ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[กมลทิพย์ 146]

สวัสดีวันเสาร์ค่ะ คุณป๋า เมื่อคืนใจหายเลย ตอนนี้มีแต่ดอยสูงๆ หนาวจัง

[Pete 15,187]

ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้นลงค่อนข้างผันผวนในการซื้อขายวันศุกร์ ก่อนที่จะปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันก่อนหน้า...

 

รายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯที่ออกมาใกล้เคียงกับที่นักลงทุนส่วน ใหญ่ประเมินจึงมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองค่อนข้างน้อย โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 1,252.99 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.04 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,245 และ 1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 19,350 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,250 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 787.08 ตัน

 

ราคาทองคำสัปดาห์ที่ ผ่านมาปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า โดยในช่วงต้นสัปดาห์ยังคงมีแรงขายออกมามากจนราคาทองอ่อนตัวลงทำจุดต่ำสุดใน รอบ 3 เดือน ก่อนที่ในการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2.17 แสนตำแหน่ง ซึ่งใกล้เคียงกับผลสำรวจที่ประเมินว่าจะมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 2.14 แสนตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานเดือนพฤษภาคมยังคงทรงตัวที่ 6.3% ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในภาพรวมยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองให้มีกรอบการ ปรับขึ้นค่อนข้างจำกัด

 

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองในประเทศยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่า ของเงินบาทหลังจากนักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนต่างประเมินว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ภาครัฐ รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายสำหรับลงทุนในโครงการต่างๆ ที่หยุดชะงักลงนับแต่รัฐบาลชุดก่อนหมดอำนาจในการบริหารประเทศจะเริ่มเดิน หน้าโครงการลงทุนต่างๆ ได้อีกครั้ง

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคา ทองคำอ่อนตัวลงจากแนวต้านบริเวณ 1,255-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคในระยะสั้นยังคงมีแนวโน้มที่ราคาทองจะปรับตัว ขึ้นต่อเนื่องจากการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์ก่อน โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,260 และ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนแนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในระหว่างวันยังคงอยู่ที่บริเวณ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของการซื้อขายสัปดาห์ก่อน.

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (09/06/2557)

[Pete 15,187]

ประเด็นนี้ ฟังหูไว้สองหู อย่าพึ่งไปเชื่อมากมายก่ายกอง

 

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ทำให้นักลงทุนอึดอัดกับราคาทองที่ไม่ขยับไปไหน

 

ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองแตกต่างจากในช่วงต้นปีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความขัดแย้งในยูเครนที่เคยเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ทองคำขาดปัจจัยสนับสนุน

 

โดยที่การเมืองยูเครนเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมและได้ประธานาธิบดีคนใหม่คือ นายเปโตร โปโรเชนโก มหาเศรษฐีพันล้านเจ้าของบริษัทผลิตช็อกโกแลต หรือสมญานามว่า "Candy Tycoon" ทำให้ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนลดลง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ส่งผลให้ราคาทองคำในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือนที่ 1,240 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และเปลี่ยนจากการเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวในกรอบ (Sideways) เป็นขาลง

 

หันมาดูการเมืองของอินเดีย ประเทศที่บริโภคทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกอาจจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนราคาทองคำในปีนี้ได้ พรรคภารติยา ชนาตา (BJP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้ง และเป็นพรรคเดียวที่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ทำให้การผลักดันนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของอินเดียจะทำได้ง่ายโดยไม่ต้องอาศัยเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล หลังจากตัวเลขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของอินเดียลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำของอินเดียในปี 2555-2556 ทำให้มีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลใหม่จะมีนโยบายลดภาษีนำเข้าทองคำ ซึ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมเริ่มผ่อนคลาย

 

กฎระเบียบการนำเข้าทองคำ โดยจะอนุญาตให้บริษัทเทรดดิ้งของเอกชนสามารถนำเข้าทองคำได้ จะช่วยเพิ่มปริมาณทองคำและลดค่าพรีเมี่ยมราคาทองของอินเดีย

 

