ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,673.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด หรือ +0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,716.70 จุด ลดลง 11.04 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.51 จุด ลดลง 8.52 จุด หรือ -0.42%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และ ตลาดหุ้นกรีซ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 372.1 จุด

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,696.30 จุด เพิ่มขึ้น 18.40 จุด หรือ +0.39% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,911.32 จุด เพิ่มขึ้น 20.37 จุด หรือ +0.19% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,860.02 จุด ลดลง 11.78 จุด หรือ -0.17%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากภาคเอกชน

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 11.78 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 6,860.02 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่ สูงเกินไป

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ดิ่งลง 3.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรอง ของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนสภาพคล่องภายในประเทศ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ระดับ 1,264.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.4 เซนต์ ปิดที่ 17.395 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,238.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เนื่องจากกรีซเผชิญแรงกดดันรอบใหม่ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่าจะไม่ยอมรับการใช้พันธบัตรรัฐบาลกรีซมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงิน กู้ของธนาคารกลาง

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1418 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1487 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5222 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5168 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.36 เยน เทียบกับระดับ 117.60 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9237 ฟรังก์ จาก 0.9229 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7781 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7795 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,673.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด, +0.04%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,716.70 จุด ลดลง 11.04 จุด, -0.23%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,041.51 จุด ลดลง 8.52 จุด, -0.42%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้เสร็จสิ้นการเจรจากับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้แล้ว

 

นายซิปราสกล่าวว่า การหารือของเขากับผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) กำลังมีทิศทางที่ดี และเขาคาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงซึ่งเป็นที่ยอมรับระหว่างกันภายในกรอบของ EU

 

เขาระบุว่า แม้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงในวันนี้ แต่เขามีความเชื่อมั่นว่าการเจรจากำลังมุ่งไปในทิศทางที่ดีสำหรับการทำข้อตกลงร่วมกัน

 

นายซิปราสกล่าวว่า รัฐบาลของเขาจะปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้ขณะหาเสียงเลือกตั้ง แต่เขาก็เคารพในข้อบังคับเกี่ยวกับการชำระหนี้ และการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ EU กำหนดไว้สำหรับกรีซ

 

EU เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้หลักของกรีซ โดยกลุ่มทรอยก้า หรือกลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซ ประกอบด้วย EU, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

 

การเจรจาของนายซิปราสกับ EU มีเป้าหมายเพื่อทำการต่อรองเงื่อนไขครั้งใหม่สำหรับมาตรการรัดเข็มขัดตามแผนให้ความช่วยเหลือวงเงิน 2.40 แสนล้านยูโรที่กรีซได้รับจากเจ้าหนี้

 

ขณะเดียวกัน นายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กล่าวในวันนี้ว่า เขารู้สึกพอใจ หลังการเจรจากับนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB

 

นายวารูเฟกิสกล่าวว่า การหารือเป็นไปด้วยดี และทำให้เขามีความหวังสำหรับการเจรจาในอนาคต

 

รมว.คลังกรีซกล่าวว่า เขาได้ชี้แจงแผนของรัฐบาลกรีซให้แก่นายดรากี ขณะที่นายดรากีก็ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และระบุแนวทางการช่วยเหลือของ ECB ต่อประเทศในยูโรโซน เช่น กรีซ

 

ทั้งนี้ กรีซจะต้องได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากเจ้าหนี้ก่อนสิ้นเดือนนี้ มิฉะนั้นจะประสบภาวะผิดนัดชำระหนี้สำหรับพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอน

 

นายวารูเฟกิสเสนอให้กรีซระดมเงิน 1 หมื่นล้านยูโร โดยการออกพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจาก ECB

 

เมื่อวานนี้ รัฐบาลกรีซระบุว่าจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ขณะที่ยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่

 

นายวารูเฟกิสกล่าวว่า กรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง ขณะที่จะยื่นข้อเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ ECB และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

 

นอกจากนี้ นายวารูเฟกิสยังระบุว่าเขาไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับ EU เกี่ยวกับการทำข้อตกลงหนี้ฉบับใหม่

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04/02/58)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน กล่าวยืนยันในวันนี้ว่า ปัญหาหนี้ของกรีซจะไม่สร้างความแตกแยกในยูโรโซน โดยท่าทีของประเทศสมาชิกจะไม่ส่งผลต่อเอกภาพของกลุ่มประเทศดังกล่าว

