ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเหนือความคาดหมาย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 1,266.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.1 เซนต์ ปิดที่ 19.138 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 4.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,408.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 15.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 891.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำร่วงลงเพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับยูโร หลังจากอีซีบีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) ลงสู่ระดับ 0.05% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) ลงสู่ระดับ -0.2%

 

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 225,000 คน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 คนในเดือนก.ค.

 

ส่วนข้อมูลด้านแรงงานที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 204,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 302,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 300,000 ราย

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 กันยายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังจากทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง พร้อมทั้งมีการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ และมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการผ่อนคลายทางการเงินในอนาคต...

 

เนื่องจากเศรษฐกิจในยูโรโซนยังมีสัญญาณชะลอตัว กดดันให้ราคาทองปรับตัวลงในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,259.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 8.90 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,259 และ 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 19,350 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,250 บาท กองทุน SPDR ลดปริมาณการถือครองทองคำลงราว 4.79 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 785.72 ตัน

 

ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวการประชุมนโยบายการเงินวานนี้ว่า จะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากภาคเอกชนในเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าแนวโน้มเงินเฟ้อโดยรวมที่ยังอยู่ในระดับต่ำ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่อ่อนแรงลง ตลอดจนการเคลื่อนไหวของสินเชื่อและตลาดเงินที่ยังคงซบเซา เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางยุโรปจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

นอกจากนี้ ยังได้ระบุว่า คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรปมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะนำเครื่องมือทาง การเงินที่ไม่เคยถูกนำมาใช้ มาใช้เพิ่มเติมภายในขอบเขตอำนาจของธนาคาร และยังได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ในรูปแบบของโครงการซื้อสินทรัพย์ประเภทซื้อขาด (outright purchase) โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากธนาคารกลางยุโรป มีมติลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมวานนี้ โดยดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการ เงิน (Main refinancing operation) จะลดลงสู่ระดับ 0.05% จากเดิมที่ 0.15% และดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) จะลดลงสู่ -0.20% จาก -0.10% และจากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลง

 

แม้ว่ารายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงค่ำที่ผ่านมา จะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์นี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 302,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 300,000 ราย ส่วนตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ปรับตัวขึ้น 204,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 212,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนสิงหาคม ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงค่ำของวันนี้ ซึ่งผลสำรวจประเมินว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 คนในเดือนกรกฎาคม

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำ ซึ่งวานนี้ราคาทองดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวที่แนวต้าน บริเวณ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในการซื้อขายระหว่างวัน ก่อนที่จะมีแรงขายกลับออกมาจนราคาอ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงเป็นสัญญาณขายในทางเทคนิคกดดันให้ราคาทอง มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,245-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองดีดตัวขึ้นในระหว่างวัน คาดว่าแนวต้านบริเวณ 1,265-1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงเป็นแนวต้านที่จะมีแรงขายกลับออกมามาก และจะกดดันให้ราคาทองปรับตัวลงต่อไป.

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (05/09/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้าสหรัฐ ปิดปรับตัวลง ท่ามกลางการซื้อขายที่ยังคงผันผวน

 

 

สัญญาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้าสหรัฐ ปิดปรับตัวลง ท่ามกลางการซื้อขายที่ยังคงผันผวน ขณะที่นาโต้เริ่มประชุมเพื่อผ่าทางตันวิกฤติยูเครน และธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี หั่นดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของยูโรโซน

 

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส ตลาดไนเม็กซ์ ส่งมอบเดือน ต.ค. ร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ 94.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค. ปรับตัวลง 94 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 101.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (05/09/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเม้นท์ แนะกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (5 กันยายน 2557) นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) หลังซื้อกลับทำกำไรไปแล้วให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน

 

ภาพรวมตลาดทองคำคืนวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลดลง $8.90/Oz หรือ 0.70% มาอยู่ที่ $1,259.70/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,257.18-1,263.24) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นก่อนหลังธนาคารกลางยุโรปมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ ระดับ 0.05% จากระดับเดิมที่ 0.15% เนื่องจากต้องการที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืด นอกจากนี้ประธานธนาคารกลางยุโรปแถลงข่าวว่า ธนาคารกลางจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมในยูโรโซนทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกกดดันจากการประกาศดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัว ขึ้นสู่ระดับ 59.6 ในเดือนส.ค. จากระดับ 58.7 ในเดือนก.ค. โดยตัวเลขเดือนก.ค.เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2551 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะที่ 57.5 โดยภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมตั้งแต่สาธารณูปโภคและค้าปลีก ไปจนถึงการเคหะ บริการสุขภาพ และการเงิน

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – ราคาทองคำยังสร้างจุดต่ำใหม่อย่างต่อเนื่องและถูกกดดันจากเส้นค่าเฉลี่ยที่ เรียงตัวในลักษณะ Bearish หากราคาสร้างฐานเหนือ $1,260/Oz ไม่ได้มีโอกาสปรับตัวลงต่อได้ ในวันนี้มองกรอบราคาทองคำที่ $1,250-1,277/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

•ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เวลา 19.30 น.