สำหรับ การพิจารณาลดภาษีนำเข้าทองคำของอินเดียมีความเป็นไปได้ว่าจะทยอยปรับลดเพื่อ ไม่ให้กระทบต่อตัวเลขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสำหรับความต้องการทองคำของ อินเดียในไตรมาส 1 ลดลงถึง 9% และต่อเนื่องถึงเดือนเมษายนที่ความต้องการทองคำยังอ่อนแอ อย่างไรก็ดี ค่าเงินรูปีที่เริ่มแข็งค่าขึ้นในปีนี้โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้ง ค่าเงินรูปีแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับค่าพรีเมี่ยมที่ลดลงจะทำให้คนอินเดียซื้อทองในประเทศได้ราคาถูกลง และคาดว่าจะมีความต้องการซื้อทองมากขึ้น ถ้ามีการปรับลดภาษีนำเข้าทองคำจะช่วยกระตุ้นความต้องการทองคำในช่วงครึ่งปีหลังได้

 

กลยุทธ์การซื้อขายทองในช่วงที่ราคาทองเปลี่ยนเป็นขาลงหลังจากการเคลื่อนไหวในลักษณะกรอบสามเหลี่ยมตามรูปภาพและหลุดกรอบแนวรับที่ 1,280 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ดังนั้นคงต้องใช้เครื่องมือในการลงทุนอย่างโกลด์ฟิวเจอร์สมาช่วยบริหารความเสี่ยงและช่วยลดผลขาดทุนจากการลงทุนในทองแท่ง การลงทุนใน

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเองคงต้องเน้นกลยุทธ์การเก็งกำไรฝั่งขาย (Short) เป็นหลัก แนวต้านหลักของราคาทองคำอยู่ที่ 1,270 และ 1,280 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,240 และ 1,225 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ตามลำดับ

 

 

 

 

 

ที่มา : ประชาชาติออนไลน์ (09/06/2557)

 

 

[chaiklang 161]

ขอบคุณครับ คุณป๋า

[Pete 15,187]

ราคาทองต้องผ่าน ต้องทำให้ด่านต้าน 1258 แตกเท่านั้น ถึงจะมีจังหวะที่จะก้าวหน้าต่อไป ชนแล้วถ้าร่วง ย่อ ก็จะออกแนวเดิม 1248-1252 พร้อมตัวเลขขาเสี่ยง

 

LONG GOLD above 1258 SL 1255 TP 1264-1272-1278

SHORT GOLD below 1246 SL 1250 TP 1234-1228-1222-1215

Good luck!

[Pete 15,187]

สวัสดีวันอังคาร คืนที่ผ่านมา ราคาทองก็ยังชนต้านด้านบน 1257-1258 แล้วย่อตัวลงมาอีกเช่นเคย ไม่สามารถชนแล้วแตกเลย 1258 ไปได้ มาถึงวันนี้ ตามรหัส 7,5,2 แบบไวไว เส้นแดงก็ยังอยู่บนเส้นดำ บ่งบอกจะยังมีจังหวะดันขึ้นไปทดสอบ ลองของว่าจะมี ด่าน 1258 แตกหรือไม่ ( แต่ท่าทางยังยากอยู่ เพราะไม่มีรายงานเศรษฐกิจ หรือ สถานการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น

[Pete 15,187]

รหัส 5,35,9 รหัสสัญญานนำทาง ยังไม่ตัดกัน ของเส้นดำเส้นแดง จ่อ จ่อ ที่จะตัดกัน น่าจะเร็ววันนี้ ถ้าผ่าน 1258 ไปได้อย่างราบรื่น ใครรอก็รอตัดก่อนค่อยซื้อ ใครอยากเสี่ยง ขี้เกียจรอ ก็สักเล็กน้อย พอได้ลุ้นๆๆ

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาท ไม่ไปไหนไกล 32.45-32.55 วนเวียนที่แข็ง ได้ทำให้ราคาทองต่ำกว่า ที่ควรจะเป็น

[Pete 15,187]

รายงานคืนนี้ ไม่หวือหวา จึงขึ้นอยู่กับนักลงทุนขาใหญ่ จะลากขึ้น แบบ มันมาได้ไง

[chaiklang 161]

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

กราฟรหัส บอกเหมือน ๆ ว่า อาจจะขึ้น

 

แต่ ผ้มไม่มั่นใจเงินบาทนี่แหละ

 

หลายวันนี้ แข็งมาเยอะ ... อยากให้สวิงไปอ่อนบ้างจัง

 

ขอบคุณ ป๋า นะครับ

[กมลทิพย์ 146]

สวัสดีค่ะคุณป๋า ราคาทองลง บาทแข็งอีก มองโอกาสคนเล่นแท่งดูไม่มีอนาคตเลย

[Pete 15,187]

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเม้นท์ แนะกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (10 มิถุนายน 2557) นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ให้ถือสถานะขายที่มีเพื่อรอทำกำไรที่ระดับ $1,230-1,240/Oz และมีจุดตัดขาดทุนที่ $1,260/Oz ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ให้ชะลอการลงทุนไปก่อน

