น.พ.กฤชรัตน์ เผย เศรษฐกิจซบ ฉุดกำลังซื้อทองหลังสงกรานต์วูบ 30 % คาดอีก 3 เดือน ราคาลง 1,000 บาท

น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่าบรรยากาศการซื้อขายทอง ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ปี 2557 คาดว่ากำลังซื้อจะลดลงร้อยละ 30 เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา ส่งผลให้ประชาชนมีกำลังซื้อน้อยลง ซึ่งราคาทองในขณะนี้ได้ทะลุสองหมื่นบาทแล้ว แต่คาดว่า ในอีก 3 เดือนข้างหน้าราคาทองจะลดลง 500-1,000 บาท เพราะผลกระทบจากเศรษกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

 

สำหรับปัญหาด้านการเมือง น.พ.กฤชรัตน์ กล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาทอง แต่จะกระทบต่อค่าเงินบาท ซึ่งค่าเงินบาทในขณะนี้คงตัวอยู่ที่ 32 - 32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเปิด มีทั้งบวกมีทั้งลบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**ตลาดหุ้นฮ่องกง,สิงคโปร์,ยุโรป,สหรัฐปิดพรุ่งนี้เนื่องในวัน Good Friday

 

 

ตลาดหุ้นฮ่องกง, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ออสเตรเลีย,อังกฤษ,ฝรั่งเศส,เยอรมนี และสหรัฐจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวัน Good Friday ในเทศกาลอีสเตอร์

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นฮ่องกงและออสเตรเลียจะปิดทำการอีก 1 วัน ในวันจันทร์ที่ 21 เม.ย.เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งเดาทองยามบ่าย กล่าวว่า ราคาทองเวียนวนแถวๆ 1300 อยู่พักใหญ่แล้ว ถึงแม้ขาใหญ่กองทุนฯ จะเทขาย 8 ตันกว่าๆ ราคาก็ยังพยุงไว้ได้ และในตอนนี้ มีจุดรองรับที่ 1295 ทำให้แนวโน้มวันนี้ ฝ่ายซื้อเดาว่าจะสู้เต็มที่ มีลักษณะจะขยับราคามุ่งสู่ขึ้นด้านบน 132x แต่ก็ยังเผชิญกับแนวต้านด้านบน 133x ต้องทำใจ พร้อมแนวทางขาเสี่ยง ดังนี้

::

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

*บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายแข็งค่าต่อเนื่องจากภาคเช้า โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้ม

การไหลเข้าของเงินทุน มายังตลาดหุ้นและตราสารหนี้ของไทยในช่วงนี้

*สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ในเอเชียส่วนใหญ่ แข็งค่าในวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า

หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) แสดงความเห็น

เชิงผ่อนคลายนโยบายการเงิน ท่ามกลางภาวะซื้อขายซบเซา ก่อนจะถึงวันหยุด

เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์ของหลายประเทศ

*นางเยลเลน กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นภัย

คุกคามเฉพาะหน้าต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ มากกว่าราคาที่พุ่งขึ้น ซึ่งเป็นการ

เน้นย้ำว่า เฟดจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปอีกระยะหนึ่ง

*แต่นักลงทุนไม่ต้องการเพิ่มสถานะซื้อสกุลเงินในภูมิภาค ขณะที่หุ้นในภูมิภาค

ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังการแถลงผลประกอบการที่น่าผิดหวังของกูเกิล

และ ไอบีเอ็ม

*ค่าเงินหยวนของจีนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ หลังจาก

ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวน สูงขึ้นจากระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือน

โดยธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนที่ 6.1575 ในวันนี้ เพิ่มขึ้น

0.02% จากวานนี้ที่ 6.1589

*ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) ประกาศคงการประเมินภาวะเศรษฐกิจ สำหรับ

8 ภูมิภาค จากทั้งหมด 9 ภูมิภาค ของญี่ปุ่น ในรายงานประจำไตรมาส

โดยระบุว่า เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวขึ้นในระดับปานกลาง อันเนื่องจากอุปสงค์

ที่แข็งแกร่งในประเทศ, การผลิตเพิ่มขึ้นปานกลาง ขณะที่การจ้างงานและ

รายได้ เพิ่มขึ้น

*16.02 น.บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 32.16/19 จาก 32.21/23 ช่วงเช้า

ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 32.15/17 จาก 32.20/24 ช่วงเช้า

*เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 102.06/07 จาก 101.98/99 ช่วงเช้า

*ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.3861/62 จาก 1.3837/38 ช่วงเช้า

 

"บาทวันนี้ perform ได้ค่อนข้างดีกว่าคนอื่น จาก investment flows ที่มีเข้ามาช่วงนี้ แล้ววอลุ่มก็ไม่มาก ก็ทำให้ลงมาได้เร็วหน่อย" ดีลเลอร์ กล่าว

เขา กล่าวว่า แรงซื้อที่มีเข้ามาในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ ยังเป็นแรงหนุน

เงินบาทในช่วงนี้ ขณะที่ปริมาณซื้อขายที่ไม่มากนัก ทำให้การเคลื่อนไหวอาจจะดู

เร็วกว่าปกติ

อย่างไรก็ตาม มองว่า ภาพรวมของเงินบาทจะยังเป็นการแกว่งในกรอบ

มากกว่าที่จะเป็นทิศทางแข็งค่าชัดเจน ซึ่งหากแข็งค่ามาก ก็น่าจะมีแรงขายทำกำไร

สลับออกมาเช่นกัน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ธนาคารได้ทำการอายัดบัตรเอทีเอ็มรุ่นเก่าของลูกค้าส่วนหนึ่งที่ใช้บริการที่ตู้เอทีเอ็มในระบบธนาคารตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ธนาคารตรวจสอบพบว่าบัตรของลูกค้าจำนวนหนึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกสกิมมิ่ง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกตู้เอทีเอ็มของทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ เพื่อแนะนำให้ลูกค้าที่มีความเสี่ยงดังกล่าวเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นรุ่นใหม่ที่มีระบบป้องกันการจารกรรมข้อมูลได้ดีกว่าอย่างเร็วที่สุด

ส่วนสาเหตุที่ธนาคารไม่ได้มีการไม่มีการโทรแจ้งลูกค้าหรือส่ง SMS แจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการอายัดบัตร เนื่องจากธนาคารเห็นว่าวิธีการป้องกันก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นได้รวดเร็วที่สุดคือการดำเนินการที่ตัวบัตร เมื่อธนาคารทราบข้อมูลของปัญหาจึงตัดสินใจทันทีกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเมื่อมีการนำบัตรกลุ่มเสี่ยงมาใช้ที่ตู้เอทีเอ็มก็จะดำเนินการให้ติดต่อสาขาเพื่อเปลี่ยนบัตรทันที

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

::

ขอบคุณค่ะ ลุ้นๆๆๆ สู้ๆๆๆ ไม่ถอย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

::

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...