•อัตราว่างงานสหรัฐ เวลา 19.30 น.

 

 

 

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (05/09/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.12/14 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.03/04 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาค เนื่องจากผลประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ทำให้ดอลลาร์แข็งค่า

 

"เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าเนื่องจากผลประชุม ECB เมื่อคืนนี้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินปรับตัวรุนแรงโดยเฉพาะสกุลยุโรป" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดว่า กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้จะอยู่ระหว่าง 32.05-32.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.33 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 104.90 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2934 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3145 ดอลลาร์/ยูโร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"อีซีบี"สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงินด้วยการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำสถิติต่ำสุดรอบลงสู่ระดับ 0.05%

 

ธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงิน ด้วยการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำสถิติต่ำสุดรอบใหม่ลงสู่ระดับ 0.05% จากระดับเดิมที่ 0.15% เนื่องจากต้องการที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืด

 

อีซีบี มีมติในการประชุมเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ให้ลดอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ลงมาอยู่ที่ 0.05% จากเดิมที่ระดับ 0.15% พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ลงมาอยู่ที่ -0.2% จากเดิมที่ -0.10% และลดดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทมาร์จิแนล เลนดิ้ง เรท (marginal lending rate) ลงมาอยู่ที่ 0.30% จากเดิมที่ 0.40%

 

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 0.3% ในเดือนส.ค. จากระดับปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี 10 เดือน และยังอยู่ที่ระดับที่ห่างไกลจากระดับเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.ก็ไม่ได้ขยายตัวขึ้นแต่อย่างใด

 

ด้านประธานอีซีบี นายมาริโอ ดรากี กล่าวหลังการประชุมว่า อีซีบีเตรียมจะเริ่มโครงการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน หรือ เอบีเอส ซึ่งเป็นการพัฒนาด้านนโยบายสำคัญที่ตลาดคาดหวังไว้ นอกจากนี้ นายดรากียังให้คำมั่นว่า อีซีบีจะเริ่มใช้มาตรการเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเงินเฟ้อด้วย

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 5 กันยายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณสำหรับข่าวสารขอรับป๋า

 

ปล.หน้านี้เลขสวย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.13 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์กรอบความเคลื่อนไหววันนี้อยู่ที่ 32.00-32.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ก.ย.) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ประกาศปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 3 รายการ ได้แก่ ดอกเบี้ยเงินกู้แก่ธนาคารพาณิชย์ ดอกเบี้ยเงินฝากแก่ธนาคารพาณิชย์ และอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ พร้อมกับประกาศซื้อสินทรัพย์ที่เป็นตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการซื้อตราสารหนี้ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (ABS) ซึ่งมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนยูโรเทียบดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 5 กันยายน 2557)

 

 

ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลดลงวันนี้ หลังเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบสกุลเงินอื่นๆขานรับมติของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกว่าจะเกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในคืนนี้ ตามเวลาไทย

 

ดัชนี MSCI Emerging Markets Index ปรับตัวลดลง 0.4% แตะ 1,095.80 เมื่อเวลา 13.26 น. ตามเวลาฮ่องกง

 

ที่ตลาดเกาหลีใต้ หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวลง 0.8% ส่วนที่ตลาดไต้หวัน หุ้นแคชเชอร์ เทคโนโลยี ซัพพลายเออร์ของแอปเปิล หดตัว 1.5%

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเปิดเผยว่า แม้ว่าจะมีการเทขายหุ้นในตลาดเกิดใหม่ แต่คาดว่าน่าจะเป็นแค่ในช่วงระยะสั้นๆ

 

เมื่อวานนี้ แถลงการณ์ของอีซีบีระบุว่า ดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) จะลดลงสู่ระดับ 0.05% จากเดิมที่ 0.15% และดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) จะลดลงสู่ระดับ -0.20% จาก -0.10%

 

นอกจากนี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินวานนี้ว่า ธนาคารจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมในยูโรโซน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 กันยายน 2557)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คอลัมน์ สถานีลงทุน โดย ธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ตลาดหุ้นเดือนสิงหาคม มีประเด็นบวกทางการเมืองในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาบริหารประเทศที่ทำให้ปรับขึ้นอย่างร้อนแรงอีกรอบ หลังจากปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังการรัฐประหาร ตลาดหุ้นในตอนนี้คงตอบรับประเด็นบวกทางการเมืองไปหมดแล้ว

 

นับจากนี้การบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ นอกจากเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องมีปฏิรูปโครงสร้างในด้านต่างๆ ที่ต้องทำงานควบคู่กันไป