 

นางแมร์เคิลระบุว่า เขาคาดหวังที่จะพบปะกับนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ในการประชุมสัปดาห์หน้า

 

นอกจากนี้ นางแมร์เคิลยังกล่าวย้ำถึงความต้องการให้กรีซยังคงอยู่ในยูโรโซนต่อไป

นายซิปราสได้เสร็จสิ้นการเจรจากับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้

 

นายซิปราสกล่าวว่า การหารือของเขากับผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) กำลังมีทิศทางที่ดี และเขาคาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงซึ่งเป็นที่ยอมรับระหว่างกันภายในกรอบของ EU

 

เขาระบุว่า แม้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงในวันนี้ แต่เขามีความเชื่อมั่นว่าการเจรจากำลังมุ่งไปในทิศทางที่ดีสำหรับการทำข้อตกลงร่วมกัน

 

นายซิปราสกล่าวว่า รัฐบาลของเขาจะปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้ขณะหาเสียงเลือกตั้ง แต่เขาก็เคารพในข้อบังคับเกี่ยวกับการชำระหนี้ และการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ EU กำหนดไว้สำหรับกรีซ

 

EU เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้หลักของกรีซ โดยกลุ่มทรอยก้า หรือกลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซ ประกอบด้วย EU, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

 

การเจรจาของนายซิปราสกับ EU มีเป้าหมายเพื่อทำการต่อรองเงื่อนไขครั้งใหม่สำหรับมาตรการรัดเข็มขัดตามแผนให้ความช่วยเหลือวงเงิน 2.40 แสนล้านยูโรที่กรีซได้รับจากเจ้าหนี้

 

ขณะเดียวกัน นายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กล่าวในวันนี้ว่า เขารู้สึกพอใจ หลังการเจรจากับนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB

 

นายวารูเฟกิสกล่าวว่า การหารือเป็นไปด้วยดี และทำให้เขามีความหวังสำหรับการเจรจาในอนาคต

 

รมว.คลังกรีซกล่าวว่า เขาได้ชี้แจงแผนของรัฐบาลกรีซให้แก่นายดรากี ขณะที่นายดรากีก็ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และระบุแนวทางการช่วยเหลือของ ECB ต่อประเทศในยูโรโซน เช่น กรีซ

 

ทั้งนี้ กรีซจะต้องได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากเจ้าหนี้ก่อนสิ้นเดือนนี้ มิฉะนั้นจะประสบภาวะผิดนัดชำระหนี้สำหรับพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอน

 

นายวารูเฟกิสเสนอให้กรีซระดมเงิน 1 หมื่นล้านยูโร โดยการออกพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจาก ECB

 

เมื่อวานนี้ รัฐบาลกรีซระบุว่าจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ขณะที่ยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่

 

นายวารูเฟกิสกล่าวว่า กรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง ขณะที่จะยื่นข้อเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ ECB และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

 

นอกจากนี้ นายวารูเฟกิสยังระบุว่าเขาไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับ EU เกี่ยวกับการทำข้อตกลงหนี้ฉบับใหม่

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04/02/58)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แบงก์ชาติจีนอัดฉีดเงินกว่า 3 แสนล้านหยวนเข้าตลาดผ่านธนาคารพาณิชย์ (05/02/58)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางธนาคารกลางได้อัดฉีดเม็ดเงิน 3.75 แสนล้านหยวน (6 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดผ่านทางธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง โดยใช้กลไกการปล่อยเงินกู้ระยะกลางในเดือนพ.ย.และธ.ค.ที่ผ่านมา

 

การอัดฉีดเงินดังกล่าวเป็นการปล่อยเงินกู้ระยะ 3 เดือนที่อัตราดอกเบี้ย 3.5%

อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางไม่ได้ระบุว่าธนาคารพาณิชย์แห่งใดที่ได้รับการอัดฉีดเงินดังกล่าว

 

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ในวันนี้ ในความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว

 

การปรับลด RRR ดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ จะทำให้ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยกู้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลออกจากระบบธนาคารเข้าสู่เศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

 

ธนาคารกลางระบุว่า ต้องการให้ภาคธนาคารให้การสนับสนุนมากขึ้นต่อธุรกิจรายย่อยซึ่งอยู่ในชนบท รวมทั้งธุรกิจการก่อสร้างโครงการน้ำ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04/02/58)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คอลัมน์ สถานีลงทุน โดย ธนรัชต์ พสวงศ์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