 

ภาพรวมตลาดทองคำคืนวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลดลง $1.07/Oz หรือ 0.09% มาอยู่ที่ $1,251.92/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,251.30-1,257.00) ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบโดยมีการแกว่งตัวตามปัจจัยทางเทคนิคโดยยังไม่ สามารถยืนเหนือแนวต้านที่ $1,260/Oz ได้ทำให้ราคายังสร้างฐานในกรอบ $1,240-1,260/Oz อย่างไรก็ตาม นักลงทุนค่อนข้างระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐใน สัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมิ.ย.จากรอย เตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – ราคาทองยังพักตัวออกข้างและเกิดสัญญาณ Bullish Divergence แต่หากราคาไม่สามารยืนเหนือ $1,260/Oz ได้อย่างแข็งแกร่งมีโอกาสย่อตัวลงได้ มองกรอบราคาทองคำในวันนี้ $1,230-1,266/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

•ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจขนาดเล็กสหรัฐ เวลา 18.30 น.

 

 

 

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (10/06/2557)

 

[Pete 15,187]

บาทแข็งค่า นักบริหารเงินธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ค่าเงินบาทเช้านี้ (10 มิ.ย.) เปิดตลาดที่ 32.42/46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวแข็งค่าจากเปิดตลาดวานนี้ เป็นผลจากนักลงทุนมีความมั่นใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ จากการปลดล็อกในหลายมาตรการ อาทิ การตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จึงทำให้ต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตร "ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับภูมิภาค ทั้ง ๆ ที่เงินดอลลาร์ก็ปรับตัวแข็งค่า จึงมองว่าเป็นผลบวกจากการปลดล็อกเศรษฐกิจของ คสช." นักบริหารธนาคารกรุงเทพ คาดการณ์กรอบความเคลื่อนไหววันนี้ที่ 32.40-32.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ (10 มิถุนายน 2557)

[Pete 15,187]

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1.8% ในเดือนเม.ย.

 

หากเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ ปรับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

 

การขยายตัวของดัชนี CPI เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ดัชนี CPI ขยายตัว 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 10 มิถุนายน 2557)

 

 

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ปรับตัวลง 1.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากหดตัวลง 2% ในเดือนเม.ย. หากเทียบรายเดือน ดัชนี PPI เดือนพ.ค.ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 10 มิถุนายน 2557)

 

 

[Pete 15,187]

ราคาทองคำวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบก่อนที่จะปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันศุกร์ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยลบกดดันให้ราคาทองวานนี้กลับอ่อนตัวลงหลังในระหว่างวันเริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา...

 

การปรับลดสัดส่วนการกันสำรองจากธนาคารกลางของจีนส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยวานนี้ราคาทองปิดตลาดที่ 1,251.92 ดอลลาร์ ลดลง 1.07 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,251 และ 1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 19,300 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,200 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 787.08 ตัน

 

ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินดอลลาร์ก็มีแนวโน้มแข็งค่าและเป็นอุปสรรคสำคัญในการปรับขึ้นของสัญญาทอง โดยในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างรอติดตามรายงานยอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการรายงานในวันพฤหัส และในช่วงเย็นวานนี้เงินดอลลาร์ดีดตัวแข็งค่าขึ้นในปริมาณค่อนข้างมากหลังจากธนาคารกลางของจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง ซึ่งเป็นมาตรการในการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

โดยวานนี้ธนาคารกลางจีนประกาศว่าจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรอง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลง 0.5% สำหรับธนาคารที่มีการจัดสรรเงินกู้ให้แก่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังระบุว่าจะมีการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของบริษัทไฟแนนซ์และบริษัทสินเชื่อรถยนต์ลง 0.5% เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้เงินทุนของผู้ประกอบการและส่งเสริมการบริโภค ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการที่ทางการจีนนำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและจะมีผลลบต่อราคาทองผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิคซึ่งวานนี้ราคาอ่อนตัวลงจากแนวต้านบริเวณ 1,255-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคในระยะสั้นยังคงมีแนวโน้มที่ราคาทองจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์ก่อน โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,260 และ 1,275 ดอลลาร์ ตามลำดับ ส่วนแนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในระหว่างวันยังคงอยู่ที่บริเวณ 1,240 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของการซื้อขายสัปดาห์ก่อน.

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (วันที่ 10 มิถุนายน 2557)