 

การปฏิรูปพลังงาน คงกระทบกับตลาดหุ้นไทยมากที่สุด อาจส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีมูลค่าราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่สุด จะเป็นตัวถ่วงดัชนีตลาดหุ้นไทย การนำร่องจากการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันที่มีการปรับลดราคาขายปลีก ซึ่งมีการประเมินว่าไม่ได้ส่งผลลบต่อธุรกิจโรงกลั่น แต่อาจกระทบระยะสั้นต่อธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน อย่างไรก็ดี อาจจะมีการพิจารณาปรับโครงสร้างก๊าซต่อไป ที่คาดว่าจะกระทบทางลบต่อธุรกิจก๊าซและธุรกิจปิโตรเคมี

 

ด้วยเหตุผลที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับขึ้นมามาก และตลาดหุ้นตอบรับทางบวกในประเด็นการเมืองไปหมดแล้ว ทำให้คาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะมีแรงเทขายออกมาเป็นระยะๆ เมื่อปรับขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน

 

สำหรับประเด็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยในเดือนกันยายน คือ งาน Thailand Focus 2014 ในวันที่ 27-29 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่หวังเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศ ตามสถิติที่ผ่านมา 3 ครั้งหลังจบงาน 1 สัปดาห์ตลาดหุ้นมีการปรับขึ้น 1-4% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหุ้นก่อนเริ่มงาน ดังนั้น สัปดาห์แรกของเดือนกันยายนตลาดหุ้นไทยคาดจะปรับตัวขึ้น

 

นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งที่อาจส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก โดย SET Index มีแนวต้านที่ 1,580 จุด และ 1,590 จุดตามลำดับ ส่วน SET50 Index Futures เดือน ก.ย.มีแนวต้านที่ 1,050 จุด และ 1,060 จุดตามลำดับ ขณะที่แนวรับในการเข้าซื้ออยู่ที่ 1,550 จุด และ 1,540 จุด สำหรับ SET Index และ 1,035 จุด และ 1,025 จุด สำหรับ SET50 Index Futures เดือน ก.ย. ราคาทองคำในช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคม ถูกแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจนทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 1,273 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความกังวลที่ธนาคารกลางสหรัฐจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาด หลังจากที่มีการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ดังนั้น ในเดือนกันยายนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 16-17 เป็นประเด็นสำคัญที่กระทบต่อราคาทองคำ การประชุมครั้งนี้นอกจากจะมีคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐแล้ว จะมีการเปิดเผยประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐด้วย คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเดินหน้าปรับลดวงเงิน QE อีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เหลือ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และจะสิ้นสุดในการประชุมครั้งหน้าในเดือนตุลาคม สำหรับคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ คาดว่าจะยังไม่มีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ดังนั้น น่าจะไม่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่คาดการณ์ว่าประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะปรับในทางที่ดีขึ้น

 

สำหรับการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 4 กันยายน ถึงแม้ว่าการประชุมครั้งนี้คาดการณ์ว่าจะมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 0.15% และจะไม่มีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม แต่นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับคำแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป ซึ่งอาจจะทำให้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมในอนาคต ที่จะส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงและราคาทองปรับตัวลงตามไปด้วย สำหรับสถานการณ์ในยูเครนที่ตึงเครียดเป็นระยะๆ จะทำให้มีแรงซื้อทองคำในช่วงสั้นๆ

 

แนวโน้มราคาทองคำในเดือนกันยายนคาดมีความผันผวนและจะเคลื่อนไหวระหว่าง 1,270-1,330 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (05/09/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คริสทีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แสดงการขานรับมติของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซน

 

"มาตรการที่อีซีบีนำมาใช้จะช่วยลดอันตรายต่างๆซึ่งเกิดจากภาวะเงินเฟ้อต่ำที่ดำเนินมาอย่างยืดเยื้อ" ผอ.ไอเอ็มเอฟระบุในแถลงการณ์

 

ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรปมีมติลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมวันนี้ และจะเริ่มซื้อสินทรัพย์ภาคเอกชนที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้ยูโรโซนเข้าสู่ภาวะเงินฝืด

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 4 กันยายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณสำหรับข่าวสารขอรับป๋า

 

ปล.หน้านี้เลขสวย

หน้าก่อนนั้นก็สวยนะ 6999

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณสำหรับข่าวสารขอรับป๋า

 

ปล.หน้านี้เลขสวย

 

หน้าก่อนนั้นก็สวยนะ 6999

จะสวยที่สุด ต้องยอด View 10 ล้านครับ อิอิ คงอีกไม่นาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลล์เริ่มอ่อนแรง คงมีอะไรดีๆ ให้เห็น " ทางบวกต่อราคาทอง. "

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...