 

 

QE ธนาคารกลางยุโรปเดือนมกราคมทั้งตลาดหุ้นและตลาดทองคำปรับขึ้นสดใสรับปีใหม่

 

ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นร้อนแรงตอบรับการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 22 มกราคม 2558 ประกาศมาตรการซื้อพันธบัตรหรือมาตรการ QE วงเงินสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยประกาศซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ซึ่ง ECB จะเริ่มซื้อพันธบัตรตั้งแต่เดือน มี.ค. 2558 จนถึงเดือน ก.ย. 2559 รวมเป็นวงเงินทั้งโครงการ 1.14 ล้านล้านยูโร

 

ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดหุ้นในการตอบรับมาตรการ QE ของ ECB เนื่องจากมีเม็ดเงินที่ไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นมากกว่าทองคำ ประกอบกับก่อนหน้านี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก โดยมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากประเด็นเรื่อง ธนาคารกลางสวิส (SNB) ยกเลิกเพดานค่าเงินฟรังก์สวิสที่ 1.20 ฟรังก์ต่อยูโร หลังจากใช้มายาวนาน 3 ปีครึ่ง และสถานการณ์การเมืองของกรีซ อย่างไรก็ดีวงเงินในการซื้อพันธบัตรของ ECB สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 1,307 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยปรับขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว

 

สำหรับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของ ECB ทั้งหมด ทำให้มีเม็ดเงินสภาพคล่องเข้าสู่ระบบราว 2 ล้านล้านยูโร ซึ่งมาตรการ QE ราว 1.14 ล้านล้านยูโร บวกกับมาตรการปล่อยสินเชื่อระยะยาวแก่ธนาคารพาณิชย์ (TLTRO) มาตรการซื้อตราสารหนี้ ABS และ Covered Bond ซึ่ง ECB ประกาศใช้ในปีที่แล้วอีก 1 ล้านล้านยูโร เม็ดเงินดังกล่าวถือว่ามากทีเดียวเมื่อเทียบกับมาตรการ QE1 ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศใช้ในปี 2551 ทั้งสิ้น 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้คาดการณ์ว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินของ ECB จะมีเม็ดเงินที่ไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น

 

พร้อมกับคาดว่าจะส่งผลทั้งบวกและลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากเงินยูโรที่อ่อนค่าลงจะกดดันต่อราคาทองคำ แตกต่างจากมาตรการ QE ของเฟดที่ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าและช่วยหนุนราคาทองคำ

 

ดังนั้น แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอาจเริ่มลดลงเนื่องจากตลาดลดความกังวล ต่อประเด็นที่กรีซจะต้องออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนประกอบกับราคาทองปรับ ขึ้นมาถึง8% ในเดือนมกราคม ทำให้ต้องระวังแรงเทขายทำกำไร

 

อย่างไรก็ดีในเดือนกุมภาพันธ์มีปัจจัยหนุนจากความต้องการซื้อทองคำจริง (Physical gold) ในช่วงตรุษจีน ซึ่งในปีที่แล้วมีแรงซื้อทองคำค่อนข้างคึกคักตั้งแต่เปิดปีใหม่ ทำให้ราคาทองคำในวันตรุษจีนปรับขึ้น 3% เมื่อเทียบกับ 1 เดือนที่ผ่านมา ส่วนปีนี้มีแรงซื้อทองเข้ามาพอสมควรแล้วในช่วงต้นปี คาดว่ายังมีความต้องการก่อนถึงวันตรุษจีนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ทำให้การปรับฐานลงของราคาทองคำคาดว่ามีกรอบที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีสัญญาณที่ดีจากแรงซื้อทองของกองทุน ซึ่งเดือนมกราคม กองทุน SPDR เพิ่มปริมาณการถือทองราว 50 ตัน ส่งสัญญาณที่ดีว่านักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนสถาบันในสหรัฐและยุโรปเริ่มกลับมาลงทุนในทองคำ หลังจากในปี 2556-2557 มีการขายทองคำออกมา 550 ตันและ 95 ตันตามลำดับ

 

โดยในระยะสั้นทองคำมีแนวรับที่ 1,270 และ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านหลักที่ 1,300 และ 1,320 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ แนะนำนักลงทุน ซื้อ-ขายตามกรอบแนวรับแนวต้านได้ สำหรับตลาดหุ้นไทย ประเด็นที่มีผลในเดือนกุมภาพันธ์ คือ เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้า (Fund flow) ตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลัง ECB ประกาศมาตรการ QE ส่วนปัจจัยในประเทศคือการประกาศผลประกอบการปี 2557 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector ที่คาดมีแรงเก็งกำไรในหุ้นบางตัวหรือบางกลุ่ม

 

ส่วน SET50 Index Futures สัญญาเดือน มี.ค. มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,070 จุด และ 1,080 จุด ตามลำดับ และมีแนวรับที่ 1,025-1,030 จุด กลยุทธ์การลงทุนใน SET50 Index Futures ปรับฐานลงมาเปิดสถานะ "ซื้อเก็งกำไร" เพื่อรอการฟื้นตัว

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ (วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

::

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ้างถึง : SHORT GOLD below 1284 SL 1287 TP 1262-1254-1236-1228-1222

LONG GOLD above 1218 SL 1215 TP 1232-1248-1254-1268-1280

 

รหัส 5,35,9 ของราคาทอง สถานะตอนนี้ ของเส้นดำเส้นแดง ยังเหมือนเดิม คือ สถานะย่อ ลด ต่อราคาทอง หัวของเส้นยังไม่ได้มีการคาดที่จะหัวหัวมาตัดกัน นักลงทุนขายาวระดับหนึ่งก็ยังคงต้องเฝ้ารอต่อไป ส่วนขากลาง ไม้แรกก็คงถืออยู่ ยังไม่ได้ซื้อไม้ 2 ที่ระดับราคา 1254 เพราะราคาไม่มา ที่จะทยอยเข้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

** ราคาทองยังคงเดินตามทางของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ / ดอลล์อ่อนลง ทองอ่อนตาม_ ดอลล์แข็งขึ้น ทองก็ขึ้นตาม

 

รหัส ๕,๓๕,๙ ของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ สถานะยังอยู่ในด้านของการอ่อนค่า ยังไม่มีทีท่าว่า หัวของเส้นจะเคลื่อนเข้าหากัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานยุโรป เริ่มบ่าย 2 มีกระทบต่อค่าเงินยูโรในทางแข็งค่าขึ้นมถ้าตัวเลขออกมาดี ดังนั้น ราคาทองจึงน่ามีจังหวะย่อ ตามทิศทางอ่อนตัวของดอลล์สหรัฐ

 

ช่วงมีราคาทองเดินเป๋ สลับกับค่าเงินเหลือเกิน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานสหรัฐ ยามค่ำคืน หลายๆ ค่ำคืนที่ผ่านมา แต่ละคืนตัวเลขออกมาดีแย่สลับกัน นักลงทุนเลยเล่นหุ้นฯ ดีกว่า ผลักดันหุ้นดาวโจนส์ขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ก.พ.2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่า คาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของน้ำมันดิบ

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,884.88 จุด เพิ่มขึ้น 211.86 จุด หรือ +1.20% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,765.10 จุด เพิ่มขึ้น 48.40 จุด หรือ +1.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,062.52 จุด เพิ่มขึ้น 21.01 จุด หรือ +1.03%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาหนี้ของกรีซ หลังจากมีรายงานว่าการเจรจาระหว่างรมว.คลังของกรีซและเยอรมนีไม่มีความคืบ หน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 372.51 จุด

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,703.30 จุด เพิ่มขึ้น 7.00 จุด หรือ +0.15% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,905.41 จุด ลดลง 5.91 จุด หรือ -0.05% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,865.93 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด หรือ +0.09%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 5.91 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 6,865.93 จุด

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) หลังจากสหรัฐมียอดขาดดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าข้อมูลด้านแรงงานสหรัฐออกมาในเชิงบวก

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1472 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1418 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5332 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5222 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.57 เยน เทียบกับระดับ 117.36 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9229 ฟรังก์ จาก 0.9237 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7804 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7781 ดอลลาร์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงไปกว่า 4 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 2.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่า

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,262.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 19.9 เซนต์ ปิดที่ 17.196 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 10.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,249.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,884.88 จุด เพิ่มขึ้น 211.86 จุด +1.20%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,765.10 จุด เพิ่มขึ้น 48.40 จุด +1.03%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,062.52 จุด เพิ่มขึ้น 21.01 จุด +1.03%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,865.93 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด +0.09%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...